ตอนที่ 2
คำขอสุดท้าย
“เบญผมขอโทษ”
คำพูดเดียวที่อเรนโซคิดได้ในเวลานี้ สายตาที่อ่อนแอมองสบตากับภรรยาที่เขาทอดทิ้งให้เธอต้องดูแลตัวเองและลูก ๆ มาโดยลำพังตลอด
คนป่วยส่งยิ้มแบบฝืด ๆ ให้กับชายผู้ที่เป็นเจ้าของหัวใจเธอเพียงคนเดียว
“คุณไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย เรื่องที่เบญป่วยมันเป็นเรื่องของร่างกายและคุณก็พยายามหาทางรักษาที่ดีที่สุดให้กับเบญแล้ว อย่าทำให้เบญไม่สบายใจที่เห็นคุณเศร้าแบบนี้สิคะ”
สองมือซีดลูบหน้าสามีด้วยความเข้มแข็งที่มีเพียงน้อยนิดแต่เบญญาก็เลือกที่จะแสดงมันออกมาเพื่อให้ชายหนุ่มสบายใจขึ้นเพราะสิ่งที่เธอต้องการคือให้สามีเข้มแข็งเพื่อที่เขาจะต้องทำหน้าที่เป็นพ่อและดูแลลูก ๆ ทั้งสองคนต่อไปโดยที่ไม่มีเธอแล้ว
“อเรนโซคุณสัญญาได้ไหมว่าถ้าเบญจากไปแล้วคุณจะไม่เอาลูก ๆ ไปอิตาลี เบญรู้ว่าคุณคงลำบากใจแต่คุณเข้าในใช่ไหมว่าที่นั่นไม่ได้ปลอดภัยและลูก ๆ ของเราก็ไม่เหมาะกับที่นั่น รับปากและสัญญากับเบญนะคะ”
“ผมไม่ได้อยู่เมืองไทยแล้วลูก ๆ จะอยู่กับใคร ญาติพี่น้องทั้งของเบญและผมก็ไม่มี”
ชายหนุ่มคิดไม่ออกว่าถ้าเขาไม่เอาลูก ๆ ไปอยู่อิตาลีแล้ว เด็กน้อยทั้งสองคนจะอยู่กับใครเพราะเขาคงไม่กล้าพอที่จะไว้ใจ จ้างคนมาเลี้ยงดูลูก ๆ โดยที่เขาอยู่ห่างจากลูกคนละประเทศแบบนี้แน่ ๆ
“เจ้านายของเบญจะดูแลลูก ๆ ของเราให้ค่ะ อนาคตคุณต้องมีครอบครัวใหม่เบญไม่อยากให้ลูกต้องไปเป็นปัญหา อิตาลี น่ากลัวเกินไปสำหรับเพชรกับทับทิม คุณเข้าใจใช่ไหมว่าเบญหมายถึงอะไร”
คนป่วยไม่อยากพูดออกมาตรง ๆ ว่าธุรกิจของครอบครัวสามีจะนำมาซึ่งความไม่ปลอดภัยของลูก ๆ รวมทั้งเบญญาไม่ต้องการให้เด็ก ๆต้องไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวที่ผิดกฎหมาย
“เบญผมไม่มีทางรักใครนอกจากคุณ” ชายหนุ่มส่ายหัวไปมา
“ไม่ค่ะอเรนโซ คุณต้องเริ่มต้นใหม่ ชีวิตของคุณต้องดำเนินต่อไปนะคะ ฉันเชื่อเสมอว่าคุณรักฉันถึงแม้ว่าต่อจากนี้ไปคุณจะมีครอบครัวใหม่ฉันก็ยังเชื่อเสมอว่าคุณยังรักฉันไม่เปลี่ยนแปลง”
มาเฟียหนุ่มยังคงยืนยันว่าเขาไม่ต้องการจะเริ่มต้นใหม่กับใครทั้งนั้นแต่เบญญาก็พยายามพูดให้สามีของเธอเข้าใจว่าเธอจะมีความสุขมากกว่าถ้าสามีของเธอจะมีคนคอยเคียงข้างในอนาคต อเรนโซจึงเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่องพูดเพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือเรื่องลูก
