“ดิเอโกคะ แล้วโจว์” เฮเลนถามขึ้นหลังจากที่เควินก้าวออกไปแล้ว เจ้าพ่อใหญ่ตวัดสายตามองโจว์ที่ยืนก้มหน้านิ่งเพียงนิดก็เอ่ยปากสั่งการบอดี้การ์ดสาว
“ให้คนไปส่งที่สนามบิน” น้ำเสียงนั้นราบเรียบไม่บ่งบอกว่ารู้สึกอย่างไร แต่กลับสร้างความหนักใจให้กับบอดี้การ์ดสาวที่ตามติดรับใช้ใกล้ชิดเจ้าพ่อใหญ่ อะไรบางอย่างในตัวของโจว์ทำให้เธอรู้สึกว่าเขาไม่น่าไว้วางใจ
“แต่ว่า...ดิเอโก” เฮเลนพยายามท้วงติงให้เขาไตร่สวนโจว์ให้มากกว่านี้ แต่ทว่าดิเอโกกลับตวาดด้วยเสียงดุกร้าวจนเธอไม่อาจทัดทานได้
“ทำตามที่ฉันสั่ง เฮเลน”
“ค่ะดิเอโก” เฮเลนจำใจน้อมรับคำสั่งแต่โดยดี เมื่อเจ้านายตวาดกร้าวพร้อมกำกับด้วยสายตาดุเข้ม บอดี้การ์ดสาวถอยฉากพลางผายมือเชื้อเชิญชายหนุ่มนามว่าโจว์เพื่อพาเขาไปส่งยังจุดหมายตามคำสั่งการ
“ขอบคุณครับดิเอโก ผมรู้สึกละอายใจ” โจว์ก้มศีรษะเพียงนิดยามเอ่ยคำ ดิเอโกมองคนที่เอ่ยสำนึกผิดก่อนเอ่ยตัดบท เพราะยามนี้เขามีสิ่งที่ต้องทำมากกว่ามาคาดคั้นเอาความผิดใคร
“ช่างเถอะ! สิ่งผิดพลาดฉันจะแก้ไขด้วยตัวฉันเอง นายไปได้แล้วโจว์”
“ครับดิเอโก” โจว์รับคำก่อนโค้งคำนับแล้วถอยหลังก่อนเดินตามเฮเลนออกไป ชายหนุ่มคล้ายจะกระตุกยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยแต่ทว่ามันช่างรวดเร็วเสียจนไม่มีใครสังเกตเห็นนอกจากเฮเลน
****************************************************
“เดฟให้พวกเรามาดูแลคุณค่ะเลดี้” เสียงออกห้วนผิดกับท่าทางนอบน้อมของหญิงสาวนางหนึ่งเอ่ยขึ้นทันทีที่ปรากฏกายในห้องที่เธอถูกเชิญมาพักพิง
ไม่ใช่สิ! เรียกว่าถูกพามาขังไว้น่าจะถูก! เพราะเพียงชายในชุดดำออกจากห้องไปประตูห้องก็ถูกล็อคจากด้านนอกทันที ไม่เปิดโอกาสให้เธอได้หลบหนีไปไหน
“มะ...ไม่เป็นไร ฉันดูแลตัวเองได้” สุพิชญารีบปฏิเสธ ไม่ใช่เพราะเกรงใจแต่เป็นเพราะเธอไม่ไว้ใจใครต่างหาก จะให้เธอวางใจได้อย่างไรในเมื่อยามนี้เธอราวเดินอยู่บนเส้นด้ายที่ก้าวพลาดแม้ก้าวเดียวชีวิตเธอก็จะพลิกผันไปในอีกรูปแบบหนึ่งแทบทันที
“เชิญคุณอาบน้ำดีกว่าค่ะเลดี้ พวกเราจะผสมน้ำอุ่นให้ คุณจะได้รู้สึกผ่อนคลายหายเหนื่อย” เสียงเดิมยังคงเอื้อนเอ่ยต่อไปอย่างไม่ใส่ใจกับวาจาของสุพิชญา หญิงสาวที่ติดตามเข้ามาอีกสามคนต่างสาละวนกับการจัดเตรียมอะไรกันดูวุ่นวายไปหมด
“ฉันยังไม่อยากอาบ” สุพิชญาแย้งขึ้นด้วยความรู้สึกหวาดหวั่นลึกๆ เธอยังไม่อยากเดินซ้ำรอยเดิมที่ตื่นขึ้นมาก็เผชิญหน้ากับดิเอโกแล้วถูกพรากพรหมจรรย์ไปโดยที่ไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจสักนิด
“แต่เดฟคงไม่ชอบใจหากคุณดื้อดึง เดฟไม่ชอบผู้หญิงเรื่องมากค่ะเลดี้ หากคุณอยากให้เดฟเมตตา คุณต้องทำทุกอย่างให้เดฟพอใจ” สาวคนเดิมหันกลับมาเอ่ยคำราวต้องการหว่านล้อมให้เธอยินยอมทำตาม แต่เสียงนั้นห้วนสั้นจนดูเหมือนข่มขวัญเสียมากกว่า ยิ่งดวงตาที่มองมาราวนางเสือสาวเตรียมพร้อมเข้าตะปบเหยื่อได้ทุกเมื่อด้วยแล้ว สุพิชญายิ่งรู้สึกเย็นยะเยือกขึ้นมาทันที
“แต่ว่าฉัน... ” สุพิชญาพยายามอีกครั้งที่จะหาทางยืดเวลาออกไปให้นานที่สุดแต่ทว่าน้ำเสียงห้วนบ่งบอกความไม่พึงพอใจของสาวคนเดิมตอกกลับมาทันทีที่เธอเพียงแค่ขยับปากเอื้อนเอ่ยวาจา
“อีกครึ่งชั่วโมง เดฟจะมาที่นี่ และเขาคงหัวเสียน่าดูหากพบว่าคุณกำลังท้าทายเขา” สาวนางนั้นจับจ้องสุพิชญาไม่วางตาราวต้องการหยั่งเชิงดูทีว่าเธอจะมีปฏิกิริยาตอบโต้อย่างใด แต่เมื่อสุพิชญามีทีท่าอึกอักคล้ายไม่ยินยอมทำตามโดยง่าย สาวใช้ของเดฟก็ข่มขวัญด้วยน้ำเสียงห้วนสั้นต่อทันที
“มาเถอะค่ะ อย่าขัดใจเดฟ เพราะเดฟไม่เคยปราณีใคร โดยเฉพาะคนของดิเอโก!”
สุพิชญาเบิกตากว้างขยับอ้าปากอยากจะทักท้วงว่าเธอไม่ใช่คนของใครทั้งนั้น ที่เธอมาอยู่ที่นี่เวลานี้มันไม่ได้เกิดจากความเต็มใจของเธอสักนิด แต่ทว่าสายตาที่ออกแววเหี้ยมโหดผิดกับท่าทางนอบน้อมของหญิงสาวที่เดฟส่งมาดูแลเธอมันดูน่ากลัวเสียจนเธอต้องสงบปากสงบคำแล้วจำยอมให้คนของเดฟพาเธอไปขัดสีฉวีวรรณเพื่อรอคอยเวลาปรนเปรอบำเรอสวาทให้แก่ เดฟ อัลเดอร์ลัส ผู้ทุ่มเงินประมูลเธอมาด้วยราคาสูงลิ่ว
เธอจะรอดพ้นจากคนพวกนี้ไปได้ยังไงกันพิชชา! แค่หลักล้านเธอยังไม่มีปัญญาหามาเพื่อต่อรองขอซื้ออิสระภาพคืนเลย แล้วนี่ตั้งร้อยล้านต่อให้ทำงานทั้งชีวิตก็ไม่มีทางหาได้... สุพิชญาได้แต่ปล่อยให้น้ำตาหลั่งไหลภายในอกที่ร้าวระทม ความชอกช้ำจากการอกหักเพราะคนรักไม่ซื่อสัตย์ต่อเธอนั่นดูจะเป็นเพียงแค่ถูกปลายเข็มสะกิดไปเสียแล้วเมื่อเปรียบกับความขมขื่นที่เธอกำลังเผชิญอยู่ยามนี้
เพียงไม่กี่นาทีเรือนร่างอันงดงามของเธอก็อยู่ภายใต้ชุดนอนสีหวานแสนบางเบาจนมองเห็นส่วนเว้าส่วนโค้งนูนไปทุกสัดส่วน เส้นผมดำขลับที่ดูเงางามถูกปล่อยยาวสยายคลุมไหล่บอบบาง แต่สุพิชญาก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้างเมื่อหญิงหนึ่งหยิบเสื้อคลุมตัวหนามาสวมทับให้เธออีกชั้น
ทั่วทั้งห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมราวอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้นานาพันธุ์ ไม่เว้นแม้แต่ตามแอ่งชีพจรแทบทุกจุดที่ถูกน้ำหอมราคาแพงแตะแต้มจนทั่ว สุพิชญามองตัวเองในกระจกด้วยความหมองเศร้า เธอจะต้องพลีกายให้ชายแปลกหน้าถึงสองคนเพียงแค่ชั่วข้ามคืนเท่านั้น ดิเอโก! คนสารเลว!
