ตอนที่10
คุณคือคนสำคัญ
เช้าวันนี้รตีชวนลูกสาวออกไปเสริมสวยด้วย ทั้งที่ความจริงปกติแล้ว เธอก็ไปคนเดียวตลอด
“ดูปล่อยเนื้อปล่อยตัว ที่คุณคงศักดิ์เขาไม่ให้ลูกไปทำงานแค่ไม่อยากให้ลูกต้องเหนื่อยกับการไปสู่รบกับผู้คนในสังคม เขาไม่ได้จะให้ลูกปล่อยเนื้อปล่อยตัวแบบนี้นะ”
รตีมองหน้าลูกสาวที่นั่งรถข้าง ๆ เธอเพื่อไปยังร้านเสริมสวยที่เธอทำประจำ
สองคนแม่ลูกใช้เวลาอยู่ในร้านเสริมสวยเกือบทั้งวัน เพราะทางร้านสั่งอาหารมาให้
“คุณแม่เพลินทำจะหมดทั้งตัวแล้วนะคะ กลับกันได้หรือยัง”
หญิงสาวเริ่มกังวลว่าจะกลับไปไม่ทันทำกับข้าวมื้อให้สามีของเธอ
“แม่ขอทำเล็บอีกครึ่งชั่วโมง รับรองกลับทันแน่นอน”
สองคนแม่ลูกเดินออกจากร้าน รตีหันมามองหน้าลูกสาวของเธอ พอได้บำรุงนิดบำรุงหน่อยก็ดูสวยขึ้นเป็นกองเลย
“จำคำแม่ไว้นะ การที่เรามีสามีต้องดูแลตัวเองอย่าคิดว่าเขาเลือกเราแล้ว จะไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะการที่เราปล่อยให้ตัวเองดูโทรมมันก็เท่ากับว่าเราดูแลตัวเองไม่เป็นแล้วเราจะไปดูแลคนอื่นได้อย่างไรกัน”
รตีด้วยความเป็นแม่ เธออบรมสั่งสอนลูกสาวเรื่องการเป็นภรรยาที่ดีมาตลอดทาง จนชมเพลินอดสงสัยไม่ได้ เธอจดทะเบียนสมรสและแยกบ้านไปอยู่อีกหลังตั้งเป็นเดือนแล้ว ทำไมมารดาของเธอถึงเพิ่งคิดจะมาสอนเอาวันนี้
“ทำไมรถทุกคันจอดอยู่ที่บ้านกันหมดเลย สงสัยเราสองคนมัวแต่เสริมสวย ป่านนี้ทั้งสองบ้านพากันหิวหมดแล้วแน่ ๆ”
ชมเพลินทำท่าเร่งรีบลงจากรถทันที ที่รถเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน รตีแอบยิ้มอยู่ด้านหลัง ปล่อยให้ลูกสาวเดินนำหน้าไปยังเรือนหอของตัวเอง
“อุ๊ย!”