“เบญคุณมั่นใจแค่ไหนว่าเจ้านายของคุณจะดูแลและรักลูกเราได้ดีเท่าผม”
คนเป็นพ่อคิดว่าไม่น่าจะมีใครที่จะรักและปกป้องดูแลลูกได้ดีเท่าพ่อกับแม่แน่ ๆ
เบญญาเล่าเรื่องทั้งหมดตั้งแต่เธอกับขวัญข้าวรู้จักกันมาไม่มีครั้งไหนที่เจ้านายคนนี้จะไม่อยู่ข้างเธอโดยเฉพาะตั้งแต่เบญญามีลูกทั้งสองคน เจ้านายที่เป็นทั้งเพื่อนและเหมือนญาติพี่น้อง เพียงคนเดียว คอยดูแลเธอและลูกมาเป็นอย่างดี ทุกปัญหา ทุกความทุกข์และความสุข ไม่มีครั้งไหนที่ขวัญข้าวจะทิ้งเธอไป
อเรนโซยิ่งฟังยิ่งรู้สึกผิด ตัวเขาเองเป็นทั้งสามีและพ่อกลับไม่เคยทำหน้าที่ได้ดีเท่ากับเจ้านายของภรรยา
“เดี๋ยวคุณข้าวจะมาที่โรงพยาบาล เบญอยากให้คุณได้คุยกับเธอ ส่วนเรื่องลูก ๆ เบญได้บอกเธอไว้แล้วและคุณข้าวก็ยินดีที่จะดูแลเด็ก ๆทั้งสองต่อไปในฐานะแม่บุญธรรมเพราะเธอเลี้ยงทั้งสองคนมาตั้งแต่เกิด คุณสบายใจได้ค่ะ”
อเรนโซจับมือภรรยาไว้ตลอดที่พูดคุยกัน เขาพร้อมจะรับปากและทำตามที่คนป่วยต้องการทุกอย่างเพราะที่ผ่านมาเขาให้เธอเป็นฝ่ายทำตามความต้องการเขามาตลอดเพราะคิดว่าคงมีเวลาอีกนานที่เขาจะได้ดูแลภรรยาคนนี้แต่สุดท้ายเวลาที่เขาคิดจะแก้ตัวชดเชยให้เธอ มันไม่มีอีกแล้ว
ขวัญข้าวมาถึงโรงพยาบาลพร้อมกับเด็ก ๆ และพี่เลี้ยงที่เธอจ้างมาไว้เพื่อเตรียมตัวกับการรับช่วงดูแลเด็กน้อยทั้งสองคนนับจากนี้ไป
อเรนโซและเจ้านายของภรรยาได้เจอกันครั้งแรกและ ชายหนุ่มก็สัมผัสได้ว่าสายตาของขวัญข้าวที่มองเขาเป็นสายตาที่โกรธและไม่พอใจ มาเฟียหนุ่มเข้าใจว่าเพราะอะไรเขาถึงถูกมองด้วยสายตาแบบนั้นเพราะที่ผ่านมาเขาเห็นแก่ตัวที่คิดถึงแต่ตัวเองจนลืมความรู้สึกของภรรยาและขวัญข้าวก็คงรับรู้ถึงความทุกข์ใจของเบญญามาโดยตลอด
“คุณข้าวคะเด็ก ๆ กวนคุณไหมคะ”คนป่วยเกรงใจเจ้านาย
“ไม่เลยเบญ เด็ก ๆคือลูกของฉัน เธอไม่ต้องกังวลอะไร ฉันจะทำทุกอย่างแทนเธอให้ดีที่สุดเพราะก่อนหน้านี้ชีวิตของเพชรกับทับทิมก็มีแค่เธออยู่แล้วต่อไปก็แค่เปลี่ยนเป็นฉันเท่านั้น เธอไม่ต้องกังวลและเกรงใจอะไรทั้งนั้น ฉันจะรักพวกเขาให้เท่ากับที่ แม่แท้ ๆ คนหนึ่งรักลูก ฉันสัญญา”
คนตัวใหญ่อุ้มเด็กน้อยทับทิมไว้ด้วยมือข้างหนึ่งและอีกมือจับมือลูกชายไว้ ยืนฟังบทสนทนาระหว่างเจ้านายกับลูกน้องยิ่งทำให้เขารู้สึกผิดจนอายตัวเองไม่น่าที่จะได้เป็นพ่อคนเลย
