ตอนที่6
เล่นไปตามบทบาท
“ข้าวผัดกระเพราไข่ดาวและต้มจืดร้อนๆ มาแล้วค่ะ ท่านผู้จัดการ”
หญิงสาวเดินถือถาดอาหารมาวางที่โต๊ะ โดยที่ราเชนตามไปช่วยหยิบน้ำและแก้วจากในครัว
“กลิ่นหอมมากเลย”
“อาหารหรือแพทคะที่หอม”
หญิงสาวแค่ต้องการพูดให้ตลก แต่มารู้ตัวว่าได้จุดไฟในตัวของชายหนุ่มเข้าแล้ว ก็เมื่อหันไปสบตาเขา
“กินข้าวอิ่มแล้ว ผมขอกินแพทต่อเลยแล้วกัน”
ราเชนก็ใช่เล่น พูดเหมือนตลก แต่ก็ทำเอาหญิงสาวรู้สึกเสียวท้องน้อยขึ้นมาทันที
ดึกมาแล้วทั้งคู่รีบเข้านอน แพทกลัวว่าราเชนจะนอนดึกและตื่นไปทำงานไม่ไหว ส่วนชายหนุ่มเองรีบนอนเพราะอยากใช้เวลาทำกิจกรรมก่อนนอนมากกว่า
“ผู้จัดการคะ ดึกแล้ว”
แพททำท่าดันตัวชาหนุ่มให้ออกห่างตัว ทั้งที่หัวใจมันร้องเรียกหาเขาแทบจะขาดใจ
“เรียกผู้จัดการอีกแล้วแบบนี้ต้องทำโทษ”
พูดจบเจ้านายสายหื่น ก็เริ่มซุกซนไปตามเรือนร่างของลูกน้องสาวทันที
หญิงสาวถึงปากจะปฏิเสธแต่ร่างกายส่วนอื่นมันกลับทำตรงข้าม
ปากหนาประกบเข้ากับร่องปากบาง ทั้งแลกลิ้นกันอย่างดุเดือน มีบางช่วยที่ราเชนรู้สึกหมั่นเคี่ยวก็แอบใช้ฟันขบเบาๆที่ลิ้นเล็กของหญิงสาว ยิ่งเป็นการกระตุ้นอารมณ์ให้กับอีกฝ่ายมากขึ้น
ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกความเขินอายก็พอมีอยู่บ้างแต่น้อยจนแพทกล้าที่จะเป็นฝ่ายรุกเร้าเอง เธอไม่รู้เหมือนกันว่าเธอทำแบบนี้ได้อย่างไรกัน ไปเอามาจากไหน เพราะตอนอยู่กับดิวเธอก็ทำได้แค่นอนอยู่เฉยๆเท่านั้น
ความเป็นชายในตัวของราเชนพร้อมกับการเข้าสำรวจถ้ำน้อยโหนกนูนแล้ว เขาจับมันและพาเข้าไปในถ้ำอย่างสมอารมณ์ ทุกจังหวะการเคลื่อนไหว หญิงสาวตอบรับได้เป็นอย่างดี สงครามรักครั้งนี้จบลงด้วยความอิ่มเอมใจของทั้งสองฝ่าย ก่อนที่ทั้งคู่จะพากันหลับไปในอ้อมกอดของกันและกัน
ผ่านมาหลายวันแล้วที่แพทลางาน เช้านี้คนที่โรงงานเริ่มพากันซุบซิบเรื่องที่ดิวกับแพทเลิกกัน โดยเฉพาะการที่หญิงสาวลางานถึงสามวันแล้ว คงต้องเกิดเรื่องไม่ดีแน่ๆ
ข่าวเรื่องการเลิกรายังไม่ทันจาง ก็ตามมาด้วยข่าวการย้ายแผนกของดิว ที่มาแบบด่วนมาก พนักงานทุกคนต่างพากันวิจารณ์ว่าดิวต้องไปทำอะไรผิดและฝ่ายบริหารคงรับรู้แน่ๆ