เสียงเพลงจากเปียโนที่วรรษมนเล่น และลูกโป่งสวยงามเต็มบ้านทำเอาชมเพลินที่เปิดประตูเข้าไป ถึงกับร้องด้วยความตกใจ
ชายหนุ่มในชุดสูทสีขาวถูกโบว์สีแดง เดินมาคุกเข่าตรงหน้าเธอ คงศักดิ์ทำหน้าที่อัดวิดีโอไว้
“แต่งงานกับผมนะ”
เสียงของเปียโนที่ว่าเพราะ ยังฟังไม่ซึ้งเท่าคำพูดของอิศราที่คุกเข่าขอภรรยาตัวเองแต่งงาน
ชมเพลินส่งมือข้างซ้ายให้ชายหนุ่มสวมแหวน น้ำตาของเธอไหลอาบแก้มด้วยความดีใจ ก่อนจะสวมกอดสามีไว้ด้วยความรู้สึกขอบคุณ
รตียืนยิ้มให้กับความสุขของลูกสาว เพราะเธอก็เป็นส่วนหนึ่งในแผนการนี้ด้วย แต่ยังมีอีกเรื่องที่รตีเองก็ไม่รู้ว่าตัวเธอก็กำลังจะโดนทำให้แปลกใจเหมือนกัน
อิศราหยิบช่อดอดมะลิและจับมือภรรยาของเขา พาเดินไปหารตีแม่เลี้ยงที่เขาเคยว่าเคยด่ามาตลอด
ชายหนุ่มนั่งลงกับพื้นโดยมีชมเพลินนั่งอยู่เคียงข้าง สองมือของอิศราก้มลงกราบที่เท้าของรตี วันนี้ชายหนุ่มรู้แล้วว่า ผู้หญิงที่เขาเคยเกลียดเคยไม่ชอบ ดูแลพ่อของเขามาตลอด โดยที่สุดท้ายเธอคือคนเดียวที่ไม่มีชื่ออยู่ในพินัยนกรรม
หญิงสูงวัยที่หน้าตายังคงสวยอยู่ ก้มรับช่อดอกมะลิ จากทั้งลูกสาวและลูกเขย น้ำตาแห่งความซึ้งใจ มันไหลออกจาดวงตาที่เข้มแข็งอดทนต่อความเข้าใจผิดมาหลายปี
สองมือเหี่ยวลูบลงที่ผมของทั้งคู่ด้วยความรักและเอ็นดู คงศักดิ์เดินมาหาภรรยาและจับมือเธอไว้ มองสบตากันด้วยความสุข ที่พ่อและแม่เฝ้าฝันจะเห็น
“ผมขอโทษนะครับ ทุกอย่างที่ผมเคยล่วงเกิน วันนี้คุณแม่รับผมเป็นลูกชายอีกสักคนนะครับ”
รตีโผเข้ากอกอิศราที่ลุกยืนขึ้นอยู่ด้านหน้าเธอ ตลอดเวลาสิบห้าปีที่เธออยู่กับคงศักดิ์มา เธอรอฟังคำว่าแม่จากปากของลูกเลี้ยงคนนี้มานานแสนนาน
คืนนี้ลานหน้าบ้านระหว่างบ้านทั้งสองหลังถูกจัดเป็นงานปาร์ตี้เล็ก ๆ มีแค่คนในครอบครัว นั่งร้องเพลงกันอย่างมีความสุข
คงศักดิ์กับรตีหาฤกษ์แต่งงานไว้ให้ลูก ๆ ของเขาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งฤกษ์ดีนี้ เหลือเวลาอีกแค่สองสัปดาห์เท่านั้นในการเตรียมตัว
วรรษมนเรียนจบพอดี เธอจึงใช้เวลาทั้งหมดทุ่มเทกับการเตรียมงานแต่งให้พี่ชาย
คงศักดิ์รีบมาจัดการเรื่องงานที่บริษัทให้เรียบร้อยเพราะต้องการพาครอบครัวไปเที่ยวยุโรปหลังงานแต่งงาน
“คุณท่าน ! คุณท่าน”
