5
ก้าวแรกในบ้านหลังใหม่
เมื่อตัดสินใจแล้วหญิงสาวก็เก็บข้าวของที่จำเป็น เดินทางมายังบ้านของธรรมสรณ์ โดยที่คืนนี้ เธอยังจะมีกานดาน้าสาวที่เหลือเพียงคนเดียวของเธอมานอนด้วย ก่อนที่พรุ่งนี้เย็น น้าสาวจะเดินทางกลับอเมริกา
“ยินดีต้อนรับนะหลานสาว” ธรรมสรณ์ยืนกอดอกคอยปาลิดาอยู่ที่หน้าประตูบ้าน
“และนี่เขมกร ลูกชายคนเดียวของลุง”
ปาลิดายกมือไหว้ ชายหนุ่มที่หน้าตาดีกว่าคนเป็นพ่ออยู่มาก
“เขมนี่คุณน้ากานดา”
ชายหนุ่มยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อม แสดงถึงการที่ได้รับการอบรมมาอย่างดี
“มากันแล้วเหรอจ๊ะ”
ภาวินีหญิงเดียวของบ้านนี้ ส่งเสียงทักทายมาก่อนตัว เพราะเธอมัวแต่จัดแจงเรื่องห้องพักของปาลิดา
“สวัสดีค่ะพี่ภาวินี”
กานดาคุ้นเคยกับภาวินีเป็นอย่างดี เพราะเธอคือเพื่อนสนิทของพี่สาวของเธอ และเป็นยังเป็นแม่สื่อแม่ชักให้พี่สาวของเธอกับนิรัช จนทั้งคู่ได้แต่งงานกัน
“เขมพาน้องขึ้นไปที่ห้องหน่อย ช่วยยกกระเป๋าให้น้องกับน้ากานดาด้วย”
ธรรมสรณ์หันไปสั่งลูกชาย เพื่อต้องการคุยกันสามคนแบบผู้ใหญ่ ไม่อยากให้เด็กๆอยู่ด้วย ซึ่งทั้งเขมกรและปาลิดาก็เข้าใจ
“พี่เข้าเรื่องเลยนะกานดา” ภาวินีเป็นคนเปิดเรื่อง
“ค่ะ ดาก็อยากรู้อะไรที่มากกว่านี้เหมือนกัน ตอนนี้งงไปหมด”
กานดาเองรู้สึกเป็นกังวล จนไม่อยากกลับไปทำงานที่อเมริกาแล้ว แต่เธอก็จำเป็นต้องกลับไป เพราะไหนจะสามีของเธออีก
“พี่ไม่ไว้ใจอัสมา พี่คงไม่สบายใจแน่ๆ ถ้าต้องทิ้งปาลิดาไว้กับแม่นักร้องเมียใหม่ของพี่นิรัช ” ภาวินีบอกความในใจ
“ส่วนเรื่องบ้านกับที่ดินนั้น ความจริงๆแล้วตอนที่พี่นิรัชมาขอยืมเงินจากพี่ธรรมสรณ์ เขาไม่ได้เอาสิ่งใดมาจำนอง แต่สัญญานี้ ถูกทำหลังจากวันที่เขาเดินทางกลับจากงานรับปริญญาของปาลิดา”
ภาวินีทำหน้าที่อธิบายทุกอย่างแทนสามี เพราะเธอเชื่อว่า ความสนิสนมคุ้นเคยของเธอกับกานดา จะทำให้กานดาเชื่อในสิ่งที่เธอพูด
“บ้านกับที่ดิน เราสองคนไม่ขายหรอก จะเก็บไว้จนกว่าลิดาจะหาเงินมาใช้คืนได้ ดอกเบี้ยสักบาทเราก็จะไม่คิด”
“ขอบคุณพี่สองคนมากนะคะ ที่ยังเมตตาปาลิดา”
กานดาเมื่อได้ฟัง ถึงแม้จะยังไม่เข้าใจอีกหลายอย่าง แต่อย่างน้อย เธอก็สบายใจ ในเรื่องความปลอดภัยของหลานสาว ที่ไม่ต้องอยู่ร่วมบ้านกับอัสมาตามลำพัง
“จำพี่ได้ไหม พี่จำชื่อเราได้ แต่จำไม่ได้ว่าน่ารักแบบนี้”
