ตอนที่9
เมื่อเพื่อนไม่อยากเป็นเพื่อน
ค่ำคืนที่แสนสับสนของชมเพลินและเป็นค่ำคืนที่แสนเจ็บปวดของอิศรา
ชายหนุ่มนอนกอดหญิงสาวที่นอนนิ่งไม่พูดไม่จา เขาไม่คิดเลยว่าที่เขาคิดจะลองใจภรรยาจะทำให้เรื่องราวเลวร้ายไปแบบนี้ เพราะเรื่องก่อนหน้านี้ เธอก็ไม่เห็นจะมีอาการโกรธหรือไม่พอใจเขาเลย
เช้านี้กับข้าวทุกอย่างถูกจัดวางไว้บนโต๊ะอาหารอย่างเรียบร้อย แต่ไร้เงาของชมเพลิน เธอออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า โดยที่ไม่ได้บอกใครแม้แต่รตีว่าเธอไปไหน
“พ่อครับวันนี้ผมขอไม่ไปทำงานนะ ขออยู่บ้านง้อเมียหน่อยแต่ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าชมเพลินเขาออกไปไหน เขาบอกใครไว้มั่งหรือเปล่า”
ชายหนุ่มเดินไปหาบิดาที่บ้านและพูดลอย ๆ เพื่อหวังให้ แม่เลี้ยงของเขาได้ยินและอาจจะบอกเขาว่าภรรยาของเขาไปไหน
รตีเข้าใจว่าลูกเขยเธอต้องการอะไร แต่ในเมื่อเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกัน จึงได้แต่เดินเข้าไปในครัว ไม่สนใจขายหนุ่มที่กำลังหันมองตาม
“ผู้หญิงถ้าเขาไม่รัก เขาก็จะไม่หึง แล้วถ้าเขาหึงจนถึงจุดอิ่มตัว เขาก็จะไปจากแกแล้วไม่กลับมา”
คงศักดิ์ไม่ใช่พ่อประเภทเข้าข้างลูก เขาจึงพูดให้ลูกชายได้คิดว่าควรทำอย่างไร
อิศรานั่งรอภรรยาที่บ้านของบิดา เพราะกลัวว่าถ้าหญิงสาวกลับมาแล้วรู้ว่าเขาไม่ได้ไปทำงาน เธออาจจะไม่ยอมเข้าบ้านแล้วหนีไปอีก
มีรถขับเข้ามาจอดพร้อมกันถึงสองคัน คันแรกเป็นรถแท็กซี่ ส่วนอีกคันคือรถของไอซ์หญิงสาวที่คอยไปหาอิศราทุกวัน
“เพลินคุณไปตลาดทำไมไม่บอกผม ผมจะได้พาไป”
อิศราเลือกที่จะเดินมาหาภรรยาเพื่อช่วยเธอหยิบของที่ หญิงสาวไปจ่ายตลาดมา
“อิศคุณไม่ไปทำงานก็ไม่บอก ไอซ์ไปรอคุณตั้งนาน”
ดาราสาวเดินมาเกาะแขนชายหนุ่มเพื่อแสดงถึงความสนิทสนม เพื่อให้หญิงสาวตรงหน้ารู้ว่าเขากับเธอสนิมกันขนาดไหน
อิศราสะบัดแขนของเขาออกจากมือของไอซ์ และรีบเปลี่ยนข้างมายืนข้างภรรยา
“ไอซ์นี่ชมเพลินภรรยาของผม คุณคงเจอแล้วเมื่อวันที่มาที่นี่ วันนี้ผมกับเพลินมีธุระกันนิดหน่อย ผมคงต้องขอตัวก่อนนะ”
