เพียงริมฝีปากนุ่มสัมผัสแผ่วเบาเจ้าพ่อใหญ่ก็เผยอแย้มเรียวปากกว้างขึ้นเปิดช่องให้อีกฝ่ายสอดใส่ปลายลิ้นเล็กเข้าไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ ส่วนสะโพกสอบก็ขยับขับเคลื่อนท่อนกายแกร่งที่บัดนี้แฝงตัวอย่างองอาจวาดลวดลายอยู่ในซอกหลืบนุ่ม ธารน้ำหลั่งไหลอาบตัวตนแห่งความเป็นชายจนชุ่มฉ่ำถ้วนทั่ว ยิ่งสุพิชญามอบจุมพิตแบบกล้าๆ กลัวๆ เขาก็ยิ่งเร่งจังหวะรัวเร็วขึ้นเพื่อให้อีกฝ่ายได้ปลดปล่อยตัวตนข้างในออกมา
สุพิชญาลืมเลือนไปเสียแล้วว่าเธอตั้งใจปฏิเสธเขาตั้งแต่แรก เพราะเพียงเขาแทรกกายผ่านกลางกายเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว หัวใจเธอก็เต้นรัวเร็วทั้งตื่นตระหนก ทั้งหวามไหว ปั่นป่วนไปทั่วเรือนกาย เธอไม่คิดว่าดิเอโกจะจู่โจมฝากฝังความเป็นชายเข้าในเรือนร่างของเธอรวดเร็วเช่นนั้น ซ้ำยังแสดงลีลารักผาดโผนแบบไม่คิดเกรงใจฟ้าดิน ด้วยยามนี้ ณ ตรงที่เขาวาดลวดลายมันคือผนังกระจกทั้งด้านที่มองเห็นวิวทิวทัศน์ภายนอกถ้วนทั่ว แต่ที่ร้ายกว่านั้นคือบานกระจกใสจนภายนอกมองเข้ามาเห็นภายในได้เกือบทั่วทุกตารางนิ้ว
แต่ดูเหมือนว่าเจ้าพ่อใหญ่จะไม่ใส่ใจ เพราะเพียงตวัดเสื้อคลุมตัวโคร่งออกจากร่างเธอแล้วปลดเปลื้องพันธนาการเรือนกายท่อนร่างของตัวเองออกเขาก็สอดใส่อาวุธร้ายเข้าจู่โจมเธอทันที แม้จะอยากหลีกหนีแต่ด้วยท่วงท่าที่ช่ำชองเหนือชั้นกว่าก็พาเธอที่หวาดผวาคล้อยตามได้โดยง่าย เรียวขาสวยกระหวัดรัดเรือนกายแกร่งมั่นยามถูกคุกคามกลางกาย
ยามนี้เรือนร่างบอบบางราวถูกอัดบีบให้เป็นเนื้อเดียวกับบานกระจกกว้าง แผ่นหลังบอบบางบดเบียดกับเนื้อกระจกจนแทบกลืนกินเป็นเนื้อเดียวกัน ยิ่งอีกฝ่ายโรมรันขับเคลื่อนเข้ายึดครองพื้นที่นวลเนื้อก็ยิ่งเบียดเสียดกับเนื้อกระจกแนบแน่น
“ชู่ว... ใจเย็นก่อนนะครับยาหยี” กระซิบบอกเมื่อผละศีรษะออกห่างแล้วคนร่างบางยังตามติดหมายแนบชิดจุมพิตดูดดื่ม สุพิชญาปรือตามองเมื่อเขาค่อยๆ ถอดถอยกายแกร่งออกแล้วจับให้เธอยืนหยัดกับพื้นพรมนุ่มอีกครั้ง หญิงสาวกระพริบตาปริบๆ อย่างมึนงงที่จู่ๆ เขาก็หยุดการกระทำอันเร่าร้อน แต่เพียงเสี้ยววินาทีเธอก็เข้าใจดีในการกระทำนั้น เมื่อดิเอโกจับกายเธอหมุนให้หันหน้าเข้าหาบานกระจกเนื้อแน่น