นางพยาบาลเดินเข้ามาแจ้งญาติว่าหมดเวลาเยี่ยมแล้วเพราะอยากให้คนไข้ได้พักผ่อน ขวัญข้าวจึงขอให้อเรนโซไปคุยกับเธอต่อที่ร้านกาแฟข้างโรงพยาบาล ส่าวนเด็ก ๆให้คนรถและพี่เลี้ยงพากลับไปที่บ้านของเธอ
“วันนี้คุณดูรู้สึกผิด ดูเหมือนว่าคุณรักเบญมากแต่ฉันว่ามันสายเกินไปนะคะ”
ขวัญข้าวเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจทันทีเมื่อทั้งคู่นั่งลงที่เก้าอี้ในร้านกาแฟในมุมที่อยู่ไกลจากโต๊ะอื่น ๆ ในร้าน
“ผมรู้ผมผิด ผมขอโทษ” อเรนโซไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไร
“มาเฟียร่ำรวยระดับคุณ ใช้คำว่าขอโทษแก้ปัญหาแบบนี้เองหรือ โชคร้ายของเบญจริง ๆ ที่ต้องมาเจอกับคนอย่างคุณทั้งที่ผู้หญิงดี ๆ อย่างเบญควรจะได้มีครอบครัวที่อบอุ่นมีสามีที่ดีกว่านี้”
“ผมยอมรับแล้วว่าผมผิด คุณจะให้ผมทำอย่างไรในเมื่ออดีตมันก็กลับไปแก้ไขไม่ได้ คุณจะให้ผมเอาแต่นั่งสำนึกผิดใช่ไหมหรือผมต้องทำอย่างไร พูดออกมาเลย”
อเรนโซลุกขึ้นตะคอกใส่หญิงสาวตรงหน้าด้วยอารมณ์ที่มันอัดอั้นไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้สึกผิดแต่เขากำลังมาถึงทางตันของชีวิตที่ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไปพอมาได้ยินคำพูดของผู้หญิงที่เขาเพิ่งจะรู้จักเหมือนพูดซ้ำเติมแบบนี้ ชายหนุ่มจึงควบคุมอารมณ์ไม่อยู่
ขวัญข้าวลุกขึ้นคว้ากระเป๋าราคาหกหลักและหันมาพูดกับสามีของลูกน้องก่อนที่จะเดินออกจากร้านไป
“เพชรและทับทิมต้องอยู่เมืองไทยถ้าคุณยังมีความเป็นพ่อเหลืออยู่”
หญิงสาวเดินออกจากร้านไปแล้วแต่อเรนโซนั่งกุมมือทั้งสองข้างอยู่ที่เก้าอี้ตัวเดิมด้วยความรู้สึกที่สับสน เขารู้ว่าการที่ลูก ๆ ทั้งสองคนอยู่ที่เมืองไทยคือสิ่งที่ดีที่สุดแต่เขาเป็นพ่อเขาควรจะต้องเป็นคนดูแลลูกไม่ใช่ทิ้งให้เป็นภาระของคนอื่น
เวลาที่ทุกคนไม่อยากให้มาถึงแต่มันก็คือสิ่งที่ทุกคนต่างก็รู้ว่ามันต้องมาถึงในสักวัน เบญญาจากไปอย่างสงบ อเรนโซจัดงานศพให้ภรรยาอย่างยิ่งใหญ่เพราะมันคงเป็นสิ่งเดียวในเวลานี้ที่เขาจะทำให้เธอเป็นครั้งสุดท้าย
“ครับผมจะรีบกลับให้เร็วที่สุดครับ”
มาร์โกโทรศัพท์มาหาอเรนโซลูกชายคนเดียวของเขาเพื่อแจ้งว่ามารดาของชายหนุ่มกำลังป่วยหนักอาการไม่ดีให้อเรนโซรีบเดินทางกลับอิตาลีทันที
“ผมฝากลูก ๆ ด้วยนะ ผมต้องรีบไปดูคุณแม่และจะไปจัดการงานที่นู่นให้เสร็จ ผมตัดสินใจแล้วผมจะมาอยู่เมืองไทย”
