Share

คุณคือคนสำคัญ

ตอนที่10

คุณคือคนสำคัญ

         เช้าวันนี้รตีชวนลูกสาวออกไปเสริมสวยด้วย ทั้งที่ความจริงปกติแล้ว เธอก็ไปคนเดียวตลอด

         “ดูปล่อยเนื้อปล่อยตัว ที่คุณคงศักดิ์เขาไม่ให้ลูกไปทำงานแค่ไม่อยากให้ลูกต้องเหนื่อยกับการไปสู่รบกับผู้คนในสังคม เขาไม่ได้จะให้ลูกปล่อยเนื้อปล่อยตัวแบบนี้นะ”

         รตีมองหน้าลูกสาวที่นั่งรถข้าง ๆ เธอเพื่อไปยังร้านเสริมสวยที่เธอทำประจำ

         สองคนแม่ลูกใช้เวลาอยู่ในร้านเสริมสวยเกือบทั้งวัน เพราะทางร้านสั่งอาหารมาให้

         “คุณแม่เพลินทำจะหมดทั้งตัวแล้วนะคะ กลับกันได้หรือยัง”

         หญิงสาวเริ่มกังวลว่าจะกลับไปไม่ทันทำกับข้าวมื้อให้สามีของเธอ

         “แม่ขอทำเล็บอีกครึ่งชั่วโมง รับรองกลับทันแน่นอน”

         สองคนแม่ลูกเดินออกจากร้าน รตีหันมามองหน้าลูกสาวของเธอ พอได้บำรุงนิดบำรุงหน่อยก็ดูสวยขึ้นเป็นกองเลย

         “จำคำแม่ไว้นะ การที่เรามีสามีต้องดูแลตัวเองอย่าคิดว่าเขาเลือกเราแล้ว จะไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะการที่เราปล่อยให้ตัวเองดูโทรมมันก็เท่ากับว่าเราดูแลตัวเองไม่เป็นแล้วเราจะไปดูแลคนอื่นได้อย่างไรกัน”

         รตีด้วยความเป็นแม่ เธออบรมสั่งสอนลูกสาวเรื่องการเป็นภรรยาที่ดีมาตลอดทาง จนชมเพลินอดสงสัยไม่ได้ เธอจดทะเบียนสมรสและแยกบ้านไปอยู่อีกหลังตั้งเป็นเดือนแล้ว ทำไมมารดาของเธอถึงเพิ่งคิดจะมาสอนเอาวันนี้

         “ทำไมรถทุกคันจอดอยู่ที่บ้านกันหมดเลย สงสัยเราสองคนมัวแต่เสริมสวย ป่านนี้ทั้งสองบ้านพากันหิวหมดแล้วแน่ ๆ”

         ชมเพลินทำท่าเร่งรีบลงจากรถทันที ที่รถเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน รตีแอบยิ้มอยู่ด้านหลัง ปล่อยให้ลูกสาวเดินนำหน้าไปยังเรือนหอของตัวเอง

         “อุ๊ย!”

         เสียงเพลงจากเปียโนที่วรรษมนเล่น และลูกโป่งสวยงามเต็มบ้านทำเอาชมเพลินที่เปิดประตูเข้าไป ถึงกับร้องด้วยความตกใจ

         ชายหนุ่มในชุดสูทสีขาวถูกโบว์สีแดง เดินมาคุกเข่าตรงหน้าเธอ คงศักดิ์ทำหน้าที่อัดวิดีโอไว้

         “แต่งงานกับผมนะ”

         เสียงของเปียโนที่ว่าเพราะ ยังฟังไม่ซึ้งเท่าคำพูดของอิศราที่คุกเข่าขอภรรยาตัวเองแต่งงาน

         ชมเพลินส่งมือข้างซ้ายให้ชายหนุ่มสวมแหวน น้ำตาของเธอไหลอาบแก้มด้วยความดีใจ ก่อนจะสวมกอดสามีไว้ด้วยความรู้สึกขอบคุณ

         รตียืนยิ้มให้กับความสุขของลูกสาว เพราะเธอก็เป็นส่วนหนึ่งในแผนการนี้ด้วย แต่ยังมีอีกเรื่องที่รตีเองก็ไม่รู้ว่าตัวเธอก็กำลังจะโดนทำให้แปลกใจเหมือนกัน

         อิศราหยิบช่อดอดมะลิและจับมือภรรยาของเขา พาเดินไปหารตีแม่เลี้ยงที่เขาเคยว่าเคยด่ามาตลอด

         ชายหนุ่มนั่งลงกับพื้นโดยมีชมเพลินนั่งอยู่เคียงข้าง สองมือของอิศราก้มลงกราบที่เท้าของรตี วันนี้ชายหนุ่มรู้แล้วว่า ผู้หญิงที่เขาเคยเกลียดเคยไม่ชอบ ดูแลพ่อของเขามาตลอด โดยที่สุดท้ายเธอคือคนเดียวที่ไม่มีชื่ออยู่ในพินัยนกรรม

         หญิงสูงวัยที่หน้าตายังคงสวยอยู่ ก้มรับช่อดอกมะลิ จากทั้งลูกสาวและลูกเขย น้ำตาแห่งความซึ้งใจ มันไหลออกจาดวงตาที่เข้มแข็งอดทนต่อความเข้าใจผิดมาหลายปี

