ตอนที่4
การมาของสาวลูกครึ่ง
อิศราหายไปจากบ้านได้เกือบสัปดาห์แล้ว โดยที่ไม่มีใครได้รู้ข่าวคราวของเขาเลย
ชมเพลินเธอเริ่มแน่ใจแล้วว่า เขาคงไม่กลับมาจนกว่าจะครบห้าปีแน่ ๆ เพราะเขาคงต้องการแค่จดทะเบียนสมรสกับเธอเท่านั้น ส่วนเรื่องของเธอกับเขา มันก็คงเป็นเพียงแค่เรื่องที่เกิดขึ้นและจบไป
“คุณคะมีแขกมาที่หน้าบ้านค่ะ หน้าตาเหมือนจะไม่ใช่คนไทย แต่ก็เหมือนคนไทยนะคะ”
ป้าฤทัยแม่บ้านของครอบครัวนี้ เดินหน้าตื่นมาบอกคงศักดิ์ที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่โซฟาห้องรับแขก
“ฟังแล้วก็งงดี สรุปจะเหมือนหรือไม่เหมือนคนไทย เอาเป็นว่า ไปเชิญเขาเข้ามาแล้วกัน”
ป้าฤทัยรับคำสั่งเสร็จก็รีบวิ่งกลับไปที่ประตูหน้าบ้าน เพราะเธอไม่ยอมเปิดประตูให้แขกเลย ด้วยความไม่คุ้นหน้าเธอจึงรู้สึกไม่ไว้วางใจ
“เชิญนั่งก่อนครับ”
คงศักดิ์หันไปพูดกับสาวผมสีน้ำตาดวงตาสีฟ้าแต่มีเคล้าหน้าเหมือนคนไทย
“ไปเรียกคุณรตีกับลูกฉันมาด้วย แล้วก็ยกน้ำมาดูแลแขกด้วยนะ” เจ้าของบ้านหันไปสั่งป้าฤทัย
“หนูเป็นใครมาจากไหน แนะนำตัวหน่อนสิ”
“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อลิเดียแป็นแฟนอิศค่ะ เราอยู่ด้วยกันที่อังกฤษ แต่อิศบอกว่าจะกลับมาเมืองไทยเรื่องครอบครัวแล้วจะรีบกลับไป แต่ฉันติดต่อเขาไม่ได้เลยจึงเดินทางมาที่นี่ พอดีฉันมีแม่เป็นคนไทยจึงมีญาติอยู่ที่นี่ค่ะ”
ลิเดียแนะนำตัวพร้อมบอกเหตุผลที่เธอต้องเดินทางจากอังกฤษมาถึงที่ไทยเพราะเหตุผลอะไร
“มากันแล้ว นั่งกันก่อน เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังว่าแขกของเราคนนี้คือใคร”
คงศักดิ์หันไปบอกกับรตี วรรษมนและชมเพลินที่เพิ่งเดินมาถึงด้วยท่าทีที่ไม่สบายใจ
เมื่อทุกคนนั่งลงอยู่พร้อมหน้ากันแล้ว คงศักดิ์ก็เริ่มเล่าตามที่หญิงสาวหน้าตาลูกครึ่งเล่าให้เขาฟัง
“คุณพระ!” รตีอุทานด้วยความตกใจ
ชมเพลินเธอมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยหัวใจที่แตกสลาย ในที่สุดเขาก็ไม่ได้ไปบอกเลิกใคร และแถมยังให้แฟนของเขามาทำร้ายหัวใจเธอถึงที่นี่
“ก่อนอื่นฉันขอแนะนำตัวเองก่อนนะ ฉันคงศักดิ์เป็นพ่อ และนี่รตีแม่เลี้ยงของเจ้าอิศ ส่วนที่นั่งอยู่ทางนั้นคือวรรษมนน้องสองคนเดียวของเจ้าอิศเขา”
คงศักดิ์หยุดพูดและถอนหายใจยาว ๆ มองหน้าชมเพลินและหันมามองหน้าแขกคนใหม่ด้วยความสงสารความรู้สึกของทั้งคู่
“ส่วนหญิงสาวที่ใส่เสื้อสีฟ้า เธอชื่อชมเพลินเป็นภรรยาของอิศรา”
ลิเดียและชมเพลินต่างหันมาสบตากันด้วยความรู้สึกที่ต่างกัน สำหรับชมเพลินเธอรู้สึกไร้ค่า ส่วนลิเดียเธอกำลังรู้สึกเหมือนตัวเองโดนหลอก
