Share

บทที่29

last update Last Updated: 2025-03-26 22:15:29

"ท่านแม่ ท่านไม่คิดจะทำอะไรเลยหรือขอรับ ข่าวที่น้องเล็กสืบมา ก็บอกอยู่แล้ว ตอนนี้ครอบครัวของเจ้ารอง ทำการค้าได้เป็นกอบเป็นกำ"

"นั่นสิเจ้าคะ ท่านแม่ อีกไม่นานท่านพี่ก็ต้องเอาเงินไปจ่ายค่าสมัครเรียนของหานเอ่อแล้ว อย่างน้อยท่านก็ควรให้อาตงมอบเงินให้ท่านสัก หนึ่งร้อยหรือสองร้อยตำลึงทองนะเจ้าคะ"

นางเว่ยหมัวหลานปรายตามองบุตรชายคนโตและลูกสะใภ้ ตีโพยตีพาย ที่เห็นนางไม่ขยับเขยื้อนทำอะไรบ้างเลย

"พวกเจ้าสงบใจลงบ้างเถอะ ข้าก็บอกพวกเจ้าไปแล้ว ว่าข้ากำลังรอเวลา"

"ท่านแม่เจ้าขา ท่านรอเวลาอะไรเจ้าคะ ท่านดูสิ ตอนนี้อาตงปีกกล้าขาแข็งขนาดไหน นี่ก็เลยวันที่ท่านกำหนดให้มอบเงินส่วนกลางแล้ว ข้าไม่เห็นเขาจะส่งเงินกลับมาสักอีแปะ"

"จริงด้วยขอรับ อีกอย่างเรื่องที่เขาซื้อที่ทำโรงงาน ข้าก็ไปสืบมาแล้ว ว่าเป็นเรื่องจริง เห็นว่าพรุ่งนี้ก็จะย้ายคนงานเข้าไปทำงานที่นั่นแล้ว หากปล่อยให้เขาใช้เงินเป็นเบี้ยแบบนี้ต่อไป คงไม่ดีแน่ขอรับท่านแม่"

"นั่นสิขอรับท่านแม่ ตอนนี้เพื่อนที่อยู่ในเมือง ก็เชิญข้าร่วมทุนทำการค้า ในเมื่อพี่รองทำการค้าได้เป็นกอบเป็นกำเช่นนี้ ก็น่าจะช่วยเหลือเจือจุนให้พวกเราได้ลืมตาอ้าปากบ้าง"

คราวนี้เป็นเสียงบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนที่เพิ่งเดินเข้ามา เป็นคนเอ่ยปาก

ผลการทดสอบ การสอบระดับอำเภอออกมาแล้ว ปรากฏว่าลูกชายคนเล็กของนางสอบไม่ผ่าน

หลายวันที่ผ่านมา นางเห็นเขาหมกตัวอยู่ในห้อง นางก็ยิ่งเจ็บปวดใจ

"อาหมิง เจ้าก็อยากทำการค้าเช่นกันหรือ"

หานหมิงพยักหน้ารับ ตัวเขาร่ำเรียนมามากกว่าพี่น้อง เพื่อนฝูงในเมืองล้วนมากมาย หากเขาเปลี่ยนมาทำการค้า แน่นอนว่าต้องทำได้ดีกว่าผู้ที่เป็นพี่ชายเป็นแน่

"เอาเถอะ เมื่อพวกเจ้าเห็นพ้องกันเช่นนี้ ตอนแรกแม่กะว่าจะรอจนกิจการของอาตงมั่นคงกว่านี้ ค่อยจัดการ แต่ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะไปพบท่านผู้นำตระกูล"

นางเว่ยหมัวหลานพาสามีไปถอนบันทึกคำร้องที่ให้หานตงแยกครอบครัว ตามสิทธิ์ของผู้เป็นบิดามารดา หลังจากกลับมาก็ให้บุตรชายคนโต ไปแจ้งแก่บุตรคนรองว่า บิดาของเขาเรียกพบ

นางสั่งให้หลานชายที่ตอนนี้ครอบครองห้องของหานตง เก็บข้าวของย้ายออกไปอยู่ที่ห้องบิดามารดาของพวกเขาก่อน

"ท่านย่าข้าไม่ยอม ข้าไม่ย้ายขอรับ ห้องของท่านพ่อท่านแม่แคบจะตาย ข้าจะอยู่ห้องเดิม"

"เด็กโง่ ย่าก็แค่ให้เจ้าย้ายไปชั่วคราว รอให้ท่านอาของเจ้าย้ายเข้ามา ข้าจะให้เขาต่อเติมห้องให้เจ้าใหม่ เอาให้ใหญ่ ให้สวยกว่าเดิมเสียอีก"

"งั้นท่านย่า ต้องบอกให้ท่านอา เอารถม้ามาให้ข้าใช้ตอนไปเรียนในเมืองด้วยนะขอรับ"

เด็กน้อยแอบได้ยินบิดาบอกว่า บ้านของท่านอารองมีรถม้าคันใหญ่ เขาแอบอิจฉาลูกพี่ลูกน้องทั้งสองคนยิ่งนัก

ก็แค่เด็กที่แม่ไม่รัก มีสิทธิ์อะไรที่จะมาใช้ของเกินหน้าเกินตาเขา

"แน่นอนหลานรักของย่า ขอเพียงตอนนี้เจ้าเป็นเด็กดีย้ายไปอยู่กับบิดามารดาเจ้าชั่วคราว รอให้ครอบครัวของท่านอารองของเจ้าย้ายเข้ามา เจ้าต้องการสิ่งใด ย่าคนนี้จะจัดการให้เจ้าเอง"

เด็กน้อยยิ้มแย้มรับคำ ครอบครัวนางเว่ยหมัวหลาน ต่างคนต่างนึกถึงผลประโยชน์ที่ตนจะได้รับจากครอบครัวของหานตง

ต่างรอคอยเวลาที่ครอบครัวนั้นจะเข้ามาหาบิดา ดุจพยัคฆ์เฝ้ารอตะครุบเหยื่อ

"ท่านพี่ พี่ชายของท่านมาทำไมเจ้าคะ"

เว่ยเหนียนเหยาถามขึ้น เนื่องจากในตอนที่พี่ชายคนโตของสามีมา นางกำลังพาพวกเด็กสาวเข้าไปช่วยกันทำความสะอาดโรงงาน และจัดเตรียมสถานที่ ไว้ใช้ทำงานในวันพรุ่งนี้

มีเพียงเซียนย้งและซินเซียงที่ยังอยู่ที่บ้าน ตรวจดูสิ่งอื่นๆ ที่ยังไม่ได้โย้กย้ายไป

เรื่องนี้เป็นซินเซียงที่เข้ามากระซิบบอกนาง ยามที่กลับมาถึงที่บ้าน

"สายข่าวของภรรยาช่างทำงานรวดเร็วดีแท้"

หานตงกล่าวหยอกเอินผู้เป็นภรรยา

เว่ยเหนียนเหยาส่งค้อนให้สามีแต่พองาม แม้หานตงจะกล่าวเย้าหยอก แต่นางก็สังเกตเห็นร่องรอยความกังวลในดวงตาของสามีนางได้

หานตงถอนหายใจ เมื่อมองเห็นแววตาคาดคั้นของผู้เป็นภรรยา

"เมื่อครู่ก่อนที่พี่ใหญ่จะมา ทางท่านผู้นำให้คนมาบอกว่า ท่านพ่อกับท่านแม่ ไปแจ้งยกเลิกบันทึกการแยกครอบครัวของพี่แล้ว"