เลขาสาวเข้ามาที่ห้องทำงานของคงศักดิ์เพื่อเอาเอกสารให้ แต่กลับผมเจ้านายห้าฟุบไปกับโต๊ะ จึงรีบเรียกรถพยาบาล
“คุณหมอคะสามีของฉันเป็นอย่างไรบ้างคะ”
รตีพุ่งตัวเข้าหาคุณหมอทันทีเมื่อประตูห้องฉุกเฉินถูกเปิดออก ด้วยความเป็นห่วงสามี
“คนไข้แค่เหนื่อยและหลับไป แต่เป็นการหลับลึกเพราะคนไข้มีอาการของโรคหัวใจอยู่แล้ว คนที่ใกล้ชิดต้องระวังอย่าให้คนไข้เครียด ทำงานหนัก หรือออกกำลังกายมากเกินไป หมอขอให้คนไข้นอนดูอาการที่โรงพยาบาลสักสองคืนนะแล้วค่อยกลับบ้าน ไม่มีอะไรมากหรอก หมอแค่อยากตรวจให้ละเอียด เลยให้นอนโรงพยาบาลดีกว่า”
ทุกคนต่างตกใจเรื่องที่คุณหมอบอกว่าคงศักดิ์เป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว เพราะเรื่องนี้มีแต่รตีคนเดียวเท่านั้นที่รู้
“แม่ต้องขอโทษทุกคนด้วยที่ไม่ได้บอก คุณพ่อขอไว้ เมื่อสามปีก่อน ที่แม่กับพ่ออยู่ดี ๆ ไม่กลับบ้าน และโทรมากบอกหนูมนว่าจะไปยุโรปกัน ความจริงคุณพ่ออยู่โรงพยาบาล”
รตีจำเป็นต้องเล่าความจริงทั้งหมดให้ทุกคนรู้แล้วในเวลานี้ เพราะทุกคนต่างก็รักและเป็นห่วงพ่อด้วยกันทั้งนั้น
“ที่คุณพ่อเรียกผมกลับมาเพื่อฟังพินัยกรรมเพราะท่านป่วยใช่ไหมครับ”
อิศราเริ่มจับต้นชนปลายเรื่องต่าง ๆ ได้ เขาสงสัยมาตลอด ว่าทำไมพ่อของเขาถึงรีบแบ่งสมบัติทั้งที่ยังดูแข็งแรงอยู่
“คุณพ่อเป็นห่วงอิศรามาก เพราะรู้นิสัยของลูกชาย ท่านพูดเสมอว่า คนที่จะอยู่กับลูกชายเขาได้ต้องมีนิสัยเหมือนแม่ของเขาเท่านั้น และท่านก็เฝ้าสังเกตคนนั้นคนนี้ จนมาหยุดที่ชมเพลิน เพราะเธอมีหลาย ๆ อย่างที่คล้ายกับภรรยาของท่าน เรื่องทั้งหมดก็เป็นแบบนี้แหละ”
ชายหนุ่มรู้สึกผิดมากที่ตลอดเวลาที่อยู่อังกฤษเขาคิดมาตลอดว่าพ่อคงลืมลูกชายคนนี้ไปแล้วแต่กลายเป็นว่าท่านกับคิดแต่เรื่องของเขาอยู่ตลอดเวลาถึงแม้เขาจะไม่ได้อยู่ใกล้ท่านก็ตาม
งานแต่งก็ถูกจัดเตรียมตามปกติ ส่วนเจ้าบ่าวต้องไปสะสางงานแทนบิดาที่ล้มป่วย เพราะบิดาของเขาตั้งใจว่าจะพาทุกคนในครอบครัวไปเที่ยวยุโรปพร้อมหน้ากันให้ได้
