ตอนที่ 9
แลกด้วยชีวิตก็ยอม
ลอร่าจับตัวขวัญข้าวไปที่ซ่องของเธอเพราะที่นั่นจะทำให้ผู้หญิงที่มาแย่งชายอันเป็นที่รักของเธอต้องตกนรกทั้งเป็น
ซ่องไม่ใช่สิ่งที่ถูกกฎหมายของที่นี่แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมายที่ทางการสนใจขอเพียงแค่มีเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้และไม่สร้างปัญหาให้กับทางการต้องเดือดร้อนก็พอ
“เธอเป็นใครแล้วที่นี่ที่ไหน”
ขวัญข้าวเธอถามออกไปเป็นภาษาอังกฤษเพราะเธอพูดภาษาอิตาลีไม่ได้
“ฉันชื่อลอร่า เธอคงเคยได้ยินชื่อฉันแล้ว ในเมื่อรู้ว่าฉันเป็นใครคงไม่จำเป็นต้องอธิบายว่าเพราะอะไรฉันถึงต้องพาเธอมาที่ซ่องนี้”
“ซ่อง ! ”
ขวัญข้าวจากที่รู้สึกกลัวอยู่แล้วตอนนี้เธอยิ่งรู้สึกกลัวมากกว่าเดิมเมื่อรู้ว่าที่เธออยู่ตอนนี้คือซ่องและมันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ถ้าเธอยังหนีจากที่นี่ไปไม่ได้
“คุณปล่อยฉันไปเถอะเพราะถึงไม่มีฉันอเรนโซก็ไม่แต่งงานกับคุณเพราะเขารักคุณเหมือนน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น คุณต้องเชื่อฉันนะ”
หญิงสาวที่กำลังตัวสั่นด้วยความกลัวพยายามพูดอ้อนวอนแต่มันกลับทำให้อีกฝ่ายรู้สึกโกรธมากขึ้น
ลอร่ามองหน้าภรรยาของชายอันเป็นที่รักของเธอด้วยความแค้นก่อนจะหันไปสั่งอะไรบางอย่างกับลูกน้องเป็นภาษาอิตาลี
“อยากรู้เหมือนกันถ้าพี่เรนรู้ว่าเมียของเขามีอะไรกับผู้ชายที่เดียวสิบคนภายในคืนนี้ เขาจะยังรักเธออยู่ไหม แม่สาวไทยคนสวย”
นิ้วเรียวของสาวชาวอิตาลีจิ้มไปที่หน้าผากของขวัญข้าวที่ตอนนี้โดนมัดติดอยู่กับเก้าอี้จนหญิงสาวเกือบหงายหลังลงไป
ขวัญข้าวรู้ว่าสิ่งที่ลอร่าพูดมันไม่ใช่แค่คำขู่แต่มันคือสิ่งที่หล่อนจะทำกับเธอจริง ๆ ตอนนี้หญิงสาวผู้ไม่มีทางสู้ทำได้เพียงแค่ภาวนาให้อเรนโซตามมาช่วยเธอได้ทันเพราะตอนนี้เธอไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากนั่งรอโชคชะตาจากฟ้าเท่านั้น
ทุกคนในห้องต่างพากันเดินออกไปทิ้งคนถูกมัดให้อยู่คนเดียวในห้องกว้างเท่านั้น ทันใดนั้นเองขวัญข้าวเห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับน้ำและอาหารเธอจำได้ดีเมื่อชายผู้นั้นนั่งลงต่อหน้าเธอ
“โอม!” หญิงสาวเรียกชื่อลูกน้องคนสนิทของบิดาเธอด้วยความดีใจ
