ตอนที่ 7
เด็ดขาด
ขวัญข้าวเธอเรียนยิงปืนได้รวดเร็วมากทั้งที่ไม่เคยมีพื้นฐานมาเลยตอนนี้เธอก็เรียนการต่อสู้แบบตัวต่อตัวเพื่อใช้ในการป้องกันตัวในยามที่ไม่มีอาวุธทุกอย่างต้องรีบทำเพราะอีกสองวันชัยชาญก็จะเดินทางกลับเมืองไทยแต่ลูกน้องทุกคนของเขายังคงอยู่ที่นี่ต่อ ทั้งแบบที่มาแบบเปิดเผยตัวและไม่เปิดเผยตัวด้วยเพราะความเป็นพ่อชัยชาญไม่ไว้ใจว่าอเรนโซจะสามารถดูแลปกป้องลูกสาวเขาและเด็ก ๆ ได้ เขาจึงเลือกที่จะทิ้งคนของเขาไว้ที่นี่เพื่อความอุ่นใจ
ลอร่ารับรู้เรื่องราวการมาของขวัญข้าวและลูก ๆ ตั้งแต่วันแรกที่ทุกคนเหยียบแผ่นดินอิตาลีแต่เธอคิดว่าการที่เธอไม่แสดงตัวน่าจะทำให้อมรารู้สึกกดดันมากกว่าและเธอแค่คอยมองดู อยู่ห่าง ๆ จนกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยแต่ถ้าทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่เธอคิด เธอก็จะเดินหน้าประกาศสงครามทันที
“ลอร่าทำไมหนูไม่มาดูหน้าแม่สาวไทยใจง่ายหน่อยล่ะลูก”
อมรากรอกเสียงตามสายไปหาลูกสะใภ้ที่เธออยากได้เพราะคิดว่าถ้าลอร่ามาปรากฎตัวอาจจะทำให้อเรนโซและขวัญข้าวมีปัญหาทะเลาะกันและจะง่ายต่อการแยกทั้งคู่ออกจากกัน
“ลอร่าไม่ไปหรอกค่ะ ตราบใดที่ผู้หญิงคนนั้นยังอยู่ที่บ้านของคุณป้าในฐานะลูกสะใภ้ คุณพ่อของลอร่าคงไม่รู้สึกยินดีแน่ ๆ ที่จะให้ลูกสาวคนเดียวไปยื้อแย่งผู้ชายกับใคร”
พ่อของลอร่าเป็นมาเฟียที่โหดที่สุดในเมืองนี้และเขาจะไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวหรือทำความสนิทสนมกับใครจึงไม่ใช่ทุกคนที่จะมีสิทธิ์เข้าถึงตัวเขาได้ง่าย ๆ การที่เขาช่วยเหลือเรื่องเส้นทางธุรกิจสีเทาของครอบครัวอเรนโซก็เพราะคำขอร้องของลอร่าเพราะถ้าไม่อย่างนั้นครอบครัวของอเรนโซไม่อยู่ในสายตาของเขาแน่นอน
ลอร่ามักจะชอบเอ่ยถึงบิดาของเธอเสมอเพราะรู้อมรากลัวอิทธิพลของพ่อเธอแต่ในความเป็นจริงแล้วลอร่าแทบจะไม่เคยพูดถึงปัญหาที่เธอกำลังเจออยู่ให้บิดาของเธอฟังเลยเพราะลึก ๆ ลูกสาวมาเฟียก็ไม่มั่นใจว่าถ้าพ่อของเธอรู้ว่าอเรนโซมีลูกและภรรยาอยู่แล้วเธอจะถูกสั่งให้เลิกยุ่งกับครอบครัวนี้หรือไม่ เธอจึงแค่เพียงอ้างชื่อมาขู่ก็แค่นั้น