ตอนที่11วิวาห์วุ่น นอกจากงานแต่งงานที่ต้องเตรียมกันอย่างเร่งด่วนแล้ว รตีต้องแยกตัวเองไปเฝ้าสามี ส่วนอิศราก็ต้องไปจัดการงานที่บริษัท หน้าที่เป็นแม่งานจึงตกเป็นของวรรษมน น้องสาวที่แสนน่ารักที่เต็มใจและเต็มที่กับการเตรียมงานให้พี่ชาย ทุกเย็นอิศราจะพาเจ้าสาวของเขาออกแจกการ์ดแขกต่าง ๆ โดยเลือกเฉพาะที่ใกล้ชิดและสนิทจริง ๆ เพราะโรงแรมที่เช่าสถานที่ไว้ รองรับแขกได้ไม่เกินสองร้อยคนเท่านั้น “เอ้า! มาไงล่ะเพื่อนได้ข่าวว่ากลับจากอังกฤษมาตั้งนานแล้ว ไม่เห็นมาแวะหากันบ้างเลย” โยธินเพื่อนสนิทที่สุดของอิศราเพราะทั้งคู่เรียนมัธยมด้วยกันและยังตามไปเรียนต่อที่อังกฤษด้วยกันอีก “ยุ่งหลายเรื่องว่ะ จริง ๆ มีเรื่องที่อยากจะคุยกับแกมากมายเลยไอ้โย” อิศราหยุดพูดทันที เมื่อภรรยาของโยธินเดินมาร่วมวงสนทนาด้วย พร้อมกับสาวใช้ที่นำขนมและเครื่องดื่มมาต้อนรับ “เพื่อนพี่โยคนนี้เข็มไม่ได้เจออีกเลยนะคะหลังจากงานแต่งงานของเรา” เข็มเธอเป็นลูกสาวผู้มีบารมีในบ้านเมืองที่พ่อของโยธินจับคลุมถุงชนให้ทันที หลังจากที่เขากลับมาจากอังกฤษ “พอกินเลี้ยงงาน
ตอนที่ 1นาทีของชีวิต อเรนโซมาเฟียหนุ่มลูกครึ่งอิตาลีไทยนั่งรถส่วนตัวจากบริษัทเล็ก ๆ ของครอบครัวที่เปิดสาขาในเมืองไทยจากสนามบินมายังโรงพยาบาลที่ตอนนี้มีคนที่เขารักกำลังจะจากเขาไป ภาพเก่าแห่งวันวานย้อนมาในความทรงจำ ความรักระหว่างมาเฟียหนุ่มกับหญิงสาวกำพร้าก่อตัวขึ้นเมื่อครั้งที่อเรนโซกลับมาดูแลบ้านและสาขาของบริษัทที่เมืองไทยเมื่อสี่ปีที่แล้ว เขาได้พบรักกับเบญญาหญิงสาวกำพร้าที่ทำงานเป็นเลขาในบริษัทนำเข้าอะไหล่รถยนต์ ทั้งคู่อยู่กินกันแบบลับ ๆ จนมีลูกด้วยกันสองคน คือเพชรกับทับทิม พอคิดขึ้นมาถึงลูก ๆ ทั้งสองคน อเรนโซพยายามเงยหน้าเพื่อไม่ให้น้ำตาที่แสนจะอ่อนแอไหลออกมาแต่สุดท้ายเขาก็พ่ายแพ้มัน การมาเมืองไทยครั้งนี้สำหรับอเรนโซมาเฟียที่มีเงินมากมายล้นฟ้ามันคือการมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัวเป็นครั้งสุดท้าย เบญญากำลังจะจากไปด้วยโรคมะเร็งที่เขาเองเพิ่งจะได้รู้ว่าเธอป่วยเมื่อหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เขาทุ่มเงินเพื่อยื้อชีวิตของภรรยาไว้และตั้งใจว่าเขากลับอิตาลีไปครั้งนี้เพื่อไปจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยและจะกลับมาดูแลภรรยาจนกว่าอาการของเธอจะดีขึ้นแต่สุดท้ายเขากลับต้