เพียงทรวงอกนุ่มนาบไปกับกระจกบานใหญ่ดิเอโกก็ดึงรั้งสะโพกงามงอนให้ออกห่างกระจกบานนั้นแล้วส่งท่อนกายล่วงล้ำเข้าไปในซอกอุ่นนุ่มอีกหน ครานี้คนที่กำลังมึนงงถึงกับครางฮือ... ดวงตาที่ปรือเบิกกว้างอย่างตกใจเพราะสายตาสบเข้ากับทิวทัศน์ภายนอกอย่างจัง! เขากำลังบรรเลงเพลงรักอย่างอุกอาจไม่เกรงกลัวสักนิดว่าจะมีใครสอดส่องมองเข้ามาหรือไม่ หัวใจสาวไหวพลิ้วเป็นริ้วคลื่นตื่นตะลึงกึ่งวาบหวามกับบทรักท่ามกลางทิวทัศน์ที่กว้างไกลในเวลานี้
สุพิชญาไม่รู้ว่าเวลาผ่านเลยไปเนิ่นนานเท่าไร เธอรู้แต่ว่าทุกวินาทีมีแต่ความหวามไหวยามแก่นกายของเขาขยับเข้าออกทั้งว่องไวก่อนค่อยๆ ผ่อนคลายเป็นเชื่องช้า วิวทิวทัศน์ด้านหน้าก็พร่าเลือนราวเธอกำลังหลับแล้วฝันไป แต่ทว่าตัวตนแห่งความเป็นชายที่สอดแทรกตรงรอยแยกกลางกายเคลื่อนไหวไม่ได้หยุดหย่อนนั้นย้ำเตือนให้เธอตระหนักว่า... เธอไม่ได้ฝันไป!
กว่าเจ้าพ่อใหญ่จะปล่อยให้ร่างนุ่มนิ่มให้เป็นอิสระ เขาและเธอก็ได้ใช้แทบทุกตารางนิ้วในห้องนั้นโรมรันแลกเปลี่ยนบทรักอันเร่าร้อนจนแอร์ที่เย็นฉ่ำไร้ความหมายไปในบัดดล
*****************************************
“คุณจะพาฉันไปไหนคะ” สุพิชญาถามด้วยความสงสัยเมื่อดิเอโกสั่งให้สาวใช้เข้ามาจัดเตรียมเสื้อผ้าของเธอใส่กระเป๋า แต่ท่าทางดิเอโกเหมือนจะไม่ได้ฟังสักนิดเพราะเจ้าพ่อใหญ่หันกายกลับทันทีที่บอกให้เธอตามเขาออกไป
“เดี๋ยวสิคะดิเอโก คุณยังไม่ตอบคำถามฉันเลยนะ”
“ไปถึงแล้วคุณจะรู้เองยาหยี ไปกันเถอะช้าไปกว่านี้เดี๋ยวจะค่ำเสียก่อน” ตอบเพียงเท่านั้นดิเอโกก็ขยับเท้าก้าวเดิน แต่ทว่าก็ต้องหยุดชะงักเพราะสุพิชญาไม่ได้เดินตามไป ซ้ำยังเอ่ยวาจาร้องขอด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย“ดิเอโกคะ... ฉันอยากกลับบ้าน”
“คุณได้กลับแน่แต่ไม่ใช่เวลานี้” หันมาบอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบสีหน้านิ่งเสียจนสุพิชญาใจเสีย แต่ความมีทิฐิทำให้ถามกลับไปด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้างขึ้น
“ทำไมคะ ทำไมกลับไม่ได้ ในเมื่อฉัน...”
