ตอนที่ 5
เผชิญหน้า
อเรนโซเดินทางไปหาขวัญข้าวที่บ้านของเธอทันทีที่ถึงเมืองไทยเพราะตอนนี้เวลาที่เขาเหลืออยู่มีไม่มาก
ขวัญข้าวเตรียมทุกอย่างให้กับตัวเธอและเด็ก ๆ ทั้งสองเพื่อพร้อมต่อการเดินทางแต่สิ่งที่ทำให้ทั้งขวัญข้าวและอเรนโซถึงกลับตกใจก็คือภาพของชัยชาญที่เดินลงจากบ้านมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่
“คุณพ่อคะ คือ...คุณพ่อจะไปกับข้าวและเด็กหรือคะ”
หญิงสาวถามด้วยความตกใจเพราะเธอกับบิดาคุยเรื่องนี้กันเกือบ ทั้งคืนแต่ชัยชาญไม่ยอมบอกเธอเลยว่าจะตามไปที่อิตาลีด้วย
“ใช่ มีปัญหาอะไรกันไหม”
อเรนโซรีบยืนยกมือไหว้ตามมารยาทของคนไทยเพราะตั้งแต่เขามาถึงเขายังไม่ได้เจอพ่อของขวัญข้าวเลยและจริง ๆ แล้วชายหนุ่มเคยเจอ ชัยชาญแค่เพียงช่วงงานศพของเบญญาเท่านั้น
“ผมไม่มีปัญหาครับและยินดีที่คุณพ่อจะเดินทางไปกลับพวกเรา”
การเดินทางครั้งนี้ไม่ได้มีแค่ชัยชาญ ขวัญข้าว อเรนโซและเด็ก ๆแต่ชัยชาญได้เอาคนของเขาไปด้วยหลายคนทั้งที่ไปแบบเปิดตัวและติดตามไปโดยที่อเรนโซไม่รู้ตัวเพราะสำหรับนักธุรกิจที่อายุมากและมากประสบการณ์อย่างชัยชาญเขารู้ดีว่าที่ที่เขาและครอบครัวกำลังจะไปอันตรายรอบด้าน
ชัยชาญยอมให้ลูกสาวไปเสี่ยงอันตรายในครั้งนี้เพราะเขารักเด็ก ๆ ทั้งสองคนเหมือนหลานแท้ ๆ ตั้งแต่เบญญายังมีชีวิตอยู่ เธอเปรียบเสมือนเป็นลูกสาวอีกคนของบ้านนี้เพราะตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยจนถึงวันที่เพชรลืมตาดูโลกเบญญาก็ไม่มีใครนอกจากชัยชาญและขวัญข้าว
“ผมมีเรื่องต้องคุยกับคุณมากมายนะอเรนโซแต่มันคงไม่ใช่ในเวลานี้ จำไว้ทุกคนช่วยดูแลคนที่คุณรักมาตลอดนับจากนี้ไปคุณคงต้องแสดงให้ลูก ๆ ของคุณได้เห็นว่าคนที่เป็นพ่อที่ดีต้องทำอย่างไรและเรื่องนี้จะเป็นเรื่องสุดท้ายที่ผมและขวัญข้าวจะช่วยคุณ ถ้านับจากนี้ยังไม่มีอะไรที่ทำให้ผมมั่นใจว่าคุณจะเป็นพ่อที่ดีได้ ผมจะดูแลหลาน ๆ ทั้งสองคนเอง”
อเรนโซนั่งลงคุกเข่ากับพื้นและก้มกราบลงไปที่เท้าของ ชัยชาญเพราะชายหนุ่มรับรู้จากเบญญาก่อนที่เธอจะจากไปว่า ชัยชาญมีพระคุณต่อเบญและลูก ๆ มากมายขนาดไหน
“ผมสัญญาผมจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเพื่อลูก ๆของผมแม้ว่าสุดท้ายผมอาจจะไม่เหลืออะไรก็ตาม”
ขวัญข้าวและชายหนุ่มจดทะเบียนสมรสกันก่อนที่จะถึงเวลาเดินทางมาที่อิตาลีเพื่อให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
