หญิงสาวเล่าเรื่องที่เว่ยหานหมิงเข้าหานาง ทุกคำพูด ทุกการกระทำ นางล้วนเล่าออกมาทั้งหมด นางไม่ใช่นางเอก ที่จะยอมปิดบังเรื่องต่างๆ เพื่อความสบายใจของพระเอก จนบางครั้งก็เกิดเรื่องราวใหญ่โต
สำหรับนางการพูดคุยกันทุกเรื่องจะช่วยให้ชีวิตคู่ของพวกนางมั่นคงขึ้นอีกก้าว "เจ้าบอกว่าน้องเล็กเรียกเจ้าว่า อาเหยา หรือ" "เจ้าค่ะ" "แถมยังทำท่าอาลัยอาวรณ์เจ้าอีก" "เจ้าค่ะ" "ถ้าอย่างนั้นต่อไป เจ้าก็ไม่ต้องตามพี่ไปที่บ้านนั้นอีก และต่อไปพี่จะไม่เรียกเจ้าว่า อาเหยา แล้ว" อ้าว นี่นางทำให้สามีทำไหน้ำส้มหกนองหรือไร หญิงสาวเอนกายซบอกแกร่งสามีอย่างออดอ้อน "ถ้าเช่นนั้น ท่านจะเรียกข้าว่าอะไรดีเจ้าคะ" "เหยาเอ๋อ พี่จะเรียกเจ้าว่า เหยาเอ๋อ ต่อไปเจ้าจะเป็นเหยาเอ๋อของพี่เพียงคนเดียว เจ้ายังจำสัญญาได้หรือไม่ ครั้งนี้เจ้าต้องมีลูกสาวอวบอ้วนให้พี่สักหลายๆ คนนะ เหยาเอ๋อ" ชายหนุ่มจับคางภรรยาขึ้นรับจุมพิตอ่อนโยนที่เขามอบให้ เขารู้ว่า นางไม่ใช่อาเหยาในอดีตที่มีใจรักต่อเว่ยหานหมิงผู้เป็นน้องชาย ครั้งนี้เขาตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่า จะทำตามคำสั่งบิดา ไม่จำเป็นจะไม่ไปที่บ้านหลังนั้นอีก กลิ่นกายหอมกรุ่นในอ้อมแขน ดึงสติเขาออกจากความคิดถึงมวล เห็นเพียงแต่ร่างงามที่อยู่ตรงหน้า ความรู้สึกนี้ช่างแตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่าน แม้กระทั่งตอนเข้าหอ ยามนั้นเขาทั้งสองเหมือนกระทำกันไปตามหน้าที่ ไม่รู้สึกถึงความรักใคร่ผูกพัน แต่คนตรงหน้าขณะนี้ หานตงอยากจะค่อยๆ รักใคร่ ทนุถนอมนาง อยากมอบความรักที่เต็มล้น ผ่านการกระทำทั้งหมดให้นางได้รับรู้ หญิงสาวที่ทอดกาย เสื้อผ้าหลุดลุ่ยดูเย้ายวน ผมสีดำประกายแผ่กระจายไปทั่ว แสงเทียนในห้องที่ทอประกายกระทบร่างยิ่งทำให้นางดูงดงามชวนหลงใหล ชายหนุ่มซุกไซร้ไปทั่วดวงหน้าของภรรยาอย่างหลงใหล มือหยาบปลดสายรัดเอว ก่อนจะถอดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายโยนทิ้งไปอย่างไม่สนใจ มือไม้ของฝ่ายชายลูบไล้อย่างเร่าร้อนไปทั่วเรือนร่างขาวนวล หญิงสาวกัดริมฝีปากสกัดเสียงครางในลำคอ "เหยาเอ๋อ พี่รักเจ้า รักเหยาเอ๋อคนนี้คนเดียว" เสียงกระซิบของชายหนุ่มดังขึ้น ข้างหู ก่อนจะเข้าครอบครองร่างงามอย่างอ่อนโยน น้ำตาหยดหนึ่งไหลลงข้างแก้ม แน่นอนมันไม่ใช่น้ำตาแห่งความเสียใจ แต่มันคือน้ำตาแห่งความปีติ ที่เอ่อล้นขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ เสียงบอกรักของสามี ยามครอบครองนาง เหมือนจะบอกให้นางรู้เป็นนัยๆ ว่า คนที่เขารักคือนาง คือเหยาเอ๋อของเขา ไม่ใช่อาเหยาในอดีต "ท่านพ่อเหตุใดวันนี้ท่านแม่ตื่นสายนักขอรับ" "ท่านพ่อให้ข้าไปปลุกท่านแม่ดีหรือไม่ ข้าหิวแล้วขอรับ" "ไม่ต้องขึ้นไป ท่านแม่เจ้าไม่ค่อยสบาย เดี๋ยวพ่อจะหาอะไรให้เจ้ากินเอง" "ไม่เอาขอรับ" "ใช่ท่านพ่อทำอาหารสู้ท่านแม่ไม่ได้ขอรับ" เสียงต่อล้อต่อเถียงของสามคนพ่อลูก ทำให้หญิงสาวที่เพิ่งจะเดินลงมายกยิ้ม ท่าทางที่สามีกำลังจับเจ้าแฝดน้อยเหวี่ยงไปมา จนเด็กทั้งสองหัวเราะร่า ความสุข ความอบอุ่นที่เติมเต็มเข้ามาในชีวิต ทำให้บางครั้งนางนึกกลัวว่า หากสิ่งนี้เป็นเพียงความฝัน นางจะเป็นอย่างไร "ท่านแม่มมมม ท่านตื่นแล้ว ข้าหิวข้าวแล้วขอรับ" หานเหนียนใช้โอกาสที่บิดากำลังจับพี่ชายเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาวิ่งเข้ามาหามารดาทันที เว่ยเหนียนเหยาอุ้มลูกชายขึ้นมา เฮ้อ ดูเหมือนน้ำหนักของเจ้าตัวเล็กจะเพิ่มขึ้นอีกแล้ว "ได้ แม่อาบน้ำสักประเดี๋ยว เดี๋ยวแม่จะหาอะไรให้กิน" หลังจากเว่ยเหนียนเหยาหาข้าวหาปลาให้สามีและบุตรชายเรียบร้อย พวกนางต่างก็ถูกแยกออกจากกัน สองแฝดมีอาเส้ามายืนรอรับ เพื่อไปเรียนหนังสือ วันนี้พวกเขาโดนเพิ่มเวลาอีกครึ่งชั่วยาม เพราะโดนจับได้ว่าแอบลอกการบ้านกัน ส่วนสามีของนางก็โดนอาเสิ้นพาไปดูบ่อเผาถ่านที่พวกเขาช่วยกันสร้าง วันนี้จะเป็นวันที่ลองเปิดเตา พวกเขาจึงค่อนข้างจะตื่นเต้น สำหรับนางวันนี้นางให้อาย้งมาเป็นผู้ช่วยในการทำสบู่ หลังจากที่อธิบายขั้นตอนและลองทำให้ดูแล้ว