“คุณเป็นเมียผม ผมอยู่ไหนคุณก็ต้องอยู่นั่น เข้าใจนะครับ” ดิเอโกตอบกลับก่อนที่สุพิชญาจะร่ายยาวไปมากกว่านั้น หญิงสาวชะงักงันกับสถานะที่อีกฝ่ายยัดเยียดให้ ยามนี้เธอทั้งโกรธทั้งอับอาย แต่ก็พยายามเก็บกลั้นไว้แล้วโต้กลับด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ฉันไม่ได้เป็นเมียคุณ! ”
ดิเอโกส่ายหน้ากับความดื้อรั้นของสุพิชญา เขาไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมต้องมาทนโต้เถียงกับเธอด้วย ชีวิตของเขามีผู้หญิงมากหน้าหลายตาที่จะยอมทอดกายให้เขาบนเตียง แต่เขากลับต้องมาเล่นล่อเอาเถิดกับคนแสนพยศเช่นเธอ
“ไอ้ที่ร้องครวญครางเมื่อชั่วโมงที่ผ่านมานี่ไม่ได้ช่วยเตือนความทรงจำคุณเลยหรือไงยาหยี”
“อีตาบ้า! ลามก” สุพิชญาตวาดแว้ดทันที หญิงสาวรู้สึกอยากกระโดดเข้าบีบคอเขาเสียเหลือเกิน
“ถึงจะบ้า... หรือลามก แต่ก็ได้ชื่อว่าสามีคุณนะ หรือจะต้องเตือนความทรงจำอีกซักกี่รอบดีคุณถึงจะยอมรับและจดจำมันยาหยี” คราวนี้ขยับเรียวฟันขบกัดริมฝีปากล่างพลางหรี่ตามองอย่างโลมเลีย พร้อมขยับเท้าก้าวเข้าหาคนปากดี
“มะ...ไม่ต้อง ฉันไม่กลับก็ได้ ว่าแต่คุณจะพาฉันไปไหนก็ไปสิ ไหนคุณว่าถ้าช้าจะค่ำไง” ปฏิเสธพลางขยับถอยหลังกรูดด้วยความตื่นตระหนก เพราะเธอรู้ดีว่าหากดิเอโกมีท่าทีแบบนี้ท้ายสุดจะต้องจบลงที่ใด
“แต่ผมชักไม่อยากไปแล้วสิ ความจริงไปพรุ่งนี้เช้าแทนก็น่าจะได้นะ” ว่าพร้อมตวัดสายตากวาดทั่วเรือนร่างก่อนดึงกลับมาจับจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่ายที่ยามนี้วูบไหวราวกวางน้อยหวาดหวั่นกับภยันตราย
สุพิชญาถอยร่นจนหลังแนบชิดติดผนัง ดิเอโกได้โอกาสก็คว้าร่างนั้นมารวบกอดพร้อมตวัดปลายนิ้วแกร่งเชยคางมนให้คนถูกคุกคามแหงนเงยใบหน้าขึ้น สุพิชญาเบิกตากว้างขยับปากทักท้วงทันที
“ดะ...ดิเอโก อย่าค่ะ อื้อ...” เสียงหวานถูกกลืนหายไปในลำคอเมื่อถูกจู่โจมจุมพิตหนักหน่วง หัวใจดวงน้อยเต้นระทึกด้วยความหวามไหว เพราะดิเอโกไม่เพียงแต่ส่งมอบจุมพิตแสนเร่าร้อนเท่านั้น ฝ่ามือร้อนผ่าวของเขายังโลมเล้าไปทั่วเรือนกายอีกด้วย
แต่ก่อนที่สุพิชญาจะระทวยไปทั้งกายและใจ เจ้าพ่อใหญ่ก็ถอนริมฝีปากบางเฉียบออกแล้วกระซิบบอกด้วยนัยน์ตาพราวระยับ
“ไปกันเถอะครับยาหยี ให้ถึงที่หมายก่อนแล้วเราค่อยต่อให้จบนะ”