เช้านี้เป็นการกลับมาทำงานของแพทเป็นวันแรก เธอพยายามทำทุกอย่างให้เหมือนเดิม หลายคนพยายามถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้น แต่หญิงสาวก็ไม่ได้พูดไปมากกว่าแค่การบอกลับไปว่า ได้เลิกกับดิวแล้ว
โชคดีที่แพทไม่มีเพื่อนที่สนิทเพราะเธอมีแต่ดิวเพียงคนเดียวที่เป็นทั้งเพื่อนและแฟน เธอจึงไม่จำเป็นต้องเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ใครฟัง
“พวกเรารู้ว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัว เอาเป็นว่าพี่เพื่อนๆทุกคนเป็นกำลังใจให้เธอนะ”
หัวหน้าที่แผนกเป็นตัวแทนของพนักงานทุกคน ในการให้กำลังใจเพื่อนร่วมงาน
“ขอบคุณทุกคนมากนะคะที่เป็นห่วงแพทมาโดยตลอด ตอนนี้แพทดีขึ้นแล้วค่ะ”
การทำงานในวันนี้ เธอกับดิวไม่ได้เจอหน้ากัน เพราะแผนกทั้งคู่อยู่คนละที่ แพทรู้สึกโล่งใจมากๆ เพราะไม่อยากเห็นหน้าคนที่ทำร้ายหัวใจเธออีก
หัวหน้าลงโอทีในช่วงเย็นให้กับแพทตามปกติ เพราะทุกครั้งที่มีโอที แพทจะอยากทำมาก ค่าล่วงเวลาที่ได้มากกว่าการทำงานตามปกติคือความสุขของหญิงสาวที่ต้องดูแลทั้งครอบครัว
“แพทพี่ลงชื่อเธอไปแล้ว แต่ไม่รู้ทำไมฝ่ายบุคคลตัดชื่อเธอออก”
หัวหน้าเดินมาบอกที่แผนกด้วยความแปลกใจ เพราะตั้งแต่มาทำงานที่นี่ ฝ่ายบุคคลไม่เคยตัดชื่อคนที่เขาส่งไป
“ไม่เป็นไรค่ะพี่ แพทอาจจะได้โอทีบ่อยทางฝ่ายบุคคลอาจจะอยากให้เปลี่ยนคนบ้าง”
หญิงสาวรู้ได้ทันที ว่าใครคือคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ จึงได้พูดตัดบทไม่อยากให้หัวหน้าเธอไม่สบายใจ
“ฝีมือคุณใช่ไหมคะ เรื่องตัดชื่อแพทออกจากโอที”
วันนี้หญิงสาวกลับคอนโดเอง เพราะไม่อยากให้ใครสงสัย แต่เมื่อกลับมาถึงก็พบว่า เจ้านายของเธอนอนเล่นอยู่บนโซฟาแล้ว
“ก็ผมอยากอยู่กับคุณ เดี๋ยวผมจ่ายค่าแรงให้สองเท่าเลย”
ชายหนุ่มคว้าตัวหญิงสาวมากอด เหมือนคิดถึงเหลือเกินทำอย่างกับคนที่ไม่ได้เจอกันมานาน
“แพททำแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็กลับแล้ว คุณไม่เข้าใจหรอก ว่าเงินมันมีค่ากับคนที่เขาไม่มีขนาดไหน”
“ก็ผมบอกแล้วไง ว่าผมจ่ายให้สองเท่า ต่อไปนี้ไม่ต้องทำโอทีอีกแล้ว” คนตัวใหญ่หอมแก้งหญิงสาวในอ้อมกอด
“แพทไม่ได้หน้าเงินแบบนั้นนะคะ เงินที่ได้จากการหาด้วยตัวเองกับการขอคนอื่นมันต่างกัน”