ขวัญข้าวพยักหน้ารับฝากลูกทั้งสองคนด้วยความเต็มใจแต่เธอไม่เชื่อสักนิดว่าผู้ชายที่ทอดทิ้งลูกเมียอย่างอเรนโซจะกลับมาตามที่พูดไว้และมันก็ไม่สำคัญอะไรกับขวัญข้าวเพราะเธอเต็มใจที่จะดูแลเด็ก ๆในฐานะแม่ไปตลอดชีวิต
ชายหนุ่มผู้สูญเสียภรรยาเดินทางกลับอิตาลีโดยที่เขาไม่รู้เลยว่าที่นั่นมีเรื่องที่จะทำให้ชีวิตของเขานับจากนี้ไปจะต้องวุ่นวายและเดือดร้อนรออยู่
ตอนที่ 3เป็นภรรยาผมเถอะ อเรนโซเดินทางกลับจากเมืองไทยด้วยหัวใจที่บอบช้ำ เขาเพิ่งสูญเสียภรรยาและนี่พ่อก็โทรศัพท์มาบอกว่าแม่ของเขากำลังป่วยหนักอีก ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนชีวิตของเขากำลังอยู่ในช่วงที่เจอปัญหามากมายรุมเข้ามาถ้าไม่มีลูก ๆ อีกสองคนที่เขาต้องดูแล อเรนโซคิดว่าตัวเองคงสติหลุดไปมากกว่านี้แน่ ๆ “คุณพ่อ! คุณแม่! นี่มันอะไรกันครับ” ภาพมาร์โกและอมราที่นั่งรอลูกชายอยู่ที่ห้องรับแขกพร้อมกับหญิงสาวที่มาในชุดรัดรูปสีแดงที่รีบลุกขึ้นเดินตรงมาเกาะแขนของชายหนุ่มที่กำลังยืนมองทุกคนด้วยความแปลกใจในสิ่งที่เห็น ลอร่าใช้มือเล็กที่เกาะแขนอเรนโซพาตัวเขามานั่งลงข้าง ๆ เธอด้วยท่าทางที่ดูเหมือนคนกำลังมีความสุข “มาถึงเหนื่อย ๆ นั่งพักก่อนนะคะพี่เรน”หญิงสาวในชุดแดงรัดทุกส่วนของร่างกายอ้อนเสียงหวาน “ไหนคุณพ่อบอกว่าคุณแม่ไม่สบายแล้วนี่มันอะไรกันครับ” มาร์โกได้แต่หลบตาเมื่อถูกลูกชายถามด้วยน้ำเสียงและ แววตาที่ตำหนิและเสียใจกับการโกหกของผู้เป็นพ่อ อมราหญิงวัยใกล้หกสิบขยับตัวเพื่อทำหน้าที่ตอบแทนเพรา
ตอนที่ 4แผน การรอคอยที่ดูไร้ความหวังมันแสนจะทรมานแต่มันก็คือหนทางเดียวที่ดีที่สุดตอนนี้สำหรับชายหนุ่มที่ไม่อยากตัดสินใจผิดซ้ำซากอีกแล้ว อเรนโซคิดว่าคงไม่มีทางที่ขวัญข้าวจะยอมทำในสิ่งที่ เขาขอร้องแน่ ๆ เพราะภาพของเขาในสายตาของเธอมันช่างแสนเลวร้ายเหลือเกินและมันก็สมควรแล้วที่หญิงสาวจะรู้สึกกับเขาแบบนั้น มาเฟียหนุ่มนั่งดื่มอยู่ที่ระเบียงห้องนอนที่ใหญ่มากกว่าบ้านที่เขาซื้อให้กับเบญญาเสียอีก เรื่องราวเก่า ๆ ในความทรงจำ ย้อนเข้ามาในความคิดของคนที่เริ่มสติไม่อยู่ครบเพราะดื่มไป หลายแก้วแล้ว เสียงของขวัญข้าวที่โทรศัพท์หาเขาในวันที่เบญญาต้องเข้าผ่าตัดคลอดลูกชายคนโตโดยด่วนเพราะเธอล้มในห้องน้ำซึ่งตอนนั้นคนโทรมาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาคือใครรู้แค่เพียงเป็นสามีของลูกน้องเธอเพราะเบญไม่เคยบอกเล่ารายละเอียดของสามีให้ใครฟังตามที่สัญญาไว้ “คนอย่างคุณไม่ใช่แค่ไม่สมควรเป็นพ่อคนแต่คุณไม่ควรเกิดเป็นคนเลยด้วยซ้ำ” คำพูดของขวัญข้าวก่อนวางสายในวันนั้นยังดังอยู่ใน ความทรงจำของผู้ชายที่เลือกงานมากกว่าจะรีบเดินทางไปหาเม