สุพิชญาตาโตกับวาจาชวนระทึกนั้น หากดิเอโกไม่ประคองกอดเธอไว้ป่านนี้คงได้ร่วงลงไปกองกับพื้นแล้ว เพราะเรียวขาสวยสั่นระริกกับสัมผัสวาบหวามเมื่อเสี้ยวนาทีที่ผ่านมา ซ้ำยังได้ยินได้ฟังวาจาแสนตรงที่ชวนขัดเขินนั้นขาก็ยิ่งสั่นจนอ่อนแรง
“เกาะอะไรคะดิเอโก” ถามเมื่อสายตาสบเข้ากับเกาะขนาดย่อมตรงหน้า ตามการคาดเดาด้วยสายตาสุพิชญาคิดว่าอีกไม่ถึงสิบนาที เธอและเขาก็จะถึงที่นั่น อารมณ์ขุ่นมัวที่อีกฝ่ายเอาแต่ใจไม่ยอมให้เธอได้ออกความเห็นหรือเรียกร้องสิทธิ์ใดๆ มลายหายไปสิ้นตั้งแต่ขึ้นเรือมาสุพิชญายอมรับว่า ยามที่ทอดสายตามองออกไปยังท้องทะเลที่กว้างไกลพร้อมปล่อยให้ผิวกายปะทะเข้ากับลมทะเลที่โบกพัดมาทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายขึ้น จนมีกะจิตกะใจที่จะหันไปชวนเจ้าพ่อใหญ่พูดคุย แต่ทว่าคำตอบที่ได้รับกลับมาทำให้แทบอยากเข่นฆ่าเขาเสียเดี๋ยวนั้น“เกาะผมให้แน่นๆ ไงครับยาหยี หรือจะให้ผมเกาะคุณดี ผมเกาะไม่ปล่อยนะจะบอกให้” เขาตอบพลางโน้มกายเข้าหาราวกับว่าจะเกาะกอดเธอต่อหน้าบอดี้การ์ดจริงๆ การกระทำนั้นเรียกเสียงหวีดร้องของหญิงสาวได้เป็นอย่างดี“คนบ้า! คนผี! ฉันหมายถึงเกาะนี้ต่างหาก ชื่อเกาะอะไร” สุพิชญาตวาดเสียงเข้มนัยน์ตาขุ่นเขียวเรียวปากสวยเม้มเข้าหากันอย่างขัดใจ นั่นเรียกเสียงหัวเราะขบขันจากดิเอโกได้มากมายนัก“ฮ่าๆๆ ก็คุณไม่ได้ถามแบบนี้นี่”“นี่คุณอย่ามาเล่นลิ้นนะ” หญิงสาวตั้งท่าข่มขู่ตาโต แต่เจ้าพ่อใหญ่กลับหายำเกรงไม่ ยังคงหยอกเย้าเธฮต่อไปแต่ก็กึ
“ว้าย... ดิเอโก!! ตามเข้ามาทำไมคะ” เสียงหวานอุทานลั่นด้วยความตื่นตระหนกเมื่อเธอเดินเข้าห้องน้ำไปแล้ว แต่ก่อนที่จะทันได้ปิดประตู ดิเอโกก็แทรกตัวเข้ามาแล้วจัดการปิดล็อกเสียเอง สุพิชญาเบิกตากว้างมองเขาอย่างหวาดหวั่น เธอรู้ตัวดีว่าลงเขาเข้ามาด้วยแบบนี้ เธอไม่มีทางจะรอดพ้นจากเพลิงพิศวาสของเขาไปได้อย่างแน่นอน“ฉันร้อนอยากอาบน้ำ คุณออกไปสิคะ”“ผมก็ร้อนมาก ผมเลยคิดว่าเราน่าจะอาบพร้อมกันดีกว่านะ จะได้ไม่เสียเวลา”“ดิเอโก! อุ๊ย!” สุพิชญาอุทานขานชื่อนั้นอย่างตกใจแล้วก็ยิ่งตกใจยิ่งกว่าเมื่อเจ้าพ่อใหญ่ตรงเข้ารวบร่างน้อยเข้าหา หญิงสาวตระหนักทันทีว่าจะเกิดอะไรขึ้นนับจากวินาทีนี้ไป“อย่า... ” เสียงหวานร้องห้ามสั่นพร่า แต่ทว่าหาได้หยุดยั้งเจ้าพ่อใหญ่ได้ เพราะฝ่ามือร้อนเริ่มลูบไล้รุกไล่ไปทั่วเรือนกาย ปลายจมูกโด่งก็ซุกซนไปทั่วหัวใจสาวสั่นระรัวเมื่อถูกดันร่างแนบชิดติดผนังห้องน้ำ ปลายนิ้วแกร่งรุกไล่ปลดเปลื้องเสื้อตัวสวยออกจากเรือนร่างราวต้องการตกย้ำให้เธอตระหนักว่า อย่างไรเสียเขาก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจแน่นอน และจ
“ที่นี่สวยจังค่ะ เงียบสงบดูไม่วุ่นวาย เป็นเกาะที่น่าอยู่มากจริงๆ” สุพิชญาเอ่ยออกมาด้วยใบหน้างามเต็มไปด้วยรอยยิ้ม หญิงสาวทอดสายตามองไปยังชายหาดขนาดย่อมความยาวไม่ไกลเกินหนึ่งกิโลเมตร ผืนทรายนั้นเป็นสีขาวดูสะอาดตากลมกลืนกับท้องทะเลสีฟ้าใส เธอเพิ่งรู้เมื่อไม่กี่นาทีนี้เองว่า สถานที่เธอยืนอยู่ยามนี้ชื่อว่า ‘เกาะบาหลัน’ เกาะส่วนตัวเล็กๆ เกาะหนึ่งของประเทศอินโดนีเซีย“แล้วคุณอยากอยู่ไหมล่ะ”“คะ” หันขวับไปมองคนที่เดินมาหยุดยืนอยู่ข้างๆ พลางเลิกคิ้วถามอย่างสงสัยด้วยไม่แน่ใจในสิ่งที่อีกฝ่ายเอ่ยออกมา ดิเอโกเบือนหน้าไปมองคนข้างกายพร้อมคลี่ยิ้มบางเบาก่อนเอ่ยประโยคต่อไป“ในเมื่อที่นี่น่าอยู่ ทำไมคุณไม่อยู่เลยล่ะ... ยาหยี”“คะ...คือฉัน” สุพิชญาออกอาการติดอ่างขึ้นมาทันใด หญิงสาวไม่คิดว่าจะได้ยินคำเชิญชวนแสนง่ายนั้น แต่ก่อนที่เธอจะได้เอ่ยคำใดต่อไป ดิเอโกก็แทรกขึ้นด้วยประโยคที่ชวนให้เธออารมณ์กรุ่นขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยระลึกได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นเธอไม่ได้เต็มใจสักนิด“ผมยินดีนะถ้าคุณจะอยู่กับผมที่นี่มากกว่าหนึ่งเดือน ตามข้อตกลงนั่น”“ฉันบอกคุณกี่ครั้งแล้วคะ ว่าฉันไม่รู้เรื่องข้อตกลงอะไรนั่น คุ
“ฉันต้องการสถานที่และอุปกรณ์เดี๋ยวนี้”“คุณต้องการอะไรบ้างว่ามา”สุพิชญาบอกสิ่งที่ตัวเองต้องการ ดิเอโกหันไปสั่งความลูกน้องทันทีเช่นกัน ยามนี้ไม่มีทีท่าของคนชอบวางอำนาจไม่ยอมเป็นรองเธอให้เห็นสักนิด“รีบไปจัดการตามที่นายหญิงสั่งสิ”“ครับดิเอโก!!”ตลอดระยะเวลาที่สุพิชญาทำคลอดดิเอโกแทบหายใจไม่ทั่วท้อง เจ้าพ่อใหญ่เดินไปมาให้วุ่นวายไปหมด หัวใจแกร่งร้อนรุ่ม เขาแทบอยากพังประตูเข้าไปเสียเดี๋ยวนี้ ความห่วงใย ความพะวงทำเอาเขาว้าวุ่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แต่เพราะคำสั่งที่แสนเด็ดขาดของคนที่ดูบอบบางอย่างสุพิชญาว่าให้เขาออกมารอด้านนอก ขอไว้เพียงคนงานหญิงที่เธอให้คอยเป็นผู้ช่วยหยิบจับในสิ่งที่ต้องการเท่านั้น“อุ๊แว้! อุ๊แว้!”