เพชรและทับทิมไม่ยอมห่างจากคุณแม่ขวัญข้าวเพราะเด็ก น้อยทั้งสองคนยังไม่คุ้นเคยกับอเรนโซโดยเฉพาะทับทิม เธอไม่ยอมให้พ่ออุ้มเอาแต่ร้องไห้ไม่ยอมห่างจากขวัญข้าวและชัยชาญ
“ให้เวลาเด็ก ๆ ก่อนนะคะ อย่างไรคุณเป็นพ่อเลือดข้นกว่าน้ำเสมอเชื่อฉันนะ”
หญิงสาวจับมือชายหนุ่มระหว่างที่กำลังเดินไปขึ้นรถของครอบครัวอเรนโซที่มารับที่สนามบินเพื่อไปยังคฤหาสน์สุดหรูราคาเหยียบร้อยล้าน
“ขอบคุณนะที่คุณคอยอยู่ข้าง ๆ เบญญามาตลอดและวันนี้คุณกับคุณพ่อยังต้องมาคอยช่วยเหลือผมและลูก ๆ ต่ออีก ผมเป็นหนี้บุญคุณครอบครัวคุณจริง ๆ ”
ขวัญข้าวได้แต่ส่งยิ้มกลับไปเพราะลึก ๆ ในหัวใจเธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเธอถึงได้ยอมช่วยเหลืออเรนโซถึงขนาดยอมจดทะเบียนสมรสด้วยแต่เธอก็คิดว่ามันคงเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้เด็ก ๆทั้งสองคนที่เธอเลี้ยงมาตั้งแต่เกิดและรักเหมือนลูกแท้ ๆ ปลอดภัยและได้อยู่กับพ่อแท้ ๆ เพราะชีวิตของเบญญาก็ไม่มีทั้งพ่อทั้งแม่ ขวัญข้าวไม่อยากให้เพชรกับทับทิมต้องมีชีวิตเหมือนกับแม่ของตัวเอง
มาร์โกและอมรานั่งรอการมาของแขกจากเมืองไทยด้วยความรู้สึกที่ต่างกัน คนเป็นปู่อยากเห็นหน้าหลาน ๆ ที่เป็นสายเลือดของตัวเองแต่คนเป็นย่ากลับกำลังเฝ้ารอที่จะกำจัดลูกสะใภ้ที่ ไม่ต้องการออกไปให้พ้นทางที่เธอตั้งใจขีดไว้ให้ลูกชายเดินให้ได้
ชัยชาญและมาร์โกมีอายุที่ใกล้เคียงกันและด้วยความที่เป็นนักธุรกิจเหมือนกันจึงมีเรื่องให้คุยกันถูกคอแต่บทสนทนาที่กำลังจะไปด้วยดีต้องมาสะดุดเมื่ออมราต้องการมีบทบาทขึ้นมา
“เธอชื่อขวัญข้าวใช่ไหม หน้าตาก็ดี ฐานะก็ใช้ได้ถ้าเทียบกับเศรษฐีเมืองไทยแต่ถ้าจะให้เทียบกับคนที่นี่ก็คงไม่ต้องให้พูดนะว่าฐานะอย่างครอบครัวเธอมันก็แค่พออยู่พอกินเท่านั้น ฉันถามเธอจริง ๆ นะทำไมใจง่ายยอมเป็นเมียลูกชายฉันจนมีลูกสองคนทั้งที่ไม่ได้รู้จักพ่อกับแม่ของเขาเลย หรือว่าเธอเป็นคนง่าย ๆ แบบนี้อยู่แล้วแค่บังเอิญท้องก็เลยต้องจับอเรนโซ”
อมราส่งยิ้มอย่างสะใจมองหน้าทั้งขวัญข้าวและชัยชายโดยที่ไม่ได้คิดสักนิดว่าทุกคำพูดของเธอเพชรและทับทิมก็อยู่ตรงนั้นด้วยและเด็กทั้งสองคนก็คือสายเลือดของเธอเอง
ขวัญข้าวคิดและเตรียมตัวมาอยู่แล้วว่าเธอต้องเจออะไรแบบนี้คำพูดของอมราจึงทำอะไรเธอไม่ได้เพราะตัวเธอเองก็รู้ดีว่าเธอไม่ได้ใจง่ายเหมือนอย่างที่มารดาของสามีกำมะลอของเธอกล่าวหาแต่เธอมาครั้งนี้เพื่อปกป้องเด็ก ๆ เท่านั้น