“คนอื่นที่ไหน แพทเป็นภรรยาของผม ผมมีหน้าที่ดูแล และคุณก็ไม่ได้ขอผม ผมตอบแทนที่คุณคอยดูแลและทำให้ผมรู้สึกมีคุณค่าขึ้นมา”
ราเชนมองว่าการเติมเต็มที่หญิงสาวทำให้เขาได้มีความสุข มันมีค่ามากกว่าเงินที่เขาจะให้เธอเสียอีก
“พูดเหมือนตัวเองไม่มีคุณค่าอย่างนั้นแหละค่ะ คุณเป็นถึงลูกชายเจ้าของโรงงาน มีภรรยาที่แสนจะเหมาะสม มีเงินมีทุกอย่าง”
“แต่ไม่มีค่าไง” ราเชนสวนกลับอีกฝ่ายทันที
“แพทคงไม่กล่าถามคุณหรอกนะคะ ว่าอะไรที่ทำให้คุณราเชนคิดว่าตัวเองไม่มีค่า แต่เอาเป็นว่า สำหรับแพทคุณเป็นมีค่าที่สุด เพราะคุณช่วยให้แพทหลุดพ้นจากความทุกข์ออกมาได้”
คนที่มีเงินก็ไม่มีความสุขคนไม่มีเงินก็มีความทุกข์ ความสุขของแต่ละคนมันต่างกัน ราเชนได้แต่คิดในใจ เมื่อมองตามหญิงสาวตัวเล็กที่กำลังเดินเข้าครัวไปทำกับข้าวให้เขากิน
“กินทุกวันห้ามเบื่อนะคะ” คนทำพูดหยอก
“ยิ่งกินฝีมือใครคนหนึ่งทุกวัน มันต้องติดใจมากกว่าเบื่อนะ ถ้าอย่างนั้นผมมาอยู่กับแพททั้งวันแพทก็คงเบื่อแย่”
ราเชนพูดจริงจัง ทั้งที่คนถามแค่ต้องการสร้างสีสันในโต๊ะอาหารเท่านั้น
“พูดเหมือนคุณจะอยู่กับแพททั้งชีวิต สุดท้ายคุณก็ต้องกลับไปอยู่กับภรรยา ตอนนี้แพทไม่คิดว่าต้องเบื่อคุณหรอกล่ะ คิดแค่ว่ากลัววันไหนคุณจะหายไปจากชีวิตแพทมากกว่า”
สาวโรงงานที่ชีวิตเกือบหมดสิ้นกำลังใจทุกอย่าง ได้พระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยไว้ จนตอนนี้พระเอกคือชายคนเดียวในใจ แต่มันอยู่บนความไม่ถูกต้อง เธอรู้ดีว่าสักวันเขาก็ต้องไป
“อนาคตไม่มีใครตอบได้ ปัจจุบันคุณกับผมยังมีกันและกันก็พอ”
ราเชนเป็นผู้ชายที่ปากหวานที่สุดตั้งแต่หญิงสาวเคยพบเจอมา ความปากหวานมันดูมีความจริงใจซ่อนอยู่ในนั้น เธอเชื่อทุกอย่างที่เขาพูดและพร้อมที่จะทำตามเสมอ
คืนนี้ราเชนนอนกับภรรยาคนที่สองแค่เพียงเที่ยงคืน ก่อนที่จะกลับบ้านเพราะชาติชายบิดาของเขา ได้ข่าวจากการสอบถามแม่บ้านที่บ้านว่าลูกชายของเขาไม่ได้กลับมานอนบ้านหลายคืนแล้ว
“แพทอยู่ได้ค่ะ กลับไปหาคุณนิศาเถอะค่ะ อย่าทำให้ แพทต้องบาปไปมากกว่านี้เลย”
ปากกับหัวใจไม่ตรงกัน แต่หญิงสาวไม่อยากเป็นบาปเพราะทำร้ายหัวใจผู้หญิงที่เขาไม่เคยทำร้ายเธอ
