Home / รักโบราณ / มิติรัก ลากข้ามาเป็นฮองเฮา / 9. เจ้าคือผู้หญิงของข้า...

Share

9. เจ้าคือผู้หญิงของข้า...

last update Last Updated: 2025-03-06 20:36:19

ตำหนักไป๋ฮวา...

"พระชายา เสวยมื้อเช้ากับองค์รัชทายาทก่อนเพคะ"

ซีจินกล่าวเสียงอ่อนโยน พลางวางถาดอาหารลงเบื้องหน้า

"ข้าไม่หิว" พระชายาตอบเสียงเรียบแข็ง นางไม่แม้แต่จะปรายตามองบุรุษที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

องค์รัชทายาทจ้องมองพระชายาของตน นัยน์ตาคมกริบหรี่ลงเล็กน้อย ก่อนจะละสายตาจากนางแล้วเอ่ยเสียงเรียบแต่ทรงอำนาจ

"จินฝาน ไปเตรียมม้า วันนี้ข้าจะออกไปตรวจดูความเรียบร้อยเสียหน่อย"

"พ่ะย่ะค่ะ!" จินฝายขานรับทันที

พระชายาหันไปหาซีจิน เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแน่วแน่

"ซีจิน เตรียมรถม้า ข้าจะไปแถววัดหยงเห่อ

"เพคะ"

ระหว่างทาง รถม้าของพระชายาแล่นไปตามถนนลูกรังที่เงียบสงบ สายลมพัดเอื่อยนำกลิ่นดอกเหมยจากสวนข้างทางมาแตะจมูก ทว่า...ความเงียบงันนี้กลับดูผิดปกติ

ซีจินที่นั่งอยู่ข้างๆ เริ่มรู้สึกถึงบางสิ่ง นางเหลียวมองไปยังถนนด้านหลังผ่านช่องหน้าต่างรถม้า และสิ่งที่เห็นก็ทำให้เลือดในกายเย็นเฉียบ

กลุ่มบุรุษในชุดดำควบม้าตามมาติดๆ ราวกับเงาที่คอยไล่ล่า!

"พระชายา! มีคนตามเรามาเพคะ!" ซีจินร้องเตือน

พระชายาหันขวับไปมองทันที ก่อนที่รถม้าจะสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เสียงกีบม้ากระทบพื้นดังกึกก้อง ฝุ่นฟุ้งขึ้นเป็นสาย เธอรู้สึกถึงลางร้ายได้อย่างชัดเจน

ปัง!

รถม้าถูกดึงให้หยุดกะทันหัน บานประตูเปิดผางออก และชายชุดดำหลายคนก็ปรากฏตัวขึ้น พวกมันกรูเข้ามาล้อมรอบรถม้าไว้ทันที

พระชายากัดริมฝีปากแน่น ในแขนเสื้อของเธอกำสเปรย์พริกไทยไว้แน่น นี่อาจเป็นอาวุธเดียวที่เธอสามารถใช้ป้องกันตัวเองได้

"พวกเจ้าเป็นใคร ต้องการอะไรจากข้า?" พระชายาเอ่ยเสียงเรียบแต่แฝงแววระวังตัว

ชายคนหนึ่งหัวเราะเยาะ ก่อนจะก้าวเข้ามาใกล้ นัยน์ตาของมันฉายแววโหดเหี้ยม

"ถามได้! ข้าต้องการชีวิตเจ้าสิ พระชายาแห่งองค์รัชทายาท!"

พระชายาตัวแข็งทื่อ คำพูดของมันชัดเจนเกินไป เป้าหมายของพวกมันคือนางจริงๆ!

"หากข้าตายไป องค์รัชทายาทจะไม่ปล่อยพวกเจ้าแน่!" นางกล่าวเสียงเฉียบขาด หวังจะข่มขู่พวกมันให้หวาดหวั่น

แต่ก่อนที่พวกมันจะได้เอ่ยอะไรต่อ...

เสียงกีบม้าควบมาด้วยความเร็วสูงดังขึ้นจากด้านหลัง!

"เพล้ง!"

ประกายดาบแหวกอากาศวูบหนึ่ง ชายชุดดำที่อยู่ใกล้พระชายาที่สุดถูกซัดกระเด็นไปทันที!

พระชายาเบิกตากว้าง ผู้ที่ปรากฏตัวตรงหน้า...

องค์รัชทายาท!

พระสวามีของเธอทรงมาถึงด้วยสีหน้าดุดัน นัยน์ตาคมกริบ ดาบในพระมือเปื้อนเลือดของศัตรู ร่างสูงสง่าคร่อมม้าอย่างทรงอำนาจ รัศมีของนักรบแผ่ซ่านออกมาจนพวกศัตรูสะดุ้งถอยกรูด

"บังอาจคิดแตะต้องพระชายาของข้า... พวกเจ้าอยากตายนักใช่ไหม?!" องค์รัชทายาทเอ่ยเสียงเหี้ยม

สิ้นคำ พระองค์พุ่งเข้าโจมตีทันที!

เสียงดาบปะทะกันดังสนั่น พื้นทรายกระเซ็นเป็นวงกว้าง พวกชายชุดดำเริ่มล่าถอยเมื่อเผชิญกับฝีมือดาบที่ไร้เทียมทาน

แต่ทันใดนั้น!

ชายชุดดำอีกคนหนึ่งฉวยโอกาสจากช่องว่าง ชูดาบขึ้นและฟันลงมาที่ตัวพระชายา

"พระชายา!" ซีจินร้องลั่น

ฟึ่บ!

นางหลับตาแน่นด้วยความหวาดกลัว แต่แรงกระแทกที่ควรจะมาถึงกลับไม่เกิดขึ้น

เพราะองค์รัชทายาท...

ทรงเอาพระหัตถ์รับดาบแทนนาง!

"องค์รัชทายาท" พระชายาร้องด้วยความตกใจ

เลือดสีแดงฉานไหลซึมลงมาตามแขนเสื้อของพระองค์ ทว่า พระองค์กลับสะบัดดาบฟันคู่ต่อสู้จนกระเด็นออกไปอย่างไม่ลังเล!

เห็นดังนั้น พระชายารีบควักสเปรย์พริกไทยออกมา แล้วฉีดใส่ดวงตาของชายชุดดำที่เหลือทันที มันร้องโหยหวนพลางถอยหลังไปด้วยความเจ็บปวด

เมื่อพวกมันเห็นว่าไม่อาจสู้ได้ จึงพากันรีบหลบหนีหายไปในความมืด

ทุกอย่างกลับคืนสู่ความเงียบงัน มีเพียงเสียงลมหายใจของพระชายาที่หอบถี่

เธอพุ่งเข้าไปประคององค์รัชทายาทไว้ ใบหน้างดงามเต็มไปด้วยความเป็นห่วง

"องค์รัชทายาท ท่านบาดเจ็บ!"

พระองค์จ้องมองนาง ก่อนจะยกมือขึ้นเช็ดคราบเลือดที่มุมปากของตนเอง

"เจ้าบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่?" พระองค์ถามด้วยน้ำเสียงแฝงไปด้วยความเป็นห่วง

พระชายาส่ายหน้าเร็วๆ "ไม่เลย แต่ท่าน..."

องค์รัชทายาทหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเอ่ยเสียงเข้ม 

"ข้าไม่เป็นไร โชคดีที่ข้าผ่านมาแถวนี้ ไม่เช่นนั้นเจ้าคงเป็นศพไปแล้ว"

พระชายานิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยเสียงอ่อน

"ขอบคุณท่านมาก แต่ท่านช่วยข้าทำไม ไม่ใช่ท่านอยากให้ข้าตายตามคนรักของท่านไปรึ"

“คนอย่างเจ้าต้องตายด้วยน้ำมือข้าเท่านั้น คนอื่นไม่มีสิทธิ์ฆ่าเจ้า”

พระชายามององค์รัชทายาทด้วยสายที่ที่โกรธเคือง แต่ในใจก็เป็นห่วงบาดแผลที่มือของเขา

“ไปทำแผลบนรถม้าก่อน อย่าพึ่งพูดเยอะน่ารำคาญ”

“ไม่ต้อง..แผลแค่นี้ข้าทำเองได้”

“งั้นก็ตามแต่ท่านเลย” พระชายาตอบอย่างไม่ไยดี

“งั้นข้าไปล่ะ” พระชายาพูดลาทันที

"แล้วเจ้าจะไปไหน?"

