Share

ลองใจ

ตอนที่8

ลองใจ

         เรือนหอตกแต่งเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองคนย้ายเข้าไปอยู่พร้อมกับทำบุญบ้านอย่างเป็นทางการ ชมเพลินมองบ้านหลังใหญ่ที่ตอนนี้มันกลายเป็นบ้านของเธอกับอิศราแล้วด้วยความรู้สึกดีใจ เธอกับเขาจดทะเบียนสมรสด้วยกันมาสามเดือนกว่าแล้ว ผ่านเรื่องวุ่นวาย                 ปวดหัวมาก็หลายเรื่อง ชมเพลินหวังว่าคงไม่มีเรื่องอะไรมาให้เธอต้องปวดหัวอีก

         “คืนนี้เราต้องฉลองห้องนอนใหม่กันสักหน่อย ผมคงต้องเอาจริงแล้ว สามเดือนกว่าแล้วยังไม่มีทีท่าว่าตัวน้อยจะมาเลย ป่านนี้คนเขาคงว่าผมไม่มีน้ำยาแน่ๆ”

         อิศราพูดจบก็ไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไป เขาจู่โจมบรรเลงบทรักเพื่อเพิ่มสมาชิกให้กับบ้านหลังใหญ่ทันที

         เช้านี้ชมเพลินต้องทำกับข้าวให้ตัวเองกับสามี แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากเพราะปกติเธอก็ทำอยู่แล้ว ตอนที่อยู่บ้านหลังโน้น

         อิศราเดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน พร้อมกับรอยยิ้มเมื่อได้กลิ่นอาหารที่ภรรยาทำ

         “แค่กลิ่น ผมก็หิวแล้ว ใกล้เสร็จหรือยังครับแม่ครัว”

         “นั่งรอที่โต๊ะเลยค่ะ อุ่นต้มอีกหน่อยก็พร้อมกินค่ะ”

         อิศรารักและคิดถึงแม่ของเขามาก เรื่องการทำอาหารก็เป็นส่วนหนึ่ง ตั้งแต่เขาจำความได้ แม่ไม่เคยซื้อกับข้าวถุงเลย ท่านจะทำเองและตามใจทุกคนในบ้านสุด ๆ

         “ขอบคุณนะ”

         อยู่ดี ๆ ชายหนุ่มก็พูดขึ้นมา เมื่อชมเพลินเดินยกถ้วยต้มจืดมาตั้งบนตะ และนั่งลงเพื่อเตรียมกินอาหาร

         “ขอบคุณเพลินเรื่องอะไรคะ” หญิงสาวสงสัย

         “เพลิน คุณทำให้ผมรู้สึก เหมือนได้กลับมาอยู่กับแม่อีกครั้ง กลางคืนมีคนนอนด้วย ตื่นเช้ามาก็มีกับข้าวอร่อย ๆ กิน ผมมีความสุขที่สุดเลยคุณรู้ไหม”

         หญิงสาวได้แต่พยักหน้าเพราะสำหรับเธอแล้ว ความสุขมันจะมากกว่านี้ ถ้าอิศรายอมมองมารดาเธอในแง่ดีบ้าง แต่ชมเพลินก็ได้แต่คิดไม่กล้าพูดออกไป เพราะตอนนี้บรรยากาศบนโต๊ะอาหารกำลังดี เธอกลัวถ้าพูดไปจะพากันหมดอารมณ์กินก็ได้

         อิศราออกไปทำงานพร้อมกับคงศักดิ์แล้ว ชมเพลินจึงเดินไปหามารดาที่บ้านหลังเก่า

         “เป็นอย่างไรบ้างลูก นอนบ้านใหม่หลับสบายดีไหม”

         รตีกอดลูกสาวที่เธอรักสุดหัวใจ ทุกวันนี้ที่เธอยอมให้อิศรามองเธอไม่ดี ก็เพราะเพียงต้องการให้ลูกสาวได้มีชีวิตที่ดี ยิ่งตอนนี้         ชายหนุ่มดูรักลูกสาวเธอมาก เธอยิ่งหมดห่วง

         “หลับสบายดีค่ะ แต่บ้านมันใหญ่ของก็ไม่ค่อยมี และอยู่กันสองคน มองไปทางไหนก็ดูเหงา”

