9
เสน่ห์ดึงใจ
ระหว่างทางกลับบ้าน มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ สองคนจึงพากันแวะเพื่อพาปาลิดาเข้าร้านเครื่องเขียน
“หนังน่าดูจังเลยค่ะพี่เขม”
อยู่ดีๆหญิงสาวก็คิดแผนพัฒนาความใกล้ชิดขึ้นมาได้ เมื่อเธอเดินผ่านป้ายโฆษณาที่บอกตารางของหนังที่จะฉายในวันนี้
“อยากดูเหรอ เลือกเลยว่าอยากดูเรื่องอะไร”
เขมกรเป็นคนชอบดูหนังอยู่แล้ว เพียงแต่ด้วยเวลางานที่กำลังต้องเรียนรู้อีกมาก เขาจึงไม่ค่อยมีเวลา
“มีแต่รอบดึกทั้งนั้นเลย พี่เขมเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ลิดาเกรงใจ ไว้วันหลังดีกว่า”
หญิงสาวหันมาคว้าแขนชายหนุ่มไปกอดอย่างสนิทสนม ลูบแขนขึ้นลงด้วยใบหน้าใสๆ แบบไม่คิดอะไร
ถึงแม้ใบหน้าของเธอจะดูไม่คิดอะไรมากกว่าการ คว้าแขนพี่ชายมากอดไว้ แต่สำหรับชายหนุ่มที่ผ่านอะไรมามากมายอย่างเขมกร เขาจะไม่ยอมเสียโอกาส ที่จะได้เข้าโรงหนังในยามค่ำคืนแบบนี้กับปาลิดาแน่ๆ
“เอาอย่างนี้ เดี๋ยวเรากินข้าวเย็นกันที่นี่เลย ระหว่างที่รอ ลิดาก็ไปเดินเล่นร้านเครื่องเขียน อีกแค่สองชั่วโมงเอง”
เขมกรออกความคิดเห็น เพราะจริงๆมันก็เหลือเวลาอีกแค่สองชั่วโมง หนังก็จะฉายแล้ว
“แล้วคุณลุงกับคุณป้าจะ...ไม่ว่าเอาเหรอคะ”
ปาลิดาทำท่าเล่นตัว
“จะไปยากอะไร เดี๋ยวพี่โทรบอกคุณพ่อเอง สบายใจได้ กลับบ้านดึกหน่อย แต่ไม่ต้องไปเสียเวลารถติดบนถนน แถมได้ดูหนังด้วย”
จากตอนแรกคนที่เริ่มชวนคือปาลิดา แต่ตอนนี้ เขมกรกลับเป็นคนกระตือรือร้นไปหมดทุกเรื่อง เหมือนเขาเป็นคนที่อยากดูเสียเองมากกว่า
“พี่เขมคะ ลิดาเปลี่ยนใจไม่ไปร้านเครื่องเขียนแล้ว ขอเข้าร้านทำผมแทนได้ไหม”
ปาลิดาลืมไปเลยว่า เธอนั่งทำงานมาทั้งวัน ถ้าหวังจะใช้บรรยากาศในโรงหนังในการโปรยเสน่ห์ให้เขมกร เธอคงต้องมีกลิ่นหอมมากระตุ้นความรู้สึกเขาเสียหน่อย
“ลองถามว่าทันเวลาที่หนังจะเริ่มไหม ถ้าทันก็ตามใจเลย”
เวลานี้ชายหนุ่มไม่กล้าขัดใจหญิงสาวเลย ขออะไรก็ยอมหมด
ระหว่างที่ปาลิดากำลังทำผมอยู่ เธอสังเกตว่า เขมกร ออกไปคุยโทรศัพท์ตลอด สีหน้าท่าทางก็ดูเหมือนกำลังทะเลาะกับคนที่อยู่ในสายด้วย
“เสร็จแล้วค่ะ”
ปาลิดาเดินออกจากร้าน มาหาชายหนุ่มที่ยืนกอดอกอยู่ข้างนอกด้วยท่าทางไม่ค่อยสบายใจ
“ไปกัน”
เขมกรยื่นมือหนามาแบรอรับมือจากหญิงสาวข้างๆ ก่อนจะจูงมือกันเดินเข้าโรงหนังไป
