Share

เผชิญหน้า

ตอนที่ 5

เผชิญหน้า

          อเรนโซเดินทางไปหาขวัญข้าวที่บ้านของเธอทันทีที่ถึงเมืองไทยเพราะตอนนี้เวลาที่เขาเหลืออยู่มีไม่มาก

         ขวัญข้าวเตรียมทุกอย่างให้กับตัวเธอและเด็ก ๆ ทั้งสองเพื่อพร้อมต่อการเดินทางแต่สิ่งที่ทำให้ทั้งขวัญข้าวและอเรนโซถึงกลับตกใจก็คือภาพของชัยชาญที่เดินลงจากบ้านมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่

         “คุณพ่อคะ คือ...คุณพ่อจะไปกับข้าวและเด็กหรือคะ”

         หญิงสาวถามด้วยความตกใจเพราะเธอกับบิดาคุยเรื่องนี้กันเกือบ    ทั้งคืนแต่ชัยชาญไม่ยอมบอกเธอเลยว่าจะตามไปที่อิตาลีด้วย

         “ใช่ มีปัญหาอะไรกันไหม”

         อเรนโซรีบยืนยกมือไหว้ตามมารยาทของคนไทยเพราะตั้งแต่เขามาถึงเขายังไม่ได้เจอพ่อของขวัญข้าวเลยและจริง ๆ แล้วชายหนุ่มเคยเจอ    ชัยชาญแค่เพียงช่วงงานศพของเบญญาเท่านั้น

         “ผมไม่มีปัญหาครับและยินดีที่คุณพ่อจะเดินทางไปกลับพวกเรา”

         การเดินทางครั้งนี้ไม่ได้มีแค่ชัยชาญ ขวัญข้าว อเรนโซและเด็ก ๆแต่ชัยชาญได้เอาคนของเขาไปด้วยหลายคนทั้งที่ไปแบบเปิดตัวและติดตามไปโดยที่อเรนโซไม่รู้ตัวเพราะสำหรับนักธุรกิจที่อายุมากและมากประสบการณ์อย่างชัยชาญเขารู้ดีว่าที่ที่เขาและครอบครัวกำลังจะไปอันตรายรอบด้าน

         ชัยชาญยอมให้ลูกสาวไปเสี่ยงอันตรายในครั้งนี้เพราะเขารักเด็ก ๆ ทั้งสองคนเหมือนหลานแท้ ๆ ตั้งแต่เบญญายังมีชีวิตอยู่           เธอเปรียบเสมือนเป็นลูกสาวอีกคนของบ้านนี้เพราะตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยจนถึงวันที่เพชรลืมตาดูโลกเบญญาก็ไม่มีใครนอกจากชัยชาญและขวัญข้าว

         “ผมมีเรื่องต้องคุยกับคุณมากมายนะอเรนโซแต่มันคงไม่ใช่ในเวลานี้ จำไว้ทุกคนช่วยดูแลคนที่คุณรักมาตลอดนับจากนี้ไปคุณคงต้องแสดงให้ลูก ๆ ของคุณได้เห็นว่าคนที่เป็นพ่อที่ดีต้องทำอย่างไรและเรื่องนี้จะเป็นเรื่องสุดท้ายที่ผมและขวัญข้าวจะช่วยคุณ ถ้านับจากนี้ยังไม่มีอะไรที่ทำให้ผมมั่นใจว่าคุณจะเป็นพ่อที่ดีได้            ผมจะดูแลหลาน ๆ ทั้งสองคนเอง”

         อเรนโซนั่งลงคุกเข่ากับพื้นและก้มกราบลงไปที่เท้าของ               ชัยชาญเพราะชายหนุ่มรับรู้จากเบญญาก่อนที่เธอจะจากไปว่า             ชัยชาญมีพระคุณต่อเบญและลูก ๆ มากมายขนาดไหน

         “ผมสัญญาผมจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเพื่อลูก ๆของผมแม้ว่าสุดท้ายผมอาจจะไม่เหลืออะไรก็ตาม”

         ขวัญข้าวและชายหนุ่มจดทะเบียนสมรสกันก่อนที่จะถึงเวลาเดินทางมาที่อิตาลีเพื่อให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด

         เพชรและทับทิมไม่ยอมห่างจากคุณแม่ขวัญข้าวเพราะเด็ก น้อยทั้งสองคนยังไม่คุ้นเคยกับอเรนโซโดยเฉพาะทับทิม เธอไม่ยอมให้พ่ออุ้มเอาแต่ร้องไห้ไม่ยอมห่างจากขวัญข้าวและชัยชาญ