“อิศเขามาที่นี่จริง ๆ แต่เขาบอกว่าจะขอกลับไปอังกฤษเพื่อไปบอกแฟนที่นู่นให้รู้ว่าตอนนี้เขามีภรรยาแล้ว หายไปได้เกือบสัปดาห์ไม่มีข่าวคราวเลย แปลว่าเขาไม่ได้ไปบอกหนูลิเดียใช่ไหม”
หญิงสาวส่ายหัว เธอเองก็ไม่ได้ข่าวคราวเลย เฝ้าแต่รอวันที่เขาจะกลับมาที่อังกฤษ จนตัดสินมาตามหาเขาที่นี่
“ถ้าอย่างนั้นพ่อต้องขอโทษแทนเจ้าอิศด้วย ที่ไม่ได้บอกความจริงกับหนู พ่อก็ขอเป็นคนบอกแทน ตอนนี้เจ้าอิศเขามีภรรยาแล้ว”
ลิเดียใช้สองมือขาวปิดหน้าตัวเองและร้องไห้ด้วยความเสียใจ ที่สุดท้ายเธอดั้นด้นมาตามหาผู้ชายที่หลอกลวงเธอ
รตีพยายามพูดปลอบใจในฐานะที่เป็นผู้หญิงเหมือนกัน ส่วนชมเพลินก็มีวรรษมนคอยจับมือไว้ งานนี้มีคนเจ็บถึงสองคน
ลิเดียตั้งสติได้ เช็ดน้ำตาแล้วพยายามหยุดร้องไห้ ก่อนจะขอตัวกลับบ้านญาติก่อนเพื่อจะรีบจองเที่ยวบินกลับอังกฤษให้เร็วที่สุด
เมื่อแขกกลับเหลือเพียงแค่สมาชิกในครอบครัว ทุกคนต่างมองหน้ากัน เพื่อหวังว่าใครจะมีคำตอบว่าอิศราหายไปไหน
“ไอ้ลูกบ้า มันจะสร้างเรื่องไปถึงไหน บอกกับเราว่าจะไปจัดการเรื่องผู้หญิงที่อังกฤษแต่สุดท้าย ก็ปล่อยให้ผู้หญิงเขาต้องมาตามหาแบบนี้”
คงศักดิ์อารมณ์เสียแล้วก็โมโหลูกชายมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะไม่รู้ว่าลูกชายอยู่ที่ไหน
“เรือนหอก็เริ่มสร้างแล้ว มันก็ยังไม่คิดจะกลับมาดู มันไปไหนของมัน”
ผู้เป็นพ่อต้องทำหน้าที่ในการดูแลการสร้างเรือนหอแทน เพราะทั้งบ้านมีแต่ผู้หญิงไม่มีใครรู้เรื่องงานก่อสร้างเลย
“ชมเพลินหนูก็ไม่ต้องคิดอะไรมากนะ พ่อว่าคงต้องมีมาอีกเรื่องแบบนี้ ไม่รู้มันมีแฟนทีเดียวหลายคนเลยหรือเปล่า ไปเอานิสัยนี้มาจากไหนกัน”
คนเป็นพ่อหันไปปลอบใจลูกสะใภ้ เพราะรู้ว่าตอนนี้เธอคงรู้สึกใจเสีย ทั้งเรื่องที่ชายหนุ่มหายตัวไปและยังมีผู้หญิงมาหาที่บ้านแบบนี้อีก
“เพลินเข้าใจค่ะ เราคุยกันแล้ว ว่าเราจะแค่จดทะเบียนสมรสกันเฉย ๆ คุนอิศและเพลินยังคงมีอิสระได้เหมือนเดิม”
ทุกคนต่างพากันหันไปมองหน้าชมเพลิน เพราะสิ่งที่เธอพูดมันไม่มีทางเป็นไปได้ คนอย่างอิศราไม่มีทางจะยอมให้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยามีอิสระแน่นอน ถึงแม้ตัวเขาจะอิสระก็ตาม
“เพลินนี่ลูกจะเป็นครอบครัวกันนะ ไม่ใช่เล่นขายของ แล้วไปตกลงอะไรกันแบบนั้น ”
รตีหันไปต่อว่าลูกสาว เพราะเธอไม่คิดเลยว่าชมเพลินจะคิดอะไรได้น้อยแบบนี้
“คุณต้องจัดการลูกชายตัวแสบของคุณให้รู้เรื่องนะคะ รตีเห็นแก่ความดีของคุณถึงยอมให้ชมเพลินจดทะเบียนด้วย ถ้าเป็นแบบนี้ลูกสาวรตีตายทั้งเป็นแน่”