“ใจเย็นครับคุณหนู ตอนนี้คุณอเรนโซส่งคนเข้ามาในนี้เกือบยี่สิบคนแต่ผมคือคนที่คนที่นี่ไม่คุ้นหน้าจึงไม่สงสัยส่วนคนอื่น ๆ คุณอเรนโซกลัวว่าคุณลอร่าอาจจะเคยเห็นหน้าแล้วจึงส่งผมมาช่วยเอาน้ำกับอาหารให้คุณกินก่อน”
ขวัญข้าวรีบกินน้ำและขนมปังเพราะอย่างน้อยมันจะช่วยให้เธอมีแรงถ้าต้องเกิดการต่อสู้กันขึ้นมา
โอมเสร็จจากหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเขากลับออกไปจากซ่องเพื่อรายงานให้อเรนโซรู้ว่าตอนนี้ขวัญข้าวถูกจับไว้ที่ส่วนไหนของซ่อง
ลูกน้องทั้งยี่สิบคนกระจายตัวกันอยู่ตามจุดต่าง ๆ เพราะอีกห้านาทีอเรนโซและลูกน้องน้องอีกกลุ่มจะให้สัญญาณและเข้าบุกชิงตัวขวัญข้าว
ลอร่ากลับเข้ามาในห้องเมื่อเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงนับจากที่เธอเดินออกไป เสียงปืนดังขึ้นลูกน้องของซ่องรีบวิ่งออกไป ข้างนอกตามเสียงปืนส่วนลอร่าเธอดึงผมของหญิงสาวที่เธอแสนเกลียดชังให้เจ้าของผมลุกขึ้นยืนและเดินตามเธอมา
เพี๊ยะ!
“อเรนโซนอกจากเขาจะไม่ได้ช่วยเธอออกไปแล้ว เขาจะต้องเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่ด้วย”
มือนุ่มของลูกสาวมาเฟียใหญ่ตบไปที่หน้าของสาวไทย ตัวเล็กอย่างแรงด้วยความแค้นและอิจฉาที่ผู้หญิงตรงหน้าได้หัวใจของชายที่เธอรักไป
ขวัญข้าวตกใจกับสิ่งที่ได้ยินเธอรับรู้เรื่องราวจากอเรนโซว่า ลอร่าหลงรักเขามาตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่น คนรักกันทำไมถึงได้คิดจะฆ่ากันเลยแบบนี้ หญิงสาวทั้งตกใจและกลัว เธอไม่อยากให้อเรนโซต้องเป็นอะไรถ้าเธอจะต้องไม่รอดกลับไปหาเด็ก ๆ แล้ว
“ลอร่า ! เธอไม่ทำจริง ๆ ใช่ไหม อเรนโซคือผู้ชายที่เธอรัก ไม่มีทางที่เราจะฆ่าคนที่เรารักได้ลงคอ”
“แต่มันไม่ใช่สำหรับฉัน อีโง่ ! ความรักของฉันคือการเอาชนะแต่ตอนนี้พี่เรนกำลังทำให้ฉันรู้สึกแพ้ ฉันก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องเก็บเขาไว้ ”
“ไม่นะลอร่า ! ”
“หุบปาก ! ถ้ายังอยากเจอหน้าผัวเธอก่อนตาย หรือฉันควรจะฆ่าเธอเสียตั้งแต่ตอนนี้ ไม่...ดีกว่า ฉันอยากให้พี่เรนได้เห็นเธอมีอะไรกับผู้ชายสิบคนพร้อมกันต่อหน้าเขา เขาจะได้รู้ว่าฉันเจ็บแค่ไหนที่ต้องโดนแย่งคนรักไปแบบนี้ ได้ยินไหม ฉันเจ็บ เธอได้ยินไหม!”