"ข้านัดกับจางจื่อและพี่ตงหยางไว้ที่วัด"

เพียงแค่ได้ยินชื่อตงหยาง พระพักตร์ขององค์ชายก็เคร่งขรึมขึ้นทันที

"ตงหยาง... คนที่เคยชอบพอเจ้าหรือ?"

พระชายาขมวดคิ้ว "เขาเคยชอบข้าด้วยหรือ? ข้าจำไม่ได้"

"นี่เจ้า..." พระองค์กัดฟันแน่น ก่อนจะเอ่ยเสียงดุดัน

"ข้าจะไปด้วย!" พระองค์มีสีหน้ากังวล

"แต่แผลของท่าน"

"ก็เจ้าบอกเองให้ทำแผลบนรถม้า "

พระชายาถอนหายใจอย่างจนปัญญา

องค์ชายรัชทายาทกระชับมือที่จับดาบแน่นขึ้น และสั่งให้รถม้าออกเดินทาง

เพราะเหตุใดกัน... ทำไมเพียงแค่ชื่อของ ‘ตงหยาง’ ถึงทำให้พระองค์ไม่สบอารมณ์เช่นนี้?

“ส่งมือมานี่” พระชายามององค์รัชทายาทพรางดึงมือมาวาวบนตัก

นางใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์เช็ดรอบบาดแผลอย่างเบามือ ความเย็นของน้ำยาทำให้พระองค์รู้สึกเสียววาบ แต่กลับไม่ปริปากบ่น นางค่อย ๆ หยิบเบตาดีน เทราดลงบนบาดแผลช้า ๆ อย่างระมัดระวัง

องค์ชายรัชทายาทจับจ้องนางเงียบ ๆ พินิจพิจารณาใบหน้าหวานละมุน ดวงตากลมโตซึ่งสะท้อนแสงแดดระยิบระยับ ขนตายาวเรียงตัวสวย และริมฝีปากสีแดงระเรื่อซึ่งขยับไปมาขณะนางตั้งใจดูแลแผลให้พระองค์

เขาเคยเห็นนางมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่เคยตระหนักเลยว่านางช่างงดงามเพียงนี้

องค์ชายแลบลิ้นเลียริมฝีปาก กลืนน้ำลายลงคออย่างเงียบงัน หัวใจพลันเต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว... นางช่างอ่อนโยน... อ่อนโยนจนเขาไม่อาจละสายตาได้

องค์ชายรัชทายาทมองของเหลวสีอำพันที่นางใช้ทำแผลให้เขา คิ้วเข้มขมวดเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

"ยาที่เจ้าใส่ให้ข้าคืออะไร? เหตุใดข้าจึงไม่เคยเห็นมาก่อน?"

พระชายาชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบด้วยท่าทีครุ่นคิด "ยานี้ข้านำติดตัวมา... ที่วังของท่านไม่มีสิ่งนี้ ข้าเองก็ไม่รู้จะอธิบายท่านเช่นไร"

นางพูดอย่างระมัดระวัง สายตาหลุบต่ำหลบเลี่ยงการจับผิดของชายหนุ่ม องค์ชายเพ่งพินิจสีหน้าของนางนิ่ง ๆ ความสงสัยแล่นขึ้นมาในใจ...

“ของที่ไม่มีในวัง... เช่นนั้นมันมาจากที่ใด?”

น้ำเสียงของเขาฟังดูแฝงแววคาดคั้น พระชายาเม้มริมฝีปากแน่น หัวใจเต้นแรงขึ้นเล็กน้อย คำถามนี้... นางจะตอบเช่นไรดี?

“ไว้สักวันข้าจะบอกความจริงท่านแล้วกัน” นางตัดจบองค์ชายรัชทายาทจ้องมองนางด้วยสายตาคมกริบ ดวงตาสีนิลลึกซึ้งราวกับต้องการค้นหาความลับที่นางปกปิดอยู่

“สักวัน?” เขาทวนคำ น้ำเสียงเย็นชาแฝงแววไม่พอใจ

นางไม่ตอบ นางเพียงแค่ก้มหน้าลง ใช้สำลีเช็ดรอบแผลของเขาต่อไปอย่างระมัดระวัง รู้ดีว่าหากพูดอะไรไปมากกว่านี้ องค์รัชทายาทคงไม่ปล่อยนางไปง่าย ๆ

ศาลาวาดภาพใกล้วัดหย่งเห่อ...

“เหม่ยเยียน อ่อต้องเรียกพระชายาสินะ เจ้าสบายดีนะ?” ตงหยางถามด้วยความห่วงใย

“สบายดี พี่ตงหยางสบายดีนะ?” พระชายาตอบกลับด้วยรอยยิ้ม

“สบายดี คารวะองค์รัชทายาท ข้าไม่ทราบว่าท่านจะมาด้วย” ตงหยางเอ่ยด้วยท่าทีสุภาพ

“ชายาข้าไปที่ใด ข้าผู้เป็นพระสวามีย่อมต้องไปที่นั่น” องค์ชายพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน เขายื่นมือออกไปจับที่เอวของพระชายา

“อุ้ย..” พระชายาอุทาน แต่ยังไม่ทันจะขัดขืน องค์ชายก็รั้งเอวของนางไว้ สายตาที่มองมานั้นเต็มไปด้วยความหวงแหน

“อ่ออีตาองค์ชาย...เล่นบทหวงก้างสินะ ผู้หญิงของข้า ฆ่าได้หยามไม่ได้” นางพึมพำเบา ๆ ด้วยความรู้สึกอึดอัด ก่อนจะหันไปหาจางจือและตงหยาง 

“หม่อมฉันถวายบังคมองค์รัชทายาทเพคะ” จางจือทูลขึ้น

“ไม่เจอกันนานเลยนะคุณหนูจางจือ” องค์ชายทักทายด้วยน้ำเสียงเรียบ

“เพคะ” จางจือเอ่ยรับคำ

“พระชายาไปวาดภาพกันเถอะ” จางจือชวน พระชายาไปนั่งวาดภาพวิวทิวทัศน์ที่เขานำเสนอ โดยมีตงหยางเป็นผู้สอน

“พระชายา ภาพที่เจ้าวาดฝีมือดีขึ้นมาก” ตงหยางกล่าวชม พร้อมกับจับพู่กันในมือของพระชายา ช่วยแนะนำวิธีการวาดเพิ่มเติม

องค์รัชทายาทที่ยืนดูอยู่ห่าง ๆ ไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาทนไม่ไหวและพูดขึ้นทันที

“บอกพระชายาว่าข้าเจ็บแผล ข้าอยากกลับแล้ว ไว้ถ้าอยากมาวาดภาพข้าจะพามาใหม่” องค์รัชทายาทสั่งจินฝานที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ทันที

“พ่ะย่ะค่ะ” จินฝานรับคำอย่างรวดเร็ว

“พระชายา…” จินฝานกำลังจะพูด แต่พระชายาขัดขึ้นก่อน

“ข้าได้ยินแล้ว…” นางตอบทันทีด้วยน้ำเสียงเบา ๆ ก่อนจะหันไปมองที่จางจือ “พี่ตงหยาง จางจือ ไว้ขาจะมาร่วมวาดภาพกับพวกท่านใหม่นะ”

