ตอนที่11
วิวาห์วุ่น
นอกจากงานแต่งงานที่ต้องเตรียมกันอย่างเร่งด่วนแล้ว รตีต้องแยกตัวเองไปเฝ้าสามี ส่วนอิศราก็ต้องไปจัดการงานที่บริษัท หน้าที่เป็นแม่งานจึงตกเป็นของวรรษมน น้องสาวที่แสนน่ารักที่เต็มใจและเต็มที่กับการเตรียมงานให้พี่ชาย
ทุกเย็นอิศราจะพาเจ้าสาวของเขาออกแจกการ์ดแขกต่าง ๆ โดยเลือกเฉพาะที่ใกล้ชิดและสนิทจริง ๆ เพราะโรงแรมที่เช่าสถานที่ไว้ รองรับแขกได้ไม่เกินสองร้อยคนเท่านั้น
“เอ้า! มาไงล่ะเพื่อนได้ข่าวว่ากลับจากอังกฤษมาตั้งนานแล้ว ไม่เห็นมาแวะหากันบ้างเลย”
โยธินเพื่อนสนิทที่สุดของอิศราเพราะทั้งคู่เรียนมัธยมด้วยกันและยังตามไปเรียนต่อที่อังกฤษด้วยกันอีก
“ยุ่งหลายเรื่องว่ะ จริง ๆ มีเรื่องที่อยากจะคุยกับแกมากมายเลยไอ้โย”
อิศราหยุดพูดทันที เมื่อภรรยาของโยธินเดินมาร่วมวงสนทนาด้วย พร้อมกับสาวใช้ที่นำขนมและเครื่องดื่มมาต้อนรับ
“เพื่อนพี่โยคนนี้เข็มไม่ได้เจออีกเลยนะคะหลังจากงานแต่งงานของเรา”
เข็มเธอเป็นลูกสาวผู้มีบารมีในบ้านเมืองที่พ่อของโยธินจับคลุมถุงชนให้ทันที หลังจากที่เขากลับมาจากอังกฤษ
“พอกินเลี้ยงงานแต่งงานเราเสร็จ เจ้าอิศมันก็ขึ้นเครื่องกลับอังกฤษทันทีเลย อย่าว่าแต่เราไม่ได้เจอมัน พ่อมันเองยังไม่ค่อยจะได้เจอหน้าลูกชายเลย พอมันกลับมาไทยคราวนี้เลยอยู่กับพ่อไม่ออกมาเจอเพื่อนเจอฝูง พอวันนี้ ก็มาบอกงานแต่งงาน ดีไม่พามาหาเพื่อนอีกทีตอนลูกโต”
ชมเพลินคุ้นชื่อของโยธินมาก แต่ก็ยังไม่กล้าถามไว้ค่อยถามตอนกลับบ้านจะดีกว่า
หลังจากเพื่อนฝูงทักทายกันเสร็จ อิศราก็ขอตัวเพราะกว่าจะมาถึงบ้านของโยธินก็ไปมาหลายบ้านแล้ว และตอนนี้ก็เกือบสองทุ่มแล้ว
“โยธินชื่อคุ้นมากเลยค่ะ เหมือนเคยได้ยิน”
ชมเพลินถามสามีทันทีหลังจากขึ้นรถ เพราะเธอนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกว่าเคยได้ยินชื่อนี้ที่ไหน
“โยธินคนที่ผมบอกเพลิน ว่าเป็นพ่อของอังกอร์ไงล่ะ ตอนนี้มันแต่งงานมีครอบครัวแล้ว และเข็มเขาเป็นลูกผู้มีอิทธิพล มันเลยต้องเก็บเรื่องอังกอร์เป็นความลับ แต่ที่ผมยังไม่เข้าใจ คือก่อนหน้านี้มันส่งเงินมาให้ลูกตลอดแต่พอแต่งงานไปได้ไม่ถึงสองปี มันกลับบอกให้ผมเลิกยุ่งกับอังกอร์และเมย์”
“แล้วทำไมคุณไม่ถามล่ะคะ” ชมเพลินสงสัย
“ทำไมผมจะไม่ถาม แต่มันไม่ยอมบอก และมันเป็นการคุยผ่านโทรศัพท์ จะไปบังคับบีบคอมันก็ไม่ได้ เมื่อกี้ก็ว่าจะถาม เข็มก็เดินมาเสียก่อนอีก”