ตอนที่ 2คำขอสุดท้าย “เบญผมขอโทษ” คำพูดเดียวที่อเรนโซคิดได้ในเวลานี้ สายตาที่อ่อนแอมองสบตากับภรรยาที่เขาทอดทิ้งให้เธอต้องดูแลตัวเองและลูก ๆ มาโดยลำพังตลอด คนป่วยส่งยิ้มแบบฝืด ๆ ให้กับชายผู้ที่เป็นเจ้าของหัวใจเธอเพียงคนเดียว “คุณไม่ได้ทำอะไรผิดเสียหน่อย เรื่องที่เบญป่วยมันเป็นเรื่องของร่างกายและคุณก็พยายามหาทางรักษาที่ดีที่สุดให้กับเบญแล้ว อย่าทำให้เบญไม่สบายใจที่เห็นคุณเศร้าแบบนี้สิคะ” สองมือซีดลูบหน้าสามีด้วยความเข้มแข็งที่มีเพียงน้อยนิดแต่เบญญาก็เลือกที่จะแสดงมันออกมาเพื่อให้ชายหนุ่มสบายใจขึ้นเพราะสิ่งที่เธอต้องการคือให้สามีเข้มแข็งเพื่อที่เขาจะต้องทำหน้าที่เป็นพ่อและดูแลลูก ๆ ทั้งสองคนต่อไปโดยที่ไม่มีเธอแล้ว “อเรนโซคุณสัญญาได้ไหมว่าถ้าเบญจากไปแล้วคุณจะไม่เอาลูก ๆ ไปอิตาลี เบญรู้ว่าคุณคงลำบากใจแต่คุณเข้าในใช่ไหมว่าที่นั่นไม่ได้ปลอดภัยและลูก ๆ ของเราก็ไม่เหมาะกับที่นั่น รับปากและสัญญากับเบญนะคะ” “ผมไม่ได้อยู่เมืองไทยแล้วลูก ๆ จะอยู่กับใคร ญาติพี่น้องทั้งของเบญและผมก็ไม่มี” ชายหนุ่มคิดไม่ออกว่าถ้าเขาไม่เอาลูก ๆ ไป
ตอนที่ 3เป็นภรรยาผมเถอะ อเรนโซเดินทางกลับจากเมืองไทยด้วยหัวใจที่บอบช้ำ เขาเพิ่งสูญเสียภรรยาและนี่พ่อก็โทรศัพท์มาบอกว่าแม่ของเขากำลังป่วยหนักอีก ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนชีวิตของเขากำลังอยู่ในช่วงที่เจอปัญหามากมายรุมเข้ามาถ้าไม่มีลูก ๆ อีกสองคนที่เขาต้องดูแล อเรนโซคิดว่าตัวเองคงสติหลุดไปมากกว่านี้แน่ ๆ “คุณพ่อ! คุณแม่! นี่มันอะไรกันครับ” ภาพมาร์โกและอมราที่นั่งรอลูกชายอยู่ที่ห้องรับแขกพร้อมกับหญิงสาวที่มาในชุดรัดรูปสีแดงที่รีบลุกขึ้นเดินตรงมาเกาะแขนของชายหนุ่มที่กำลังยืนมองทุกคนด้วยความแปลกใจในสิ่งที่เห็น ลอร่าใช้มือเล็กที่เกาะแขนอเรนโซพาตัวเขามานั่งลงข้าง ๆ เธอด้วยท่าทางที่ดูเหมือนคนกำลังมีความสุข “มาถึงเหนื่อย ๆ นั่งพักก่อนนะคะพี่เรน”หญิงสาวในชุดแดงรัดทุกส่วนของร่างกายอ้อนเสียงหวาน “ไหนคุณพ่อบอกว่าคุณแม่ไม่สบายแล้วนี่มันอะไรกันครับ” มาร์โกได้แต่หลบตาเมื่อถูกลูกชายถามด้วยน้ำเสียงและ แววตาที่ตำหนิและเสียใจกับการโกหกของผู้เป็นพ่อ อมราหญิงวัยใกล้หกสิบขยับตัวเพื่อทำหน้าที่ตอบแทนเพรา