นางก็มองดูเซียนย้งเทไขมันสัตว์ลงในถาดไม้ "พี่สะใภ้ ท่านว่าสบู่ของข้าจะออกมาเป็นยังไงบ้างขอรับ มันจะออกมาดีเหมือนสบู่ของท่านหรือเปล่า" เซียนย้งรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย เขาไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน นึกถึงสบู่ก้อนสวยที่ภรรยาเอามาให้ใช้ นี่ เขากำลังจะทำมันออกมา หากทำสำเร็จ เขาจะต้องหาเรื่องโอ้อวดภรรยาให้อิจฉาเล่นเสียหน่อย "หน้าตาท่าทางเจ้าดูเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก คิดหาทางแกล้งซินเซียงอีกละสิ คราวนี้ข้าจะบอกให้นางลงโทษให้เจ้านอนตรงระเบียงเสียหลายๆ คืน" "พี่บุญธรรม เร็ว ท่านตามข้าไปดูเร็ว ข้ากับพี่เขยทำสำเร็จแล้วขอรับ" "ห๋า สำเร็จแล้วหรือ พี่สะใภ้เร็ว เราไปดูด้วยกันขอรับ" เซียนย้งวิ่งนำหน้านางไปเสียแล้ว เด็กหนุ่มนี่แข็งแรงดีจริง เว่ยเหนียนเหยาส่ายหัวก่อนค่อยๆ เดินตามไป ข้างหน้านาง คือ บ่อที่ใช้อิฐก่อขึ้นมา กว้างประมาณสองคนโอบ ความสูงอยู่แค่ประมาณครึ่งเอวของนางเท่านั้น "พี่บุญธรรมท่านดูสิ นี่ถือถ่านคือถ่านจริงๆ ขอรับ ข้าทำสำเร็จแล้วขอรับ" "ยินดีกับเจ้าด้วย เจ้าเก่งจริงๆ อาเสิ่น" "เดี๋ยวข้าจะเอาไปตากแดดก่อน น่าจะประมาณวันเดียวก็แห้ง แล้วข้าจะเอามาให้ท่านลองใช้นะขอรับ" เซียนย้งเข้าไปช่วยอาเสิ่นเอาถ่านออกจากบ่อ ทั้งสองคนพูดคุยหยอกล้อกันอย่างสนิทสนม "เหนื่อยหรือไม่เจ้าคะ " "พี่กับอาเสิ่นว่าจะขึ้นเขาไปหาไม้ฟืนสักหน่อย คราวนี้พี่จะลองใส่ฟืนให้เต็มบ่อ หากไม่มีปัญหาอะไร พี่จะทำบ่อเพิ่มอีกสักหน่อย" "ดีเจ้าค่ะ งั้นท่านพาอาย้งไปด้วยเถอะ เขาช่วยงานข้าเสร็จแล้ว หากได้ไปกับพวกท่านเขาน่าจะดีใจมากกว่า" จริงดังคาด หลังจากที่รู้ว่าจะได้ขึ้นเขากับพวกหานตง เซียนย้งก็รีบชวนอาเสิ้นไปเตรียมตัวทันที หลังจากพวกผู้ชายขึ้นเขาไปหมดแล้ว นางเดินกลับเข้าไปดูสบู่ที่เซียนย้งเททิ้งไว้ เห็นว่ายังไม่แห้งดี เลยยังไม่แกะออกมา นางค้นเครื่องทำน้ำหอมที่ซื้อมาจากพ่อค้าเร่ออกมาวางบนโต๊ะ ลักษณะเครื่องเป็นทรงกลมเพียงแต่สูงขึ้นมาจากพื้นพอสมควร ด้านล่างเป็นขาตั้งสี่ขายกสูงจากพื้น ถัดมาเป็นช่อง2ช่อง ถ้าจะให้เดา ด้านบนน่าจะใช้ใส่ถ่าน ส่วนด้านล่างน่าจะเป็นส่วนที่ให้ขี้เถ้าไหลลงไป ภายในหม้อมีอยู่สามชั้น สามารถถอดออกมาได้สองชั้น คือชั้นที่เป็นหม้อตุ๋น กับชั้นของตะแกรง นางนำดอกไม้ที่เซียงย้งรับซื้อจากชาวบ้านมา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นดอกกุหลาบป่าที่ขึ้นอยู่บนเขา นอกจากนั้นก็มีอย่างละเล็กๆ น้อย นางเลยว่าจะลองทำออกมาดูสองกลิ่นก่อน หญิงสาวเห็นว่าจะเข้าหน้าหนาวแล้ว นางตั้งใจจะทำน้ำมันหอมกุหลาบขึ้นมาให้ทุกคนลองใช้ดู ในชาติก่อนตอนที่นางลองทำ นางมักจะใช้พวกเบบี้ออย มาเป็นส่วนผสม แต่ตอนนี้คงต้องลองใช้น้ำมันมะพร้าวดูก่อน ส่วนพวกดอกไม้หอมอื่นๆ นางจะลองทำเป็นน้ำหอมสกัด เอาไว้ลองแช่เสื้อ และ เอาไว้ผสมกับพวกสบู่ดู จะได้ไม่เสียเวลาที่จะต้องมาหมักดอกไม้อีก นางเริ่มเอาน้ำใส่ไปในหม้อชั้นแรก จากนั้นจึงเริ่มใส่ถ่านจุดไฟ คิดไปแล้วก็ดีเหมือนกันที่อาเสิ้นคิดจะทำถ่าน หากนางจะสกัดน้ำหอม ต้องใช้ไฟจากถ่านถึงจะดีที่สุด แต่ถ่านพวกนี้ขอด้อยคือมีควันมากเหลือเกิน แถมมีกลิ่นเหม็น ติดเสื้อผ้า เดี๋ยวรอนางทำน้ำหอมเสร็จก่อน นางจะต้องกำจัดกลิ่นและควันที่กวนใจนางให้ได้ ในที่สุดก็ได้ไฟในปริมาณที่ต้องการสักที การทำน้ำหอมจะใช้ไฟแรงไม่ได้เด็ดขาด นางเริ่มใส่น้ำที่นางต้มไว้ลงไปที่หม้อชั้นที่สอง จากนั้นก็นำดอกไม้ใส่ตะแกรงชั้นสุดท้าย ก่อนจะปิดฝาให้สนิท ตอนนี้ก็แค่รอเวลา และคอยตรวจดูไฟเท่านั้น เว่ยเหนียนเหยามองดูถ่านที่มีควันออกมาเวลาที่นางเติมไปในเตา หากนางต้องการทำการค้าแบบนี้จริง สินค้าของนางต้องมีจุดเด่นที่ไม่เหมือนใคร นึกออกแล้ว! หญิงสาวรีบวิ่งเข้าไปหยิบกระดาษพร้อมเครื่องเขียนมาสามสี่แผ่น ก่อนจะกลับเข้ามาในครัว นางเริ่มลงมือร่างแบบสิ่งที่นางคิดไว้ในหัว ขัดเกลาแก้ไขจนงานแผ่นแรกสำเร็จออกมา จึงวางงานเขียนแล้วหันมาจัดการน้ำหอมของนางก่อน เมื่อเปิดฝาขึ้นกลิ่นหอมกระจายออกมาจนทั่วครัวเลยทีเดียว