ตอนที่ 5เผชิญหน้า อเรนโซเดินทางไปหาขวัญข้าวที่บ้านของเธอทันทีที่ถึงเมืองไทยเพราะตอนนี้เวลาที่เขาเหลืออยู่มีไม่มาก ขวัญข้าวเตรียมทุกอย่างให้กับตัวเธอและเด็ก ๆ ทั้งสองเพื่อพร้อมต่อการเดินทางแต่สิ่งที่ทำให้ทั้งขวัญข้าวและอเรนโซถึงกลับตกใจก็คือภาพของชัยชาญที่เดินลงจากบ้านมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ “คุณพ่อคะ คือ...คุณพ่อจะไปกับข้าวและเด็กหรือคะ” หญิงสาวถามด้วยความตกใจเพราะเธอกับบิดาคุยเรื่องนี้กันเกือบ ทั้งคืนแต่ชัยชาญไม่ยอมบอกเธอเลยว่าจะตามไปที่อิตาลีด้วย “ใช่ มีปัญหาอะไรกันไหม” อเรนโซรีบยืนยกมือไหว้ตามมารยาทของคนไทยเพราะตั้งแต่เขามาถึงเขายังไม่ได้เจอพ่อของขวัญข้าวเลยและจริง ๆ แล้วชายหนุ่มเคยเจอ ชัยชาญแค่เพียงช่วงงานศพของเบญญาเท่านั้น “ผมไม่มีปัญหาครับและยินดีที่คุณพ่อจะเดินทางไปกลับพวกเรา” การเดินทางครั้งนี้ไม่ได้มีแค่ชัยชาญ ขวัญข้าว อเรนโซและเด็ก ๆแต่ชัยชาญได้เอาคนของเขาไปด้วยหลายคนทั้งที่ไปแบบเปิดตัวและติดตามไปโดยที่อเรนโซไม่รู้ตัวเพราะสำหรับนักธุรกิจที่อายุมากและมากประสบการณ์อย่างชัยชาญเขารู้ดีว่าที่
ตอนที่ 6เมื่อแผนเริ่มต้น “ขวัญข้าวผมขอโทษแทนคุณแม่ด้วยนะที่ท่านพูดแบบนั้นกับคุณ” อเรนโซเดินเข้ามาจับมือของหญิงสาวที่กำลังเดินเข้ามายังห้องนอนของเขาเพื่อความสมจริงในบทสามีภรรยา “อเรนโซคุณทำได้มากกว่าพูดคำว่าขอโทษแบบนี้ ฉันเชื่อว่าเบญก็คงรอว่าสักวันคุณจะทำทุกอย่างในฐานะของพ่อได้ดีกว่าที่ผ่านมา วันนี้มันเพิ่งเริ่มต้นแต่จำไว้ฉันมีเวลาเล่นละครกับคุณได้ไม่นานเพราะชีวิตของฉันยังมีอีกหลายชีวิตที่ต้องดูแลถ้าคุณยังทำทุกอย่างให้ดีกว่านี้ไม่ได้ ฉันจะเอาเด็ก ๆกลับไปเมืองไทยและคุณก็ต้องลืมให้ได้ว่าทั้งเพชรและทับทิมคือลูกของคุณ” คืนแรกของการมาอยู่ที่อิตาลีของขวัญข้าว เธอสัมผัสได้ถึงความกดดันและไร้ความสุขของชายหนุ่มที่ภายนอกดูเป็นมาเฟียที่น่าเกรงขามแต่ยามอยู่ต่อหน้ามารดาเขากลายเป็นเพียงลูกชายที่ไม่รู้จักโต เพชรได้นอนกับพ่อคืนนี้เป็นคืนแรกหลังจากที่แม่ของเด็กน้อยจากไป “คุณพ่อครับที่นี่บ้านใคร” เด็กชายตัวน้อยที่หน้าตาถอดมาจากผู้เป็นย่าจนแทบจะไม่ต้องมีใครบอกก็รู้ได้ทันทีว่าเด็กน้อยเป็นหลานของย่าอมราที่แสนจะมีหัวใจที่ไร้ความเมตตาในตัวสายเลือ