“ลิดาเห็นหน้าที่เขมไม่ค่อยดีเลย มีอะไรหรือเปล่าคะ ลิดาไม่ดูหนังก็ได้นะ”
ด้วยความอยากรู้ ปาลิดาอดใจไม่ไหว เห็นหนังยังไม่เริ่ม เธอจึงลองถามชายหนุ่มดูก่อน
“ไม่มีอะไรหรอก ถ้าชวนพี่กลับอีก”
เขมกรยื่นหน้ามาใกล้กับแก้มของปาลิดา จนลมหายใจของเขากระทบกับแก้มใสของเธอ
“จะหอมแก้มให้ดู”
เสียงหนาทุ้มกระซิบเบา แต่ทำเอาปาลิดารู้สึกหวิวไปทั้งตัว แบบบอกไม่ถูก
ด้วยความที่เป็นหนังรอบดึก คนในโรงจึงมีไม่มากนัก แถมหนังที่ปาลิดาเลือกยังเป็นหนังผีอีกต่างหาก
รอบตัวของคนทั้งคู่ จึงมีแต่เก้าอี้ว่างเปล่า ไม่มีคนนั่ง ชายหนุ่มเอื้อมมือมาจับมือบางของหญิงสาว
ปาลิดาเองก็คิดเอาไว้แล้วเชียว ว่ามีเหรอชายหนุ่มที่ดูเจ้าชู้อย่างเขมกร จะไม่ฉวยโอกาส แต่เธอก็ยอมให้เขากุมมือเธอไว้แต่โดยดี เพราะมันก็คือส่วนหนึ่งของแผนการเธอ
หนังผีเป็นหนังที่ปาลิดาเลือก แต่เธอกลับเอาหน้าไปซบไว้หลังเขมกรเกือบทั้งเรื่อง เพราะหญิงสาวชอบจะตกใจเวลาที่ผีออกมา ใจหนึ่งก็อยากดู อีกใจหนึ่งก็กลัว
จากตอนแรกที่หญิงสาวซบหน้าลงกับไหล่ของชายหนุ่มข้างๆ เขมกรเข้าใจว่า ปาลิดาคงกำลังให้ท่าเขา
แต่พอนานเข้าหญิงสาวไม่ใช่เพียงแค่ซบกับดึงเสื้อของเขาจนแทบจะขาดติดมือเธอไปด้วย
เขมราชจึงรู้ว่านี่ไม่ใช่การให้ท่า แต่เธอกลัวจริงๆ เขาจึงได้แต่จับมือเธอไว้และแอบหัวเราะกลับท่าทางกลัวของปาลิดา ที่ยิ่งเห็นก็ยิ่งอดขำไม่ได้
กว่าหนังจะจบเสื้อของเขมกรก็ยับไปทั้งแถบ เพราะถูกคนข้างๆดึงเกือบทั้งเรื่อง
“ลิดาทำเสื้อพี่เขมยับหมดเลย”
ปาลิดาเห็นสภาพเสื้อของชายหนุ่ม เธอเองก็ยังอดขำกับสิ่งที่เธอทำไปไม่ได้
ความตั้งใจที่จะมาอ่อยเขา กลับเป็นทำให้เขาขำเสียอย่างนั้น ปาลิดารู้สึกอายจนหน้าแดง
“เป็นอะไรหน้าแดงเชียว” เขมกรถาม เมื่อประตูรถถูกปิดลง
“ลิดาอายพี่เขมจังเลยค่ะ เป็นคนชวนดูหนังผีแท้ๆ แต่ตัวเองกลับกลัว แถมยังดึงเสื้อพี่จนยับไปทั้งตัวอีก”
เขมกรไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่ขำเสียงดังออกมาอย่างมีความสุข
เขาเคยเจอแต่หญิงสาวที่มาดูหนังกับเขา จะทำท่าเขินอาย เรียบร้อย แต่ปาลิดาเป็นผู้หญิงคนแรก ที่ไม่มีท่าทางเหมือนคนอื่นๆ เธอทำอะไรเหมือนเด็กๆที่ยังไม่โต มองแล้วก็น่ารักไปอีกแบบ เขมกรคิดในใจ
“พรุ่งนี้ค่อยมาซื้อนะเครื่องเขียน”
“เอ้า..หลับไปซะแล้ว”
ยังไม่ทันจะถึงครึ่งทางกลับบ้าน เขมกรมารู้ตัวอีกที เขาก็พูดอยู่คนเดียวแล้ว