ชายหนุ่มทิ้งให้เพื่อนสาวยืนกำมือแน่น ตัวสั่นด้วยความโกรธ เธอรู้ตั้งแต่ก่อนที่จะมาหาอิศราแล้ว ว่าเพื่อนเก่าของเธอคนนี้มีภรรยาแล้ว แต่เธอคิดว่าการเป็นเมียน้อยของเขาก็ยังดีกว่าเป็นของเล่นของพวกเสี่ยๆ
ไอซ์ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนแรกอิศราก็ทำท่าจะเล่นด้วยกับเธอ เพราะเขายอมไปกินข้าวเย็นกับเธอทุกวัน แต่อยู่ดี ๆ วันนี้เขากลับเปลี่ยนไป
“เพลินคุณทำไมไม่พูดกับผมเลย ผมรู้แล้วว่าผมผิด ผมขอโทษ ดีกันนะ”
ชายหนุ่มที่ตอนนี้มือก็ถือถุงผักและเนื้อสัตว์ ปากก็พูดง้อภรรยาไปตลอดทางจนถึงบ้าน
“คุณอิศวางทุกอย่างไว้บนโต๊ะเถอะค่ะ เดี๋ยวเพลินเอาไปเก็บเอง”
ชมเพลินไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน เธอไม่ได้โกรธสามีแล้ว แต่มันแค่รู้สึกเหนื่อยและไม่อยากพูดอะไรกับเขาอีกเลย
“กลางวันนี้ผมขอเกี๊ยวสักถ้วยได้ไหมนะ”
ชายหนุ่มเดินเข้าไปโอบเอวหญิงสาวและหอมแก้มอย่างชื่นใจ ด้วยความรู้สึกที่มีความสุขที่ยังเห็นเธออยู่ตรงนี้ ในอ้อมกอดเขา
“ได้ค่ะ คุณอิศไปพักผ่อนก่อนเถอะ เดี๋ยวเพลินทำเสร็จแล้วจะเรียก”
“ผมขอเป็นลูกมือได้ไหม เวลาเรามีลูก วันไหนคุณเกิดตื่นสายขึ้นมาผมจะได้ทำให้ลูกกินเป็น”
ชมเพลินพอได้ยินสามีพูดถึงเรื่องมีลูก เธอจึงเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าประจำเดือนเธอไม่มาเกือบสองอาทิตย์แล้ว แต่มันก็เคยคลาดเคลื่อนแบบนี้ หญิงสาวจึงคิดว่ารอให้นานกว่านี้ก่อนแล้วค่อยไปซื้อที่ตรวจการตั้งครรภ์มา
เสียงโทรศัพท์มือถือของชมเพลินดังขึ้น แต่มันวางอยู่ใกล้มือของอิศรา เขาหันไปมองที่โทรศัพท์มือถือและจำได้ว่าเบอร์ที่โทรมาคือไอซ์
“เพลิน ไอซ์เขารู้เบอร์คุณได้อย่างไรกัน”
ชายหนุ่มหันไปถามภรรยา ด้วยใบหน้าที่แสดงความสงสัยเพราะทั้งสองคนเคยเจอกันแค่สองครั้งเอง
“ไม่ทราบค่ะ ฉันไม่เคยให้เบอร์กับเพื่อนคุณ”
“ผมจะเปิดลำโพง คุณคุยตามปกติเลย ผมอยากจะรู้ว่าเธอจะโทรมาหาคุณทำไม”
ชายหนุ่มกดรับสายพร้องกับกดเปิดลำโพงทันที เพราะเขาไม่ไว้ใจเลย ไอซ์ไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา
“สวัสดีค่ะ” ชมเพลินรับสายตามปกติ
“สวัสดีค่ะคุณภรรยาอิศรา วันนี้ดีใจด้วยนะที่สามีของเธออยู่บ้านด้วย แต่จะบอกไว้เอาบุญนะ ว่าทุกเย็นที่เขากลับบ้านดึกเพราะเขาพาฉันไปกินข้าวแล้วก็.....”