พระชายาหันไปส่งสายตารู้กับจางจือ ผู้ที่คงรู้ดีถึงความรู้สึกของนางต่อพี่ตงหยาง

“พระชายา..เจ้านะ” จางจือทำสีหน้าเขินอายตอบกลับ

“ไปแล้วนะ องค์ชายเย็นชารอบนรถม้าแล้ว” พระชายาตะโกนบอก ก่อนจะเดินขึ้นรถม้าและนั่งลงอย่างสบายใจ แต่เธอก็รู้สึกได้ถึงความไม่พอใจขององค์รัชทายาทที่คิ้วขมวด

ภายในรถม้าเงียบกริบ มีเพียงเสียงล้อบดไปบนพื้นหินเป็นจังหวะหนักหน่วง ความอึดอัดแผ่ซ่านไปทั่ว ราวกับอากาศในนั้นกลายเป็นเงามืดที่บีบรัดจนแทบหายใจไม่ออก

องค์รัชทายาทจ้องนางนิ่ง ดวงตาสีดำลึกคู่นั้นเย็นชาและไร้ความปรานี ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือคว้าเอวนางกระชากเข้ามาใกล้จนร่างนางปะทะกับอกแข็งแกร่ง

ความอบอุ่นจากร่างเขาควรจะทำให้นางสั่นสะท้าน แต่เหตุใดกลับเหมือนเปลวไฟที่พร้อมจะเผาไหม้นางให้แหลกสลาย

“ปล่อยข้า...” นางเอ่ยเสียงสั่น

แต่พระองค์ไม่ปล่อย ไม่แม้แต่จะขยับ พระองค์เพียงจ้องมอง ราวกับพยายามขุดลึกเข้าไปในจิตวิญญาณของนาง

“อย่าบอกนะ...ว่าท่านจะจูบข้าอีก” พระชายากัดฟันเอ่ย ดวงตาทอแววท้าทาย

องค์ชายหัวเราะเบาๆ ทว่ามันเป็นเสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความเย้ยหยัน

“น่าไม่อาย เป็นสตรีกลับพูดเช่นนี้ออกมาได้”

คำพูดนั้นเสียดแทงเข้าไปกลางใจ แต่นางไม่ยอมแพ้ นางเงยหน้าขึ้น ดวงตาเต็มไปด้วยความดื้อรั้น

“แล้วทำไมเล่า? ระหว่างข้ากับท่านยังมีอะไรต้องอายอีกหรือ?”

เขาเงียบไปเพียงเสี้ยววินาที ก่อนที่ริมฝีปากจะคลี่ยิ้มอย่างเย็นชา

“เจ้าเป็นชายาของข้า เป็นผู้หญิงของข้า ข้าไม่ชอบให้ใครมาแตะต้องเจ้า ”

พระชายาชะงัก หัวใจบีบรัดแน่น นางอยากเชื่อว่านั่นคือคำพูดที่มีความหมายลึกซึ้ง... แต่เปล่าเลย

มันเป็นเพียงโซ่ตรวนที่พระองค์ใช้พันธนาการนางไว้

“ท่านหึงข้าใช่หรือไม่?” นางเอ่ยถาม เสียงสั่นไหว

องค์ชายจ้องหน้านาง ก่อนหัวเราะออกมาเบาๆ ดวงตาเย็นเยียบดังน้ำแข็ง

“หึงหรือ?” เขาโน้มตัวลง กระซิบข้างใบหู “หึ... ฝันไปเถอะ ระหว่างเรามีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น แค่ข้าไม่อยากให้ใครหยามเกียรติองค์รัชทายาทอย่างข้าได้”

หัวใจของพระชายาตกวูบ ความเจ็บแปลบซัดเข้ามาจนแทบหายใจไม่ออก

นางเคยคิดว่าตัวเองเข้มแข็งพอแล้ว เคยคิดว่าคำพูดของเขาจะทำร้ายนางไม่ได้อีก แต่ไม่เลย... คำพูดนั้นกลับบาดลึกลงกลางใจราวกับมีดที่กรีดซ้ำบนแผลเก่า

นางกำมือแน่นจนเล็บจิกลงเนื้อ ก่อนจะแค่นยิ้มออกมา ราวกับเยาะเย้ยตัวเอง

“ถ้าเกลียดนักก็หย่าเลยสิ ท่านจะทนไปทำไม? ข้าก็จะได้ไปตามทางของข้า”

แววตาขององค์ชายฉายแววคุกรุ่นขึ้นมาในทันที

“ตราบใดที่คดีของเหม่ยจูยังไม่กระจ่าง และคนร้ายยังลอยนวล เจ้าก็อย่าฝันว่าจะได้ไปจากที่นี่ เจ้าต้องทนทุกทรมาณยิ่งกว่านาง”

“แต่ข้าบอกแล้วว่าข้าไม่ใช่คนฆ่านาง!” นางตะโกนออกไปอย่างเหลืออด

“แต่ศพของนางถูกพบในห้องของเจ้า หาหลักฐานมาถ้าบอกว่าไม่ได้ทำ หามาสิ” องค์รัชทายาทตะคอกใส่เสียงดัง

พระชายาเหมือนถูกตบเข้าที่หน้าอย่างแรง ทุกคำพูดของพระองค์ตอกย้ำราวกับต้องการให้นางเป็นผู้กระทำผิด

นางหลับตาแน่น สูดลมหายใจลึกข่มกลั้นความเจ็บปวด ก่อนจะค่อยๆ เอ่ยเสียงสั่น

“แล้วถ้าวันหนึ่งความจริงปรากฏออกมาว่าข้าไม่ได้เป็นคนข้าคนรักของท่านล่ะ?”

องค์ชายไม่ตอบ มีเพียงความเงียบที่กดทับเหมือนโซ่ตรวนที่พันธนาการหัวใจของนางให้จมดิ่งลงไป

นางกัดริมฝีปากแน่น ข่มความรู้สึกที่จุกอยู่กลางอก ก่อนจะเอ่ยต่อ

“ท่านจะยังเกลียดข้าอยู่อีกหรือไม่? ท่านจะยังอยากให้ข้าตายไปพร้อมกับคนรักของท่านหรือเปล่า?”

เงียบ...

ความเงียบที่บีบรัดเสียจนแทบหายใจไม่ออก

น้ำตาที่พยายามกลั้นเอาไว้สุดท้ายก็ร่วงเงียบๆ อาบแก้ม นางหลับตาลง ปล่อยให้หยาดน้ำตาไหลลงอย่างไร้เสียง

“หรือบางที... ข้าอาจไม่มีค่าพอให้ท่านแม้แต่จะลองคิดไตร่ตรองดูว่าข้าผิดจริงหรือไม่...หากเป็นเช่นนั้นข้าไม่มีอะไรจะพูดอีกต่อไปแล้ว ”

ดวงตาขององค์ชายสั่นไหวไปชั่วขณะ พระองค์ครุ่นคิด

แล้วถ้าหากนางไม่ใช่คนฆ่าเหม่ยจู...