ชัยชาญเดินทางกลับแล้วและเขายื่นคำขาดกับอเรนโซว่า เขาจะให้ขวัญข้าวอยู่ที่อิตาลีแค่เพียงเดือนเดียวเท่านั้นถ้าชายหนุ่มยังทำทุกอย่างตามที่ตั้งใจไม่เรียบร้อย เขาจะบินมารับลูกสาวกลับเมืองไทยพร้อมกับเด็ก ๆ และยกเลิกทุกอย่างที่วางแผนกันไว้ทันที
“พ่อเธอก็กลับไปแล้วทำไมเธอยังหน้าด้านอยู่ที่นี่อีก”
อมราพูดขึ้นกลางโต๊ะอาหารมื้อเย็นที่ทุกคนอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันเป็นวันแรกหลังจากที่ชัยชาญเดินทางกลับเมืองไทยไปได้สองวัน
“สามีอยู่ที่ไหนภรรยาก็ต้องอยู่ที่นั่นค่ะ ฉันไม่เห็นว่าต้องใช้ความหน้าด้านในการอยู่ที่นี่เลยแค่อยู่ตามสิทธิ์เท่านั้นแต่ถ้าคุณแม่ไม่อยากเห็นฉันอยู่ที่อิตาลีก็ไม่ต้องคิดมากนะคะเพราะเมื่อไหร่ที่สามีของฉันจัดการทุกอย่างเรียบร้อยเราก็จะกลับเมืองไทยกันทันทีเพราะเพชรก็ใกล้จะเปิดเทอมแล้ว สบายใจได้ค่ะ คุณ...แม่”
ขวัญข้าวลากเสียงยาวและเน้นหนักในคำสุดท้ายเพราะตั้งใจจะกวนอารมณ์ของแม่สามีในนามของเธอให้หมดความอดทนและเอ่ยปากไล่ลูกชายของตัวเองให้กลับไปอยู่เมืองไทยเสียที
“เธอฝันกลางวันไปหรือเปล่าแม่สาวใจง่าย อเรนโซไม่มีทางไปอยู่เมืองไทยกับเธอแน่ ๆ เพราะเขาต้องดูแลธุรกิจต่อจากพ่อของเขา ก่อนฝันคิดก่อนจะได้ไม่ตกสวรรค์กลางคัน”
อมราหันไปส่งยิ้มหวานแบบเฉือดเฉือนให้ลูกสะใภ้ที่เธอไม่ปรารถนาด้วยความรู้สึกว่าตัวเองกำลังถือไพ่เหนือกว่า
“คุณแม่ครับอีกไม่เกินหนึ่งเดือนผมจะย้ายไปอยู่เมืองไทยและไปทำธุรกิจนำเข้าสินค้าจากอิตาลีและอังกฤษที่คุณพ่อสร้างไว้ให้ยิ่งใหญ่แบบถูกกฎหมาย ผมเหนื่อยและพอแล้วกับความร่ำรวยที่อยู่บนความทุกข์ของคนอื่นถึงแม้ที่นี่กฎหมายจะไม่เอาจริงเรื่องธุรกิจของเราแต่เราเป็นชาวพุทธเราไหว้พระ พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้เราทำชั่วครับแม่”
อเรนโซรู้สึกโล่งใจที่ในที่สุดเขาก็ได้พูดเรื่องนี้กับมารดาเสียทีเพราะเขาคิดมาตลอดว่าจะหาโอกาสและเริ่มพูดเรื่องนี้เมื่อไหร่ดีแต่กลายเป็นมารดาของเขาเริ่มเรื่องนี้ขึ้นมาก่อน เขาจึงไม่รอช้าที่จะได้พูดทุกอย่างออกไป
“มาร์โก! คุณยอมเหรอคะ” อมราหันไปหาสามีเพื่อหาคนช่วย