ตอนที่7คำสั่งของบิดา ราเชนขับรถกลับบ้านด้วยความรู้สึกที่ไม่รู้ว่าตัวเองจะกลับไปเพื่ออะไร และก็ไม่คิดว่ากลับไปจะเจอใครด้วยซ้ำ “เอ้า! วันนี้ไม่ไปสังสรรค์กับเพื่อนเหรอ” ราเชนแปลกใจที่เห็นนิศานอนกดโทรศัพท์เล่นอยู่บนเตียงนอน ในชุดนอนแทนชุดเที่ยวกลางคืน “ก็พ่อเชนเพิ่งจะกลับไปบ้านไม่ถึงชั่วโมง ท่านมาขอให้นิศาอยู่บ้านบ้าง ไม่รู้ว่าใครไปฟ้องอะไร” ปากก็เล่า แต่มือก็ยังพิมพ์โทรศัพท์อยู่ไม่เลิก แสดงถึงความไม่ได้ใส่ใจในสิ่งที่กำลังพูด “ท่านคงอยากให้เราได้มีเวลาอยู่ด้วยกันบ้าง” ราเชนเข้าใจในสิ่งที่บิดาเขาทำ ชีวิตของเขากับนิศาหลังแต่งงาน ไม่มีอะไรที่ดูเหมือนคนรักกันเลย เพราะความจริงแล้ว การแต่งงานก็ไม่ได้เกิดขึ้นจากความรักแต่มันเกิดขึ้นจากผลประโยชน์ของผู้ใหญ่มากกว่า พ่อของนิศาเป็นผู้มีอิทธิพลในวงการค้า จึงสามารถช่วยหาตลาดให้โรงงานของราเชนได้ตลอด ส่วนพ่อของราเชน ก็เป็นตระกูลเก่านักการเมืองท้องถิ่น ช่วยคุ้มครองการทำธุรกิจที่ไม่ค่อยจะถูกต้องของครอบครัวนิศาได้ ทั้งสองครอบครัวจึงมองเห็นประโยชน์ร่วมกัน นิศาและราเชนก
ตอนที่8เมื่อไม่มีเธอมันเหงา ค่ำคืนแห่งการเยียวยาหัวใจ ของชายหนุ่มที่ทั้งโมโหเสียใจ เสียความรู้สึก และเมามาทำให้คืนนี้หญิงสาวต้องรับบทหนักหลายรอบกว่าเขาจะหายต้องการ เมื่อความทุกข์ใจได้ถูกปลดปล่อยออกทางกาย ราเชนก็หลับสนิท แต่สำหรับแพทแล้ว เธอเริ่มรู้สึกรักเขา และไม่อยากให้ตัวเองรู้สึกแบบนี้ เพราะโลกแห่งความจริง เธอเป็นแค่นางบำเรอ สนองราคะเป็นที่ระบายความทุกข์ให้เขาเท่านั้น เมื่อถึงเวลา สักวันเจ้าของตัวจริงก็ต้องมาเอาคืน วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว วันนี้ก็ครบสองเดือนแล้วที่ทั้งคู่พัฒนาจากเจ้านายกับลูกน้องมาเป็นอย่างอื่นกัน เกือบทุกคืนที่ราเชนมานอนที่คอนโดน้อยครั้งที่เขากลับไปนอนบ้าน แต่ไม่มีวันไหนที่เขาจะไม่มาหาหญิงสาวเพราะหัวใจมันเรียกร้องอยากกอดทุกวัน แพทไปถอนเงินทุกครั้ง เธอก็ไม่เคยเห็นเงินเธอลดลง มีแต่เพิ่มขึ้น หญิงสาวรู้อยู่แก่ใจว่าราเชน คงเอาข้อมูลเลขบัญชีจากฝ่ายบุคคคลและโอนเงินให้เธออยู่เรื่อยๆ เงินที่ได้มาหญิงสาวส่งไปบ้านเพื่อเป็นค่ารักษาพ่อและซ่อมแซมบ้าน น้องสาวส่งภาพมาให้ดูตอนนี้บ้านของเธอดูดีและน่าอยู่มาก น้องคนกลางก็
