ตอนที่ 8
จากคนเพิ่งรู้จัก
อเรนโซพกลูก ๆ และขวัญข้าวไปทุกที่ที่เขาต้องไปทำงานเพราะเขาไม่เชื่อใจใครทั้งนั้นในตอนนี้ งานที่เขาทำค้างไว้ต้องรีบทำให้เสร็จตามเวลาที่ชัยชาญได้ยื่นคำขาดไว้ก่อนจะกลับเมืองไทย
“ฉันขอไปเดินเล่นข้างนอกบ้างได้ไหมตอนนี้ลูก ๆ หลับหมดแล้วไปแค่ใกล้ ๆ นี่แหละ ฉันสัญญาจะรีบกลับมาก่อนลูก ๆ ตื่นแน่นอน”
ขวัญข้าวตั้งแต่เธอเดินทางมาที่อิตาลีเธอยังไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลยเพราะอเรนโซไม่ยอมให้เธอกับลูก ๆ ห่างกายและตัวเขาเองก็ไม่มีเวลามากพอที่จะพาเธอไปเที่ยวชมเมือง หญิงสาวจึงคิดว่า ไหน ๆ วันนี้เด็ก ๆ ก็นอนกลางวันกันหมดแล้ว เธอมองออกไปนอกหน้าต่างของบริษัทอยู่บ่อย ๆ จึงรู้ว่าด้านนอกของที่นี่ก็มีมุมให้ถ่ายรูปสวย ๆ มากมาย
“มันอันตรายนะ คุณยังไม่รู้จักที่นี่มากพอรอผมว่างก่อนได้ไหมก่อนกลับไปเมืองไทยผมสัญญาจะพาคุณกับลูกไปเที่ยวแน่นอน”
มาเฟียคนพื้นที่รู้ดีว่าที่นี่กฎหมายไม่ได้ป้องกันอันตรายได้จริงและสังคมของที่นี่ไม่ได้สวยงามเหมือนในสารคดีท่องเที่ยวที่คนทั่วไปเห็น เขาจึงเป็นห่วงและไม่อยากให้ภรรยาในนามอยู่ไกลจากตัวเขา
“คุณส่งคนของคุณคอยตามฉันก็ได้ ฉันไปแค่นี้เองมีร้านขายน้ำหอมอยู่ใกล้ ๆ ที่นี่ฉันมองเห็นจากทางหน้าตา ซื้อเสร็จแวะถ่ายรูปไม่กี่ภาพแล้วฉันจะรีบกลับมา”
คนเป็นห่วงอยากจะขัดใจแต่ก็อดสงสารไม่ได้ที่ขวัญข้าวมีชีวิตของเธออยู่ดี ๆ กลับต้องมายุ่งวุ่นวายไปหมดเพียงเพราะต้องการปกป้องลูก ๆ ของเขาและเพื่อให้เขาได้ไปอยู่เมืองไทยทำหน้าที่พ่อให้ดีที่สุด
อเรนโซยอมใจอ่อนเขาตั้งใจจะส่งคนตามขวัญข้าวให้ได้มากที่สุดแต่กลับพบว่าลูกน้องหลายคนถูกมารดาของเขาเรียกใช้ ให้ไปกับท่านเพราะวันนี้มีนัดคุยเรื่องผลประโยชน์ของบ่อนกลับบริษัทนำเที่ยวซึ่งก็ล้วนแต่เป็นบริษัทลูกหม้อของบิดาของลอร่าทั้งนั้น ชายหนุ่มจึงคิดว่ามารดาของเขาก็คงแอบกลัวอยู่เหมือนกัน สุดท้ายจึงได้ลูกน้องตามไปดูแลหญิงสาวแค่เพียงสองคนเท่านั้น
ขวัญข้าวออกไปได้ไม่ถึงสิบนาที ทับทิมก็ตื่นพี่เลี้ยงพยายามชวนเธอเล่นเพื่อไม่ให้ไปกวนอเรนโซที่กำลังทำงานแต่ตอนนี้ลูกสาวเริ่มติดพ่อเข้าแล้วเพราะคนเป็นพ่อตามใจทุกอย่างไม่เคยดุสักคำ มีแต่ขวัญข้าวที่มักจะดุเวลาที่ทับทิมชอบร้องงอแงเมื่อไม่ได้อย่างใจและสุดท้ายอเรนโซก็จะยอมตามใจลูกทุกอย่าง