"ถ้าอย่างนั้น ข้าขอเดาว่า บ้านของท่านแม่ต้องการให้ท่านเข้าไปพบใช่หรือไม่เจ้าคะ"

หานตรงพยักหน้า สิ่งที่เขากังวลกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว

"ท่านพี่ใช่ว่าข้าจะเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น แต่ข้าอยากให้ท่านคิดถึงอดีตที่ผ่านมา อยากให้ท่านเห็นแก่บุตรชายทั้งสองของเราบ้างนะเจ้าคะ"

เว่ยเหนียนเหยารู้ดีว่าหานตงเป็นคนกตัญญู เขาย่อมไม่อยากทำให้บิดามารดาขัดเคืองใจ หากทางบ้านนั้นในอดีตดีต่อสามีและบุตรชายของนางบ้างสักนิด วันนี้นางคงไม่ทำเช่นนี้

คิดถึงวันที่นางเพิ่งฟื้นขึ้นมาในโลกนี้ ภาพบุตรชายที่ผอมโซ แววตาแห้งแล้ง

กับวันที่สามียืนนิ่งอยู่ข้างหน้านาง หน้าซีดเผือด ดวงตาแดงก่ำ

สำหรับนาง คำว่าครอบครัว หาใช่เพียงเพราะมีสายเลือดเดียวกัน

แต่คำว่า ครอบครัวสำหรับนาง คือคนที่ต้องร่วมทั้งทุกข์ และสุขไปด้วยกันต่างหาก

"พี่เข้าใจในสิ่งที่เจ้าพูด แต่ถ้าหากท่านแม่แค่เรียกร้องให้พี่จ่ายเงินเข้ากองกลาง พี่ก็อยากขอร้องเจ้าเรื่องนี้ได้หรือไม่"

เว่ยเหนียนเหยารู้ดีว่า คนที่เห็นแก่ตัวและชอบเอาเปรียบคนอื่นอย่างนางเว่ยหมัวหลาน ไม่มีทางต้องการแค่นั้นแน่ ไม่เช่นนั้นนางคงไม่เรียกร้องเก็บเงินที่สามีได้ทั้งหมดไปหรอก

"หากท่านแม่ต้องการเพียงเท่านั้นข้าก็ยินดีเจ้าค่ะ แต่ถ้าหากนางเรียกร้องมากกว่านั้น ท่านต้องให้ข้าเป็นผู้ตัดสินใจนะเจ้าคะ"

"มันต้องเป็นเช่นนั้นอยู่แล้วอาเหยา"

"แล้วนางให้ท่านเข้าไปหายามใดเจ้าคะ"

"เป็นช่วงยามโหย่ว"

"ถ้าอย่างนั้นวันนี้ก็กินข้าวกินปลากันเร็วหน่อย จากนั้นข้าจะไหว้วานให้ครอบครัวของอาย้งอยู่เป็นเพื่อนบุตรชายเราที่บ้านก่อน"

หญิงสาวแปลกใจว่าเหตุใดครอบครัวแม่สามีถึงเรียกเข้าไปในเวลานั้น ปรกติยามโหย่ว จะเป็นช่วงเวลากินข้าวเย็นของหลายๆ ครอบครัว รวมถึงครอบครัวของแม่สามีนางด้วย คนพวกนั้นคงจะไม่คิดเลี้ยงข้าวนางกับสามีหรอกกระมัง

หลังจากจัดการกับเรื่องในบ้านเรียบร้อยแล้ว ยามโหย่วสองสามีภรรยาก็ก้าวเท้า ออกจากบ้านไปยังบ้านพ่อแม่สามี

ตอนที่มาถึงทุกคนในครอบครัว กำลังล้อมวงกันนั่งกินข้าว นางเว่ยหมัวหลานทำเป็นตกใจ เมื่อเห็นนางกับสามี บอกว่าไม่คิดว่าพวกนางจะมาในเวลานี้

นางบอกให้ลูกสะใภ้คนโต ไปนำถ้วยชามมาเพิ่ม พร้อมทั้งกล่าวชวนพวกนางให้กินข้าวด้วยกัน

คนทั้งหมดหกชีวิต มีเพียงผัดผักจืดชืดวางอยู่สองจาน ในชามข้าวปรากฏเป็นข้าวต้มน้ำใสแจ๋วที่มีเพียงข้าวอยู่ไม่กี่เม็ด

เว่ยเหนียนเหยาถอนหายใจ อยากจะยกมือขึ้นจับดูบนหัวตัวเองซะจริงๆ นี่ข้าเป็นคนหรือเป็นควายกันนะ คนพวกนี้ถึงได้จัดฉากแผนการตื้นๆ พวกนี้ให้นางดู

นางเว่ยหมัวหลานเห็นลูกสะใภ้ถอนใจ ก็คิดว่าอีกฝ่ายตกหลุมพรางที่นางวางไว้ อย่างน้อยลูกสะใภ้คนนี้ก็เคยหลงรักบุตรชายคนเล็กของนางอย่างโง่หัวไม่ขึ้น

ตอนนี้นางอาจจะเห็นใจอดีตคนรักที่ต้องมีความเป็นอยู่อย่างยากลำบากก็ได้

"ข้าแก่แล้ว กินแค่นี้ก็พอ สะใภ้ใหญ่ส่วนของข้าก็เอาให้หานเอ่อกินเถอะนะ เขายังเด็กอยู่จะให้ทนหิวเหมือนเราผู้ใหญ่ได้ยังไง"

นางเว่ยหมัวหลาน วางตะเกียบลง

หึ ของพวกนี้ใครจะไปกินลงกัน กว่านางจะบังคับหลานรักให้ร่วมเล่นละครฉากนี้ได้ ต้องเกลี้ยกล่อมอยู่นานเลยทีเดียว

"พวกเจ้าก็ตามข้าเข้าไปพบบิดาที่ด้านในเถอะ"

สามีของนางเป็นตายยังไงก็ไม่ยอมเข้าร่วมการจัดฉากในครั้งนี้ นางจึงขู่เขาว่า ถ้าเขาขัดขวางเรื่องนี้ นางกับบุตรชาย รวมไปถึงหลานชาย จะฆ่าตัวตายต่อหน้าเขา ให้เขาหมดสิ้นวงศ์ตระกูล แม้กลายเป็นผีก็ไม่อาจสู้หน้าบิดามารดาในปรภพได้อีก

ส่วนเรื่องการเกลี้ยกล่อมหานตง นางจะเป็นคนพูดเองทั้งหมด ขอแค่สามีของนางไม่สอดไม้สอดมือเข้ามาก็พอ

หานตงพาภรรยาเข้าไปในห้อง เห็นบิดานั่งนิ่งอยู่บนเตียงไม่ยอมพูดจา

"ท่านพ่อ" "ท่านพ่อสามี"

หานตงเห็นว่าบิดาทำท่าถอนหายใจไม่ยอมกล่าวอะไร จึงหันมามองนางเว่ยหมัวหลาน

ฝ่ายนางเว่ยหมัวหลานเห็นสามีทำท่าทางแบบนั้นในใจก็นึกโกรธเคือง ที่นางทำไปทั้งหมดก็เพื่อครอบครัวทั้งนั้น ตาแก่คนนี้ช่างดื้อด้านนัก จะรักลูกคนอื่นมากกว่าลูกของตนหรือยังไง

