Share

เริ่มสืบ

7

เริ่มสืบ

          “ทุกคนครับ ผมขอแนะนำเลขาส่วนตัวของผมคนใหม่ เธอชื่อปาลิดา เป็นลูกสาวของคุณอานิรัช เจ้าของที่นี่ครับ”

         เขาแนะนำเธอด้วยคำพูดที่ดูยกย่อง ถึงแม้ตอนนี้เธอจะถือหุ้นแค่ไม่ถึงครึ่ง แต่เขาพูดเสียเหมือนเธอถือหุ้นทั้งบริษัท

          “เรียกลิดาเฉยๆก็ได้ ฝากเนื้อฝากตัวกับทุกคนด้วยนะคะ”

          หญิงสาวอยากเป็นมิตรและสนิทกับทุกคน เพราะพนักงานที่นี่ ต้องรู้แน่ๆว่าเกิดอะไรขึ้นกับบริษัท อะไรคือสาเหตุที่ทำให้พ่อของเธอต้องดื่มเมามาย จนเกิดอุบัติเหตุ

          “พวกเราสิคะ ต้องฝากเนื้อฝากตัวกับคุณลิดา”

          หนึ่งในพนักงานสาว ส่งเสียงเอาใจดังออกมาจากลุ่มของพนักงานที่ยืนอยู่เกือบยี่สิบคน

          “แยกย้ายกันทำงานได้แล้วเนาะ ” เขมกรตัดบทเพราะกลัวจะมัวแต่ทักทายกันจนงานไม่เดิน

          โต๊ะทำงานของปาลิดาอยู่ห่างจากโต๊ะทำงานของเขมกรเกือบห้าเมตร มีฉากกั้นอยู่ตรงโต๊ะ เพื่อความเป็นส่วนตัวในการทำงาน

          “ให้ลิดานั่งใกล้ประตูเลยเหรอคะ”

          หญิงสาวรู้สึกว่าเธอ จะต้องเวียนหัวกับการเข้าออกของคนที่มาหาเจ้านายคนใหม่ของเธอแน่ๆ

         “ปกติโต๊ะที่คุณนั่งคือโต๊ะทำงานของผม และโต๊ะที่ผมกำลังนั่ง คือโต๊ะทำงานของพ่อคุณ”

          เขมกรอธิบาย เพื่อให้เธอรู้ว่า โต๊ะทำงานไม่ได้ถูกจัดขึ้นมาใหม่ แต่มันถูกวางตำแหน่งไว้แบบนี้นานแล้ว

          “พี่เขม มาทำงานแทนพ่อนานแล้วเหรอคะ” หญิงสาวค่อยๆเก็บข้อมูล

          “ก่อนท่านเสียได้เกือบสองเดือนครับ” ชายหนุ่มตอบตามความเป็นจริง

          “ทำไมพ่อถึงให้พี่มาทำแทน”

          ปาลิดาทำท่าจักของบนโต๊ะไปด้วย เพื่อไม่ให้ชายหนุ่มสงสัยในคำถามของเธอ

          “พี่ไม่รู้จริงๆนะ ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร คุณพ่อบอกแค่เพียงว่า ให้พี่มาช่วยคุณอาทำงานเรื่องการเงินบัญชี ส่วนคุณอากับคุณพ่อจะไปดูโรงงานเอง”

          เขมกรพูดตามที่เขารู้ทั้งหมด เพราะชายหนุ่มไม่ได้มีอะไรต้องปิดบัง ตัวเขาเองเพิ่งเรียนจบปริญญาโทมาได้ไม่ถึงปี งานก็ยังไม่ได้ทำ พอถูกชวนมาทำตำแหน่งนี้ เขาก็ยินดีและไม่ได้สงสัยอะไร

          “เดี๋ยวพี่ให้เลขา มาอธิบายระบบการจัดเก็บข้อมูลของที่นี่ให้ลิดาฟังนะ”

          เขมกรเดินออกจากห้องไปหตามเลขาของเขา ให้เข้ามาอธิบายเรื่องการจัดเก็บข้อมูลให้ พนักงานคนใหม่ฟัง

          “สวัสดีค่ะคุณลิดา พี่ชื่อดารินเป็นเลขาของคุณนิรัชมาหลายปีแล้วค่ะ”

          ดารินอายุเกือบสี่สิบแล้ว เธอเป็นคนเก่าแก่ของที่นี่ ตอนที่เขมกรมาทำงานที่นี่แรกๆ ก็ได้ดารินนี่แหละคอยแนะนำและสอนงานเขา