ทั้งสี่คนพ่อแม่ลูกได้มาอยู่ด้วยกันที่อิตาลีแค่เพียงสองสัปดาห์แต่มันกลับสร้างความผูกพันขึ้นอย่างมากมายเพราะไม่มีเวลาไหนเลยที่ทั้งสี่คนจะห่างกันนอกจากตอนนี้ที่ขวัญข้าวออกไปเดินเล่นเพียงคนเดียวและมันก็ทำให้ชายหนุ่มไม่สบายใจเอามาก ๆ
อเรนโซอยากจะตามขวัญข้าวไปตอนนี้แต่อีกใจเขาก็ไม่กล้าที่จะทิ้งเด็ก ๆ ทั้งสองคนให้อยู่กับพี่เลี้ยงถึงแม้จะมีคนของชัยชายอีกสองคนอยู่ด้วยก็ตามเพราะชายหนุ่มก็ไม่แน่ใจว่าพนักงานของเขาที่นี่แท้จริงแล้วมีใครเป็นคนของลอร่าหรือเปล่าเพราะสังคมของนักธุรกิจสีเทาจนไปถึงดำที่นี่มีทั้งเล่นกันต่อหน้าและหลับหลัง ทุกคนจึงต้องระวังตัวตลอดเวลา
ทับทิมนั่งตักคุณพ่อและดูการ์ตูนจากหน้าจอคอมพิวเตอร์จับมือพ่อแน่นเหมือนกลัวว่าอีกฝ่ายจะทิ้งเธอไปไหน คนเป็นพ่อใช้เวลาทุกนาทีนับตั้งแต่เบญญาจากไปทุ่มเทให้ลูกทั้งสองคนให้ได้มากที่สุดเพื่อชดเชยที่เขาเคยละเลยกับดวงใจทั้งสองของเขาและเขาจะไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้นอีกเด็ดขาด
เพชรตื่นนอนเพราะนอนมานานถึงชั่วโมงแล้วแต่ตอนนี้ ขวัญข้าวก็ยังไม่กลับมาจนในที่สุดอเรนโซก็ตัดสินใจที่จะออกตามไปข้างนอกเพราะตอนนี้มาร์โกได้กลับจากงานข้างนอกและมารับหน้าที่คุณปู่ดูแลหลาน ๆ แทน
ร้านน้ำหอมที่อยู่ไม่ไกลจากตึกบริษัทของชายหนุ่มตอนนี้มีผู้คนยืนมุงดูอยู่เป็นจำนวนมาก อเรนโซรู้ได้ทันทีว่าต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นที่ร้านนี้แน่ ๆ
ชายหนุ่มสอบถามผู้คนที่มุงดูอยู่จึงได้รู้ว่ามีผู้หญิงต่างชาติโดนอุ้มตัวไปเพราะเธอเป็นผู้หญิงขายตัวและติดหนี้การพนันที่บ่อนลักษณะของหญิงสาวที่โดนจับตัวไปตามคำบอกของเจ้าของร้านทำให้อเรนโซแน่ใจได้ทันทีว่าคือขวัญข้าว
อเรนโซรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังทั้งโกรธและโมโหจนขาดสติทั้งที่ความจริงเรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นกับคนที่อเรนโวให้ ความสนิทสนมอยู่บ่อย ๆ เวลาที่ศัตรูทางธุรกิจของเขาต้องการ ล้างแค้นแต่ทุกครั้งมาเฟียหนุ่มจะมีสติและสุขุมในการแก้ปัญหาแต่ครั้งนี้เขากลับรู้สึกเป็นห่วงขวัญข้าวจนสมองแทบจะคิดอะไรไม่ออกเขาจึงรีบโทรศัพท์ไปหาบิดาทันที
มาร์โกบอกให้ลูกชายใจเย็นและเขาจะตามลูกน้องมือดี ๆ ให้รีบตามไปช่วยขวัญข้าวให้เร็วที่สุด
“มือดี ๆ ของเราไปกับคุณแม่อีกเมืองหมดแล้วกว่าจะกลับมาจะช้าเกินไหมไหมครับคุณพ่อ”