ความเป็นแม่ทำให้รตีรู้สึกเลือดขึ้นหน้าทั้งที่ปกติเธอไม่เคยแสดงความโกรธหรือโมโหใครแบบนี้เลย
“ผมจัดการแน่ แต่ตอนนี้เจ้าอิศมันหายตัวไปไหน ป่านนี้ยังไม่ติดต่อมา”
“พ่อคะเรามัวแต่มานั่งโกรธพี่อิศ มนเริ่มกลัวแล้วว่า พี่ชายมนเกิดอันตรายหรือเปล่าถึงได้หายไปแบบนี้”
คำพูดของวรรษมนทำเอาคงศักดิ์กับชมเพลินเปลี่ยนอารมณ์จากโมโหเป็นรู้สึกห่วงแทน
“พ่อก็ลืมคิดไปเลย เอาอย่างนี้ถ้าภายในวันนี้เรายังติดต่อเจ้าอิศไม่ได้ พ่อจะไปแจ้งความแล้ว”
ทุกคนต่างมองหน้ากันแล้วก็เห็นด้วยกับความคิดของคงศักดิ์เพราะชายหนุ่มหายตัวไปหลายวันแล้ว
ตอนที่5หึงหรือหวง คงศักดิ์กำลังจะเตรียมตัวออกไปแจ้งความเรื่องของ ลูกชายที่หายตัวไป แต่เขาดันกลับมาเสียก่อน “มาแล้วเหรอพ่อตัวดี” คงศักดิ์ทักทายลูกชาย ด้วยน้ำเสียงที่ออกจากไรฟันอย่างสุดจะโมโห “แล้วจะไปไหนกัน เตรียมจะไปกันทั้งบ้านเลย” อิศราเห็นทุกคนไม่เว้นแม้แต่ชมเพลิน ก็มายืนหน้าบ้านรอคนขับรถเอารถออกมารับจึงถามด้วยความสงสัย “ก็จะไปแจ้งความคนหายอย่างไรกันล่ะ แกทำอะไรลงไปรู้ไหมเขาเป็นห่วงกันทั้งบ้าน ปลอดภัยกลับมาก็ดีแล้ว ยังมีเรื่องที่แกกับฉันยังต้องคุยกันอีก” อิศราถึงกับรู้สึกหวาดหวั่นกับน้ำเสียงที่บิดาของเขาใช้ นานมากแล้วที่พ่อของเขาไม่ได้ใช้น้ำเสียงแบบนี้กับใคร ทุกคนต่างถูกสั่งให้มานั่งรับฟังเรื่องที่คงศักดิ์จะพูดคุยกับลูกชายด้วย เพราะถือว่าเหตุการณ์ในวันนั้นทุกคนต่างก็รับรู้ร่วมกัน “ไหนแกบอกว่าไปจัดการเรื่องแฟนแกที่อังกฤษ และทำไมถึงกลายเป็นว่าผู้หญิงเขาถึงได้มาตามหาแกที่นี่”คงศักดิ์ใส่อารมณ์ “พ่อพูดเรื่องอะไร ผมงงไปหมดแล้ว” ชายหนุ่มไม่ได้แกล้ง แต่เขาไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าบิดาข
ตอนที่6การมาของใครสองคน เช้านี้เป็นเช้าที่สดใสและมีความสุขสำหรับชมเพลิน เพราะเธอได้นอนกอดกับผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี ถึงแม้ตอนเช้าเธอจะต้องรีบตื่นก่อนทุกคนในบ้านก็ตามเพราะไม่อยากให้ใครมาเห็น “วันนี้เข้าบริษัทแล้วเริ่มเรียนรู้งานเลยนะ ถึงพ่อจะยกหุ้นให้น้องแต่แกเป็นพี่อย่างไรก็ต้องช่วยน้องอยู่ดี” คงศักดิ์ไม่ได้ยกหุ้นในบริษัทให้กับอิศราก็จริง แต่เขาแต่งตั้งชายหนุ่มเป็นผู้จัดการบริษัท มีเงินเดือนเกือบสองแสนบาทและมีหน้าที่ดูแลบริษัทรองจากประธานที่ตอนนี้คงศักดิ์ดำรงตำแหน่งอยู่ “ผมขอช่วยจนน้องเรียนจบนะ เพราะผมคงต้องหาทำกิจการของตัวเองจากที่ดินที่ผมได้บ้าง