ตอนที่ 10
เราเป็นหนี้ชีวิตของกันและกัน
พายุฝนที่แสนน่ากลัวได้ผ่านพ้นไปแล้ว ชัยชาญเดินทางมาจากเมืองไทยอย่างเร็วที่สุดเพื่อมาดูแลลูกสาวที่ถูกยิง
ขวัญข้าวคือคนที่มีอาการบาดเจ็บน้อยที่สุดเธอถูกยิงแค่เพียงถาก ๆ เท่านั้น แต่คนที่น่าเป็นห่วงที่สุดคืออเรนโซเพราะจุดที่ เขาถูกลอร่ายิงคือบริเวณที่ใกล้กับปอดมากที่สุดและตอนนี้ผ่านมาสองวันแล้วเขาก็ยังไม่รู้สึกตัว
“กลับเมืองไทยเลยไหม”
ชัยชาญกอดลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาเพื่อปลอบขวัญเพราะตั้งแต่เด็กจนโตเขาไม่เคยให้ขวัญข้าวต้องเจอกับเรื่องราวแบบนี้ส่วนตัวเขาก็เคยมีบ้างสมัยที่เริ่มทำธุรกิจใหม่ ๆ แต่มันก็ไม่ได้ดุเดือดป่าเถื่อนเหมือนที่เมืองนี้ อาจเป็นเพราะว่ากฎหมายที่นี่กับไทยต่างกัน
“คุณพ่อพาเด็ก ๆ กลับเมืองไทยไปก่อนนะคะ ลูกทิ้ง อเรนโซไปตอนนี้ไม่ได้จริง ๆ ถ้าไม่มีเขามาบังกระสุนให้ป่านนี้คนที่นอนอยู่บนเตียงคงจะเป็นลูกแทน”
ชัยชาญไม่ท้วงไม่ห้ามเพราะเข้าใจดีว่าตอนนี้ขวัญข้าวกำลังรู้สึกอะไร เขาเห็นแววตาของความรักความเป็นห่วงอยู่ในนั้นและเขาก็แน่ในว่าถ้าอเรนโซไม่ได้รู้สึกรักในตัวลูกสาวเขาคงไม่ตัดสินใจเอาตัวเองเข้าไปตายแทนแบบนี้แน่ ๆ แต่เรื่องนี้ก็ไม่สำคัญเท่ากับตอนนี้กำลังใจคงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคนเจ็บที่นอนหลับไม่ยอมฟื้นเสียที
ขวัญข้าวกินนอนอยู่ที่โรงพยาบาลเลย มาร์โกให้โรงพยาบาลจัดเตรียมห้องไว้ให้สำหรับเธอ
“ขอบใจมากนะที่เวลานี้เธอยังอยู่ข้าง ๆ ลูกชายฉัน”
“เราเป็นหนี้ชีวิตของกันและกันค่ะ อเรนโซฟื้นเมื่อไหร่เราจะกลับเมืองไทยไปอยู่กับลูก ๆ เราจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่น พอกันทีค่ะกับวงการแบบนี้”
ขวัญข้าวกล้าที่จะพูดทั้งที่เธอยังไม่ได้คุยเรื่องนี้กับอเรนโซอีกเลยตั้งแต่มาถึงแต่หญิงสาวมั่นใจว่าเธอกับเขาคิดไม่ต่างกันที่นี่ทั้งอันตรายและวุ่นวายเกินไปสำหรับเด็ก ๆ และการเริ่มต้นคำว่าครอบครัว
มาร์โกยังคงคิดถึงหลาน ๆ เพราะตั้งแต่เพชรกับทับทิมมาอยู่อิตาลี เขาก็ใช้เวลาส่วนมากในการอยู่กับเด็ก ๆ ถ้าเรื่องนี้ไม่เกิดขึ้นอย่างน้อยเขาก็คงมีโอกาสได้อยู่กับหลาน ๆ ได้นานกว่านี้