นางรีบเข้าไปนั่งข้างๆ สามี จับมือของสามีขึ้นมาเหมือนเป็นการปลอบโยน

หึ ได้ งั้นเรื่องทั้งหมดข้าจะจัดการเองก็แล้วกัน

"อาตงลูกแม่ ตั้งแต่เจ้าแยกครอบครัวออกไป ท่านพ่อก็ต้องโหมงานหนักอยู่คนเดียว ร่างกายจึงทรุดโทรมลงไม่น้อย ส่วนพี่ใหญ่ของเจ้าปีนี้ฟ้าฝนก็ไม่อำนวยเสียอีก เฮ้อ ตอนนี้ครอบครัวของเราลำบากอย่างยิ่งลูกรัก"

นั่นไงเริ่มแล้วมหกรรมความลำบาก เว่ยเหนียนเหยาอยากจะเบ๊ปากแล้วมองบนซะจริงๆ

" อาตงแม่รู้แล้วว่าทำผิดต่อครอบครัวเจ้า เจ้าก็กลับมาอยู่เป็นครอบครัวเดียวกันเหมือนเมื่อก่อนเถอะนะ ห้องหับของเจ้า แม่ก็จัดเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว"

"เหตุใดสุขภาพของท่านพ่อถึงได้ทรุดโทรมได้รวดเร็วเช่นนี้เล่า เมื่อวันก่อนข้ายังได้ยินชาวบ้าน กล่าวชมเชยที่ท่านพ่อไปช่วยซ่อมแซมศาลบรรพชนอยู่เลย เห็นผู้คนกล่าวว่า ท่านพ่อแบกกระเบื้องทีละห้าหกแผ่น แข็งแรงกว่าหนุ่มฉกรรจ์ในหมู่บ้านบางคนเสียอีก"

นางเว่ยหมัวหลานกัดฟันกรอด เอ่ยแก้ตัว

"นั่นเป็นเพราะ ท่านพ่อของเจ้ามีใจกตัญญูต่อบรรพชนต่างหาก แม้จะเจ็บป่วยก็สู้ทน"

"ท่านแม่สามีพูดแบบนี้ เหมือนจะบอกว่า ท่านพี่สามีกับน้องสามี ไม่มีใจกตัญญูนะเจ้าคะ"

นางเว่ยหมัวหลานกัดฟันแน่นเข้าไปอีก ก่อนจะตวาดออกมาอย่างทนไม่ไหว

"นั่นไม่ใช่กงการอะไรของเจ้า ที่ข้าเรียกพวกเจ้ามาวันนี้ ก็เพื่อบอกให้รู้เรื่องที่ให้กลับมาอยู่ที่บ้านใหญ่เท่านั้น"

นางเว่ยหมัวหลานพูดออกมาอย่างเอาแต่ใจ

"ต้องขออภัยด้วยเจ้าค่ะท่านแม่สามี ตัวข้าและสามีเคยชินกับการช่วยเหลือตัวเองเพียงลำพังมาหลายปี ตอนนี้คงไม่สะดวกที่จะเอาใครมาเป็นภาระ เอ๊ย มาเป็นภาระของใครเจ้าค่ะ"

หญิงสาวเอ่ยอย่างจิกกัดแม่สามีเล็กน้อยพอหอมปากหอมคอ

"เรื่องนี้ต้องให้อาตงเป็นคนตัดสินใจ เจ้าเป็นแค่ภรรยาไม่มีสิทธิ์ออกความคิดเห็น อาตงลูกรัก เจ้าไม่คิดถึงแม่บ้างเลยหรือ ที่ผ่านมาแม่คิดถึงเจ้ามากนัก"

นางเว่ยหลัวหลาน ดึงจุดอ่อนหานตงขึ้นมาใช้งานอีกครั้ง แต่ครั้งนี้นางกลับเดินหมากผิดไป คำพูดของนางกลับทำให้เขานึกถึงวันที่เขาโดนปฏิเสธในวันนั้น

นางรักเขาจริงหรือ หากรักทำไมถึงทำกับเขาแบบนั้น

ในวันที่ครอบครัวของเขากำลังจะอดตาย ทำไมนางถึงไม่เคยใส่ใจเลยสักนิด

"ท่านแม่ ข้าเกรงว่าคงไม่สะดวกเท่าไหร่ ตอนนี้ข้ากับภรรยาเพิ่งเปิดการค้าเล็กๆ เวลาเข้าบ้านออกบ้านล้วนไม่เป็นเวลา เกรงว่าจะรบกวนเวลาพักผ่อนของพวกท่าน"

"ไม่รบกวน ไม่รบกวน อีกอย่างเมื่อเจ้ากลับมา การค้าชิ้นนั้นก็เป็นเสมือนการค้าของครอบครัว พี่ชายน้องชายเจ้าต่างต้องช่วยเจ้าดูแลอยู่แล้ว"

นั่นไง หางโผล่ออกมาแล้ว หญิงสาวแอบเหล่ตามองหน้าสามีเล็กน้อย เห็นสามีหน้ามืดครึ้ม มือกำแน่น ก็รู้แล้วว่า สามีคงเข้าใจทุกอย่างแล้ว งั้นนางลงมือจัดการเองดีกว่า

"ท่านแม่สามี การค้าชิ้นนี้ลงนามสัญญาในชื่อของข้า และข้าไม่เคยมีความคิดจะกลับมาอยู่ที่นี่ ในเมื่อท่านพ่อไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว ข้ากับสามีคงต้องขอตัว อ้อ ข้าว่าท่านควรหาหมอมาตรวจหลานชายสักหน่อยก็ดี เห็นเขากินข้าวต้มกับผัก แต่ตัวกับอ้วนกลมยิ่งนัก เกรงว่าเขาอาจจะมีโรคร้ายแอบแฝงนะเจ้าคะ"

คราวนี้นางเว่ยหมัวหลานถึงกับโกรธจนเก็บอาการไม่อยู่ ที่โดนลูกสะใภ้ฉีกหน้า ถึงกับลุกขึ้นยืนชี้หน้าเว่ยเหนียนเหยามือไม้สั่น

" เจ้า! เจ้า! เจ้า!"

ฝ่ายชายชราหน้าแดงก่ำด้วยฝ่ายอับอาย รีบโบกมือไล่ให้บุตรชายพาลูกสะใภ้ออกไป

เมื่อครอบครัวหานตงจากไปแล้ว นางเว่ยหมัวหลานใช้เวลาต่อว่าสามีอยู่หลายคำ ก่อนจะเดินออกมาจากห้อง

เมื่อออกมาถึงห้องโถงก็ถูกเหล่าบรรดาลูกชายและลูกสะใภ้รุมเข้ามาสอบถาม เมื่อรู้ว่าทางครอบครัวหานตงปฏิเสธที่จะกลับมา ก็ก่นด่าอีกฝ่ายเสียใหญ่ โดยไม่ได้สำนึกถึงสิ่งที่ตัวเองเคยทำในอดีต

"พวกเจ้าเลิกพูดกันได้แล้ว ในเมื่อข้าพูดดีๆแล้วมันไม่ชอบ ก็อย่ามาหาว่าข้าคนนี้แล้งน้ำใจก็แล้วกัน"

ตัวร้ายออกโรงแล้วววว ช่วยพ่อด้วย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก   บทที่30