ตอนที่ 7เด็ดขาด ขวัญข้าวเธอเรียนยิงปืนได้รวดเร็วมากทั้งที่ไม่เคยมีพื้นฐานมาเลยตอนนี้เธอก็เรียนการต่อสู้แบบตัวต่อตัวเพื่อใช้ในการป้องกันตัวในยามที่ไม่มีอาวุธทุกอย่างต้องรีบทำเพราะอีกสองวันชัยชาญก็จะเดินทางกลับเมืองไทยแต่ลูกน้องทุกคนของเขายังคงอยู่ที่นี่ต่อ ทั้งแบบที่มาแบบเปิดเผยตัวและไม่เปิดเผยตัวด้วยเพราะความเป็นพ่อชัยชาญไม่ไว้ใจว่าอเรนโซจะสามารถดูแลปกป้องลูกสาวเขาและเด็ก ๆ ได้ เขาจึงเลือกที่จะทิ้งคนของเขาไว้ที่นี่เพื่อความอุ่นใจ ลอร่ารับรู้เรื่องราวการมาของขวัญข้าวและลูก ๆ ตั้งแต่วันแรกที่ทุกคนเหยียบแผ่นดินอิตาลีแต่เธอคิดว่าการที่เธอไม่แสดงตัวน่าจะทำให้อมรารู้สึกกดดันมากกว่าและเธอแค่คอยมองดู อยู่ห่าง ๆ จนกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยแต่ถ้าทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่เธอคิด เธอก็จะเดินหน้าประกาศสงครามทันที “ลอร่าทำไมหนูไม่มาดูหน้าแม่สาวไทยใจง่ายหน่อยล่ะลูก” อมรากรอกเสียงตามสายไปหาลูกสะใภ้ที่เธออยากได้เพราะคิดว่าถ้าลอร่ามาปรากฎตัวอาจจะทำให้อเรนโซและขวัญข้าวมีปัญหาทะเลาะกันและจะง่ายต่อการแยกทั้งคู่ออกจากกัน “ลอร่าไม่ไปหรอกค่
ตอนที่ 8จากคนเพิ่งรู้จัก อเรนโซพกลูก ๆ และขวัญข้าวไปทุกที่ที่เขาต้องไปทำงานเพราะเขาไม่เชื่อใจใครทั้งนั้นในตอนนี้ งานที่เขาทำค้างไว้ต้องรีบทำให้เสร็จตามเวลาที่ชัยชาญได้ยื่นคำขาดไว้ก่อนจะกลับเมืองไทย “ฉันขอไปเดินเล่นข้างนอกบ้างได้ไหมตอนนี้ลูก ๆ หลับหมดแล้วไปแค่ใกล้ ๆ นี่แหละ ฉันสัญญาจะรีบกลับมาก่อนลูก ๆ ตื่นแน่นอน” ขวัญข้าวตั้งแต่เธอเดินทางมาที่อิตาลีเธอยังไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลยเพราะอเรนโซไม่ยอมให้เธอกับลูก ๆ ห่างกายและตัวเขาเองก็ไม่มีเวลามากพอที่จะพาเธอไปเที่ยวชมเมือง หญิงสาวจึงคิดว่า ไหน ๆ วันนี้เด็ก ๆ ก็นอนกลางวันกันหมดแล้ว เธอมองออกไปนอกหน้าต่างของบริษัทอยู่บ่อย ๆ จึงรู้ว่าด้านนอกของที่นี่ก็มีมุมให้ถ่ายรูปสวย ๆ มากมาย “มันอันตรายนะ คุณยังไม่รู้จักที่นี่มากพอรอผมว่างก่อนได้ไหมก่อนกลับไปเมืองไทยผมสัญญาจะพาคุณกับลูกไปเที่ยวแน่นอน” มาเฟียคนพื้นที่รู้ดีว่าที่นี่กฎหมายไม่ได้ป้องกันอันตรายได้จริงและสังคมของที่นี่ไม่ได้สวยงามเหมือนในสารคดีท่องเที่ยวที่คนทั่วไปเห็น เขาจึงเป็นห่วงและไม่อยากให้ภรรยาในนามอยู่ไกลจากตัวเขา “คุณส่งคนของคุณคอยต