เขมกรอายุมากกว่าปาลิดาเกือบสี่ปี ชายหนุ่มพอจำชื่อเธอได้ แต่ปาลิดาจำเขมกรไม่ได้เลย เพราะตอนที่เจอกัน เธอยังเด็กมาก
“ จำไม่ได้เลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ที่หิ้วกระเป๋ามาส่ง” หญิงสาวมองหน้าชายหนุ่มแบบไร้ความรู้สึก
“ขาดเหลืออะไรก็บอกพี่นะ”
เขมกรส่งยิ้มหวานอย่างใจดี ให้สาวน้อยคนใหม่ของบ้าน ก่อนที่เขาจะเดินกลับไปที่ห้องนอนที่อยู่ข้างๆของปาลิดา
ยังไม่ทันที่จะจัดการกับข้าวของเสื้อผ้า ที่ขนมาจากบ้าน เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา
“หนูลิดา น้าอัสมาเองนะ”
“น้าเอาเบอร์ลิดามาจากไหนคะ”
หญิงสาวจำได้ ว่าเธอไม่เคยให้เบอร์โทรศัพท์แม่เลี้ยง และอัสมาเองก็ไม่เคยขอเธอเลย
“น้าอยากจะโทรมาบอกหนูว่า อย่าให้ทางครอบครัวนู้นรู้ ว่าหนู้รู้เรื่องที่เขาหักหลังพ่อหนู หาโอกาสเอาทุกอย่างคืนมาให้ได้นะ พ่อจะได้นอนตายตาหลับ น้าคงช่วยอะไรหนูไม่ได้มาก ดูแลตัวเองดีๆ”
อัสมาวางสายไปแล้ว แต่คำพูดของเธอยังดังอยู่ในหัวใจของปาลิดา เธอจะต้องเอาทุกอย่างคืนมาให้ได้
“พ่อคะ ต่อให้เขาทำดีกับลูกมากแค่ไหน ลูกจะไม่มีวันให้อภัยพวกเขา ”
ปาลิดาถูกอัสมาฝังความแค้น ว่าสาเหตุที่พ่อของเธอต้องเมาจนไปขับรถชน เป็นเพราะความเสียใจที่โดนเพื่อนอย่างธรรมสรณ์หักหลัง
ถึงแม้ตอนนี้เธอจะยังคิดไม่ออก ว่าต้องทำอย่างไร แต่ที่แน่ๆเธอต้องทำดีกับครอบครัวนี้ให้มากๆ เพื่อให้ทุกคนตายใจ และไม่ระวังตัว
เมื่อคุยธุระตามประสาผู้ใหญ่เรียบร้อยแล้ว กานดาก็เดินตามหลานสาวขึ้นมาบนห้อง ด้วยสีหน้า ที่ดูดีกว่าตอนที่มาถึง
“คุยอะไรกันคะ ทำไมคุณน้าดูยิ้มแย้มกว่าตอนมาถึง”
ปาลิดาถามตรงๆ เพราะสีหน้าและท่าทางของน้าสาวเธอมีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน
“ก็คุยเรื่องลิดาแหละลูก น้าอุ่นใจ ว่าหนูอยู่ที่นี่น่าจะปลอดภัยกับการอยู่ที่บ้านนู้น”
“ปลอดภัยกว่าอย่างไงคะ ลิดาไม่เข้าใจ”
“ถ้าต้องอยู่บ้านนู้น ลิดาต้องอยู่กับอัสมา ซึ่งเราไม่รู้ได้เลย ว่าเขาเป็นคนดีหรือไม่ดี น้าเองก็คงกลับไปอเมริกาอย่างไม่สบายใจ”
กานดาไม่กล้าที่จะเล่าเรื่องทุกอย่างที่คุยกัน ให้หลานสาวฟัง เพราะธรรมสรณ์ขอไว้ และตัวกานดาเองก็คิดว่าถ้าพูดไป ลิดาจะคิดว่าเธออยู่ฝ่ายข้างนู้น
ทุกคนเดินทางไปส่งกานดาที่สนามบิน ลิดาใจคอห่อเหี่ยว เธอใช้ชีวิตเกือบห้าปี กับการอยู่อเมริกากับน้าสาวเพียงสองคน แต่ตอนนี้ เธอต้องอยู่ที่เมืองไทยเพียงคนเดียว พ่อก็ทิ้งเธอตามแม่ไปอีกคน หญิงสาวรู้สึกอ้างว้าง เหมือนถูกลอยทิ้งไว้กลางทะเล