มาร์โกถึงกลับตกใจเพราะวันนี้อมราไม่ดี้ธุระอะไรและก่อนที่เขาจะกลับเข้ามาที่บริษัทเขาเพิ่งเห็นภรรยาของเขาอยู่ที่ ร้านเพชรซึ่งเป็นกิจการที่ถูกกฎหมายของเธออยู่เลย
อเรนโซได้รับรู้ข้อมูลแบบนี้จากบิดาเขาจึงรู้ได้ทันทีว่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นแผนของลอร่าและมารดาของเขาร่วมมือช่วยเหลือให้แผนสำเร็จได้โดยง่ายโดยการเอาลูกน้องทั้งหมดไปไว้ที่ร้านเพชรและโกหกว่าเดินทางไปอีกเมืองหนึ่ง
“คุณอเรนโซพวกมันจับคุณหนูขึ้นรถคันนี้ไปและเดินทางมุ่งหน้าไปที่ทางทิศเหนือของถนนเส้นนี้ คุณไม่ต้องตกใจผมเป็นลูกน้องของคุณชัยชาญมีเพื่อนผมอีกคนกำลังตามรถคันนั้นไปส่วนลูกน้องของคุณถูกจับมัดไว้ที่ใต้สะพาน”
ชายไทยที่อเรนโซไม่คุ้นหน้าเดินเข้ามาบอกรายละเอียดด้วยสภาพที่เนื้อตัวผ่านการต่อสู้มา ใบหน้ายังคงมีเลือด หายใจหอบเหนื่อย ชายหนุ่มจึงให้เลขาของเขารีบโทรศัพท์ตามรถพยาบาลทันที
“คุณพ่อครับโรงแรมของลอร่าที่เปิดเป็นซ่องอยู่ห่างจากบริษัทเราไปทางเหนือใช่ไหมครับ”
อเรนโซโทรศัพท์ถามข้อมูลจากบิดาเพราะถ้ารถมุ่งหน้าไปทางเหนือซึ่งเส้นทางนั้นไม่ได้เป็นเส้นทางไปสู่เขตอิทธิพลของครอบครัวลอร่าแล้วก็คงมีที่เดียวที่ลอร่าจะพาขวัญข้าวไปคือซ่อง ซ่องที่น้อยคนนักจะรู้ว่าลอร่าเปิดขึ้นเองไม่เกี่ยวกับบิดาของเธอ
ชายหนุ่มขับรถหรูพร้อมอาวุธครบมือมุ่งหน้าไปยังซ่องเพียงคนเดียว มาร์โกใช้เวลารวบรวมลูกน้องมือดีเกือบครึ่งชั่วโมงเพื่อให้ตามอเรนโซไป ส่วนตัวเขาพาหลาน ๆ กลับบ้านเพื่อไปหาอมราและถามความจริงจากปากของภรรยาว่าเธอมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้ไหม
อเรนโซพยายามรวบรวมสติให้กลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง เขาจะไม่ยอมปล่อยให้ขวัญข้าวเป็นอะไรเด็ดขาด ชีวิตของเขาสูญเสียมามากพอแล้วแม้แลกด้วยชีวิตเขาก็ยอมถ้ามันจะทำให้ผู้หญิงที่ยอมเสียสละช่วยเขาในหลาย ๆ เรื่องปลอดภัย
“คุณต้องไม่เป็นอะไรนะขวัญข้าว”
มาเฟียหนุ่มไม่มีน้ำตาไหลออกมาสักหยดเพราะเขาร้องไห้อยู่ในใจภาพความอบอุ่นตลอดเวลาสองสัปดาห์ที่ขวัญข้าวเข้ามาในชีวิตของเขา เธอเข้ามาทำหน้าที่แทนเบญญาเป็นทั้งแม่ให้กับเด็ก ๆ และทำหน้าที่ภรรยาในนามอยู่เคียงข้างเขาตลอดถึงแม้จะต้องเจอคำดูถูกจากมารดาของเขาเธอก็อดทนไม่ถอดใจทั้งที่เธอไม่จำเป็นต้องทนเพราะคำดูถูกเหล่านั้นไม่เกี่ยวกับตัวเธอเลย