“ทุกอย่างเรียบร้อยดีใช่ไหม” เสียงทุ้มกังวานดังขึ้นจากโถงด้านนอกของห้องพัก
สุพิชญาจำได้ดีว่าเสียงนั้นคือเสียงของ เดฟ อัลเดอร์ลัส ชายผู้ลั่นวาจาประมูลเธอมาด้วยราคาถึงร้อยล้าน พยาบาลสาวรู้สึกถึงแรงเต้นของหัวใจที่เปลี่ยนจังหวะการเต้นเป็นรัวเร็วและแรงจนอกสั่นสะเทือนไปทั้งทรวง หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึกยาวราวต้องการรวบรวมกำลังใจเพื่อเผชิญหน้ากับผู้ที่หมายครอบครองร่างกายเธอในค่ำคืนนี้
“เรียบร้อยดีค่ะเดฟ” เสียงสาวใช้ดูอ่อนหวานนอบน้อมผิดกับที่เอ่ยกับเธอราวฟ้ากับหุบเหว แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่สุพิชญาใส่ใจเพราะถ้อยคำตอบกลับของเดฟต่างหากที่กระชากใจเธออย่างแรง
“ดี! งั้นพวกเธอออกไปได้แล้ว ฉันต้องการอยู่ตามลำพังกับผู้หญิงของฉัน”
“ค่ะเดฟ” เสียงรับคำอย่างพร้อมเพรียงกันดังขึ้นก่อนที่จะได้ยินเสียงฝีเท้าก้าวห่างออกไปและตามด้วยเสียงเปิดปิดประตูก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบสงัด ทุกวินาทีช่างบีบรัดหัวใจของสุพิชญายิ่งนัก
หญิงสาวยอมรับว่า เดฟ อัลเดอร์ลัส เป็นชายหนุ่มที่มีรูปลักษณ์สะดุดตาสะดุดใจหญิงสาวทุกคนที่ได้เห็น แต่ทว่าไม่ใช่สำหรับเธอในยามนี้ เพราะเธอรู้ดีว่าภายใต้รูปลักษณ์ที่ดูดีแฝงไว้ด้วยอิทธิพลมืดที่น่ากลัว เสียงอุทานขานนามเขาอย่างตื่นตะลึงของคนในห้องประมูลนั้นการันตีได้ดีว่าทุกคนต่างเกรงกลัวเขาด้วยกันทั้งสิ้น
สุพิชญาสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงม่านโมบายดังขึ้นบ่งบอกว่าเจ้าพ่อผู้น่าเกรงขามได้ก้าวผ่านเข้ามายังตัวห้องด้านในแล้ว หญิงสาวเฝ้าภาวนาขอให้เขาเห็นใจและฟังคำร้องขอจากเธอ“อยู่นี่เองรึสาวน้อย คุณทำให้ผมเสียเวลาตามหารู้ไหม” เสียงทุ้มดูน่าฟังดังขึ้นด้านหลังขณะที่สุพิชญายืนนิ่งตัวเกร็งด้วยความหวาดหวั่น หากเป็นยามปกติเธอคงหลงใหลไปกับน้ำเสียงชวนอบอุ่นนั้น แต่ทว่าไม่ใช่ยามนี้ที่น้ำเสียงนั้นช่างดุจดั่งเสียงของราชสีห์ที่จ้องตระครุบเหยื่อในความรู้สึกของสุพิชญา“ไหนขอมองคุณใกล้ๆหน่อยสิ อยากรู้ว่าจะสวยเหมือนตอนที่อยู่บนเวทีไหม” เดฟช่างทอดเสียงทุ้มได้นุ่มนวลน่าฟังนักยามเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ใกล้ๆ จนแผงอกกว้างใต้เสื้อคลุมตัวโคร่งแทบแนบชิดแผ่นหลังบอบบางของสุพิชญา“ว้าว! สวยมาก!” เสียงนั้นบ่งบอกความตื่นตาตื่นใจยิ่งนักยามเมื่อ ฝ่ามือร้อนผ่าวเกาะกุมไหล่บอบบางแล้วเหนี่ยวรั้งหมุนร่างของสุพิชญาให้หันมาเผชิญหน้า“สวยจนไม่อยากเชื่อว่าดิเอโกจะขายคุณได้ลงคอ” น้ำเสียงติดจะเยาะหยันอยู่ในทีเมื่อปลายนิ้วแกร่งเชยคางมนของสุพิชญาให้แหงนเงยใบหน้าหวานล้ำขึ้นเพื่อเขาจะได้ชื่นชมความงามบนใบหน้านั้นอย่างเต็มตาสุพิชญาลอบกลื
“สวัสดีครับคุณดิเอโก... รู้สึกเป็นเกียรติจริงๆ ที่ได้ต้อนรับคุณที่นี่ฮ่าๆๆ” เดฟหัวเราะเสียงดังลั่นเมื่อยามปรากฏกายตรงเชิงบันไดของตัวตึก เสียงนั้นฉุดให้ดิเอโกและเควินที่ยืนจังก้าอยู่กลางโถงมีลูกน้องของเดฟห้อมล้อมเป็นด่านกักกั้นโดยรอบต่างพากันหันไปมองทันทีเดฟส่งสัญญาณให้ลูกน้องกระจายตัวออกแล้วก้าวลงมายืนเผชิญหน้ากับดิเอโกอย่างไม่หวั่นเกรง“ฉันมารับตัวผู้หญิงของฉันคืน” ดิเอโกเอ่ยทันที เจ้าพ่อใหญ่เช่นเขาไม่เคยเกรงกลัวคนอย่างเดฟแม้แต่นิด และไม่เคยคิดจะล้ำเส้นให้เขม่นกันมากกว่าที่เป็นอยู่ แม้ตลอดเวลาเดฟจะคอยตั้งท่าหาเรื่องอยู่เนืองนิตย์“โอ๊ว... ว้าว! ผู้หญิงของคุณ ใครไม่ทราบครับคุณดิเอโก ที่นี่มีแต่ผู้หญิงของผมเท่านั้น! ฮ่าๆๆ” เดฟยังคงหัวเราะร่าราวกับว่ากำลังพูดคุยเรื่องขบขัน แต่น้ำเสียงและสีหน้าท่าทางแสดงอาการเย้ยหยันดิเอโกสุดใจ“นี่เงินของนายเอาคืนไปแล้วส่งตัวผู้หญิงของฉันคืนมา” ดิเอโกโยนกระเป๋าในมือออกไปตรงหน้าเดฟ ลูกน้องที่รุมล้อมระวังภัยขยับหมายเข้าชาร์ตตัวฝ่ายตรงข้ามแต่เดฟยกมือสั่งห้ามไว้“ฮะ ฮะ ฮ่า มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ ฉันอุตส่าห์ลงแข่งประมูลกว่าจะได้มา แต่นายกลับจะมาโยนเงินนี่ใส่
“กรี๊ดดด... ดิเอโก! อย่าเข้ามา ได้โปรด... ออกไป” เสียงกรีดร้องอย่างโหยหวนพร้อมเสียงตะโกนก้องร้องห้ามเขาดังไปทั่วบริเวณ ดิเอโกแทบถลาเข้าหาเจ้าของเสียงนั้น แต่ทว่ากลับมีกรงเหล็กขวางกั้นทำให้เขาไม่อาจเข้าไปหาคนที่กำลังร้องไห้คร่ำครวญได้“ดาราเดล! รอหน่อยนะฉันจะช่วยเธอเอง” ดิเอโกตะโกนก้องบอกคนที่กำลังร้องไห้อย่างเสียขวัญ รอบกายถูกพันธนาการด้วยสายไฟระโยงระยางไปหมด นั่นไม่ร้ายเท่ามีระเบิดเวลาผูกติดแน่นอยู่กับตัวเธอจนเขาร้อนรนแทบทนไม่ได้ดิเอโกทำทุกวิถีทางที่จะเข้าช่วยหญิงสาว ทั้งทุบทั้งงัดกรงเหล็กที่ขวางกั้นจนมือแตกเลือดไหลอาบมือเต็มไปหมด แต่ทว่า...