ความคิดสะดุดลงฉับพลันเมื่อดิเอโกส่งฝ่ามือร้อนเข้ากอบกุมทรวงอกนุ่มหยุ่นอย่างถือสิทธิ์ กายสาวเริ่มบิดเร่าราวถูกของร้อนเพราะหลังก้อนเนื้อนุ่มถูกครอบครองไว้ในอุ้งมือ เจ้าพ่อใหญ่ก็โน้มตัวต่ำลงพร้อมส่งปลายลิ้นร้อนตวัดไล้ปลายยอดสีหวานที่ชูชันอวดโฉมเชิญชวนให้ลองลิ้มชิมรสว่าหอมหวานเฉกเช่นเดียวกับรูปโฉมที่เย้ายวนตาหรือไม่
หัวใจดวงน้อยแทบหลุดลอยตามเพราะเขาเพียงแค่ตวัดไล้แผ่วเบาแต่ไม่ยอมคลุกเคล้าหนักหน่วงอย่างที่ส่วนลึกในใจเรียกร้อง เสียงหวานกรีดร้องก้องในลำคอราวทุกข์ทรมานเหลือแสนเมื่อเจ้าพ่อใหญ่ไม่ใส่ใจที่จะครอบครองก้อนเนื้อนุ่มมากไปกว่านั้นกลับกันกลับส่งปลายจมูกโด่งและ ริมฝีปากบางเฉียบเลาะเลียบลงไปตามหน้าท้องแบนราบพรมจูบแผ่วเบาราวกลัวว่าเรือนร่างบอบบางจะบุบสลาย เพียงเท่านั้นกายสาวก็ดิ้นพล่านอย่างทุรนทุราย
มือน้อยร้าวระบมไปหมดเพราะเจ้าของออกแรงบิดหวังให้หลุดพ้นจากพันธนาการนั้น ดิเอโกกระตุกยิ้มย่องอย่างลำพองใจยามนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาผืนผ้าที่พันธนาการข้อมือบางอีกต่อไปเขาจะใช้ประสบการณ์อันเหนือชั้นจัดการปราบพยศคนอวดดีให้สิ้นฤทธิ์และยินยอมพร้อมใจไปกับเขาเฉกเช่นวันวาน
เพียงแค่ถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระเรียวแขนสวยก็ผวาเกาะกอดเรือนกายแกร่งแนบแน่นพร้อมกับแอ่นอกรองรับอุ้งปากร้อนชื้นที่ตรงเข้าดูดกลืนสตรอเบอร์รี่รสหวานซ่อนเปรี้ยวแทบทันทีอย่างไม่รีรอให้อีกฝ่ายได้ยั้งสติตั้งตัวต่อต้านสักนิด สองกายเบียดชิดเข้าหากันอย่างต้องการเติมเต็มให้แก่กัน
ดิเอโกครางฮือเมื่อมือน้อยเริ่มลูบไล้ปัดป่ายไปทั่วยามเขานัวเนียเก็บเกี่ยวความหอมหวานของทรวงอกสล้าง เสียงหวานที่ครวญครางอย่างอึดอัดในลำคอทำให้เจ้าพ่อใหญ่ต้องผงกศีรษะสวยขึ้นอย่างนึกได้ว่าคนใต้การบังคับยังถูกผืนผ้าพันธนาการเรียวปากไว้ กายหนาเคลื่อนสูงขึ้นพร้อมยื่นมือไปปลดเปลื้องราวต้องการคืนอิสรภาพให้อีกฝ่าย แต่เพียงแค่ผืนผ้าลอยละล่องไปอย่างไร้ทิศทาง ริมฝีปากบางเฉียบก็ตรงเข้าพันธนาการกลีบปากนุ่มนิ่มนั้นแทนไม่รั้งรอให้เจ้าของได้มีโอกาสทักท้วงแต่อย่างใด
หัวใจสาวหวามไหวไปกับสัมผัสรวดเร็วนั้น สุพิชญาไม่อาจปฏิเสธตัวเองได้ว่ายามนี้เธออยากให้เขาสัมผัสแนบแน่นมากกว่าผลักไส แม้จะไม่ได้เริ่มที่ความเต็มใจแต่ร่างกายเธอกลับคล้อยตามเขาอย่างไม่มีปฏิกิริยาต่อต้านสักนิด ยิ่งเขาแนบชิดเชยชมเธอมากเท่าไร ลึกๆ ในใจเธอกลับภาคภูมิที่อีกฝ่ายหลงใหลเสน่หา
ที่เป็นเช่นนี้เพราะเธอรู้สึกดีกับดิเอโกจริงๆ หรือเพียงต้องการชดเชยความรู้สึกในใจที่เธอถูกอดีตคนรักอย่างอติรัญจ์หักหลังอย่างไม่เห็นคุณค่าในตัวเธอกันแน่ คิดเพียงเท่านี้ความเปรมปรีดิ์ที่เจ้าพ่อใหญ่กำลังปรนเปรอสวาทให้พลันหยุดชะงัก มือน้อยผลักไสเขาออกอย่างแรงราวกับถูกของร้อน ดิเอโกที่ไม่ทันตั้งตัวผละออกตามแรงนั้น เจ้าพ่อใหญ่งงงันกับท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วของเธอ!
สุพิชญาพลิกกายหนีหวังถอยห่างแต่ทว่ากลับช้ากว่าดิเอโกที่โถมกายเข้าหาแล้วตรึงร่างบางไว้ภายใต้เรือนกายอันหนาแน่นที่ปราศจากอาภรณ์ห่อหุ้มอีกหน หญิงสาวไม่รู้ว่าเขาปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกไปจากกายแกร่งตั้งแต่ตอนไหน แต่นั่นไม่สำคัญเท่าใบหน้าคมเข้มยามนี้ที่ดูดุดันจนสุพิชญาใจสั่น ริมฝีปากนุ่มขยับจะวอนขอแต่อีกฝ่ายไม่รั้งรอให้มีวาจาใดเอื้อนเอ่ยออกมา เพราะเพียงแค่กลีบปากอิ่มขยับแย้ม ริมฝีปากบางเฉียบก็ฉกลงมาประกบแนบแน่นทันควัน
ปลายลิ้นร้อนดุนดันแทรกผ่านเข้าไปซุกไซ้ในโพรงปากหวานอย่างเอาแต่ใจเนิ่นนานเสียจนสุพิชญาแทบขาดใจ และคงเป็นเช่นนั้นจริงๆ หากดิเอโกไม่ถอยห่าง แต่ร่างบางก็ต้องผวาเมื่อฝ่ามือหนายื่นมาใช้ปลายนิ้วเกาะเกี่ยวขอบชั้นในตัวจ้อยดึงรวดเดียวก็หลุดออกจากเรียวขาสวยจากนั้นก็แยกเรียวขากลมกลึงออกจากกันอย่างรวดเร็วดึงรั้งสะโพกงามให้เข้าประชิดหลังจากเรือนกายแกร่งลุกขึ้นนั่งในท่าคุกเข่า ดิเอโกจับจ้องมองกลางกายสาวอย่างมุ่งมั่น เตรียมพร้อมเข้าโรมรันหวังกำราบอีกฝ่ายให้ปราชัย แต่ทว่า...