เช่นนั้น คนที่ยัดเยียดความผิดให้กับพระชายาก็คือตัวข้าเองหรือ

มือของเขากำแน่น ริมฝีปากเม้มสนิท แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ข้าก็คือคนที่ฆ่าพระชายาข้าทั้งเป็น 

เสียงล้อรถม้ายังคงบดไปบนพื้นหินอย่างสม่ำเสมอ แต่ภายในนั้นกลับหนักอึ้งไปทั้งหัวใจ 

Related chapters

  • มิติรัก ลากข้ามาเป็นฮองเฮา   10. ข้าหนาว...ขอนอนเตียงกับเจ้า

    ในค่ำคืนที่หนาวเย็นจนรู้สึกถึงความเยือกเย็นที่แทรกซึมเข้าไปในทุกอณูของเมืองหลวง หิมะตกปกคลุมทั่วทั้งท้องฟ้าและพื้นดิน แสงจากเตาไฟที่อยู่ภายในห้องทอแสงอุ่นๆ แต่ความหนาวเย็นนั้นกลับไม่ได้หายไปเสียทีเดียว ภายในห้องที่สงบและเงียบสงัดนี้ องค์ชายที่นอนอยู่บนแท่นไม้เล็กๆ ข้างเตียงดูเหมือนเขาจะไม่สบายจากบาดแผลที่โดนแจกัน และแผลที่มือรับมีดแทนเธอพระชายาที่ยืนมององค์รัชทายาทจากมุมหนึ่งภายในห้อง รู้สึกสงสารพระองค์จับใจ ใบหน้าของพระที่เคยแข็งกร้าวตอนนี้ดูอ่อนโยนและเจ็บปวดกับความหนาวจัดและพิษไข้"หลินเหม่ยเยียน... ข้าหนาว ข้าขอนอนเตียงเจ้าหน่อยได้หรือไม่?"น้ำเสียงออดอ้อนขององค์รัชทายาททำให้หัวใจของพระชายาสะท้าน นางรับรู้ถึงความอ่อนแอที่เขาแอบซ่อนอยู่ภายใต้ท่าทีแข็งกร้าวพระชายาไม่ตอบ นางเพียงเดินไปเปิดตู้ข้างเตียง หยิบผ้าห่มผืนหนาออกมาแล้วหันกลับไปยื่นให้เขา ทว่าก่อนที่เธอจะได้พูดอะไร ร่างสูงกลับก้าวเข้ามาใกล้… และกอดนางจากด้านหลัง"ข้าไม่ได้อยากได้ผ้าห่ม ข้าอยาก..." เสียงของเขาแผ่วเบา ทว่าซ่อนความนัยลึกซึ้ง"ปล่อยข้าเถอะ ข้าไม่อยากฟาดฟันอะไรกับคนป่วยอย่างท่าน" พระชายารีบพูด แต่กลับไม่มีผลใดๆ เ

    Last Updated : 2025-03-06
  • มิติรัก ลากข้ามาเป็นฮองเฮา    11. อย่าขัดใจข้า

    เสียงฝีเท้าหนักแน่นดังใกล้เข้ามา ก่อนที่ร่างองครักษ์หนุ่มจะคุกเข่าลงตรงหน้าองค์รัชายาท ดวงตาของเขาฉายแววเคร่งเครียด“องค์รัชทายาท! ข้าสืบเรื่องนี้จนได้ความแล้วพ่ะย่ะค่ะ”พระองค์เงยหน้าขึ้น ดวงตาคมกริบวาวโรจน์ด้วยความกดดัน“เป็นฝีมือของใคร?”“ตงหยาง พ่ะย่ะค่ะ”บรรยากาศในห้องเงียบสนิท อุณหภูมิราวกับลดต่ำลง องค์ชายหรี่ตา เสียงของพระองค์เย็นเยียบจนทำให้จินฝานรู้สึกเสียวสันหลัง“เจ้าแน่ใจหรือ?”จินฝานกลืนน้ำลาย ก่อนกล่าวต่ออย่างระมัดระวัง“พ่ะย่ะค่ะ ก่อนที่แม่นางเหม่ยจูจะถูกวางยา นางได้ไปพบตงหยางที่ศาลาข้างวัดหยงเห่อ พยานหลายคนเห็นว่าทั้งคู่แอบมาพบกันบ่อยครั้ง...และในวันนั้น พวกเขาทะเลาะกัน ตงหยางพยายามบังคับให้เหม่ยจูกินอะไรบางอย่าง แต่ไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไร”องค์รัชทายาทกำหมัดแน่น ความเย็นเยียบในแววตาแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธจินฝานรีบกล่าวต่อ“จากนั้น...แม่นางเหม่ยจูกลับไปที่จวนของพระชายา แต่พระชายาเองก็เหมือนจะถูกวางยาสลบเช่นกัน กระหม่อมให้คนไปตรวจสอบกำยานที่จุดในห้อง พบว่ามีส่วนผสมของยาที่ทำให้หมดสติ”องค์รัชทายาทขมวดคิ้ว ก่อนพึมพำกับตนเอง“ตอนข้าเข้าไปในห้องวันนั้น...ข้าก็ได้กลิ่นแปลก

    Last Updated : 2025-03-07
  • มิติรัก ลากข้ามาเป็นฮองเฮา    12. ข้าไม่ใช่หมอ…

    ตำหนักองค์หญิงเล็ก ในคืนนี้กลับมีแต่ความโกลาหลและเสียงหวีดร้องสะท้อนก้องไปทั่ว เมื่อองค์หญิงเล็กถึงคราวประสูติ หากแต่ความทุกข์ร้อนยิ่งเพิ่มพูนเพราะทารกในครรภ์ไม่ยอมกลับหัว หมอหลวงและหมอตำแยต่างเร่งรุดมายังตำหนักอย่างเร่งรีบ"พวกเจ้าจงช่วยลูกข้าให้ได้!" ฮองเฮาตรัสเสียงสั่น น้ำเสียงแฝงไปด้วยความกังวลพระชายายืนเคียงข้างฮองเฮา เช่นเดียวกับองค์รัชทายาทที่จับพระหัตถ์มารดาไว้แน่น พยายามส่งกำลังใจในยามวิกฤติ"ทำไงดี เด็กไม่กลับหัว จะรอดไหมนะ? นี่ถ้าเป็นคนอื่นที่ทะลุมิติมา ในซีรีส์ส่วนใหญ่เป็นหมอ ผ่าคลอดได้ แต่ฉันเป็นแค่เชฟ ไม่ใช่หมอ... ตาย ๆ อย่าหาทำเลยลี่หรง!"นางบ่นพึมพำในลำคอ หัวใจเต้นระรัว“กลัวหรือ?” องค์ชายเอ่ยถาม ดวงตาเปี่ยมไปด้วยความห่วงใย“ไม่... ข้าแค่ห่วงองค์หญิงเล็ก” พระชายาตอบเสียงเบา“ข้านึกว่าเจ้าจะกลัวจนไม่กล้ามีองค์ชายให้ข้าเสียอีก” องค์ชายพูดแล้วยิ้มเยาะพระชายา“องค์ชายนี่ไม่ใช่เวลาจะพูดเล่นนะ!” พระชายาหันมาทำตาดุใส่ องค์รัชทายาทได้แต่ยิ้มอย่างสำรวม“ข้ามีกระป๋องออกซิเจน ขอเข้าไปในห้องคลอดได้ไหม อย่างน้อยข้าจะได้ช่วยปลอบโยนองค์หญิงเล็ก” พระชายาเอ่ยขอ ฮองเฮาตรัสอนุญาต นางจ

    Last Updated : 2025-03-07
  • มิติรัก ลากข้ามาเป็นฮองเฮา   13. บิดาข้าถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏ

    ท้องพระโรง..."ถวายบังคมฝ่าบาท พ่ะย่ะค่ะ ข้าได้สืบทราบมาว่า มหาเสนาบดีหลินเซียวคิดกบฏ รวบรวมทหารทางตอนเหนือ และซื้อขายอาวุธนอกเหนือจากซื้อให้กับราชสำนัก เกณฑ์ชาวบ้านมาเป็นทหารประจำกองทัพตน ใครไม่ยินยอมฆ่าทิ้งสถานเดียว" เสนาบดีเฉินหลางกล่าวรายงาน"เสนาบดีเฉินหลาง หากเจ้าไม่มีหลักฐาน อย่าได้กล่าวหาข้าโดยไร้เหตุผล ข้าเองจะทำเช่นนั้นไปเพื่ออะไร "เสนาบดีเฉินหลาง—พ่อตาขององค์ชายสี่—แค่นหัวเราะ ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน"เจ้าคงกลัวว่า หากวันหนึ่งองค์ชายรัชทายาทไม่ได้ขึ้นครองบัลลังก์จริง บุตรสาวของเจ้าจะพลาดตำแหน่งฮองเฮา ตระกูลของเจ้าก็จะไร้ซึ่งอำนาจและผู้สนับสนุน?""เจ้า!..เจ้าคิดได้อย่างไร เดิมทีองค์ชายรัชทายาทก็มีสิทธิ์ครองบัลลังก์ต่อจากฝ่าบาทอยู่แล้ว ข้าย่อมไม่มีเหตุผลใดต้องทำเช่นนั้น"“เมื่อดูหลักฐานเดี๋ยวก็รู้” เสนาบดีเฉินหลางยิ้มอย่างเย้ยหยัน"หลักฐานการซื้อขายอาวุธ พะยะค่ะ" ขุนนางคนหนึ่งกล่าวพลางยื่นเอกสารให้ฮ่องเต้ฮ่องเต้ทอดพระเนตรหลักฐานครู่หนึ่งก่อนตรัสขึ้น"เรื่องนี้ต้องมีการตรวจสอบ หามิได้ที่ข้าจะตัดสินโทษมหาเสนาบดีโดยไร้ซึ่งความจริง เอาเป็นว่า ข้าจะสั่งให้กักบริเวณมหาเสนาบด

    Last Updated : 2025-03-07
  • มิติรัก ลากข้ามาเป็นฮองเฮา   14. ศัตรูตัวจริง

    องค์ชายรัชทายาทมุ่งหน้าสู่ทางตอนเหนือของพระราชวัง เพื่อตามสืบเรื่องการซื้อขายอาวุธอย่างลับ ๆ ระหว่างทาง ขบวนของพระองค์ถูกลอบโจมตีโดยกลุ่มชายชุดดำที่โผล่ออกมาจากเงามืดรอบป่า เสียงกระบี่กระทบกันดังสนั่น เปลวไฟจากคบเพลิงสะท้อนกับคมอาวุธที่วาดผ่านอากาศองค์ชายรัชทายาทตวัดกระบี่ในมืออย่างแม่นยำ การเคลื่อนไหวของพระองค์สง่างามดุจพยัคฆ์ร้ายกลางศึก เพียงแค่กวาดสายตา พระองค์ก็มองออกถึงจุดอ่อนของศัตรู กระบี่ในมือพุ่งแทงฉับไวทะลุเกราะของชายชุดดำที่พุ่งเข้ามา เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นก่อนร่างนั้นจะล้มลง“ล้อมให้แน่น! อย่าให้มันหนีไปได้!” เสียงของศัตรูตะโกนสั่งคนของตนแต่ไม่มีผู้ใดสามารถต้านทานฝีมือขององค์ชายได้ พระองค์หมุนตัว หลบการโจมตีได้อย่างแม่นยำ มือหนึ่งปัดป้องด้วยกระบี่ อีกมือหนึ่งคว้ากริชจากเอวของศัตรูแล้วปักกลับไปอย่างรวดเร็ว เลือดพุ่งกระเซ็นเต็มพื้นดินจินฝาน! คุมกำลังล้อมไว้ อย่าให้เหลือรอด!”“พ่ะย่ะค่ะองค์ชาย!จินฝานและทหารชั้นดีบุกจู่โจมเข้าไปอย่างพร้อมเพรียง เสียงร้องของศัตรูดังระงม เสียงกระบี่ฟาดฟันกันเป็นจังหวะชวนให้ขนลุกการต่อสู้กินเวลาไม่นาน ศัตรูค่อย ๆ ร่วงลงไปทีละคนจนเหลือเพียงคว

    Last Updated : 2025-03-07
  • มิติรัก ลากข้ามาเป็นฮองเฮา   15. ดับพิษด้วยเพลงรัก

    ชุมชนกระบี่กลางป่า เงาของต้นไม้สูงทอดทับพื้นดิน ช่างตีเหล็กมากมายตั้งหน้าตั้งตาทำงาน เสียงค้อนกระทบเหล็กดังก้องไปทั่ว คลอไปกับไอร้อนจากเตาเผารอบนอกของชุมชน องค์ชายรัชทายาทและทหารชุดดำซุ่มอยู่ในพุ้มไม้ใหญ่พร้อมโจมตีตลอดเวลา ดวงตาคมจับจ้องไปยังกลุ่มทหารจากในวัง พระองค์จำได้ดี—พวกนั้นคือทหารคนสนิทของเสนาบดีเฉินหลาง และตอนนี้ พวกมันกำลังสั่งทำอาวุธจำนวนมาก เอกสารซื้อขายถูกลงนามโดยมหาเสนาบดีหลินเซียว ซึ่งเป็นการปลอมแปลงอย่างเห็นได้ชัด! นี่มันแผนใส่ร้ายที่แยบยลนักองค์รัชทายาทรอจังหวะ จนกระทั่งการซื้อขายเสร็จสิ้นแล้วจึงนำทหารเข้าจับกุม แต่ในตอนนี้ พระองค์อยู่ในชุดดำปิดหน้าไร้ผู้ใดจำได้ เสียงกระบี่ปะทะกันดังก้องกลางป่า การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด ทว่าเมื่อองค์ชายเริ่มเป็นฝ่ายได้เปรียบ ทันใดนั้น! ลูกธนูดอกหนึ่งพุ่งตรงไปยังเจ้าของโรงตีเหล็กฉีเฟิงฉึก!องค์องค์รัชทายาทไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียว พระองค์พุ่งเข้าขวาง รับธนูอาบพิษแทน เสียงตะโกนด้วยความตระหนก"องค์ชายรัชทายาท!"จินฝานพึ่งมาถึงพอดี รีบเข้ารับร่างองค์ชายที่กำลังทรุดลง"จับพวกมันให้หมด! อย่าให้หนีได้แม้แต่คนเดียว!" เขาสั่งการด้วยเสีย

    Last Updated : 2025-03-07
  • มิติรัก ลากข้ามาเป็นฮองเฮา   16. ช่วยข้าถอนพิษอีกครา

    เรือนพักชุมชนซุ้มกระบี่แสงแรกของวันค่อย ๆ แทรกผ่านแนวไม้สูง ลำแสงสีทองส่องลอดผ่านใบไม้ที่ไหวเอนตามสายลมเอื่อย ทอดตัวเป็นลวดลายระยับบนพื้นดิน อากาศยามเช้าหลังค่ำคืนแห่งสายหมอกเย็นจัดจนเห็นไอขาวบางลอยเหนือพื้นดิน เสียงสายน้ำจากลำธารเล็ก ๆ ที่ไหลอยู่ไม่ไกลสร้างบรรยากาศเช้าตรู่ที่เงียบสงบแต่เปี่ยมด้วยชีวิตชีวาทว่า… ภายในห้องพักอันอบอุ่น มีเพียงเสียงหายใจสม่ำเสมอของสองร่างที่แนบชิดใต้ผ้าห่มหนานุ่มเสียงจินฝาน องครักษ์คนสนิท ดังขึ้นจากหน้าห้อง“ขอประทานอภัย องค์ชายรัชทายาทและพระชายาทรงเป็นอย่างไรบ้าง พ่ะย่ะค่ะ”เสียงทุ้มขององค์ชายตอบรับทันที แม้ยังงัวเงียเล็กน้อย“ข้าและพระชายาสบายดี เจ้าวางเครื่องเสวยไว้ในห้องได้เลย ข้าให้พระชายาพักสักครู่ ขอบใจพวกเจ้ามาก”จินฝานและซีจินสบตากันพร้อมรอยยิ้มก่อนรับคำ“พ่ะย่ะค่ะ”เมื่อเสียงฝีเท้าค่อย ๆ ห่างออกไป ความเงียบก็กลับเข้าปกคลุมห้องอีกครั้งองค์รัชทายาททอดพระเนตรพระชายาผู้ยังคงหลับใหล แก้มเนียนนวลแนบอยู่กับอกของพระองค์ เส้นผมดำขลับสยายเต็มหมอน ลมหายใจอุ่น ๆ ของนางแผ่วเบาบนอกของพระองค์ ความรู้สึกอบอุ่นเอ่อท้นอยู่ในใจองค์รัชทายาทยกมือขึ้น ลูบไล้กล