คนโทรมาลากเสียงยาว เพื่อให้อีกฝ่ายคิดเอาเองว่าเธอจะพูดว่าอะไรต่อไป
“คุณอิศราเขาจะพาคุณไปไหน หรือทำอะไร เราให้อิสระกันเต็มที่ค่ะ” ชมเพลินสวนกลับอย่างใจเย็น
“ถ้าอย่างนั้น ฉันขอแบ่งสามีกับเธอได้ไหม”
“ไม่ได้ เพราะผมมีภรรยาคนเดียวคือชมเพลิน ส่วนไอซ์ผมพาคุณไปกินข้าเพราะเห็นว่าคุณมีเรื่องไม่สบายใจ แต่ถ้าคุณกำลังจะมาทำให้ครอบครัวผมมีปัญหา ผมคงต้องบอกคุณว่า อย่ามหาผมอีก”
ปลายสายหายเงียบไปทันที เมื่อได้ยินเสียงของอิศรา ไอซ์ตกใจเพราะเธอไม่คิดว่าชายหนุ่มจะได้ยินในสิ่งที่เธอพูด
“เอ่อ...อิศ ไอซ์ก็แค่จะโทรมาแกล้งเมียคุณเล่น ๆ อย่าโกรธไอซ์เลยนะ”
“ข่าวของคุณกับพวกเสี่ยพวกนั้น มันก็ทำให้คุณลดระดับจากนางเอกลงมาเป็นตัวประกอบ แต่ถ้าเสียงที่ผมกำลังบันทึกไว้หลุดไป ผมว่าคุณคงหมดโอกาสในวงการอีกต่อไป”
หญิงสาววางสายทันที เมื่อรู้ตัวว่าพลาดท่าเสียแล้ว เพราะถ้าขืนพูดอะไรออกไปอีกเสียงของเธอจะยิ่งฟ้องความเป็นตัวตนมากขึ้น และเธออาจจะหมดที่ยืนในวงการจริง ๆ
“ทำไมคุณถึงไปโกหกเธอแบบนั้นล่ะคะ เราไม่ได้อัดเสียงเธอเสียหน่อย”
ชมเพลินถามสามี เพราะเธอเริ่มเข้าใจแล้วว่า ผู้หญิงที่เข้ามาวุ่นวายกับสามีของเธอต้องการอะไร และการแสดงออกของอิศราที่พูดผ่านโทรศัพท์ ทำให้ชมเพลินรู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง
“ผมรู้ว่าผมผิด ผิดทั้งที่ทำกับเพลิน และผิดทั้งที่หลอกใช้ไอซ์เป็นเครื่องมือ แต่ถ้าผมไม่พูดแบบนี้ เธอจะเข้ามาทำให้ครอบครัวผมมีปัญหา”
หญิงสาวหันไปมองหน้าสามี ส่งยิ้มให้เพื่อแสดงว่าเธอเข้าใจในสิ่งที่เขาทำ
“คุณไปนั่งเล่นเถอะค่ะ ใกล้เสร็จแล้ว เดี๋ยวฉันยกไปให้”
ชมเพลินรู้สึกผ่อนคลายขึ้น แต่เธอยังคงไม่อยากไว้ใจหรือให้ใจสามี เพราะเธอกลัวที่สุดคือความผิดหวัง เธอจึงเลือกที่จะไม่คลาดหวังใด ๆ
ตอนที่10คุณคือคนสำคัญ เช้าวันนี้รตีชวนลูกสาวออกไปเสริมสวยด้วย ทั้งที่ความจริงปกติแล้ว เธอก็ไปคนเดียวตลอด “ดูปล่อยเนื้อปล่อยตัว ที่คุณคงศักดิ์เขาไม่ให้ลูกไปทำงานแค่ไม่อยากให้ลูกต้องเหนื่อยกับการไปสู่รบกับผู้คนในสังคม เขาไม่ได้จะให้ลูกปล่อยเนื้อปล่อยตัวแบบนี้นะ” รตีมองหน้าลูกสาวที่นั่งรถข้าง ๆ เธอเพื่อไปยังร้านเสริมสวยที่เธอทำประจำ สองคนแม่ลูกใช้เวลาอยู่ในร้านเสริมสวยเกือบทั้งวัน เพราะทางร้านสั่งอาหารมาให้ “คุณแม่เพลินทำจะหมดทั้งตัวแล้วนะคะ กลับกันได้หรือยัง” หญิงสาวเริ่มกังวลว่าจะกลับไปไม่ทันทำกับข้าวมื้อให้สามีของเธอ “แม่ขอทำเล็บอีกครึ่งชั่วโมง รับรองกลับทันแน่นอน” สองคนแม่ลูกเดินออกจากร้าน รตีหันมามองหน้าลูกสาวของเธอ พอได้บำรุงนิดบำรุงหน่อยก็ดูสวยขึ้นเป็นกองเลย “จำคำแม่ไว้นะ การที่เรามีสามีต้องดูแลตัวเองอย่าคิดว่าเขาเลือกเราแล้ว จะไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะการที่เราปล่อยให้ตัวเองดูโทรมมันก็เท่ากับว่าเราดูแลตัวเองไม่เป็นแล้วเราจะไปดูแลคนอื่นได้อย่างไรกัน” รตีด้วยความเป็นแม่ เธออบรมสั่งสอนลูกสาวเรื่
ตอนที่11วิวาห์วุ่น นอกจากงานแต่งงานที่ต้องเตรียมกันอย่างเร่งด่วนแล้ว รตีต้องแยกตัวเองไปเฝ้าสามี ส่วนอิศราก็ต้องไปจัดการงานที่บริษัท หน้าที่เป็นแม่งานจึงตกเป็นของวรรษมน น้องสาวที่แสนน่ารักที่เต็มใจและเต็มที่กับการเตรียมงานให้พี่ชาย ทุกเย็นอิศราจะพาเจ้าสาวของเขาออกแจกการ์ดแขกต่าง ๆ โดยเลือกเฉพาะที่ใกล้ชิดและสนิทจริง ๆ เพราะโรงแรมที่เช่าสถานที่ไว้ รองรับแขกได้ไม่เกินสองร้อยคนเท่านั้น “เอ้า! มาไงล่ะเพื่อนได้ข่าวว่ากลับจากอังกฤษมาตั้งนานแล้ว ไม่เห็นมาแวะหากันบ้างเลย” โยธินเพื่อนสนิทที่สุดของอิศราเพราะทั้งคู่เรียนมัธยมด้วยกันและยังตามไปเรียนต่อที่อังกฤษด้วยกันอีก “ยุ่งหลายเรื่องว่ะ จริง ๆ มีเรื่องที่อยากจะคุยกับแกมากมายเลยไอ้โย” อิศราหยุดพูดทันที เมื่อภรรยาของโยธินเดินมาร่วมวงสนทนาด้วย พร้อมกับสาวใช้ที่นำขนมและเครื่องดื่มมาต้อนรับ “เพื่อนพี่โยคนนี้เข็มไม่ได้เจออีกเลยนะคะหลังจากงานแต่งงานของเรา” เข็มเธอเป็นลูกสาวผู้มีบารมีในบ้านเมืองที่พ่อของโยธินจับคลุมถุงชนให้ทันที หลังจากที่เขากลับมาจากอังกฤษ “พอกินเลี้ยงงาน
ตอนที่ 1นาทีของชีวิต อเรนโซมาเฟียหนุ่มลูกครึ่งอิตาลีไทยนั่งรถส่วนตัวจากบริษัทเล็ก ๆ ของครอบครัวที่เปิดสาขาในเมืองไทยจากสนามบินมายังโรงพยาบาลที่ตอนนี้มีคนที่เขารักกำลังจะจากเขาไป ภาพเก่าแห่งวันวานย้อนมาในความทรงจำ ความรักระหว่างมาเฟียหนุ่มกับหญิงสาวกำพร้าก่อตัวขึ้นเมื่อครั้งที่อเรนโซกลับมาดูแลบ้านและสาขาของบริษัทที่เมืองไทยเมื่อสี่ปีที่แล้ว