“ดูแลตัวเองดีๆนะลิดา มีอะไรโทรหาน้าได้ตลอด”
คนเป็นน้า น้ำตาไหลก่อนหลานสาวเสียอีก เพราะเธอทั้งเป็นห่วงและคิดถึง
“ไม่ต้องห่วงค่ะ ลิดาจะดูแลตัวเองอย่างดี คุณพ่อคงกำลังมองความสำเร็จของลูกสาวคนนี้อยู่ ลิดาจะไม่ทำให้คุณพ่อกับคุณน้าผิดหวังค่ะ”
ถ้ากานดารู้ความหมายของสิ่งที่หลานสาวพูด เธอคงตัดสินใจไม่กลับไปอเมริกาแน่ๆ
6มองหาเป้าหมาย “เดี๋ยวเราแวะกินอาหาร ที่ร้านอาหารใกล้สนามบินกันนะ มีร้านอร่อยๆอยู่” ธรรมสรณ์พยายามจะทำความสนิทสนมให้เกิดขึ้น ระหว่างครอบครัวของเขากับปาลิดา “สวัสดีค่ะเขม ไม่คิดว่าจะมาเจอคุณที่ร้านนี้เลย” นางแบบหุ่นสวย ส่งเสียงทักทายมาก่อนที่มือบางจะจับแขนของชายหนุ่มตรงหน้ามากอดอย่างคุ้นเคย “สวัสดีค่ะคุณพ่อ คุณแม่” หญิงสาวละมือจากแขนของเขมกร มายกมือไหว้ผู้ใหญ่สองคน “สวัสดีจ้าหนูรสริน” ภาวินีส่งยิ้มทักทาย “แล้วนี่ใครคะ ไม่เห็นเขมแนะนำให้รินรู้จักเลย เอ่...หรือว่าแม่บ้านคนใหม่” “ถ้าหมายถึงฉัน คงไม่ใช่อย่างที่คุณคิดหรอกค่ะ แต่ที่พี่เขมไม่แนะนำ อาจเป็นเพราะคุณไม่จำเป็นต้องรู้จักทุกคนในครอบครัวของพี่เขาก็ได้นะคะ” รู้จักปาลิดาน้อยไปแล้ว ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน อยู่ดีๆ ก็มาใช้คำพูดที่ดูแคลนกันแบบนี้ มีเหรอนักเรียนนอกอย่างเธอจะยืนนิ่งๆให้ดูถูก เมื่อเจอตอกกลับแบบนี้ รสรินนางแบบสาวที่พยายามทำตัวเป็นผู้ดี ก็แทบจะเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ แต่ด้วยตัวเธอยังไม่รู้ว่าหญิงสาวที่ต่อปากต่อคำกับเธอเป็นใคร เธอจึงเลื
7เริ่มสืบ “ทุกคนครับ ผมขอแนะนำเลขาส่วนตัวของผมคนใหม่ เธอชื่อปาลิดา เป็นลูกสาวของคุณอานิรัช เจ้าของที่นี่ครับ” เขาแนะนำเธอด้วยคำพูดที่ดูยกย่อง ถึงแม้ตอนนี้เธอจะถือหุ้นแค่ไม่ถึงครึ่ง แต่เขาพูดเสียเหมือนเธอถือหุ้นทั้งบริษัท “เรียกลิดาเฉยๆก็ได้ ฝากเนื้อฝากตัวกับทุกคนด้วยนะคะ” หญิงสาวอยากเป็นมิตรและสนิทกับทุกคน เพราะพนักงานที่นี่ ต้องรู้แน่ๆว่าเกิดอะไรขึ้นกับบริษัท อะไรคือสาเหตุที่ทำให้พ่อของเธอต้องดื่มเมามาย จนเกิดอุบัติเหตุ “พวกเราสิคะ ต้องฝากเนื้อฝากตัวกับคุณลิดา” หนึ่งในพนักงานสาว ส่งเสียงเอาใจดังออกมาจากลุ่มของพนักงานที่ยืนอยู่เกือบยี่สิบคน “แยกย้ายกันทำงานได้แล้วเนาะ ” เขมกรตัดบทเพราะกลัวจะมัวแต่ทักทายกันจนงานไม่เดิน โต๊ะทำงานของปาลิดาอยู่ห่างจากโต๊ะทำงานของเขมกรเกือบห้าเมตร มีฉากกั้นอยู่ตรงโต๊ะ เพื่อความเป็นส่วนตัวในการทำงาน “ให้ลิดานั่งใกล้ประตูเลยเหรอคะ” หญิงสาวรู้สึกว่าเธอ จะต้องเวียนหัวกับการเข้าออกของคนที่มาหาเจ้านายคนใหม่ของเธอแน่ๆ “ปกติโต๊ะที่คุณนั่งคือโต๊ะทำงานของผม แ
8สร้างความไว้วางใจ ร้านอาหารใกล้ตึกของบริษัท เป็นร้านโปรดของ เขมกร เพราะอยู่ใกล้ อาหารรสชาติอร่อย เขาจึงชอบมากินที่นี่ถ้าไม่ได้ออกนอกพื้นที่ไปไหน “ร้านนี้เหรอคะที่พี่เขมชอบ” ปาลิดาแปลกใจ “ใช่ พี่ชอบอะไรที่ดูสบายๆ ง่ายๆ” “รวมถึงผู้หญิงด้วยไหมคะ ที่ว่าชอบง่ายๆ” เขมกรหันมาจ้องตา สาวสวยเลขาส่วนตัวคนใหม่ นอกจากหน้าตาที่ดูจะถูกใจแล้ว คารมที่ดูจะทันเขาแบบนี้ ยิ่งน่าเอาชนะนัก “ถ้าเป็นผู้หญิง พี่ก็ชอบแบบไม่ง่ายและก็ไม่อยากจนเกินไป ถ้ายิ่งหน้าตาดี หุ่นดี ดีกรีนักเรียนนอก แบบนี้ยิ่งถูกใจเลย” สายตาเจ้าชู้จับจ้องมาที่ใบหน้ารูปไข่ของปาลิดา ที่มองสบตาชายหนุ่มอย่างไม่ลดละเหมือนกัน “ถ้าอย่างนั้นลิดาก็ใช่เลย” หญิงสาวเสนอตัว “อย่าพูดเล่นกับพี่นะ เดี๋ยวพี่เดินหน้าจีบจริง แล้วจะมาเล่นตัวทีหลังไม่ได้นะแบบนี้” เขมกรถูกใจปาลิดาตั้งแต่แรกเห็นแล้ว แต่เขาไม่กล้าเดินหน้าจีบ เพราะกลัวจะโดนผู้เป็นพ่อเล่นงานเอา ถ้าเขาเกิดแค่เล่นๆกับหญิงสาวขึ้นมา ตอนนี้ชายหนุ่มเริ่มเปลี่ยนใจ เพราะอีกฝ่ายก็ดูจะทอดสะพานใ
9เสน่ห์ดึงใจ ระหว่างทางกลับบ้าน มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ สองคนจึงพากันแวะเพื่อพาปาลิดาเข้าร้านเครื่องเขียน “หนังน่าดูจังเลยค่ะพี่เขม” อยู่ดีๆหญิงสาวก็คิดแผนพัฒนาความใกล้ชิดขึ้นมาได้ เมื่อเธอเดินผ่านป้ายโฆษณาที่บอกตารางของหนังที่จะฉายในวันนี้ “อยากดูเหรอ เลือกเลยว่าอยากดูเรื่องอะไร” เขมกรเป็นคนชอบดูหนังอยู่แล้ว เพียงแต่ด้วยเวลางานที่กำลังต้องเรียนรู้อีกมาก เขาจึงไม่ค่อยมีเวลา “มีแต่รอบดึกทั้งนั้นเลย พี่เขมเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ลิดาเกรงใจ ไว้วันหลังดีกว่า” หญิงสาวหันมาคว้าแขนชายหนุ่มไปกอดอย่างสนิทสนม ลูบแขนขึ้นลงด้วยใบหน้าใสๆ แบบไม่คิดอะไร ถึงแม้ใบหน้าของเธอจะดูไม่คิดอะไรมากกว่าการ คว้าแขนพี่ชายมากอดไว้ แต่สำหรับชายหนุ่มที่ผ่านอะไรมามากมายอย่างเขมกร เขาจะไม่ยอมเสียโอกาส ที่จะได้เข้าโรงหนังในยามค่ำคืนแบบนี้กับปาลิดาแน่ๆ “เอาอย่างนี้ เดี๋ยวเรากินข้าวเย็นกันที่นี่เลย ระหว่างที่รอ ลิดาก็ไปเดินเล่นร้านเครื่องเขียน อีกแค่สองชั่วโมงเอง” เขมกรออกความคิดเห็น เพราะจริงๆมันก็เหลือเวลาอีกแค่สองชั่วโมง