“พิชชา!” ดิเอโกอุทานขานเรียกชื่อหญิงสาวออกมาแทบเป็นตะโกนเมื่อได้ยินเสียงเด็กร้องดังออกมาจากด้านใน เจ้าพ่อใหญ่แทบกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจเสียงเด็กที่เล็ดลอดออกมานั้นช่างเหมือนเสียงสวรรค์ เขามั่นใจว่าพิชชาปฏิบัติภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว แต่ว่า... เวลาก็ล่วงเลยมาสักระยะแล้วกลับไม่มีใครก้าวออกมาจากห้องสักคน เสียงเด็กก็พลอยเงียบหายไปด้วย“หรือว่าจะเกิดอะไรขึ้น” เจ้าพ่อใหญ่รำพันกับตัวเอง
ตลอดช่วงสายของวันนั้นจนเวลาล่วงเลยมาค่อนคืน สุพิชญาเฝ้าคอยดูแลแม่ลูกอ่อนอย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีภาวะแทรกซ้อนหลังคลอดเกิดขึ้น หญิงสาวไม่คิดว่าดิเอโกจะใจดีสั่งการให้เคลื่อนย้ายลูกน้องหญิงไปพักที่เรือนใหญ่ซึ่งเป็นที่พักส่วนตัวของเขา ซ้ำดิเอโกเองก็เฝ้าวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ไม่คิดปล่อยหญิงสาวไว้ตามลำพังเจ้าพ่อใหญ่สั่งการให้แม่บ้านจัดเตรียมอาหารมาให้เขาและเธอ แม้หญิงสาวจะเอ่ยปากหลายครั้งให้เขาไปพักผ่อนอย่าได้กังวลเกี่ยวกับเธอ แต่ดิเอโกก็หาได้ฟังไม่ เขายังยืนยันอยู่เป็นเพื่อนเธอและคอยสอดส่องสายตามองหาตลอดเวลาที่เธอหายเข้าไปในห้องพัก และยามนี้เวลาก็ล่วงเลยเข้าสู่วันใหม่มาได้ชั่วโมงกว่าแล้วหญิงสาวตั้งใจว่าอีกสักพักเธอก็จะเอนกายพักผ่อนบ้าง ด้วยอาการของแม่หลังคลอดนั้นไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วงแล้ว แต่เมื่อเธอก้าวพ้นประตูห้องออกมาก็พบดิเอโกนอนขดกายอยู่บนโซฟาที่ขนาดไม่พอดีกับร่างกายสูงใหญ่ของเขาสักนิด สุพิชญาส่ายหน้ากับภาพนั้นก่อนเดินเข้าไปหาหวังจะปลุกให้เขากลับเรือนพักไปนอนให้สะดวกสบาย“ดิเอโกคะ ตื่น... ว้าย!!” เสียงหวานหวีดร้องเสียงหลงเมื่ออยู่ๆ ก็ถูกตวัดรวบแขนบิดพ่ายไปด้านหลังเพียงแค่เธอยื