บึ้ม! ตูม!!“ดาราเดล! ม่ายยยยย!! ” ดิเอโกตะโกนก้องร้องเรียกหญิงสาวที่รักด้วยหัวใจที่แตกสลายเมื่อได้เห็นเปลวไฟลุกทั่วร่างท่ามกลางเสียงระเบิดที่ดังสนั่นหวั่นไหว น้ำตาของลูกผู้ชายไหลรินยามโขกศีรษะกับกรงเหล็กอย่างบ้าคลั่ง ท้ายสุดก่อนที่ทุกอย่างจะหยุดสิ้น เขาก็รู้สึกราวศีรษะถูกกระแทกอย่างแรง“ดาราเดล!” ดิเอโกตะโกนก้องก่อนสะดุ้งสุดตัวเมื่อรู้สึกคล้ายหล่นวูบลงไปในหุบเหวลึกเจ้าพ่อใหญ่ลืมตาโพลงทันทีอย่างตกใจ เรือนกายแกร่งผุดลุกขึ้นนั่งทันควันเมื่อพบว่าเ
“เยี่ยมมากครับคุณดิเอโก คุณนี่ช่างสุดยอดจริงๆ ยอมทิ้งสมบัติ ทิ้งบริวาร เพื่อแลกกับผู้หญิงคนเดียว นับถือๆ โว้ว... ฮ่าๆๆ” เดฟ อัลเดอร์ลัสหัวเราะร่าอย่างสะใจเมื่อดิเอโกติดต่อมาว่ายินดีทำตามข้อเสนอที่เขาต้องการ และตอนนี้คู่อริก็มายืนอยู่ตรงหน้าพร้อมทนายความส่วนตัว“ว่าไงเควิน เปลี่ยนใจมาอยู่กับฉันก็ยังทันนะ มีเจ้านายไม่ได้เรื่องแบบนี้แกยังจะภักดีอีกเหรอวะ ฮ่าๆๆ” หันมาถามบอดี้การ์ดคนเก่งของดิเอโกอย่างหยามหยัน ดิเอโกแทบสะกดกลั้นความขุ่นเคืองใจไว้ไม่ไหวรีบรวบรัดตัดความก่อนที่จะหมดความอดทน“หุบปาก! แล้วเลิกเห่าได้แล้วเดฟ รีบๆ จัดการ ฉันไม่อยากเสียเวลา”“ฮ่าๆๆ เควิน แกลองฟังนะ เจ้านายแกเขาอยากรีบพาน้องหนูไปขึ้นสวรรค์ ไม่สนใจสักนิดว่าพวกแกกับลูกน้องจะเป็นยังไง โว้ว! สะใจจริงโว้ย!” เดฟยังคงหัวเราะร่าอย่างบ้าคลั่งก่อนหันไปสั่งลูกน้องคนสนิทให้พาสุพิชญาออกมาแลกเปลี่ยน“ซาอิคเอาตัวผู้หญิงคนนั้นมา”“ครับเดฟ” รับคำหนักแน่นนอบน้อมก่อนเดินหายเข้าไปในห้องหนึ่ง แล้วออกมาพร้อมหญิงสาวที่ยามนี้อยู่ในชุดราตรีสีแดงสดชุดเดิมที่สวมใส่มาเมื่อสามวันก่อน“พิชชา!” ดิเอโกพึมพำขานนามนั้นเมื่อเห็นหญิงสาวยังอยู่ในสภาพพร
เมื่อออกจากรังของเดฟมาได้ระยะหนึ่งซึ่งเจ้าพ่อหนุ่มคะเนดูแล้วว่าปลอดภัยไม่มีคนของคู่อริติดตามมาแน่นอน จึงสั่งให้คนขับรถชะลอรถแล้วส่งสัญญาณให้เควินที่ขับรถตามมาติดๆ จอดเทียบข้างทางก่อนลงจากรถไปเพื่อสั่งความกับบอดี้การ์ดหนุ่มสุพิชญาที่นั่งเงียบมาตลอดทางรีบตามลงไปเพื่อหาทางเจรจาด้วยเธอไม่อยากกลับไปอยู่ในการควบคุมของดิเอโกอีก แม้ลึกๆ ในใจจะดีใจที่เขาติดตามมาพาเธอออกไปให้รอดพ้นเงื้อมมือคนโฉดอย่างเดฟ อัลเดอร์ลัส แต่นั่นแหละทุกอย่างมันเป็นความผิดเขาสุพิชญาคิดเช่นนั้น!