นางเอาโถที่จัดเตรียมไว้ ปูด้วยผ้าขาวบางสองชั้นใช้ผ้ารัดกับปากโถไว้ จากนั้นจึงเทน้ำหอมใส่ลงไปบนผ้าเพื่อกรองเศษเล็กเศษน้อยออก เมื่อน้ำหอมลงโถไปหมดแล้ว นางจึงนำส่วนของดอกไม้วางตามลงไป เพื่อรอให้ดอกไม้คลายน้ำลงโถให้หมด "พี่สะใภ้ข้ากลับมาแล้วขอรับ พวกเราได้ไม้ฟืนมาเยอะแยะเลย แถมข้ายังมีเรื่องแปลกๆ มาเล่าให้ท่านฟังด้วยละ" "เจ้าไปฟังชาวบ้านคนไหนเล่าอะไรมาอีกละ" "ก็คนที่อยู่ใกล้บ้านแม่สามีท่านไงขอรับ พอดีตอนไปเก็บฟืนบังเอิญเจอกัน พี่หานตงเลยถามถึงอาการของท่านลุง เห็นเพื่อนข้างบ้านบอกว่า ตอนเช้าเห็นท่านลุงออกมานั่งเล่นอยู่หน้าบ้านได้แล้ว ลองเดินเข้าไปทักทาย เห็นบอกว่าหยุดถ่ายตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เช้านี้มีแต่อาการอ่อนเพลียนิดหน่อยเท่านั้น ท่านว่าแปลกไหม" หญิงสาวรับฟังนิ่งๆ ไม่แสดงความคิดเห็น มีแต่แววตาที่ปรากฎรอยครุ่นคิด "เดี๋ยววันนี้ยังไงท่านพี่ก็จะไปเยี่ยมท่านพ่ออีกรอบ เห็นบอกว่าจะไปสอบถามอาการกับท่านหมอจางด้วยตัวเองด้วย ส่วนข้าจะทำน้ำแกงไก่ไว้ให้ เจ้าก็ไปเป็นเพื่อนพี่เจ้าก็แล้วกัน แล้วท่านพี่กับอาเสิ้นตอนนี้อยู่ที่ไหนละ" "สองคนนั้นกำลังลองทำถ่านเตาที่สองขอรับ เห็นว่าครั้งนี้จะใส่ฟื้นให้เต็มบ่อเลย แต่ข้าขอตัวมาเพราะอยากจะมาดูสบู่ที่ข้าทำไว้ขอรับ ว่าแต่ท่านยังไม่ได้บอกข้าเลยว่ากำลังทำอะไร" "ข้ากำลังลองสกัดน้ำหอมไว้ผสมกับสบู่ เจ้ามาก็ดีแล้ว ข้ากำลังจะสกัดน้ำมันหอมต่อ เจ้ามาช่วยข้าหน่อย " หญิงสาวบอกวิธีการทำให้เซียงย้ง ทำตามนางทีละขั้นตอน เพียงแต่ครั้งนี้นางเปลี่ยนจากใส่น้ำเป็นใส่น้ำมันในขั้นที่สอง "เจ้าคอยเฝ้าไฟไว้นะ กะประมาณนี้อย่าให้ดับ เดี๋ยวข้าจะออกไปเขียนงานข้างนอกสักครู่ " หญิงสาวออกมานั่งเขียนงานที่นั่งคิดไว้จนเสร็จแผ่นที่สอง จากนั้นก็ลองนั่งคิดสูตรถ่านอัดแท่งที่นางเคยเห็นผ่านตาจากอินเทอร์เน็ตดู นางนั่งเขียนเป็นภาษาในยุคของนาง ซึ่งทำให้นางสบายใจมากกว่าจะเขียนเป็นภาษาในยุคนี้ เพราะหากกระดาษแผ่นนี้ตกหล่นหายไป ก็ไม่มีประโยชน์ต่อใคร "พี่บุญธรรม" "อาซ่าง งานของเจ้าเป็นยังไงบ้าง" "นี่เป็นบันทึก สภาพของมันฝรั่ง ตอนนี้ผ่านมาจะครบอาทิตย์แล้ว แต่มันฝรั่งทุกตะกร้ายังมีสภาพดีขอรับ ไม่ได้มีรากงอก หรือมีจุดดำขึ้นตามที่ท่านเคยบอก" เว่ยเหนียนเหยารับบันทึกที่จดมาดู เห็นว่าเด็กคนนี้ทำงานละเอียดรอบคอบเลยทีเดียว "ส่วนนี้เป็นบันทึกของผ้าพับที่เราซื้อมา ตอนนี้ข้าได้ให้ท่านแม่และคนงานที่มาใหม่ ตัดผ้าตามแบบออกมาทุกพับ เพื่อตรวจนับจำนวนของผ้าที่ตัดได้ ในนี้จะมีจำนวนของผ้าแต่ละพับที่ตัดได้ขอรับ ส่วนผ้าที่ตัดออกมา ข้าได้แยกใส่ตะกร้าไว้สีละตะกร้า พร้อมทั้งนำกระดาษเขียนสีของผ้าติดไว้ที่ตะกร้าเรียบร้อย" "เจ้าทำงานละเอียดดีมาก อาซ่าง" "อีกอย่างท่านป้าลี่ให้ข้ามาแจ้งว่า ชุดปักลายใหม่ ที่ท่านให้ลายไปตั่งแต่เดือนที่แล้ว ทำเสร็จแล้ว จำนวนสี่ร้อยชุด ไม่ทราบว่าท่านจะให้ทำเพิ่มอีกหรือไม่" "ทำต่อไป ข้าคิดว่าแค่สี่ร้อยชุดไม่น่าจะพอ" "ขอบใจเจ้ามากนะอาซ่าง หากไม่มีเจ้าช่วย ข้าคงจะเหนื่อยกว่านี้" "ข้าต่างหากขอรับที่ต้องขอบคุณท่าน หากไม่มีท่าน ข้าก็ไม่รู้ว่าข้าจะเป็นยังไง ข้าขอตัวก่อนนะขอรับ" คล้อยหลังน้องชายบุญธรรมเดินจากไป นางเพิ่งนึกได้ว่าให้เซียนย้งตุ๋นน้ำมันกุหลาบไว้ จึงรีบเดินเข้าไปดู ใครที่รอบทเลิฟซีนเร่าร้อน เค้าขอโทษ เรื่องนี้เค้าอยากจะให้พ่อ แบบใส ใส อะ พ่อ: ไม่จริงอ่ะ คือแกแต่งเลิฟซีนไม่เป็นใช่ไหมห๋าไรท์ ฮึยยยยยยย" พี่สะใภ้ท่านมาแล้ว ข้าจะออกไปตามก็ไม่กล้าวางมือ""อาย้ง นำโถที่ข้าเตรียมไว้ทางโน่นมา นำผ้ามาปูบนปากโถ แล้วเอาผ้าชิ้นเล็กที่ข้าตัดไว้แล้ว รัดผ้าที่วางตรงปากโถให้แน่น ข้าจะกรองน้ำมันหอมอีกรอบ"เซียนย้งทำงานคล่องแคล่ว เดี๋ยวเดียวโถพร้อมผ้ากรองก็อยู่ตรงหน้านาง นางจัดการตามขั้นตอนสุดท้ายอย่างรวดเร็วในที่สุดน้ำมันทั้งหมดก็ถูกเทใส่โถ และดอกกุหลาบก็ถูกวางใส่ผ้ากรองทิ้งไว้"พี่สะใภ้ ต้องวางไว้นานเท่าใดขอรับ""วางไว้จนกว่า น้ำมันในดอกไม้จะออกมาหมด""ดอกไม้กับน้ำมันยังเหลืออยู่ ท่านจะให้ข้าทำต่อเลยไหมขอรับ""น่าจะทำต่อได้อีกหนึ่งถังเจ้าจัดการเลย ข้าจะคอยดู"เซียนย้งจัดการตามวิธีที่จำได้ มีผิดไปบ้างแต่เว่ยเหนียนเหยาก็คอยบอกอยู่ข้างๆ จนตุ๋นน้ำมันหอมเรียบร้อย"เอาละทีนี้มาตัดสบู่กัน เจ้าไปหยิบถาดที่ใส่สบู่มา"เซียนย้งหยิบถาดที่ใส่สบู่มาหนึ่งถาด วันนี้พี่สะใภ้ทำสบู่สามถาด เขาทำเองอีกหนึ่งถาด รวมแล้วเป็นสี่ถาด เดี๋ยวถาดนี้ให้พี่สะใภ้ตัดให้เขาดู ส่วนถาดอื่นๆเขาจะขอลองตัดเองเว่ยเหนียนเหยารับถาดไม้มา จากนั้นก็ใช้มีดเล็กบางเลาะไปข้างๆถาดไม้แล้วคว่ำถาดลงเคาะเบาๆ สบู่ก็หลุดออกมา นางจับก้อนสบู่ก้อนใหญ่ไ
"อาเซียง เจ้าเดินรอข้าด้วยสิ""อาย้งเจ้าก็เดินให้เร็วหน่อยสิ พี่สะใภ้กำลังรอไก่จากข้าอยู่นะ""เดี๋ยวนี้ เจ้าหายใจเข้าหายใจออกเป็นพี่สะใภ้ ข้าชักจะน้อยใจแล้วสิ""หึ แน่นอนว่า พี่สะใภ้ของข้า ต้องสำคัญกว่าเจ้า""เจ้าพูดเช่นนี้ คอยดูเถอะ คืนนี้ข้าจะลงโทษเจ้าเช่นไร""เจ้า! ไม่ต้องพูดแล้ว รีบเดินเร็ว นี่มันหน้าบ้านท่านป้าเจ้านี่ รีบเดินเร็วๆ เข้าเถอะ เจ้าไม่กลัวหรือยังไง"ซินเซียงหันซ้ายแลขวา เนื่องจากบ้านหลังนี้เป็นบ้านของท่านป้าของเซียนย้ง แต่นางเสียชีวิตไปเมื่อปีที่แล้ว ส่วนบุตรชายกับลูกสะใภ้ก็ทำงานที่เมืองหลวง จึงปล่อยบ้านทิ้งร้างไว้เคร้ง......ปึก ปึก ปึกซินเซียงหันไปเกาะแขนเซียนย้ง หน้าขาวซีด"อา...ย้ง เจ้า..ได้ยินเสียง อะไรไหม""คงจะเป็นเสียงหนูละมั้ง ข้าว่าเรารีบไปกันดีกว่าเนอะ"เซียนย้งที่หิ้วไก่อยู่ ใช้มืออีกข้างดึงให้ซินเซียงรีบเดินตาม"อาย้ง ....อาเซียง""อา...ย้ง ได้ยินเสียงคน คนเรียก พวกเราไหม"ตอนนี้ เซียนย้งเองก็เริ่มหน้าซีดไปเหมือนกัน จับมือซินเซียงเตรียมวิ่งออกไป"อาย้ง อาเซียง นี่ข้าเอง พี่ซีเม่ย ภรรยาท่านพี่เหวินฉีไง""พี่สะใภ้ เป็นท่าน แล้วท่านพี่เหวินฉีละขอรับ"เซียนย
เว่ยเหนียนเหยากำลังกล่าวขอตัวจากเหวินฉีและภรรยา แต่อาเสิ้นก็เดินเข้ามาในบ้านซะก่อน"พี่บุญธรรม ท่านพอจะมีเวลาสักครู่หรือไม่ขอรับ ถ่านเตาแรกตากแดดดีแล้ว ข้าอยากพาท่านไปดู""ได้สิ งั้นอาเซียงเจ้าไปโรงงานเถอะ เดี๋ยวพวกข้าจะไปกับอาเสิ้น"อาเสิ้นลากถ่านที่เขาเก็บใส่ตะกร้าแล้ว ออกมาให้ทุกคนดู หญิงสาวหยิบถ่านขึ้นมาตรวจดู เห็นว่าทุกก้อนแห้งสนิทแล้วจริงๆจึงให้อาเสิ้นลองก่อไฟขึ้นมาดู ถ่านนี้เป็นถ่านที่ทำจากเศษไม้ต่างๆที่เก็บมารวมกัน จึงทำให้มีควันไฟค่อนข้างมาก ซ้ำยังมีกลิ่นแรง แถมแรงไฟที่ได้ก็ไม่สม่ำเสมอนางบอกให้อาเสิ้นจดข้อเสียเหล่านี้ไว้ เพราะเตาต่อไปจะลองใช้ไม้ไผ่อย่างเดียว อาเสิ้นตื่นเต้นมากอยากจะรีบไปเก็บไม้ไผ่กลับมาทดลองแต่นางบอกว่า รอให้พวกนางกลับมาจากในเมืองก่อนจะดีกว่า จะได้มีคนขึ้นเขาไปเป็นเพื่อนเมื่อเห็นว่าไม่มีธุระอะไรที่ต้องทำในบ้านแล้ว เว่ยเหนียนเหยาจึงรีบเดินทางเข้าในเมือง วันนี้นางมีงานต้องทำมากมายเลยทีเดียวเมื่อมาถึงตัวเมือง นางให้สามีและเซียนย้ง นำปลาไหลที่ได้ไปขายก่อนหานตงจึงมุ่งหน้าไปที่ภัตตาคารที่เคยนำปลาไหลมาขายในครั้งก่อน เสี่ยวเอ้อจำพวกเขาได้ก็ร้องทักอย่างดีใจ"พวก
ชุนเหมยเมื่อเห็นน้องสาวต่างสายเลือด กระวีกระวาดวิ่งออกไปหาสามีก็ส่ายหัวยิ้มๆ นางเดินออกจากห้องโถง มุ่งตรงกลับเข้าห้องนอนทันที"เวิ้นสุ่ย"เสียงราบเรียบของหญิงสาวคล้ายพูดคุยกับอากาศที่อยู่ภายในห้อง เงาดำสายหนึ่งเคลื่อนออกมาจากมุมห้องอย่างเงียบๆ"นายหญิง""เจ้าไปสืบเรื่องนั้นมาให้ข้า จำไว้ข้าต้องการเรื่องทั้งหมดอย่างละเอียด"ไร้เสียงตอบรับใดๆ มีเพียงเงาดำสายนั้น ที่เลือนหายไปคล้ายไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน ชุนเหมย เดินออกจากห้องไปช้าๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น"ท่านพี่ตอนที่อยู่ที่หอการค้ากลางทำไมท่านไม่ช่วยข้าออกความคิดเห็นบ้างเลยเจ้าค่ะ"หญิงสาวเอ่ยออกมาอย่างแง่งอน ที่สามีไม่ช่วยนางออกความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับร้านค้าที่นางจะซื้อ"ก็พี่ไม่มีความรู้เรื่องนี้ พี่ว่าร้านไหนเจ้าเห็นว่าดีพี่ก็ว่าดี พี่ล้วนเชื่อฟังเจ้าเหยาเอ๋อ"เซียงย้งกลั้นหัวเราะหน้าแดง เมื่อเห็นพี่ชายกลายสภาพเป็นแมวหนุ่มช่างออดอ้อนต่อหน้าพี่สะใภ้ ก่อนจะรีบปรับสีหน้า เมื่อเห็นสายตาพิฆาตที่พี่ชายส่งตรงมาให้"พี่สะใภ้ในเมื่อท่านยังไม่ถูกใจ ก็ค่อยๆ หาไปก็ได้ขอรับ ข้าและ พี่หานตงล้วนเชื่อฟังท่าน""อะ นั่น นั่น น่าจะใช่ร้านเหล็กที่พี่ช