ตอนที่ 4แผน การรอคอยที่ดูไร้ความหวังมันแสนจะทรมานแต่มันก็คือหนทางเดียวที่ดีที่สุดตอนนี้สำหรับชายหนุ่มที่ไม่อยากตัดสินใจผิดซ้ำซากอีกแล้ว อเรนโซคิดว่าคงไม่มีทางที่ขวัญข้าวจะยอมทำในสิ่งที่ เขาขอร้องแน่ ๆ เพราะภาพของเขาในสายตาของเธอมันช่างแสนเลวร้ายเหลือเกินและมันก็สมควรแล้วที่หญิงสาวจะรู้สึกกับเขาแบบนั้น มาเฟียหนุ่มนั่งดื่มอยู่ที่ระเบียงห้องนอนที่ใหญ่มากกว่าบ้านที่เขาซื้อให้กับเบญญาเสียอีก เรื่องราวเก่า ๆ ในความทรงจำ ย้อนเข้ามาในความคิดของคนที่เริ่มสติไม่อยู่ครบเพราะดื่มไป หลายแก้วแล้ว เสียงของขวัญข้าวที่โทรศัพท์หาเขาในวันที่เบญญาต้องเข้าผ่าตัดคลอดลูกชายคนโตโดยด่วนเพราะเธอล้มในห้องน้ำซึ่งตอนนั้นคนโทรมาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาคือใครรู้แค่เพียงเป็นสามีของลูกน้องเธอเพราะเบญไม่เคยบอกเล่ารายละเอียดของสามีให้ใครฟังตามที่สัญญาไว้ “คนอย่างคุณไม่ใช่แค่ไม่สมควรเป็นพ่อคนแต่คุณไม่ควรเกิดเป็นคนเลยด้วยซ้ำ” คำพูดของขวัญข้าวก่อนวางสายในวันนั้นยังดังอยู่ใน ความทรงจำของผู้ชายที่เลือกงานมากกว่าจะรีบเดินทางไปหาเม
ตอนที่ 5เผชิญหน้า อเรนโซเดินทางไปหาขวัญข้าวที่บ้านของเธอทันทีที่ถึงเมืองไทยเพราะตอนนี้เวลาที่เขาเหลืออยู่มีไม่มาก ขวัญข้าวเตรียมทุกอย่างให้กับตัวเธอและเด็ก ๆ ทั้งสองเพื่อพร้อมต่อการเดินทางแต่สิ่งที่ทำให้ทั้งขวัญข้าวและอเรนโซถึงกลับตกใจก็คือภาพของชัยชาญที่เดินลงจากบ้านมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ “คุณพ่อคะ คือ...คุณพ่อจะไปกับข้าวและเด็กหรือคะ” หญิงสาวถามด้วยความตกใจเพราะเธอกับบิดาคุยเรื่องนี้กันเกือบ ทั้งคืนแต่ชัยชาญไม่ยอมบอกเธอเลยว่าจะตามไปที่อิตาลีด้วย “ใช่ มีปัญหาอะไรกันไหม” อเรนโซรีบยืนยกมือไหว้ตามมารยาทของคนไทยเพราะตั้งแต่เขามาถึงเขายังไม่ได้เจอพ่อของขวัญข้าวเลยและจริง ๆ แล้วชายหนุ่มเคยเจอ ชัยชาญแค่เพียงช่วงงานศพของเบญญาเท่านั้น “ผมไม่มีปัญหาครับและยินดีที่คุณพ่อจะเดินทางไปกลับพวกเรา” การเดินทางครั้งนี้ไม่ได้มีแค่ชัยชาญ ขวัญข้าว อเรนโซและเด็ก ๆแต่ชัยชาญได้เอาคนของเขาไปด้วยหลายคนทั้งที่ไปแบบเปิดตัวและติดตามไปโดยที่อเรนโซไม่รู้ตัวเพราะสำหรับนักธุรกิจที่อายุมากและมากประสบการณ์อย่างชัยชาญเขารู้ดีว่าที่