ชมเพลินฟังที่อิศราเล่าเธอยิ่งรู้สึกสงสารเมธาวีและอังกอร์ ทั้งคู่ไม่ได้มีความผิดอะไรแต่กลับถูกทิ้ง หญิงสาวจึงเข้าใจเลยว่า พอเธอเห็นอิศราไปดูแลจึงอยากจะยึดไว้เพื่อเป็นหลักให้กับเธอ
คงศักดิ์ออกจากโรงพยาบาลก่อนคืนวันแต่งงานเพียงคืนเดียว แต่กลับจากโรงพยาบาลคราวนี้เขาดูแข็งแรงและสดใจขึ้นมาก
คุณหมอตรวจร่างกายอย่างละเอียด ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงนอกจากให้ระวังเรื่องความเครียดและความเหนื่อยเท่านั้น คงศักดิ์จึงตั้งใจว่าจะไม่กลับไปทำงานแล้ว จะปล่อยให้สองพี่น้องช่วยกันจัดการเอง
งานแต่งดำเนินการไปตามขั้นตอน ทุกคนในงานต่างชื่นชมในความเหมาะสมของบ่าวสาว
วรรษมนออกแบบงานแต่งเองทั้งหมดและเธอก็เป็นคนเล่นเปียโนในงานเอง เพราะเธอมีความสามารถในดนตรีชนิดนี้มาก
ถึงเวลาที่เจ้าสาวกำลังจะโยนช่อดอกไม้ สาวโสดทุกคนต่างมายืนรอ แต่ทุกคนกับสะดุดตากับผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังจูงมือเด็กผู้ชายมายืนรอรับดอกไม้ด้วย
ชมเพลินหันหลังอยู่ เธอจึงโยนดอกไม้มาที่มือของเมธาวีพอดี พิธีกรจึงเรียกหญิงสาวขึ้นเวที และเธอก็เดินขึ้นไปพร้อมกับอังกอร์
พิธีกรส่งไมค์ให้กับหญิงสาวที่ได้รับช่อดอกไม้ ทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวและโยธินต่างพากันตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็เมธาวีอยู่บนเวที
“ดิฉันขอแนะนำตัวนะคะ ฉันชื่อเมธาวีและนี้อังกอร์ลูกชายของดิฉันที่เกิดกับนายโยธินลูกเขยรัฐมนตรี ซึ่งไม่คิดจะรับผิดชอบใด ๆ ในตัวดิฉันและลูก”
เข็มหันมองหน้าสามีเธอไม่ได้รู้สึกโกรธหรือเสียใจ และรีบบอกให้สามีรีบขึ้นไปชีแจงบนเวที ว่าความจริงเป็นอย่างไร
“ทุกคนฟังผม ผมเชื่อว่าเด้กคนนี้เป็นลูกของผมมาตลอด และผมก็ส่งเงินให้เธอกับลูกทุกเดือน จนผมแต่งงานกับคุณเข็ม เราอยากมีลูกด้วยกันแต่กลับไม่มีสักที เราจึงไปหาหมอ และผมก็พบว่าตัวเองเป็นหมัน ผมถึงได้ตาสว่าง ว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกชายของผม พรุ่งนี้ผมพร้อมจะแสดงเอกสารทางการแพทย์ให้ทุกคนดู”
เมื่อเมธาวีรู้ว่าเธอพลาดแล้ว จึงรีบอุ้มลูกชายเตรียมจะวิ่งหนี แต่กลับถูกชมเพลินดึงมือของเธอไว้
“คุณเมย์ ไม่ว่าเด็กคนนี้จะเป็นลูกของใคร แต่ที่แน่ ๆ เขาคือลูกของคุณ หยุดทำร้ายเขา เพราะเขามีคุณแค่คนเดียว”
เมธาวีกอดลูกชายร้องไห้เธอไม่มีทางออกแล้วจริง ๆ เธอกลับมาเมืองไทยพร้อมกับรู้ว่าครอบครัวของเธอกำลังแย่ และตัวเธอเองก็ไม่รู้ว่าท้องกับใคร เธอจึงพยายามจะหาใครสักคนเป็นพ่อให้ อังกอร์