“ดิเอโกอย่าค่ะ... ได้โปรด... อย่า!” เสียงหวานวอนขอพร้อมเจ้าของส่งมือน้อยยื้อยุดข้อมือแกร่งที่ประคองแก่นกายหมายมุ่งตรงเข้าสู่ซอกเนื้อนุ่ม ดิเอโกแม้จะร้อนรุ่มจวนเจียนจะยั้งใจไม่ไหวกลับชะงักไปอึดใจกับถ้อยคำวอนขอนั้น
ไม่รู้เพราะอะไรน้ำเสียงที่ออกอาการสั่นสะท้านของสุพิชญาถึงกระชากใจเขาอย่างแรง ซ้ำเมื่อตวัดสายตาขึ้นมองก็พบกับดวงตาที่เริ่มแดงเรื่อราวเจ้าของกำลังจะร่ำไห้เสียเดี๋ยวนั้น ดิเอโกหลุบตาหลบพยายามไม่ใส่ใจเพราะยามนี้เขามุ่งแต่อยากส่งท่อนกายเข้าไปสัมผัสในซอกหลืบแนบแน่นแสนคุ้นเคยนั้นโดยเร็ว แต่ยังไม่ทันที่เจ้าพ่อใหญ่จะได้ทำตามดังใจนึกคิดสุพิชญาก็วอนขอขึ้นมาอีกหน
“อย่าทำอะไรฉันอีกเลยนะคะดิเอโก ฉันขอร้อง ฉัน... ฮึก! ฮือ...”
“พิชชา... คุณ!” ดิเอโกเอ่ยได้เพียงเท่านั้นพลันอารมณ์ดิบที่พุ่งพล่านก็มลายหายไปสิ้นเมื่อดวงตาคู่สนิมสบเข้ากับธารน้ำตาที่หลั่งรินไม่ขาดสาย เสียงสะอื้นไห้ของอีกฝ่ายทำเอาเจ้าพ่อใหญ่ทำตัวไม่ถูกไปชั่วขณะ!
“ดิเอโก... ได้โปรด ฉันขอร้อง อย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ จะให้ฉันทำอะไรก็ได้ จะให้คุกเข่าวอนขอคุณฉันทำได้ทั้งนั้น แต่ขอร้องอย่า... ”
“หยุดเถอะยาหยี ไม่ร้องไห้นะครับ” ปลอบโยนด้วยเสียงนุ่มทุ้มพลางโน้มกายต่ำลงโอบกอดอีกฝ่ายพร้อมใช้ปลายนิ้วแกร่งปาดไล้ธารน้ำตาให้พ้นจากพวงแก้ม แต่ทว่าดูเหมือนสุพิชญาจะบ่อน้ำตาแตกเสียแล้ว เพราะยิ่งดิเอโกแสดงการกระทำที่นุ่มนวลต่อเธอมากเท่าไร ธารน้ำตาก็ยิ่งหลั่งไหลไม่ขาดสายซ้ำร้ายยังยิ่งสะอื้นไห้หนักเข้า
อาการร้องไห้จนตัวโยนของคนในอ้อมกอดกลับจี้กลางใจดิเอโกอย่างแรง เจ้าพ่อใหญ่ผละออกห่างราวโดนถ่านที่ติดไฟร้อนแรงนาบเข้าให้อย่างจัง เขาโหดร้ายกับเธอมากมายขนาดนั้นเชียวหรือถึงได้ร้องไห้ปานจะขาดใจตายเสียกระนั้น ท้ายสุดเมื่อไม่อาจหยุดยั้งอีกฝ่ายให้สงบลงได้เจ้าพ่อใหญ่จึงต้องใช้ไม้ตายเพื่อสยบคนตรงหน้า
“โธ่โว้ย! หยุดร้องไห้ซะที บอกให้หยุด! เข้าใจไหม”
ได้ผล! สุพิชญาชะงักอึ้งไปชั่วอึดใจ แม้จะยังมีธารน้ำตาหลั่งไหล แต่ทว่าอาการสะอื้นไห้กลับสงบลงเดี๋ยวนั้น ดวงตาคู่งามเบิกกว้างมองเจ้าพ่อใหญ่ที่ยามนี้ใบหน้าถมึงทึงราวเกรี้ยวกราดเหลือแสนอย่างตกตะลึง
“เฮเลน! ส่งคนเอาเสื้อผ้ามาให้มิสแล้วพาเธอไปพักผ่อน” เสียงเข้มดุสั่งการผ่านอินเตอร์คอม และเพียงจบคำเจ้าพ่อใหญ่ก็คว้าเสื้อคลุมมาสวมใส่แล้วเดินออกไปจากห้องทิ้งให้สุพิชญามองตามด้วยความงงงัน
เพียงไม่นานเฮเลนก็นำสาวรับใช้เข้ามาตามคำสั่งของดิเอโกแล้วนำพาเธอไปยังอีกห้อง ตลอดทางสุพิชญาสอดส่องสายตามองหาแต่ทว่าเธอกลับไม่เห็นแม้เงาของเจ้าพ่อใหญ่ หัวใจสาวเบาโหวงขึ้นมาอย่างที่สุพิชญาไม่เข้าใจตัวเอง เธอน่าจะรู้สึกดีไม่ใช่หรือ แต่ทำไมเธอถึงรู้สึกเหน็บหนาวเช่นนี้!