    "พี่หานตง พี่หานตง ท่านผู้นำบอกให้ท่านกับพี่สะใภ้รีบไปที่ห้องแจ้งข่าวขอรับ ตอนนี้ท่านแม่ของท่านไปฟ้องร้องท่านข้อหา อกตัญญูต่อบิดามารดาขอรับ"หานตงหน้าซีดเผือด ไม่เคยมีบิดามารดาคนไหน ฟ้องร้องบุตรด้วยข้อหานี้มาก่อน เนื่องจากหากสืบสวนแล้วพบว่าบุตรผิดจริงบุตรคนนั้นจะต้องได้รับโทษตามกฎของหมู่บ้านและของทางการอีกด้วยตามกฎของหมู่บ้าน บุตรที่ได้รับโทษจะถูกโทษโบยห้าสิบไม้ หลังจากนั้นก็จะถูกนำชื่อออกจากตระกูลทั้งครอบครัว และขับไล่ออกจากหมู่บ้านส่วนผู้ใหญ่บ้านก็จะนำตัวไปส่งที่ศาลอาญากลางเมือง พร้อมข้อมูลความผิด คนผู้นั้นจะถูกตัดสินจองจำหนึ่งปี โทษโบยอีกห้าสิบไม้ ส่วนทรัพย์สินที่เป็นที่ดิน หรือกิจการที่เป็นชื่อตระกูล จะถูกโอนย้ายเข้าเป็นกองกลางของบ้านนั้นๆจะมีเพียงเงินทอง ของมีค่า หรือสิ่งที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า เป็นสิทธิ์ของตระกูล ที่คู่สามีหรือภรรยา สามารถนำติดตัวออกไปจากหมู่บ้านได้เท่านั้นหานตงแขนขาอ่อนแรง ทรุดนั่งลงกับพื้นตาแดงก่ำ จนแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เขารู้ว่ามารดาไม่ค่อยจะรักเขานัก แต่ไม่เคยคิดเลยว่า มารดาจะกล้าทำถึงเพียงนี้เว่ยเหนียนเหยาก่นด่าแม่สามีภายในใจ ผู้หญิงคนนั้นยังเป

    Last Updated : 2025-03-26
  • ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก   บทที่31

    "หลังจากที่กลับมาจากบ้านท่านในวันนั้น สามีของข้าเห็นว่าครอบครัวกำลังจะอดตาย เกรงว่าผู้คนจะก่นด่า ท่านแม่สามีว่า เป็นหญิงชั่วช้า ใจดำอำมหิต จึงกระเสือกกระสนนำกระดาษแผ่นนี้ไปที่ศาลากลาง เพื่อตัดขาดครอบครัวออกจากบ้านใหญ่ ไม่ให้ผู้คนก่นด่าท่านได้"เชอะ! เรื่องกลับขาวเป็นดำ เอาความดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น นางก็ทำเป็นนางเว่ยหลัวหลานถลึงตาใส่ลูกสะใภ้คนกลาง มือไม้สั่นระริก เมื่อถูกหลอกด่าเว่ยหานหมิงเห็นว่าตอนนี้ครอบครัวของตนเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แผนการที่เขากับมารดาวางไว้ถือว่าไร้ที่ติ คาดไม่ถึงว่าเป็นเพราะเขาประมาทพี่รองจนเกินไป ทำให้อีกฝ่ายพลิกกลับมาชนะได้หานหมิงพิจารณาทุกอย่าง อย่างรอบคอบอีกครั้ง ไม่เพียงแต่พี่ชายของเขาที่เปลี่ยนไป แต่คนที่เปลี่ยนไปมากที่สุดคือ พี่สะใภ้หรือ คนรักเก่าของเขานั่นเองหานหมิงนึกทบทวนถึงสายตาของนางที่มองมายังเขา ความรัก ความห่วงหา อาลัยอาวรณ์ ที่เคยมี บัดนี้กับถูกแทนที่ด้วยความเย็นชา และเหินห่างหากเขารู้ว่า นางมากความสามารถเช่นนี้ เขาคงจะเกลี้ยกล่อมมารดาให้ได้แต่งงานกับนาง แทนที่จะปล่อยให้พี่รองแย่งวาสนาเขาไปเช่นนี้ในเมื่อตอนนี้ การใช้ไม้แข็งไปก็รังแต่จะแตกหั

    Last Updated : 2025-03-29
  • ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก   บทที่32

    เช้าวันนี้เว่ยเหนียนเหยารู้สึกตัวตื่นขึ้น เมื่อรู้สึกว่าคนที่นอนอีกด้านขยับกาย"เหตุใดถึงรีบตื่นละเจ้าคะท่านพี่ ฟ้ายังไม่ทันแจ้งเลย เมื่อวานท่านก็ทำงานมาทั้งวัน วันนี้ตื่นสายเสียหน่อยก็ได้เจ้าค่ะ""ตอนแรกพี่ว่าจะลงไปอาบน้ำที่ลำธารเสียหน่อย แต่ตอนนี้ไหนๆเจ้าก็ตื่นแล้ว พี่ว่า พี่พาเจ้าลงไปอาบน้ำด้วยดีกว่า เมื่อคืนเจ้าก็ผิดสัญญากับพี่แล้ว ตอนนี้ถือว่าให้รางวัลปลอบใจพี่นิดๆหน่อยก็แล้วกัน""เรื่องเมื่อคืนหาใช่ความผิดของข้าเสียหน่อย เอาเถอะไปก็ได้เจ้าค่ะ แต่ข้าไปอาบเป้ปเดียวนะเจ้าคะ เช้าๆแบบนี้ข้าว่า อากาศเย็นอยู่ไม่น้อย"หานตงจัดเตรียมสบู่ ก่อนจะจุดตะเกียงเดินนำภรรยาลงไปจากบ้านทางเดินไปลำธารถูกปรับให้เรียบ มีไม้ปักแขวนตะเกียงอยู่เป็นระยะ หานตงนำตะเกียงแขวนไว้ตรงไม้ที่ปักอยู่ริมน้ำบริเวณนี้หญิงสาวให้ช่างปรับไว้เป็นที่อาบน้ำบริเวณริมธาร สำหรับเด็กๆที่มักจะชอบมาว่ายน้ำเล่นหานตงถอดเสื้อผ้าออกเหลือแต่กางเกงข้างในติดกาย ก่อนจะช่วยภรรยา ถอดชุดด้านนอกออกบ้างชายหนุ่มตระกองกอดร่างงามให้เดินลงไปในน้ำลึกประมาณระดับอก"น้ำเย็นเหมือนกับที่เจ้าบอกจริงๆ มาเถอะพี่จะช่วยขัดถูตัวให้ เลือดลมจะได้เดินดี คล

    Last Updated : 2025-03-29
  • ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก   บทที่33

    รถม้าวิ่งผ่านกำแพงเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน ร่างของนางลี่สือหลินที่เดินกระวนกระวายอยู่ พุ่งเข้ามาหาหานตงทันที"เกิดเรื่องใหญ่แล้ว อาตง"เสียงโวยวาย ทำให้หญิงสาวในรถม้า เปิดผ้าออกมาทันที"เกิดอะไรขึ้นเจ้าคะท่านแม่ลี่ เหตุใดท่านถึงดูร้อนใจถึงเพียงนี้"สีหน้าท่าทางของนางลี่สือหลินไม่ดีเลย ทำให้นางรู้สึกตกใจไปด้วย"ที่บ้านอาหงเกิดเรื่อง วันนี้ลุงฟงเห็นว่าหลังคาบ้านที่พักอยู่เกิดรอยรั่ว เลยปีนขึ้นไปซ่อม ไม่รู้ว่าพลาดพลั้งยังไง ตกลงมา อาหงวิ่งมาตามอาเส้าที่นี่ เห็นว่าหมอจางรักษาไม่ได้ ต้องส่งเข้าไปรักษาที่ตัวเมือง ทางผู้ใหญ่ให้เกวียนของหมู่บ้านไปส่งสักพักแล้ว""แล้วเขาเอาไปรักษาที่ไหน ท่านแม่ลี่รู้รึไม่เจ้าคะ""ได้ยินมาว่า เป็นร้านยามู่ถาน""ท่านพี่ ท่านขับรถไหวหรือไหม ข้าอยากไปดูพวกเขาสักหน่อย""ข้าไหว งั้นเดี๋ยวข้ากับอาย้งจะรีบขนของลงจากรถม้าก่อน""ถ้าอย่างนั้นข้าขอขึ้นไปเตรียมของสักครู่"เว่ยเหนียนเหยาเดินขึ้นมาหยิบเงินติดไปมากหน่อย ตามที่ได้ยินอาการลุงฟงน่าจะหนักไม่น้อย จากรายได้ของคนทั้งสามที่ทำกับนางมา ถ้าจะใช้จ่ายอย่างประหยัด ก็น่าจะมีเงินเก็บอยู่บ้างแต่ร้านยาในตัวเมืองเห็นว่าค่ารักษาแพง