ตอนที่9กอดที่แน่นที่สุด “คิดถึงจังเลย มาหอมแก้มให้หายคิดถึงหน่อยสิ” ราเชนโผเข้ากอดสาวโรงงานที่เขาสุดแสนจะคิดถึง เพราะไม่ได้เจอกันนาน “แพทก็คิดถึงคุณค่ะ ” หญิงสาวใช้มือข้างขวาลูบท้องของเธอไว้ เพื่อหวังว่าความอบอุ่นของอ้อมกอดราเชนจะส่งไปถึงลูกที่อยู่ในท้อง อาหารมื้อเย็นวันนี้หญิงสาวจัดเต็ม เพราะเธอรู้ตัว ว่าคงมีโอกาสทำให้เขากินได้อีกไม่นาน เธอกับลูกก็ต้องไปจากที่นี่แล้ว คืนนี้หญิงสาวแทบจะไม่ได้นอน เพราะถูกอีกฝ่ายแสดงความคิดถึงทั้งคืน แพทก็พยายามระวังเพราะกลัวจะส่งผลถึงลูกของเธอ วันนี้เป็นวันหยุดราเชนพาหญิงสาวไปเที่ยวจังหวัดที่อยู่ใกล้ๆ ไปไหว้พระ หาของกินอร่อยๆกิน รวมทั้งตอนกลับเขาพาเธอไปซื้อสร้อยคอที่เป็นทองหนักห้าบาท ถ้าเป็นปกติหญิงสาวคงไม่ยอมรับไหว แต่เพราะเธอรู้ ว่าการเลี้ยงเด็กหนึ่งคนต้องใช้เงิน ถ้ากลับไปอยู่บ้านเธอคงไม่ค่อยมีรายได้อะไร ทองนี้คงช่วยเธอกับลูกได้ในตอนนั้น ก่อนจะกลับคอนโด ชายหนุ่มพาหญิงสาวแวะไปที่ร้านเพชรที่อยู่ในห้างใหญ่ ตอนแรกแพทคิดว่าราเชนคงมาซื้อให้กับนิศา เพราะเขาซื้อทองให้เธอแล้ว แต่เม
ตอนที่10สูญเสีย วันนี้ทั้งวันราเชนทำงานอย่างไม่มีความสุขเลย เพราะเขาติดต่อแพทไม่ได้ ไม่ว่าแชทหรือการโทรศัพท์ ติดต่อไปที่ฝ่ายบุคคลเขาก็แจ้งว่าหญิงสาวไม่ได้มาทำงาน สิ่งแรกที่ทำหลังจากงานที่ทำเสร็จ คือการรีบกลับมาที่คอนโด “แพทคุณอยู่ไหน แพท คุณได้ยินผมไหม” ราเชนเหมือนคนเสียสติวิ่งไปทั่วห้องพยายามหาภรรยาของเขา ในมือเขาถือทะเบียนหย่าที่วันนี้เขากับนิศาได้ไปทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่คนที่ชายหนุ่มต้องการเอามาอวดกับไม่อยู่แล้ว ข้าวของเครื่องใช้ที่สำคัญหายไป ราเชนมั่นใจว่าเขาได้เสียเธอไปแล้ว ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างถูกขว้างปาทั่วห้องไปหมด ราเชนกำลังเสียสติ เขาคิดว่าแพทต้องกลับไปคืนดีกับคนรักเก่าแน่ๆ เมื่อไม่มีทางออกเขาจึงตัดสินใจโทรศัพท์ไปที่โรงงานเพื่อขอที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ของดิว ราเชนตั้งใจจะไปบุกให้ถึงที่ “เปิด เปิดประตูเดี๋ยวนี้” ราเชนบุกไปที่ห้องของดิวแล้วทุบประตูห้องเช่าขนาดเล็กด้วยความโมโห “อะไรกัน คุณราเชน” คนที่มาเปิดประตูคือทราย เพราะตัวดิวเองกำลังอาบน้ำอยู่