เขาได้พบรักกับเบญญาหญิงสาวกำพร้าที่ทำงานเป็นเลขาในบริษัทนำเข้าอะไหล่รถยนต์ ทั้งคู่อยู่กินกันแบบลับ ๆ จนมีลูกด้วยกันสองคน คือเพชรกับทับทิม พอคิดขึ้นมาถึงลูก ๆ ทั้งสองคน อเรนโซพยายามเงยหน้าเพื่อไม่ให้น้ำตาที่แสนจะอ่อนแอไหลออกมาแต่สุดท้ายเขาก็พ่ายแพ้มัน การมาเมืองไทยครั้งนี้สำหรับอเรนโซมาเฟียที่มีเงินมากมายล้นฟ้ามันคือการมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัวเป็นครั้งสุดท้าย เบญญากำลังจะจากไปด้วยโรคมะเร็งที่เขาเองเพิ่งจะได้รู้ว่าเธอป่วยเมื่อหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เขาทุ่มเงินเพื่อยื้อชีวิตของภรรยาไว้และตั้งใจว่าเขากลับอิตาลีไปครั้งนี้เพื่อไปจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยและจะกลับมาดูแลภรรยาจนกว่าอาการของเธอจะดีขึ้นแต่สุดท้ายเขากลับต้
ตอนที่ 2คำขอสุดท้าย “เบญผมขอโทษ” คำพูดเดียวที่อเรนโซคิดได้ในเวลานี้ สายตาที่อ่อนแอมองสบตากับภรรยาที่เขาทอดทิ้งให้เธอต้องดูแลตัวเองและลูก ๆ มาโดยลำพังตลอด คนป่วยส่งยิ้มแบบฝืด ๆ ให้กับชายผู้ที่เป็นเจ้าของหัวใจเธอเพียงคนเดียว “คุณไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย เรื่องที่เบญป่วยมันเป็นเรื่องของร่างกายและคุณก็พยายามหาทางรักษาที่ดีที่สุดให้กับเบญแล้ว อย่าทำให้เบญไม่สบายใจที่เห็นคุณเศร้าแบบนี้สิคะ” สองมือซีดลูบหน้าสามีด้วยความเข้มแข็งที่มีเพียงน้อยนิดแต่เบญญาก็เลือกที่จะแสดงมันออกมาเพื่อให้ชายหนุ่มสบายใจขึ้นเพราะสิ่งที่เธอต้องการคือให้สามีเข้มแข็งเพื่อที่เขาจะต้องทำหน้าที่เป็นพ่อและดูแลลูก ๆ ทั้งสองคนต่อไปโดยที่ไม่มีเธอแล้ว “อเรนโซคุณสัญญาได้ไหมว่าถ้าเบญจากไปแล้วคุณจะไม่เอาลูก ๆ ไปอิตาลี เบญรู้ว่าคุณคงลำบากใจแต่คุณเข้าในใช่ไหมว่าที่นั่นไม่ได้ปลอดภัยและลูก ๆ ของเราก็ไม่เหมาะกับที่นั่น รับปากและสัญญากับเบญนะคะ” “ผมไม่ได้อยู่เมืองไทยแล้วลูก ๆ จะอยู่กับใคร ญาติพี่น้องทั้งของเบญและผมก็ไม่มี” ชายหนุ่มคิดไม่ออกว่าถ้าเขาไม่เอาลูก ๆ ไป