แต่ก็คงยังช่วยน้องอยู่เพียงแต่ไม่เต็มตัว” คำพูดของอิศราทำให้คนเป็นพ่อรู้สึกภูมิใจที่ลูกชายของเขาเริ่มโต และอยากจะยืนด้วยขาของตัวเอง “ก็ได้ แต่อย่าทิ้งน้องแล้วกัน ตอนนี้ก็คิดไปก่อนว่าจะทำอะไร คิดได้ค่อยมาปรึกษากันดู” คงศักดิ์อยากรู้ว่าลูกชายของเขาจะใช้ที่ดินที่ได้ทั้งที่เชียงใหม่ เชียงราย ปทุมธานี อยุธยา เพื่อใช้ทำกิจการอะไรบ้าง ชมเพลินนั่งฟังสองคนพ่อลูกคุยกันบนโต๊ะอ
ตอนที่ 7เรือนหอสร้างเสร็จ ตลอดเวลาสามวันที่เมธาวีกับอังกอร์เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ หญิงสาวสร้างความปวดหัวให้กับอิศราและชมเพลินเป็นอย่างมาก ทั้งคู่จะต้องทะเลาะกันก่อนนอนทุกคืนด้วยเรื่องของแม่ลูกคู่นี้ และอิศราจะง้อภรรยาด้วยวิธีเดิมๆ ทุกที จนตอนนี้ชมเพลินเริ่มกลัวตัวเองจะพลาดท่าท้อง เพราะชายหนุ่มเล่นไม่หยุดเลยสักวัน อิศราตัดสินใจเข้าไปคุยกับเมธาวีที่สวนหน้าบ้าน ในวันที่สี่ของการมาอยู่ที่นี่ เพราะพรุ่งนี้ผมดีเอ็นเออาจจะออกแล้ว “เมย์พรุ่งนี้ผลอาจจะออกแล้ว ทั้งคุณทั้งผมต่างก็รู้ดี ว่าความจริงมันเป็นแบบไหน คุณยังจะฝืนอยู่ที่นี่เพื่ออะไร คุณพ่อของผมเขาฟ้องคุณจริง ๆ นะ” หญิงสาวเอื้อมมือมาจับมือของชายหนุ่มที่นั่งตรงข้ามแต่อิศรารีบดึงมือออกทันที เพราะรู้สึกทั้งกลัวและรังเกลียดเพื่อนคนนี้ไปแล้ว “เมย์รักอิศนะ อังกอร์ก็รักอิศเหมือนพ่อ พวกเราจะอยู่กันได้อย่างไรถ้าไม่มีอิศ” “คุณต้องอยู่ให้ได้ เพราะผมต้องมีชีวิตของผม อังกอร์ยังคงเป็นหลานของผมเช่นเดิม อย่าทำให้เรื่องแย่ไปกว่านี้เลย ถ้าคุณถูกฟ้อง ต้องใช้เงินสู้คดี พ่อแ
ตอนที่8ลองใจ เรือนหอตกแต่งเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองคนย้ายเข้าไปอยู่พร้อมกับทำบุญบ้านอย่างเป็นทางการ ชมเพลินมองบ้านหลังใหญ่ที่ตอนนี้มันกลายเป็นบ้านของเธอกับอิศราแล้วด้วยความรู้สึกดีใจ เธอกับเขาจดทะเบียนสมรสด้วยกันมาสามเดือนกว่าแล้ว ผ่านเรื่องวุ่นวาย ปวดหัวมาก็หลายเรื่อง ชมเพลินหวังว่าคงไม่มีเรื่องอะไรมาให้เธอต้องปวดหัวอีก “คืนนี้เราต้องฉลองห้องนอนใหม่กันสักหน่อย ผมคงต้องเอาจริงแล้ว สามเดือนกว่าแล้วยังไม่มีทีท่าว่าตัวน้อยจะมาเลย ป่านนี้คนเขาคงว่าผมไม่มีน้ำยาแน่ๆ” อิศราพูดจบก็ไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไป เขาจู่โจมบรรเลงบทรักเพื่อเพิ่มสมาชิกให้กับบ้านหลังใหญ่ทันที เช้านี้ชมเพลินต้องทำกับข้าวให้ตัวเองกับสามี แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากเพราะปกติเธอก็ทำอยู่แล้ว ตอนที่อยู่บ้านหลังโน้น อิศราเดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน พร้อมกับรอยยิ้มเมื่อได้กลิ่นอาหารที่ภรรยาทำ “แค่กลิ่น ผมก็หิวแล้ว ใกล้เสร็จหรือยังครับแม่ครัว” “นั่งรอที่โต๊ะเลยค่ะ อุ่นต้มอีกหน่อยก็พร้อมกินค่ะ” อิศรารักและคิดถึงแม่ของเขามาก เรื่องการทำอาหารก็เป็นส่วนหนึ่ง
ตอนที่9เมื่อเพื่อนไม่อยากเป็นเพื่อน ค่ำคืนที่แสนสับสนของชมเพลินและเป็นค่ำคืนที่แสนเจ็บปวดของอิศรา ชายหนุ่มนอนกอดหญิงสาวที่นอนนิ่งไม่พูดไม่จา เขาไม่คิดเลยว่าที่เขาคิดจะลองใจภรรยาจะทำให้เรื่องราวเลวร้ายไปแบบนี้ เพราะเรื่องก่อนหน้านี้ เธอก็ไม่เห็นจะมีอาการโกรธหรือไม่พอใจเขาเลย เช้านี้กับข้าวทุกอย่างถูกจัดวางไว้บนโต๊ะอาหารอย่างเรียบร้อย แต่ไร้เงาของชมเพลิน เธอออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า โดยที่ไม่ได้บอกใครแม้แต่รตีว่าเธอไปไหน “พ่อครับวันนี้ผมขอไม่ไปทำงานนะ ขออยู่บ้านง้อเมียหน่อยแต่ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าชมเพลินเขาออกไปไหน เขาบอกใครไว้มั่งหรือเปล่า” ชายหนุ่มเดินไปหาบิดาที่บ้านและพูดลอย ๆ เพื่อหวังให้ แม่เลี้ยงของเขาได้ยินและอาจจะบอกเขาว่าภรรยาของเขาไปไหน รตีเข้าใจว่าลูกเขยเธอต้องการอะไร แต่ในเมื่อเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกัน จึงได้แต่เดินเข้าไปในครัว ไม่สนใจขายหนุ่มที่กำลังหันมองตาม “ผู้หญิงถ้าเขาไม่รัก เขาก็จะไม่หึง แล้วถ้าเขาหึงจนถึงจุดอิ่มตัว เขาก็จะไปจากแกแล้วไม่กลับมา” คงศักดิ์ไม่ใช่พ่อประเภทเข้าข้างลูก เขาจึงพูดให
ตอนที่10คุณคือคนสำคัญ เช้าวันนี้รตีชวนลูกสาวออกไปเสริมสวยด้วย ทั้งที่ความจริงปกติแล้ว เธอก็ไปคนเดียวตลอด “ดูปล่อยเนื้อปล่อยตัว ที่คุณคงศักดิ์เขาไม่ให้ลูกไปทำงานแค่ไม่อยากให้ลูกต้องเหนื่อยกับการไปสู่รบกับผู้คนในสังคม เขาไม่ได้จะให้ลูกปล่อยเนื้อปล่อยตัวแบบนี้นะ” รตีมองหน้าลูกสาวที่นั่งรถข้าง ๆ เธอเพื่อไปยังร้านเสริมสวยที่เธอทำประจำ สองคนแม่ลูกใช้เวลาอยู่ในร้านเสริมสวยเกือบทั้งวัน เพราะทางร้านสั่งอาหารมาให้ “คุณแม่เพลินทำจะหมดทั้งตัวแล้วนะคะ กลับกันได้หรือยัง” หญิงสาวเริ่มกังวลว่าจะกลับไปไม่ทันทำกับข้าวมื้อให้สามีของเธอ “แม่ขอทำเล็บอีกครึ่งชั่วโมง รับรองกลับทันแน่นอน” สองคนแม่ลูกเดินออกจากร้าน รตีหันมามองหน้าลูกสาวของเธอ พอได้บำรุงนิดบำรุงหน่อยก็ดูสวยขึ้นเป็นกองเลย “จำคำแม่ไว้นะ การที่เรามีสามีต้องดูแลตัวเองอย่าคิดว่าเขาเลือกเราแล้ว จะไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะการที่เราปล่อยให้ตัวเองดูโทรมมันก็เท่ากับว่าเราดูแลตัวเองไม่เป็นแล้วเราจะไปดูแลคนอื่นได้อย่างไรกัน” รตีด้วยความเป็นแม่ เธออบรมสั่งสอนลูกสาวเรื่
