ตอนที่6
การมาของใครสองคน
เช้านี้เป็นเช้าที่สดใสและมีความสุขสำหรับชมเพลิน เพราะเธอได้นอนกอดกับผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี ถึงแม้ตอนเช้าเธอจะต้องรีบตื่นก่อนทุกคนในบ้านก็ตามเพราะไม่อยากให้ใครมาเห็น
“วันนี้เข้าบริษัทแล้วเริ่มเรียนรู้งานเลยนะ ถึงพ่อจะยกหุ้นให้น้องแต่แกเป็นพี่อย่างไรก็ต้องช่วยน้องอยู่ดี”
คงศักดิ์ไม่ได้ยกหุ้นในบริษัทให้กับอิศราก็จริง แต่เขาแต่งตั้งชายหนุ่มเป็นผู้จัดการบริษัท มีเงินเดือนเกือบสองแสนบาทและมีหน้าที่ดูแลบริษัทรองจากประธานที่ตอนนี้คงศักดิ์ดำรงตำแหน่งอยู่
“ผมขอช่วยจนน้องเรียนจบนะ เพราะผมคงต้องหาทำกิจการของตัวเองจากที่ดินที่ผมได้บ้าง แต่ก็คงยังช่วยน้องอยู่เพียงแต่ไม่เต็มตัว”
คำพูดของอิศราทำให้คนเป็นพ่อรู้สึกภูมิใจที่ลูกชายของเขาเริ่มโต และอยากจะยืนด้วยขาของตัวเอง
“ก็ได้ แต่อย่าทิ้งน้องแล้วกัน ตอนนี้ก็คิดไปก่อนว่าจะทำอะไร คิดได้ค่อยมาปรึกษากันดู”
คงศักดิ์อยากรู้ว่าลูกชายของเขาจะใช้ที่ดินที่ได้ทั้งที่เชียงใหม่ เชียงราย ปทุมธานี อยุธยา เพื่อใช้ทำกิจการอะไรบ้าง
ชมเพลินนั่งฟังสองคนพ่อลูกคุยกันบนโต๊ะอาหาร เธอแอบรู้สึกดีไม่ได้ เพราะถ้าอิศราคิดจะลงทุนทำอะไรกับที่ดินแปลว่าเขาคงไม่หย่ากับเธอก่อนห้าปีแน่ ๆ
หลังจากสองคนพ่อลูกออกไปทำงานวรรษมนก็ออกไปเรียน ช่วงบ่ายก็มีหญิงสาวหน้าตาดีมาที่บ้านพร้อมกับเด็กชายวัย2ขวบ
เธอแนะนำตัวกับรตีและชมเพลินว่าเธอชื่อเมธาวีและเด็กผู้ชายที่มาด้วยชื่ออังกอร์ เป็นลูกชายของเธอที่เกิดกับอิศรา
“อย่าเพิ่งคิดอะไรมาก รอให้คุณอิศกลับมาก่อน จำเมื่อคราวที่แล้วได้ไหม”
รตีหันมากระซิบเตือนสติลูกสาว เพราะรู้ว่าตอนนี้หญิงสาวกำลังคิดแบบไหน คงไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่รู้สึกอะไรเลย ที่อยู่ดี ๆ มีคนมาบอกว่าเป็นภรรยาและมีลูกกับสามีของตัวเอง
นายหญิงของบ้านตัดสินใจเดินออกไปโทรศัพท์หาสามี เพราะเรื่องนี้คงศักดิ์คงต้องช่วยเธอตัดสินใจว่าจะต้องทำอย่างไรดี
“เดี๋ยวผมจะไปคุยกับตาอิศเอง เรื่องเก่าเพิ่งจะหายไป เรื่องใหม่มาอีกแล้ว คราวนี้ถึงขั้นมีลูกด้วย ฝากรตีดูหนูเพลินด้วยแล้วกัน เจอศึกหนักบ่อย ๆ จะแย่เอา”