ขวัญข้าวปิดปากสนิทได้แต่เดินตามแรงดึงจากลอร่าที่ตอนนี้กระฉากแขนเธอให้เดินตามไปยังต้นกำเนิดของเสียงปืน
ลอร่าตอนนี้เธอไม่มีสติอะไรแล้วเธอมีแต่ความโกรธ โมโหและริษยาภายในหัวใจเท่านั้น ภายในหัวใจลึก ๆ ของเธอตั้งใจแค่เพียงทำลายชีวิตของขวัญข้าวด้วยการให้ลูกน้องในซ่องย่ำยีเธอให้เละที่สุดก่อนจะส่งตัวคืนไปให้อเรนโซแต่ตอนนี้เธอต้องการที่จะฆ่าชายหนุ่มด้วยมือของเธอเอง ชีวิตลูกสาวมาเฟียที่ไม่เคยถูกใครขัดใจเพราะเธอเกิดมาได้ไม่นานมารดาของเธอก็จากไป พ่อก็เลี้ยงเธอด้วยเงินและบารมีที่มีมากจนไม่มีใครในเมืองกล้าขัดใจเธอและในที่สุดความรักที่เธอหวาดฝันไว้กลับต้องพังลง เธอจึงต้องหาคนรับผิดชอบที่ทำให้เธอเสียใจและก็เสียหน้าซึ่งมันก็คืออเรนโซและขวัญข้าวที่ตอนนี้เดินเข้ามาอยู่ในถิ่นของเธอแล้ว
เสียงปืนมีแต่ดังเพิ่มขึ้นไม่มีทีท่าว่าจะลดน้อยลงจากตอนแรกที่ขวัญข้าวรู้สึกตกใจที่ได้ยินเสียงปืนจนเธอต้องสะดุ้งทุกครั้งแต่ตอนนี้เสียงปืนที่ดังไม่ขาดสายทำให้หญิงสาวตัดใจเลิกกลัวและพยายามที่จะรวบรวมสติเพื่อหาทางหนีให้ได้
“ไม่รู้ว่าเสียงปืนที่ได้ยิน จะมีนัดไหนไหมที่ฝังลงไปที่หัวใจ ของอเรนโซ ฉันกลัวจังกลัวว่าเขาจะตายก่อนที่ฉันจะได้เป็นคนฆ่าเขาด้วยมือของตัวเอง ฮ่า ๆ ๆ ”
ขวัญข้าวได้แต่มองหน้าคนพูดที่ตอนนี้ลอร่าเหมือนคนที่ เสียสติไปแล้วเธอดูล่องลอยโหดเหี้ยมแต่บางช่วงก็มีเสียงหัวเราะออกมา ยิ่งสร้างความน่ากลัวให้คนที่ถูกลากมาด้วยทั้ง ๆ ที่แขนก็ยังถูกมัดอยู่
หญิงสาวที่กำลังบ้าคลั่งพาเหยื่อความแค้นของเธอเดินฝ่าวงกระสุนอย่างไม่กลัวว่าอาจจะมีกระสุนพลาดมาโดนเธอ มีก็แต่ก็ขวัญข้าวที่ตัวสั่นไปหมดเพราะไม่รู้ว่าใครกำลังยิงใส่ใครบ้างตอนนี้
ปัง ! ปัง !
เสียงปืนดังขึ้นสองนัดสุดท้ายก่อนจะเงียบเสียงไป ขวัญข้าวรีบเอามือที่ปิดตาอยู่เปิดดูว่าเกิดอะไรขึ้น ภาพที่เขาเห็นคืออเรนโซนั่งลงไปกับพื้น เขาถูกยิงที่ขาและแขนเลือดอาบเต็มไปหมด
“อเรนโซ! คุณหนีไป” ขวัญข้าวตะโกนสุดเสียงแต่เธอกลับ ถูกลอร่าตบหน้าเธอด้วยด้ามปืนจนลงไปนอนกับพื้นในสภาพที่มือยังถูกมัดอยู่
มาเฟียหนุ่มที่ตอนนี้ถูกยิงที่ขาพยายามพาตัวเองคลานมาหาหญิงสาวที่นอนเลือดกบปากอยู่กับพื้นด้วยความเป็นห่วงสุดชีวิต
“ลอร่าปล่อยขวัญข้าวไปเถอะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ พี่เองที่เป็นคนทำร้ายหัวใจของลอร่าอย่าดึงคนอื่นเข้าไปเกี่ยวข้องเลย ถ้าชีวิตของพี่ไม่มีค่าอะไรกับน้องสาวที่พี่รักแล้ว ลอร่าก็ยิงพี่เถอะและปล่อยขวัญข้าวไป พี่ขอร้อง”
สายเลือดมาเฟียทั้งสองคนต่างมองสบตากัน ลอร่าเองก็ร้องไห้ออกมาอย่างไม่รู้ตัวเพราะในหัวใจของเธอไม่มีสักวินาทีเดียวที่หยุดรักผู้ชายตรงหน้าแต่ที่มันชนะความรักได้ในตอนนี้คือความแค้นที่เขาไม่เคยเห็นค่าในความรักของเธอเลย
ปัง! ปัง !