“ผมรู้เรื่องนี้มาก่อนที่อเรนโซจะพาเมียและลูก ๆ ของเขามาที่อิตาลีเสียอีก คุณไม่เหนื่อยเหรออมรากับการทำอะไรแบบผิด ๆ แบบนี้ เรารวยมากพอแล้วและนับวันอายุเราก็มากขึ้นมีเงินมากมายแต่สุดท้ายชีวิตกลับไม่มีความสุขเลย ผมยินดีที่จะสนับสนุนลูกให้ไปดูแลและขยายธุรกิจของเราที่ไทยให้เติบโตและเมื่อไหร่ที่ลินดากลับมาผมก็จะตามอเรนโซไปช่วยเลี้ยงหลานที่ไทยด้วย ส่วนคุณถ้ายังไม่เหนื่อยยังรวยไม่พอก็ดูแลธุรกิจในส่วนของคุณไปในส่วนของผม ลินดาจะค่อย ๆ ถอนตัวออกจาความเป็นสีเทาออกมาและจะทำให้อาณาจักรธุรกิจของเราเป็นสีขาวให้ได้”
อมรารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนเดียวที่ถูกคัดออกจากครอบครัวยิ่งทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจในตัวของขวัญข้าวมากขึ้นและตอนนี้ก็มีเพียงคนเดียวที่จะช่วยเธอได้คือลอร่าเท่านั้น
หญิงวัยกลางคนรีบเดินทางไปหาหญิงสาวที่เธออยากได้มาเป็นลูกสะใภ้จนตัวสั่นเพื่อบอกเรื่องราวที่อเรนโซกำลังเตรียมที่จะย้ายไปอยู่เมืองไทยเพื่อหวังให้ลอร่าช่วยเธอหาทางออก
“ในเมื่อพี่เรนตั้งใจแบบนั้นถ้าสุดท้ายอีนางผู้หญิงไทย มันผิดใจกับพี่เรนแล้วหนีกลับไปไทยเสียก่อนหรือไม่ก็ถึงขั้นเลิกรากัน ลอร่าคิดว่าลูกชายคุณป้าคงต้องเปลี่ยนใจแน่ ๆ ค่ะ”
“ลอร่าจะทำอะไรบอกป้าหน่อยได้ไหม แม่จะได้คอยช่วยแล้วก็จะได้สบายใจด้วยว่าลอร่าช่วยป้าได้แน่ ๆ ”
อมราอยากรู้ว่าลูกสาวมาเฟียใหญ่ของอิตาลีกำลังคิดจะทำอะไรต่อไปเพราะเธอฟังที่ลอร่าพูดยังไม่เข้าใจจึงอยากรู้แต่สุดท้ายกลับโดนอีกฝ่ายตอกหน้ากลับมา
“อย่ารู้เลยค่ะเพราะคุณป้าไม่มีความสามารถพอที่จะช่วยอะไรลอร่าได้อยู่เฉย ๆ อย่าเกะกะก็พอ”
คำตอบของหญิงสาวที่อมรามองว่าแสนดีและน่ารัก มาตลอด วันนี้กลับฟังดูเหมือนลอร่ากำลังพูดจาไม่ให้เกียรติเธอแต่ในเวลานี้อมราหวังพึ่งหญิงสาวให้ช่วยดึงรั้งไม่ให้ลูกชายย้ายไปอยู่เมืองไทย อมราจึงมองข้ามทุกอย่างไปเพื่อหวังแค่เพียงให้อเรนโซเลิกกลับขวัญข้าวและอยู่ที่อิตาลีกลับเธอเหมือนเดิมก็พอ
ตอนที่ 8จากคนเพิ่งรู้จัก อเรนโซพกลูก ๆ และขวัญข้าวไปทุกที่ที่เขาต้องไปทำงานเพราะเขาไม่เชื่อใจใครทั้งนั้นในตอนนี้ งานที่เขาทำค้างไว้ต้องรีบทำให้เสร็จตามเวลาที่ชัยชาญได้ยื่นคำขาดไว้ก่อนจะกลับเมืองไทย “ฉันขอไปเดินเล่นข้างนอกบ้างได้ไหมตอนนี้ลูก ๆ หลับหมดแล้วไปแค่ใกล้ ๆ นี่แหละ ฉันสัญญาจะรีบกลับมาก่อนลูก