คงศักดิ์เริ่มอดเป็นห่วงความรู้สึกของลูกสะใภ้ไม่ได้ ตอนแรกที่เขาตั้งใจให้ทั้งคู่แต่งงานกันเพราะเห็นลูกชายเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองส่วนชมเพลินก็เป็นผู้หญิงที่มีความอดทนเป็นเลิศและเขาจะได้สบายใจ ว่าทั้งลูกจริงและลูกเลี้ยงจะสุขสบายถ้าวันหนึ่งเขาไม่อยู่แล้ว
คงศักดิ์เริ่มกลับมาทบทวนว่าเขาคิดผิดไหม เพราะนอกจากนิสัยเอาแต่ใจตัวเองลูกชายของเขายังมีเรื่องเจ้าชู้เพิ่มมาอีกด้วย
“อิศสร้างเรื่องอีกแล้วนะ”
คงศักดิ์เดินไปหาลูกชายที่กำลังนั่งศึกษาเอกสารอยู่ที่ห้องส่วนตัวของเขาที่เพิ่งถูกสร้างขึ้นมาไม่นาน
“เรื่องอะไรอีกล่ะ ผมงงไปหมดแล้ว นั่งทำงานอยู่ดี ๆ คุณพ่อก็หาว่าผมไปสร้างเรื่อง”
ชายหนุ่มทำท่าทางหงุดหงิด เพราะเขาคิดว่าเขาก็พยายามทำตัวดีขึ้นแล้วยังจะมีเรื่องราวอะไรอีก
คงศักดิ์เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กับลูกชายฟัง อิศราไม่ได้มีสีหน้าแสดงความตกใจ แต่แสดงอาการโกรธออกมามากกว่า
“กลับบ้านกันเถอะครับ ผมนี่อยากจะเจอหน้าคุณเมธาวีจัง”
ระหว่างทางกลับบ้านอิศราตัดสินใจเล่าความจริงทุกอย่างที่เกี่ยวกับเขาและผู้หญิงที่ชื่อเมธาวี
“เธอคบอยู่กับเพื่อนผมชื่อโยธิน พวกเราเรียนด้วยกัน พอเรียนจบเพื่อนผมมันก็กลับมาไทยโดยที่ไม่รู้ว่าเมย์ท้อง กว่าเมย์จะรู้ตัวว่าท้อง โยธินมันก็โดนบังคับให้แต่งงาน ด้วยความสงสารผมก็เลยช่วยดูแลเมย์และลูกในท้องเป็นอย่างดี โดยโยธินคอยส่งเงินให้เพื่อแลกกับการไม่ให้เมย์มาแสดงตัว”
ชายหนุ่มส่ายหัวให้กับความซวยของตัวเอง คิดสงสารหญิงสาวแท้ ๆ เพราะเห็นแก่ความเป็นเพื่อน และต้องไปอยู่ต่างแดนแบบนั้น แต่สุดท้ายกลายเป็นตัวเขาเองที่ต้องเดือดร้อน
“และที่ผมหายไป ผมไม่จัดการทุกอย่างให้เธอเพื่อให้เธอใช้ชีวิตอยู่ที่อังกฤษได้โดยไม่มีผมคอยช่วยเหลือแล้ว แต่ที่ผมไม่บอกใครเพราะเรื่องมันยาวและเมย์ไม่ได้เกี่ยวข้องเป็นอะไรกับผม”
คงศักดิ์ทำหน้าครุ่นคิด ว่าจะหาทางออกให้กับเรื่องนี้อย่างไรดี ถึงจะดีที่สุดและจบแบบเด็ดขาด
“เอาแบบนี้ ถ้าเธอยืนยันว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของแก พ่อจะพูดเองว่าต้องมีการตรวจดีเอ็นเอ”
“ดีเลยครับ ผมมั่นใจ แค่จับมือผมยังไม่เคย เสียแรงที่ตอนหลังผมช่วยทั้งเรื่องเงิน เรื่องลูก เพราะอยู่ดี ๆ โยธินมันก็บอกว่าจะเลิกส่งเงินให้และไม่สนใจสองคนแม่ลูกนี้อีกแล้ว ผมถามเหตุผลมันก็ไม่ยอมบอก เถียงกันไปมาจนเกือบจะเลิกคบกันอยู่แล้ว”