หญิงสาวที่นั่งมาข้างๆ หนีหลับไปตั้งแต่ตอนไหนเขาไม่รู้เลย พูดคนเดียวมาเสียตั้งนาน
ชายหนุ่มหันมามองหญิงสาวที่หลับตาพริ้ม หัวโยกไปโยกมาอย่างเอ็นดู
10หว่านเสน่ห์ หลายวันผ่านไปกับการศึกษาเอกสารทางด้านการเงิน ปาลิดาพบแต่ความผิดปกติทางด้านการเงิน ที่เกิดจากลายเซ็นของพ่อเธอเท่านั้น จากที่คิดมุ่งมั่นว่าจะต้องสืบให้ได้ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับบริษัทระหว่างที่เธอเรียนอยู่ที่อเมริกา ปาลิดาเปลี่ยนเป็นเดินหน้าหาทางใช้หนี้ธรรมสรณ์ให้หมด เพื่อเอาบ้านและที่ดินของแม่คืนให้ได้ “หนูลิดา ตอนนี้น้าออกมาอยู่ข้างนอกแล้วนะ สงสารบ้านจัง พ่อของหนูคงยังอยู่ที่นั่น คงยังไปไหน เพราะท่านคงอยู่รอวันที่เราจะได้บ้านคืนมา” เสียงปลายสายที่พูดด้วยน้ำเสียงที่สุดแสนเศร้ากระตุ้นความแค้นในใจของปาลิดาให้ลุกเป็นไฟ “ลิดาสงสารคุณน้า แต่ยังคิดหาทางไม่ได้เลยค่ะ เงินตั้งมากมาย ไม่รู้จะไปหามาจากไหน” “น้ามีวิธีนะ แต่น้าไม่กล้าแนะนำหนู มันเป็นวิธีที่ไม่ดี น้ากลัวพูดไปหนูลิดาจะโกรธน้า” อัสมาทำน้ำเสียงแบบลังเล ว่าเธอจะให้คำแนะนำลูกลี้ยงดีไหม “คุณน้าบอกลิดามาเถอะค่ะ ถึงลิดาจะไม่ได้สนิทกับคุณน้ามาก แต่เราก็คือครอบครัวเดียวกัน เราทั้งคู่ต่างสูญเสีย” หญิงสาวคิดหาวิธีการมาหลายวัน ที่จะหาหนทา
11สาวแซ่บ ร้านอาหารทะเลที่เขมกรเลือก เป็นร้านอาหารบรรยากาศติดชายทะเลกรุงเทพ อยู่ห่างจากที่ทำงานอยู่ไกลพอควร แต่ถ้าเทียบกับบรรยากาศก็ถือว่าคุ้มที่ต้องเดินทางมาไกล และถูกใจปาลิดามาก “บรรยากาศดีมากเลยค่ะ” ปาลิดาพูดจากใจจริง “พี่ซะอย่าง มีเหรอจะเลือกไม่ถูกใจ” เขมกรทำท่ากอดอกภูมิใจ ในการเลือกร้านอาหารได้ถูกใจหญิงสาวตรงหน้า “สงสัยร้านนี้พี่เขม จะพาสาวๆมากินบ่อย” ปาลิดาลองหยอดถาม เพราะหญิงสาวไม่แน่ใจ ว่าชายหนุ่มตรงหน้ามีคนรักหรือยัง เกือบเดือนที่เธอมาทำงานกับเขา ปาลิดาเคยเห็นเขาออกไปคุยโทรศัพท์อยู่บ่อยๆ แต่ก็ไม่เคยเห็นมีผู้หญิงมาหาที่ทำงาน “ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ พี่ก็พามาแต่เฉพาะคนสำคัญ” เขมกรมองตาคนถาม ด้วยสายตาที่น้ำตาลยังเรียกพี่ จนปาลิดาที่ตั้งใจว่าจะมาทำให้หัวใจชายหนุ่มหวั่นไหว แต่เธอกลับต้องยอมหลบตาเขาเพราะหวั่นไหวเสียเอง “อาหารอร่อยไหม” เขมกรหาเรื่องคุย เมื่อเห็นหน้าของปาลิดา เริ่มแดงเป็นลูกตำลึง เพราะอายเมื่อเจอสายตาหวานของเขาไป “อร่อยน้อยกว่าลิดานิดนึงค่ะ”