ๆ ตื่นแน่นอน” ขวัญข้าวตั้งแต่เธอเดินทางมาที่อิตาลีเธอยังไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลยเพราะอเรนโซไม่ยอมให้เธอกับลูก ๆ ห่างกายและตัวเขาเองก็ไม่มีเวลามากพอที่จะพาเธอไปเที่ยวชมเมือง หญิงสาวจึงคิดว่า ไหน ๆ วันนี้เด็ก ๆ ก็นอนกลางวันกันหมดแล้ว เธอมองออกไปนอกหน้าต่างของบริษัทอยู่บ่อย ๆ จึงรู้ว่าด้านนอกของที่นี่ก็มีมุมให้ถ่ายรูปสวย ๆ มากมาย “มันอันตรายนะ คุณยังไม่รู้จักที่นี่มากพอรอผมว่างก่อนได้ไหมก่อนกลับไปเมืองไทยผมสัญญาจะพาคุณกับลูกไปเที่ยวแน่นอน” มาเฟียคนพื้นที่รู้ดีว่าที่นี่กฎหมายไม่ได้ป้องกันอันตรายได้จริงและสังคมของที่นี่ไม่ได้สวยงามเหมือนในสารคดีท่องเที่ยวที่คนทั่วไปเห็น เขาจึงเป็นห่วงและไม่อยากให้ภรรยาในนามอยู่ไกลจากตัวเขา “คุณส่งคนของคุณคอยต
ตอนที่ 9แลกด้วยชีวิตก็ยอม ลอร่าจับตัวขวัญข้าวไปที่ซ่องของเธอเพราะที่นั่นจะทำให้ผู้หญิงที่มาแย่งชายอันเป็นที่รักของเธอต้องตกนรกทั้งเป็น ซ่องไม่ใช่สิ่งที่ถูกกฎหมายของที่นี่แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมายที่ทางการสนใจขอเพียงแค่มีเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้และไม่สร้างปัญหาให้กับทางการต้องเดือดร้อนก็พอ “เธอเป็นใครแล้วที่นี่ที่ไหน” ขวัญข้าวเธอถามออกไปเป็นภาษาอังกฤษเพราะเธอพูดภาษาอิตาลีไม่ได้ “ฉันชื่อลอร่า เธอคงเคยได้ยินชื่อฉันแล้ว ในเมื่อรู้ว่าฉันเป็นใครคงไม่จำเป็นต้องอธิบายว่าเพราะอะไรฉันถึงต้องพาเธอมาที่ซ่องนี้” “ซ่อง ! ” ขวัญข้าวจากที่รู้สึกกลัวอยู่แล้วตอนนี้เธอยิ่งรู้สึกกลัวมากกว่าเดิมเมื่อรู้ว่าที่เธออยู่ตอนนี้คือซ่องและมันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ถ้าเธอยังหนีจากที่นี่ไปไม่ได้ “คุณปล่อยฉันไปเถอะเพราะถึงไม่มีฉันอเรนโซก็ไม่แต่งงานกับคุณเพราะเขารักคุณเหมือนน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น คุณต้องเชื่อฉันนะ” หญิงสาวที่กำลังตัวสั่นด้วยความกลัวพยายามพูดอ้อนวอนแต่มันกลับทำให้อีกฝ่ายรู้สึกโกรธมากขึ้น ลอร่ามองหน้าภรรยาของชายอันเป็