ตอนที่11ตามหาหัวใจ “ราเชน วันนี้ไม่ต้องเข้าโรงงาน มานั่งคุยกับพ่อให้รู้เรื่อง อย่าให้พ่อต้องกลายเป็นคนสุดท้ายที่รู้เรื่องของลูกชายตัวเองเลย” ชาติชายมานั่งรอราเชนอยู่ที่โต๊ะอาหารตั้งแต่เช้า เพราะเขาอดทนต่อไปไม่ไหวแล้ว วันนี้เขาต้องรู้ความจริงทั้งหมดให้ได้ “พ่อแน่ใจนะครับว่าพร้อมจะฟัง” ราเชนคิดมาตลอด ว่าบิดาของเขาไม่มีทางรับได้ที่เขาจะมีภรรยาเป็นแค่เพียงพนักงาน เขาจึงไม่คิดจะเล่าให้ฟัง “คงไม่มีอะไรทำให้พ่อทุกข์ใจ มากไปกว่าการที่พ่อต้องมาเห็นลูกเอาแต่เมาทุกวันแบบนี้” ชาติชายคิดอย่างที่พูดจริงๆ เพราะเขาทุกข์ใจมาหลายวันแล้วกับพฤติกรรมของลูกชาย วันนี้เขาจึงต้องการรู้เรื่องทั้งหมดเพื่อหาทางแก้ไข ก่อนที่ทุกอย่างจะแย่ไปกว่านี้ ราเชนเล่าทุกเรื่องตั้งแต่ปัญหาระหว่างเขากับนิศาจนถึงที่เขาไปเจอแพทกำลังโดนดิวตบตีและเขาพาเธอมาอยู่ที่คอนโดแล้วได้มีความสัมพันธ์กัน จนในที่สุดตอนนี้เธอหนีเขาไปแล้ว “ถ้าคนทั้งโรงงานเขาไม่พูดกัน พ่อคงไม่มีทางได้รู้เรื่องจริงว่ามันเกิดอะไรขึ้น” ชาติชายตัดพ้อลูกชายด้วยความรู้สึกน้อยใจ แ
ตอนที่12หัวใจที่หายไป “แพทคุณท้อง ทำไมคุณไม่บอกผม” เมื่อทั้งคู่เดินออกมาจากร้าน ราเชนก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาถามสิ่งที่ทำให้เขาตกใจมากกว่าการที่ได้เจอแพทเสียอีก นั่นคือการที่เธอกำลังตั้งท้องอยู่ “ไว้เราไปคุยกันที่บ้านดีกว่าค่ะ” หญิงสาวใบหน้าไร้รอยยิ้ม เธอใช้เวลาหลายเดือนเพื่อที่จะทำใจให้ลืมชายหนุ่มให้ได้ แต่วันนี้เมื่อเธอได้เจอเขา ทุกอย่างที่พยายามมา มันช่วยอะไรไม่ได้เลย เธอยังรักเขาอยู่เต็มหัวใจ บ้านของแพทอยู่ชายเขา มีบ้านเพียงไม่กี่หลังที่อยูใกล้ เพราะหลายครอบครัวต่างก็อยากมีบ้านอยู่ติดถนนแต่พ่อของเธอไม่มีเงินพอที่จะซื้อที่ดินติดถนน จึงต้องหลบมาอยู่ชายเขาแบบนี้ “พ่อคะนี่คุณราชัน” แพทแนะนำให้พ่อของเธอรู้จักชายหนุ่มที่เธอพามาด้วยภาษาเหนือ พ่อของหญิงสาวรู้ความจริงทั้งหมด ตั้งแต่วันแรกที่ลูกสาวหิ้วท้องกลับมาบ้าน ถึงแม้จะแอบเสียใจ แต่เขาก็ไม่ได้ต่อว่าอะไร เพราะเข้าใจดีว่าทุกวันนี้ ทุกคนในครอบครัวมีกินมีใช้เพราะใคร “พ่อรู้เรื่องคุณกับลูกสาวพ่อหมดแล้ว แพทไม่เคยปิดบังอะไรพ่อกับแม่ คุณกลับกรุงเทพไปเถอะ อย