12ทะเลและสองเรา เป็นไปตามคาด ธรรมสรณ์กับภาวินีไม่ยอมไปทะเลกับทั้งคู่ ปล่อยให้หนุ่มสาวไปด้วยกันเพียงสองคน ปาลิดาไม่รู้จะเลือกชุดที่จะไปใส่ที่ทะเลแบบไหน เธอจึงโทรศัพท์ไปขอให้อัสมาช่วยเลือกให้เธอ “กลางวันนี้ ลิดาขอไปกินข้าวกับคุณน้าอัสมานะคะ” ปกติหญิงสาวจะไปกินข้าวกลางวันกับเขมกรตลอด วันนี้เธอจึงขอตัว แต่ก็ไม่ได้บอกเหตุผลที่แท้จริง “พี่ไปด้วยได้ไหม” เขมกรได้รับมอบหมายจากบิดา ให้ดูแลปาลิดาอย่างดี และธรรมสรณ์ก็ไม่ไว้วางใจอัสมา เพราะเขารู้จักผู้หญิงคนนี้ดี “ไม่ได้ค่ะ ลิดาขอไปเจอคุณน้าแบบส่วนตัวนะคะ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ก็แค่พูดคุยกันตามประสาผู้หญิง แล้วจะรีบกลับมานะคะ” ใช้เวลาแค่เพียงไม่นานอัสมาก็เลือกชุดว่ายน้ำ ชุดเดินเล่นชายหาด และชุดใส่ตอนกลางคืน ให้กับลูกเลี้ยง “แต่ละชุด ถ้าคุณน้ากานดามาเห็น มีหวังหัวใจวายแน่ๆค่ะ” ถึงแม้กานดา จะไปอยู่อเมริกานาน แต่เธอก็ยังคงรักษาความเป็นผู้หญิงไทย และปลูกฝังหลานสาวเสมอ ตลอดเวลาที่ปาลิดาอาศัยอยู่กับเธอ “แบบนี้นี่เอง หนูลิดาถึงได้ยังไม่มีแฟนเสียที น้านึกว
13ทะเลสวาท “สวยมากเลยค่ะ คนไม่เยอะด้วย ลิดาคิดว่าวันหยุดแบบนี้คนต้องเยอะ วุ่นวายแน่ๆ” ปาลิดาตื่นเต้น เมื่อเรือพาเธอมาถึง ท่าเรือของเกาะ ทะเลสีฟ้า หาดทรายสีขาว มองจากท่าเรือ ผู้คนไม่มากอย่างที่เธอคิดไว้ “เกาะนี้เป็นเกาะส่วนตัวของเพื่อนพี่ เขาเปิดรับนักท่องเที่ยวจำกัด เพื่อความเป็นส่วนตัว” รถจากรีสอร์ทมารับทั้งคู่จากท่าเรือ เพื่อไปส่งยังที่พัก ที่อยู่อีกฝั่งของเกาะ แถวที่พักค่อนข้างเป็นส่วนตัวมาก จึงอยู่ห่างจากท่าเรือ “เราพักที่นี่เหรอคะ เหมือนมีแค่ห้องเดียวเลย” เมื่อมาถึงที่พักปาลิดา มองเข้าไป เป็นบ้านสไตล์วินเทจ ปูนเปลือย ด้านที่หันเข้าทะเล เป็นกระจกใส ในบ้านไม่มีห้องนอน เปิดเข้าไปเจอเตียงนอน และมองเห็นส่วนที่ทำครัวอยู่ด้วยกัน “ใช่ครับ มีแค่เตียงเดียว กลัวพี่ทำอะไรเหรอครับ” เขมกรหยอดเปิดทาง “ถ้ากลัวคงไม่มาด้วยหรอกค่ะ ก็แค่ถามดู” ปาลิดาตอบไม่ตรงกับเสียงของหัวใจเลย ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยถูกชายใดนอกจากพ่อมากอด มาหอมเลย แต่วันนี้ดูแววจะโดนมากว่าแน่ๆ “แดดยังร้อนอยู่เลย ไว้เย็นๆค่อยออกไปเดินเล