ตอนที่11วิวาห์วุ่น นอกจากงานแต่งงานที่ต้องเตรียมกันอย่างเร่งด่วนแล้ว รตีต้องแยกตัวเองไปเฝ้าสามี ส่วนอิศราก็ต้องไปจัดการงานที่บริษัท หน้าที่เป็นแม่งานจึงตกเป็นของวรรษมน น้องสาวที่แสนน่ารักที่เต็มใจและเต็มที่กับการเตรียมงานให้พี่ชาย ทุกเย็นอิศราจะพาเจ้าสาวของเขาออกแจกการ์ดแขกต่าง ๆ โดยเลือกเฉพาะที่ใกล้ชิดและสนิทจริง ๆ เพราะโรงแรมที่เช่าสถานที่ไว้ รองรับแขกได้ไม่เกินสองร้อยคนเท่านั้น “เอ้า! มาไงล่ะเพื่อนได้ข่าวว่ากลับจากอังกฤษมาตั้งนานแล้ว ไม่เห็นมาแวะหากันบ้างเลย” โยธินเพื่อนสนิทที่สุดของอิศราเพราะทั้งคู่เรียนมัธยมด้วยกันและยังตามไปเรียนต่อที่อังกฤษด้วยกันอีก “ยุ่งหลายเรื่องว่ะ จริง ๆ มีเรื่องที่อยากจะคุยกับแกมากมายเลยไอ้โย” อิศราหยุดพูดทันที เมื่อภรรยาของโยธินเดินมาร่วมวงสนทนาด้วย พร้อมกับสาวใช้ที่นำขนมและเครื่องดื่มมาต้อนรับ “เพื่อนพี่โยคนนี้เข็มไม่ได้เจออีกเลยนะคะหลังจากงานแต่งงานของเรา” เข็มเธอเป็นลูกสาวผู้มีบารมีในบ้านเมืองที่พ่อของโยธินจับคลุมถุงชนให้ทันที หลังจากที่เขากลับมาจากอังกฤษ “พอกินเลี้ยงงาน
ตอนที่ 1นาทีของชีวิต อเรนโซมาเฟียหนุ่มลูกครึ่งอิตาลีไทยนั่งรถส่วนตัวจากบริษัทเล็ก ๆ ของครอบครัวที่เปิดสาขาในเมืองไทยจากสนามบินมายังโรงพยาบาลที่ตอนนี้มีคนที่เขารักกำลังจะจากเขาไป ภาพเก่าแห่งวันวานย้อนมาในความทรงจำ ความรักระหว่างมาเฟียหนุ่มกับหญิงสาวกำพร้าก่อตัวขึ้นเมื่อครั้งที่อเรนโซกลับมาดูแลบ้านและสาขาของบริษัทที่เมืองไทยเมื่อสี่ปีที่แล้ว เขาได้พบรักกับเบญญาหญิงสาวกำพร้าที่ทำงานเป็นเลขาในบริษัทนำเข้าอะไหล่รถยนต์ ทั้งคู่อยู่กินกันแบบลับ ๆ จนมีลูกด้วยกันสองคน คือเพชรกับทับทิม พอคิดขึ้นมาถึงลูก ๆ ทั้งสองคน อเรนโซพยายามเงยหน้าเพื่อไม่ให้น้ำตาที่แสนจะอ่อนแอไหลออกมาแต่สุดท้ายเขาก็พ่ายแพ้มัน การมาเมืองไทยครั้งนี้สำหรับอเรนโซมาเฟียที่มีเงินมากมายล้นฟ้ามันคือการมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัวเป็นครั้งสุดท้าย เบญญากำลังจะจากไปด้วยโรคมะเร็งที่เขาเองเพิ่งจะได้รู้ว่าเธอป่วยเมื่อหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เขาทุ่มเงินเพื่อยื้อชีวิตของภรรยาไว้และตั้งใจว่าเขากลับอิตาลีไปครั้งนี้เพื่อไปจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยและจะกลับมาดูแลภรรยาจนกว่าอาการของเธอจะดีขึ้นแต่สุดท้ายเขากลับต้