รถยนต์ราคาหลายสิบล้านขับมุ่งหน้าออกนอกเมืองด้วยความเร็วที่แทบจะทำให้ทุกอย่างที่อยู่ข้างถนนปลิวขึ้นไปบนอากาศได้แต่มันก็ยังเร็วน้อยกว่าหัวใจที่แสนจะเป็นห่วงของอเรนโซที่มีต่อ ผู้หญิงที่เขาเพิ่งจะรู้จักเธอได้ไม่นาน
ตอนที่ 9แลกด้วยชีวิตก็ยอม ลอร่าจับตัวขวัญข้าวไปที่ซ่องของเธอเพราะที่นั่นจะทำให้ผู้หญิงที่มาแย่งชายอันเป็นที่รักของเธอต้องตกนรกทั้งเป็น ซ่องไม่ใช่สิ่งที่ถูกกฎหมายของที่นี่แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมายที่ทางการสนใจขอเพียงแค่มีเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้และไม่สร้างปัญหาให้กับทางการต้องเดือดร้อนก็พอ “เธอเป็นใครแล้วที่นี่ที่ไหน” ขวัญข้าวเธอถามออกไปเป็นภาษาอังกฤษเพราะเธอพูดภาษาอิตาลีไม่ได้ “ฉันชื่อลอร่า เธอคงเคยได้ยินชื่อฉันแล้ว ในเมื่อรู้ว่าฉันเป็นใครคงไม่จำเป็นต้องอธิบายว่าเพราะอะไรฉันถึงต้องพาเธอมาที่ซ่องนี้” “ซ่อง ! ” ขวัญข้าวจากที่รู้สึกกลัวอยู่แล้วตอนนี้เธอยิ่งรู้สึกกลัวมากกว่าเดิมเมื่อรู้ว่าที่เธออยู่ตอนนี้คือซ่องและมันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ถ้าเธอยังหนีจากที่นี่ไปไม่ได้ “คุณปล่อยฉันไปเถอะเพราะถึงไม่มีฉันอเรนโซก็ไม่แต่งงานกับคุณเพราะเขารักคุณเหมือนน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น คุณต้องเชื่อฉันนะ” หญิงสาวที่กำลังตัวสั่นด้วยความกลัวพยายามพูดอ้อนวอนแต่มันกลับทำให้อีกฝ่ายรู้สึกโกรธมากขึ้น ลอร่ามองหน้าภรรยาของชายอันเป็
ตอนที่ 10เราเป็นหนี้ชีวิตของกันและกัน พายุฝนที่แสนน่ากลัวได้ผ่านพ้นไปแล้ว ชัยชาญเดินทางมาจากเมืองไทยอย่างเร็วที่สุดเพื่อมาดูแลลูกสาวที่ถูกยิง ขวัญข้าวคือคนที่มีอาการบาดเจ็บน้อยที่สุดเธอถูกยิงแค่เพียงถาก ๆ เท่านั้น แต่คนที่น่าเป็นห่วงที่สุดคืออเรนโซเพราะจุดที่ เขาถูกลอร่ายิงคือบริเวณที่ใกล้กับปอดมากที่สุดและตอนนี้ผ่านมาสองวันแล้วเขาก็ยังไม่รู้สึกตัว “กลับเมืองไทยเลยไหม” ชัยชาญกอดลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาเพื่อปลอบขวัญเพราะตั้งแต่เด็กจนโตเขาไม่เคยให้ขวัญข้าวต้องเจอกับเรื่องราวแบบนี้ส่วนตัวเขาก็เคยมีบ้างสมัยที่เริ่มทำธุรกิจใหม่ ๆ แต่มันก็ไม่ได้ดุเดือดป่าเถื่อนเหมือนที่เมืองนี้ อาจเป็นเพราะว่ากฎหมายที่นี่กับไทยต่างกัน “คุณพ่อพาเด็ก ๆ กลับเมืองไทยไปก่อนนะคะ ลูกทิ้ง อเรนโซไปตอนนี้ไม่ได้จริง ๆ ถ้าไม่มีเขามาบังกระสุนให้ป่านนี้คนที่นอนอยู่บนเตียงคงจะเป็นลูกแทน” ชัยชาญไม่ท้วงไม่ห้ามเพราะเข้าใจดีว่าตอนนี้ขวัญข้าวกำลังรู้สึกอะไร เขาเห็นแววตาของความรักความเป็นห่วงอยู่ในนั้นและเขาก็แน่ในว่าถ้าอเรนโซไม่ได้รู