อมราร้องไห้ทุกวันเพราะเธอคือคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมด เธอตั้งใจจะให้เรื่องทุกอย่างเกิดขึ้นกับขวัญข้าวแล้ว เวรกรรมก็ย้อนกลับมาหาเธอเมื่อลูกชายเพียงคนเดียวต้องมานอนอยู่บนเตียงแบบนี้
ลินดาเดินทางกลับมาจากอังกฤษเพื่อมาดูแลจิตใจของทุกคนในครอบครัวและเรื่องสำคัญที่เธอจะต้องสะสางคือความแค้นของลอร่าที่มีต่อพี่ชายเธอต้องจบสิ้นลงเสียที
“คุณพ่อไม่ต้องห่วง วันนี้ลูกจะไปตกลงทุกเรื่องกับครอบครัวลอร่าเอง”
ลินดาเธอเด็ดเดี่ยวมาตั้งแต่เด็ก ๆ และเธอก็ตั้งใจแล้วว่าจะขายกิจการสีเทาให้กับครอบครัวของลอร่าทั้งหมดเหลือไว้แต่ธุรกิจที่ถูกกฎหมายและจะหันไปทำตลาดที่เมืองไทยแทนเพราะเธอมั่นใจว่าเธอสามารถใช้ความรู้ความสามารถของเธอและพี่ชายเริ่มต้นสร้างธุรกิจได้ใหม่โดยไม่ยาก
อเนโซใช้เวลาในการนอนหลับพักผ่อนนานเกือบสัปดาห์ในที่สุดเขาก็ฟื้นกลับมาหาทุกคนแต่ปอดของชายหนุ่มไม่สามารถทำงานได้แข็งแรงเหมือนเดิม เขาจึงต้องพยายามทำอะไรให้เหนื่อยให้น้อยที่สุด
คนแรกที่อเรนโซได้เห็นเมื่อเขาลืมตาขึ้นมาคือขวัญข้าวที่นอนหลับฟุบอยู่กับแขนของเขา
“ขวัญข้าว”
ชายหนุ่มส่งเสียงเรียกแค่เพียงเบา ๆ แต่มันกลับดังไปถึงหัวใจของคนที่เผลอนอนหลับอยู่ข้าง ๆ จนตกใจรีบลุกมากอดสามีในนามจนลืมไปว่าแผลที่ถูกยิงยังคงเจ็บอยู่
“โอ๊ย ! ”
“อเรนโซ ฉันขอโทษ ดีใจจนลืมตัว คุณปลอดภัยแล้วนะเป็นข่าวดีที่สุดในชีวิตของฉันเลย”
ขวัญข้าวลืมตัวไปเสียสนิทว่าก่อนที่อเรนโซจะถูกยิงเธอกับเขาแทบจะไม่เคยโดนตัวกันแต่ตอนนี้เธอกลับทั้งกอดทั้งหอมแก้มเขาเหมือนภรรยาที่กำลังดีใจที่สามีปลอดภัย
“คุณหายดีเรากลับไปเมืองไทยกันนะ ลูก ๆ กลับไปพร้อม คุณพ่อแล้ว คุณจะต้องกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม เราจะพาลูก ๆ ไปเที่ยว เพชรจะต้องได้ขี่คอพ่อส่วนทับทิมก็จะได้เล่นเป็นเครื่องบิน บินไปบินมา ฉันสัญญาจะทำต้มยำกุ้งที่วันนั้นคุณบ่นว่าอยากกินแล้วฉันไม่ได้ทำให้กินเพราะที่นี่เครื่องไม่พร้อมเราจะกลับไปกินข้าวที่เมืองไทยพร้อมหน้ากันทุกมื้อเลยนะคะ”
คนดีใจพูดความรู้สึกออกมาจนหมดหัวใจจนลืมไปเลยว่า คนฟังยังคงงงอยู่เพราะเพิ่งฟื้นจากการนอนหลับไปหลายวัน
“ขวัญข้าวคุณจะไม่หย่ากับผมตามที่เราสัญญากันไว้แล้วใช่ไหม คุณแน่ใจนะเพราะผมอาจจะไม่เหมือนเดิม ขาผมถูกยิง ผมอาจจะกลับมาเดินไม่ปกติ คุณรับได้ใช่ไหม”