ตอนที่ 10เราเป็นหนี้ชีวิตของกันและกัน พายุฝนที่แสนน่ากลัวได้ผ่านพ้นไปแล้ว ชัยชาญเดินทางมาจากเมืองไทยอย่างเร็วที่สุดเพื่อมาดูแลลูกสาวที่ถูกยิง ขวัญข้าวคือคนที่มีอาการบาดเจ็บน้อยที่สุดเธอถูกยิงแค่เพียงถาก ๆ เท่านั้น แต่คนที่น่าเป็นห่วงที่สุดคืออเรนโซเพราะจุดที่ เขาถูกลอร่ายิงคือบริเวณที่ใกล้กับปอดมากที่สุดและตอนนี้ผ่านมาสองวันแล้วเขาก็ยังไม่รู้สึกตัว “กลับเมืองไทยเลยไหม” ชัยชาญกอดลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาเพื่อปลอบขวัญเพราะตั้งแต่เด็กจนโตเขาไม่เคยให้ขวัญข้าวต้องเจอกับเรื่องราวแบบนี้ส่วนตัวเขาก็เคยมีบ้างสมัยที่เริ่มทำธุรกิจใหม่ ๆ แต่มันก็ไม่ได้ดุเดือดป่าเถื่อนเหมือนที่เมืองนี้ อาจเป็นเพราะว่ากฎหมายที่นี่กับไทยต่างกัน “คุณพ่อพาเด็ก ๆ กลับเมืองไทยไปก่อนนะคะ ลูกทิ้ง อเรนโซไปตอนนี้ไม่ได้จริง ๆ ถ้าไม่มีเขามาบังกระสุนให้ป่านนี้คนที่นอนอยู่บนเตียงคงจะเป็นลูกแทน” ชัยชาญไม่ท้วงไม่ห้ามเพราะเข้าใจดีว่าตอนนี้ขวัญข้าวกำลังรู้สึกอะไร เขาเห็นแววตาของความรักความเป็นห่วงอยู่ในนั้นและเขาก็แน่ในว่าถ้าอเรนโซไม่ได้รู
ตอนที่1เปิดพินัยกรรม อิศราชายหนุ่มผู้มีนิสัยนักเลงปากไวไม่เคยยอมใคร โดยเฉพาะกับรตีแม่เลี้ยงของเขา และนี่ก็คือสาเหตุที่คงศักดิ์ ผู้เป็นบิดาต้องส่งให้ไปเรียนมหาวิทยาลัยที่ต่างประเทศ เพื่อสร้างควาสงบสุขให้กับทุกคนในบ้าน คงศักดิ์ตามตัวลูกชายให้กลับมาเมืองไทยแบบเร่งด่วน โดยให้เหตุผลว่าถ้าเขาไม่ยอมกลับมา มรดกทั้งหมดจะยกให้แม่เลี้ยงให้หมด “พ่อให้ผมกลับมาเพื่อมาฟังการอ่านพินัยกรรมทันที โดยที่ไม่คิดว่าผมควรจะพักก่อนบ้างเลยเหรอ” ชายหนุ่มโวยวายเสียงดัง เมื่อมาถึงบ้านก็ถูกพามาที่ห้องทำงานของบิดาเพื่อรอฟังการอ่านพินัยกรรมทันที “ถ้าแกไม่อยากฟังก็ไม่ต้องฟัง แล้วอย่ามาโวยวายทีหลังแล้วกัน” คนเป็นพ่อใช้ไม้แข็ง “รีบอ่านเลยคุณทนาย ผมจะได้รีบไปนอน” ทุกคนในห้องที่มีส่วนในพินัยกรรมต่างพากัน ถอนหายใจ ให้กับนิสัยของอิศราที่ไม่ว่ากี่ปีก็ไม่เคยเปลี่ยนไป เมื่อทุกคนมาอยู่พร้อมหน้ากันแล้ว ทนายความจึงเริ่มอ่านพินัยกรรมทันที “ที่ดินที่จังหวัดเชียงใหม่ข้าพเจ้านายคงศักดิ์ขอยกให้กับนายอิศรา บ้านและที่ดินที่เหลื