“ข้าวเคยเรียนจิตวิทยามาเขาบอกว่าคนเรามักคิดและพูดอะไรจากประสบการณ์ที่ตัวเองเคยพบเจอมา คุณแม่คงเคยเจอแต่ผู้หญิงที่ใจง่ายและเป็นอย่างที่คุณแม่พูดถึงคิดว่าข้าวต้องเป็นแบบนั้นแต่สำหรับข้าวและครอบครัวประสบการณ์ชีวิตของเราเจอแต่ความรักความอบอุ่นของครอบครัวเราเลยไม่เคยมองว่าการที่ผู้หญิงและผู้ชายที่รักกันจะอยู่ด้วยกันจนมีลูกเป็นเรื่องของความใจง่ายแต่เรามองเป็นเรื่องของความรัก ข้าวกับลูกชายคุณแม่เรารักกันค่ะและข้าวคิดว่าอเรนโซไม่สามารถที่จะรักคนอื่นได้อีกแล้วเพราะตอนนี้เขามีแต่ตัวส่วนหัวใจของเขาอยู่กับข้าวและลูก ๆ ”
อมราแทบจะเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ เธอลุกยืนกำมือแน่นแต่ต้องเปลี่ยนใจนั่งลงเมื่อเห็นสายตาของสามีที่มองมาที่เธอแบบตำหนิ
ชัยชาญเจ็บแสบกับคำพูดของอมราแต่ด้วยนิสัยที่สุขุมและใจเย็นเขาจึงเก็บอารมณ์ได้ดีและยังคงส่งยิ้มอย่างไร้ความรู้สึกให้กับผู้หญิงตรงหน้าที่กำลังมองลูกสาวเขาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“คุณมาร์โกและคุณอมราไม่ต้องเป็นกังวลนะครับที่ครอบครัวเรามาในวันนี้ไม่ได้มาแสดงตัวเพื่อต้องการ ความรับผิดชอบจากครอบครัวของคุณแต่เรามาเพื่อให้พวกคุณได้มีโอกาสทำหน้าที่ของปู่กับย่าตามแต่ที่พวกคุณคิดว่าเหมาะสม เราอยู่ที่นี่ไม่นานก็จะกลับเมืองไทยเพราะที่นั่นเรามีธุรกิจที่ใสสะอาดทำอยู่ถึงแม้มันจะสร้างกำไรไม่ได้มากแต่มันก็สร้างความสุขให้กับครอบครัวของเราเพราะเรายืนอยู่บนความถูกต้องไม่ได้ทำธุรกิจอยู่บนความหวาดกลัว”
อเรนโซมองดูสถานการณ์แล้วว่าถ้าขืนยังให้ทุกคนได้นั่งคุยกันต่อไปมีหวังมารดาของเขาคงต้องแสดงอะไรที่เสียมารยาทออกมามากกว่านี้แน่ ๆ
“ไว้อาหารมื้อเย็นเราค่อยคุยกันก็แล้วกันนะครับ ผมขอตัวพาทุกคนไปพักผ่อนก่อน ลูก ๆ ของผมก็คงง่วงกันแล้ว ขอตัวนะครับ”
มาร์โกลุกจากโซฟาเดินมาหาหลานชายที่ตอนนี้กำลังจูงมือของชัยชาญอยู่และมองทุกคนรอบตัวด้วยสายตาที่เหมือนกำลังหวาดกลัว
“มาหาปู่สิลูก”
คนเป็นปู่ส่งมือให้หลานแต่เพชรกลับรีบเดินไปเกาะขาของชัยชาญและไม่ยอมแม้แต่จะสบตามาร์โก
“จริงอย่างที่คุณพูด ผมควรต้องได้ทำหน้าที่ของปู่บ้าง”
คนพูดมองหน้าชัยชาญด้วยสายตาที่เศร้าและผิดหวังกับตัวเอง การแสดงของเด็กมันไม่มีการเสแสร้ง มาร์โกกลายเป็นคุณปู่ที่หลานไม่กล้าแม้แต่จะให้โดนตัว
“ให้เวลาเด็ก ๆหน่อย ถ้าคุณรักพวกเขาจากหัวใจสักวันหลาน ๆ ของคุณก็จะสัมผัสมันได้”