“บัดซบ! ไอ้ดิเอโก มึงกล้าตบตากู วันนี้กูจะทำให้มึงรู้ว่าคนอย่างกูฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ ซาอิคเตรียมคนเอารถออกกูจะไปรังไอ้ดิเอโก” เสียงทรงอำนาจตวาดอย่างเกรี้ยวกราด เมื่อได้รับรู้ข้อมูลจากทนายความส่วนตัวว่า เอกสารการโอนกรรมสิทธิ์เดอะไนท์คาสิโนและกิจการบนเกาะบาหลันเป็นโมฆะเพราะไม่มีลายเซ็นของบลาลอส เวนนิส อดีตเจ้าพ่อผู้ชุบเลี้ยงดิเอโกมา นับตั้งแต่วางมือจากวงการและส่งมอบให้ดิเอโกสานต่อก็ไม่มีใครรู้เลยว่าเฒ่าบลาลอสไปอยู่ที่ใดในโลกนี้ นั่นจึงทำให้ เดฟ อัลเดอร์ลัส ถึงกับคุ้มคลั่งอยากไปฆ่าดิเอโกให้ตายกับมือเสียเดี๋ยวนั้น “เดฟครับ แต่ว่า... ” “กูสั่งไม่ได้ยินหรือไง” ตวาดดังลั่นอีกครั้งเมื่อบอดี้การ์ดคนสนิทตั้งท่าจะท้วงติง แต่ดูเหมือนซาอิคจะไม่ใส่ใจกับคำด่ากราดนั่น บอดี้การ์ดหนุ่มยังคงเอ่ยวาจาทัดทานต่อไปอย่างไม่เกรงกลัวอารมณ์ของผู้เป็นนาย “ได้ยินครับเดฟ แต่ผมคงทำตามคำสั่งเดฟไม่ได้” “ซาอิคมึงกล้าขัดคำสั่งกูงั้นเหรอ” กระชากคอเสื้อมาถามด้วยแรงโทสะที่พวยพุ่งขึ้นจนยากที่จะหักห้ามอารมณ์ได้ ฟากซาอิคยังคงสีหน้านิ่งไม่ไหวติง ไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ มีเ
“ว่าไงครับ” ถามย้ำอีกรอบไม่สนใจสีหน้าบ่งบอกอาการบุญไม่รับของอีกฝ่าย สุพิชญาได้แต่เข่นเขี้ยวในใจที่ไม่อาจทำอะไรดิเอโกได้ หญิงสาวจึงหย่อนกายนั่งลงอย่างกระแทกกระทั้น ดิเอโกกระตุกยิ้มอย่างพึงพอใจพร้อมไหวไหล่อย่างผู้ชนะ“ก็แค่นั้น”สุพิชญาหน้าบูดบึ้งมากกว่าเดิมหลายเท่าตัวเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำท่าคล้ายหัวเราะยั่วยวนยามเอ่ยวาจานั้น แต่เธอก็ไม่คิดจะโต้ตอบให้ป่วยการเพราะรู้ดีว่าอย่างไรเสียก็คงไม่สามารถเอาชนะผู้ชายบ้าอำนาจตรงหน้าไปได้“เมื่อคืนนอนไม่หลับหรือว่าท้องผูกล่ะยาหยี”“คะ” ขานรับอย่างงงงันกับคำถามที่แสนกวนนั้นดิเอโกยิ้มขันกับอาการตาโตหน้าเหวอของอีกฝ่าย เจ้าพ่อใหญ่รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก แต่ที่แน่ๆ เขาชอบให้เธอทำหน้าตาตื่น โวยวายเอากับเขามากกว่าร้องไห้หนักหน่วงเฉกเช่นวันนั้น“ผมเพิ่งรู้ว่าเดี๋ยวนี้คุณกลายเป็นคนชอบให้ผมพูดซ้ำๆ” เขาเอ่ยพร้อมรอยยิ้มขันระบายเต็มใบหน้า สุพิชญาได้แต่ตะลึงอึ้งกับดวงตาพราวระยับและรอยยิ้มแสนเสน่หานั้น หัวใจสาวแกว่งไกวขึ้นมาทันใด เธอยอมรับว่าเวลานี้เขาช่างหล่อบาดตาบาดใจมากกว่ายามทำหน้าเคร่งขรึมหลายเท่านัก“ตกลงคุณมีอะไรพูดกับฉันคะ ถ้าไม่มีฉันจะกลับ” ยังคงตอบกลับอย่าง
“งั้นเราก็มาต่อกันอีกหลายๆ ครั้งแล้วกันนะยาหยี เผื่อคุณจะระลึกได้ว่าผมเป็นสามีคุณ”“อ๊ายยย... ดิเอโก! ปล่อยนะไอ้คนบ้า ไอ้คนหื่นกาม ปล่อย! ว้าย!” ท้ายประโยคหวีดร้องสุดเสียงเมื่อเจ้าพ่อใหญ่ทุ่มร่างน้อยลงบนเตียงกว้างแล้วก้าวย่างขึ้นตามติดประชิดตัวไม่เปิดช่องให้เธอได้ถอยหนี นั่นยังไม่ร้ายเท่ามือน้อยทั้งสองข้างถูกขึงตรึงกางแนบไปกับเตียงกว้าง ทรวงอกนุ่มหยุ่นขยับขึ้นลงรัวเร็วตามแรงหายใจหอบถี่ เรียวขาสวยถูกเรือนกายท่อนร่างของเขาตรึงไว้แน่นจนไม่อาจดิ้นหนีได้“ร้องไปนะยาหยีร้องให้ดังๆ เพราะเวลาคุณครวญครางมันดังกว่านี้หลายเท่านัก”“กรี๊ดดดด... อื้ม!”สุพิชญาพยายามเบี่ยงหน้าหลบหนีไม่ยอมให้อีกฝ่ายครอบครองกลีบปากนุ่มนิ่มตามใจชอบ แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้เพราะเจ้าพ่อใหญ่ก็ตามติดประกบปิดริมฝีปากแสนหวานได้ในที่สุด และนั่นก็ทำให้หัวใจดวงน้อยแทบหยุดเต้นเพราะเขาทั้งขบเม้มดูดดื่มราวกับหิวกระหายมาแรมปี จุมพิตเร่าร้อนรุนแรงช่างยาวนานไม่เปิดช่องให้เธอได้หายใจสักนิดสุพิชญาคิดว่าเธอจะขาดอากาศหายใจเสียให้ได้ เพราะยามนี้เธอเริ่มหายใจติดขัดแต่เหมือนดิเอโกจะล่วงรู้ เจ้าพ่อใหญ่จึงปล่อยกลีบปากนุ่มนิ่มให้เป็นอิสระ แต่ท