10หว่านเสน่ห์ หลายวันผ่านไปกับการศึกษาเอกสารทางด้านการเงิน ปาลิดาพบแต่ความผิดปกติทางด้านการเงิน ที่เกิดจากลายเซ็นของพ่อเธอเท่านั้น จากที่คิดมุ่งมั่นว่าจะต้องสืบให้ได้ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับบริษัทระหว่างที่เธอเรียนอยู่ที่อเมริกา ปาลิดาเปลี่ยนเป็นเดินหน้าหาทางใช้หนี้ธรรมสรณ์ให้หมด เพื่อเอาบ้านและที่ดินของแม่คืนให้ได้ “หนูลิดา ตอนนี้น้าออกมาอยู่ข้างนอกแล้วนะ สงสารบ้านจัง พ่อของหนูคงยังอยู่ที่นั่น คงยังไปไหน เพราะท่านคงอยู่รอวันที่เราจะได้บ้านคืนมา” เสียงปลายสายที่พูดด้วยน้ำเสียงที่สุดแสนเศร้ากระตุ้นความแค้นในใจของปาลิดาให้ลุกเป็นไฟ “ลิดาสงสารคุณน้า แต่ยังคิดหาทางไม่ได้เลยค่ะ เงินตั้งมากมาย ไม่รู้จะไปหามาจากไหน” “น้ามีวิธีนะ แต่น้าไม่กล้าแนะนำหนู มันเป็นวิธีที่ไม่ดี น้ากลัวพูดไปหนูลิดาจะโกรธน้า” อัสมาทำน้ำเสียงแบบลังเล ว่าเธอจะให้คำแนะนำลูกลี้ยงดีไหม “คุณน้าบอกลิดามาเถอะค่ะ ถึงลิดาจะไม่ได้สนิทกับคุณน้ามาก แต่เราก็คือครอบครัวเดียวกัน เราทั้งคู่ต่างสูญเสีย” หญิงสาวคิดหาวิธีการมาหลายวัน ที่จะหาหนทา
11สาวแซ่บ ร้านอาหารทะเลที่เขมกรเลือก เป็นร้านอาหารบรรยากาศติดชายทะเลกรุงเทพ อยู่ห่างจากที่ทำงานอยู่ไกลพอควร แต่ถ้าเทียบกับบรรยากาศก็ถือว่าคุ้มที่ต้องเดินทางมาไกล และถูกใจปาลิดามาก “บรรยากาศดีมากเลยค่ะ” ปาลิดาพูดจากใจจริง “พี่ซะอย่าง มีเหรอจะเลือกไม่ถูกใจ” เขมกรทำท่ากอดอกภูมิใจ ในการเลือกร้านอาหารได้ถูกใจหญิงสาวตรงหน้า “สงสัยร้านนี้พี่เขม จะพาสาวๆมากินบ่อย” ปาลิดาลองหยอดถาม เพราะหญิงสาวไม่แน่ใจ ว่าชายหนุ่มตรงหน้ามีคนรักหรือยัง เกือบเดือนที่เธอมาทำงานกับเขา ปาลิดาเคยเห็นเขาออกไปคุยโทรศัพท์อยู่บ่อยๆ แต่ก็ไม่เคยเห็นมีผู้หญิงมาหาที่ทำงาน “ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ พี่ก็พามาแต่เฉพาะคนสำคัญ” เขมกรมองตาคนถาม ด้วยสายตาที่น้ำตาลยังเรียกพี่ จนปาลิดาที่ตั้งใจว่าจะมาทำให้หัวใจชายหนุ่มหวั่นไหว แต่เธอกลับต้องยอมหลบตาเขาเพราะหวั่นไหวเสียเอง “อาหารอร่อยไหม” เขมกรหาเรื่องคุย เมื่อเห็นหน้าของปาลิดา เริ่มแดงเป็นลูกตำลึง เพราะอายเมื่อเจอสายตาหวานของเขาไป “อร่อยน้อยกว่าลิดานิดนึงค่ะ”