    Last Updated : 2025-03-07
  • มิติรัก ลากข้ามาเป็นฮองเฮา   17. ความจริงคลี่คลาย และอาหารมื้อพิเศษ

    เสียงคุกเข่ากระทบพื้นดังก้องท่ามกลางบรรยากาศขึงขังแห่งท้องพระโรง"ถวายบังคมฝ่าบาท ขอพระองค์ทรงพระเจริญ!"ฮ่องเต้เพียงยกพระหัตถ์ขึ้นเล็กน้อย ดวงตาทรงอำนาจทอดมองลงมาที่ขุนนางและองค์รัชทายาทที่หมอบอยู่เบื้องล่าง"ไม่ต้องมากพิธี""เรื่องที่ข้าให้สืบเกี่ยวกับการสั่งซื้ออาวุธจำนวนมาก—นอกเหนือจากของราชสำนัก ผลเป็นอย่างไร?"องค์รัชทายาทเงยหน้าขึ้นขึ้น ดวงตาแน่วแน่ก่อนจะกล่าว"ทูลฝ่าบาท กระหม่อมได้สืบเรื่องนี้ด้วยตัวเองที่ชุมชนซุ้มกระบี่ และพบว่าผู้อยู่เบื้องหลังการสั่งซื้อทั้งหมดคือเสนาบดีเฉินหลาง พ่ะย่ะค่ะ เขาแอบอ้างชื่อของมหาเสนาบดีหลินเซียวเพื่อปกปิดร่องรอย"พระองค์ทรงยื่นม้วนฎีกาและหลักฐานทั้งหมดขึ้นถวาย ฮ่องเต้ทอดพระเนตรเพียงครู่เดียว พระองค์ทรงกริ้วมาก"บังอาจนัก! เจ้า…ทำเช่นนี้เพื่อสิ่งใด? เจ้าคิดก่อกบฏรึ?" เสียงฝ่าบาทก้องกังวานกดดันบรรยากาศทั่วท้องพระโรงให้หนักอึ้งเสนาบดีเฉินหลางรีบหมอบกราบจนหน้าผากแนบกับพื้น หยาดเหงื่อเย็นเยียบเกาะตามไรผม"กระหม่อมผิดไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ! กระหม่อมเพียง…ไม่ชอบมหาเสนาบดีหลินเซียว จึงคิดใส่ร้ายเขา!"เสียงซุบซิบของเหล่าขุนนางดังระงม ทว่าทันใดนั้น ขุนนางอาวุโ

    Last Updated : 2025-03-07

Latest chapter

  • มิติรัก ลากข้ามาเป็นฮองเฮา   28. บัลลังก์รัก ฮองเฮาของข้า (จบ)

    พระราชวังประดับประดาด้วยโคมไฟสีแดงงดงามทั่วทุกทิศ เสียงกลองและฆ้องกึกก้องไปทั่วเพื่อเฉลิมฉลองพิธีสำคัญที่สุดของแผ่นดินพิธีราชาภิเษกขององค์รัชทายาท และการแต่งตั้งฮองเฮาณ ท้องพระโรง เหล่าขุนนางต่างคุกเข่าแสดงความเคารพต่อฮ่องเต้องค์ใหม่ เสียงขานถวายพระพรดังกึกก้อง"ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นหมื่นปี!"ฮ่องเต้องค์ก่อนทอดพระเนตรพระโอรสด้วยสายตาภาคภูมิ พระองค์ทรงสละราชบัลลังก์อย่างสง่างามและเต็มไปด้วยความไว้วางใจ"ตั้งแต่นี้ไป เจ้าคือฮ่องเต้ ผู้ครองบัลลังก์แผ่นดินจงหยวน" ฮ่องเต้ตรัสด้วยน้ำเสียงหนักแน่นก่อนส่งมอบตราพระราชลัญจกรให้องค์รัชทายาทในชุดฉลองพระองค์มังกรยืนอย่างสง่างาม รับตราพระราชลัญจกรด้วยความมั่นคงและหนักแน่น "เสด็จพ่อ ข้าจะปกครองแผ่นดินนี้ด้วยสติปัญญาและความยุติธรรม"เสียงโห่ร้องยินดีดังกึกก้องทั่วทั้งพระราชวัง พิธีบรมราชาภิเษกสำเร็จลุล่วงพิธีแต่งตั้งฮองเฮา...หลังจากพิธีบรมราชาภิเษกสำเร็จ พิธีแต่งตั้งฮองเฮาก็เริ่มต้นขึ้น นางในพากันโปรยกลีบดอกโบตั๋นตลอดทางเดิน พระชายาในชุดแต่งงานสีแดงลวดลายปักไหมทอง สง่างามราวเทพธิดา พระนางคุกเข่าต่อหน้าฮ่องเต้"ถวายพระพร ฝ่าบาท" พระนา

  • มิติรัก ลากข้ามาเป็นฮองเฮา   27. สมรสอีกครั้ง (รักฉ่ำ)

    วันมงคล ...ในพระราชวังอันโอฬารถูกประดับประดาด้วยโคมแดงระยับ งานสมรสอันยิ่งใหญ่ถูกจัดขึ้นอย่างสมพระเกียรติ เสียงฆ้องกังวานดังไปทั่วลานพิธี ชวนให้หัวใจทุกคนเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้นองค์รัชทายาทในฉลองพระองค์ชุดแดงเข้มปักลวดลายมังกรยืนตระหง่านอยู่กลางโถง ดวงตาคมกริบทอดมองไปข้างหน้าอย่างแน่นิ่ง ราวกับมิได้มีจิตใจร่วมอยู่ในพิธีการอันศักดิ์สิทธิ์นี้ ทุกย่างก้าวที่พระองค์ยืนอยู่นั้นคือหน้าที่ มิใช่สิ่งที่หัวใจปรารถนาเสียงฝีเท้าแผ่วเบาของเจ้าสาวในฉลองพระองค์แดงสดดังใกล้เข้ามา ผ้าคลุมหน้าปักลวดลายหงส์ทองสะท้อนแสงเทียนไหวระริก ทุกย่างก้าวชวนให้บรรยากาศราวกับต้องมนต์แต่ดวงตาคมขององค์รัชทายาทยังคงเฉยชา แม้ทุกคนรอบกายจะจับจ้องด้วยความคาดหวัง พระองค์มิได้ยินดีกับงานวิวาห์นี้แม้แต่น้อย เพราะในพระทัยยังคงเชื่อว่าพระชายาที่พระมารดาทรงเลือกให้คือ หมิงจิวทว่า...เมื่อสายลมแผ่วเบาพัดผ่าน กลิ่นหอมละมุนจากร่างบางตรงหน้ากลับทำให้พระวรกายชะงักไปชั่วขณะ กลิ่นอันคุ้นเคย...กลิ่นของ พระชายาลี่หรง หญิงเดียวที่พระองค์รักสุดหัวใจ แต่เธอได้จากไปนานแล้ว มิอาจเป็นไปได้ที่เธอจะมายืนอยู่ตรงหน้าเสียงปี่กู่เจิงดังแว่ว