คำถามจากคนนอนเจ็บอยู่ทำให้หญิงสาวเพิ่งรู้สึกตัวว่าเธอเผลอพูดทุกอย่างภายในหัวใจออกไปหมดแล้ว ทั้งที่ความจริงคำพูดพวกนี้อเรนโซควรจะเป็นคนพูดไม่ใช่เธอ
“ฉันเป็นผู้หญิงไม่น่าที่จะเป็นคนพูดเรื่องนี้ก่อนเลยแต่ไม่เป็นไรชีวิตของคุณที่ยอมเสี่ยงตายเพื่อรักษาชีวิตฉันมันมีค่ากว่าศักดิ์ศรีบ้า ๆ บอ ๆ พวกนี้ ฉันจะไม่หย่ากับคุณถ้าคุณยังต้องการให้ฉันเป็นภรรยาของคุณอยู่”
ชายหนุ่มจับมือของหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างเตียงขึ้นมาจูบและจับมือของเธอไปแนบกับหน้าพร้อมกับหยดน้ำตาที่ไหลออกมา
“ผมจะรักคุณให้มากกว่าที่ผมเคยรักเบญเพราะเบญสอนให้ผมรู้ว่าผมรักเธอไม่มากพอผมถึงได้เสียเธอไป แต่งงานกับผมนะ”
ขวัญข้าวตอบตกลงทันทีเป็นการขอแต่งงานที่ไร้แหวนเพชรไร้ดอกกุหลาบมีเพียงแค่สายน้ำเกลือและสายระโยงระยางตามตัว อเรนโซเท่านั้นที่เป็นสักขีพยาน
อเรนโซใช้เวลารักษาตัวที่โรงพยาบาลต่ออีกหนึ่งเดือน ชัยชาญพาเด็ก ๆ บินมาเยี่ยมแค่เพียงครั้งเดียวเพราะตอนนี้เพชรต้องเข้าโรงเรียนแล้ว
อมรายอมรับผิดทุกอย่างเธอกล้าพอที่จะยอมขอโทษ ขวัญข้าวถึงแม้เธอจะเป็นผู้ใหญ่กว่าเพราะสิ่งที่เธอทำผิดไว้ มันใหญ่หลวงมากนัก
“ฉันขอโทษนะนับจากนี้ไปเธอคือลูกสะใภ้คือแม่ของหลาน ฉัน อโหสิกรรมให้กับคนที่คิดอะไรเห็นแก่ตัวคนนี้ด้วย อเรนโซต้องนอนเจ็บอยู่เป็นเดือนแบบนี้ฉันเชื่อแล้วว่าเวรกรรมมีจริง”
ขวัญข้าวให้อภัยทุกอย่างที่แม่สามีทำกับเธอเพราะเธอเองก็ใช่ว่าจะไม่ได้ทำผิดเพราะทั้งเธอและอเรนโซต่างก็โกหกบุพการีทั้งคู่ว่าเธอคือแม่ของเพชรและทับทิม
อเรนโซทำหน้าที่เล่าความจริงทั้งหมดให้แม่และน้องฟัง เพราะนับจากนี้ขวัญข้าวจะไม่ต้องเป็นตัวแทนของใครอีกแล้ว ต่อแต่นี้ขวัญข้าวคือภรรยาของเขาและคือแม่ของเด็ก ๆ อย่างแท้จริงและตลอดไป
งานแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายที่เมืองไทย อเรนโซยังคงต้องนั่งรถเข็นเพราะคุณหมอยังไม่อนุญาตให้เดินมากแต่คนป่วยอดใจรอไม่ไหวอยากแต่งงานให้ไวที่สุด
“ขอบคุณนะที่คุณไม่รังเกียจผม”
อเรนโซคว้าตัวภรรยาในชุดแต่งงานเข้ามากอดด้วยความสุขที่เขาเฝ้าตามหามานานสุดท้ายมันกลับไม่ได้ยากอย่างที่เขาคิด การมีครอบครัวที่อบอุ่นมีความสุขที่สุดแล้วไม่จำเป็นต้องมีเงินทองรวยล้นฟ้าแต่สุดท้ายกลับต้องอยู่อย่างหวาดกลัวชีวิตไม่มีความสงบสุข
