ความคิดสะดุดลงฉับพลันเมื่อดิเอโกส่งฝ่ามือร้อนเข้ากอบกุมทรวงอกนุ่มหยุ่นอย่างถือสิทธิ์ กายสาวเริ่มบิดเร่าราวถูกของร้อนเพราะหลังก้อนเนื้อนุ่มถูกครอบครองไว้ในอุ้งมือ เจ้าพ่อใหญ่ก็โน้มตัวต่ำลงพร้อมส่งปลายลิ้นร้อนตวัดไล้ปลายยอดสีหวานที่ชูชันอวดโฉมเชิญชวนให้ลองลิ้มชิมรสว่าหอมหวานเฉกเช่นเดียวกับรูปโฉมที่เย้ายวนตาหรือไม่
หัวใจดวงน้อยแทบหลุดลอยตามเพราะเขาเพียงแค่ตวัดไล้แผ่วเบาแต่ไม่ยอมคลุกเคล้าหนักหน่วงอย่างที่ส่วนลึกในใจเรียกร้อง เสียงหวานกรีดร้องก้องในลำคอราวทุกข์ทรมานเหลือแสนเมื่อเจ้าพ่อใหญ่ไม่ใส่ใจที่จะครอบครองก้อนเนื้อนุ่มมากไปกว่านั้นกลับกันกลับส่งปลายจมูกโด่งและ ริมฝีปากบางเฉียบเลาะเลียบลงไปตามหน้าท้องแบนราบพรมจูบแผ่วเบาราวกลัวว่าเรือนร่างบอบบางจะบุบสลาย เพียงเท่านั้นกายสาวก็ดิ้นพล่านอย่างทุรนทุราย
มือน้อยร้าวระบมไปหมดเพราะเจ้าของออกแรงบิดหวังให้หลุดพ้นจากพันธนาการนั้น ดิเอโกกระตุกยิ้มย่องอย่างลำพองใจยามนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาผืนผ้าที่พันธนาการข้อมือบางอีกต่อไปเขาจะใช้ประสบการณ์อันเหนือชั้นจัดการปราบพยศคนอวดดีให้สิ้นฤทธิ์และยินยอมพร้อมใจไปกับเขาเฉกเช่นวันวาน
เพียงแค่ถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระเรียวแขนสวยก็ผวาเกาะกอดเรือนกายแกร่งแนบแน่นพร้อมกับแอ่นอกรองรับอุ้งปากร้อนชื้นที่ตรงเข้าดูดกลืนสตรอเบอร์รี่รสหวานซ่อนเปรี้ยวแทบทันทีอย่างไม่รีรอให้อีกฝ่ายได้ยั้งสติตั้งตัวต่อต้านสักนิด สองกายเบียดชิดเข้าหากันอย่างต้องการเติมเต็มให้แก่กัน
ดิเอโกครางฮือเมื่อมือน้อยเริ่มลูบไล้ปัดป่ายไปทั่วยามเขานัวเนียเก็บเกี่ยวความหอมหวานของทรวงอกสล้าง เสียงหวานที่ครวญครางอย่างอึดอัดในลำคอทำให้เจ้าพ่อใหญ่ต้องผงกศีรษะสวยขึ้นอย่างนึกได้ว่าคนใต้การบังคับยังถูกผืนผ้าพันธนาการเรียวปากไว้ กายหนาเคลื่อนสูงขึ้นพร้อมยื่นมือไปปลดเปลื้องราวต้องการคืนอิสรภาพให้อีกฝ่าย แต่เพียงแค่ผืนผ้าลอยละล่องไปอย่างไร้ทิศทาง ริมฝีปากบางเฉียบก็ตรงเข้าพันธนาการกลีบปากนุ่มนิ่มนั้นแทนไม่รั้งรอให้เจ้าของได้มีโอกาสทักท้วงแต่อย่างใด
หัวใจสาวหวามไหวไปกับสัมผัสรวดเร็วนั้น สุพิชญาไม่อาจปฏิเสธตัวเองได้ว่ายามนี้เธออยากให้เขาสัมผัสแนบแน่นมากกว่าผลักไส แม้จะไม่ได้เริ่มที่ความเต็มใจแต่ร่างกายเธอกลับคล้อยตามเขาอย่างไม่มีปฏิกิริยาต่อต้านสักนิด ยิ่งเขาแนบชิดเชยชมเธอมากเท่าไร ลึกๆ ในใจเธอกลับภาคภูมิที่อีกฝ่ายหลงใหลเสน่หา
ที่เป็นเช่นนี้เพราะเธอรู้สึกดีกับดิเอโกจริงๆ หรือเพียงต้องการชดเชยความรู้สึกในใจที่เธอถูกอดีตคนรักอย่างอติรัญจ์หักหลังอย่างไม่เห็นคุณค่าในตัวเธอกันแน่ คิดเพียงเท่านี้ความเปรมปรีดิ์ที่เจ้าพ่อใหญ่กำลังปรนเปรอสวาทให้พลันหยุดชะงัก มือน้อยผลักไสเขาออกอย่างแรงราวกับถูกของร้อน ดิเอโกที่ไม่ทันตั้งตัวผละออกตามแรงนั้น เจ้าพ่อใหญ่งงงันกับท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วของเธอ!