         ชมเพลินพูดตามความรู้สึก เธอคิดว่าคงต้องชวนสามีไปหาซื้อของมาตกแต่งบ้านเพิ่ม พวกโซฟา ตู้โชว์ เพื่อให้บ้านข้างล่างดูโล่งไป ได้มีของบ้าง

         “คุณคะมีเพื่อนคุณอิศมาขอพบคุณอิศค่ะ เป็นผู้หญิง เธอบอกชื่อไอซ์” แม่บ้านรายงาน

         “ไปเชิญเขาเข้ามาก่อน” รตีหันไปสั่ง

         “แม่คะ คงไม่มีอะไรอีกใช่ไหม เพลินเหนื่อยแล้ว”

         ทุกครั้งที่มีผู้หญิงมาหาชายหนุ่มที่บ้านจะตามมาด้วยเรื่องราวปวดหัวทุกครั้ง และครั้งนี้หญิงสาวก็คิดว่าน่าจะเหมือนเดิม

         “สวัสดีค่ะ”

         หญิสาวสวยที่ทั้งรตีและชมเพลินต่างคุ้นหน้า แต่จำไม่ได้ว่าเธอคือใครยกมือสวัสดี

         “สวัสดีจ๊ะ เดี๋ยวนั่งก่อนนะ ตอนนี้คุณอิศราเขาไม่อยู่ไปทำงาน เดี๋ยวฉันจะลองติดต่อให้ แล้วจะให้บอกว่าใครมารอพบจ๊ะ”

         รตียังไม่รู้ชื่อของแขกที่มาใหม่เลย จึงไม่รู้ว่าจะให้ชมเพลินโทรไปบอกว่าใครที่มาหา

         “ฉันชื่อไอซ์ค่ะ คุ้นหน้ากันไหมคะ ไอซ์เป็นนักแสดงแต่ตอนนี้ก็ไม่ค่อยรับงานเท่าไหร่แล้วค่ะ”

         เมื่อหญิงสาวแนะนำตัว สองคนแม่ลูกก็ถึงกับยิ้มเพราะจำได้แล้ว ว่าหญิงสาวตรงหน้า เคยเป็นอดีตนางเอกอยู่สักพักก่อนที่จะมีข่าวฉาวแล้วก็หายตัวไป

         “ลูกโทรไปบอกคุณอิศนะ ว่าเขาจะให้เพื่อนไปหาที่บริษัทหรือจะอย่างไร”

         ชมเพลินโทรศัพท์หาสามี น้ำเสียงปลายสายดูดีใจที่เพื่อนเก่าสมัยมัธยมมาหา และบอกให้ชมเพลินให้เบอร์โทรศัพท์ของเขาไป แล้วเขาจะคุยกันเอง

         หญิงสาวทำตามทุกอย่างที่สามีบอก พอได้เบอร์โทรศัพท์ของอิศราแล้ว หญิงสาวก็ขอตัวกลับทันที

         “คงไม่มีอะไรหรอกมั้งลูก ดูทำหน้าเข้า”

         รตีก็กลัวเหมือนกันว่าจะเกิดเรื่องยุ่ง ๆ ขึ้น แต่ก็แกล้งพูดเพื่อให้ลูกสาวรู้สึกมีกำลังใจ ไม่คิดมาก

         ชมเพลินเดินกลับบ้านไป เพราะได้เวลาต้องตากผ้าแล้ว หัวใจของเธอมันไม่รู้สึกมีความสุขเหมือนเมื่อเช้าเลยมันมีแต่ความหวาดระแวง

         เย็นนั้นอิศราไม่ได้กลับมาพร้อมกับคงศักดิ์ เขาโทรศัพท์มาบอกกับชมเพลินว่าไม่ต้อวรอกินข้าว

         หลังจากวันที่ผู้หญิงที่ชื่อไอซ์ได้เข้ามาในชีวิตของอิศรา เขาก็มีเวลาให้ชมเพลินน้อยลง แต่ก็ยังคงเร่งผลิตลูก จนทำให้หญิงสาวรู้สึกเหมือนตัวเองไม่ได้เป็นภรรยาแต่เป็นแม่พันธุ์ที่ต้องผลิตลูกมากกว่า