“ฉันเป็นหนี้ชีวิตคุณค่ะ หนี้นี้ฉันขอยกทั้งตัวและหัวใจให้เป็นของขวัญแทนคำขอบคุณ ทั้งหมดนี้มันยังน้อยไม่เท่ากับที่คุณยอมเสี่ยงตายเอาตัวเองรับความตายแทนฉันเลย อย่าคิดมากนะคะเราทั้งคู่เป็นหนี้ชีวิตกันและกัน เราจะอยู่ใช้หนี้กันไปแบบนี้จนวันสุดท้ายของชีวิต เราอาจไม่ได้เริ่มต้นจากความรักแต่ฉันเชื่อสักวันเราจะรักกันและรักกันมากกว่าที่เราคิดอีกค่ะ”
“ไม่ใช่สักวัน ผมรักคุณขวัญข้าว”
ค่ำคืนแรกของการแต่งงานเจ้าบ่าวของเรายังคงขาแข้งไม่ค่อยดีแต่คืนนี้มันเป็นคืนเข้าหอ.....
“คืนนี้เป็นคืนเข้าหอของเรานะแล้วทำอย่างไรดี ผมยังไม่แข็งแรงเหมือนเดิมเลย”
ชายหนุ่มนอนกอดภรรยาในนามที่คืนนี้เขาหวังว่าจะได้เธอเป็นภรรยาทั้งตัวและหัวใจ
“คุณยังไม่แข้งแรงแต่ฉันไม่ได้เป็นอะไรนะคะ”
โคมไฟหัวเตียงถูกดับลงหน้าที่รุกในเชิงรักกลายเป็นบทที่ขวัญข้าวจะต้องเล่นเอง ถึงแม้หญิงสาวจะไม่เคยผ่านเรื่องแบบนี้มาสักครั้งในชีวิตแต่ธรรมชาติของความรักก็นำพาเธอไปสู่เส้นชัยของความรู้สึกที่อิ่มเอม
อเรนโซเมื่อได้ยาชูกำลังชั้นดีไปคืนนี้เขาจะปล่อยให้เจ้าสาวเป็นฝ่ายกระทำอยู่ฝ่ายเดียวได้อย่างไร มาเฟียหนุ่มที่ประสบการณ์บทรักไม่เคยเป็นลองใครก็เปลี่ยนบทมาเป็นฝ่ายรุกบ้าง ถึงแม้ตอนนี้ขาของเขาจะยังคงมีแรงไม่เหมือนเดิมแต่ส่วนอื่นยังคงทั้งแข็งและมีแรงไม่เคยน้อยลง
ความรักเกิดขึ้นตอนไหนคนทั้งคู่ไม่อาจตอบได้รู้แค่เพียงว่ามันเกิดขึ้นแล้วและมันจะไม่มีวันหายไป ขวัญข้าวเธอตัดสินใจที่จะยังไม่มีลูกรอจนกว่าเพชรจะโตและรู้เรื่องมากกว่านี้เพราะทับทิมยังเล็กมากเธอไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเบญสำหรับทับทิมแล้วขวัญข้าวคือแม่ของเธอ
“ขอบคุณอีกครั้งที่คุณดูแลผมกับลูกได้ดีกว่าที่ผมดูแลตัวเองเสียอีก ผมรักคุณมากเท่าชีวิตของผมและจะรักแบบนี้ไปจนถึงวันที่เราตายจากกัน”
“ฉันก็รักคุณค่ะอเรนโซมาเฟียพ่อลูกดก”
จบบริบูรณ์