ตอนที่ 3เป็นภรรยาผมเถอะ อเรนโซเดินทางกลับจากเมืองไทยด้วยหัวใจที่บอบช้ำ เขาเพิ่งสูญเสียภรรยาและนี่พ่อก็โทรศัพท์มาบอกว่าแม่ของเขากำลังป่วยหนักอีก ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนชีวิตของเขากำลังอยู่ในช่วงที่เจอปัญหามากมายรุมเข้ามาถ้าไม่มีลูก ๆ อีกสองคนที่เขาต้องดูแล อเรนโซคิดว่าตัวเองคงสติหลุดไปมากกว่านี้แน่ ๆ “คุณพ่อ! คุณแม่! นี่มันอะไรกันครับ” ภาพมาร์โกและอมราที่นั่งรอลูกชายอยู่ที่ห้องรับแขกพร้อมกับหญิงสาวที่มาในชุดรัดรูปสีแดงที่รีบลุกขึ้นเดินตรงมาเกาะแขนของชายหนุ่มที่กำลังยืนมองทุกคนด้วยความแปลกใจในสิ่งที่เห็น ลอร่าใช้มือเล็กที่เกาะแขนอเรนโซพาตัวเขามานั่งลงข้าง ๆ เธอด้วยท่าทางที่ดูเหมือนคนกำลังมีความสุข “มาถึงเหนื่อย ๆ นั่งพักก่อนนะคะพี่เรน”หญิงสาวในชุดแดงรัดทุกส่วนของร่างกายอ้อนเสียงหวาน “ไหนคุณพ่อบอกว่าคุณแม่ไม่สบายแล้วนี่มันอะไรกันครับ” มาร์โกได้แต่หลบตาเมื่อถูกลูกชายถามด้วยน้ำเสียงและ แววตาที่ตำหนิและเสียใจกับการโกหกของผู้เป็นพ่อ อมราหญิงวัยใกล้หกสิบขยับตัวเพื่อทำหน้าที่ตอบแทนเพรา
ตอนที่ 4แผน การรอคอยที่ดูไร้ความหวังมันแสนจะทรมานแต่มันก็คือหนทางเดียวที่ดีที่สุดตอนนี้สำหรับชายหนุ่มที่ไม่อยากตัดสินใจผิดซ้ำซากอีกแล้ว อเรนโซคิดว่าคงไม่มีทางที่ขวัญข้าวจะยอมทำในสิ่งที่ เขาขอร้องแน่ ๆ เพราะภาพของเขาในสายตาของเธอมันช่างแสนเลวร้ายเหลือเกินและมันก็สมควรแล้วที่หญิงสาวจะรู้สึกกับเขาแบบนั้น มาเฟียหนุ่มนั่งดื่มอยู่ที่ระเบียงห้องนอนที่ใหญ่มากกว่าบ้านที่เขาซื้อให้กับเบญญาเสียอีก เรื่องราวเก่า ๆ ในความทรงจำ ย้อนเข้ามาในความคิดของคนที่เริ่มสติไม่อยู่ครบเพราะดื่มไป หลายแก้วแล้ว เสียงของขวัญข้าวที่โทรศัพท์หาเขาในวันที่เบญญาต้องเข้าผ่าตัดคลอดลูกชายคนโตโดยด่วนเพราะเธอล้มในห้องน้ำซึ่งตอนนั้นคนโทรมาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาคือใครรู้แค่เพียงเป็นสามีของลูกน้องเธอเพราะเบญไม่เคยบอกเล่ารายละเอียดของสามีให้ใครฟังตามที่สัญญาไว้ “คนอย่างคุณไม่ใช่แค่ไม่สมควรเป็นพ่อคนแต่คุณไม่ควรเกิดเป็นคนเลยด้วยซ้ำ” คำพูดของขวัญข้าวก่อนวางสายในวันนั้นยังดังอยู่ใน ความทรงจำของผู้ชายที่เลือกงานมากกว่าจะรีบเดินทางไปหาเม