12ทะเลและสองเรา เป็นไปตามคาด ธรรมสรณ์กับภาวินีไม่ยอมไปทะเลกับทั้งคู่ ปล่อยให้หนุ่มสาวไปด้วยกันเพียงสองคน ปาลิดาไม่รู้จะเลือกชุดที่จะไปใส่ที่ทะเลแบบไหน เธอจึงโทรศัพท์ไปขอให้อัสมาช่วยเลือกให้เธอ “กลางวันนี้ ลิดาขอไปกินข้าวกับคุณน้าอัสมานะคะ” ปกติหญิงสาวจะไปกินข้าวกลางวันกับเขมกรตลอด วันนี้เธอจึงขอตัว แต่ก็ไม่ได้บอกเหตุผลที่แท้จริง “พี่ไปด้วยได้ไหม” เขมกรได้รับมอบหมายจากบิดา ให้ดูแลปาลิดาอย่างดี และธรรมสรณ์ก็ไม่ไว้วางใจอัสมา เพราะเขารู้จักผู้หญิงคนนี้ดี “ไม่ได้ค่ะ ลิดาขอไปเจอคุณน้าแบบส่วนตัวนะคะ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ก็แค่พูดคุยกันตามประสาผู้หญิง แล้วจะรีบกลับมานะคะ” ใช้เวลาแค่เพียงไม่นานอัสมาก็เลือกชุดว่ายน้ำ ชุดเดินเล่นชายหาด และชุดใส่ตอนกลางคืน ให้กับลูกเลี้ยง “แต่ละชุด ถ้าคุณน้ากานดามาเห็น มีหวังหัวใจวายแน่ๆค่ะ” ถึงแม้กานดา จะไปอยู่อเมริกานาน แต่เธอก็ยังคงรักษาความเป็นผู้หญิงไทย และปลูกฝังหลานสาวเสมอ ตลอดเวลาที่ปาลิดาอาศัยอยู่กับเธอ “แบบนี้นี่เอง หนูลิดาถึงได้ยังไม่มีแฟนเสียที น้านึกว
13ทะเลสวาท “สวยมากเลยค่ะ คนไม่เยอะด้วย ลิดาคิดว่าวันหยุดแบบนี้คนต้องเยอะ วุ่นวายแน่ๆ” ปาลิดาตื่นเต้น เมื่อเรือพาเธอมาถึง ท่าเรือของเกาะ ทะเลสีฟ้า หาดทรายสีขาว มองจากท่าเรือ ผู้คนไม่มากอย่างที่เธอคิดไว้ “เกาะนี้เป็นเกาะส่วนตัวของเพื่อนพี่ เขาเปิดรับนักท่องเที่ยวจำกัด เพื่อความเป็นส่วนตัว” รถจากรีสอร์ทมารับทั้งคู่จากท่าเรือ เพื่อไปส่งยังที่พัก ที่อยู่อีกฝั่งของเกาะ แถวที่พักค่อนข้างเป็นส่วนตัวมาก จึงอยู่ห่างจากท่าเรือ “เราพักที่นี่เหรอคะ เหมือนมีแค่ห้องเดียวเลย” เมื่อมาถึงที่พักปาลิดา มองเข้าไป เป็นบ้านสไตล์วินเทจ ปูนเปลือย ด้านที่หันเข้าทะเล เป็นกระจกใส ในบ้านไม่มีห้องนอน เปิดเข้าไปเจอเตียงนอน และมองเห็นส่วนที่ทำครัวอยู่ด้วยกัน “ใช่ครับ มีแค่เตียงเดียว กลัวพี่ทำอะไรเหรอครับ” เขมกรหยอดเปิดทาง “ถ้ากลัวคงไม่มาด้วยหรอกค่ะ ก็แค่ถามดู” ปาลิดาตอบไม่ตรงกับเสียงของหัวใจเลย ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยถูกชายใดนอกจากพ่อมากอด มาหอมเลย แต่วันนี้ดูแววจะโดนมากว่าแน่ๆ “แดดยังร้อนอยู่เลย ไว้เย็นๆค่อยออกไปเดินเล