ตอนที่1เปิดพินัยกรรม อิศราชายหนุ่มผู้มีนิสัยนักเลงปากไวไม่เคยยอมใคร โดยเฉพาะกับรตีแม่เลี้ยงของเขา และนี่ก็คือสาเหตุที่คงศักดิ์ ผู้เป็นบิดาต้องส่งให้ไปเรียนมหาวิทยาลัยที่ต่างประเทศ เพื่อสร้างควาสงบสุขให้กับทุกคนในบ้าน คงศักดิ์ตามตัวลูกชายให้กลับมาเมืองไทยแบบเร่งด่วน โดยให้เหตุผลว่าถ้าเขาไม่ยอมกลับมา มรดกทั้งหมดจะยกให้แม่เลี้ยงให้หมด “พ่อให้ผมกลับมาเพื่อมาฟังการอ่านพินัยกรรมทันที โดยที่ไม่คิดว่าผมควรจะพักก่อนบ้างเลยเหรอ” ชายหนุ่มโวยวายเสียงดัง เมื่อมาถึงบ้านก็ถูกพามาที่ห้องทำงานของบิดาเพื่อรอฟังการอ่านพินัยกรรมทันที “ถ้าแกไม่อยากฟังก็ไม่ต้องฟัง แล้วอย่ามาโวยวายทีหลังแล้วกัน” คนเป็นพ่อใช้ไม้แข็ง “รีบอ่านเลยคุณทนาย ผมจะได้รีบไปนอน” ทุกคนในห้องที่มีส่วนในพินัยกรรมต่างพากัน ถอนหายใจ ให้กับนิสัยของอิศราที่ไม่ว่ากี่ปีก็ไม่เคยเปลี่ยนไป เมื่อทุกคนมาอยู่พร้อมหน้ากันแล้ว ทนายความจึงเริ่มอ่านพินัยกรรมทันที “ที่ดินที่จังหวัดเชียงใหม่ข้าพเจ้านายคงศักดิ์ขอยกให้กับนายอิศรา บ้านและที่ดินที่เหลื
ตอนที่2เมียไม่ทันตั้งตัว อิศราคิดว่าวิธีการที่จะทำให้งานแต่งไม่ต้องเกิดขึ้น คือการบีบให้ชมเพลินยอมคืนสมบัติให้เขาโดยที่ไม่มีงานแต่งงาน ชายหนุ่มจึงเริ่มแผนการโดยการพูดจาดูถูกเหยียดหยามเธอให้เจ็บแสบที่สุด “สวัสดีครับ...เศรษฐีใหม่ ผมอิจฉาคุณลูกติดจริง ๆ ที่อยู่ดี ๆ ก็ส้มหล่นได้สมบัติก้อนใหญ่” ชมเพลินไม่โต้ตอบ พยายามเดินก้มหน้าเพื่อที่จะเดินขึ้นไปบนห้องนอนเพราะไม่อยากทนฟังคำพูดแบบนี้ “ยังไม่ทันจะโอนสมบัติเลย ก็หยิ่งไม่พูดกับคนจนอย่างผมเสียแล้ว หรือที่แท้คุณหนูชมเพลินอยากได้ผมเป็นสามีจนตัวสั่น เอะ! ผมเรียก ถูกใช่ไหม กลัวเรียกผิดไปจะโดนคุณหนูไล่ออกจากบ้าน” หญิงสาวที่กำลังเดินนำหน้าชายหนุ่มขึ้นบันได หันมาสบตาเขาด้วยแววตาที่แสดงถึงความผิดหวัง ถอนหายใจเฮือกใหญ่และรีบสาวเท้าต่อเพื่อเข้าห้องนอนให้เร็วที่สุด “ชมเพลินคุณจะมามองผมด้วยสายตาแบบนี้ไม่ได้นะ” เมื่ออิศราอ่านสายตาของอีกฝ่ายออกเขายิ่งรู้สึกแย่ลงไปกว่าเดิม จึงพยายามเดินให้ทันและเอื้อมมือหวังจะคว้าแขนเล็กของชมเพลินไว้ แต่ไม่ทันเพราะเธอเดินเข้าห้องและปิดประตูไปเสียก่อน “
ตอนที่3ความลับที่ไม่ลับ อิศราตื่นขึ้นมาและพบว่าตัวเองนอนอยู่ที่นอนเพียงคนเดียว ชายหนุ่มรู้สึกใจหาย ลึก ๆ เขาแอบกลัวว่าการที่เขาทำแบบนี้จะเสียเธอไปตลอดกาล เช้านี้ทุกคนพร้อมหน้ากันที่โต๊ะอาหาร ชายหนุ่มไปถึงเป็นคนสุดท้าย สายตาของบิดาที่มองมาทำให้อิศราเริ่มไม่แน่ใจ ว่าพ่อของเขารู้เรื่องเมื่อคืนนี้หรือยัง “วันนี้หลังจากที่กินมื้อเช้าเสร็จ พ่อของคุยกับลูกๆ ทุกคนและก็รตีด้วย” คำพูดของคงศักดิ์ทำเอาอิศรารีบหันไปมองหน้าชมเพลินแต่เธอกลับกำลังก้มหน้าเหมือนที่เธอชอบทำทุกครั้งเวลาที่ถูกเขามอง สำหรับชายหนุ่มแล้ว มื้อนี้เป็นมื้อที่กินข้าวได้ฝืดคอที่สุด เขาไม่รู้เหมือนกันว่าความจริงแล้ว เขาอยากให้บิดารู้เรื่องนี้หรือไม่ “ทุกคนคงพร้อมที่ฟังพ่อพูดแล้ว เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นอิศราจะให้พ่อถามไหม” ทั้งคนถูกเรียกชื่อและชมเพลินสะดุ้งสุดตัวหันมามองหน้ากันด้วยความตกใจ “เมื่อคืนไม่มีอะไรค่ะ” จากสาวน้อยที่ไม่ค่อยพูด อยู่ดี ๆ ชมเพลินก็พูดในสิ่งที่ไม่ได้มีใครถามเธอ “พ่อว่าพ่อไม่ได้เอ่ยชื่อเรานะ”คงศักดิ์ไม่ต้องการฟังทุกอย่างจาก
ตอนที่4การมาของสาวลูกครึ่ง อิศราหายไปจากบ้านได้เกือบสัปดาห์แล้ว โดยที่ไม่มีใครได้รู้ข่าวคราวของเขาเลย ชมเพลินเธอเริ่มแน่ใจแล้วว่า เขาคงไม่กลับมาจนกว่าจะครบห้าปีแน่ ๆ เพราะเขาคงต้องการแค่จดทะเบียนสมรสกับเธอเท่านั้น ส่วนเรื่องของเธอกับเขา มันก็คงเป็นเพียงแค่เรื่องที่เกิดขึ้นและจบไป “คุณคะมีแขกมาที่หน้าบ้านค่ะ หน้าตาเหมือนจะไม่ใช่คนไทย แต่ก็เหมือนคนไทยนะคะ” ป้าฤทัยแม่บ้านของครอบครัวนี้ เดินหน้าตื่นมาบอกคงศักดิ์ที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่โซฟาห้องรับแขก “ฟังแล้วก็งงดี สรุปจะเหมือนหรือไม่เหมือนคนไทย เอาเป็นว่า ไปเชิญเขาเข้ามาแล้วกัน” ป้าฤทัยรับคำสั่งเสร็จก็รีบวิ่งกลับไปที่ประตูหน้าบ้าน เพราะเธอไม่ยอมเปิดประตูให้แขกเลย ด้วยความไม่คุ้นหน้าเธอจึงรู้สึกไม่ไว้วางใจ “เชิญนั่งก่อนครับ” คงศักดิ์หันไปพูดกับสาวผมสีน้ำตาดวงตาสีฟ้าแต่มีเคล้าหน้าเหมือนคนไทย“ไปเรียกคุณรตีกับลูกฉันมาด้วย แล้วก็ยกน้ำมาดูแลแขกด้วยนะ” เจ้าของบ้านหันไปสั่งป้าฤทัย“หนูเป็นใครมาจากไหน แนะนำตัวหน่อนสิ”“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อลิเดียแป็นแฟนอิศค่ะ เราอยู่ด้วยกันที