เสียงปืนดังขึ้นพร้อมกับร่างของลอร่าที่ทรุดลงไปนั่งกับพื้นแต่ด้วยสายเลือดของมาเฟียปืนที่เธอถืออยู่ถูกลั่นไกใส่ขวัญข้าวทันที
อเรนโซคว้าตัวภรรยาในนามของเขาเข้ามากอดแน่นพร้อมกลับหมุนตัวเองเข้ามารับกระสุนแทนจนทั้งสองคนค่อย ๆ ทรุดลงไปนั่งกับพื้น
ขวัญข้าวคว้าปืนที่หล่นจากมือของอเรนโซยิงใส่ลอร่าอย่างไม่ยั้งแต่ด้วยสติตอนนี้ที่แทบจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ลูกกระสุนจึงถูกแค่เพียงมือทั้งสองข้างของลูกสาวมาเฟียเท่านั้น
เสียงรถตำรวจขับเข้ามาที่ซ่องบรรดาลูกน้องของทั้งสองฝ่ายที่พอจะพาตัวเองหนีไปได้ก็พากันวิ่งหนีกันจนลืมเจ้านายที่กำลังบาดเจ็บ
ลอร่ายังคงนอนมองอเรนโซอยู่ที่พื้นทั้งที่ตอนนี้เนื้อตัวของเธอเต็มไปด้วยเลือดแต่อเรนโซเองหลับตาสนิทไม่มีเสียงพูดใด ๆ มีแค่เพียงเสียงลมหายใจที่ฟังดูแผ่วเบาลงทุกที
“อเรนโซ....!!”
ขวัญข้าวตะโกนเรียกชื่อสามีในนามของเธอสุดเสียงเมื่อมือของชายหนุ่มหล่นลงพื้น น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่ขาดสายพร้อมเสียงตะโกนให้คนรีบเข้ามาช่วยพาคนบนตักเธอส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด
“ตื่น คุณต้องตื่นมาช่วยฉันเลี้ยงลูก ๆ ฉันไม่ให้คุณไปไหนคุณต้องอยู่กับฉันนะอเรนโซ”
ตอนที่ 10เราเป็นหนี้ชีวิตของกันและกัน พายุฝนที่แสนน่ากลัวได้ผ่านพ้นไปแล้ว ชัยชาญเดินทางมาจากเมืองไทยอย่างเร็วที่สุดเพื่อมาดูแลลูกสาวที่ถูกยิง ขวัญข้าวคือคนที่มีอาการบาดเจ็บน้อยที่สุดเธอถูกยิงแค่เพียงถาก ๆ เท่านั้น แต่คนที่น่าเป็นห่วงที่สุดคืออเรนโซเพราะจุดที่ เขาถูกลอร่ายิงคือบริเวณที่ใกล้กับปอดมากที่สุดและตอนนี้ผ่านมาสองวันแล้วเขาก็ยังไม่รู้สึกตัว “กลับเมืองไทยเลยไหม” ชัยชาญกอดลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาเพื่อปลอบขวัญเพราะตั้งแต่เด็กจนโตเขาไม่เคยให้ขวัญข้าวต้องเจอกับเรื่องราวแบบนี้ส่วนตัวเขาก็เคยมีบ้างสมัยที่เริ่มทำธุรกิจใหม่ ๆ แต่มันก็ไม่ได้ดุเดือดป่าเถื่อนเหมือนที่เมืองนี้ อาจเป็นเพราะว่ากฎหมายที่นี่กับไทยต่างกัน “คุณพ่อพาเด็ก