อิศราไม่เคยรู้สึกผิดหวังเรื่องไหนเท่าเรื่องนี้มาก่อน เขาทำดีกับสองคนแม่ลูกทุกอย่างแล้วทำไมถึงได้มาทำกับเขาแบบนี้
อิศราและคงศักดิ์ถึงบ้าน รตีทำหน้าที่มายืนรอ และรีบพาทุกคนเข้าไปในบ้าน
ทันทีที่อิศราเดินเข้าไปในห้องรับแขก และเห็นหน้าผู้หญิงที่บอกว่าเป็นเมียเขา ความโกรธก็สุมเข้ามาในอกทันที
“เมย์คุณทำแบบนี้ต้องการอะไร”
ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงตะคอกแสดงถึงอารมณ์ที่เริ่มจะเกินควบคุมแล้ว
“เมย์ก็มาแสดงตัวให้ทุกคนในบ้านของคุณ รวมทั้งผู้หญิงที่คุณบอกกับเมย์ว่าคุณจะมาแต่งงานด้วย รู้ว่าคุณมีเมย์กับลูกอยู่แล้ว”
หญิงสาวทำเสียงเหมือนคนกำลังจะร้องไห้ ลุกขึ้นยืนจ้องหน้าอิศราด้วยสายตาอ้อนวอน
“เพลินเธอไม่ต้องไปฟังนะ ผมไม่เคยมีอะไรกับผู้หญิงคนนี้และอังกอร์ก็ไม่ใช่ลูกของผม”
อิศราเดินไปหาชมเพลินใช้มือโอบไหล่ของเธอไว้แน่น เพื่อต้องการแสดงให้อีกฝ่ายรู้ ว่าภรรยาตัวจริงของเขาอยู่ตรงนี้
“คุณนี่เองที่เป็นผู้หญิงที่อัศทิ้งฉันกับลูกมาแต่งงานด้วย นั่งคุยกันตั้งนานไม่คิดจะบอกฉันสักคำเลยนะคะ”
เมธาวีเดินมาใกล้กับคนทั้งคู่ก่อนจะใช้สายตาที่ข่มขู่มองหน้าหญิงสาวที่ท่าทางดูเรียบร้อยขี้กลัว
“พอได้แล้ว นั่งลงทุกคน ฉันเป็นพ่อของอิศรา ฉันขอตัดสินใจเรื่องนี้เอง”
คงศักดิ์ทนดูหญิงสาวผู้มาใหม่ทำท่าทางข่มขวัญชมเพลินต่อไปไม่ไหวแล้ว
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ ไหว้คุณปู่สิลูก”
เมธาวีสั่งให้ลุกชายวัยสองขวบกว่าเดินไปสวัสดีคงศักดิ์ ซึ่งเด็กก็คือเด็กทุกคนต่างมองด้วยความเอ็นดูและสงสาร
“เอาอย่างนี้เพื่อความถูกต้องและสบายใจของทุกฝ่าย ฉันจะตรวจดีเอ็นเอเด็กน้อยคนนี้ และถ้าผลออกมา ว่าเขาคือหลานของฉัน ฉันเองที่จะให้ลูกชายหย่าและรับผิดชอบเธอกับลูกทันที แต่ถ้าผลออกมาตรงข้ามทางครอบครัวเราจะฟ้องกลับข้อหาทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง เธอพร้อมใช่ไหมเมธาวี”
คงศักดิ์หันไปถามหญิงสาวอีกครั้ง เพื่อให้เธอได้ลองทบทวนดูใหม่ว่าเธอจะได้หรือจะเสียมากกว่ากัน
“พร้อมค่ะ ความจริงคือความจริงอยู่แล้ว” เมธาวีทำเสียงมั่นใจแต่แววตากับตรงข้าม
ระหว่างที่รอผลตรวจออก คงศักดิ์ให้เมธาวีและลูกพักอยู่ที่บ้าน และสั่งให้ชมเพลินลงมานอนข้างล่างกับอิศราทุกคืน เพราะกลัวอีกฝ่ายจะฉวยโอกาสหาวิธีการเล่นงานอิศรา