    Last Updated : 2025-03-29
  • ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก   บทที่34

    เพล้ง! เพล้ง! เสียงสิ่งของแตกหักดังออกมาจากในห้อง ทำให้ผู้เฒ่าเว่ยจื้อจงรีบเดินเข้ามาในห้อง"ยายเฒ่า เจ้าจะบ้าไปแล้วหรือ ทำไมถึงต้องขว้างปา ข้าวของเช่นนี้""ใช่ ข้ามันบ้าไปแล้ว ท่านพี่ ท่านดู บุตรชายสุดที่รักของท่านทำเข้า"ชายชรามองหน้าบุตรชายคนโต กับคนเล็กที่อยู่ในห้อง ก่อนถอนหายใจ"อาเวิ่น อาหมิง เจ้าเอาเรื่องอะไรมากวนใจแม่ของเจ้าอีก เหอะ""ท่านอย่ามาตวาดบุตรชายของข้านะ ท่านไปตวาดบุตรชายของท่านโน่น ตั้งแต่มีเงินก็ปีกกล้าขาแข็ง ไม่เห็นหัวพ่อแม่ ที่กับครอบครัวคนอื่น กับสอดไม้สอดมือช่วยเหลือวุ่นวายไปหมด"ชายชราถอนใจ ที่แท้ก็เป็นเรื่องครอบครัวตระกูลจงนี่เอง"ยายเฒ่าเอ๊ย ตาเฒ่าฟงประสบเคราะห์ร้าย ภรรยาและบุตรของเขาก็ทำงานอยู่กับอาตง อาตงคงเห็นแก่คนพวกนั้นจึงได้ช่วยเหลือก็ได้ เจ้าก็อย่าคิดมากเลย""ข้าคิดมากอะไร ตั้งแต่เรื่องค่าเช่าที่ดินแล้ว ที่พวกมันตั้งใจหลอกลวงข้า หากข้ารู้ว่า พวกมันเตรียมย้ายบ้าน ข้าจะไม่เรียกเงินแค่นั้นหรอก พูดแล้ว ก็เจ็บใจจริงๆ"นางเว่ยหมัวหลานแทบกระอักเลือดออกมา เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากที่กลับมาจากห้องแจ้งข่าว นางกับคนในบ้านก็อับอายจนไม่อยากออกไปไหนจ

    Last Updated : 2025-03-29
  • ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก   บทที่35

    "ท่านหมอเจ้าคะ ข้านำต้นโสมมาส่งเจ้าค่ะ"เว่ยเหนียนเหยายื่นกล่องโสม วางลงบนโต๊ะที่ท่านหมอนั่งอยู่"เจ้าไปเสียนาน ข้าคิดว่า เจ้าจะหามาไม่ได้เสียแล้ว"หมอชรานำกล่องโสมมาเปิดดู พอฝากล่องเปิดขึ้น ชายชราถึงกับมือไม้สั่นรีบประคับประคองกล่องโสมวางลงบนโต๊ะ"โสมต้นนี้สมบูรณ์มากนัก ข้าคิดว่ามันน่ามีอายุหลายสิบปีเลยทีเดียว ราคาของโสมต้นนี้น่าจะอยู่ที่เจ็ดร้อยถึงแปดร้อยตำลึงทอง ข้าคิดว่าเจ้าจะหาซื้อโสมต้นเล็กๆ มาเสียอีก""เดิมทีข้าก็คิดเช่นนั้น แต่สหายของข้าบอกว่ามีคนให้โสมต้นนี้กับเขามา แต่เขาไม่ได้ใช้ เลยให้ข้ามาอีกทีเจ้าค่ะ"" สหายดี! สหายดี! เจ้ามีสหายที่ดีเช่นนี้ ถือว่ามีบุญยิ่งนัก อะ เอาคืนไป ข้าใช้แค่รากโสมพวกนี้ก็พอแล้ว"หมอชราใช้กรรไกรตัดส่วนของรากที่ตนต้องการออกไว้ จากนั้นก็นำโสมใส่ลงไปในกล่อง และส่งให้เว่ยเหนียนเหยาคืน"มันจะพอหรือเจ้าคะ มิสู้ท่านเอาไว้ให้มากหน่อยดีกว่า"เว่ยเหนียนเหยาที่เห็นว่า ท่านหมอตัดแค่รากโสมไว้ก็เกรงว่าตัวยาจะไม่พอ คะยั้นคะยอให้ท่านหมอตัดเพิ่มไว้อีก"พอแล้ว พอแล้ว โสมนี้เจ้าก็เก็บไว้ให้ดี แล้วอย่าเที่ยวไปบอกใครละ เดี๋ยวจะเป็นภัยกับตัวเอง พรุ่งนี้ข้าจะเริ่มรักษาใน

    Last Updated : 2025-03-29
  • ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก   บทที่1

    "ท่านแม่ ท่านแม่ขอรับ ได้โปรดตื่นเถิด อย่าทิ้งข้ากับท่านพ่อไปนะขอรับ ฮือ ฮือ""ท่านพ่อ ทำไมท่านแม่ถึงนอนแน่นิ่งแบบนี้ ท่านพ่อช่วยปลุกท่านแม่หน่อยขอรับ"เสียงใครกัน หนวกหูชะมัด ฉันขอนอนนานๆหน่อยได้ไหม เว่ยเหนียนเหยา คิดในใจอย่างรำคาญ เมื่อวานนี้กว่าเธอจะปิดบัญชีของภัตตาคารหรูระดับห้าดาวเสร็จ เธอต้องเคร่งเครียดจนลืมกินลืมนอนไปหลายคืน " เจ้าใหญ่ เจ้ารอง หยุดร้องไห้ก่อนเถอะ เจ้าดูแม่เจ้าไว้ก่อน เดียวพ่อจะไปตามท่านหมอจางมาดูแม่เจ้า"เสียงอีกเสียงดังขึ้น ฟังดูก็รู้ว่า น่าจะเป็นชายหนุ่มอายุไม่เยอะเท่าไหร่ ว่าแต่ว่าพวกเขาพูดถึงใครกัน แล้วคนพวกนี้เข้ามาอยู่ในบ้านเธอได้ยังไง แย่แล้ว!!! หรือว่าจะเป็นโจร เว่ยเหนียนเหยาคิดอย่างตกใจ พยายามที่จะลืมตาขึ้น แต่กลับรู้สึกปวดหัว และเจ็บข้างหลังท้ายทอยเป็นอย่างมาก หญิงสาวค่อยๆยกมือ ลูบไปยังบริเวณที่เจ็บ พร้อมกับลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก แสงสว่างสาดเข้ากับดวงตา ทำให้ตาของเธอพร่าไปเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆคุ้นชิน หญิงสาวกวาดสายตามองดูโดยรอบนี่เธออยู่ที่ไหน ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ หรือเธอถูกโจรจับมาเรียกค่าไถ่ สารพัดคำถามที่ไร้คำตอบดังขึ้นมาในหัว แต่ก่อนที