ชัยชาญอุ้มเพชรขึ้นมาและเดินเข้าไปใกล้กับมาร์โกตบไหล่แสดงความรู้สึกเข้าใจก่อนที่ทุกคนจะพากันเดินตาอเรนโซไปยังพื้นที่ส่วนตัวของเขาเพราะคฤหาสน์หลังนี้ใหญ่มากจนทุกคนในบ้านต่างมีมุมส่วนตัวเหมือนมีบ้านหลังใหญ่สิบหลังมารวมกันเป็นคฤหาสน์หลังเดียว
ทุกคนเดินออกจากห้องรับแขกไปแล้วแต่อมรายังคงนั่งนิ่งกำมือแน่นด้วยความแค้นที่สุมอกเพราะเธอทั้งผิดหวังกับลูกชายและกำลังกลัวกับสิ่งที่จะเกิดตามมาถ้าเธอไม่สามารถทำให้ลอร่าได้แต่งงานกับลูกชายของเธอ
ตอนที่ 6เมื่อแผนเริ่มต้น “ขวัญข้าวผมขอโทษแทนคุณแม่ด้วยนะที่ท่านพูดแบบนั้นกับคุณ” อเรนโซเดินเข้ามาจับมือของหญิงสาวที่กำลังเดินเข้ามายังห้องนอนของเขาเพื่อความสมจริงในบทสามีภรรยา “อเรนโซคุณทำได้มากกว่าพูดคำว่าขอโทษแบบนี้ ฉันเชื่อว่าเบญก็คงรอว่าสักวันคุณจะทำทุกอย่างในฐานะของพ่อได้ดีกว่าที่ผ่านมา วันนี้มันเพิ่งเริ่มต้นแต่จำไว้ฉันมีเวลาเล่นละครกับคุณได้ไม่นานเพราะชีวิตของฉันยังมีอีกหลายชีวิตที่ต้องดูแลถ้าคุณยังทำทุกอย่างให้ดีกว่านี้ไม่ได้ ฉันจะเอาเด็ก ๆกลับไปเมืองไทยและคุณก็ต้องลืมให้ได้ว่าทั้งเพชรและทับทิมคือลูกของคุณ” คืนแรกของการมาอยู่ที่อิตาลีของขวัญข้าว เธอสัมผัสได้ถึงความกดดันและไร้ความสุขของชายหนุ่มที่ภายนอกดูเป็นมาเฟียที่น่าเกรงขามแต่ยามอยู่ต่อหน้ามารดาเขากลายเป็นเพียงลูกชายที่ไม่รู้จักโต เพชรได้นอนกับพ่อคืนนี้เป็นคืนแรกหลังจากที่แม่ของเด็กน้อยจากไป “คุณพ่อครับที่นี่บ้านใคร” เด็กชายตัวน้อยที่หน้าตาถอดมาจากผู้เป็นย่าจนแทบจะไม่ต้องมีใครบอกก็รู้ได้ทันทีว่าเด็กน้อยเป็นหลานของย่าอมราที่แสนจะมีหัวใจที่ไร้ความเมตตาในตัวสายเลือ
ตอนที่ 7เด็ดขาด ขวัญข้าวเธอเรียนยิงปืนได้รวดเร็วมากทั้งที่ไม่เคยมีพื้นฐานมาเลยตอนนี้เธอก็เรียนการต่อสู้แบบตัวต่อตัวเพื่อใช้ในการป้องกันตัวในยามที่ไม่มีอาวุธทุกอย่างต้องรีบทำเพราะอีกสองวันชัยชาญก็จะเดินทางกลับเมืองไทยแต่ลูกน้องทุกคนของเขายังคงอยู่ที่นี่ต่อ ทั้งแบบที่มาแบบเปิดเผยตัวและไม่เปิดเผยตัวด้วยเพราะความเป็นพ่อชัยชาญไม่ไว้ใจว่าอเรนโซจะสามารถดูแลปกป้องลูกสาวเขาและเด็ก ๆ ได้ เขาจึงเลือกที่จะทิ้งคนของเขาไว้ที่นี่เพื่อความอุ่นใจ ลอร่ารับรู้เรื่องราวการมาของขวัญข้าวและลูก ๆ ตั้งแต่วันแรกที่ทุกคนเหยียบแผ่นดินอิตาลีแต่เธอคิดว่าการที่เธอไม่แสดงตัวน่าจะทำให้อมรารู้สึกกดดันมากกว่าและเธอแค่คอยมองดู อยู่ห่าง ๆ จนกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยแต่ถ้าทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่เธอคิด เธอก็จะเดินหน้าประกาศสงครามทันที “ลอร่าทำไมหนูไม่มาดูหน้าแม่สาวไทยใจง่ายหน่อยล่ะลูก” อมรากรอกเสียงตามสายไปหาลูกสะใภ้ที่เธออยากได้เพราะคิดว่าถ้าลอร่ามาปรากฎตัวอาจจะทำให้อเรนโซและขวัญข้าวมีปัญหาทะเลาะกันและจะง่ายต่อการแยกทั้งคู่ออกจากกัน “ลอร่าไม่ไปหรอกค่
ตอนที่ 8จากคนเพิ่งรู้จัก อเรนโซพกลูก ๆ และขวัญข้าวไปทุกที่ที่เขาต้องไปทำงานเพราะเขาไม่เชื่อใจใครทั้งนั้นในตอนนี้ งานที่เขาทำค้างไว้ต้องรีบทำให้เสร็จตามเวลาที่ชัยชาญได้ยื่นคำขาดไว้ก่อนจะกลับเมืองไทย “ฉันขอไปเดินเล่นข้างนอกบ้างได้ไหมตอนนี้ลูก ๆ หลับหมดแล้วไปแค่ใกล้ ๆ นี่แหละ ฉันสัญญาจะรีบกลับมาก่อนลูก ๆ ตื่นแน่นอน” ขวัญข้าวตั้งแต่เธอเดินทางมาที่อิตาลีเธอยังไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลยเพราะอเรนโซไม่ยอมให้เธอกับลูก ๆ ห่างกายและตัวเขาเองก็ไม่มีเวลามากพอที่จะพาเธอไปเที่ยวชมเมือง หญิงสาวจึงคิดว่า ไหน ๆ วันนี้เด็ก ๆ ก็นอนกลางวันกันหมดแล้ว เธอมองออกไปนอกหน้าต่างของบริษัทอยู่บ่อย ๆ จึงรู้ว่าด้านนอกของที่นี่ก็มีมุมให้ถ่ายรูปสวย ๆ มากมาย “มันอันตรายนะ คุณยังไม่รู้จักที่นี่มากพอรอผมว่างก่อนได้ไหมก่อนกลับไปเมืองไทยผมสัญญาจะพาคุณกับลูกไปเที่ยวแน่นอน” มาเฟียคนพื้นที่รู้ดีว่าที่นี่กฎหมายไม่ได้ป้องกันอันตรายได้จริงและสังคมของที่นี่ไม่ได้สวยงามเหมือนในสารคดีท่องเที่ยวที่คนทั่วไปเห็น เขาจึงเป็นห่วงและไม่อยากให้ภรรยาในนามอยู่ไกลจากตัวเขา “คุณส่งคนของคุณคอยต
ตอนที่ 9แลกด้วยชีวิตก็ยอม ลอร่าจับตัวขวัญข้าวไปที่ซ่องของเธอเพราะที่นั่นจะทำให้ผู้หญิงที่มาแย่งชายอันเป็นที่รักของเธอต้องตกนรกทั้งเป็น ซ่องไม่ใช่สิ่งที่ถูกกฎหมายของที่นี่แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมายที่ทางการสนใจขอเพียงแค่มีเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้และไม่สร้างปัญหาให้กับทางการต้องเดือดร้อนก็พอ “เธอเป็นใครแล้วที่นี่ที่ไหน” ขวัญข้าวเธอถามออกไปเป็นภาษาอังกฤษเพราะเธอพูดภาษาอิตาลีไม่ได้ “ฉันชื่อลอร่า เธอคงเคยได้ยินชื่อฉันแล้ว ในเมื่อรู้ว่าฉันเป็นใครคงไม่จำเป็นต้องอธิบายว่าเพราะอะไรฉันถึงต้องพาเธอมาที่ซ่องนี้” “ซ่อง ! ” ขวัญข้าวจากที่รู้สึกกลัวอยู่แล้วตอนนี้เธอยิ่งรู้สึกกลัวมากกว่าเดิมเมื่อรู้ว่าที่เธออยู่ตอนนี้คือซ่องและมันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ถ้าเธอยังหนีจากที่นี่ไปไม่ได้ “คุณปล่อยฉันไปเถอะเพราะถึงไม่มีฉันอเรนโซก็ไม่แต่งงานกับคุณเพราะเขารักคุณเหมือนน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น คุณต้องเชื่อฉันนะ” หญิงสาวที่กำลังตัวสั่นด้วยความกลัวพยายามพูดอ้อนวอนแต่มันกลับทำให้อีกฝ่ายรู้สึกโกรธมากขึ้น ลอร่ามองหน้าภรรยาของชายอันเป็
ตอนที่ 10เราเป็นหนี้ชีวิตของกันและกัน พายุฝนที่แสนน่ากลัวได้ผ่านพ้นไปแล้ว ชัยชาญเดินทางมาจากเมืองไทยอย่างเร็วที่สุดเพื่อมาดูแลลูกสาวที่ถูกยิง ขวัญข้าวคือคนที่มีอาการบาดเจ็บน้อยที่สุดเธอถูกยิงแค่เพียงถาก ๆ เท่านั้น แต่คนที่น่าเป็นห่วงที่สุดคืออเรนโซเพราะจุดที่ เขาถูกลอร่ายิงคือบริเวณที่ใกล้กับปอดมากที่สุดและตอนนี้ผ่านมาสองวันแล้วเขาก็ยังไม่รู้สึกตัว “กลับเมืองไทยเลยไหม” ชัยชาญกอดลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาเพื่อปลอบขวัญเพราะตั้งแต่เด็กจนโตเขาไม่เคยให้ขวัญข้าวต้องเจอกับเรื่องราวแบบนี้ส่วนตัวเขาก็เคยมีบ้างสมัยที่เริ่มทำธุรกิจใหม่ ๆ แต่มันก็ไม่ได้ดุเดือดป่าเถื่อนเหมือนที่เมืองนี้ อาจเป็นเพราะว่ากฎหมายที่นี่กับไทยต่างกัน “คุณพ่อพาเด็ก ๆ กลับเมืองไทยไปก่อนนะคะ ลูกทิ้ง อเรนโซไปตอนนี้ไม่ได้จริง ๆ ถ้าไม่มีเขามาบังกระสุนให้ป่านนี้คนที่นอนอยู่บนเตียงคงจะเป็นลูกแทน” ชัยชาญไม่ท้วงไม่ห้ามเพราะเข้าใจดีว่าตอนนี้ขวัญข้าวกำลังรู้สึกอะไร เขาเห็นแววตาของความรักความเป็นห่วงอยู่ในนั้นและเขาก็แน่ในว่าถ้าอเรนโซไม่ได้รู
ตอนที่1เปิดพินัยกรรม อิศราชายหนุ่มผู้มีนิสัยนักเลงปากไวไม่เคยยอมใคร โดยเฉพาะกับรตีแม่เลี้ยงของเขา และนี่ก็คือสาเหตุที่คงศักดิ์ ผู้เป็นบิดาต้องส่งให้ไปเรียนมหาวิทยาลัยที่ต่างประเทศ เพื่อสร้างควาสงบสุขให้กับทุกคนในบ้าน คงศักดิ์ตามตัวลูกชายให้กลับมาเมืองไทยแบบเร่งด่วน โดยให้เหตุผลว่าถ้าเขาไม่ยอมกลับมา มรดกทั้งหมดจะยกให้แม่เลี้ยงให้หมด “พ่อให้ผมกลับมาเพื่อมาฟังการอ่านพินัยกรรมทันที โดยที่ไม่คิดว่าผมควรจะพักก่อนบ้างเลยเหรอ” ชายหนุ่มโวยวายเสียงดัง เมื่อมาถึงบ้านก็ถูกพามาที่ห้องทำงานของบิดาเพื่อรอฟังการอ่านพินัยกรรมทันที “ถ้าแกไม่อยากฟังก็ไม่ต้องฟัง แล้วอย่ามาโวยวายทีหลังแล้วกัน” คนเป็นพ่อใช้ไม้แข็ง “รีบอ่านเลยคุณทนาย ผมจะได้รีบไปนอน” ทุกคนในห้องที่มีส่วนในพินัยกรรมต่างพากัน ถอนหายใจ ให้กับนิสัยของอิศราที่ไม่ว่ากี่ปีก็ไม่เคยเปลี่ยนไป เมื่อทุกคนมาอยู่พร้อมหน้ากันแล้ว ทนายความจึงเริ่มอ่านพินัยกรรมทันที “ที่ดินที่จังหวัดเชียงใหม่ข้าพเจ้านายคงศักดิ์ขอยกให้กับนายอิศรา บ้านและที่ดินที่เหลื