บรรยากาศยามเช้าวันนี้ช่างอบอุ่นหัวใจเสียเหลือเกินในความรู้สึกของสุพิชญา หญิงสาวทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่างห้องนอนปล่อยใจให้ล่องลอยไปบนท้องฟ้ากว้าง ดวงตาคู่งามเหม่อมองไปไกลจนสุดปลายสายรุ้งที่ตรงโค้งฟ้า เธอไม่อาจปฏิเสธได้ว่าช่วงค่ำคืนที่ผ่านมาเธอไม่ได้เศร้าเสียใจสักนิด แต่กลับกันเธอกลับรู้สึกเหมือนเสี้ยวหนึ่งของชีวิตได้รับการเติมเต็มดิเอโกทำให้เธอสั่นสะท้านไปกับทุกสัมผัสที่เร่าร้อนของเขา คำว่า “สามี” ที่เขาเฝ้าตอกย้ำให้เธอจดจำราวสายฝนที่โปรยปรายจนชุ่มฉ่ำในหัวใจ แม้จะไม่มีการเอ่ยคำว่ารัก แต่ทุกการกระทำที่เขาแสดงออกว่าหลงใหลคลั่งไคล้ในตัวเธอนั้นมันสำคัญกว่าสิ่งอื่นใดแม้เช้านี้ตื่นขึ้นมาข้างกายจะไร้ซึ่งเรือนกายแกร่งที่เธอกอดก่ายเมื่อตอนรุ่งสาง แต่ทว่านั่นไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกมัวหมองสักนิด แม้ในใจลึกๆ จะผิดหวังที่ไม่ได้เจอหน้าเขาเมื่อยามลืมตาตื่นขึ้นมา เหตุใดหนอเธอจึงเป็นไปได้มากมายเช่นนี้ ทั้งที่ปากบอกรังเกียจ แต่เพียงได้ชิดใกล้ เขากลับมาวิ่งวุ่นวายอยู่ในใจเธอไม่ว่างเว้น อารมณ์หงุดหงิดขุ่นเคืองใจเมื่อหลายวันก่อนหายไปไหนกัน ดิเอโกมีอิทธิพลกับเธอมากถึงเพียงนี้เชียวหรือ ไม่เคยรู้จักแต่กลับป
เพียงริมฝีปากนุ่มสัมผัสแผ่วเบาเจ้าพ่อใหญ่ก็เผยอแย้มเรียวปากกว้างขึ้นเปิดช่องให้อีกฝ่ายสอดใส่ปลายลิ้นเล็กเข้าไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ ส่วนสะโพกสอบก็ขยับขับเคลื่อนท่อนกายแกร่งที่บัดนี้แฝงตัวอย่างองอาจวาดลวดลายอยู่ในซอกหลืบนุ่ม ธารน้ำหลั่งไหลอาบตัวตนแห่งความเป็นชายจนชุ่มฉ่ำถ้วนทั่ว ยิ่งสุพิชญามอบจุมพิตแบบกล้าๆ กลัวๆ เขาก็ยิ่งเร่งจังหวะรัวเร็วขึ้นเพื่อให้อีกฝ่ายได้ปลดปล่อยตัวตนข้างในออกมาสุพิชญาลืมเลือนไปเสียแล้วว่าเธอตั้งใจปฏิเสธเขาตั้งแต่แรก เพราะเพียงเขาแทรกกายผ่านกลางกายเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว หัวใจเธอก็เต้นรัวเร็วทั้งตื่นตระหนก ทั้งหวามไหว ปั่นป่วนไปทั่วเรือนกาย เธอไม่คิดว่าดิเอโกจะจู่โจมฝากฝังความเป็นชายเข้าในเรือนร่างของเธอรวดเร็วเช่นนั้น ซ้ำยังแสดงลีลารักผาดโผนแบบไม่คิดเกรงใจฟ้าดิน ด้วยยามนี้ ณ ตรงที่เขาวาดลวดลายมันคือผนังกระจกทั้งด้านที่มองเห็นวิวทิวทัศน์ภายนอกถ้วนทั่ว แต่ที่ร้ายกว่านั้นคือบานกระจกใสจนภายนอกมองเข้ามาเห็นภายในได้เกือบทั่วทุกตารางนิ้วแต่ดูเหมือนว่าเจ้าพ่อใหญ่จะไม่ใส่ใจ เพราะเพียงตวัดเสื้อคลุมตัวโคร่งออกจากร่างเธอแล้วปลดเปลื้องพันธนาการเรือนกายท่อนร่างของตัวเองออกเขาก็สอ
“เกาะอะไรคะดิเอโก” ถามเมื่อสายตาสบเข้ากับเกาะขนาดย่อมตรงหน้า ตามการคาดเดาด้วยสายตาสุพิชญาคิดว่าอีกไม่ถึงสิบนาที เธอและเขาก็จะถึงที่นั่น อารมณ์ขุ่นมัวที่อีกฝ่ายเอาแต่ใจไม่ยอมให้เธอได้ออกความเห็นหรือเรียกร้องสิทธิ์ใดๆ มลายหายไปสิ้นตั้งแต่ขึ้นเรือมาสุพิชญายอมรับว่า ยามที่ทอดสายตามองออกไปยังท้องทะเลที่กว้างไกลพร้อมปล่อยให้ผิวกายปะทะเข้ากับลมทะเลที่โบกพัดมาทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายขึ้น จนมีกะจิตกะใจที่จะหันไปชวนเจ้าพ่อใหญ่พูดคุย แต่ทว่าคำตอบที่ได้รับกลับมาทำให้แทบอยากเข่นฆ่าเขาเสียเดี๋ยวนั้น“เกาะผมให้แน่นๆ ไงครับยาหยี หรือจะให้ผมเกาะคุณดี ผมเกาะไม่ปล่อยนะจะบอกให้” เขาตอบพลางโน้มกายเข้าหาราวกับว่าจะเกาะกอดเธอต่อหน้าบอดี้การ์ดจริงๆ การกระทำนั้นเรียกเสียงหวีดร้องของหญิงสาวได้เป็นอย่างดี“คนบ้า! คนผี! ฉันหมายถึงเกาะนี้ต่างหาก ชื่อเกาะอะไร” สุพิชญาตวาดเสียงเข้มนัยน์ตาขุ่นเขียวเรียวปากสวยเม้มเข้าหากันอย่างขัดใจ นั่นเรียกเสียงหัวเราะขบขันจากดิเอโกได้มากมายนัก“ฮ่าๆๆ ก็คุณไม่ได้ถามแบบนี้นี่”“นี่คุณอย่ามาเล่นลิ้นนะ” หญิงสาวตั้งท่าข่มขู่ตาโต แต่เจ้าพ่อใหญ่กลับหายำเกรงไม่ ยังคงหยอกเย้าเธฮต่อไปแต่ก็กึ