เข็มรีบเดินจากกลางงานมาที่ข้างเวที เพื่อคุยกับสองคนแม่ลูก เพราะเธอคิดว่าเธอมีบางอย่างที่ควรพูด
“คุณเมย์ ถึงแม้ว่าเด็กผู้ชายคนนี้ไม่ใช่ลูกของโยธิน แต่เข็มก็ผิดที่ไปแย่งพี่โยมาจากคุณ ทั้งที่พี่โยก็บอกกับเข็มว่าเขามีคนรักอยู่แล้ว เราทั้งคู่มีลูกไม่ได้ คุณเมย์จะว่าอะไรไหม ถ้าเข็มจะขอรับเด็กน้อยคนนี้เป็นลูกบุญธรรม”
เมธาวีร้องไห้เหมือนคนเสียสติ จนรตีในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ต้องเข้ามากอดเธอไว้และขอให้เธอตั้งสติทำอะไรให้คิดถึงลูกให้มาก ๆ
“แล้วฉันจะติดต่อคุณนะ ถ้าฉันพร้อม”
เข็มพยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่อดีตคนรักของสามีเธอพูด เพราะลูกใคร ใครก็รัก การจะยกให้ใครคงไม่ใช่เรื่องที่แม่คนไหนอยากจะทำ
เมื่อเรื่องวุ่นวายต่างจบลง งานแต่งงานก็ดำเนินต่อไปจนเสร็จสิ้น เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็กลับมายังเรือนหอด้วยความอ่อนเพลียเพราะต้องตื่นตั้งแต่เช้ามืด
“ชีวิตรักของเราทั้งคู่นี่ชุลมุนวุ่นวายไปหมดเลยนะคะ ทั้งเรื่องของเราเองและเรื่องของคนอื่น”
“แต่มันก็ทำให้เรารู้ใจตัวเองมากขึ้น และผมก็รู้ว่าหัวใจของมีแต่ภรรยาที่แสนจะน่ารักคนนี้คนเดียว”
ถึงแม้จะเหนื่อยแค่ไหนอิศราก็ไม่ยอมหยุดปั๊มลูก เพราะเขายังไม่รู้ว่าประจำเดือนของชมเพลินไม่มานานาแล้ว จึงยังคงเร่งมือผลิตอย่างเต็มกำลัง
“คุณอิศคะ ลืมตาขึ้นมาดูอะไรนี่เร็ว”
ชมเพลินตื่นนอนแต่เช้ามืดเพราะเธอซื้อที่ตรวจการตั้งครรภ์มาเตรียมไว้แล้ว ข้างกล่องแนะนำให้ตรวจตอนตื่นนอนตอนเช้า เธอจึงรีบตื่นมาตรวจด้วยความตื่นเต้น
“เพลินคุณท้อง”
ชายหนุ่มกอดภรรยาด้วยความดีใจ ที่เห็นขีดสองขีดบนที่ตรวจ ในที่สุดเขาก็มีน้ำยาสักที
ทุกคนในบ้านต่างดีใจ จึงสั่งให้อิศรารีบพาชมเพลินไปฝากท้อง เพราะทุกคนกำลังจะเดินทางไปพักผ่อนด้วยกันที่ยุโรปจึงต้องรู้ว่า อายุครรภ์กี่สัปดาห์แล้วและสามารถขึ้นเครื่องได้ไหม
“ภรรยาคุณตั้งครรภ์ได้แปดสัปดาห์ สามารถเดินทางได้ตามปกติ แต่ขากลับอย่าให้เกินยี่สิบสัปดาห์จะดีที่สุดครับ”
คงศักดิ์กลับมายิ้มอย่างมีความสุขเต็มหัวใจได้อีกครั้ง เมื่อครอบครัวของเขาได้กลับมาอยู่พร้อมหน้ากันและกำลังจะมีสมาชิกเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคนด้วย ทัวร์ยุโรปครั้งนี้คงศักดิ์ตั้งใจจะอยู่นานเลย เพราะไม่ได้พักผ่อนแบบนี้มาหลายปีแล้ว