"มา มาลูกสะใภ้เจ้านั่งก่อน"นางลี่สือหลิน รีบบอกให้บุตรชายประคองลูกสะใภ้นั่งลงบนเก้าอี้"น้องสาว น้องเขยตอนนี้คงสบายดีสินะ ท่าทางจะร่ำรวยกันใหญ่"ลี่ห่าวฟงบุตรชายของนางลี่สือหลิน กล่าวออกมาอย่างประชดประชัน เขามองไปมองรอบๆบ้านหลังนี้ด้วยความอิจฉา ครั้งก่อนเขาเคยขอให้มารดา ช่วยพูดกับน้องสาวและน้องเขยว่าให้ตนและภรรยาเข้ามาอยู่ที่นี่ด้วย แต่คนพวกนี้ล้วนแล้งน้ำใจต่อเขากับภรรยา ดีว่ามารดาแอบส่งเงินทองไปให้เขาใช้อยู่เรื่อยๆ ชีวิตเขากับภรรยาจึงไม่ได้ลำบากอะไร"พวกข้าก็แค่มีกินมีใช้นะขอรับ ท่านพี่ภรรยา"เซียนย้งจริงๆ ไม่ค่อยจะชอบพี่ภรรยาคนนี้มากนะ เพราะเขาเป็นคนหยิบโหย่งไม่ค่อยชอบทำงานเท่าไหร่ แถมยังชอบใช้กำลังกับภรรยาของเขาและท่านแม่ยายอยู่บ่อยครั้ง"เอาละ เอาละ มากินข้าวกันเถอะ วันนี้พวกเจ้าต้องกินเยอะๆนะ อ้าวข้าลืม พวกเจ้ากินกันไปก่อน ข้าไปเอาน้ำแกงไก่ที่บ้านอาเหยาก่อน"นางลี่สือหลินออกไปไม่นานก็กลับมาพร้อมน้ำแกงไก่ถ้วยใหญ่"อาเซียงเมื่อกี้ตอนแม่ไปตักน้ำแกงไก่ เห็นกล่องใส่โสมยังวางอยู่ในครัว เห็นอาย้งบอกว่า โสมหัวนั้นราคาหลายร้อยตำลึงทอง ทำไมเอามาวางไว้อย่างนั้นละ"ซินเซียงแอบมองไปยังพี่ชาย
"ภรรยาเจ้าเร็วหน่อยเถอะ เราต้องรีบไปให้ทันรถเที่ยวเช้านะ""ท่านพี่จะรีบไปไหน ป่านนี้คนพวกนั้นยังไม่มีใครรู้หรอกน่า"นางลี่สือหลินยืนกำมือแน่นที่หน้าประตู จู่ๆประตูก็ถูกเปิดออกจากคนที่อยู่ข้างใน ห่าวฟงเห็นมารดา พร้อมน้องเขย น้องสาวยืนอยู่ก็ตกใจ พยายามตั้งสติ"ท่านแม่ ท่าน มาได้ยังไงขอรับ"นางลี่สือหลินมองดูบุตรชายที่ก้าวเท้าถอยหลังเข้าไปในบ้าน ในมือถือห่อผ้าห่อหนึ่ง"เจ้าใหญ่ พวกเจ้ารีบร้อนจะไปไหนกันแต่เช้า"นางลี่สือหลินไม่ตอบ แต่ย้อนถามบุตรชายแทน"พอ ดี แม่ภรรยาไม่ค่อยสบาย ข้าเลยจะพานางไปเยี่ยมดูอาการขอรับ"สะใภ้ตระกูลลี่เมื่อเห็นสามีส่งสายตามาให้ ก็รีบเอ่ยเสริมคำ"ใช่เจ้าค่ะท่านแม่สามี ท่านแม่ข้าไม่สบาย ข้าจึงจะรีบไปเยี่ยม อีกอย่างข้าอยากจะนำข่าวดีไปบอกท่านด้วยตัวเอง""พวกเจ้าก็เลยทำตัวเป็นบุตรเขยบุตรสาวที่ดี เอาต้นโสมไปเยี่ยมซินะ"นางลี่สือหลิน ตวาดออกไปอย่างหมดความอดทน มองมือบุตรชายที่กุมห่อผ้าแน่นเข้าไปอีก"ท่านแม่ ท่านพูดเรื่องอะไร ข้าไม่เข้าใจขอรับ""ข้าก็พูดเรื่องที่เจ้าสองสามีภรรยาเข้าไปขโมยโสมที่บ้านของอาเหยาไงละ"ห่าวฟงหน้าซีด เขารู้ตั้งแต่เห็นหน้ามารดาที่หน้าประตูแล้ว ว่าม
เว่ยเหนียนเหยายืนอยู่บนระเบียง คิดทบทวนถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา นางนับถือนางลี่สือหลินมาก แม้จะรักบุตรชายเพียงใดแต่ก็ไม่ยอมเห็นผิดเป็นถูก กัดฟันส่งบุตรชายเข้ารับโทษที่ก่อตอนแรกนางยังคิดว่า นางลี่สือหลินจะล้มป่วยเพราะตรอมใจอยู่หลายวัน หากเพียงแค่สองวัน นางลี่สือหลินกลับลุกขึ้นไปทำงาน นางกับซินเซียงพยายามห้ามปรามขอให้พักผ่อนอีกสักหน่อยรอยยิ้มเศร้าสร้อยปรากฏขึ้นที่ริมฝีปากคู่นั้น ก่อนจะกล่าวว่า" อาเหยา คนเป็นแม่จะอ่อนแอไม่ได้ ตอนนี้บุตรชายของข้ากำลังหกล้ม ข้าหวังว่า สักวันเขาจะคิดได้ และลุกขึ้นยืนใหม่ เมื่อนั้นมือคู่นี้ของข้ายังต้องช่วยพยุงเขาให้ลุกขึ้น"เมื่อคิดถึงตรงนี้ นางก็น้ำตาคลอ ชาติที่แล้ว นางไม่มีพ่อแม่ ไม่เคยรับรู้ถึงความรักของพ่อแม่มาก่อน หญิงสาวคิดไปถึงต้นโสมเจ้าปัญหาต้นนั้น ที่บัดนี้ถูกนำไปเก็บไว้ในห้องของนางเป็นที่เรียบร้อยต้นโสมเพียงหนึ่งต้น แต่กลับลากดึงเอาความโลภโมโทสันภายในจิตใต้สำนึกของมนุษย์ออกมาตีแผ่ นางหวังเพียงแต่ว่า ลี่ห่าวฟง จะไม่ทำให้มารดาของเขาผิดหวัง"พี่สะใภ้ พี่หานตงให้ข้ามาบอกท่านว่า วันนี้เป็นวันที่นัดกับช่างเฟิ่งไว้ขอรับ""เจ้าช่วยไปเรียกอาเสิ้นมาพบข้าหน