“ว้าย... ดิเอโก!! ตามเข้ามาทำไมคะ” เสียงหวานอุทานลั่นด้วยความตื่นตระหนกเมื่อเธอเดินเข้าห้องน้ำไปแล้ว แต่ก่อนที่จะทันได้ปิดประตู ดิเอโกก็แทรกตัวเข้ามาแล้วจัดการปิดล็อกเสียเอง สุพิชญาเบิกตากว้างมองเขาอย่างหวาดหวั่น เธอรู้ตัวดีว่าลงเขาเข้ามาด้วยแบบนี้ เธอไม่มีทางจะรอดพ้นจากเพลิงพิศวาสของเขาไปได้อย่างแน่นอน“ฉันร้อนอยากอาบน้ำ คุณออกไปสิคะ”“ผมก็ร้อนมาก ผมเลยคิดว่าเราน่าจะอาบพร้อมกันดีกว่านะ จะได้ไม่เสียเวลา”“ดิเอโก! อุ๊ย!” สุพิชญาอุทานขานชื่อนั้นอย่างตกใจแล้วก็ยิ่งตกใจยิ่งกว่าเมื่อเจ้าพ่อใหญ่ตรงเข้ารวบร่างน้อยเข้าหา หญิงสาวตระหนักทันทีว่าจะเกิดอะไรขึ้นนับจากวินาทีนี้ไป“อย่า... ” เสียงหวานร้องห้ามสั่นพร่า แต่ทว่าหาได้หยุดยั้งเจ้าพ่อใหญ่ได้ เพราะฝ่ามือร้อนเริ่มลูบไล้รุกไล่ไปทั่วเรือนกาย ปลายจมูกโด่งก็ซุกซนไปทั่วหัวใจสาวสั่นระรัวเมื่อถูกดันร่างแนบชิดติดผนังห้องน้ำ ปลายนิ้วแกร่งรุกไล่ปลดเปลื้องเสื้อตัวสวยออกจากเรือนร่างราวต้องการตกย้ำให้เธอตระหนักว่า อย่างไรเสียเขาก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจแน่นอน และจ
“ที่นี่สวยจังค่ะ เงียบสงบดูไม่วุ่นวาย เป็นเกาะที่น่าอยู่มากจริงๆ” สุพิชญาเอ่ยออกมาด้วยใบหน้างามเต็มไปด้วยรอยยิ้ม หญิงสาวทอดสายตามองไปยังชายหาดขนาดย่อมความยาวไม่ไกลเกินหนึ่งกิโลเมตร ผืนทรายนั้นเป็นสีขาวดูสะอาดตากลมกลืนกับท้องทะเลสีฟ้าใส เธอเพิ่งรู้เมื่อไม่กี่นาทีนี้เองว่า สถานที่เธอยืนอยู่ยามนี้ชื่อว่า ‘เกาะบาหลัน’ เกาะส่วนตัวเล็กๆ เกาะหนึ่งของประเทศอินโดนีเซีย“แล้วคุณอยากอยู่ไหมล่ะ”“คะ” หันขวับไปมองคนที่เดินมาหยุดยืนอยู่ข้างๆ พลางเลิกคิ้วถามอย่างสงสัยด้วยไม่แน่ใจในสิ่งที่อีกฝ่ายเอ่ยออกมา ดิเอโกเบือนหน้าไปมองคนข้างกายพร้อมคลี่ยิ้มบางเบาก่อนเอ่ยประโยคต่อไป“ในเมื่อที่นี่น่าอยู่ ทำไมคุณไม่อยู่เลยล่ะ... ยาหยี”“คะ...คือฉัน” สุพิชญาออกอาการติดอ่างขึ้นมาทันใด หญิงสาวไม่คิดว่าจะได้ยินคำเชิญชวนแสนง่ายนั้น แต่ก่อนที่เธอจะได้เอ่ยคำใดต่อไป ดิเอโกก็แทรกขึ้นด้วยประโยคที่ชวนให้เธออารมณ์กรุ่นขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยระลึกได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นเธอไม่ได้เต็มใจสักนิด“ผมยินดีนะถ้าคุณจะอยู่กับผมที่นี่มากกว่าหนึ่งเดือน ตามข้อตกลงนั่น”“ฉันบอกคุณกี่ครั้งแล้วคะ ว่าฉันไม่รู้เรื่องข้อตกลงอะไรนั่น คุ
“โอ๊ะ! / อุ๊ย!” ดิเอโกแสร้งอุทานเมื่อสุพิชญาดึงรั้งเสื้อเชิ้ตให้หลุดออกจากแขนแกร่ง หญิงสาวพลอยอุทานไปกับเขาด้วย“ขอโทษค่ะ ฉันจะระวังให้มากกว่านี้นะคะ คุณช่วยยกแขนข้างนี้ขึ้นสูงอีกนิดได้ไหมคะ ไหวไหม” ท้ายประโยคถามด้วยความห่วงใยหลังจากที่สั่งให้เขาขยับแขนข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บขึ้นเพื่อเธอจะได้ถอดเสื้อได้ง่ายขึ้น“ดะ...ได้ครับ” เจ้าพ่อใหญ่เอ่ยตอบเสียงตะกุกตะกักใบหน้าเหยเกเต็มที ดวงตาคู่สนิมหรี่มองหญิงสาวที่ค่อยๆ บรรจงถอดเสื้อ“แล้วกางเกง...”สุพิชญาหน้าแดงซ่านราวลูกตำลึงสุกเมื่อดิเอโกถามค้างเพียงเท่านั้น หญิงสาวหลุบตาต่ำอย่างเขินอายก่อนตวัดสายตาขึ้นมองสบดวงตาสีสนิม ในที่สุดเธอก็กลั้นหายใจกัดฟันตอบออกไป“ฉะ...ฉัน เอ่อ... ฉันช่วยถอดให้ก็ได้ค่ะ”“ขอบคุณนะครับยาหยี เพราะผมเจ็บแบบนี้คุณเลยต้องลำบาก”ดิเอโกบอกพร้อมทอดสายตาอ่อนโยนเป็นการขอบคุณ สุพิชญายิ้มหวานให้ก่อนเอ่ยบอกจากใจจริงเช่นกัน“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แค่คุณยังหายใจอยู่ ฉันก็ดีใจแล้ว เพราะหากคุณเป็นอะไรไปใครจะอนุญาตให้ฉันกลับบ้านล่ะคะ” ท้ายประโยคสัพยอกนั่นทำให้ดิเอโกหลุดหัวเราะออกมากับวาจาค่อนแคะเขา“ยาหยี นี่ผมมีค่าแค่นั้นเองเหรอ” คนตัวโ