ตอนที่5หึงหรือหวง คงศักดิ์กำลังจะเตรียมตัวออกไปแจ้งความเรื่องของ ลูกชายที่หายตัวไป แต่เขาดันกลับมาเสียก่อน “มาแล้วเหรอพ่อตัวดี” คงศักดิ์ทักทายลูกชาย ด้วยน้ำเสียงที่ออกจากไรฟันอย่างสุดจะโมโห “แล้วจะไปไหนกัน เตรียมจะไปกันทั้งบ้านเลย” อิศราเห็นทุกคนไม่เว้นแม้แต่ชมเพลิน ก็มายืนหน้าบ้านรอคนขับรถเอารถออกมารับจึงถามด้วยความสงสัย “ก็จะไปแจ้งความคนหายอย่างไรกันล่ะ แกทำอะไรลงไปรู้ไหมเขาเป็นห่วงกันทั้งบ้าน ปลอดภัยกลับมาก็ดีแล้ว ยังมีเรื่องที่แกกับฉันยังต้องคุยกันอีก” อิศราถึงกับรู้สึกหวาดหวั่นกับน้ำเสียงที่บิดาของเขาใช้ นานมากแล้วที่พ่อของเขาไม่ได้ใช้น้ำเสียงแบบนี้กับใคร ทุกคนต่างถูกสั่งให้มานั่งรับฟังเรื่องที่คงศักดิ์จะพูดคุยกับลูกชายด้วย เพราะถือว่าเหตุการณ์ในวันนั้นทุกคนต่างก็รับรู้ร่วมกัน “ไหนแกบอกว่าไปจัดการเรื่องแฟนแกที่อังกฤษ และทำไมถึงกลายเป็นว่าผู้หญิงเขาถึงได้มาตามหาแกที่นี่”คงศักดิ์ใส่อารมณ์ “พ่อพูดเรื่องอะไร ผมงงไปหมดแล้ว” ชายหนุ่มไม่ได้แกล้ง แต่เขาไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าบิดาข
ตอนที่6การมาของใครสองคน เช้านี้เป็นเช้าที่สดใสและมีความสุขสำหรับชมเพลิน เพราะเธอได้นอนกอดกับผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี ถึงแม้ตอนเช้าเธอจะต้องรีบตื่นก่อนทุกคนในบ้านก็ตามเพราะไม่อยากให้ใครมาเห็น “วันนี้เข้าบริษัทแล้วเริ่มเรียนรู้งานเลยนะ ถึงพ่อจะยกหุ้นให้น้องแต่แกเป็นพี่อย่างไรก็ต้องช่วยน้องอยู่ดี” คงศักดิ์ไม่ได้ยกหุ้นในบริษัทให้กับอิศราก็จริง แต่เขาแต่งตั้งชายหนุ่มเป็นผู้จัดการบริษัท มีเงินเดือนเกือบสองแสนบาทและมีหน้าที่ดูแลบริษัทรองจากประธานที่ตอนนี้คงศักดิ์ดำรงตำแหน่งอยู่ “ผมขอช่วยจนน้องเรียนจบนะ เพราะผมคงต้องหาทำกิจการของตัวเองจากที่ดินที่ผมได้บ้าง แต่ก็คงยังช่วยน้องอยู่เพียงแต่ไม่เต็มตัว” คำพูดของอิศราทำให้คนเป็นพ่อรู้สึกภูมิใจที่ลูกชายของเขาเริ่มโต และอยากจะยืนด้วยขาของตัวเอง “ก็ได้ แต่อย่าทิ้งน้องแล้วกัน ตอนนี้ก็คิดไปก่อนว่าจะทำอะไร คิดได้ค่อยมาปรึกษากันดู” คงศักดิ์อยากรู้ว่าลูกชายของเขาจะใช้ที่ดินที่ได้ทั้งที่เชียงใหม่ เชียงราย ปทุมธานี อยุธยา เพื่อใช้ทำกิจการอะไรบ้าง ชมเพลินนั่งฟังสองคนพ่อลูกคุยกันบนโต๊ะอ