ตอนที่1เปิดพินัยกรรม อิศราชายหนุ่มผู้มีนิสัยนักเลงปากไวไม่เคยยอมใคร โดยเฉพาะกับรตีแม่เลี้ยงของเขา และนี่ก็คือสาเหตุที่คงศักดิ์ ผู้เป็นบิดาต้องส่งให้ไปเรียนมหาวิทยาลัยที่ต่างประเทศ เพื่อสร้างควาสงบสุขให้กับทุกคนในบ้าน คงศักดิ์ตามตัวลูกชายให้กลับมาเมืองไทยแบบเร่งด่วน โดยให้เหตุผลว่าถ้าเขาไม่ยอมกลับมา มรดกทั้งหมดจะยกให้แม่เลี้ยงให้หมด “พ่อให้ผมกลับมาเพื่อมาฟังการอ่านพินัยกรรมทันที โดยที่ไม่คิดว่าผมควรจะพักก่อนบ้างเลยเหรอ” ชายหนุ่มโวยวายเสียงดัง เมื่อมาถึงบ้านก็ถูกพามาที่ห้องทำงานของบิดาเพื่อรอฟังการอ่านพินัยกรรมทันที “ถ้าแกไม่อยากฟังก็ไม่ต้องฟัง แล้วอย่ามาโวยวายทีหลังแล้วกัน” คนเป็นพ่อใช้ไม้แข็ง “รีบอ่านเลยคุณทนาย ผมจะได้รีบไปนอน” ทุกคนในห้องที่มีส่วนในพินัยกรรมต่างพากัน ถอนหายใจ ให้กับนิสัยของอิศราที่ไม่ว่ากี่ปีก็ไม่เคยเปลี่ยนไป เมื่อทุกคนมาอยู่พร้อมหน้ากันแล้ว ทนายความจึงเริ่มอ่านพินัยกรรมทันที “ที่ดินที่จังหวัดเชียงใหม่ข้าพเจ้านายคงศักดิ์ขอยกให้กับนายอิศรา บ้านและที่ดินที่เหลื
ตอนที่2เมียไม่ทันตั้งตัว อิศราคิดว่าวิธีการที่จะทำให้งานแต่งไม่ต้องเกิดขึ้น คือการบีบให้ชมเพลินยอมคืนสมบัติให้เขาโดยที่ไม่มีงานแต่งงาน ชายหนุ่มจึงเริ่มแผนการโดยการพูดจาดูถูกเหยียดหยามเธอให้เจ็บแสบที่สุด “สวัสดีครับ...เศรษฐีใหม่ ผมอิจฉาคุณลูกติดจริง ๆ ที่อยู่ดี ๆ ก็ส้มหล่นได้สมบัติก้อนใหญ่” ชมเพลินไม่โต้ตอบ พยายามเดินก้มหน้าเพื่อที่จะเดินขึ้นไปบนห้องนอนเพราะไม่อยากทนฟังคำพูดแบบนี้ “ยังไม่ทันจะโอนสมบัติเลย ก็หยิ่งไม่พูดกับคนจนอย่างผมเสียแล้ว หรือที่แท้คุณหนูชมเพลินอยากได้ผมเป็นสามีจนตัวสั่น เอะ! ผมเรียก ถูกใช่ไหม กลัวเรียกผิดไปจะโดนคุณหนูไล่ออกจากบ้าน” หญิงสาวที่กำลังเดินนำหน้าชายหนุ่มขึ้นบันได หันมาสบตาเขาด้วยแววตาที่แสดงถึงความผิดหวัง ถอนหายใจเฮือกใหญ่และรีบสาวเท้าต่อเพื่อเข้าห้องนอนให้เร็วที่สุด “ชมเพลินคุณจะมามองผมด้วยสายตาแบบนี้ไม่ได้นะ” เมื่ออิศราอ่านสายตาของอีกฝ่ายออกเขายิ่งรู้สึกแย่ลงไปกว่าเดิม จึงพยายามเดินให้ทันและเอื้อมมือหวังจะคว้าแขนเล็กของชมเพลินไว้ แต่ไม่ทันเพราะเธอเดินเข้าห้องและปิดประตูไปเสียก่อน “