สุพิชญาพลิกกายหนีหวังถอยห่างแต่ทว่ากลับช้ากว่าดิเอโกที่โถมกายเข้าหาแล้วตรึงร่างบางไว้ภายใต้เรือนกายอันหนาแน่นที่ปราศจากอาภรณ์ห่อหุ้มอีกหน หญิงสาวไม่รู้ว่าเขาปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกไปจากกายแกร่งตั้งแต่ตอนไหน แต่นั่นไม่สำคัญเท่าใบหน้าคมเข้มยามนี้ที่ดูดุดันจนสุพิชญาใจสั่น ริมฝีปากนุ่มขยับจะวอนขอแต่อีกฝ่ายไม่รั้งรอให้มีวาจาใดเอื้อนเอ่ยออกมา เพราะเพียงแค่กลีบปากอิ่มขยับแย้ม ริมฝีปากบางเฉียบก็ฉกลงมาประกบแนบแน่นทันควัน
ปลายลิ้นร้อนดุนดันแทรกผ่านเข้าไปซุกไซ้ในโพรงปากหวานอย่างเอาแต่ใจเนิ่นนานเสียจนสุพิชญาแทบขาดใจ และคงเป็นเช่นนั้นจริงๆ หากดิเอโกไม่ถอยห่าง แต่ร่างบางก็ต้องผวาเมื่อฝ่ามือหนายื่นมาใช้ปลายนิ้วเกาะเกี่ยวขอบชั้นในตัวจ้อยดึงรวดเดียวก็หลุดออกจากเรียวขาสวยจากนั้นก็แยกเรียวขากลมกลึงออกจากกันอย่างรวดเร็วดึงรั้งสะโพกงามให้เข้าประชิดหลังจากเรือนกายแกร่งลุกขึ้นนั่งในท่าคุกเข่า ดิเอโกจับจ้องมองกลางกายสาวอย่างมุ่งมั่น เตรียมพร้อมเข้าโรมรันหวังกำราบอีกฝ่ายให้ปราชัย แต่ทว่า...
“ดิเอโกอย่าค่ะ... ได้โปรด... อย่า!” เสียงหวานวอนขอพร้อมเจ้าของส่งมือน้อยยื้อยุดข้อมือแกร่งที่ประคองแก่นกายหมายมุ่งตรงเข้าสู่ซอกเนื้อนุ่ม ดิเอโกแม้จะร้อนรุ่มจวนเจียนจะยั้งใจไม่ไหวกลับชะงักไปอึดใจกับถ้อยคำวอนขอนั้น
ไม่รู้เพราะอะไรน้ำเสียงที่ออกอาการสั่นสะท้านของสุพิชญาถึงกระชากใจเขาอย่างแรง ซ้ำเมื่อตวัดสายตาขึ้นมองก็พบกับดวงตาที่เริ่มแดงเรื่อราวเจ้าของกำลังจะร่ำไห้เสียเดี๋ยวนั้น ดิเอโกหลุบตาหลบพยายามไม่ใส่ใจเพราะยามนี้เขามุ่งแต่อยากส่งท่อนกายเข้าไปสัมผัสในซอกหลืบแนบแน่นแสนคุ้นเคยนั้นโดยเร็ว แต่ยังไม่ทันที่เจ้าพ่อใหญ่จะได้ทำตามดังใจนึกคิดสุพิชญาก็วอนขอขึ้นมาอีกหน
“อย่าทำอะไรฉันอีกเลยนะคะดิเอโก ฉันขอร้อง ฉัน... ฮึก! ฮือ...”