“เควินนายพามิสเตอร์ฟานไปที่เกาะบาหลัน ฉันจะไปที่เดอะไนท์” ดิเอโกสั่งความ แต่บอดี้การ์ดหนุ่มกลับนิ่วหน้าด้วยความสงสัยและเอ่ยถามออกไปอย่างรวดเร็ว“แต่ดิเอโกครับ เกาะบาหลันกับเดอะไนท์”“ทำตามที่ฉันสั่ง คุ้มกันมิสเตอร์ฟาน อย่าให้ใครเข้าเกาะบาหลันได้” เจ้าพ่อใหญ่เอ่ยสั่งด้วยเสียงเฉียบขาดไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้ไถ่ถามให้ยืดยาวด้วยเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะนั่งอธิบายเรื่องราวใดๆ“ไปเถอะเควินแล้วนายจะเข้าใจเอง” บอกเสียงอ่อนลงเมื่อเห็นสีหน้าไม่สบายใจและไม่เข้าใจของบอดี้การ์ดคนสนิท เควินที่ไม่อาจขัดคำสั่งเจ้านายใหญ่ได้จำก้มหน้ารับคำบัญชาอย่างเ
“อื้อ! อื้อ!” สุพิชญาส่งเสียงอู้อี้อย่างขัดใจดวงตาคู่สวยเต็มไปด้วยแววชิงชังเคียดแค้นในตัวเจ้าพ่อหนุ่ม เขาจับเธอทุ่มเข้ามาในรถแล้วมัดมือมัดเท้าปิดปากราวกับเธอไม่ใช่คน อย่าให้เธอมีโอกาสหนีรอดไปได้ สาบานเลยว่าเธอจะเอาเรื่องเขาให้ถึงที่สุด!!“เลิกใช้สายตามองผมแบบนั้นดีกว่ายาหยี คุณน่าจะรู้ตัวดีว่าจริงๆ แล้วคุณไม่ได้เกลียดชังผม กลับกันคุณอาจคลั่งผมเสียจนถอนตัวไม่ขึ้นโดยที่คุณยังไม่รู้ตัวก็ได้” ดิเอโกชะโงกหน้าเข้าไปใกล้พร้อมใช้ปลายนิ้วแกร่งบีบบังคับเชยคางสวยให้เธอสบตาเขา เจ้าพ่อใหญ่พึงพอใจที่เห็นท่าทีฮึดฮัดขัดใจด้วยไม่อาจทำอะไรเขาได้คำพูดยั่วเย้านั่นช่างยั่วอารมณ์เธอให้คุกรุ่นจนแทบอยากซัดฝ่ามือเข้าใบหน้าแสนยียวนเสียครั้งสองครั้งให้สาแก่ใจ เกิดมาเธอไม่เคยพบเจอใครหยาบคายได้เท่าผู้ชายตรงหน้านี้มาก่อนเลยสักนิด ‘ให้ตายเถอะ! พิชชานี่เธอสร้างเวรกรรมกับอีตาหื่นนี่มาแต่ชาติปางไหนกัน เธอถึงต้องมาพบเจอกับเรื่องบ้าๆ นี่’“อื้อ! อื้อ!” สุพิชญาพยายามส่งเสียงต่อต้าน เมื่อดิเอโกเพียงแค่แก้ผืนผ้าที่ผูกข้อเท้าเธอออกเท่านั้น แต่ไม่คิดปล่อยให้มือและปากของเธอเป็นอิสระ ซ้ำเขายังฉุดกระชากเธอให้เดินตามอย่างไม่ปรา