ตอนที่ 7เรือนหอสร้างเสร็จ ตลอดเวลาสามวันที่เมธาวีกับอังกอร์เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ หญิงสาวสร้างความปวดหัวให้กับอิศราและชมเพลินเป็นอย่างมาก ทั้งคู่จะต้องทะเลาะกันก่อนนอนทุกคืนด้วยเรื่องของแม่ลูกคู่นี้ และอิศราจะง้อภรรยาด้วยวิธีเดิมๆ ทุกที จนตอนนี้ชมเพลินเริ่มกลัวตัวเองจะพลาดท่าท้อง เพราะชายหนุ่มเล่นไม่หยุดเลยสักวัน อิศราตัดสินใจเข้าไปคุยกับเมธาวีที่สวนหน้าบ้าน ในวันที่สี่ของการมาอยู่ที่นี่ เพราะพรุ่งนี้ผมดีเอ็นเออาจจะออกแล้ว “เมย์พรุ่งนี้ผลอาจจะออกแล้ว ทั้งคุณทั้งผมต่างก็รู้ดี ว่าความจริงมันเป็นแบบไหน คุณยังจะฝืนอยู่ที่นี่เพื่ออะไร คุณพ่อของผมเขาฟ้องคุณจริง ๆ นะ” หญิงสาวเอื้อมมือมาจับมือของชายหนุ่มที่นั่งตรงข้ามแต่อิศรารีบดึงมือออกทันที เพราะรู้สึกทั้งกลัวและรังเกลียดเพื่อนคนนี้ไปแล้ว “เมย์รักอิศนะ อังกอร์ก็รักอิศเหมือนพ่อ พวกเราจะอยู่กันได้อย่างไรถ้าไม่มีอิศ” “คุณต้องอยู่ให้ได้ เพราะผมต้องมีชีวิตของผม อังกอร์ยังคงเป็นหลานของผมเช่นเดิม อย่าทำให้เรื่องแย่ไปกว่านี้เลย ถ้าคุณถูกฟ้อง ต้องใช้เงินสู้คดี พ่อแ
ตอนที่8ลองใจ เรือนหอตกแต่งเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองคนย้ายเข้าไปอยู่พร้อมกับทำบุญบ้านอย่างเป็นทางการ ชมเพลินมองบ้านหลังใหญ่ที่ตอนนี้มันกลายเป็นบ้านของเธอกับอิศราแล้วด้วยความรู้สึกดีใจ เธอกับเขาจดทะเบียนสมรสด้วยกันมาสามเดือนกว่าแล้ว ผ่านเรื่องวุ่นวาย ปวดหัวมาก็หลายเรื่อง ชมเพลินหวังว่าคงไม่มีเรื่องอะไรมาให้เธอต้องปวดหัวอีก “คืนนี้เราต้องฉลองห้องนอนใหม่กันสักหน่อย ผมคงต้องเอาจริงแล้ว สามเดือนกว่าแล้วยังไม่มีทีท่าว่าตัวน้อยจะมาเลย ป่านนี้คนเขาคงว่าผมไม่มีน้ำยาแน่ๆ” อิศราพูดจบก็ไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไป เขาจู่โจมบรรเลงบทรักเพื่อเพิ่มสมาชิกให้กับบ้านหลังใหญ่ทันที เช้านี้ชมเพลินต้องทำกับข้าวให้ตัวเองกับสามี แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากเพราะปกติเธอก็ทำอยู่แล้ว ตอนที่อยู่บ้านหลังโน้น อิศราเดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน พร้อมกับรอยยิ้มเมื่อได้กลิ่นอาหารที่ภรรยาทำ “แค่กลิ่น ผมก็หิวแล้ว ใกล้เสร็จหรือยังครับแม่ครัว” “นั่งรอที่โต๊ะเลยค่ะ อุ่นต้มอีกหน่อยก็พร้อมกินค่ะ” อิศรารักและคิดถึงแม่ของเขามาก เรื่องการทำอาหารก็เป็นส่วนหนึ่ง