“พิชชา... คุณ!” ดิเอโกเอ่ยได้เพียงเท่านั้นพลันอารมณ์ดิบที่พุ่งพล่านก็มลายหายไปสิ้นเมื่อดวงตาคู่สนิมสบเข้ากับธารน้ำตาที่หลั่งรินไม่ขาดสาย เสียงสะอื้นไห้ของอีกฝ่ายทำเอาเจ้าพ่อใหญ่ทำตัวไม่ถูกไปชั่วขณะ!
“ดิเอโก... ได้โปรด ฉันขอร้อง อย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ จะให้ฉันทำอะไรก็ได้ จะให้คุกเข่าวอนขอคุณฉันทำได้ทั้งนั้น แต่ขอร้องอย่า... ”
“หยุดเถอะยาหยี ไม่ร้องไห้นะครับ” ปลอบโยนด้วยเสียงนุ่มทุ้มพลางโน้มกายต่ำลงโอบกอดอีกฝ่ายพร้อมใช้ปลายนิ้วแกร่งปาดไล้ธารน้ำตาให้พ้นจากพวงแก้ม แต่ทว่าดูเหมือนสุพิชญาจะบ่อน้ำตาแตกเสียแล้ว เพราะยิ่งดิเอโกแสดงการกระทำที่นุ่มนวลต่อเธอมากเท่าไร ธารน้ำตาก็ยิ่งหลั่งไหลไม่ขาดสายซ้ำร้ายยังยิ่งสะอื้นไห้หนักเข้า
อาการร้องไห้จนตัวโยนของคนในอ้อมกอดกลับจี้กลางใจดิเอโกอย่างแรง เจ้าพ่อใหญ่ผละออกห่างราวโดนถ่านที่ติดไฟร้อนแรงนาบเข้าให้อย่างจัง เขาโหดร้ายกับเธอมากมายขนาดนั้นเชียวหรือถึงได้ร้องไห้ปานจะขาดใจตายเสียกระนั้น ท้ายสุดเมื่อไม่อาจหยุดยั้งอีกฝ่ายให้สงบลงได้เจ้าพ่อใหญ่จึงต้องใช้ไม้ตายเพื่อสยบคนตรงหน้า
“โธ่โว้ย! หยุดร้องไห้ซะที บอกให้หยุด! เข้าใจไหม”
ได้ผล! สุพิชญาชะงักอึ้งไปชั่วอึดใจ แม้จะยังมีธารน้ำตาหลั่งไหล แต่ทว่าอาการสะอื้นไห้กลับสงบลงเดี๋ยวนั้น ดวงตาคู่งามเบิกกว้างมองเจ้าพ่อใหญ่ที่ยามนี้ใบหน้าถมึงทึงราวเกรี้ยวกราดเหลือแสนอย่างตกตะลึง
“เฮเลน! ส่งคนเอาเสื้อผ้ามาให้มิสแล้วพาเธอไปพักผ่อน” เสียงเข้มดุสั่งการผ่านอินเตอร์คอม และเพียงจบคำเจ้าพ่อใหญ่ก็คว้าเสื้อคลุมมาสวมใส่แล้วเดินออกไปจากห้องทิ้งให้สุพิชญามองตามด้วยความงงงัน
เพียงไม่นานเฮเลนก็นำสาวรับใช้เข้ามาตามคำสั่งของดิเอโกแล้วนำพาเธอไปยังอีกห้อง ตลอดทางสุพิชญาสอดส่องสายตามองหาแต่ทว่าเธอกลับไม่เห็นแม้เงาของเจ้าพ่อใหญ่ หัวใจสาวเบาโหวงขึ้นมาอย่างที่สุพิชญาไม่เข้าใจตัวเอง เธอน่าจะรู้สึกดีไม่ใช่หรือ แต่ทำไมเธอถึงรู้สึกเหน็บหนาวเช่นนี้!