ๆ กลับเมืองไทยไปก่อนนะคะ ลูกทิ้ง อเรนโซไปตอนนี้ไม่ได้จริง ๆ ถ้าไม่มีเขามาบังกระสุนให้ป่านนี้คนที่นอนอยู่บนเตียงคงจะเป็นลูกแทน” ชัยชาญไม่ท้วงไม่ห้ามเพราะเข้าใจดีว่าตอนนี้ขวัญข้าวกำลังรู้สึกอะไร เขาเห็นแววตาของความรักความเป็นห่วงอยู่ในนั้นและเขาก็แน่ในว่าถ้าอเรนโซไม่ได้รู
ตอนที่1เปิดพินัยกรรม อิศราชายหนุ่มผู้มีนิสัยนักเลงปากไวไม่เคยยอมใคร โดยเฉพาะกับรตีแม่เลี้ยงของเขา และนี่ก็คือสาเหตุที่คงศักดิ์ ผู้เป็นบิดาต้องส่งให้ไปเรียนมหาวิทยาลัยที่ต่างประเทศ เพื่อสร้างควาสงบสุขให้กับทุกคนในบ้าน คงศักดิ์ตามตัวลูกชายให้กลับมาเมืองไทยแบบเร่งด่วน โดยให้เหตุผลว่าถ้าเขาไม่ยอมกลับมา มรดกทั้งหมดจะยกให้แม่เลี้ยงให้หมด “พ่อให้ผมกลับมาเพื่อมาฟังการอ่านพินัยกรรมทันที โดยที่ไม่คิดว่าผมควรจะพักก่อนบ้างเลยเหรอ” ชายหนุ่มโวยวายเสียงดัง เมื่อมาถึงบ้านก็ถูกพามาที่ห้องทำงานของบิดาเพื่อรอฟังการอ่านพินัยกรรมทันที “ถ้าแกไม่อยากฟังก็ไม่ต้องฟัง แล้วอย่ามาโวยวายทีหลังแล้วกัน” คนเป็นพ่อใช้ไม้แข็ง “รีบอ่านเลยคุณทนาย ผมจะได้รีบไปนอน” ทุกคนในห้องที่มีส่วนในพินัยกรรมต่างพากัน ถอนหายใจ ให้กับนิสัยของอิศราที่ไม่ว่ากี่ปีก็ไม่เคยเปลี่ยนไป เมื่อทุกคนมาอยู่พร้อมหน้ากันแล้ว ทนายความจึงเริ่มอ่านพินัยกรรมทันที “ที่ดินที่จังหวัดเชียงใหม่ข้าพเจ้านายคงศักดิ์ขอยกให้กับนายอิศรา บ้านและที่ดินที่เหลื
ตอนที่2เมียไม่ทันตั้งตัว อิศราคิดว่าวิธีการที่จะทำให้งานแต่งไม่ต้องเกิดขึ้น คือการบีบให้ชมเพลินยอมคืนสมบัติให้เขาโดยที่ไม่มีงานแต่งงาน ชายหนุ่มจึงเริ่มแผนการโดยการพูดจาดูถูกเหยียดหยามเธอให้เจ็บแสบที่สุด “สวัสดีครับ...เศรษฐีใหม่ ผมอิจฉาคุณลูกติดจริง ๆ ที่อยู่ดี ๆ ก็ส้มหล่นได้สมบัติก้อนใหญ่” ชมเพลินไม่โต้ตอบ พยายามเดินก้มหน้าเพื่อที่จะเดินขึ้นไปบนห้องนอนเพราะไม่อยากทนฟังคำพูดแบบนี้ “ยังไม่ทันจะโอนสมบัติเลย ก็หยิ่งไม่พูดกับคนจนอย่างผมเสียแล้ว หรือที่แท้คุณหนูชมเพลินอยากได้ผมเป็นสามีจนตัวสั่น เอะ! ผมเรียก ถูกใช่ไหม