“ว่าไงนะ! ดิเอโกถูกยิงบาดเจ็บ แล้วเขาเป็นยังไงบ้าง แล้วคุณกลับมาทำไม... ทำไมไม่อยู่กับเขา” สุพิชญาอุทานดังลั่นห้องเมื่อได้ฟังคำบอกเล่าของบอดี้การ์ดใหญ่ หัวใจสาวสั่นระรัวไปหมด เพราะทั้งกังวลและหวาดกลัวเกี่ยวกับอาการของดิเอโก“เควินคะ เอาเรือออก ฉันจะไปหาเขา พาฉันไปหาดิเอโกที”“ใจเย็นก่อนครับมิส ตั้งสติ หายใจเข้าลึกๆ แล้วฟังครับ” บอดี้การ์ดใหญ่บอกเสียงเข้มเกือบดุหวังเรียกสติหญิงสาวที่บัดนี้ดูท่ากระเจิดกระเจิงเสียแล้ว เมื่อเห็นอีกฝ่ายมีทีท่าสงบลง เขาก็ค่อยๆ บอกเล่าเหตุการณ์ต่อไปตามบทที่ซักซ้อมมาอย่างดี“ดิเอโกบาดเจ็บจริงแต่ว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว และอยู่ในความคุ้มครองของตำรวจ มิสไม่ต้องกังวลครับ และที่ผมกลับมานี่ เป็นเพราะดิเอโกสั่งให้ผมมาคุ้มกันมิส เพราะพวกของเดฟอาจคิดจะรุกรานมาถึงที่นี่ก็ได้”“ต่อสายดิเอโกให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ” สุพิชญาร้องขออย่างน่าสงสารหลังจากฟังคำบอกเล่าของบอดี้การ์ดใหญ่จบ เพียงแค่ได้ยินว่าเขาปลอดภัยเธอก็เบาใจแต่ก็ยังอยากได้ยินเสียงให้แน่ใจอีกครั้งว่าเควินไม่ได้หลอกล่อให้เธอวางใจ“ผมคงทำตามคำขอของมิสไม่ได้ เพราะตอนนี้ทุกอย่างถูกคุมเข้มห้ามใครติดต่อกับดิเ
“หยุดก่อน!” เสียงหวานของสุพิชญาดังมาจากตรงเชิงบันได บอดี้การ์ดหนุ่มที่เดินอยู่ในบริเวณนั้นหยุดชะงักก่อนหันมาทำความเคารพนายหญิง“ครับมิส”“ฉันได้ยินแว่วๆ ว่าใครเป็นอะไร” สุพิชญาถามรัวเร็วเมื่อก้าวเดินเข้าไปใกล้บอดี้การ์ด เหตุเพราะเธอได้ยินบทสนทนาที่ดูเหมือนว่าใครเกิดการปะทะกับใคร ความใจร้อนทำให้เธอตะโกนเรียกเหล่าบอดี้การ์ดไว้เมื่อเห็นว่าพวกเขากำลังจะแยกย้ายกันไปตามจุดต่างๆ“เอ่อ... คือ... ”“ว่าไงคะ” หญิงสาวยิงคำถามจี้ถามติดๆ กันเมื่อพากันเอาแต่อ้ำอึ้ง สุพิชญาเค้นเอาคำตอบด้วยการจ้องเขม็งสายตานิ่งสนิทเป็นการบอกกลายๆ ว่าหากไม่ได้รับคำตอบเธอจะไม่มีวันปล่อยให้ใครเดินจากไปเด็ดขาดหัวหน้าบอดี้การ์ด ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนตัดสินใจบอกกล่าวผู้เป็นนายหญิง“เควินสั่งการมาให้พวกเราคุมเข้มทุกจุด เพราะเกิดการปะทะกับเดฟที่เดอะไนท์ครับมิส”“ปะทะกับเดฟ! ที่เดอะไนท์” สุพิชญาอุทานตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน หัวใจแทบหล่นไปอยู่ตาตุ่ม หญิงสาวร้อนรุ่มไปหมด ในใจลึกๆ ยังปฏิเสธว่าสิ่งที่ได้ยินไม่ใช่เรื่องจริง แต่ทว่า...“ครับมิส เชิญมิสขึ้นไปพักบนห้องดีกว่าครับ ผมจะให้คนไปคุ้มกันความปลอดภัยที่หน้าห้อง”“เดี๋ยว! แล้วดิเ