“บัดซบ! ไอ้ดิเอโก มึงกล้าตบตากู วันนี้กูจะทำให้มึงรู้ว่าคนอย่างกูฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ ซาอิคเตรียมคนเอารถออกกูจะไปรังไอ้ดิเอโก” เสียงทรงอำนาจตวาดอย่างเกรี้ยวกราด เมื่อได้รับรู้ข้อมูลจากทนายความส่วนตัวว่า เอกสารการโอนกรรมสิทธิ์เดอะไนท์คาสิโนและกิจการบนเกาะบาหลันเป็นโมฆะเพราะไม่มีลายเซ็นของบลาลอส เวนนิส อดีตเจ้าพ่อผู้ชุบเลี้ยงดิเอโกมา นับตั้งแต่วางมือจากวงการและส่งมอบให้ดิเอโกสานต่อก็ไม่มีใครรู้เลยว่าเฒ่าบลาลอสไปอยู่ที่ใดในโลกนี้ นั่นจึงทำให้ เดฟ อัลเดอร์ลัส ถึงกับคุ้มคลั่งอยากไปฆ่าดิเอโกให้ตายกับมือเสียเดี๋ยวนั้น “เดฟครับ แต่ว่า... ” “กูสั่งไม่ได้ยินหรือไง” ตวาดดังลั่นอีกครั้งเมื่อบอดี้การ์ดคนสนิทตั้งท่าจะท้วงติง แต่ดูเหมือนซาอิคจะไม่ใส่ใจกับคำด่ากราดนั่น บอดี้การ์ดหนุ่มยังคงเอ่ยวาจาทัดทานต่อไปอย่างไม่เกรงกลัวอารมณ์ของผู้เป็นนาย “ได้ยินครับเดฟ แต่ผมคงทำตามคำสั่งเดฟไม่ได้” “ซาอิคมึงกล้าขัดคำสั่งกูงั้นเหรอ” กระชากคอเสื้อมาถามด้วยแรงโทสะที่พวยพุ่งขึ้นจนยากที่จะหักห้ามอารมณ์ได้ ฟากซาอิคยังคงสีหน้านิ่งไม่ไหวติง ไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ มีเ
“ว่าไงครับ” ถามย้ำอีกรอบไม่สนใจสีหน้าบ่งบอกอาการบุญไม่รับของอีกฝ่าย สุพิชญาได้แต่เข่นเขี้ยวในใจที่ไม่อาจทำอะไรดิเอโกได้ หญิงสาวจึงหย่อนกายนั่งลงอย่างกระแทกกระทั้น ดิเอโกกระตุกยิ้มอย่างพึงพอใจพร้อมไหวไหล่อย่างผู้ชนะ“ก็แค่นั้น”สุพิชญาหน้าบูดบึ้งมากกว่าเดิมหลายเท่าตัวเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำท่าคล้ายหัวเราะยั่วยวนยามเอ่ยวาจานั้น แต่เธอก็ไม่คิดจะโต้ตอบให้ป่วยการเพราะรู้ดีว่าอย่างไรเสียก็คงไม่สามารถเอาชนะผู้ชายบ้าอำนาจตรงหน้าไปได้“เมื่อคืนนอนไม่หลับหรือว่าท้องผูกล่ะยาหยี”“คะ” ขานรับอย่างงงงันกับคำถามที่แสนกวนนั้นดิเอโกยิ้มขันกับอาการตาโตหน้าเหวอของอีกฝ่าย เจ้าพ่อใหญ่รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก แต่ที่แน่ๆ เขาชอบให้เธอทำหน้าตาตื่น โวยวายเอากับเขามากกว่าร้องไห้หนักหน่วงเฉกเช่นวันนั้น“ผมเพิ่งรู้ว่าเดี๋ยวนี้คุณกลายเป็นคนชอบให้ผมพูดซ้ำๆ” เขาเอ่ยพร้อมรอยยิ้มขันระบายเต็มใบหน้า สุพิชญาได้แต่ตะลึงอึ้งกับดวงตาพราวระยับและรอยยิ้มแสนเสน่หานั้น หัวใจสาวแกว่งไกวขึ้นมาทันใด เธอยอมรับว่าเวลานี้เขาช่างหล่อบาดตาบาดใจมากกว่ายามทำหน้าเคร่งขรึมหลายเท่านัก“ตกลงคุณมีอะไรพูดกับฉันคะ ถ้าไม่มีฉันจะกลับ” ยังคงตอบกลับอย่าง