ตอนที่9เมื่อเพื่อนไม่อยากเป็นเพื่อน ค่ำคืนที่แสนสับสนของชมเพลินและเป็นค่ำคืนที่แสนเจ็บปวดของอิศรา ชายหนุ่มนอนกอดหญิงสาวที่นอนนิ่งไม่พูดไม่จา เขาไม่คิดเลยว่าที่เขาคิดจะลองใจภรรยาจะทำให้เรื่องราวเลวร้ายไปแบบนี้ เพราะเรื่องก่อนหน้านี้ เธอก็ไม่เห็นจะมีอาการโกรธหรือไม่พอใจเขาเลย เช้านี้กับข้าวทุกอย่างถูกจัดวางไว้บนโต๊ะอาหารอย่างเรียบร้อย แต่ไร้เงาของชมเพลิน เธอออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า โดยที่ไม่ได้บอกใครแม้แต่รตีว่าเธอไปไหน “พ่อครับวันนี้ผมขอไม่ไปทำงานนะ ขออยู่บ้านง้อเมียหน่อยแต่ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าชมเพลินเขาออกไปไหน เขาบอกใครไว้มั่งหรือเปล่า” ชายหนุ่มเดินไปหาบิดาที่บ้านและพูดลอย ๆ เพื่อหวังให้ แม่เลี้ยงของเขาได้ยินและอาจจะบอกเขาว่าภรรยาของเขาไปไหน รตีเข้าใจว่าลูกเขยเธอต้องการอะไร แต่ในเมื่อเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกัน จึงได้แต่เดินเข้าไปในครัว ไม่สนใจขายหนุ่มที่กำลังหันมองตาม “ผู้หญิงถ้าเขาไม่รัก เขาก็จะไม่หึง แล้วถ้าเขาหึงจนถึงจุดอิ่มตัว เขาก็จะไปจากแกแล้วไม่กลับมา” คงศักดิ์ไม่ใช่พ่อประเภทเข้าข้างลูก เขาจึงพูดให
ตอนที่10คุณคือคนสำคัญ เช้าวันนี้รตีชวนลูกสาวออกไปเสริมสวยด้วย ทั้งที่ความจริงปกติแล้ว เธอก็ไปคนเดียวตลอด “ดูปล่อยเนื้อปล่อยตัว ที่คุณคงศักดิ์เขาไม่ให้ลูกไปทำงานแค่ไม่อยากให้ลูกต้องเหนื่อยกับการไปสู่รบกับผู้คนในสังคม เขาไม่ได้จะให้ลูกปล่อยเนื้อปล่อยตัวแบบนี้นะ” รตีมองหน้าลูกสาวที่นั่งรถข้าง ๆ เธอเพื่อไปยังร้านเสริมสวยที่เธอทำประจำ สองคนแม่ลูกใช้เวลาอยู่ในร้านเสริมสวยเกือบทั้งวัน เพราะทางร้านสั่งอาหารมาให้ “คุณแม่เพลินทำจะหมดทั้งตัวแล้วนะคะ กลับกันได้หรือยัง” หญิงสาวเริ่มกังวลว่าจะกลับไปไม่ทันทำกับข้าวมื้อให้สามีของเธอ “แม่ขอทำเล็บอีกครึ่งชั่วโมง รับรองกลับทันแน่นอน” สองคนแม่ลูกเดินออกจากร้าน รตีหันมามองหน้าลูกสาวของเธอ พอได้บำรุงนิดบำรุงหน่อยก็ดูสวยขึ้นเป็นกองเลย “จำคำแม่ไว้นะ การที่เรามีสามีต้องดูแลตัวเองอย่าคิดว่าเขาเลือกเราแล้ว จะไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะการที่เราปล่อยให้ตัวเองดูโทรมมันก็เท่ากับว่าเราดูแลตัวเองไม่เป็นแล้วเราจะไปดูแลคนอื่นได้อย่างไรกัน” รตีด้วยความเป็นแม่ เธออบรมสั่งสอนลูกสาวเรื่