14น้ำตาแห่งการเริ่มต้น เมื่อแน่ใจว่าชายหนุ่มร่างเปลือยที่นอนอยู่บนตัวเธอ หลับสนิทแล้ว ปาลิดาค่อยขยับตัวออกจากการถูกทับจากตัวเขา ประตูกระจกถูกเลื่อนออก หญิงสาวออกมานั่งเพื่อปล่อยความรู้สึกทั้งหมด ให้ลอยไปกับลมทะเล “คุณพ่อคะ ลิดาทำถูกแล้วใช่ไหม” หญิงสาวพึมพำกับตัวเอง เหมือนต้องการคำตอบ จากบิดาที่อยู่บนสวรรค์และตอนนี้คงกำลังมองเธออยู่ “เราจะต้องได้ทุกอย่างคืน” จากน้ำเสียงที่ดูเสียใจ เพียงชั่วครู่ ความแค้นที่อัสมาฝังหัวไว้ ก็ชนะความรู้สึกทุกอย่าง ปาลิดานั่งคิดแผนการต่อไป ว่าเธอต้องทำอย่างไรต่อ ในเมื่อเธอยอมเสียตัวแบบนี้แล้ว เธอต้องได้มากกว่าเสีย “เดี๋ยวก็ไม่สบายไปหรอก มานั่งตากลมแบบนนี้” เขมกรส่งเสียงมาจากด้านหลัง ความจริงแล้วเขารู้สึกตัวตั้งแต่หญิงสาว ผลักตัวเขาออก “พี่ขอโทษนะ พี่คิดว่า....”ชายหนุ่มลากเสียง เพราะไม่แน่ใจว่าจะพูดต่อด้วยคำไหนดี ถึงจะดูไม่น่าเกลียดถึงแม้จะมีเก้าอี้ตัวข้างๆว่างอยู่ แต่เขมกรเลือกที่จะนอนลงบนเก็าอี้หวายแบบที่นอนได้ และดึงมือปาลิดาให้ลุกมานอนอยู่ในอ้อมแขนเขา“พ
15รสรักของเขากับความผูกพันของเรา เมื่ออาบน้ำเสร็จ เขมชาติก็มาชวนหญิงสาวที่นอนเล่นอยู่บนเก้าอี้หวายให้เขาไปนอนในห้องแทน “ถึงฝนจะไม่ได้สาดเข้ามาในนี้ แต่ละอองของมันก็ทำให้เราไม่สบายได้เหมือนกันนะ” เขมกรให้เหตุผล ที่ทำให้ปาลิดยอมเข้าไปในห้องกับเขา เพราะชายหนุ่ม แทบจะควบคุมความรู้สึกตัวเองไม่ได้แล้ว บรรยากาศที่แสนจะโรแมนติกขนาดนี้ สายฝนที่ไหล ผ่านกระจกของหน้าประตูห้องอากาสที่เย็นสบาย โดยที่ไม่ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศ มันช่างเหมาะกับการหาอะไรทำจริงๆ“ไม่เป็นไรค่ะ ลิดาอยากนอนตรงนี้ อากาศดี”หญิงสาวรู้ทัน ถ้าเธอเข้าไปในห้องคงไม่ได้นอนแน่ๆ เธอจึงเลือกที่นอนเล่นอยู่ข้างนอกดีกว่า“จะเดินเข้าไปดีๆ หรือจะให้พี่อุ้ม”เมื่อรู้ว่าคำเชิญชวนไม่มีผล ชายหนุ่มจึงเดินเข้ามาใกล้ตัวของหญิงสาว และทำท่าจะอุ้มเธอจริงๆ“ไม่ต้องค่ะ เดี๋ยวลิดาเดินไปเอง”ปาลิดารีบลุกจากเก้าอี้หวาย และเดินนำหน้าชายหนุ่มที่ทำหน้าตาทะเล้น เข้าไปยังเตียงนอนในตัวบ้านพัก“กอดหน่อยสิ เมื่อคืนยังกอดไม่หนำใจเลย”เขมกรกระโดดลงมานอนข้างหญิงสาว คว้าเธอเข้ามากอดจนแน่น“ก็เมื่อคืนมัวแต่ทำอะไรล่ะคะ ถึงได้