“งั้นเราก็มาต่อกันอีกหลายๆ ครั้งแล้วกันนะยาหยี เผื่อคุณจะระลึกได้ว่าผมเป็นสามีคุณ”“อ๊ายยย... ดิเอโก! ปล่อยนะไอ้คนบ้า ไอ้คนหื่นกาม ปล่อย! ว้าย!” ท้ายประโยคหวีดร้องสุดเสียงเมื่อเจ้าพ่อใหญ่ทุ่มร่างน้อยลงบนเตียงกว้างแล้วก้าวย่างขึ้นตามติดประชิดตัวไม่เปิดช่องให้เธอได้ถอยหนี นั่นยังไม่ร้ายเท่ามือน้อยทั้งสองข้างถูกขึงตรึงกางแนบไปกับเตียงกว้าง ทรวงอกนุ่มหยุ่นขยับขึ้นลงรัวเร็วตามแรงหายใจหอบถี่ เรียวขาสวยถูกเรือนกายท่อนร่างของเขาตรึงไว้แน่นจนไม่อาจดิ้นหนีได้“ร้องไปนะยาหยีร้องให้ดังๆ เพราะเวลาคุณครวญครางมันดังกว่านี้หลายเท่านัก”“กรี๊ดดดด... อื้ม!”สุพิชญาพยายามเบี่ยงหน้าหลบหนีไม่ยอมให้อีกฝ่ายครอบครองกลีบปากนุ่มนิ่มตามใจชอบ แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้เพราะเจ้าพ่อใหญ่ก็ตามติดประกบปิดริมฝีปากแสนหวานได้ในที่สุด และนั่นก็ทำให้หัวใจดวงน้อยแทบหยุดเต้นเพราะเขาทั้งขบเม้มดูดดื่มราวกับหิวกระหายมาแรมปี จุมพิตเร่าร้อนรุนแรงช่างยาวนานไม่เปิดช่องให้เธอได้หายใจสักนิดสุพิชญาคิดว่าเธอจะขาดอากาศหายใจเสียให้ได้ เพราะยามนี้เธอเริ่มหายใจติดขัดแต่เหมือนดิเอโกจะล่วงรู้ เจ้าพ่อใหญ่จึงปล่อยกลีบปากนุ่มนิ่มให้เป็นอิสระ แต่ท
บรรยากาศยามเช้าวันนี้ช่างอบอุ่นหัวใจเสียเหลือเกินในความรู้สึกของสุพิชญา หญิงสาวทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่างห้องนอนปล่อยใจให้ล่องลอยไปบนท้องฟ้ากว้าง ดวงตาคู่งามเหม่อมองไปไกลจนสุดปลายสายรุ้งที่ตรงโค้งฟ้า เธอไม่อาจปฏิเสธได้ว่าช่วงค่ำคืนที่ผ่านมาเธอไม่ได้เศร้าเสียใจสักนิด แต่กลับกันเธอกลับรู้สึกเหมือนเสี้ยวหนึ่งของชีวิตได้รับการเติมเต็มดิเอโกทำให้เธอสั่นสะท้านไปกับทุกสัมผัสที่เร่าร้อนของเขา คำว่า “สามี” ที่เขาเฝ้าตอกย้ำให้เธอจดจำราวสายฝนที่โปรยปรายจนชุ่มฉ่ำในหัวใจ แม้จะไม่มีการเอ่ยคำว่ารัก แต่ทุกการกระทำที่เขาแสดงออกว่าหลงใหลคลั่งไคล้ในตัวเธอนั้นมันสำคัญกว่าสิ่งอื่นใดแม้เช้านี้ตื่นขึ้นมาข้างกายจะไร้ซึ่งเรือนกายแกร่งที่เธอกอดก่ายเมื่อตอนรุ่งสาง แต่ทว่านั่นไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกมัวหมองสักนิด แม้ในใจลึกๆ จะผิดหวังที่ไม่ได้เจอหน้าเขาเมื่อยามลืมตาตื่นขึ้นมา เหตุใดหนอเธอจึงเป็นไปได้มากมายเช่นนี้ ทั้งที่ปากบอกรังเกียจ แต่เพียงได้ชิดใกล้ เขากลับมาวิ่งวุ่นวายอยู่ในใจเธอไม่ว่างเว้น อารมณ์หงุดหงิดขุ่นเคืองใจเมื่อหลายวันก่อนหายไปไหนกัน ดิเอโกมีอิทธิพลกับเธอมากถึงเพียงนี้เชียวหรือ ไม่เคยรู้จักแต่กลับป