ตอนที่ 5เผชิญหน้า อเรนโซเดินทางไปหาขวัญข้าวที่บ้านของเธอทันทีที่ถึงเมืองไทยเพราะตอนนี้เวลาที่เขาเหลืออยู่มีไม่มาก ขวัญข้าวเตรียมทุกอย่างให้กับตัวเธอและเด็ก ๆ ทั้งสองเพื่อพร้อมต่อการเดินทางแต่สิ่งที่ทำให้ทั้งขวัญข้าวและอเรนโซถึงกลับตกใจก็คือภาพของชัยชาญที่เดินลงจากบ้านมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ “คุณพ่อคะ คือ...คุณพ่อจะไปกับข้าวและเด็กหรือคะ” หญิงสาวถามด้วยความตกใจเพราะเธอกับบิดาคุยเรื่องนี้กันเกือบ ทั้งคืนแต่ชัยชาญไม่ยอมบอกเธอเลยว่าจะตามไปที่อิตาลีด้วย “ใช่ มีปัญหาอะไรกันไหม” อเรนโซรีบยืนยกมือไหว้ตามมารยาทของคนไทยเพราะตั้งแต่เขามาถึงเขายังไม่ได้เจอพ่อของขวัญข้าวเลยและจริง ๆ แล้วชายหนุ่มเคยเจอ ชัยชาญแค่เพียงช่วงงานศพของเบญญาเท่านั้น “ผมไม่มีปัญหาครับและยินดีที่คุณพ่อจะเดินทางไปกลับพวกเรา” การเดินทางครั้งนี้ไม่ได้มีแค่ชัยชาญ ขวัญข้าว อเรนโซและเด็ก ๆแต่ชัยชาญได้เอาคนของเขาไปด้วยหลายคนทั้งที่ไปแบบเปิดตัวและติดตามไปโดยที่อเรนโซไม่รู้ตัวเพราะสำหรับนักธุรกิจที่อายุมากและมากประสบการณ์อย่างชัยชาญเขารู้ดีว่าที่
ตอนที่ 6เมื่อแผนเริ่มต้น “ขวัญข้าวผมขอโทษแทนคุณแม่ด้วยนะที่ท่านพูดแบบนั้นกับคุณ” อเรนโซเดินเข้ามาจับมือของหญิงสาวที่กำลังเดินเข้ามายังห้องนอนของเขาเพื่อความสมจริงในบทสามีภรรยา “อเรนโซคุณทำได้มากกว่าพูดคำว่าขอโทษแบบนี้ ฉันเชื่อว่าเบญก็คงรอว่าสักวันคุณจะทำทุกอย่างในฐานะของพ่อได้ดีกว่าที่ผ่านมา วันนี้มันเพิ่งเริ่มต้นแต่จำไว้ฉันมีเวลาเล่นละครกับคุณได้ไม่นานเพราะชีวิตของฉันยังมีอีกหลายชีวิตที่ต้องดูแลถ้าคุณยังทำทุกอย่างให้ดีกว่านี้ไม่ได้ ฉันจะเอาเด็ก ๆกลับไปเมืองไทยและคุณก็ต้องลืมให้ได้ว่าทั้งเพชรและทับทิมคือลูกของคุณ” คืนแรกของการมาอยู่ที่อิตาลีของขวัญข้าว เธอสัมผัสได้ถึงความกดดันและไร้ความสุขของชายหนุ่มที่ภายนอกดูเป็นมาเฟียที่น่าเกรงขามแต่ยามอยู่ต่อหน้ามารดาเขากลายเป็นเพียงลูกชายที่ไม่รู้จักโต เพชรได้นอนกับพ่อคืนนี้เป็นคืนแรกหลังจากที่แม่ของเด็กน้อยจากไป “คุณพ่อครับที่นี่บ้านใคร” เด็กชายตัวน้อยที่หน้าตาถอดมาจากผู้เป็นย่าจนแทบจะไม่ต้องมีใครบอกก็รู้ได้ทันทีว่าเด็กน้อยเป็นหลานของย่าอมราที่แสนจะมีหัวใจที่ไร้ความเมตตาในตัวสายเลือ