         “ให้เวลาเด็ก ๆ ก่อนนะคะ อย่างไรคุณเป็นพ่อเลือดข้นกว่าน้ำเสมอเชื่อฉันนะ”

         หญิงสาวจับมือชายหนุ่มระหว่างที่กำลังเดินไปขึ้นรถของครอบครัวอเรนโซที่มารับที่สนามบินเพื่อไปยังคฤหาสน์สุดหรูราคาเหยียบร้อยล้าน

         “ขอบคุณนะที่คุณคอยอยู่ข้าง ๆ เบญญามาตลอดและวันนี้คุณกับคุณพ่อยังต้องมาคอยช่วยเหลือผมและลูก ๆ ต่ออีก ผมเป็นหนี้บุญคุณครอบครัวคุณจริง ๆ ”

         ขวัญข้าวได้แต่ส่งยิ้มกลับไปเพราะลึก ๆ ในหัวใจเธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเธอถึงได้ยอมช่วยเหลืออเรนโซถึงขนาดยอมจดทะเบียนสมรสด้วยแต่เธอก็คิดว่ามันคงเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้เด็ก ๆทั้งสองคนที่เธอเลี้ยงมาตั้งแต่เกิดและรักเหมือนลูกแท้ ๆ ปลอดภัยและได้อยู่กับพ่อแท้ ๆ เพราะชีวิตของเบญญาก็ไม่มีทั้งพ่อทั้งแม่ ขวัญข้าวไม่อยากให้เพชรกับทับทิมต้องมีชีวิตเหมือนกับแม่ของตัวเอง

         มาร์โกและอมรานั่งรอการมาของแขกจากเมืองไทยด้วยความรู้สึกที่ต่างกัน คนเป็นปู่อยากเห็นหน้าหลาน ๆ ที่เป็นสายเลือดของตัวเองแต่คนเป็นย่ากลับกำลังเฝ้ารอที่จะกำจัดลูกสะใภ้ที่              ไม่ต้องการออกไปให้พ้นทางที่เธอตั้งใจขีดไว้ให้ลูกชายเดินให้ได้

         ชัยชาญและมาร์โกมีอายุที่ใกล้เคียงกันและด้วยความที่เป็นนักธุรกิจเหมือนกันจึงมีเรื่องให้คุยกันถูกคอแต่บทสนทนาที่กำลังจะไปด้วยดีต้องมาสะดุดเมื่ออมราต้องการมีบทบาทขึ้นมา

         “เธอชื่อขวัญข้าวใช่ไหม หน้าตาก็ดี ฐานะก็ใช้ได้ถ้าเทียบกับเศรษฐีเมืองไทยแต่ถ้าจะให้เทียบกับคนที่นี่ก็คงไม่ต้องให้พูดนะว่าฐานะอย่างครอบครัวเธอมันก็แค่พออยู่พอกินเท่านั้น ฉันถามเธอจริง ๆ นะทำไมใจง่ายยอมเป็นเมียลูกชายฉันจนมีลูกสองคนทั้งที่ไม่ได้รู้จักพ่อกับแม่ของเขาเลย หรือว่าเธอเป็นคนง่าย ๆ แบบนี้อยู่แล้วแค่บังเอิญท้องก็เลยต้องจับอเรนโซ”

         อมราส่งยิ้มอย่างสะใจมองหน้าทั้งขวัญข้าวและชัยชายโดยที่ไม่ได้คิดสักนิดว่าทุกคำพูดของเธอเพชรและทับทิมก็อยู่ตรงนั้นด้วยและเด็กทั้งสองคนก็คือสายเลือดของเธอเอง

         ขวัญข้าวคิดและเตรียมตัวมาอยู่แล้วว่าเธอต้องเจออะไรแบบนี้คำพูดของอมราจึงทำอะไรเธอไม่ได้เพราะตัวเธอเองก็รู้ดีว่าเธอไม่ได้ใจง่ายเหมือนอย่างที่มารดาของสามีกำมะลอของเธอกล่าวหาแต่เธอมาครั้งนี้เพื่อปกป้องเด็ก ๆ เท่านั้น

         “ข้าวเคยเรียนจิตวิทยามาเขาบอกว่าคนเรามักคิดและพูดอะไรจากประสบการณ์ที่ตัวเองเคยพบเจอมา คุณแม่คงเคยเจอแต่ผู้หญิงที่ใจง่ายและเป็นอย่างที่คุณแม่พูดถึงคิดว่าข้าวต้องเป็นแบบนั้นแต่สำหรับข้าวและครอบครัวประสบการณ์ชีวิตของเราเจอแต่ความรักความอบอุ่นของครอบครัวเราเลยไม่เคยมองว่าการที่ผู้หญิงและผู้ชายที่รักกันจะอยู่ด้วยกันจนมีลูกเป็นเรื่องของความใจง่ายแต่เรามองเป็นเรื่องของความรัก ข้าวกับลูกชายคุณแม่เรารักกันค่ะและข้าวคิดว่าอเรนโซไม่สามารถที่จะรักคนอื่นได้อีกแล้วเพราะตอนนี้เขามีแต่ตัวส่วนหัวใจของเขาอยู่กับข้าวและลูก ๆ ”

         อมราแทบจะเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ เธอลุกยืนกำมือแน่นแต่ต้องเปลี่ยนใจนั่งลงเมื่อเห็นสายตาของสามีที่มองมาที่เธอแบบตำหนิ

         ชัยชาญเจ็บแสบกับคำพูดของอมราแต่ด้วยนิสัยที่สุขุมและใจเย็นเขาจึงเก็บอารมณ์ได้ดีและยังคงส่งยิ้มอย่างไร้ความรู้สึกให้กับผู้หญิงตรงหน้าที่กำลังมองลูกสาวเขาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ

         “คุณมาร์โกและคุณอมราไม่ต้องเป็นกังวลนะครับที่ครอบครัวเรามาในวันนี้ไม่ได้มาแสดงตัวเพื่อต้องการ                 ความรับผิดชอบจากครอบครัวของคุณแต่เรามาเพื่อให้พวกคุณได้มีโอกาสทำหน้าที่ของปู่กับย่าตามแต่ที่พวกคุณคิดว่าเหมาะสม เราอยู่ที่นี่ไม่นานก็จะกลับเมืองไทยเพราะที่นั่นเรามีธุรกิจที่ใสสะอาดทำอยู่ถึงแม้มันจะสร้างกำไรไม่ได้มากแต่มันก็สร้างความสุขให้กับครอบครัวของเราเพราะเรายืนอยู่บนความถูกต้องไม่ได้ทำธุรกิจอยู่บนความหวาดกลัว”

         อเรนโซมองดูสถานการณ์แล้วว่าถ้าขืนยังให้ทุกคนได้นั่งคุยกันต่อไปมีหวังมารดาของเขาคงต้องแสดงอะไรที่เสียมารยาทออกมามากกว่านี้แน่ ๆ

         “ไว้อาหารมื้อเย็นเราค่อยคุยกันก็แล้วกันนะครับ ผมขอตัวพาทุกคนไปพักผ่อนก่อน ลูก ๆ ของผมก็คงง่วงกันแล้ว ขอตัวนะครับ”

         มาร์โกลุกจากโซฟาเดินมาหาหลานชายที่ตอนนี้กำลังจูงมือของชัยชาญอยู่และมองทุกคนรอบตัวด้วยสายตาที่เหมือนกำลังหวาดกลัว

         “มาหาปู่สิลูก”

         คนเป็นปู่ส่งมือให้หลานแต่เพชรกลับรีบเดินไปเกาะขาของชัยชาญและไม่ยอมแม้แต่จะสบตามาร์โก

         “จริงอย่างที่คุณพูด ผมควรต้องได้ทำหน้าที่ของปู่บ้าง”

         คนพูดมองหน้าชัยชาญด้วยสายตาที่เศร้าและผิดหวังกับตัวเอง การแสดงของเด็กมันไม่มีการเสแสร้ง มาร์โกกลายเป็นคุณปู่ที่หลานไม่กล้าแม้แต่จะให้โดนตัว

         “ให้เวลาเด็ก ๆหน่อย ถ้าคุณรักพวกเขาจากหัวใจสักวันหลาน ๆ ของคุณก็จะสัมผัสมันได้”

         ชัยชาญอุ้มเพชรขึ้นมาและเดินเข้าไปใกล้กับมาร์โกตบไหล่แสดงความรู้สึกเข้าใจก่อนที่ทุกคนจะพากันเดินตาอเรนโซไปยังพื้นที่ส่วนตัวของเขาเพราะคฤหาสน์หลังนี้ใหญ่มากจนทุกคนในบ้านต่างมีมุมส่วนตัวเหมือนมีบ้านหลังใหญ่สิบหลังมารวมกันเป็นคฤหาสน์หลังเดียว

         ทุกคนเดินออกจากห้องรับแขกไปแล้วแต่อมรายังคงนั่งนิ่งกำมือแน่นด้วยความแค้นที่สุมอกเพราะเธอทั้งผิดหวังกับลูกชายและกำลังกลัวกับสิ่งที่จะเกิดตามมาถ้าเธอไม่สามารถทำให้ลอร่าได้แต่งงานกับลูกชายของเธอ

        

        

        

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status