เพียงริมฝีปากนุ่มสัมผัสแผ่วเบาเจ้าพ่อใหญ่ก็เผยอแย้มเรียวปากกว้างขึ้นเปิดช่องให้อีกฝ่ายสอดใส่ปลายลิ้นเล็กเข้าไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ ส่วนสะโพกสอบก็ขยับขับเคลื่อนท่อนกายแกร่งที่บัดนี้แฝงตัวอย่างองอาจวาดลวดลายอยู่ในซอกหลืบนุ่ม ธารน้ำหลั่งไหลอาบตัวตนแห่งความเป็นชายจนชุ่มฉ่ำถ้วนทั่ว ยิ่งสุพิชญามอบจุมพิตแบบกล้าๆ กลัวๆ เขาก็ยิ่งเร่งจังหวะรัวเร็วขึ้นเพื่อให้อีกฝ่ายได้ปลดปล่อยตัวตนข้างในออกมาสุพิชญาลืมเลือนไปเสียแล้วว่าเธอตั้งใจปฏิเสธเขาตั้งแต่แรก เพราะเพียงเขาแทรกกายผ่านกลางกายเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว หัวใจเธอก็เต้นรัวเร็วทั้งตื่นตระหนก ทั้งหวามไหว ปั่นป่วนไปทั่วเรือนกาย เธอไม่คิดว่าดิเอโกจะจู่โจมฝากฝังความเป็นชายเข้าในเรือนร่างของเธอรวดเร็วเช่นนั้น ซ้ำยังแสดงลีลารักผาดโผนแบบไม่คิดเกรงใจฟ้าดิน ด้วยยามนี้ ณ ตรงที่เขาวาดลวดลายมันคือผนังกระจกทั้งด้านที่มองเห็นวิวทิวทัศน์ภายนอกถ้วนทั่ว แต่ที่ร้ายกว่านั้นคือบานกระจกใสจนภายนอกมองเข้ามาเห็นภายในได้เกือบทั่วทุกตารางนิ้วแต่ดูเหมือนว่าเจ้าพ่อใหญ่จะไม่ใส่ใจ เพราะเพียงตวัดเสื้อคลุมตัวโคร่งออกจากร่างเธอแล้วปลดเปลื้องพันธนาการเรือนกายท่อนร่างของตัวเองออกเขาก็สอ
ภายในห้องพักสุดหรูของบ้านพักตากอากาศในพื้นที่ส่วนบุคคลหลายร้อยไร่บนเกาะบาหลียามนี้ บรรยากาศภายในห้องช่างสุดแสนโรแมนติก แสงนวลสีเหลืองอ่อนจากโคมไฟระย้าที่ตกกระทบผนังห้องสีครีมชวนให้เกิดแสงสว่างนุ่มนวลตา บนเตียงกว้างด้านหนึ่งของห้องปรากฏเรือนร่างของหญิงสาวทรวดทรงสุดเซ็กซี่ภายใต้ชุดราตรีสั้นสีเขียวมรกตขับให้ผิวนวลดูผุดผ่องต้องตาตรงหน้าประตูห้องน้ำที่เพิ่งแง้มออก ร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มชาวสเปนผู้มีเชื้อสายละตินวัยสามสิบห้าปี ผมหยักศกสีน้ำตาลเข้มตัดรองทรงดูยุ่งเหยิงน้อยๆ ด้วยผ้าขนหนูสีขาวที่ถูกฝ่ามือใหญ่ยกขึ้นซับน้ำให้พอแห้งหมาดๆ ดวงตาสีสนิมจับจ้องเรือนร่างยวนตาบนเตียงกว้างอย่างพอใจ เขารู้สึกหัวใจเต้นแรงขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกระตุ้นความต้องการของเขามากเท่านี้สองเท้าค่อยๆ ก้าวเข้าหาเตียงกว้างก่อนที่จะหยุดข้างเตียงและหย่อนกายนั่งลงข้างเรือนร่างโปร่งบาง ริมฝีปากบางเฉียบกระตุกยิ้มอย่างพึงพอใจยามยื่นฝ่ามือหนาออกไปสัมผัสลูบไล้นวลเนื้อเนียนตรงต้นแขนเรียวอย่างแผ่วเบา ไม่น่าเชื่อว่าเพียงเท่านั้นเรือนกายแกร่งก็ออกอาการสั่นเทาราวเป็นไข้ ดวงตาสีสนิมตวัดไล้ไปทั่วเรือนร่างราวต้อ