ตอนที่3ความลับที่ไม่ลับ อิศราตื่นขึ้นมาและพบว่าตัวเองนอนอยู่ที่นอนเพียงคนเดียว ชายหนุ่มรู้สึกใจหาย ลึก ๆ เขาแอบกลัวว่าการที่เขาทำแบบนี้จะเสียเธอไปตลอดกาล เช้านี้ทุกคนพร้อมหน้ากันที่โต๊ะอาหาร ชายหนุ่มไปถึงเป็นคนสุดท้าย สายตาของบิดาที่มองมาทำให้อิศราเริ่มไม่แน่ใจ ว่าพ่อของเขารู้เรื่องเมื่อคืนนี้หรือยัง “วันนี้หลังจากที่กินมื้อเช้าเสร็จ พ่อของคุยกับลูกๆ ทุกคนและก็รตีด้วย” คำพูดของคงศักดิ์ทำเอาอิศรารีบหันไปมองหน้าชมเพลินแต่เธอกลับกำลังก้มหน้าเหมือนที่เธอชอบทำทุกครั้งเวลาที่ถูกเขามอง สำหรับชายหนุ่มแล้ว มื้อนี้เป็นมื้อที่กินข้าวได้ฝืดคอที่สุด เขาไม่รู้เหมือนกันว่าความจริงแล้ว เขาอยากให้บิดารู้เรื่องนี้หรือไม่ “ทุกคนคงพร้อมที่ฟังพ่อพูดแล้ว เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นอิศราจะให้พ่อถามไหม” ทั้งคนถูกเรียกชื่อและชมเพลินสะดุ้งสุดตัวหันมามองหน้ากันด้วยความตกใจ “เมื่อคืนไม่มีอะไรค่ะ” จากสาวน้อยที่ไม่ค่อยพูด อยู่ดี ๆ ชมเพลินก็พูดในสิ่งที่ไม่ได้มีใครถามเธอ “พ่อว่าพ่อไม่ได้เอ่ยชื่อเรานะ”คงศักดิ์ไม่ต้องการฟังทุกอย่างจาก
ตอนที่4การมาของสาวลูกครึ่ง อิศราหายไปจากบ้านได้เกือบสัปดาห์แล้ว โดยที่ไม่มีใครได้รู้ข่าวคราวของเขาเลย ชมเพลินเธอเริ่มแน่ใจแล้วว่า เขาคงไม่กลับมาจนกว่าจะครบห้าปีแน่ ๆ เพราะเขาคงต้องการแค่จดทะเบียนสมรสกับเธอเท่านั้น ส่วนเรื่องของเธอกับเขา มันก็คงเป็นเพียงแค่เรื่องที่เกิดขึ้นและจบไป “คุณคะมีแขกมาที่หน้าบ้านค่ะ หน้าตาเหมือนจะไม่ใช่คนไทย แต่ก็เหมือนคนไทยนะคะ” ป้าฤทัยแม่บ้านของครอบครัวนี้ เดินหน้าตื่นมาบอกคงศักดิ์ที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่โซฟาห้องรับแขก “ฟังแล้วก็งงดี สรุปจะเหมือนหรือไม่เหมือนคนไทย เอาเป็นว่า ไปเชิญเขาเข้ามาแล้วกัน” ป้าฤทัยรับคำสั่งเสร็จก็รีบวิ่งกลับไปที่ประตูหน้าบ้าน เพราะเธอไม่ยอมเปิดประตูให้แขกเลย ด้วยความไม่คุ้นหน้าเธอจึงรู้สึกไม่ไว้วางใจ “เชิญนั่งก่อนครับ” คงศักดิ์หันไปพูดกับสาวผมสีน้ำตาดวงตาสีฟ้าแต่มีเคล้าหน้าเหมือนคนไทย“ไปเรียกคุณรตีกับลูกฉันมาด้วย แล้วก็ยกน้ำมาดูแลแขกด้วยนะ” เจ้าของบ้านหันไปสั่งป้าฤทัย“หนูเป็นใครมาจากไหน แนะนำตัวหน่อนสิ”“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อลิเดียแป็นแฟนอิศค่ะ เราอยู่ด้วยกันที