ตอนที่2เมียไม่ทันตั้งตัว อิศราคิดว่าวิธีการที่จะทำให้งานแต่งไม่ต้องเกิดขึ้น คือการบีบให้ชมเพลินยอมคืนสมบัติให้เขาโดยที่ไม่มีงานแต่งงาน ชายหนุ่มจึงเริ่มแผนการโดยการพูดจาดูถูกเหยียดหยามเธอให้เจ็บแสบที่สุด “สวัสดีครับ...เศรษฐีใหม่ ผมอิจฉาคุณลูกติดจริง ๆ ที่อยู่ดี ๆ ก็ส้มหล่นได้สมบัติก้อนใหญ่” ชมเพลินไม่โต้ตอบ พยายามเดินก้มหน้าเพื่อที่จะเดินขึ้นไปบนห้องนอนเพราะไม่อยากทนฟังคำพูดแบบนี้ “ยังไม่ทันจะโอนสมบัติเลย ก็หยิ่งไม่พูดกับคนจนอย่างผมเสียแล้ว หรือที่แท้คุณหนูชมเพลินอยากได้ผมเป็นสามีจนตัวสั่น เอะ! ผมเรียก ถูกใช่ไหม กลัวเรียกผิดไปจะโดนคุณหนูไล่ออกจากบ้าน” หญิงสาวที่กำลังเดินนำหน้าชายหนุ่มขึ้นบันได หันมาสบตาเขาด้วยแววตาที่แสดงถึงความผิดหวัง ถอนหายใจเฮือกใหญ่และรีบสาวเท้าต่อเพื่อเข้าห้องนอนให้เร็วที่สุด “ชมเพลินคุณจะมามองผมด้วยสายตาแบบนี้ไม่ได้นะ” เมื่ออิศราอ่านสายตาของอีกฝ่ายออกเขายิ่งรู้สึกแย่ลงไปกว่าเดิม จึงพยายามเดินให้ทันและเอื้อมมือหวังจะคว้าแขนเล็กของชมเพลินไว้ แต่ไม่ทันเพราะเธอเดินเข้าห้องและปิดประตูไปเสียก่อน “
ตอนที่3ความลับที่ไม่ลับ อิศราตื่นขึ้นมาและพบว่าตัวเองนอนอยู่ที่นอนเพียงคนเดียว ชายหนุ่มรู้สึกใจหาย ลึก ๆ เขาแอบกลัวว่าการที่เขาทำแบบนี้จะเสียเธอไปตลอดกาล เช้านี้ทุกคนพร้อมหน้ากันที่โต๊ะอาหาร ชายหนุ่มไปถึงเป็นคนสุดท้าย สายตาของบิดาที่มองมาทำให้อิศราเริ่มไม่แน่ใจ ว่าพ่อของเขารู้เรื่องเมื่อคืนนี้หรือยัง “วันนี้หลังจากที่กินมื้อเช้าเสร็จ พ่อของคุยกับลูกๆ ทุกคนและก็รตีด้วย” คำพูดของคงศักดิ์ทำเอาอิศรารีบหันไปมองหน้าชมเพลินแต่เธอกลับกำลังก้มหน้าเหมือนที่เธอชอบทำทุกครั้งเวลาที่ถูกเขามอง สำหรับชายหนุ่มแล้ว มื้อนี้เป็นมื้อที่กินข้าวได้ฝืดคอที่สุด เขาไม่รู้เหมือนกันว่าความจริงแล้ว เขาอยากให้บิดารู้เรื่องนี้หรือไม่ “ทุกคนคงพร้อมที่ฟังพ่อพูดแล้ว เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นอิศราจะให้พ่อถามไหม” ทั้งคนถูกเรียกชื่อและชมเพลินสะดุ้งสุดตัวหันมามองหน้ากันด้วยความตกใจ “เมื่อคืนไม่มีอะไรค่ะ” จากสาวน้อยที่ไม่ค่อยพูด อยู่ดี ๆ ชมเพลินก็พูดในสิ่งที่ไม่ได้มีใครถามเธอ “พ่อว่าพ่อไม่ได้เอ่ยชื่อเรานะ”คงศักดิ์ไม่ต้องการฟังทุกอย่างจาก