อิศรา ชมเพลินและวรรษมนจึงเดินทางกลับมาเมืองไทยก่อนหลังจาอยู่เที่ยวได้เกือบเดือน เพื่อมาทำหน้าที่ของลูกที่ดีดูแลทุกอย่างที่พ่อของทุกคนสร้างเอาไว้ให้
“ขอบคุณนะที่ไม่ปล่อยมือผมไปเสียก่อน ขอบคุณที่จับมือผมทุกครั้งที่ผ่านเรื่องร้าย รักคุณกับลูกมากนะ”
อิศราจูบหน้าผากภรรยาแทนคำของคุณท่ามกลางผู้คนในสนามบินที่กำลังจะขึ้นเครื่องเพื่อเตรียมเดินทาง
จบบริบูรณ์
ตอนที่ 1นาทีของชีวิต อเรนโซมาเฟียหนุ่มลูกครึ่งอิตาลีไทยนั่งรถส่วนตัวจากบริษัทเล็ก ๆ ของครอบครัวที่เปิดสาขาในเมืองไทยจากสนามบินมายังโรงพยาบาลที่ตอนนี้มีคนที่เขารักกำลังจะจากเขาไป ภาพเก่าแห่งวันวานย้อนมาในความทรงจำ ความรักระหว่างมาเฟียหนุ่มกับหญิงสาวกำพร้าก่อตัวขึ้นเมื่อครั้งที่อเรนโซกลับมาดูแลบ้านและสาขาของบริษัทที่เมืองไทยเมื่อสี่ปีที่แล้ว เขาได้พบรักกับเบญญาหญิงสาวกำพร้าที่ทำงานเป็นเลขาในบริษัทนำเข้าอะไหล่รถยนต์ ทั้งคู่อยู่กินกันแบบลับ ๆ จนมีลูกด้วยกันสองคน คือเพชรกับทับทิม พอคิดขึ้นมาถึงลูก ๆ ทั้งสองคน อเรนโซพยายามเงยหน้าเพื่อไม่ให้น้ำตาที่แสนจะอ่อนแอไหลออกมาแต่สุดท้ายเขาก็พ่ายแพ้มัน การมาเมืองไทยครั้งนี้สำหรับอเรนโซมาเฟียที่มีเงินมากมายล้นฟ้ามันคือการมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัวเป็นครั้งสุดท้าย เบญญากำลังจะจากไปด้วยโรคมะเร็งที่เขาเองเพิ่งจะได้รู้ว่าเธอป่วยเมื่อหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เขาทุ่มเงินเพื่อยื้อชีวิตของภรรยาไว้และตั้งใจว่าเขากลับอิตาลีไปครั้งนี้เพื่อไปจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยและจะกลับมาดูแลภรรยาจนกว่าอาการของเธอจะดีขึ้นแต่สุดท้ายเขากลับต้
ตอนที่ 2คำขอสุดท้าย “เบญผมขอโทษ” คำพูดเดียวที่อเรนโซคิดได้ในเวลานี้ สายตาที่อ่อนแอมองสบตากับภรรยาที่เขาทอดทิ้งให้เธอต้องดูแลตัวเองและลูก ๆ มาโดยลำพังตลอด คนป่วยส่งยิ้มแบบฝืด ๆ ให้กับชายผู้ที่เป็นเจ้าของหัวใจเธอเพียงคนเดียว “คุณไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย เรื่องที่เบญป่วยมันเป็นเรื่องของร่างกายและคุณก็พยายามหาทางรักษาที่ดีที่สุดให้กับเบญแล้ว อย่าทำให้เบญไม่สบายใจที่เห็นคุณเศร้าแบบนี้สิคะ” สองมือซีดลูบหน้าสามีด้วยความเข้มแข็งที่มีเพียงน้อยนิดแต่เบญญาก็เลือกที่จะแสดงมันออกมาเพื่อให้ชายหนุ่มสบายใจขึ้นเพราะสิ่งที่เธอต้องการคือให้สามีเข้มแข็งเพื่อที่เขาจะต้องทำหน้าที่เป็นพ่อและดูแลลูก ๆ ทั้งสองคนต่อไปโดยที่ไม่มีเธอแล้ว “อเรนโซคุณสัญญาได้ไหมว่าถ้าเบญจากไปแล้วคุณจะไม่เอาลูก ๆ ไปอิตาลี เบญรู้ว่าคุณคงลำบากใจแต่คุณเข้าในใช่ไหมว่าที่นั่นไม่ได้ปลอดภัยและลูก ๆ ของเราก็ไม่เหมาะกับที่นั่น รับปากและสัญญากับเบญนะคะ” “ผมไม่ได้อยู่เมืองไทยแล้วลูก ๆ จะอยู่กับใคร ญาติพี่น้องทั้งของเบญและผมก็ไม่มี” ชายหนุ่มคิดไม่ออกว่าถ้าเขาไม่เอาลูก ๆ ไป
ตอนที่ 3เป็นภรรยาผมเถอะ อเรนโซเดินทางกลับจากเมืองไทยด้วยหัวใจที่บอบช้ำ เขาเพิ่งสูญเสียภรรยาและนี่พ่อก็โทรศัพท์มาบอกว่าแม่ของเขากำลังป่วยหนักอีก ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนชีวิตของเขากำลังอยู่ในช่วงที่เจอปัญหามากมายรุมเข้ามาถ้าไม่มีลูก ๆ อีกสองคนที่เขาต้องดูแล อเรนโซคิดว่าตัวเองคงสติหลุดไปมากกว่านี้แน่ ๆ “คุณพ่อ! คุณแม่! นี่มันอะไรกันครับ” ภาพมาร์โกและอมราที่นั่งรอลูกชายอยู่ที่ห้องรับแขกพร้อมกับหญิงสาวที่มาในชุดรัดรูปสีแดงที่รีบลุกขึ้นเดินตรงมาเกาะแขนของชายหนุ่มที่กำลังยืนมองทุกคนด้วยความแปลกใจในสิ่งที่เห็น ลอร่าใช้มือเล็กที่เกาะแขนอเรนโซพาตัวเขามานั่งลงข้าง ๆ เธอด้วยท่าทางที่ดูเหมือนคนกำลังมีความสุข “มาถึงเหนื่อย ๆ นั่งพักก่อนนะคะพี่เรน”หญิงสาวในชุดแดงรัดทุกส่วนของร่างกายอ้อนเสียงหวาน “ไหนคุณพ่อบอกว่าคุณแม่ไม่สบายแล้วนี่มันอะไรกันครับ” มาร์โกได้แต่หลบตาเมื่อถูกลูกชายถามด้วยน้ำเสียงและ แววตาที่ตำหนิและเสียใจกับการโกหกของผู้เป็นพ่อ อมราหญิงวัยใกล้หกสิบขยับตัวเพื่อทำหน้าที่ตอบแทนเพรา
ตอนที่ 4แผน การรอคอยที่ดูไร้ความหวังมันแสนจะทรมานแต่มันก็คือหนทางเดียวที่ดีที่สุดตอนนี้สำหรับชายหนุ่มที่ไม่อยากตัดสินใจผิดซ้ำซากอีกแล้ว อเรนโซคิดว่าคงไม่มีทางที่ขวัญข้าวจะยอมทำในสิ่งที่ เขาขอร้องแน่ ๆ เพราะภาพของเขาในสายตาของเธอมันช่างแสนเลวร้ายเหลือเกินและมันก็สมควรแล้วที่หญิงสาวจะรู้สึกกับเขาแบบนั้น มาเฟียหนุ่มนั่งดื่มอยู่ที่ระเบียงห้องนอนที่ใหญ่มากกว่าบ้านที่เขาซื้อให้กับเบญญาเสียอีก เรื่องราวเก่า ๆ ในความทรงจำ ย้อนเข้ามาในความคิดของคนที่เริ่มสติไม่อยู่ครบเพราะดื่มไป หลายแก้วแล้ว เสียงของขวัญข้าวที่โทรศัพท์หาเขาในวันที่เบญญาต้องเข้าผ่าตัดคลอดลูกชายคนโตโดยด่วนเพราะเธอล้มในห้องน้ำซึ่งตอนนั้นคนโทรมาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาคือใครรู้แค่เพียงเป็นสามีของลูกน้องเธอเพราะเบญไม่เคยบอกเล่ารายละเอียดของสามีให้ใครฟังตามที่สัญญาไว้ “คนอย่างคุณไม่ใช่แค่ไม่สมควรเป็นพ่อคนแต่คุณไม่ควรเกิดเป็นคนเลยด้วยซ้ำ” คำพูดของขวัญข้าวก่อนวางสายในวันนั้นยังดังอยู่ใน ความทรงจำของผู้ชายที่เลือกงานมากกว่าจะรีบเดินทางไปหาเม