ตอนที่5หึงหรือหวง คงศักดิ์กำลังจะเตรียมตัวออกไปแจ้งความเรื่องของ ลูกชายที่หายตัวไป แต่เขาดันกลับมาเสียก่อน “มาแล้วเหรอพ่อตัวดี” คงศักดิ์ทักทายลูกชาย ด้วยน้ำเสียงที่ออกจากไรฟันอย่างสุดจะโมโห “แล้วจะไปไหนกัน เตรียมจะไปกันทั้งบ้านเลย” อิศราเห็นทุกคนไม่เว้นแม้แต่ชมเพลิน ก็มายืนหน้าบ้านรอคนขับรถเอารถออกมารับจึงถามด้วยความสงสัย “ก็จะไปแจ้งความคนหายอย่างไรกันล่ะ แกทำอะไรลงไปรู้ไหมเขาเป็นห่วงกันทั้งบ้าน ปลอดภัยกลับมาก็ดีแล้ว ยังมีเรื่องที่แกกับฉันยังต้องคุยกันอีก” อิศราถึงกับรู้สึกหวาดหวั่นกับน้ำเสียงที่บิดาของเขาใช้ นานมากแล้วที่พ่อของเขาไม่ได้ใช้น้ำเสียงแบบนี้กับใคร ทุกคนต่างถูกสั่งให้มานั่งรับฟังเรื่องที่คงศักดิ์จะพูดคุยกับลูกชายด้วย เพราะถือว่าเหตุการณ์ในวันนั้นทุกคนต่างก็รับรู้ร่วมกัน “ไหนแกบอกว่าไปจัดการเรื่องแฟนแกที่อังกฤษ และทำไมถึงกลายเป็นว่าผู้หญิงเขาถึงได้มาตามหาแกที่นี่”คงศักดิ์ใส่อารมณ์ “พ่อพูดเรื่องอะไร ผมงงไปหมดแล้ว” ชายหนุ่มไม่ได้แกล้ง แต่เขาไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าบิดาข
ตอนที่6การมาของใครสองคน เช้านี้เป็นเช้าที่สดใสและมีความสุขสำหรับชมเพลิน เพราะเธอได้นอนกอดกับผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี ถึงแม้ตอนเช้าเธอจะต้องรีบตื่นก่อนทุกคนในบ้านก็ตามเพราะไม่อยากให้ใครมาเห็น “วันนี้เข้าบริษัทแล้วเริ่มเรียนรู้งานเลยนะ ถึงพ่อจะยกหุ้นให้น้องแต่แกเป็นพี่อย่างไรก็ต้องช่วยน้องอยู่ดี” คงศักดิ์ไม่ได้ยกหุ้นในบริษัทให้กับอิศราก็จริง แต่เขาแต่งตั้งชายหนุ่มเป็นผู้จัดการบริษัท มีเงินเดือนเกือบสองแสนบาทและมีหน้าที่ดูแลบริษัทรองจากประธานที่ตอนนี้คงศักดิ์ดำรงตำแหน่งอยู่ “ผมขอช่วยจนน้องเรียนจบนะ เพราะผมคงต้องหาทำกิจการของตัวเองจากที่ดินที่ผมได้บ้าง แต่ก็คงยังช่วยน้องอยู่เพียงแต่ไม่เต็มตัว” คำพูดของอิศราทำให้คนเป็นพ่อรู้สึกภูมิใจที่ลูกชายของเขาเริ่มโต และอยากจะยืนด้วยขาของตัวเอง “ก็ได้ แต่อย่าทิ้งน้องแล้วกัน ตอนนี้ก็คิดไปก่อนว่าจะทำอะไร คิดได้ค่อยมาปรึกษากันดู” คงศักดิ์อยากรู้ว่าลูกชายของเขาจะใช้ที่ดินที่ได้ทั้งที่เชียงใหม่ เชียงราย ปทุมธานี อยุธยา เพื่อใช้ทำกิจการอะไรบ้าง ชมเพลินนั่งฟังสองคนพ่อลูกคุยกันบนโต๊ะอ