1การเดินทาง “คุณพ่อจะให้ลิดาไปเรียนต่อที่อเมริกาจริงๆเหรอคะ” ปาลิดาเด็กสาววัยเพียงสิบเจ็ดปี เธอเพิ่งสูญเสียมารดา จากโรคเส้นเลือดในสมองแตกไปอย่างไม่ทันตั้งตัว เมื่องานศพเสร็จสิ้น น้ำตายังไม่ทันแห้งไปจากหัวใจ พ่อของเธอก็เตรียมส่งเธอไปเรียนต่อต่างประเทศทันที “ลิดาลูกเห็นที่เราต้องสูญเสียแม่ไปไหม ทุกอย่างมันไม่ได้มีอะไรมาบอกล่วงหน้า ถ้าวันหนึ่ง พ่อต้องจากลูกไป มีแต่การศึกษาเท่านั้น ที่พ่อจะให้ลูกได้ นอกจากทรัพย์สมบัติ” นิรัชให้เหตุผลกับลูกสาว เขาอ้างความสูญเสียในครั้งนี้ เพราะเชื่อว่า ลูกสาวของเขาจะต้องยอมรับ และทำตามที่เขาต้องการ “แล้วคุณพ่อจะอยู่กับใครคะ ลิดาเป็นห่วงพ่อ” เด็กสาวเป็นห่วงผู้เป็นพ่อ เพราะเธอไม่เหลือใครแล้ว แล้วการไปครั้งนี้ ไม่ใช่แค่เพียงไปเรียนต่างจังหวัด แต่มันคือต่างประเทศ “พ่อดูแลตัวเองได้ ถ้าลูกรักพ่อ ตั้งใจเรียนให้จบ กลับมาช่วยงานที่บริษัทของเรา พ่อจะได้นอนตายตาหลับเสียที” นิรัชเองมีบริษัท ที่กิจการยังเพิ่งเริ่มต้นได้กำไร เขาอยากใช้โอกาสนี้ ส่งลูกสาวไปเรียนในที่ดีๆ เพราะขึ้นชื่อว่าธุรกิจ
“ลิดาจะไม่ทำให้คุณพ่อผิดหวังค่ะ” หญิงสาวเริ่มยิ้มได้ “แม่เลี้ยงคนใหม่ของหนูเป็นอย่างไรบ้าง พ่อเล่าให้ฟังบ้างไหม” กานดาแอบเป็นกังวลว่าเมื่อหลานสาวเธอกลับไปเมืองไทย จะมีปัญหากับแม่เลี้ยงเหมือนในหนังไทยหรือเปล่า เพราะตั้งแต่นิรัชมีภรรยาใหม่ ปาลิดายังไม่มีโอกาสได้เจอกับอัสมาเลย “คุณน้าอัสมาเขาดูเป็นคนดีนะคะ คุณพ่อเล่าให้ฟัง ว่าเขาดูแลทุกอย่าง เรื่องเงินก็ไม่เคยใช้จ่ายฟุ่มเฟือย แถมยังช่วยงานบริษัทของพ่อได้ด้วย” ปาลิดารู้จักอัสมา จากคำบอกเล่าของผู้เป็นพ่อ และมีเพียงไม่กี่ครั้งที่เธอมีโอกาสได้วิดีโอคลอกับผู้เป็นแม่เลี้ยง แต่หญิงสาวก็เชื่อและรู้สึกตามที่พ่อบอกเล่าให้ฟัง “ดีแล้ว แบบนี้น้าก็เบาใจ ถ้าเขารักคุณพ่อของหนู หนูก็ต้องรักเขานะลิดา อย่าให้ต้องเป็นปัญหาลูกเลี้ยงแม่เลี้ยง คุณพ่อของหนูจะหนักใจเปล่าๆ” กานดาสอนหลานสาว ก่อนที่อีกสองปี ปาลิดาจะได้กลับไปอยู่เมืองไทย เพราะเธอคิดว่ากันไว้ดีกว่าแก้เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า แต่ปาลิดาก็อดทนจนเธอสำเร็จการศึกษา และอีกไม่กี่วันเธอจะได้รับปริญญา “คุณพ่อของหนูจะเดินทางมาวันไหน”