เมื่อเห็นคนแสนพยศเอาแต่นิ่งเงียบนัยน์ตาหม่นเศร้า เจ้าพ่อใหญ่ก็เลื่อนมือมาจับไหล่กลมกลึงสองข้างก่อนเลื่อนฝ่ามือข้างหนึ่งมาแตะพวงแก้มนุ่มนิ่มแล้วใช้ปลายนิ้วเชยปลายคางให้เธอแหงนเงยใบหน้าขึ้นมองเขา แต่การกระทำนั้นราวเป็นการบังคับกลายๆ ให้เธอต้องสบตาเขาและห้ามเบือนหน้าหลบหนีเด็ดขาดจนกว่าเขาจะพูดจบ“ผมดูแลคุณไม่ดีตรงไหนหรือเปล่ายาหยี คุณถึง...”“ดิเอโกคะ... ฉันยอมรับว่าคุณดูแลฉันดีมาก แต่ฉันก็ไม่ลืมว่าฉันมาอยู่ที่นี่ด้วยความไม่เต็มใจ” พยายามให้เหตุผลหลังจากสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดด้านดิเอโกเมื่อได้ฟังวาจานั้นเจ้าพ่อใหญ่ก็เริ่มเกิดอารมณ์หงุดหงิด เหตุเพราะไม่รู้ว่ากี่ครั้งแล้วที่เขาต้องมาคุยเรื่องนี้กับเธอ“ฟังนะยาหยี! คุณอาจจะคอยย้ำเตือนตัวเองตลอดเวลาว่าคุณมาด้วยความไม่เต็มใจ นั่นมันเป็นเพราะคุณอคติ คุณถึงได้พยายามสร้างกำแพง ยกเหตุผลสารพัดเพียงเพื่อหลอกตัวเองว่าคุณไม่มีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่ แต่คุณไม่เคยยอมรับตัวเองต่างหากว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นคุณเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ กลับกันคุณกลับเต็มใจรับมันด้วยซ้ำ” “ดิเอโก!” ขานนามนั้นอย่างตกตะลึง เพราะสิ่งที่เขาพูดมานั้นมันกระแทกใจเธออย่างจัง“หรือคุณจะบอ
ตลอดช่วงสายของวันนั้นจนเวลาล่วงเลยมาค่อนคืน สุพิชญาเฝ้าคอยดูแลแม่ลูกอ่อนอย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีภาวะแทรกซ้อนหลังคลอดเกิดขึ้น หญิงสาวไม่คิดว่าดิเอโกจะใจดีสั่งการให้เคลื่อนย้ายลูกน้องหญิงไปพักที่เรือนใหญ่ซึ่งเป็นที่พักส่วนตัวของเขา ซ้ำดิเอโกเองก็เฝ้าวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ไม่คิดปล่อยหญิงสาวไว้ตามลำพังเจ้าพ่อใหญ่สั่งการให้แม่บ้านจัดเตรียมอาหารมาให้เขาและเธอ แม้หญิงสาวจะเอ่ยปากหลายครั้งให้เขาไปพักผ่อนอย่าได้กังวลเกี่ยวกับเธอ แต่ดิเอโกก็หาได้ฟังไม่ เขายังยืนยันอยู่เป็นเพื่อนเธอและคอยสอดส่องสายตามองหาตลอดเวลาที่เธอหายเข้าไปในห้องพัก และยามนี้เวลาก็ล่วงเลยเข้าสู่วันใหม่มาได้ชั่วโมงกว่าแล้วหญิงสาวตั้งใจว่าอีกสักพักเธอก็จะเอนกายพักผ่อนบ้าง ด้วยอาการของแม่หลังคลอดนั้นไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วงแล้ว แต่เมื่อเธอก้าวพ้นประตูห้องออกมาก็พบดิเอโกนอนขดกายอยู่บนโซฟาที่ขนาดไม่พอดีกับร่างกายสูงใหญ่ของเขาสักนิด สุพิชญาส่ายหน้ากับภาพนั้นก่อนเดินเข้าไปหาหวังจะปลุกให้เขากลับเรือนพักไปนอนให้สะดวกสบาย“ดิเอโกคะ ตื่น... ว้าย!!” เสียงหวานหวีดร้องเสียงหลงเมื่ออยู่ๆ ก็ถูกตวัดรวบแขนบิดพ่ายไปด้านหลังเพียงแค่เธอยื
“ฉันต้องการสถานที่และอุปกรณ์เดี๋ยวนี้”“คุณต้องการอะไรบ้างว่ามา”สุพิชญาบอกสิ่งที่ตัวเองต้องการ ดิเอโกหันไปสั่งความลูกน้องทันทีเช่นกัน ยามนี้ไม่มีทีท่าของคนชอบวางอำนาจไม่ยอมเป็นรองเธอให้เห็นสักนิด“รีบไปจัดการตามที่นายหญิงสั่งสิ”“ครับดิเอโก!!”ตลอดระยะเวลาที่สุพิชญาทำคลอดดิเอโกแทบหายใจไม่ทั่วท้อง เจ้าพ่อใหญ่เดินไปมาให้วุ่นวายไปหมด หัวใจแกร่งร้อนรุ่ม เขาแทบอยากพังประตูเข้าไปเสียเดี๋ยวนี้ ความห่วงใย ความพะวงทำเอาเขาว้าวุ่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แต่เพราะคำสั่งที่แสนเด็ดขาดของคนที่ดูบอบบางอย่างสุพิชญาว่าให้เขาออกมารอด้านนอก ขอไว้เพียงคนงานหญิงที่เธอให้คอยเป็นผู้ช่วยหยิบจับในสิ่งที่ต้องการเท่านั้น“อุ๊แว้! อุ๊แว้!”“พิชชา!” ดิเอโกอุทานขานเรียกชื่อหญิงสาวออกมาแทบเป็นตะโกนเมื่อได้ยินเสียงเด็กร้องดังออกมาจากด้านใน เจ้าพ่อใหญ่แทบกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจเสียงเด็กที่เล็ดลอดออกมานั้นช่างเหมือนเสียงสวรรค์ เขามั่นใจว่าพิชชาปฏิบัติภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว แต่ว่า... เวลาก็ล่วงเลยมาสักระยะแล้วกลับไม่มีใครก้าวออกมาจากห้องสักคน เสียงเด็กก็พลอยเงียบหายไปด้วย“หรือว่าจะเกิดอะไรขึ้น” เจ้าพ่อใหญ่รำพันกับตัวเอง