"พี่สะใภ้ขอรับ สำหรับสบู่ของข้า ข้าคิดออกแล้วขอรับว่าจะทำยังไง"เซียนย้งเกิดความคิดขึ้นตอนที่เขาฟังพี่สะใภ้กับทุกคนวางแผนการค้าถ่านกัน"ไหนเจ้าลองว่ามาซิ อาย้ง""ตอนนี้สบู่ของข้ามีรูปร่างเหมือนสบู่ทั่วไปที่ขายอยู่ ข้าอยากให้ท่านช่วยข้าออกแบบแม่พิมพ์ขึ้นมาใหม่ นอกจากนั้นข้าอยากมีตัวอักษรหรือสัญลักษณ์ที่จะให้คนทั่วไปรู้ว่า นี่เป็นสบู่ของพวกเราด้วยขอรับ""สัญลักษณ์?""ขอรับพี่สะใภ้ ข้าอยากตั้งชื่อทางการค้าให้คนรู้ว่า สินค้าพวกนี้มาจากครอบครัวของพวกเรา""ดีๆ ข้าเห็นด้วยกับเจ้า"อาเสิ้นตาโต เขาก็อยากให้ถ่านของเขามีชื่อร้านเหมือนกัน"แล้วเจ้าคิดชื่อไว้แล้วหรือยัง หรือจะให้พวกข้าช่วยคิดให้"หญิงสาวมองดูเด็กหนุ่มทั้งสองที่กระตือรือร้น ดวงตาเป็นประกายอย่างตื่นเต้น ก็ช่วยส่งเสริม"ข้าอยากให้ร้านของข้า ชื่อ เหนียนเหยา ขอรับ"หญิงสาวตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าเซียนย้งจะเสนอชื่อนางขึ้นมา"เจ้าพอจะบอกเหตุผลข้าได้หรือไม่อาย้ง"หานตงถามขึ้น เขาพอจะรู้ใจของน้องคนนี้ดี แต่ก็อยากจะรู้ว่า จะเหมือนที่เขาคิดไว้หรือไม่"เพราะพี่สะใภ้ เป็นเสมือนแสงสว่างที่สาดเข้ามาในชีวิตของครอบครัวข้า ขับไล่ความมืดมิด ช่วยให้ข้าเห
"พี่สะใภ้ขอรับ สำหรับสบู่ของข้า ข้าคิดออกแล้วขอรับว่าจะทำยังไง"เซียนย้งเกิดความคิดขึ้นตอนที่เขาฟังพี่สะใภ้กับทุกคนวางแผนการค้าถ่านกัน"ไหนเจ้าลองว่ามาซิ อาย้ง""ตอนนี้สบู่ของข้ามีรูปร่างเหมือนสบู่ทั่วไปที่ขายอยู่ ข้าอยากให้ท่านช่วยข้าออกแบบแม่พิมพ์ขึ้นมาใหม่ นอกจากนั้นข้าอยากมีตัวอักษรหรือสัญลักษณ์ที่จะให้คนทั่วไปรู้ว่า นี่เป็นสบู่ของพวกเราด้วยขอรับ""สัญลักษณ์?""ขอรับพี่สะใภ้ ข้าอยากตั้งชื่อทางการค้าให้คนรู้ว่า สินค้าพวกนี้มาจากครอบครัวของพวกเรา""ดีๆ ข้าเห็นด้วยกับเจ้า"อาเสิ้นตาโต เขาก็อยากให้ถ่านของเขามีชื่อร้านเหมือนกัน"แล้วเจ้าคิดชื่อไว้แล้วหรือยัง หรือจะให้พวกข้าช่วยคิดให้"หญิงสาวมองดูเด็กหนุ่มทั้งสองที่กระตือรือร้น ดวงตาเป็นประกายอย่างตื่นเต้น ก็ช่วยส่งเสริม"ข้าอยากให้ร้านของข้า ชื่อ เหนียนเหยา ขอรับ"หญิงสาวตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าเซียนย้งจะเสนอชื่อนางขึ้นมา"เจ้าพอจะบอกเหตุผลข้าได้หรือไม่อาย้ง"หานตงถามขึ้น เขาพอจะรู้ใจของน้องคนนี้ดี แต่ก็อยากจะรู้ว่า จะเหมือนที่เขาคิดไว้หรือไม่"เพราะพี่สะใภ้ เป็นเสมือนแสงสว่างที่สาดเข้ามาในชีวิตของครอบครัวข้า ขับไล่ความมืดมิด ช่วยให้ข้าเห
เว่ยเหนียนเหยายืนอยู่บนระเบียง คิดทบทวนถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา นางนับถือนางลี่สือหลินมาก แม้จะรักบุตรชายเพียงใดแต่ก็ไม่ยอมเห็นผิดเป็นถูก กัดฟันส่งบุตรชายเข้ารับโทษที่ก่อตอนแรกนางยังคิดว่า นางลี่สือหลินจะล้มป่วยเพราะตรอมใจอยู่หลายวัน หากเพียงแค่สองวัน นางลี่สือหลินกลับลุกขึ้นไปทำงาน นางกับซินเซียงพยายามห้ามปรามขอให้พักผ่อนอีกสักหน่อยรอยยิ้มเศร้าสร้อยปรากฏขึ้นที่ริมฝีปากคู่นั้น ก่อนจะกล่าวว่า" อาเหยา คนเป็นแม่จะอ่อนแอไม่ได้ ตอนนี้บุตรชายของข้ากำลังหกล้ม ข้าหวังว่า สักวันเขาจะคิดได้ และลุกขึ้นยืนใหม่ เมื่อนั้นมือคู่นี้ของข้ายังต้องช่วยพยุงเขาให้ลุกขึ้น"เมื่อคิดถึงตรงนี้ นางก็น้ำตาคลอ ชาติที่แล้ว นางไม่มีพ่อแม่ ไม่เคยรับรู้ถึงความรักของพ่อแม่มาก่อน หญิงสาวคิดไปถึงต้นโสมเจ้าปัญหาต้นนั้น ที่บัดนี้ถูกนำไปเก็บไว้ในห้องของนางเป็นที่เรียบร้อยต้นโสมเพียงหนึ่งต้น แต่กลับลากดึงเอาความโลภโมโทสันภายในจิตใต้สำนึกของมนุษย์ออกมาตีแผ่ นางหวังเพียงแต่ว่า ลี่ห่าวฟง จะไม่ทำให้มารดาของเขาผิดหวัง"พี่สะใภ้ พี่หานตงให้ข้ามาบอกท่านว่า วันนี้เป็นวันที่นัดกับช่างเฟิ่งไว้ขอรับ""เจ้าช่วยไปเรียกอาเสิ้นมาพบข้าหน