กลัวเรียกผิดไปจะโดนคุณหนูไล่ออกจากบ้าน” หญิงสาวที่กำลังเดินนำหน้าชายหนุ่มขึ้นบันได หันมาสบตาเขาด้วยแววตาที่แสดงถึงความผิดหวัง ถอนหายใจเฮือกใหญ่และรีบสาวเท้าต่อเพื่อเข้าห้องนอนให้เร็วที่สุด “ชมเพลินคุณจะมามองผมด้วยสายตาแบบนี้ไม่ได้นะ” เมื่ออิศราอ่านสายตาของอีกฝ่ายออกเขายิ่งรู้สึกแย่ลงไปกว่าเดิม จึงพยายามเดินให้ทันและเอื้อมมือหวังจะคว้าแขนเล็กของชมเพลินไว้ แต่ไม่ทันเพราะเธอเดินเข้าห้องและปิดประตูไปเสียก่อน “
ตอนที่3ความลับที่ไม่ลับ อิศราตื่นขึ้นมาและพบว่าตัวเองนอนอยู่ที่นอนเพียงคนเดียว ชายหนุ่มรู้สึกใจหาย ลึก ๆ เขาแอบกลัวว่าการที่เขาทำแบบนี้จะเสียเธอไปตลอดกาล เช้านี้ทุกคนพร้อมหน้ากันที่โต๊ะอาหาร ชายหนุ่มไปถึงเป็นคนสุดท้าย สายตาของบิดาที่มองมาทำให้อิศราเริ่มไม่แน่ใจ ว่าพ่อของเขารู้เรื่องเมื่อคืนนี้หรือยัง “วันนี้หลังจากที่กินมื้อเช้าเสร็จ พ่อของคุยกับลูกๆ ทุกคนและก็รตีด้วย” คำพูดของคงศักดิ์ทำเอาอิศรารีบหันไปมองหน้าชมเพลินแต่เธอกลับกำลังก้มหน้าเหมือนที่เธอชอบทำทุกครั้งเวลาที่ถูกเขามอง สำหรับชายหนุ่มแล้ว มื้อนี้เป็นมื้อที่กินข้าวได้ฝืดคอที่สุด เขาไม่รู้เหมือนกันว่าความจริงแล้ว เขาอยากให้บิดารู้เรื่องนี้หรือไม่ “ทุกคนคงพร้อมที่ฟังพ่อพูดแล้ว เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นอิศราจะให้พ่อถามไหม” ทั้งคนถูกเรียกชื่อและชมเพลินสะดุ้งสุดตัวหันมามองหน้ากันด้วยความตกใจ “เมื่อคืนไม่มีอะไรค่ะ” จากสาวน้อยที่ไม่ค่อยพูด อยู่ดี ๆ ชมเพลินก็พูดในสิ่งที่ไม่ได้มีใครถามเธอ “พ่อว่าพ่อไม่ได้เอ่ยชื่อเรานะ”คงศักดิ์ไม่ต้องการฟังทุกอย่างจาก
ตอนที่4การมาของสาวลูกครึ่ง อิศราหายไปจากบ้านได้เกือบสัปดาห์แล้ว โดยที่ไม่มีใครได้รู้ข่าวคราวของเขาเลย ชมเพลินเธอเริ่มแน่ใจแล้วว่า เขาคงไม่กลับมาจนกว่าจะครบห้าปีแน่ ๆ เพราะเขาคงต้องการแค่จดทะเบียนสมรสกับเธอเท่านั้น ส่วนเรื่องของเธอกับเขา มันก็คงเป็นเพียงแค่เรื่องที่เกิดขึ้นและจบไป “คุณคะมีแขกมาที่หน้าบ้านค่ะ หน้าตาเหมือนจะไม่ใช่คนไทย แต่ก็เหมือนคนไทยนะคะ” ป้าฤทัยแม่บ้านของครอบครัวนี้ เดินหน้าตื่นมาบอกคงศักดิ์ที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่โซฟาห้องรับแขก “ฟังแล้วก็งงดี สรุปจะเหมือนหรือไม่เหมือนคนไทย เอาเป็นว่า ไปเชิญเขาเข้ามาแล้วกัน” ป้าฤทัยรับคำสั่งเสร็จก็รีบวิ่งกลับไปที่ประตูหน้าบ้าน เพราะเธอไม่ยอมเปิดประตูให้แขกเลย ด้วยความไม่คุ้นหน้าเธอจึงรู้สึกไม่ไว้วางใจ “เชิญนั่งก่อนครับ” คงศักดิ์หันไปพูดกับสาวผมสีน้ำตาดวงตาสีฟ้าแต่มีเคล้าหน้าเหมือนคนไทย“ไปเรียกคุณรตีกับลูกฉันมาด้วย แล้วก็ยกน้ำมาดูแลแขกด้วยนะ” เจ้าของบ้านหันไปสั่งป้าฤทัย“หนูเป็นใครมาจากไหน แนะนำตัวหน่อนสิ”“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อลิเดียแป็นแฟนอิศค่ะ เราอยู่ด้วยกันที
ตอนที่5หึงหรือหวง คงศักดิ์กำลังจะเตรียมตัวออกไปแจ้งความเรื่องของ ลูกชายที่หายตัวไป แต่เขาดันกลับมาเสียก่อน “มาแล้วเหรอพ่อตัวดี” คงศักดิ์ทักทายลูกชาย ด้วยน้ำเสียงที่ออกจากไรฟันอย่างสุดจะโมโห “แล้วจะไปไหนกัน เตรียมจะไปกันทั้งบ้านเลย” อิศราเห็นทุกคนไม่เว้นแม้แต่ชมเพลิน ก็มายืนหน้าบ้านรอคนขับรถเอารถออกมารับจึงถามด้วยความสงสัย “ก็จะไปแจ้งความคนหายอย่างไรกันล่ะ แกทำอะไรลงไปรู้ไหมเขาเป็นห่วงกันทั้งบ้าน ปลอดภัยกลับมาก็ดีแล้ว ยังมีเรื่องที่แกกับฉันยังต้องคุยกันอีก” อิศราถึงกับรู้สึกหวาดหวั่นกับน้ำเสียงที่บิดาของเขาใช้ นานมากแล้วที่พ่อของเขาไม่ได้ใช้น้ำเสียงแบบนี้กับใคร ทุกคนต่างถูกสั่งให้มานั่งรับฟังเรื่องที่คงศักดิ์จะพูดคุยกับลูกชายด้วย เพราะถือว่าเหตุการณ์ในวันนั้นทุกคนต่างก็รับรู้ร่วมกัน “ไหนแกบอกว่าไปจัดการเรื่องแฟนแกที่อังกฤษ และทำไมถึงกลายเป็นว่าผู้หญิงเขาถึงได้มาตามหาแกที่นี่”คงศักดิ์ใส่อารมณ์ “พ่อพูดเรื่องอะไร ผมงงไปหมดแล้ว” ชายหนุ่มไม่ได้แกล้ง แต่เขาไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าบิดาข