“ที่นี่สวยจังค่ะ เงียบสงบดูไม่วุ่นวาย เป็นเกาะที่น่าอยู่มากจริงๆ” สุพิชญาเอ่ยออกมาด้วยใบหน้างามเต็มไปด้วยรอยยิ้ม หญิงสาวทอดสายตามองไปยังชายหาดขนาดย่อมความยาวไม่ไกลเกินหนึ่งกิโลเมตร ผืนทรายนั้นเป็นสีขาวดูสะอาดตากลมกลืนกับท้องทะเลสีฟ้าใส เธอเพิ่งรู้เมื่อไม่กี่นาทีนี้เองว่า สถานที่เธอยืนอยู่ยามนี้ชื่อว่า ‘เกาะบาหลัน’ เกาะส่วนตัวเล็กๆ เกาะหนึ่งของประเทศอินโดนีเซีย“แล้วคุณอยากอยู่ไหมล่ะ”“คะ” หันขวับไปมองคนที่เดินมาหยุดยืนอยู่ข้างๆ พลางเลิกคิ้วถามอย่างสงสัยด้วยไม่แน่ใจในสิ่งที่อีกฝ่ายเอ่ยออกมา ดิเอโกเบือนหน้าไปมองคนข้างกายพร้อมคลี่ยิ้มบางเบาก่อนเอ่ยประโยคต่อไป“ในเมื่อที่นี่น่าอยู่ ทำไมคุณไม่อยู่เลยล่ะ... ยาหยี”“คะ...คือฉัน” สุพิชญาออกอาการติดอ่างขึ้นมาทันใด หญิงสาวไม่คิดว่าจะได้ยินคำเชิญชวนแสนง่ายนั้น แต่ก่อนที่เธอจะได้เอ่ยคำใดต่อไป ดิเอโกก็แทรกขึ้นด้วยประโยคที่ชวนให้เธออารมณ์กรุ่นขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยระลึกได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นเธอไม่ได้เต็มใจสักนิด“ผมยินดีนะถ้าคุณจะอยู่กับผมที่นี่มากกว่าหนึ่งเดือน ตามข้อตกลงนั่น”“ฉันบอกคุณกี่ครั้งแล้วคะ ว่าฉันไม่รู้เรื่องข้อตกลงอะไรนั่น คุ
“ว้าย... ดิเอโก!! ตามเข้ามาทำไมคะ” เสียงหวานอุทานลั่นด้วยความตื่นตระหนกเมื่อเธอเดินเข้าห้องน้ำไปแล้ว แต่ก่อนที่จะทันได้ปิดประตู ดิเอโกก็แทรกตัวเข้ามาแล้วจัดการปิดล็อกเสียเอง สุพิชญาเบิกตากว้างมองเขาอย่างหวาดหวั่น เธอรู้ตัวดีว่าลงเขาเข้ามาด้วยแบบนี้ เธอไม่มีทางจะรอดพ้นจากเพลิงพิศวาสของเขาไปได้อย่างแน่นอน“ฉันร้อนอยากอาบน้ำ คุณออกไปสิคะ”“ผมก็ร้อนมาก ผมเลยคิดว่าเราน่าจะอาบพร้อมกันดีกว่านะ จะได้ไม่เสียเวลา”“ดิเอโก! อุ๊ย!” สุพิชญาอุทานขานชื่อนั้นอย่างตกใจแล้วก็ยิ่งตกใจยิ่งกว่าเมื่อเจ้าพ่อใหญ่ตรงเข้ารวบร่างน้อยเข้าหา หญิงสาวตระหนักทันทีว่าจะเกิดอะไรขึ้นนับจากวินาทีนี้ไป“อย่า... ” เสียงหวานร้องห้ามสั่นพร่า แต่ทว่าหาได้หยุดยั้งเจ้าพ่อใหญ่ได้ เพราะฝ่ามือร้อนเริ่มลูบไล้รุกไล่ไปทั่วเรือนกาย ปลายจมูกโด่งก็ซุกซนไปทั่วหัวใจสาวสั่นระรัวเมื่อถูกดันร่างแนบชิดติดผนังห้องน้ำ ปลายนิ้วแกร่งรุกไล่ปลดเปลื้องเสื้อตัวสวยออกจากเรือนร่างราวต้องการตกย้ำให้เธอตระหนักว่า อย่างไรเสียเขาก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจแน่นอน และจ
“เกาะอะไรคะดิเอโก” ถามเมื่อสายตาสบเข้ากับเกาะขนาดย่อมตรงหน้า ตามการคาดเดาด้วยสายตาสุพิชญาคิดว่าอีกไม่ถึงสิบนาที เธอและเขาก็จะถึงที่นั่น อารมณ์ขุ่นมัวที่อีกฝ่ายเอาแต่ใจไม่ยอมให้เธอได้ออกความเห็นหรือเรียกร้องสิทธิ์ใดๆ มลายหายไปสิ้นตั้งแต่ขึ้นเรือมาสุพิชญายอมรับว่า ยามที่ทอดสายตามองออกไปยังท้องทะเลที่กว้างไกลพร้อมปล่อยให้ผิวกายปะทะเข้ากับลมทะเลที่โบกพัดมาทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายขึ้น จนมีกะจิตกะใจที่จะหันไปชวนเจ้าพ่อใหญ่พูดคุย แต่ทว่าคำตอบที่ได้รับกลับมาทำให้แทบอยากเข่นฆ่าเขาเสียเดี๋ยวนั้น“เกาะผมให้แน่นๆ ไงครับยาหยี หรือจะให้ผมเกาะคุณดี ผมเกาะไม่ปล่อยนะจะบอกให้” เขาตอบพลางโน้มกายเข้าหาราวกับว่าจะเกาะกอดเธอต่อหน้าบอดี้การ์ดจริงๆ การกระทำนั้นเรียกเสียงหวีดร้องของหญิงสาวได้เป็นอย่างดี“คนบ้า! คนผี! ฉันหมายถึงเกาะนี้ต่างหาก ชื่อเกาะอะไร” สุพิชญาตวาดเสียงเข้มนัยน์ตาขุ่นเขียวเรียวปากสวยเม้มเข้าหากันอย่างขัดใจ นั่นเรียกเสียงหัวเราะขบขันจากดิเอโกได้มากมายนัก“ฮ่าๆๆ ก็คุณไม่ได้ถามแบบนี้นี่”“นี่คุณอย่ามาเล่นลิ้นนะ” หญิงสาวตั้งท่าข่มขู่ตาโต แต่เจ้าพ่อใหญ่กลับหายำเกรงไม่ ยังคงหยอกเย้าเธฮต่อไปแต่ก็กึ