  • มิติรัก ลากข้ามาเป็นฮองเฮา   26. ไม่อาจหวนคืน

    ตำหนักไป๋ฮวา…ในเช้าวันนี้ปกคลุมไปด้วยม่านหมอกแห่งความเศร้า เหล่านางกำนัลและองครักษ์ต่างยืนนิ่ง เสียงสะอื้นเงียบๆ ปะปนไปกับบรรยากาศแห่งความสูญเสีย ตำหนักที่เคยก้องกังวานไปด้วยเสียงหัวเราะของพระชายา บัดนี้กลับเหลือเพียงความเงียบงันและความว่างเปล่าองค์รัชทายาทประทับยืนอยู่ใต้ต้นเหมย น้ำตาที่เขาพยายามกักเก็บกลับเอ่อล้นออกมาอย่างไม่อาจห้ามได้“ซีจิน ขอบใจเจ้ามากที่ดูแลข้าอย่างดี ข้าจะไม่ลืมพวกเจ้าเลย”พระชายาเอ่ยขึ้น เสียงของนางสั่นไหวแต่ยังคงแฝงด้วยความอ่อนโยน ราวกับกำลังพยายามปลอบโยนผู้ที่ยังอยู่ซีจินเม้มปากแน่น พยายามสะกดกลั้นน้ำตา แต่สุดท้ายเขากลับต้องก้มหน้าลง ปล่อยหยาดน้ำตาไหลรินลงสู่พื้นดิน“พระชายา... โปรดดูแลพระองค์ให้ดีเพคะ”ลี่หรงพยักหน้าอย่างอ่อนแรง หันไปหาจางจือ นางมองเพื่อนรักทั้งน้ำตา“จางจือ ข้าฝากร้านกับเจ้า ช่วยซีจินดูแลมันให้ดี ขอโทษที่ไม่ได้อยู่ร่วมยินดีในวันสำคัญของเจ้า”จางจือร้องไห้จนตัวสั่น นางสะอื้นไห้แทบเป็นลม ใบหน้าเต็มไปด้วยความโศกเศร้า“พระชายา... ข้าไม่อยากให้ท่านไป ฮึก... ข้าอยากให้ท่านอยู่กับพวกเราตลอดไป”ลี่หรงแตะไหล่ของจางจือเบาๆ เป็นการปลอบโยนครั้งสุด

  • มิติรัก ลากข้ามาเป็นฮองเฮา   25. หุบเขาแห่งรัก

    ค่ำคืนอันยาวนานผ่านไป พระชายายังคงหมดสติ แม้ได้รับยาถอนพิษแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววจะฟื้น องค์รัชทายาทจับมือพระชายาไว้แน่น ไม่ยอมปล่อยตลอดทั้งคืนจนเผลอหลับไปรุ่งเช้า...เสียงแผ่วเบาของพระชายาที่เพิ่งฟื้นจากพิษดังขึ้นเบาๆ"องค์รัชทายาท... ท่านปลอดภัยดีหรือไม่?"องค์รัชทายาทสะดุ้งตื่น รีบหันไปมองพระชายาด้วยแววตาตื้นตัน"พระชายา! เจ้าได้สติแล้ว ข้าดีใจเหลือเกิน! ข้านึกว่าเจ้าจะไม่กลับมาหาข้าเสียแล้ว"พระชายายิ้มอ่อน แม้ใบหน้าจะยังซีดเซียวเพราะพิษที่เพิ่งถูกขับออกจากร่าง"แล้วทุกคนล่ะ... ปลอดภัยดีหรือไม่?""องค์ชายสี่และทุกคนปลอดภัยดี" องค์รัชทายาทตอบ"ข้าสังหารตงหยางแล้ว จินฝานก็สามารถจับตัวนางกำนัลขององค์ชายสี่ได้ แม่ทัพเหวินจิ้นหงได้ค้นพบอาวุธที่เสนาบดีเฉินหลางลอบสั่งซื้อ ทุกคนสารภาพว่าคิดก่อกบฏและต้องการหนุนให้องค์ชายสี่ขึ้นครองราช ตอนนี้ทั้งหมดถูกจองจำและรอการตัดสินโทษ"พระชายาถอนหายใจยาว รู้สึกเหมือนได้ปลดปล่อย"ในที่สุด ข้าก็สามารถล้างมลทินให้หลินเหม่ยเยียนได้เสียที... ต่อจากนี้ข้าก็สบายใจแล้ว"องค์รัชทายาทบีบมือพระชายาแน่นขึ้น"ใช่ เจ้าทำสำเร็จแล้ว... และจากนี้ไป เราจะได้อยู่ด้วยก

  • มิติรัก ลากข้ามาเป็นฮองเฮา   24. พระชายาถูกพิษ

    ภายในตำหนักหลวง องค์รัชทายาทถวายรายงานต่อฮ่องเต้ด้วยสีหน้าจริงจัง“เสด็จพ่อ พ่ะย่ะค่ะ ข้าให้แม่ทัพเหวินจิ้นหงไปสืบเรื่องของพระชายาซูซินมาแล้ว นางมีบุตรหนึ่งคนชื่อตงฉี แต่ร่างกายของเขาไม่สมประกอบ ขาซ้ายพิการ และพระชายายังมีบุตรอีกคนหนึ่งชื่อตงหยาง เกิดจากทหารชั้นพิเศษ บัดนี้เขาเสียชีวิตไปแล้ว”ฮ่องเต้พยักพระพักตร์ครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตรัสด้วยเสียงแฝงความลึกซึ้ง“สามารถให้คนไปรับเขากลับมาได้หรือไม่? เรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต ควรได้รับการสะสางเสียที”“ได้พ่ะย่ะค่ะ” องค์รัชทายาทตอบรับหนักแน่นฮ่องเต้ทอดพระเนตรองค์รัชทายาทอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตรัสออกมาอย่างอ่อนล้า“ข้าได้หารือกับเสด็จแม่ของเจ้าแล้ว... สุขภาพของข้าไม่ค่อยดีนัก เจ็บออดๆ แอดๆ มาตลอด ข้าอยากสละบัลลังก์ให้เจ้าได้ว่าราชการแทน เพราะข้าเอง... เหนื่อยเต็มทน”ในขณะที่ฮ่องเต้ตรัส นางกำนัลผู้หนึ่งเดินเข้ามาพร้อมของว่างในถาด นางทำทีเป็นรับใช้ แต่แท้จริงแล้วกำลังจับตาดูบทสนทนาอยู่ นางเป็นคนขององค์ชายสี่ องค์รัชทายาทมองดูสีหน้าของนางแล้วจำได้ทันที แต่ทรงแสร้งทำเป็นไม่สนใจเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต“เสด็จพ่อยังทรงแข็งแรงนัก มิจำเป็นต้องรีบแต่

  • มิติรัก ลากข้ามาเป็นฮองเฮา   23. ช่วยชีวิตฮ่องเต้

    ยามเย็น—แสงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า ท้องฟ้าถูกแต้มด้วยสีแดงฉานปะปนม่วงคราม หมู่นกน้อยรีบบินกลับรังในร่มเงาต้นไม้สูงใหญ่ ลมหนาวพัดผ่านพระราชวังอันกว้างใหญ่แต่ทว่าภายในเขตวังหลวงกลับไม่มีความสงบเลยแม้แต่น้อย…ภายในตำหนักหลวง วุ่นวายราวกับรังแตนแตกรัง หมอหลวงในชุดคลุมสีขาวเร่งเดินกันขวักไขว่ เสียงฝีเท้ากระทบพื้นดัง เสียงสั่งการดังขึ้นไม่ขาดระยะ บางคนหอบหิ้วกล่องยา บางคนถือตำราแพทย์พลิกหาวิธีรักษา ข่าวเรื่อง ฮ่องเต้ประชวรหนัก แพร่สะพัดไปทั่วพระราชวังเพียงไม่นาน เสียงขันทีรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาหยุดหน้าพระตำหนักขณะที่รถม้าขององค์รัชทายาทและพระชายาค่อย ๆ ชะลอและจอดเสียงร้องเรียกอย่างร้อนรนก็ดังขึ้นทันที“องค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ! ขอทรงรีบไปเฝ้าฝ่าบาทเถิดพ่ะย่ะค่ะ พระองค์ทรงอาการหนักมากแล้ว!”ขันทีที่วิ่งเข้ามาคุกเข่าลงอย่างลนลาน ใบหน้าซีดเผือดดั่งคนสิ้นหวังองค์รัชทายาทก้าวลงจากรถม้าทันที ดวงตาแข็งกร้าวขึ้นแฝงความกังวล “เสด็จพ่อเป็นอะไร?”“ฝ่าบาททรงหน้ามืด มือสั่น เหงื่อออก ตัวเย็น... และที่สำคัญ ทรงเพ้อไม่รู้เรื่องพ่ะย่ะค่ะ!”หัวใจขององค์รัชทายาทกระตุกวูบ คิ้วเข้มขมวดแน่น มือกำหมัดโดยไม่รู้ตัว