ตอนที่2เมียไม่ทันตั้งตัว อิศราคิดว่าวิธีการที่จะทำให้งานแต่งไม่ต้องเกิดขึ้น คือการบีบให้ชมเพลินยอมคืนสมบัติให้เขาโดยที่ไม่มีงานแต่งงาน ชายหนุ่มจึงเริ่มแผนการโดยการพูดจาดูถูกเหยียดหยามเธอให้เจ็บแสบที่สุด “สวัสดีครับ...เศรษฐีใหม่ ผมอิจฉาคุณลูกติดจริง ๆ ที่อยู่ดี ๆ ก็ส้มหล่นได้สมบัติก้อนใหญ่” ชมเพลินไม่โต้ตอบ พยายามเดินก้มหน้าเพื่อที่จะเดินขึ้นไปบนห้องนอนเพราะไม่อยากทนฟังคำพูดแบบนี้ “ยังไม่ทันจะโอนสมบัติเลย ก็หยิ่งไม่พูดกับคนจนอย่างผมเสียแล้ว หรือที่แท้คุณหนูชมเพลินอยากได้ผมเป็นสามีจนตัวสั่น เอะ! ผมเรียก ถูกใช่ไหม กลัวเรียกผิดไปจะโดนคุณหนูไล่ออกจากบ้าน” หญิงสาวที่กำลังเดินนำหน้าชายหนุ่มขึ้นบันได หันมาสบตาเขาด้วยแววตาที่แสดงถึงความผิดหวัง ถอนหายใจเฮือกใหญ่และรีบสาวเท้าต่อเพื่อเข้าห้องนอนให้เร็วที่สุด “ชมเพลินคุณจะมามองผมด้วยสายตาแบบนี้ไม่ได้นะ” เมื่ออิศราอ่านสายตาของอีกฝ่ายออกเขายิ่งรู้สึกแย่ลงไปกว่าเดิม จึงพยายามเดินให้ทันและเอื้อมมือหวังจะคว้าแขนเล็กของชมเพลินไว้ แต่ไม่ทันเพราะเธอเดินเข้าห้องและปิดประตูไปเสียก่อน “
ตอนที่3ความลับที่ไม่ลับ อิศราตื่นขึ้นมาและพบว่าตัวเองนอนอยู่ที่นอนเพียงคนเดียว ชายหนุ่มรู้สึกใจหาย ลึก ๆ เขาแอบกลัวว่าการที่เขาทำแบบนี้จะเสียเธอไปตลอดกาล เช้านี้ทุกคนพร้อมหน้ากันที่โต๊ะอาหาร ชายหนุ่มไปถึงเป็นคนสุดท้าย สายตาของบิดาที่มองมาทำให้อิศราเริ่มไม่แน่ใจ ว่าพ่อของเขารู้เรื่องเมื่อคืนนี้หรือยัง “วันนี้หลังจากที่กินมื้อเช้าเสร็จ พ่อของคุยกับลูกๆ ทุกคนและก็รตีด้วย” คำพูดของคงศักดิ์ทำเอาอิศรารีบหันไปมองหน้าชมเพลินแต่เธอกลับกำลังก้มหน้าเหมือนที่เธอชอบทำทุกครั้งเวลาที่ถูกเขามอง สำหรับชายหนุ่มแล้ว มื้อนี้เป็นมื้อที่กินข้าวได้ฝืดคอที่สุด เขาไม่รู้เหมือนกันว่าความจริงแล้ว เขาอยากให้บิดารู้เรื่องนี้หรือไม่ “ทุกคนคงพร้อมที่ฟังพ่อพูดแล้ว เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นอิศราจะให้พ่อถามไหม” ทั้งคนถูกเรียกชื่อและชมเพลินสะดุ้งสุดตัวหันมามองหน้ากันด้วยความตกใจ “เมื่อคืนไม่มีอะไรค่ะ” จากสาวน้อยที่ไม่ค่อยพูด อยู่ดี ๆ ชมเพลินก็พูดในสิ่งที่ไม่ได้มีใครถามเธอ “พ่อว่าพ่อไม่ได้เอ่ยชื่อเรานะ”คงศักดิ์ไม่ต้องการฟังทุกอย่างจาก