ตอนที่ 7เรือนหอสร้างเสร็จ ตลอดเวลาสามวันที่เมธาวีกับอังกอร์เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ หญิงสาวสร้างความปวดหัวให้กับอิศราและชมเพลินเป็นอย่างมาก ทั้งคู่จะต้องทะเลาะกันก่อนนอนทุกคืนด้วยเรื่องของแม่ลูกคู่นี้ และอิศราจะง้อภรรยาด้วยวิธีเดิมๆ ทุกที จนตอนนี้ชมเพลินเริ่มกลัวตัวเองจะพลาดท่าท้อง เพราะชายหนุ่มเล่นไม่หยุดเลยสักวัน อิศราตัดสินใจเข้าไปคุยกับเมธาวีที่สวนหน้าบ้าน ในวันที่สี่ของการมาอยู่ที่นี่ เพราะพรุ่งนี้ผมดีเอ็นเออาจจะออกแล้ว “เมย์พรุ่งนี้ผลอาจจะออกแล้ว ทั้งคุณทั้งผมต่างก็รู้ดี ว่าความจริงมันเป็นแบบไหน คุณยังจะฝืนอยู่ที่นี่เพื่ออะไร คุณพ่อของผมเขาฟ้องคุณจริง ๆ นะ” หญิงสาวเอื้อมมือมาจับมือของชายหนุ่มที่นั่งตรงข้ามแต่อิศรารีบดึงมือออกทันที เพราะรู้สึกทั้งกลัวและรังเกลียดเพื่อนคนนี้ไปแล้ว “เมย์รักอิศนะ อังกอร์ก็รักอิศเหมือนพ่อ พวกเราจะอยู่กันได้อย่างไรถ้าไม่มีอิศ” “คุณต้องอยู่ให้ได้ เพราะผมต้องมีชีวิตของผม อังกอร์ยังคงเป็นหลานของผมเช่นเดิม อย่าทำให้เรื่องแย่ไปกว่านี้เลย ถ้าคุณถูกฟ้อง ต้องใช้เงินสู้คดี พ่อแ
ตอนที่8ลองใจ เรือนหอตกแต่งเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองคนย้ายเข้าไปอยู่พร้อมกับทำบุญบ้านอย่างเป็นทางการ ชมเพลินมองบ้านหลังใหญ่ที่ตอนนี้มันกลายเป็นบ้านของเธอกับอิศราแล้วด้วยความรู้สึกดีใจ เธอกับเขาจดทะเบียนสมรสด้วยกันมาสามเดือนกว่าแล้ว ผ่านเรื่องวุ่นวาย ปวดหัวมาก็หลายเรื่อง ชมเพลินหวังว่าคงไม่มีเรื่องอะไรมาให้เธอต้องปวดหัวอีก “คืนนี้เราต้องฉลองห้องนอนใหม่กันสักหน่อย ผมคงต้องเอาจริงแล้ว สามเดือนกว่าแล้วยังไม่มีทีท่าว่าตัวน้อยจะมาเลย ป่านนี้คนเขาคงว่าผมไม่มีน้ำยาแน่ๆ” อิศราพูดจบก็ไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไป เขาจู่โจมบรรเลงบทรักเพื่อเพิ่มสมาชิกให้กับบ้านหลังใหญ่ทันที เช้านี้ชมเพลินต้องทำกับข้าวให้ตัวเองกับสามี แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากเพราะปกติเธอก็ทำอยู่แล้ว ตอนที่อยู่บ้านหลังโน้น อิศราเดินลงมาจากชั้นสองของบ้าน พร้อมกับรอยยิ้มเมื่อได้กลิ่นอาหารที่ภรรยาทำ “แค่กลิ่น ผมก็หิวแล้ว ใกล้เสร็จหรือยังครับแม่ครัว” “นั่งรอที่โต๊ะเลยค่ะ อุ่นต้มอีกหน่อยก็พร้อมกินค่ะ” อิศรารักและคิดถึงแม่ของเขามาก เรื่องการทำอาหารก็เป็นส่วนหนึ่ง