ตอนที่ 6เมื่อแผนเริ่มต้น “ขวัญข้าวผมขอโทษแทนคุณแม่ด้วยนะที่ท่านพูดแบบนั้นกับคุณ” อเรนโซเดินเข้ามาจับมือของหญิงสาวที่กำลังเดินเข้ามายังห้องนอนของเขาเพื่อความสมจริงในบทสามีภรรยา “อเรนโซคุณทำได้มากกว่าพูดคำว่าขอโทษแบบนี้ ฉันเชื่อว่าเบญก็คงรอว่าสักวันคุณจะทำทุกอย่างในฐานะของพ่อได้ดีกว่าที่ผ่านมา วันนี้มันเพิ่งเริ่มต้นแต่จำไว้ฉันมีเวลาเล่นละครกับคุณได้ไม่นานเพราะชีวิตของฉันยังมีอีกหลายชีวิตที่ต้องดูแลถ้าคุณยังทำทุกอย่างให้ดีกว่านี้ไม่ได้ ฉันจะเอาเด็ก ๆกลับไปเมืองไทยและคุณก็ต้องลืมให้ได้ว่าทั้งเพชรและทับทิมคือลูกของคุณ” คืนแรกของการมาอยู่ที่อิตาลีของขวัญข้าว เธอสัมผัสได้ถึงความกดดันและไร้ความสุขของชายหนุ่มที่ภายนอกดูเป็นมาเฟียที่น่าเกรงขามแต่ยามอยู่ต่อหน้ามารดาเขากลายเป็นเพียงลูกชายที่ไม่รู้จักโต เพชรได้นอนกับพ่อคืนนี้เป็นคืนแรกหลังจากที่แม่ของเด็กน้อยจากไป “คุณพ่อครับที่นี่บ้านใคร” เด็กชายตัวน้อยที่หน้าตาถอดมาจากผู้เป็นย่าจนแทบจะไม่ต้องมีใครบอกก็รู้ได้ทันทีว่าเด็กน้อยเป็นหลานของย่าอมราที่แสนจะมีหัวใจที่ไร้ความเมตตาในตัวสายเลือ
ตอนที่ 7เด็ดขาด ขวัญข้าวเธอเรียนยิงปืนได้รวดเร็วมากทั้งที่ไม่เคยมีพื้นฐานมาเลยตอนนี้เธอก็เรียนการต่อสู้แบบตัวต่อตัวเพื่อใช้ในการป้องกันตัวในยามที่ไม่มีอาวุธทุกอย่างต้องรีบทำเพราะอีกสองวันชัยชาญก็จะเดินทางกลับเมืองไทยแต่ลูกน้องทุกคนของเขายังคงอยู่ที่นี่ต่อ ทั้งแบบที่มาแบบเปิดเผยตัวและไม่เปิดเผยตัวด้วยเพราะความเป็นพ่อชัยชาญไม่ไว้ใจว่าอเรนโซจะสามารถดูแลปกป้องลูกสาวเขาและเด็ก ๆ ได้ เขาจึงเลือกที่จะทิ้งคนของเขาไว้ที่นี่เพื่อความอุ่นใจ ลอร่ารับรู้เรื่องราวการมาของขวัญข้าวและลูก ๆ ตั้งแต่วันแรกที่ทุกคนเหยียบแผ่นดินอิตาลีแต่เธอคิดว่าการที่เธอไม่แสดงตัวน่าจะทำให้อมรารู้สึกกดดันมากกว่าและเธอแค่คอยมองดู อยู่ห่าง ๆ จนกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยแต่ถ้าทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่เธอคิด เธอก็จะเดินหน้าประกาศสงครามทันที “ลอร่าทำไมหนูไม่มาดูหน้าแม่สาวไทยใจง่ายหน่อยล่ะลูก” อมรากรอกเสียงตามสายไปหาลูกสะใภ้ที่เธออยากได้เพราะคิดว่าถ้าลอร่ามาปรากฎตัวอาจจะทำให้อเรนโซและขวัญข้าวมีปัญหาทะเลาะกันและจะง่ายต่อการแยกทั้งคู่ออกจากกัน “ลอร่าไม่ไปหรอกค่