         วรรษมนรู้เรื่องผู้หญิงที่ชื่อไอซ์และการกลับบ้านดึกของพี่ชายจากป้าแม่บ้านและพ่อของเธอ หญิงสาวจึงไปหาพี่สะใภ้ที่บ้านเพื่อให้เพลินได้พอหายเหงา

         “ถ้าอยู่บ้านแล้วมันเบื่อ ก็ออกไปเที่ยว ดูหนัง เปิดหูเปิดตาข้างนอกบ้างก็ได้เพลิน”

         “ มน เพลินไม่รู้จะไปไหน ”

         “ก็ลองโทรชวนเพื่อน ๆ ดู พี่อิศยังมีเพื่อนได้ เพลินก็ต้องมีเพื่อนได้เหมือนกัน อย่าทำตัวเป็นของตาย เชื่อมน”

         น้องสามีเตือนสติเธอแบบนี้ ชมเพลินจึงคิดได้ว่า ในเมื่อเขาไม่ทำหน้าที่สามีที่ดี เธอก็ไม่จำเป็นต้องทำหน้าที่ภรรยาที่ดีเหมือนกัน

         ชมเพลินโทรศัพท์หาคชา เธอชวนเขาไปดูภาพยนตร์รอบหัวค่ำ กว่าจะจบก็ดึกแล้วจึงไปหาอะไรกินกันต่อ

         “เพลินคุณไปไหนมา”

         อิศรานั่งรอการกลับมาของภรรยาอยู่ที่หน้าบ้าน ด้วยอารมณ์ที่ครุกรุ่นเต็มที่เมื่อเห็นว่าคนที่มาส่งหญิงสาวคือผู้ชายที่ชื่อคชา

         “ไปดูหนัง...กับ เพื่อน! มาค่ะ”

         หญิงสาวย้ำคำว่าเพื่อน เพื่อหวังว่าชายหนุ่มที่กำลังโกรธจะรู้ตัวบ้างว่าที่เธอทำก็เหมือนที่เขาทำ

         “ผมหิวข้าว”

เมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังโดนย้อนศรชายหนุ่มจึงเปลี่ยนไปโมโหเรื่องอื่นแทน

“เพลินไม่ได้ทำกับข้าวค่ะ เพราะทำมาหลายวันแล้ว นั่งกินคนเดียวมันไม่อร่อย ก็เลยคิดว่าออกไปหาเพื่อนกินข้างนอกเหมือนอย่างที่คุณอิศทำ คงจะดีกว่า”

อิศรารู้ว่าตัวเองกำลังโมโหเต็มที่ เพราะชมเพลินไม่เคยพูดจาแบบนี้กับเขาเลย ด้วยกลัวว่าตัวเองจะเสียงดัง ชายหนุ่มจึงรีบดึงมือหญิงสาวให้เดินเข้าบ้านแล้วปิดประตูทันที

“ผมไม่ให้คุณไปกับมันอีก”

อิศราพูดเสียงแข็ง มือของเขาบีบแขนของชมเพลินจนแทบจะหัก

“ฉันก็ไม่ให้คุณไปกับมันเหมือนกัน”

ชมเพลินพูดสวนกลับ แต่เสียงของเธอไม่ได้แข็งกร้าวเหมือนอีกฝ่าย แต่มันคือเสียงของคนที่กำลังร้องไห้

“คุณอยากทำอะไรคุณก็ทำ ไม่เคยสนใจว่าฉันจะคิดหรือจะรู้สึกอะไร ฉันไม่ไหวแล้วคุณอิศ เพลินไม่ไหวแล้ว”

หญิงสาวล้มตัวลงไปนั่งกับพื้นทันที ที่ชายหนุ่มปล่อยมือที่บีบแขนเธออยู่

         อิศราทำอะไรไม่ถูกเขาลงไปนั่งข้าง ๆ ภรรยาและกอดเธอไว้แน่น

         “ผมขอโทษ ที่ผมทำไปทั้งหมด ผมแค่อยากรู้ว่าคุณรักผมไหม แต่ผมลืมไปว่าความรักมันใช้การลองใจกันแบบนี้ไม่ได้ เพลินผม              ขอโทษนะ”

         ไม่มีคำพูดใดออกจากปากของหญิงสาว เธอไม่เชื่อเขาอีกแล้ว เธอหมดความอดทนและอยากจบเรื่องทุกอย่างเสียที

        

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status