         สองมือเหี่ยวลูบลงที่ผมของทั้งคู่ด้วยความรักและเอ็นดู                    คงศักดิ์เดินมาหาภรรยาและจับมือเธอไว้ มองสบตากันด้วยความสุข ที่พ่อและแม่เฝ้าฝันจะเห็น

         “ผมขอโทษนะครับ ทุกอย่างที่ผมเคยล่วงเกิน วันนี้คุณแม่รับผมเป็นลูกชายอีกสักคนนะครับ”

         รตีโผเข้ากอกอิศราที่ลุกยืนขึ้นอยู่ด้านหน้าเธอ ตลอดเวลาสิบห้าปีที่เธออยู่กับคงศักดิ์มา เธอรอฟังคำว่าแม่จากปากของลูกเลี้ยงคนนี้มานานแสนนาน

         คืนนี้ลานหน้าบ้านระหว่างบ้านทั้งสองหลังถูกจัดเป็นงานปาร์ตี้เล็ก ๆ มีแค่คนในครอบครัว นั่งร้องเพลงกันอย่างมีความสุข

         คงศักดิ์กับรตีหาฤกษ์แต่งงานไว้ให้ลูก ๆ ของเขาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งฤกษ์ดีนี้ เหลือเวลาอีกแค่สองสัปดาห์เท่านั้นในการเตรียมตัว

         วรรษมนเรียนจบพอดี เธอจึงใช้เวลาทั้งหมดทุ่มเทกับการเตรียมงานแต่งให้พี่ชาย

         คงศักดิ์รีบมาจัดการเรื่องงานที่บริษัทให้เรียบร้อยเพราะต้องการพาครอบครัวไปเที่ยวยุโรปหลังงานแต่งงาน

         “คุณท่าน ! คุณท่าน”

         เลขาสาวเข้ามาที่ห้องทำงานของคงศักดิ์เพื่อเอาเอกสารให้ แต่กลับผมเจ้านายห้าฟุบไปกับโต๊ะ จึงรีบเรียกรถพยาบาล

         “คุณหมอคะสามีของฉันเป็นอย่างไรบ้างคะ”

         รตีพุ่งตัวเข้าหาคุณหมอทันทีเมื่อประตูห้องฉุกเฉินถูกเปิดออก ด้วยความเป็นห่วงสามี

         “คนไข้แค่เหนื่อยและหลับไป แต่เป็นการหลับลึกเพราะคนไข้มีอาการของโรคหัวใจอยู่แล้ว คนที่ใกล้ชิดต้องระวังอย่าให้คนไข้เครียด ทำงานหนัก หรือออกกำลังกายมากเกินไป หมอขอให้คนไข้นอนดูอาการที่โรงพยาบาลสักสองคืนนะแล้วค่อยกลับบ้าน ไม่มีอะไรมากหรอก หมอแค่อยากตรวจให้ละเอียด เลยให้นอนโรงพยาบาลดีกว่า”

         ทุกคนต่างตกใจเรื่องที่คุณหมอบอกว่าคงศักดิ์เป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว เพราะเรื่องนี้มีแต่รตีคนเดียวเท่านั้นที่รู้

         “แม่ต้องขอโทษทุกคนด้วยที่ไม่ได้บอก คุณพ่อขอไว้ เมื่อสามปีก่อน ที่แม่กับพ่ออยู่ดี ๆ ไม่กลับบ้าน และโทรมากบอกหนูมนว่าจะไปยุโรปกัน ความจริงคุณพ่ออยู่โรงพยาบาล”

         รตีจำเป็นต้องเล่าความจริงทั้งหมดให้ทุกคนรู้แล้วในเวลานี้ เพราะทุกคนต่างก็รักและเป็นห่วงพ่อด้วยกันทั้งนั้น

         “ที่คุณพ่อเรียกผมกลับมาเพื่อฟังพินัยกรรมเพราะท่านป่วยใช่ไหมครับ”

         อิศราเริ่มจับต้นชนปลายเรื่องต่าง ๆ ได้ เขาสงสัยมาตลอด ว่าทำไมพ่อของเขาถึงรีบแบ่งสมบัติทั้งที่ยังดูแข็งแรงอยู่

         “คุณพ่อเป็นห่วงอิศรามาก เพราะรู้นิสัยของลูกชาย ท่านพูดเสมอว่า คนที่จะอยู่กับลูกชายเขาได้ต้องมีนิสัยเหมือนแม่ของเขาเท่านั้น และท่านก็เฝ้าสังเกตคนนั้นคนนี้ จนมาหยุดที่ชมเพลิน เพราะเธอมีหลาย ๆ อย่างที่คล้ายกับภรรยาของท่าน เรื่องทั้งหมดก็เป็นแบบนี้แหละ”

         ชายหนุ่มรู้สึกผิดมากที่ตลอดเวลาที่อยู่อังกฤษเขาคิดมาตลอดว่าพ่อคงลืมลูกชายคนนี้ไปแล้วแต่กลายเป็นว่าท่านกับคิดแต่เรื่องของเขาอยู่ตลอดเวลาถึงแม้เขาจะไม่ได้อยู่ใกล้ท่านก็ตาม

         งานแต่งก็ถูกจัดเตรียมตามปกติ ส่วนเจ้าบ่าวต้องไปสะสางงานแทนบิดาที่ล้มป่วย เพราะบิดาของเขาตั้งใจว่าจะพาทุกคนในครอบครัวไปเที่ยวยุโรปพร้อมหน้ากันให้ได้

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status