    Last Updated : 2025-03-12
  • ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก   บทที่2

    " ท่านพ่อเร็วเข้าเถอะขอรับ ท่านแม่อาการหนักแน่ๆ""ใช่ขอรับท่านพ่อ เมื่อครู่ท่านแม่จำข้ากับพี่ใหญ่ไม่ได้ด้วยขอรับ"เสียงโวยวายของเด็กทั้งสองดังขึ้น พ่อของเด็กน่าจะพาหมอกลับมาแล้ว หญิงสาวแสร้งนอนนิ่ง เพื่อรอดูเหตุการณ์ "ท่านหมอ ท่านช่วยตรวจดูภรรยาข้าหน่อยเถอะขอรับ"น้ำเสียงทุ้มกล่าวอย่างนอบน้อม หมอชราถอนหายใจในความอยุติธรรมที่ชายหนุ่มตรงหน้าได้รับ เขาบังเอิญรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น สองครอบครัวร่วมมือกันเล่นละคร เพื่อผลักดันชายหนึ่งหญิงหนึ่งที่ตนไม่ต้องการให้กระเด็นออกมา " หานตงเอ๋ย ข้าสงสารเจ้ายิ่งนัก เวรกรรมอะไรของเจ้าหนักหนา"ชายชราส่ายหน้า พลางนั่งลงตรงข้างร่างหญิงสาว หลังจากลงมือสำรวจบาดแผล และตรวจดูชีพจร เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง จึงมอบยารักษาบาดแผลไว้ให้ หมอชราปฏิเสธที่จะรับเงินค่ารักษา ขอรับเพียงแต่เงินค่ายาเท่านั้นหลังจากที่หมอชราจากไป ชายหนุ่มจึงปลอบโยนลูกทั้งสอง ก่อนจะนำกะละมังและผ้าชุบน้ำมาเช็ดตามเนื้อตัวของภรรยา เว่ยเหนียนเหยารู้สึกซาบซึ้งใจกับสิ่งที่ชายหนุ่มปฏิบัติต่อเธอ ร่างบางค่อยๆลืมตาขึ้นมองสบเข้ากับดวงตาคู่คม เธอมองเห็นความกังวลปนเปกับความโล่งอก"เจ้ารู้สึกเ

    Last Updated : 2025-03-12

Latest chapter

  • ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก   บทที่35

    "ท่านหมอเจ้าคะ ข้านำต้นโสมมาส่งเจ้าค่ะ"เว่ยเหนียนเหยายื่นกล่องโสม วางลงบนโต๊ะที่ท่านหมอนั่งอยู่"เจ้าไปเสียนาน ข้าคิดว่า เจ้าจะหามาไม่ได้เสียแล้ว"หมอชรานำกล่องโสมมาเปิดดู พอฝากล่องเปิดขึ้น ชายชราถึงกับมือไม้สั่นรีบประคับประคองกล่องโสมวางลงบนโต๊ะ"โสมต้นนี้สมบูรณ์มากนัก ข้าคิดว่ามันน่ามีอายุหลายสิบปีเลยทีเดียว ราคาของโสมต้นนี้น่าจะอยู่ที่เจ็ดร้อยถึงแปดร้อยตำลึงทอง ข้าคิดว่าเจ้าจะหาซื้อโสมต้นเล็กๆ มาเสียอีก""เดิมทีข้าก็คิดเช่นนั้น แต่สหายของข้าบอกว่ามีคนให้โสมต้นนี้กับเขามา แต่เขาไม่ได้ใช้ เลยให้ข้ามาอีกทีเจ้าค่ะ"" สหายดี! สหายดี! เจ้ามีสหายที่ดีเช่นนี้ ถือว่ามีบุญยิ่งนัก อะ เอาคืนไป ข้าใช้แค่รากโสมพวกนี้ก็พอแล้ว"หมอชราใช้กรรไกรตัดส่วนของรากที่ตนต้องการออกไว้ จากนั้นก็นำโสมใส่ลงไปในกล่อง และส่งให้เว่ยเหนียนเหยาคืน"มันจะพอหรือเจ้าคะ มิสู้ท่านเอาไว้ให้มากหน่อยดีกว่า"เว่ยเหนียนเหยาที่เห็นว่า ท่านหมอตัดแค่รากโสมไว้ก็เกรงว่าตัวยาจะไม่พอ คะยั้นคะยอให้ท่านหมอตัดเพิ่มไว้อีก"พอแล้ว พอแล้ว โสมนี้เจ้าก็เก็บไว้ให้ดี แล้วอย่าเที่ยวไปบอกใครละ เดี๋ยวจะเป็นภัยกับตัวเอง พรุ่งนี้ข้าจะเริ่มรักษาใน

  • ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก   บทที่34

    เพล้ง! เพล้ง! เสียงสิ่งของแตกหักดังออกมาจากในห้อง ทำให้ผู้เฒ่าเว่ยจื้อจงรีบเดินเข้ามาในห้อง"ยายเฒ่า เจ้าจะบ้าไปแล้วหรือ ทำไมถึงต้องขว้างปา ข้าวของเช่นนี้""ใช่ ข้ามันบ้าไปแล้ว ท่านพี่ ท่านดู บุตรชายสุดที่รักของท่านทำเข้า"ชายชรามองหน้าบุตรชายคนโต กับคนเล็กที่อยู่ในห้อง ก่อนถอนหายใจ"อาเวิ่น อาหมิง เจ้าเอาเรื่องอะไรมากวนใจแม่ของเจ้าอีก เหอะ""ท่านอย่ามาตวาดบุตรชายของข้านะ ท่านไปตวาดบุตรชายของท่านโน่น ตั้งแต่มีเงินก็ปีกกล้าขาแข็ง ไม่เห็นหัวพ่อแม่ ที่กับครอบครัวคนอื่น กับสอดไม้สอดมือช่วยเหลือวุ่นวายไปหมด"ชายชราถอนใจ ที่แท้ก็เป็นเรื่องครอบครัวตระกูลจงนี่เอง"ยายเฒ่าเอ๊ย ตาเฒ่าฟงประสบเคราะห์ร้าย ภรรยาและบุตรของเขาก็ทำงานอยู่กับอาตง อาตงคงเห็นแก่คนพวกนั้นจึงได้ช่วยเหลือก็ได้ เจ้าก็อย่าคิดมากเลย""ข้าคิดมากอะไร ตั้งแต่เรื่องค่าเช่าที่ดินแล้ว ที่พวกมันตั้งใจหลอกลวงข้า หากข้ารู้ว่า พวกมันเตรียมย้ายบ้าน ข้าจะไม่เรียกเงินแค่นั้นหรอก พูดแล้ว ก็เจ็บใจจริงๆ"นางเว่ยหมัวหลานแทบกระอักเลือดออกมา เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากที่กลับมาจากห้องแจ้งข่าว นางกับคนในบ้านก็อับอายจนไม่อยากออกไปไหนจ

  • ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก   บทที่33

    รถม้าวิ่งผ่านกำแพงเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน ร่างของนางลี่สือหลินที่เดินกระวนกระวายอยู่ พุ่งเข้ามาหาหานตงทันที"เกิดเรื่องใหญ่แล้ว อาตง"เสียงโวยวาย ทำให้หญิงสาวในรถม้า เปิดผ้าออกมาทันที"เกิดอะไรขึ้นเจ้าคะท่านแม่ลี่ เหตุใดท่านถึงดูร้อนใจถึงเพียงนี้"สีหน้าท่าทางของนางลี่สือหลินไม่ดีเลย ทำให้นางรู้สึกตกใจไปด้วย"ที่บ้านอาหงเกิดเรื่อง วันนี้ลุงฟงเห็นว่าหลังคาบ้านที่พักอยู่เกิดรอยรั่ว เลยปีนขึ้นไปซ่อม ไม่รู้ว่าพลาดพลั้งยังไง ตกลงมา อาหงวิ่งมาตามอาเส้าที่นี่ เห็นว่าหมอจางรักษาไม่ได้ ต้องส่งเข้าไปรักษาที่ตัวเมือง ทางผู้ใหญ่ให้เกวียนของหมู่บ้านไปส่งสักพักแล้ว""แล้วเขาเอาไปรักษาที่ไหน ท่านแม่ลี่รู้รึไม่เจ้าคะ""ได้ยินมาว่า เป็นร้านยามู่ถาน""ท่านพี่ ท่านขับรถไหวหรือไหม ข้าอยากไปดูพวกเขาสักหน่อย""ข้าไหว งั้นเดี๋ยวข้ากับอาย้งจะรีบขนของลงจากรถม้าก่อน""ถ้าอย่างนั้นข้าขอขึ้นไปเตรียมของสักครู่"เว่ยเหนียนเหยาเดินขึ้นมาหยิบเงินติดไปมากหน่อย ตามที่ได้ยินอาการลุงฟงน่าจะหนักไม่น้อย จากรายได้ของคนทั้งสามที่ทำกับนางมา ถ้าจะใช้จ่ายอย่างประหยัด ก็น่าจะมีเงินเก็บอยู่บ้างแต่ร้านยาในตัวเมืองเห็นว่าค่ารักษาแพง

  • ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก   บทที่32

    เช้าวันนี้เว่ยเหนียนเหยารู้สึกตัวตื่นขึ้น เมื่อรู้สึกว่าคนที่นอนอีกด้านขยับกาย"เหตุใดถึงรีบตื่นละเจ้าคะท่านพี่ ฟ้ายังไม่ทันแจ้งเลย เมื่อวานท่านก็ทำงานมาทั้งวัน วันนี้ตื่นสายเสียหน่อยก็ได้เจ้าค่ะ""ตอนแรกพี่ว่าจะลงไปอาบน้ำที่ลำธารเสียหน่อย แต่ตอนนี้ไหนๆเจ้าก็ตื่นแล้ว พี่ว่า พี่พาเจ้าลงไปอาบน้ำด้วยดีกว่า เมื่อคืนเจ้าก็ผิดสัญญากับพี่แล้ว ตอนนี้ถือว่าให้รางวัลปลอบใจพี่นิดๆหน่อยก็แล้วกัน""เรื่องเมื่อคืนหาใช่ความผิดของข้าเสียหน่อย เอาเถอะไปก็ได้เจ้าค่ะ แต่ข้าไปอาบเป้ปเดียวนะเจ้าคะ เช้าๆแบบนี้ข้าว่า อากาศเย็นอยู่ไม่น้อย"หานตงจัดเตรียมสบู่ ก่อนจะจุดตะเกียงเดินนำภรรยาลงไปจากบ้านทางเดินไปลำธารถูกปรับให้เรียบ มีไม้ปักแขวนตะเกียงอยู่เป็นระยะ หานตงนำตะเกียงแขวนไว้ตรงไม้ที่ปักอยู่ริมน้ำบริเวณนี้หญิงสาวให้ช่างปรับไว้เป็นที่อาบน้ำบริเวณริมธาร สำหรับเด็กๆที่มักจะชอบมาว่ายน้ำเล่นหานตงถอดเสื้อผ้าออกเหลือแต่กางเกงข้างในติดกาย ก่อนจะช่วยภรรยา ถอดชุดด้านนอกออกบ้างชายหนุ่มตระกองกอดร่างงามให้เดินลงไปในน้ำลึกประมาณระดับอก"น้ำเย็นเหมือนกับที่เจ้าบอกจริงๆ มาเถอะพี่จะช่วยขัดถูตัวให้ เลือดลมจะได้เดินดี คล

  • ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก   บทที่31

    "หลังจากที่กลับมาจากบ้านท่านในวันนั้น สามีของข้าเห็นว่าครอบครัวกำลังจะอดตาย เกรงว่าผู้คนจะก่นด่า ท่านแม่สามีว่า เป็นหญิงชั่วช้า ใจดำอำมหิต จึงกระเสือกกระสนนำกระดาษแผ่นนี้ไปที่ศาลากลาง เพื่อตัดขาดครอบครัวออกจากบ้านใหญ่ ไม่ให้ผู้คนก่นด่าท่านได้"เชอะ! เรื่องกลับขาวเป็นดำ เอาความดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น นางก็ทำเป็นนางเว่ยหลัวหลานถลึงตาใส่ลูกสะใภ้คนกลาง มือไม้สั่นระริก เมื่อถูกหลอกด่าเว่ยหานหมิงเห็นว่าตอนนี้ครอบครัวของตนเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แผนการที่เขากับมารดาวางไว้ถือว่าไร้ที่ติ คาดไม่ถึงว่าเป็นเพราะเขาประมาทพี่รองจนเกินไป ทำให้อีกฝ่ายพลิกกลับมาชนะได้หานหมิงพิจารณาทุกอย่าง อย่างรอบคอบอีกครั้ง ไม่เพียงแต่พี่ชายของเขาที่เปลี่ยนไป แต่คนที่เปลี่ยนไปมากที่สุดคือ พี่สะใภ้หรือ คนรักเก่าของเขานั่นเองหานหมิงนึกทบทวนถึงสายตาของนางที่มองมายังเขา ความรัก ความห่วงหา อาลัยอาวรณ์ ที่เคยมี บัดนี้กับถูกแทนที่ด้วยความเย็นชา และเหินห่างหากเขารู้ว่า นางมากความสามารถเช่นนี้ เขาคงจะเกลี้ยกล่อมมารดาให้ได้แต่งงานกับนาง แทนที่จะปล่อยให้พี่รองแย่งวาสนาเขาไปเช่นนี้ในเมื่อตอนนี้ การใช้ไม้แข็งไปก็รังแต่จะแตกหั

  • ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก   บทที่30

    "พี่หานตง พี่หานตง ท่านผู้นำบอกให้ท่านกับพี่สะใภ้รีบไปที่ห้องแจ้งข่าวขอรับ ตอนนี้ท่านแม่ของท่านไปฟ้องร้องท่านข้อหา อกตัญญูต่อบิดามารดาขอรับ"หานตงหน้าซีดเผือด ไม่เคยมีบิดามารดาคนไหน ฟ้องร้องบุตรด้วยข้อหานี้มาก่อน เนื่องจากหากสืบสวนแล้วพบว่าบุตรผิดจริงบุตรคนนั้นจะต้องได้รับโทษตามกฎของหมู่บ้านและของทางการอีกด้วยตามกฎของหมู่บ้าน บุตรที่ได้รับโทษจะถูกโทษโบยห้าสิบไม้ หลังจากนั้นก็จะถูกนำชื่อออกจากตระกูลทั้งครอบครัว และขับไล่ออกจากหมู่บ้านส่วนผู้ใหญ่บ้านก็จะนำตัวไปส่งที่ศาลอาญากลางเมือง พร้อมข้อมูลความผิด คนผู้นั้นจะถูกตัดสินจองจำหนึ่งปี โทษโบยอีกห้าสิบไม้ ส่วนทรัพย์สินที่เป็นที่ดิน หรือกิจการที่เป็นชื่อตระกูล จะถูกโอนย้ายเข้าเป็นกองกลางของบ้านนั้นๆจะมีเพียงเงินทอง ของมีค่า หรือสิ่งที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า เป็นสิทธิ์ของตระกูล ที่คู่สามีหรือภรรยา สามารถนำติดตัวออกไปจากหมู่บ้านได้เท่านั้นหานตงแขนขาอ่อนแรง ทรุดนั่งลงกับพื้นตาแดงก่ำ จนแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เขารู้ว่ามารดาไม่ค่อยจะรักเขานัก แต่ไม่เคยคิดเลยว่า มารดาจะกล้าทำถึงเพียงนี้เว่ยเหนียนเหยาก่นด่าแม่สามีภายในใจ ผู้หญิงคนนั้นยังเป

  • ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก   บทที่29

    "ท่านแม่ ท่านไม่คิดจะทำอะไรเลยหรือขอรับ ข่าวที่น้องเล็กสืบมา ก็บอกอยู่แล้ว ตอนนี้ครอบครัวของเจ้ารอง ทำการค้าได้เป็นกอบเป็นกำ""นั่นสิเจ้าคะ ท่านแม่ อีกไม่นานท่านพี่ก็ต้องเอาเงินไปจ่ายค่าสมัครเรียนของหานเอ่อแล้ว อย่างน้อยท่านก็ควรให้อาตงมอบเงินให้ท่านสัก หนึ่งร้อยหรือสองร้อยตำลึงทองนะเจ้าคะ"นางเว่ยหมัวหลานปรายตามองบุตรชายคนโตและลูกสะใภ้ ตีโพยตีพาย ที่เห็นนางไม่ขยับเขยื้อนทำอะไรบ้างเลย"พวกเจ้าสงบใจลงบ้างเถอะ ข้าก็บอกพวกเจ้าไปแล้ว ว่าข้ากำลังรอเวลา""ท่านแม่เจ้าขา ท่านรอเวลาอะไรเจ้าคะ ท่านดูสิ ตอนนี้อาตงปีกกล้าขาแข็งขนาดไหน นี่ก็เลยวันที่ท่านกำหนดให้มอบเงินส่วนกลางแล้ว ข้าไม่เห็นเขาจะส่งเงินกลับมาสักอีแปะ""จริงด้วยขอรับ อีกอย่างเรื่องที่เขาซื้อที่ทำโรงงาน ข้าก็ไปสืบมาแล้ว ว่าเป็นเรื่องจริง เห็นว่าพรุ่งนี้ก็จะย้ายคนงานเข้าไปทำงานที่นั่นแล้ว หากปล่อยให้เขาใช้เงินเป็นเบี้ยแบบนี้ต่อไป คงไม่ดีแน่ขอรับท่านแม่""นั่นสิขอรับท่านแม่ ตอนนี้เพื่อนที่อยู่ในเมือง ก็เชิญข้าร่วมทุนทำการค้า ในเมื่อพี่รองทำการค้าได้เป็นกอบเป็นกำเช่นนี้ ก็น่าจะช่วยเหลือเจือจุนให้พวกเราได้ลืมตาอ้าปากบ้าง"คราวนี้เป็นเสี

  • ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก   บทที่28

    ผ่านมาหลายวัน ตอนนี้ทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทางไปไม่น้อย เว่ยเหนียนเหยาขีดฆ่าแผนงานต่างๆ ที่เสร็จเรียบร้อยไปแล้วช่วงนี้เด็กๆ ก็ไม่ได้ออกมาวิ่งเล่นเหมือนแต่ก่อน เพราะอาเส้าบุตรชายคนโตของท่านลุงฟง ตกลงที่จะเข้ามาสอนหนังสือเด็กๆ ให้เด็กทั้งสามเริ่มเรียนช้ากว่าเด็กทั่วไป ดังนั้นจึงต้องเพิ่มเวลาสอนขึ้นเป็นพิเศษ ตัวนางไม่เข้าใจเรื่องการศึกษาของคนยุคนี้เท่าไหร่ แต่โชคดีที่เจ้าของร่างเก่ามีความสามารถอ่านเขียนได้พอสมควร ไม่อย่างนั้นนางคงต้องไปนั่งเรียนพร้อมลูกๆ เป็นแน่หลังจากที่ปรึกษาและตกลงเรื่องค่าจ้างกันเป็นที่เรียบร้อย อาเส้าก็ส่งรายละเอียดของหนังสือและอุปกรณ์ที่ต้องซื้อหามาให้โชคดีที่ช่วงนั้นบ่าวรับใช้ของชุนเหมยนำรถม้าเข้ามาส่งพอดี บ่าวคนดังกล่าวส่งจดหมายให้กับนางอีกหนึ่งฉบับ ในจดหมายนั้นบอกให้เร่งสร้างหุ่นไม้ เพราะตอนนี้พี่สาวของนาง "สร้างกระแสนิยมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว"แถมยังเล่าให้ฟังอีกว่า ตอนนี้ร้านที่เมืองหลวงวุ่นวายมาก แต่ละวันมีคนเดินเข้ามาสอบถามเรื่องหุ่นไม้จำนวนไม่น้อยบางจวนคุณหนูที่ไม่ขาดเงินพวกนั้น ถึงกับจะขอซื้อหุ่นที่ตั้งอยู่ที่หน้าร้านในราคาตัวละห้าสิบตำลึงทองเลยทีเดียว

  • ฟ้าส่งข้ามาเติมรัก   บทที่27

    "ท่านแม่ลี่ เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ"นางลี่สือหลินหันมายิ้ม พลางหยิบงานที่นางปักเสร็จขึ้นมาให้ดู"เจ้าลองดูก่อนว่าเป็นอย่างไรบ้าง"เว่ยเหนียนเหยาพิจารณาดูผ้าที่นางลี่หลินสือส่งมาให้ เห็นว่าฝีเข็มคล้ายของนางอยู่เก้าถึงสิบส่วนก็วางใจ ตอนนี้ทั้งซินเซียงและนางลี่สือหลินต่างขึ้นมาเป็นช่างปักเป็นที่เรียบร้อยแล้วส่วนลวดลายของผ้าปักทั้งหมด นางได้ให้สามีนำไปขึ้นทะเบียนที่หอการค้ากลางเป็นที่เรียบร้อยนางลี่สือหลินและซินเซียงขอร้องให้นางและสามี ร่างสัญญาการจ้างงานให้กับพวกนางด้วย เพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย โดยให้กำหนดเพิ่มเข้าไปด้วยว่า จะต้องทำงานกับนางเป็นระยะเวลาสิบปี ห้ามสอนวิธีการปักนี้ให้กับใครตลอดสัญญา หากผิดสัญญาต้องเสียเงินค่าปรับเป็นจำนวนหนึ่งพันตำลึงทอง และรับโทษโบยที่มือห้าสิบไม้นางกับสามีปฏิเสธเพราะเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ได้สำคัญอะไรเลย สำหรับคนทั้งคู่ที่เป็นเหมือนมารดาและน้องสาว นางดูออกว่าทั้งสองคนเป็นคนยังไงแต่นางลี่สือหลินยืนกรานว่ายังไงก็ต้องทำ นอกจากจะเป็นความสบายใจของพวกนางแล้ว ยังถือว่าสัญญาพวกนั้นคือความคุ้มครองที่พวกนางจะได้รับอีกด้วยนางชี้แจงต่อไปว่า หากต่อไปมีคนไม่ประสงค

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status