ความคิดสะดุดลงฉับพลันเมื่อดิเอโกส่งฝ่ามือร้อนเข้ากอบกุมทรวงอกนุ่มหยุ่นอย่างถือสิทธิ์ กายสาวเริ่มบิดเร่าราวถูกของร้อนเพราะหลังก้อนเนื้อนุ่มถูกครอบครองไว้ในอุ้งมือ เจ้าพ่อใหญ่ก็โน้มตัวต่ำลงพร้อมส่งปลายลิ้นร้อนตวัดไล้ปลายยอดสีหวานที่ชูชันอวดโฉมเชิญชวนให้ลองลิ้มชิมรสว่าหอมหวานเฉกเช่นเดียวกับรูปโฉมที่เย้ายวนตาหรือไม่หัวใจดวงน้อยแทบหลุดลอยตามเพราะเขาเพียงแค่ตวัดไล้แผ่วเบาแต่ไม่ยอมคลุกเคล้าหนักหน่วงอย่างที่ส่วนลึกในใจเรียกร้อง เสียงหวานกรีดร้องก้องในลำคอราวทุกข์ทรมานเหลือแสนเมื่อเจ้าพ่อใหญ่ไม่ใส่ใจที่จะครอบครองก้อนเนื้อนุ่มมากไปกว่านั้นกลับกันกลับส่งปลายจมูกโด่งและ ริมฝีปากบางเฉียบเลาะเลียบลงไปตามหน้าท้องแบนราบพรมจูบแผ่วเบาราวกลัวว่าเรือนร่างบอบบางจะบุบสลาย เพียงเท่านั้นกายสาวก็ดิ้นพล่านอย่างทุรนทุรายมือน้อยร้าวระบมไปหมดเพราะเจ้าของออกแรงบิดหวังให้หลุดพ้นจากพันธนาการนั้น ดิเอโกกระตุกยิ้มย่องอย่างลำพองใจยามนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาผืนผ้าที่พันธนาการข้อมือบางอีกต่อไปเขาจะใช้ประสบการณ์อันเหนือชั้นจัดการปราบพยศคนอวดดีให้สิ้นฤทธิ์และยินยอมพร้อมใจไปกับเขาเฉกเช่นวันวานเพียงแค่ถูกปลดปล่อยให้
“บัดซบ! ไอ้ดิเอโก มึงกล้าตบตากู วันนี้กูจะทำให้มึงรู้ว่าคนอย่างกูฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ ซาอิคเตรียมคนเอารถออกกูจะไปรังไอ้ดิเอโก” เสียงทรงอำนาจตวาดอย่างเกรี้ยวกราด เมื่อได้รับรู้ข้อมูลจากทนายความส่วนตัวว่า เอกสารการโอนกรรมสิทธิ์เดอะไนท์คาสิโนและกิจการบนเกาะบาหลันเป็นโมฆะเพราะไม่มีลายเซ็นของบลาลอส เวนนิส อดีตเจ้าพ่อผู้ชุบเลี้ยงดิเอโกมา นับตั้งแต่วางมือจากวงการและส่งมอบให้ดิเอโกสานต่อก็ไม่มีใครรู้เลยว่าเฒ่าบลาลอสไปอยู่ที่ใดในโลกนี้ นั่นจึงทำให้ เดฟ อัลเดอร์ลัส ถึงกับคุ้มคลั่งอยากไปฆ่าดิเอโกให้ตายกับมือเสียเดี๋ยวนั้น “เดฟครับ แต่ว่า... ” “กูสั่งไม่ได้ยินหรือไง” ตวาดดังลั่นอีกครั้งเมื่อบอดี้การ์ดคนสนิทตั้งท่าจะท้วงติง แต่ดูเหมือนซาอิคจะไม่ใส่ใจกับคำด่ากราดนั่น บอดี้การ์ดหนุ่มยังคงเอ่ยวาจาทัดทานต่อไปอย่างไม่เกรงกลัวอารมณ์ของผู้เป็นนาย “ได้ยินครับเดฟ แต่ผมคงทำตามคำสั่งเดฟไม่ได้” “ซาอิคมึงกล้าขัดคำสั่งกูงั้นเหรอ” กระชากคอเสื้อมาถามด้วยแรงโทสะที่พวยพุ่งขึ้นจนยากที่จะหักห้ามอารมณ์ได้ ฟากซาอิคยังคงสีหน้านิ่งไม่ไหวติง ไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ มีเ