16เงินก้อนแรก “พี่ทำเรื่องขึ้นเงินเดือนให้แล้วนะ” ชายหนุ่มยื่นคำสั่งเงินเดือนใหม่ให้หญิงสาว ตามที่ได้รับปากไว้ “นี่มันสามเท่าของเงินเดือนเดิมเลยนะคะ”ปาลิดาแกล้งทำเสียงตกใจ ทั้งที่เธอคิดว่าจริงๆมันควรจะมากกว่านี้ด้วยซ้ำ“ความจริงแล้วบริษัทนี้เป็นของพ่อลิดาด้วยซ้ำ ถ้าไม่เกิดปัญหาขึ้นก่อน”ปาลิดายกมือไหว้ขอบคุณ ชายหนุ่มตรงหน้า ทั้งที่หัวใจของเธอกำลังคิดว่า ‘รู้แล้วทำไมไม่คืนหุ้นให้ทั้งหมดล่ะ’ปาลิดาโทรรายงาน เล่าควาสำเร็จให้อัสมาฟัง แต่เธอไม่กล้าเราให้กานดาผู้เป็นน้าแท้ๆรู้ เพราะเธอคงต้องโดนว่าแน่ๆ กับวิธีการแก้แค้นแบบนี้“เก่งมากหนูลิดา น้าเองช่วยอะไรหนูไม่ได้เลย น้ามันเป็นเมียที่แย่จริง”อัสมาเล่นบทนางเอก ตีเสียงเศร้า เหมือนคนที่เสียใจที่ตัวเองแก้แค้นให้สามีไม่ได้“ช่วยได้สิคะ การที่คุณน้าบอกคำแนะนำมาทั้งหมด ก็ถือว่าช่วยลิดาแล้ว ไว้มีอะไรคืบหน้าลิดาจะโทรหาใหม่นะคะ”หลังจากกลับมาจากทะเล เขมกรเอง พยายามที่หาโอกาส ทำในสิ่งที่เขาเคยทำกับปาลิดา แต่หญิงสาวก็บ่ายเบี่ยงตลอด“ลิดานี่มันเกือบเดือนแล้วนะ ที่เราไม่ได้....”ถึงอยากจะพูดตรงๆ แต่ท่าทางที่เรียบร้อยของคนจ
17สืบเพื่อรัก “ใครบอกล่ะ ก่อนที่หนูลิดาจะเรียนจบ เจ้านิรัช มันจับได้ว่าอัสมาเล่นชู้ แต่ด้วยความหลงกับความเหงามันจึงยอมให้อภัยและให้โอกาส” เล่ามาถึงตอนนี้ ธรรมสรณ์เป็นสีหน้าเป็นตึงเครียดแทน จากที่เมื่อกี้ยังปกติ “แต่คนมันสำนึกไม่ได้ มันกลัวว่าสักวัน มันจะโดนจับได้อีก มันค่อยๆ เข้ามามีส่วนในบริษัท ตกแต่งบัญชี ได้เงินไปเกือบสิบล้าน ” “ตั้งสิบล้าน เอาไปทำไมครับ ในเมื่ออยู่กับคุณอาก็กินดีอยู่ดีอยู่แล้ว” ชายหนุ่มสงสัย “เพราะตอนแรกนิรัชไม่ยอมจดทะเบียนสมรสด้วย อัสมากลัวว่าวันหนึ่ง ถ้าเกิดต้องเลิกกันจริง เธอจะไม่เหลืออะไร” “อ๋อ..แบบนี้เอง” เขมกรทำท่าเข้าใจ“แต่ถ้ามันแค่นั้น คนใจดีอย่างนิรัชคงไม่สติแตกจนขับรถชนสะพานหรอก” คนเล่ากำมือแน่น“เกิดอะไรขึ้นครับ” ชายหนุ่มถามด้วยความอยากรู้จนแทบจะทนไม่ไหว“เงินทั้งหมด ที่อัสมาเอาไป เธอเอาไปปรนเปรอเด็กหนุ่ม ซึ่งก็ไม่ใช่ใครเป็นคนขับรถของนิรัชเอง”ถึงแม้จะเจ็บแทนเพื่อนแค่ไหน ธรรมสรณ์ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเพื่อนของเขาดันรักผู้หญิงคนนั้นมาก“แล้วเกิดอะไรขึ้นครับ”เขมกรยังไม่เข้าใจ ว่าครอบครัวของเขา เข