กายสาวกระตุกเฮือกราวหวาดผวาเมื่อยอดดอกบัวงามสัมผัสถึงความร้อนชื้นในโพรงปากนุ่มที่เข้าครอบครองดื่มด่ำราวกำลังหิวกระหายหลังจากฝ่ามือร้อนระอุบรรจงสรรค์สร้างให้ก้อนเนื้อนุ่มกลายเป็นดอกบัวคู่งามชูชันแข่งกันอวดโฉมรอเหล่าภมรมาคลอเคล้าเสียงหวีดร้องขัดขืนแปรเปลี่ยนเป็นครวญครางกระเส่าด้วยรู้สึกเร่าร้อนไปทั้งกายและใจยามทั้งมือและอุ้งปากที่เต็มไปด้วยธารน้ำอุ่นซ่านสลับสับกันคลึงเคล้าด้วยท่วงทำนองที่สอดประสานกันราวกำลังบรรจงสรรค์สร้างดอกบัวคู่งามให้เป็นงานศิลป์อันตระการตาแรงขัดขืนค่อยๆ ลดน้อยถอยลงจนแทบมลายหายไปสิ้น ทั้งที่ใจอยากต่อต้านแต่กายกลับไหวสะท้านสั่นระริกไปกับสัมผัสแปลกใหม่จากชายแปลกหน้าชนิดที่หญิงสาวผู้รักนวลสงวนตัวอย่าง สุพิชญา นาฏดิลก ไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นในชีวิตนี้เรียวแขนอันงดงามผวาเข้ากอดรัดต้นคอแกร่งแน่นอย่างหวาดผวา เพราะเพียงฝ่ามือใหญ่ปลดปล่อยข้อมือน้อยทั้งสองข้างให้หลุดออกจากพันธนาการ เรือนร่างบอบบางก็ถูกผลักให้นอนราบทาบทับลงไปกับเตียงกว้าง ทุกการกระทำช่างรวดเร็วเสียจนหญิงสาวไม่มีโอกาสดึงสติให้กลับมาสมบูรณ์พร้อม เพียงเธอผวาเกาะกอด เรือนกายแข็งแกร่งก็โน้มทาบทับลงมาและเริ่มรุกเร้
“เห็นไหม... มันก็เหมือนๆ กับที่คุณเคยสัมผัส มันอาจจะใหญ่กว่าแต่ผมสัญญาว่าคุณกับมันจะเข้ากันได้ดี” ดิเอโกกระซิบปลอบประโลมดวงตา สีสนิมจับจ้องดวงตาคู่หวานราวต้องการถ่ายทอดความอบอุ่นไปให้“ดะ...ดิเอโก ฉันไม่” สุพิชญาพยายามทักท้วงว่าเขากำลังเข้าใจผิด แต่สติแทบหลุดเมื่ออีกฝ่ายจับกุมมือน้อยของเธอไว้มั่นไม่ยอมปล่อย ซ้ำยังบังคับให้ขยับเขยื้อนลูบคลำส่วนนั้นของร่างกายที่กำลังตื่นตัวตอบรับสัมผัสจากเธออย่างเริงร่า“ปะ...ปล่อย! ได้โปรด... ” สุพิชญาพยายามวิงวอนอีกครั้ง ใจดวงน้อยทั้งหวาดหวั่นและหวามไหว ใจหนึ่งใคร่อยากรู้อยากเห็นอยากลิ้มลองสัมผัสแสนวาบหวามนี้ต่อไปไม่สิ้นสุด แต่ใจหนึ่งยื้อยุดให้ตระหนักถึงศีลธรรมอันดีงาม ยามนี้ไฟราคะกำลังปะทะกับสำนึกฝ่ายดีจนหญิงสาวแทบอยาก กรีดร้องระบายความอึดอัดที่แสนทรมานนั้นให้หมดไป“มาถึงขั้นนี้แล้วจะให้ผมถอยง่ายๆ ได้ไงยาหยี” เจ้าพ่อใหญ่กระซิบด้วยเสียงแหบพร่า ปล่อยมือน้อยให้เป็นอิสระแล้วเปลี่ยนเป้าหมายลากไล้ทักทายจุดกระสันเพื่อสร้างความซาบซ่านให้อีกฝ่ายทันที“ดะ...ดิเอโก อย่า... อื้อ!” เสียงหวานขยับจะทักท้วงแต่เพียงแค่เอ่ยห้ามปลายเสียงก็กลับกลายเป็นครวญครางเมื่อเจ้