ตอนที่ 5เผชิญหน้า อเรนโซเดินทางไปหาขวัญข้าวที่บ้านของเธอทันทีที่ถึงเมืองไทยเพราะตอนนี้เวลาที่เขาเหลืออยู่มีไม่มาก ขวัญข้าวเตรียมทุกอย่างให้กับตัวเธอและเด็ก ๆ ทั้งสองเพื่อพร้อมต่อการเดินทางแต่สิ่งที่ทำให้ทั้งขวัญข้าวและอเรนโซถึงกลับตกใจก็คือภาพของชัยชาญที่เดินลงจากบ้านมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ “คุณพ่อคะ คือ...คุณพ่อจะไปกับข้าวและเด็กหรือคะ” หญิงสาวถามด้วยความตกใจเพราะเธอกับบิดาคุยเรื่องนี้กันเกือบ ทั้งคืนแต่ชัยชาญไม่ยอมบอกเธอเลยว่าจะตามไปที่อิตาลีด้วย “ใช่ มีปัญหาอะไรกันไหม” อเรนโซรีบยืนยกมือไหว้ตามมารยาทของคนไทยเพราะตั้งแต่เขามาถึงเขายังไม่ได้เจอพ่อของขวัญข้าวเลยและจริง ๆ แล้วชายหนุ่มเคยเจอ ชัยชาญแค่เพียงช่วงงานศพของเบญญาเท่านั้น “ผมไม่มีปัญหาครับและยินดีที่คุณพ่อจะเดินทางไปกลับพวกเรา” การเดินทางครั้งนี้ไม่ได้มีแค่ชัยชาญ ขวัญข้าว อเรนโซและเด็ก ๆแต่ชัยชาญได้เอาคนของเขาไปด้วยหลายคนทั้งที่ไปแบบเปิดตัวและติดตามไปโดยที่อเรนโซไม่รู้ตัวเพราะสำหรับนักธุรกิจที่อายุมากและมากประสบการณ์อย่างชัยชาญเขารู้ดีว่าที่
ตอนที่ 6เมื่อแผนเริ่มต้น “ขวัญข้าวผมขอโทษแทนคุณแม่ด้วยนะที่ท่านพูดแบบนั้นกับคุณ” อเรนโซเดินเข้ามาจับมือของหญิงสาวที่กำลังเดินเข้ามายังห้องนอนของเขาเพื่อความสมจริงในบทสามีภรรยา “อเรนโซคุณทำได้มากกว่าพูดคำว่าขอโทษแบบนี้ ฉันเชื่อว่าเบญก็คงรอว่าสักวันคุณจะทำทุกอย่างในฐานะของพ่อได้ดีกว่าที่ผ่านมา วันนี้มันเพิ่งเริ่มต้นแต่จำไว้ฉันมีเวลาเล่นละครกับคุณได้ไม่นานเพราะชีวิตของฉันยังมีอีกหลายชีวิตที่ต้องดูแลถ้าคุณยังทำทุกอย่างให้ดีกว่านี้ไม่ได้ ฉันจะเอาเด็ก ๆกลับไปเมืองไทยและคุณก็ต้องลืมให้ได้ว่าทั้งเพชรและทับทิมคือลูกของคุณ” คืนแรกของการมาอยู่ที่อิตาลีของขวัญข้าว เธอสัมผัสได้ถึงความกดดันและไร้ความสุขของชายหนุ่มที่ภายนอกดูเป็นมาเฟียที่น่าเกรงขามแต่ยามอยู่ต่อหน้ามารดาเขากลายเป็นเพียงลูกชายที่ไม่รู้จักโต เพชรได้นอนกับพ่อคืนนี้เป็นคืนแรกหลังจากที่แม่ของเด็กน้อยจากไป “คุณพ่อครับที่นี่บ้านใคร” เด็กชายตัวน้อยที่หน้าตาถอดมาจากผู้เป็นย่าจนแทบจะไม่ต้องมีใครบอกก็รู้ได้ทันทีว่าเด็กน้อยเป็นหลานของย่าอมราที่แสนจะมีหัวใจที่ไร้ความเมตตาในตัวสายเลือ