"ภรรยาเจ้าเร็วหน่อยเถอะ เราต้องรีบไปให้ทันรถเที่ยวเช้านะ""ท่านพี่จะรีบไปไหน ป่านนี้คนพวกนั้นยังไม่มีใครรู้หรอกน่า"นางลี่สือหลินยืนกำมือแน่นที่หน้าประตู จู่ๆประตูก็ถูกเปิดออกจากคนที่อยู่ข้างใน ห่าวฟงเห็นมารดา พร้อมน้องเขย น้องสาวยืนอยู่ก็ตกใจ พยายามตั้งสติ"ท่านแม่ ท่าน มาได้ยังไงขอรับ"นางลี่สือหลินมองดูบุตรชายที่ก้าวเท้าถอยหลังเข้าไปในบ้าน ในมือถือห่อผ้าห่อหนึ่ง"เจ้าใหญ่ พวกเจ้ารีบร้อนจะไปไหนกันแต่เช้า"นางลี่สือหลินไม่ตอบ แต่ย้อนถามบุตรชายแทน"พอ ดี แม่ภรรยาไม่ค่อยสบาย ข้าเลยจะพานางไปเยี่ยมดูอาการขอรับ"สะใภ้ตระกูลลี่เมื่อเห็นสามีส่งสายตามาให้ ก็รีบเอ่ยเสริมคำ"ใช่เจ้าค่ะท่านแม่สามี ท่านแม่ข้าไม่สบาย ข้าจึงจะรีบไปเยี่ยม อีกอย่างข้าอยากจะนำข่าวดีไปบอกท่านด้วยตัวเอง""พวกเจ้าก็เลยทำตัวเป็นบุตรเขยบุตรสาวที่ดี เอาต้นโสมไปเยี่ยมซินะ"นางลี่สือหลิน ตวาดออกไปอย่างหมดความอดทน มองมือบุตรชายที่กุมห่อผ้าแน่นเข้าไปอีก"ท่านแม่ ท่านพูดเรื่องอะไร ข้าไม่เข้าใจขอรับ""ข้าก็พูดเรื่องที่เจ้าสองสามีภรรยาเข้าไปขโมยโสมที่บ้านของอาเหยาไงละ"ห่าวฟงหน้าซีด เขารู้ตั้งแต่เห็นหน้ามารดาที่หน้าประตูแล้ว ว่าม
"มา มาลูกสะใภ้เจ้านั่งก่อน"นางลี่สือหลิน รีบบอกให้บุตรชายประคองลูกสะใภ้นั่งลงบนเก้าอี้"น้องสาว น้องเขยตอนนี้คงสบายดีสินะ ท่าทางจะร่ำรวยกันใหญ่"ลี่ห่าวฟงบุตรชายของนางลี่สือหลิน กล่าวออกมาอย่างประชดประชัน เขามองไปมองรอบๆบ้านหลังนี้ด้วยความอิจฉา ครั้งก่อนเขาเคยขอให้มารดา ช่วยพูดกับน้องสาวและน้องเขยว่าให้ตนและภรรยาเข้ามาอยู่ที่นี่ด้วย แต่คนพวกนี้ล้วนแล้งน้ำใจต่อเขากับภรรยา ดีว่ามารดาแอบส่งเงินทองไปให้เขาใช้อยู่เรื่อยๆ ชีวิตเขากับภรรยาจึงไม่ได้ลำบากอะไร"พวกข้าก็แค่มีกินมีใช้นะขอรับ ท่านพี่ภรรยา"เซียนย้งจริงๆ ไม่ค่อยจะชอบพี่ภรรยาคนนี้มากนะ เพราะเขาเป็นคนหยิบโหย่งไม่ค่อยชอบทำงานเท่าไหร่ แถมยังชอบใช้กำลังกับภรรยาของเขาและท่านแม่ยายอยู่บ่อยครั้ง"เอาละ เอาละ มากินข้าวกันเถอะ วันนี้พวกเจ้าต้องกินเยอะๆนะ อ้าวข้าลืม พวกเจ้ากินกันไปก่อน ข้าไปเอาน้ำแกงไก่ที่บ้านอาเหยาก่อน"นางลี่สือหลินออกไปไม่นานก็กลับมาพร้อมน้ำแกงไก่ถ้วยใหญ่"อาเซียงเมื่อกี้ตอนแม่ไปตักน้ำแกงไก่ เห็นกล่องใส่โสมยังวางอยู่ในครัว เห็นอาย้งบอกว่า โสมหัวนั้นราคาหลายร้อยตำลึงทอง ทำไมเอามาวางไว้อย่างนั้นละ"ซินเซียงแอบมองไปยังพี่ชาย
ชุนเหมยเมื่อเห็นน้องสาวต่างสายเลือด กระวีกระวาดวิ่งออกไปหาสามีก็ส่ายหัวยิ้มๆ นางเดินออกจากห้องโถง มุ่งตรงกลับเข้าห้องนอนทันที"เวิ้นสุ่ย"เสียงราบเรียบของหญิงสาวคล้ายพูดคุยกับอากาศที่อยู่ภายในห้อง เงาดำสายหนึ่งเคลื่อนออกมาจากมุมห้องอย่างเงียบๆ"นายหญิง""เจ้าไปสืบเรื่องนั้นมาให้ข้า จำไว้ข้าต้องการเรื่องทั้งหมดอย่างละเอียด"ไร้เสียงตอบรับใดๆ มีเพียงเงาดำสายนั้น ที่เลือนหายไปคล้ายไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน ชุนเหมย เดินออกจากห้องไปช้าๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น"ท่านพี่ตอนที่อยู่ที่หอการค้ากลางทำไมท่านไม่ช่วยข้าออกความคิดเห็นบ้างเลยเจ้าค่ะ"หญิงสาวเอ่ยออกมาอย่างแง่งอน ที่สามีไม่ช่วยนางออกความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับร้านค้าที่นางจะซื้อ"ก็พี่ไม่มีความรู้เรื่องนี้ พี่ว่าร้านไหนเจ้าเห็นว่าดีพี่ก็ว่าดี พี่ล้วนเชื่อฟังเจ้าเหยาเอ๋อ"เซียงย้งกลั้นหัวเราะหน้าแดง เมื่อเห็นพี่ชายกลายสภาพเป็นแมวหนุ่มช่างออดอ้อนต่อหน้าพี่สะใภ้ ก่อนจะรีบปรับสีหน้า เมื่อเห็นสายตาพิฆาตที่พี่ชายส่งตรงมาให้"พี่สะใภ้ในเมื่อท่านยังไม่ถูกใจ ก็ค่อยๆ หาไปก็ได้ขอรับ ข้าและ พี่หานตงล้วนเชื่อฟังท่าน""อะ นั่น นั่น น่าจะใช่ร้านเหล็กที่พี่ช
เว่ยเหนียนเหยากำลังกล่าวขอตัวจากเหวินฉีและภรรยา แต่อาเสิ้นก็เดินเข้ามาในบ้านซะก่อน"พี่บุญธรรม ท่านพอจะมีเวลาสักครู่หรือไม่ขอรับ ถ่านเตาแรกตากแดดดีแล้ว ข้าอยากพาท่านไปดู""ได้สิ งั้นอาเซียงเจ้าไปโรงงานเถอะ เดี๋ยวพวกข้าจะไปกับอาเสิ้น"อาเสิ้นลากถ่านที่เขาเก็บใส่ตะกร้าแล้ว ออกมาให้ทุกคนดู หญิงสาวหยิบถ่านขึ้นมาตรวจดู เห็นว่าทุกก้อนแห้งสนิทแล้วจริงๆจึงให้อาเสิ้นลองก่อไฟขึ้นมาดู ถ่านนี้เป็นถ่านที่ทำจากเศษไม้ต่างๆที่เก็บมารวมกัน จึงทำให้มีควันไฟค่อนข้างมาก ซ้ำยังมีกลิ่นแรง แถมแรงไฟที่ได้ก็ไม่สม่ำเสมอนางบอกให้อาเสิ้นจดข้อเสียเหล่านี้ไว้ เพราะเตาต่อไปจะลองใช้ไม้ไผ่อย่างเดียว อาเสิ้นตื่นเต้นมากอยากจะรีบไปเก็บไม้ไผ่กลับมาทดลองแต่นางบอกว่า รอให้พวกนางกลับมาจากในเมืองก่อนจะดีกว่า จะได้มีคนขึ้นเขาไปเป็นเพื่อนเมื่อเห็นว่าไม่มีธุระอะไรที่ต้องทำในบ้านแล้ว เว่ยเหนียนเหยาจึงรีบเดินทางเข้าในเมือง วันนี้นางมีงานต้องทำมากมายเลยทีเดียวเมื่อมาถึงตัวเมือง นางให้สามีและเซียนย้ง นำปลาไหลที่ได้ไปขายก่อนหานตงจึงมุ่งหน้าไปที่ภัตตาคารที่เคยนำปลาไหลมาขายในครั้งก่อน เสี่ยวเอ้อจำพวกเขาได้ก็ร้องทักอย่างดีใจ"พวก