ตอนที่ 9แลกด้วยชีวิตก็ยอม ลอร่าจับตัวขวัญข้าวไปที่ซ่องของเธอเพราะที่นั่นจะทำให้ผู้หญิงที่มาแย่งชายอันเป็นที่รักของเธอต้องตกนรกทั้งเป็น ซ่องไม่ใช่สิ่งที่ถูกกฎหมายของที่นี่แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมายที่ทางการสนใจขอเพียงแค่มีเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้และไม่สร้างปัญหาให้กับทางการต้องเดือดร้อนก็พอ “เธอเป็นใครแล้วที่นี่ที่ไหน” ขวัญข้าวเธอถามออกไปเป็นภาษาอังกฤษเพราะเธอพูดภาษาอิตาลีไม่ได้ “ฉันชื่อลอร่า เธอคงเคยได้ยินชื่อฉันแล้ว ในเมื่อรู้ว่าฉันเป็นใครคงไม่จำเป็นต้องอธิบายว่าเพราะอะไรฉันถึงต้องพาเธอมาที่ซ่องนี้” “ซ่อง ! ” ขวัญข้าวจากที่รู้สึกกลัวอยู่แล้วตอนนี้เธอยิ่งรู้สึกกลัวมากกว่าเดิมเมื่อรู้ว่าที่เธออยู่ตอนนี้คือซ่องและมันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ถ้าเธอยังหนีจากที่นี่ไปไม่ได้ “คุณปล่อยฉันไปเถอะเพราะถึงไม่มีฉันอเรนโซก็ไม่แต่งงานกับคุณเพราะเขารักคุณเหมือนน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น คุณต้องเชื่อฉันนะ” หญิงสาวที่กำลังตัวสั่นด้วยความกลัวพยายามพูดอ้อนวอนแต่มันกลับทำให้อีกฝ่ายรู้สึกโกรธมากขึ้น ลอร่ามองหน้าภรรยาของชายอันเป็
ตอนที่ 10เราเป็นหนี้ชีวิตของกันและกัน พายุฝนที่แสนน่ากลัวได้ผ่านพ้นไปแล้ว ชัยชาญเดินทางมาจากเมืองไทยอย่างเร็วที่สุดเพื่อมาดูแลลูกสาวที่ถูกยิง ขวัญข้าวคือคนที่มีอาการบาดเจ็บน้อยที่สุดเธอถูกยิงแค่เพียงถาก ๆ เท่านั้น แต่คนที่น่าเป็นห่วงที่สุดคืออเรนโซเพราะจุดที่ เขาถูกลอร่ายิงคือบริเวณที่ใกล้กับปอดมากที่สุดและตอนนี้ผ่านมาสองวันแล้วเขาก็ยังไม่รู้สึกตัว “กลับเมืองไทยเลยไหม” ชัยชาญกอดลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาเพื่อปลอบขวัญเพราะตั้งแต่เด็กจนโตเขาไม่เคยให้ขวัญข้าวต้องเจอกับเรื่องราวแบบนี้ส่วนตัวเขาก็เคยมีบ้างสมัยที่เริ่มทำธุรกิจใหม่ ๆ แต่มันก็ไม่ได้ดุเดือดป่าเถื่อนเหมือนที่เมืองนี้ อาจเป็นเพราะว่ากฎหมายที่นี่กับไทยต่างกัน “คุณพ่อพาเด็ก ๆ กลับเมืองไทยไปก่อนนะคะ ลูกทิ้ง อเรนโซไปตอนนี้ไม่ได้จริง ๆ ถ้าไม่มีเขามาบังกระสุนให้ป่านนี้คนที่นอนอยู่บนเตียงคงจะเป็นลูกแทน” ชัยชาญไม่ท้วงไม่ห้ามเพราะเข้าใจดีว่าตอนนี้ขวัญข้าวกำลังรู้สึกอะไร เขาเห็นแววตาของความรักความเป็นห่วงอยู่ในนั้นและเขาก็แน่ในว่าถ้าอเรนโซไม่ได้รู