ตอนที่6การมาของใครสองคน เช้านี้เป็นเช้าที่สดใสและมีความสุขสำหรับชมเพลิน เพราะเธอได้นอนกอดกับผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี ถึงแม้ตอนเช้าเธอจะต้องรีบตื่นก่อนทุกคนในบ้านก็ตามเพราะไม่อยากให้ใครมาเห็น “วันนี้เข้าบริษัทแล้วเริ่มเรียนรู้งานเลยนะ ถึงพ่อจะยกหุ้นให้น้องแต่แกเป็นพี่อย่างไรก็ต้องช่วยน้องอยู่ดี” คงศักดิ์ไม่ได้ยกหุ้นในบริษัทให้กับอิศราก็จริง แต่เขาแต่งตั้งชายหนุ่มเป็นผู้จัดการบริษัท มีเงินเดือนเกือบสองแสนบาทและมีหน้าที่ดูแลบริษัทรองจากประธานที่ตอนนี้คงศักดิ์ดำรงตำแหน่งอยู่ “ผมขอช่วยจนน้องเรียนจบนะ เพราะผมคงต้องหาทำกิจการของตัวเองจากที่ดินที่ผมได้บ้าง แต่ก็คงยังช่วยน้องอยู่เพียงแต่ไม่เต็มตัว” คำพูดของอิศราทำให้คนเป็นพ่อรู้สึกภูมิใจที่ลูกชายของเขาเริ่มโต และอยากจะยืนด้วยขาของตัวเอง “ก็ได้ แต่อย่าทิ้งน้องแล้วกัน ตอนนี้ก็คิดไปก่อนว่าจะทำอะไร คิดได้ค่อยมาปรึกษากันดู” คงศักดิ์อยากรู้ว่าลูกชายของเขาจะใช้ที่ดินที่ได้ทั้งที่เชียงใหม่ เชียงราย ปทุมธานี อยุธยา เพื่อใช้ทำกิจการอะไรบ้าง ชมเพลินนั่งฟังสองคนพ่อลูกคุยกันบนโต๊ะอ
ตอนที่ 7เรือนหอสร้างเสร็จ ตลอดเวลาสามวันที่เมธาวีกับอังกอร์เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ หญิงสาวสร้างความปวดหัวให้กับอิศราและชมเพลินเป็นอย่างมาก ทั้งคู่จะต้องทะเลาะกันก่อนนอนทุกคืนด้วยเรื่องของแม่ลูกคู่นี้ และอิศราจะง้อภรรยาด้วยวิธีเดิมๆ ทุกที จนตอนนี้ชมเพลินเริ่มกลัวตัวเองจะพลาดท่าท้อง เพราะชายหนุ่มเล่นไม่หยุดเลยสักวัน อิศราตัดสินใจเข้าไปคุยกับเมธาวีที่สวนหน้าบ้าน ในวันที่สี่ของการมาอยู่ที่นี่ เพราะพรุ่งนี้ผมดีเอ็นเออาจจะออกแล้ว “เมย์พรุ่งนี้ผลอาจจะออกแล้ว ทั้งคุณทั้งผมต่างก็รู้ดี ว่าความจริงมันเป็นแบบไหน คุณยังจะฝืนอยู่ที่นี่เพื่ออะไร คุณพ่อของผมเขาฟ้องคุณจริง ๆ นะ” หญิงสาวเอื้อมมือมาจับมือของชายหนุ่มที่นั่งตรงข้ามแต่อิศรารีบดึงมือออกทันที เพราะรู้สึกทั้งกลัวและรังเกลียดเพื่อนคนนี้ไปแล้ว “เมย์รักอิศนะ อังกอร์ก็รักอิศเหมือนพ่อ พวกเราจะอยู่กันได้อย่างไรถ้าไม่มีอิศ” “คุณต้องอยู่ให้ได้ เพราะผมต้องมีชีวิตของผม อังกอร์ยังคงเป็นหลานของผมเช่นเดิม อย่าทำให้เรื่องแย่ไปกว่านี้เลย ถ้าคุณถูกฟ้อง ต้องใช้เงินสู้คดี พ่อแ