ตอนที่4การมาของสาวลูกครึ่ง อิศราหายไปจากบ้านได้เกือบสัปดาห์แล้ว โดยที่ไม่มีใครได้รู้ข่าวคราวของเขาเลย ชมเพลินเธอเริ่มแน่ใจแล้วว่า เขาคงไม่กลับมาจนกว่าจะครบห้าปีแน่ ๆ เพราะเขาคงต้องการแค่จดทะเบียนสมรสกับเธอเท่านั้น ส่วนเรื่องของเธอกับเขา มันก็คงเป็นเพียงแค่เรื่องที่เกิดขึ้นและจบไป “คุณคะมีแขกมาที่หน้าบ้านค่ะ หน้าตาเหมือนจะไม่ใช่คนไทย แต่ก็เหมือนคนไทยนะคะ” ป้าฤทัยแม่บ้านของครอบครัวนี้ เดินหน้าตื่นมาบอกคงศักดิ์ที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่โซฟาห้องรับแขก “ฟังแล้วก็งงดี สรุปจะเหมือนหรือไม่เหมือนคนไทย เอาเป็นว่า ไปเชิญเขาเข้ามาแล้วกัน” ป้าฤทัยรับคำสั่งเสร็จก็รีบวิ่งกลับไปที่ประตูหน้าบ้าน เพราะเธอไม่ยอมเปิดประตูให้แขกเลย ด้วยความไม่คุ้นหน้าเธอจึงรู้สึกไม่ไว้วางใจ “เชิญนั่งก่อนครับ” คงศักดิ์หันไปพูดกับสาวผมสีน้ำตาดวงตาสีฟ้าแต่มีเคล้าหน้าเหมือนคนไทย“ไปเรียกคุณรตีกับลูกฉันมาด้วย แล้วก็ยกน้ำมาดูแลแขกด้วยนะ” เจ้าของบ้านหันไปสั่งป้าฤทัย“หนูเป็นใครมาจากไหน แนะนำตัวหน่อนสิ”“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อลิเดียแป็นแฟนอิศค่ะ เราอยู่ด้วยกันที
ตอนที่5หึงหรือหวง คงศักดิ์กำลังจะเตรียมตัวออกไปแจ้งความเรื่องของ ลูกชายที่หายตัวไป แต่เขาดันกลับมาเสียก่อน “มาแล้วเหรอพ่อตัวดี” คงศักดิ์ทักทายลูกชาย ด้วยน้ำเสียงที่ออกจากไรฟันอย่างสุดจะโมโห “แล้วจะไปไหนกัน เตรียมจะไปกันทั้งบ้านเลย” อิศราเห็นทุกคนไม่เว้นแม้แต่ชมเพลิน ก็มายืนหน้าบ้านรอคนขับรถเอารถออกมารับจึงถามด้วยความสงสัย “ก็จะไปแจ้งความคนหายอย่างไรกันล่ะ แกทำอะไรลงไปรู้ไหมเขาเป็นห่วงกันทั้งบ้าน ปลอดภัยกลับมาก็ดีแล้ว ยังมีเรื่องที่แกกับฉันยังต้องคุยกันอีก” อิศราถึงกับรู้สึกหวาดหวั่นกับน้ำเสียงที่บิดาของเขาใช้ นานมากแล้วที่พ่อของเขาไม่ได้ใช้น้ำเสียงแบบนี้กับใคร ทุกคนต่างถูกสั่งให้มานั่งรับฟังเรื่องที่คงศักดิ์จะพูดคุยกับลูกชายด้วย เพราะถือว่าเหตุการณ์ในวันนั้นทุกคนต่างก็รับรู้ร่วมกัน “ไหนแกบอกว่าไปจัดการเรื่องแฟนแกที่อังกฤษ และทำไมถึงกลายเป็นว่าผู้หญิงเขาถึงได้มาตามหาแกที่นี่”คงศักดิ์ใส่อารมณ์ “พ่อพูดเรื่องอะไร ผมงงไปหมดแล้ว” ชายหนุ่มไม่ได้แกล้ง แต่เขาไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าบิดาข