ตอนที่11วิวาห์วุ่น นอกจากงานแต่งงานที่ต้องเตรียมกันอย่างเร่งด่วนแล้ว รตีต้องแยกตัวเองไปเฝ้าสามี ส่วนอิศราก็ต้องไปจัดการงานที่บริษัท หน้าที่เป็นแม่งานจึงตกเป็นของวรรษมน น้องสาวที่แสนน่ารักที่เต็มใจและเต็มที่กับการเตรียมงานให้พี่ชาย ทุกเย็นอิศราจะพาเจ้าสาวของเขาออกแจกการ์ดแขกต่าง ๆ โดยเลือกเฉพาะที่ใกล้ชิดและสนิทจริง ๆ เพราะโรงแรมที่เช่าสถานที่ไว้ รองรับแขกได้ไม่เกินสองร้อยคนเท่านั้น “เอ้า! มาไงล่ะเพื่อนได้ข่าวว่ากลับจากอังกฤษมาตั้งนานแล้ว ไม่เห็นมาแวะหากันบ้างเลย” โยธินเพื่อนสนิทที่สุดของอิศราเพราะทั้งคู่เรียนมัธยมด้วยกันและยังตามไปเรียนต่อที่อังกฤษด้วยกันอีก “ยุ่งหลายเรื่องว่ะ จริง ๆ มีเรื่องที่อยากจะคุยกับแกมากมายเลยไอ้โย” อิศราหยุดพูดทันที เมื่อภรรยาของโยธินเดินมาร่วมวงสนทนาด้วย พร้อมกับสาวใช้ที่นำขนมและเครื่องดื่มมาต้อนรับ “เพื่อนพี่โยคนนี้เข็มไม่ได้เจออีกเลยนะคะหลังจากงานแต่งงานของเรา” เข็มเธอเป็นลูกสาวผู้มีบารมีในบ้านเมืองที่พ่อของโยธินจับคลุมถุงชนให้ทันที หลังจากที่เขากลับมาจากอังกฤษ “พอกินเลี้ยงงาน
ตอนที่ 1นาทีของชีวิต อเรนโซมาเฟียหนุ่มลูกครึ่งอิตาลีไทยนั่งรถส่วนตัวจากบริษัทเล็ก ๆ ของครอบครัวที่เปิดสาขาในเมืองไทยจากสนามบินมายังโรงพยาบาลที่ตอนนี้มีคนที่เขารักกำลังจะจากเขาไป ภาพเก่าแห่งวันวานย้อนมาในความทรงจำ ความรักระหว่างมาเฟียหนุ่มกับหญิงสาวกำพร้าก่อตัวขึ้นเมื่อครั้งที่อเรนโซกลับมาดูแลบ้านและสาขาของบริษัทที่เมืองไทยเมื่อสี่ปีที่แล้ว เขาได้พบรักกับเบญญาหญิงสาวกำพร้าที่ทำงานเป็นเลขาในบริษัทนำเข้าอะไหล่รถยนต์ ทั้งคู่อยู่กินกันแบบลับ ๆ จนมีลูกด้วยกันสองคน คือเพชรกับทับทิม พอคิดขึ้นมาถึงลูก ๆ ทั้งสองคน อเรนโซพยายามเงยหน้าเพื่อไม่ให้น้ำตาที่แสนจะอ่อนแอไหลออกมาแต่สุดท้ายเขาก็พ่ายแพ้มัน การมาเมืองไทยครั้งนี้สำหรับอเรนโซมาเฟียที่มีเงินมากมายล้นฟ้ามันคือการมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัวเป็นครั้งสุดท้าย เบญญากำลังจะจากไปด้วยโรคมะเร็งที่เขาเองเพิ่งจะได้รู้ว่าเธอป่วยเมื่อหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เขาทุ่มเงินเพื่อยื้อชีวิตของภรรยาไว้และตั้งใจว่าเขากลับอิตาลีไปครั้งนี้เพื่อไปจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยและจะกลับมาดูแลภรรยาจนกว่าอาการของเธอจะดีขึ้นแต่สุดท้ายเขากลับต้