          เริ่มแรกของการทำงานที่นี่ ลิดาต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการจัดเก็บระบบข้อมูล เกี่ยวกับด้านบัญชี แต่มันก็ไม่ได้ยากสำหรับนักเรียนนอกอย่างเธอ

          “แฟ้มพวกนี้ เป็นบัญชีของปีที่แล้ว พี่จะให้คุณลิดาเรียนรู้และลองตรวจสอบหาข้อผิดพลาด ก่อนที่เราจะเริ่มทำของปัจจุบัน”

          แฟ้มสีดำแบบสามห่วงอย่างหนา ถูกนำมาวางเรียงไว้บนโต๊ะของปาลิดาเกือบยี่สิบแฟ้ม เพื่อเป็นด่านแรกของการเรียนรู้ในเรื่องของบัญชี

          “แล้วของปีนี้ล่ะคะ”

 ปาลิดาอยากรู้ข้อมูลการเคลื่อนไหวทางการเงินในช่วงก่อนที่บิดาเธอจะเสียชีวิตไม่นาน

“ถ้าเป็นของปีนี้ พี่ยังให้ดูไม่ได้ค่ะ ต้องรอให้เรียบร้อยกว่านี้ ไว้ศึกษาจนเข้าใจ คุณลิดาได้ตรวจสอบตั้งแต่ปัจจุบันและย้อนหลังไป”

ความจริงแล้ว เอกสารทางการเงินของบริษัท ที่เป็นการเคลื่อนไหวของปีนี้ ยังไม่มีความเป็นปัจจุบัน เพราะอัสมาเข้ามาดูแลในส่วนนี้ และทำทุกอย่างวุ่นวายสับสนไปหมด

ดารินเองถูกกันออกจากงานบัญชี ให้ลงไปทำเรื่องบุคคล เธอเพิ่งจะได้กลับขึ้นมา ก็เมื่อตอนที่เขมกร เข้ามาบริหาร

อัสมาเองก็คงยังไม่ละความพยายามที่จะเข้ามายุ่งกับงานนี้ต่อ แต่ถูกธรรมสรณ์คอยกันให้เธอลงไปดูแลโรงงานกับเขาและนิรัช

“ค่ะพี่ ขอบคุณมากนะคะ ไว้เดี๋ยวลิดามีอะไรสงสัยจะออกไปถามนะคะ”

เขมกรตั้งแต่ออกไปตามดาริน เข้ามาอธิบายสอนงานปาลิดา เขาก็ยังไม่กลับเข้ามาเลย ลิดาเองก็ลืมถามเลขา ว่าเขาไปไหน เธอจึงต้องนั่งอยู่ในห้องนั้นเพียงคนเดียว

เอกสารจากแฟ้มกองโต ที่ถูกวางไว้ หญิงสาวเริ่มไล่จากแฟ้มที่เก่าสุด ค่อยๆศึกษารายละเอียด ทบทวนตัวเลข และรายการต่างๆ

ปาลิดาพบข้อสงสัยหลายอย่างในรายจ่ายของบริษัท ที่มันดูซับซ้อน หญิงสาวจดความสงสัยลงในสมุด และจะลองหาคำตอบด้วยตัวเอง โดยที่ไม่ถามดารินหรือเขมกร

“หิวหรือยัง พักก่อน ไปกินข้าวร้านอาหารใกล้ตึกกัน”

เขมกรเดินกลับเข้ามา ในสภาพที่ดูจะเหนื่อย เพราะเหงื่อท่วมตัว

“พี่เขมไปไหนมาคะ ทำไมเหงื่อเต็มตัวเลย”

ปาลิดาอดสงสัยไม่ได้ บริษัทติดเครื่องปรับอากาศทั้งหมด แต่ทำไมชายหนุ่มตรงหน้า กลับตัวชุ่มเหงื่อ

“ผมไปดูรถในโรงรถของบริษัทมา เห็นบางคันแจ้งซ่อมมาหลายรอบ เลยลองไปดูสภาพมันว่าคุ้มไหมที่จะซ่อมต่อ”

“ดู...คือหมายถึงดูเองเลยเหรอคะ”

 ปาลิดาแอบเห็นตัวเขมกรเปื้อนสีดำๆที่ตรงมือทั้งสองข้าง

“ใช่ครับ พี่เรียนช่างยนต์มาก่อน ที่จะไปต่อปริญญาเกี่ยวกับด้านอุสาหกรรม”

เส้นทางการเรียนของเขมกร ค่อนข้างจะไม่เหมือนลุกคนรวยโดยทั่วไป

เขาเลือกเรียนสายอาชีพ ก่อนจะไปต่อปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยของรัฐ และยังเลือกที่จะเรียนปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจต่อที่ในประเทศไทย

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status