  • มิติรัก ลากข้ามาเป็นฮองเฮา   22. ร้านขายผ้า (ชุดนอนไม่ได้นอน)

    ร้านขายชุดนอนของพระชายากลายเป็นที่กล่าวขวัญทั่ววังหลวง ฮูหยินใหญ่ ฮูหยินเล็ก ตลอดจนเหล่าสตรีสูงศักดิ์ต่างพากันมาเลือกสรรด้วยความตื่นตาตื่นใจผ้าที่นำมาจำหน่ายล้วนเป็นเนื้อแพรบางเบาละเอียดอ่อน เมื่อสัมผัสแล้วให้ความรู้สึกราวกับละอองไหมไหลลื่นผ่านปลายนิ้วชุดนอนไม่ได้นอน ของร้านนี้แตกต่างจากชุดนอนทั่วไป สีสันเย้ายวนสะดุดตา ไม่ว่าจะเป็น สีแดงเข้มเย้ายวน สีดำลึกลับน่าค้นหา หรือ สีชมพูหวานละมุน ทุกชุดล้วนถูกออกแบบให้เผยผิวเนียนนวลอย่างมีชั้นเชิง สายเดี่ยวบางเฉียบเปิดไหล่เนียนนุ่ม ลวดลายลูกไม้ปักละเอียดอ่อนเน้นความหรูหรา มีทั้งแบบเรียบโก้และแบบปักดิ้นทองสำหรับงานค่ำคืนสุดพิเศษพื้นที่ในร้านตกแต่งอย่างประณีต ให้บรรยากาศผ่อนคลายและเป็นกันเอง สตรีทั้งหลายสามารถเลือกซื้อได้อย่างเพลิดเพลิน มีสาวใช้คอยบริการอย่างใกล้ชิด เสิร์ฟน้ำชาหอมกรุ่นพร้อมขนมหวานรสเลิศให้ลิ้มลอง ชุดนอนเหล่านี้แม้ราคาไม่แพง แต่เมื่อต้องตาต้องใจแล้ว กลับกลายเป็นสินค้าที่ทำกำไรได้อย่างมหาศาล“การออกแบบชุดในอนาคตที่เราอยู่กลับกลายเป็นที่นิยมสมัยโบราณ ช่างดีจริงๆ รวยแล้วเรา” ลี่หรงพูดกับตัวเองอย่างสุขใจเสียงล้อรถม้าหรูหราดังขึ

  • มิติรัก ลากข้ามาเป็นฮองเฮา   21. สวนผักของพระชายา

    ยามเช้าอากาศเย็นสบาย ลมอ่อนพัดพากลิ่นดินหอมกรุ่นหลังจากค่ำคืนที่มีน้ำค้างโปรยปราย แสงอาทิตย์สีทองค่อย ๆ ลอดผ่านแนวต้นไม้กระทบกับผืนดินหลังตำหนักที่เคยรกร้าง ทว่าบัดนี้กำลังจะถูกแปรเปลี่ยนเป็นสวนผักที่อุดมสมบูรณ์กลางลานดินที่เพิ่งถูกไถพรวน พระชายาในชุดชาวสวน สีครีมนวลเรียบง่าย ผมยาวรวบขึ้นมัดด้วยผ้าสีอ่อน ใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อจากไอแดด องค์รัชทายาทมองด้วยแววตาหลงใหล ก่อนจะปรายตามองตัวเองที่แต่งกายเช่นเดียวกัน ที่สวมเสื้อชาวสวนสีเข้ม กางเกงผ้าฝ้าย แม้จะแต่งแบบชาวบ้านธรรมดา แต่ความสง่างามยังไม่จางหาย"องค์รัชทายาท ท่านดูดีที่สุดเลยเมื่อแต่งตัวแบบนี้" พระชายาเอ่ยพลางหัวเราะเบา ๆ"พระชายาก็เช่นกัน เจ้าดูน่ารักแปลกตา น่าค้นหาเสียจริง""เลิกชมกันได้แล้ว มาทางนี้เลยองค์รัชทายาท มาขุดดินเตรียมเพาะปลูกเมล็ด"องค์รัชทายาทรีบคว้าจอบขึ้นมา "รับด้วยเกล้าพ่ะย่ะค่ะ พระชายา"จินฝานและซีจิน รวมถึงนางกำนัลและองครักษ์ต่างช่วยกัน ถางหญ้า ปรับหน้าดิน และขุดหลุม เตรียมปลูกพืชพันธุ์ เมล็ดพริก ข้าวโพด มันฝรั่ง และมะเขือเทศถูกนำออกมาจัดเตรียมขณะทุกคนลงมือทำงาน ซีจินเอ่ยถามขึ้นมาพลางหยิบเมล็ดข้าวโพดขึ้นดู"

  • มิติรัก ลากข้ามาเป็นฮองเฮา   20. ยาบำรุงจากฮองเฮา

    ตำหนักไป๋ฮวา...แสงจันทร์อ่อนโยนสาดส่องลอดผ่านม่านโปร่งบาง ๆ ตกกระทบลงบนพื้นไม้ ภายในตำหนักไป๋ฮวา สถานที่ซึ่งเป็นเสมือนรังรักขององค์รัชทายาทและพระชายา บรรยากาศสงบเงียบ ทว่ากลับอบอวลไปด้วยไออุ่นแห่งความรักของทั้งสองพระชายาทอดสายตามองดวงจันทร์ ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเจือรอยยิ้ม"องค์รัชทายาท ข้าได้ซื้อที่สำหรับเปิดร้านขายผ้าเรียบร้อยแล้ว คาดว่าอีกสองสามวันข้าคงได้เปิดร้านและต้องขายดีมากแน่ ๆ"ดวงตาคมลึกขององค์รัชทายาทจับจ้องพระชายาด้วยความเอ็นดู ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ"ชายาของข้า เจ้าไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเลยหรือ? หากข้ายังคงออกรบเช่นเมื่อก่อน ข้าคงไม่ได้รับจดหมายจากเจ้าสักฉบับเป็นแน่ เพราะเจ้ามัวแต่ขยันทำงานแทบจะลืมข้าแล้ว"พระชายาหัวเราะเบา ๆ"โธ่... ข้ามาอยู่ที่นี่ทั้งที ข้าย่อมต้องทำงาน เพราะในที่ที่ข้ามา ข้าก็ทำงานทุกวันอยู่แล้ว"องค์รัชทายาทขยับเข้ามาใกล้ ดวงตาฉายแววสนใจ"เจ้าเล่าให้ข้าฟังได้หรือไม่ ที่ที่เจ้าจากมานั้นเป็นเช่นไร? ข้าอยากรู้"พระชายายิ้มบาง ๆ พลางทอดสายตาไปยังเบื้องนอก คล้ายหวนนึกถึงอดีต"ได้สิ ข้าเรียกที่แห่งนั้นว่า ‘ฮ่องกง’ ... ที่นั่นเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status