ตอนที่ 7เด็ดขาด ขวัญข้าวเธอเรียนยิงปืนได้รวดเร็วมากทั้งที่ไม่เคยมีพื้นฐานมาเลยตอนนี้เธอก็เรียนการต่อสู้แบบตัวต่อตัวเพื่อใช้ในการป้องกันตัวในยามที่ไม่มีอาวุธทุกอย่างต้องรีบทำเพราะอีกสองวันชัยชาญก็จะเดินทางกลับเมืองไทยแต่ลูกน้องทุกคนของเขายังคงอยู่ที่นี่ต่อ ทั้งแบบที่มาแบบเปิดเผยตัวและไม่เปิดเผยตัวด้วยเพราะความเป็นพ่อชัยชาญไม่ไว้ใจว่าอเรนโซจะสามารถดูแลปกป้องลูกสาวเขาและเด็ก ๆ ได้ เขาจึงเลือกที่จะทิ้งคนของเขาไว้ที่นี่เพื่อความอุ่นใจ ลอร่ารับรู้เรื่องราวการมาของขวัญข้าวและลูก ๆ ตั้งแต่วันแรกที่ทุกคนเหยียบแผ่นดินอิตาลีแต่เธอคิดว่าการที่เธอไม่แสดงตัวน่าจะทำให้อมรารู้สึกกดดันมากกว่าและเธอแค่คอยมองดู อยู่ห่าง ๆ จนกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยแต่ถ้าทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่เธอคิด เธอก็จะเดินหน้าประกาศสงครามทันที “ลอร่าทำไมหนูไม่มาดูหน้าแม่สาวไทยใจง่ายหน่อยล่ะลูก” อมรากรอกเสียงตามสายไปหาลูกสะใภ้ที่เธออยากได้เพราะคิดว่าถ้าลอร่ามาปรากฎตัวอาจจะทำให้อเรนโซและขวัญข้าวมีปัญหาทะเลาะกันและจะง่ายต่อการแยกทั้งคู่ออกจากกัน “ลอร่าไม่ไปหรอกค่
ตอนที่ 8จากคนเพิ่งรู้จัก อเรนโซพกลูก ๆ และขวัญข้าวไปทุกที่ที่เขาต้องไปทำงานเพราะเขาไม่เชื่อใจใครทั้งนั้นในตอนนี้ งานที่เขาทำค้างไว้ต้องรีบทำให้เสร็จตามเวลาที่ชัยชาญได้ยื่นคำขาดไว้ก่อนจะกลับเมืองไทย “ฉันขอไปเดินเล่นข้างนอกบ้างได้ไหมตอนนี้ลูก ๆ หลับหมดแล้วไปแค่ใกล้ ๆ นี่แหละ ฉันสัญญาจะรีบกลับมาก่อนลูก ๆ ตื่นแน่นอน” ขวัญข้าวตั้งแต่เธอเดินทางมาที่อิตาลีเธอยังไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลยเพราะอเรนโซไม่ยอมให้เธอกับลูก ๆ ห่างกายและตัวเขาเองก็ไม่มีเวลามากพอที่จะพาเธอไปเที่ยวชมเมือง หญิงสาวจึงคิดว่า ไหน ๆ วันนี้เด็ก ๆ ก็นอนกลางวันกันหมดแล้ว เธอมองออกไปนอกหน้าต่างของบริษัทอยู่บ่อย ๆ จึงรู้ว่าด้านนอกของที่นี่ก็มีมุมให้ถ่ายรูปสวย ๆ มากมาย “มันอันตรายนะ คุณยังไม่รู้จักที่นี่มากพอรอผมว่างก่อนได้ไหมก่อนกลับไปเมืองไทยผมสัญญาจะพาคุณกับลูกไปเที่ยวแน่นอน” มาเฟียคนพื้นที่รู้ดีว่าที่นี่กฎหมายไม่ได้ป้องกันอันตรายได้จริงและสังคมของที่นี่ไม่ได้สวยงามเหมือนในสารคดีท่องเที่ยวที่คนทั่วไปเห็น เขาจึงเป็นห่วงและไม่อยากให้ภรรยาในนามอยู่ไกลจากตัวเขา “คุณส่งคนของคุณคอยต