ตอนที่ 2คำขอสุดท้าย “เบญผมขอโทษ” คำพูดเดียวที่อเรนโซคิดได้ในเวลานี้ สายตาที่อ่อนแอมองสบตากับภรรยาที่เขาทอดทิ้งให้เธอต้องดูแลตัวเองและลูก ๆ มาโดยลำพังตลอด คนป่วยส่งยิ้มแบบฝืด ๆ ให้กับชายผู้ที่เป็นเจ้าของหัวใจเธอเพียงคนเดียว “คุณไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย เรื่องที่เบญป่วยมันเป็นเรื่องของร่างกายและคุณก็พยายามหาทางรักษาที่ดีที่สุดให้กับเบญแล้ว อย่าทำให้เบญไม่สบายใจที่เห็นคุณเศร้าแบบนี้สิคะ” สองมือซีดลูบหน้าสามีด้วยความเข้มแข็งที่มีเพียงน้อยนิดแต่เบญญาก็เลือกที่จะแสดงมันออกมาเพื่อให้ชายหนุ่มสบายใจขึ้นเพราะสิ่งที่เธอต้องการคือให้สามีเข้มแข็งเพื่อที่เขาจะต้องทำหน้าที่เป็นพ่อและดูแลลูก ๆ ทั้งสองคนต่อไปโดยที่ไม่มีเธอแล้ว “อเรนโซคุณสัญญาได้ไหมว่าถ้าเบญจากไปแล้วคุณจะไม่เอาลูก ๆ ไปอิตาลี เบญรู้ว่าคุณคงลำบากใจแต่คุณเข้าในใช่ไหมว่าที่นั่นไม่ได้ปลอดภัยและลูก ๆ ของเราก็ไม่เหมาะกับที่นั่น รับปากและสัญญากับเบญนะคะ” “ผมไม่ได้อยู่เมืองไทยแล้วลูก ๆ จะอยู่กับใคร ญาติพี่น้องทั้งของเบญและผมก็ไม่มี” ชายหนุ่มคิดไม่ออกว่าถ้าเขาไม่เอาลูก ๆ ไป
ตอนที่ 3เป็นภรรยาผมเถอะ อเรนโซเดินทางกลับจากเมืองไทยด้วยหัวใจที่บอบช้ำ เขาเพิ่งสูญเสียภรรยาและนี่พ่อก็โทรศัพท์มาบอกว่าแม่ของเขากำลังป่วยหนักอีก ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนชีวิตของเขากำลังอยู่ในช่วงที่เจอปัญหามากมายรุมเข้ามาถ้าไม่มีลูก ๆ อีกสองคนที่เขาต้องดูแล อเรนโซคิดว่าตัวเองคงสติหลุดไปมากกว่านี้แน่ ๆ “คุณพ่อ! คุณแม่! นี่มันอะไรกันครับ” ภาพมาร์โกและอมราที่นั่งรอลูกชายอยู่ที่ห้องรับแขกพร้อมกับหญิงสาวที่มาในชุดรัดรูปสีแดงที่รีบลุกขึ้นเดินตรงมาเกาะแขนของชายหนุ่มที่กำลังยืนมองทุกคนด้วยความแปลกใจในสิ่งที่เห็น ลอร่าใช้มือเล็กที่เกาะแขนอเรนโซพาตัวเขามานั่งลงข้าง ๆ เธอด้วยท่าทางที่ดูเหมือนคนกำลังมีความสุข “มาถึงเหนื่อย ๆ นั่งพักก่อนนะคะพี่เรน”หญิงสาวในชุดแดงรัดทุกส่วนของร่างกายอ้อนเสียงหวาน “ไหนคุณพ่อบอกว่าคุณแม่ไม่สบายแล้วนี่มันอะไรกันครับ” มาร์โกได้แต่หลบตาเมื่อถูกลูกชายถามด้วยน้ำเสียงและ แววตาที่ตำหนิและเสียใจกับการโกหกของผู้เป็นพ่อ อมราหญิงวัยใกล้หกสิบขยับตัวเพื่อทำหน้าที่ตอบแทนเพรา