"อาเซียง เจ้าเดินรอข้าด้วยสิ""อาย้งเจ้าก็เดินให้เร็วหน่อยสิ พี่สะใภ้กำลังรอไก่จากข้าอยู่นะ""เดี๋ยวนี้ เจ้าหายใจเข้าหายใจออกเป็นพี่สะใภ้ ข้าชักจะน้อยใจแล้วสิ""หึ แน่นอนว่า พี่สะใภ้ของข้า ต้องสำคัญกว่าเจ้า""เจ้าพูดเช่นนี้ คอยดูเถอะ คืนนี้ข้าจะลงโทษเจ้าเช่นไร""เจ้า! ไม่ต้องพูดแล้ว รีบเดินเร็ว นี่มันหน้าบ้านท่านป้าเจ้านี่ รีบเดินเร็วๆ เข้าเถอะ เจ้าไม่กลัวหรือยังไง"ซินเซียงหันซ้ายแลขวา เนื่องจากบ้านหลังนี้เป็นบ้านของท่านป้าของเซียนย้ง แต่นางเสียชีวิตไปเมื่อปีที่แล้ว ส่วนบุตรชายกับลูกสะใภ้ก็ทำงานที่เมืองหลวง จึงปล่อยบ้านทิ้งร้างไว้เคร้ง......ปึก ปึก ปึกซินเซียงหันไปเกาะแขนเซียนย้ง หน้าขาวซีด"อา...ย้ง เจ้า..ได้ยินเสียง อะไรไหม""คงจะเป็นเสียงหนูละมั้ง ข้าว่าเรารีบไปกันดีกว่าเนอะ"เซียนย้งที่หิ้วไก่อยู่ ใช้มืออีกข้างดึงให้ซินเซียงรีบเดินตาม"อาย้ง ....อาเซียง""อา...ย้ง ได้ยินเสียงคน คนเรียก พวกเราไหม"ตอนนี้ เซียนย้งเองก็เริ่มหน้าซีดไปเหมือนกัน จับมือซินเซียงเตรียมวิ่งออกไป"อาย้ง อาเซียง นี่ข้าเอง พี่ซีเม่ย ภรรยาท่านพี่เหวินฉีไง""พี่สะใภ้ เป็นท่าน แล้วท่านพี่เหวินฉีละขอรับ"เซียนย
" พี่สะใภ้ท่านมาแล้ว ข้าจะออกไปตามก็ไม่กล้าวางมือ""อาย้ง นำโถที่ข้าเตรียมไว้ทางโน่นมา นำผ้ามาปูบนปากโถ แล้วเอาผ้าชิ้นเล็กที่ข้าตัดไว้แล้ว รัดผ้าที่วางตรงปากโถให้แน่น ข้าจะกรองน้ำมันหอมอีกรอบ"เซียนย้งทำงานคล่องแคล่ว เดี๋ยวเดียวโถพร้อมผ้ากรองก็อยู่ตรงหน้านาง นางจัดการตามขั้นตอนสุดท้ายอย่างรวดเร็วในที่สุดน้ำมันทั้งหมดก็ถูกเทใส่โถ และดอกกุหลาบก็ถูกวางใส่ผ้ากรองทิ้งไว้"พี่สะใภ้ ต้องวางไว้นานเท่าใดขอรับ""วางไว้จนกว่า น้ำมันในดอกไม้จะออกมาหมด""ดอกไม้กับน้ำมันยังเหลืออยู่ ท่านจะให้ข้าทำต่อเลยไหมขอรับ""น่าจะทำต่อได้อีกหนึ่งถังเจ้าจัดการเลย ข้าจะคอยดู"เซียนย้งจัดการตามวิธีที่จำได้ มีผิดไปบ้างแต่เว่ยเหนียนเหยาก็คอยบอกอยู่ข้างๆ จนตุ๋นน้ำมันหอมเรียบร้อย"เอาละทีนี้มาตัดสบู่กัน เจ้าไปหยิบถาดที่ใส่สบู่มา"เซียนย้งหยิบถาดที่ใส่สบู่มาหนึ่งถาด วันนี้พี่สะใภ้ทำสบู่สามถาด เขาทำเองอีกหนึ่งถาด รวมแล้วเป็นสี่ถาด เดี๋ยวถาดนี้ให้พี่สะใภ้ตัดให้เขาดู ส่วนถาดอื่นๆเขาจะขอลองตัดเองเว่ยเหนียนเหยารับถาดไม้มา จากนั้นก็ใช้มีดเล็กบางเลาะไปข้างๆถาดไม้แล้วคว่ำถาดลงเคาะเบาๆ สบู่ก็หลุดออกมา นางจับก้อนสบู่ก้อนใหญ่ไ
หญิงสาวเล่าเรื่องที่เว่ยหานหมิงเข้าหานาง ทุกคำพูด ทุกการกระทำ นางล้วนเล่าออกมาทั้งหมด นางไม่ใช่นางเอก ที่จะยอมปิดบังเรื่องต่างๆ เพื่อความสบายใจของพระเอก จนบางครั้งก็เกิดเรื่องราวใหญ่โตสำหรับนางการพูดคุยกันทุกเรื่องจะช่วยให้ชีวิตคู่ของพวกนางมั่นคงขึ้นอีกก้าว"เจ้าบอกว่าน้องเล็กเรียกเจ้าว่า อาเหยา หรือ""เจ้าค่ะ""แถมยังทำท่าอาลัยอาวรณ์เจ้าอีก""เจ้าค่ะ""ถ้าอย่างนั้นต่อไป เจ้าก็ไม่ต้องตามพี่ไปที่บ้านนั้นอีก และต่อไปพี่จะไม่เรียกเจ้าว่า อาเหยา แล้ว"อ้าว นี่นางทำให้สามีทำไหน้ำส้มหกนองหรือไร หญิงสาวเอนกายซบอกแกร่งสามีอย่างออดอ้อน"ถ้าเช่นนั้น ท่านจะเรียกข้าว่าอะไรดีเจ้าคะ""เหยาเอ๋อ พี่จะเรียกเจ้าว่า เหยาเอ๋อ ต่อไปเจ้าจะเป็นเหยาเอ๋อของพี่เพียงคนเดียว เจ้ายังจำสัญญาได้หรือไม่ ครั้งนี้เจ้าต้องมีลูกสาวอวบอ้วนให้พี่สักหลายๆ คนนะ เหยาเอ๋อ"ชายหนุ่มจับคางภรรยาขึ้นรับจุมพิตอ่อนโยนที่เขามอบให้ เขารู้ว่า นางไม่ใช่อาเหยาในอดีตที่มีใจรักต่อเว่ยหานหมิงผู้เป็นน้องชายครั้งนี้เขาตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่า จะทำตามคำสั่งบิดา ไม่จำเป็นจะไม่ไปที่บ้านหลังนั้นอีกกลิ่นกายหอมกรุ่นในอ้อมแขน ดึงสติเขาออกจากความคิ