เมื่อเห็นคนแสนพยศเอาแต่นิ่งเงียบนัยน์ตาหม่นเศร้า เจ้าพ่อใหญ่ก็เลื่อนมือมาจับไหล่กลมกลึงสองข้างก่อนเลื่อนฝ่ามือข้างหนึ่งมาแตะพวงแก้มนุ่มนิ่มแล้วใช้ปลายนิ้วเชยปลายคางให้เธอแหงนเงยใบหน้าขึ้นมองเขา แต่การกระทำนั้นราวเป็นการบังคับกลายๆ ให้เธอต้องสบตาเขาและห้ามเบือนหน้าหลบหนีเด็ดขาดจนกว่าเขาจะพูดจบ“ผมดูแลคุณไม่ดีตรงไหนหรือเปล่ายาหยี คุณถึง...”“ดิเอโกคะ... ฉันยอมรับว่าคุณดูแลฉันดีมาก แต่ฉันก็ไม่ลืมว่าฉันมาอยู่ที่นี่ด้วยความไม่เต็มใจ” พยายามให้เหตุผลหลังจากสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดด้านดิเอโกเมื่อได้ฟังวาจานั้นเจ้าพ่อใหญ่ก็เริ่มเกิดอารมณ์หงุดหงิด เหตุเพราะไม่รู้ว่ากี่ครั้งแล้วที่เขาต้องมาคุยเรื่องนี้กับเธอ“ฟังนะยาหยี! คุณอาจจะคอยย้ำเตือนตัวเองตลอดเวลาว่าคุณมาด้วยความไม่เต็มใจ นั่นมันเป็นเพราะคุณอคติ คุณถึงได้พยายามสร้างกำแพง ยกเหตุผลสารพัดเพียงเพื่อหลอกตัวเองว่าคุณไม่มีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่ แต่คุณไม่เคยยอมรับตัวเองต่างหากว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นคุณเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ กลับกันคุณกลับเต็มใจรับมันด้วยซ้ำ” “ดิเอโก!” ขานนามนั้นอย่างตกตะลึง เพราะสิ่งที่เขาพูดมานั้นมันกระแทกใจเธออย่างจัง“หรือคุณจะบอ
“หยุดก่อน!” เสียงหวานของสุพิชญาดังมาจากตรงเชิงบันได บอดี้การ์ดหนุ่มที่เดินอยู่ในบริเวณนั้นหยุดชะงักก่อนหันมาทำความเคารพนายหญิง“ครับมิส”“ฉันได้ยินแว่วๆ ว่าใครเป็นอะไร” สุพิชญาถามรัวเร็วเมื่อก้าวเดินเข้าไปใกล้บอดี้การ์ด เหตุเพราะเธอได้ยินบทสนทนาที่ดูเหมือนว่าใครเกิดการปะทะกับใคร ความใจร้อนทำให้เธอตะโกนเรียกเหล่าบอดี้การ์ดไว้เมื่อเห็นว่าพวกเขากำลังจะแยกย้ายกันไปตามจุดต่างๆ“เอ่อ... คือ... ”“ว่าไงคะ” หญิงสาวยิงคำถามจี้ถามติดๆ กันเมื่อพากันเอาแต่อ้ำอึ้ง สุพิชญาเค้นเอาคำตอบด้วยการจ้องเขม็งสายตานิ่งสนิทเป็นการบอกกลายๆ ว่าหากไม่ได้รับคำตอบเธอจะไม่มีวันปล่อยให้ใครเดินจากไปเด็ดขาดหัวหน้าบอดี้การ์ด ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนตัดสินใจบอกกล่าวผู้เป็นนายหญิง“เควินสั่งการมาให้พวกเราคุมเข้มทุกจุด เพราะเกิดการปะทะกับเดฟที่เดอะไนท์ครับมิส”“ปะทะกับเดฟ! ที่เดอะไนท์” สุพิชญาอุทานตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน หัวใจแทบหล่นไปอยู่ตาตุ่ม หญิงสาวร้อนรุ่มไปหมด ในใจลึกๆ ยังปฏิเสธว่าสิ่งที่ได้ยินไม่ใช่เรื่องจริง แต่ทว่า...“ครับมิส เชิญมิสขึ้นไปพักบนห้องดีกว่าครับ ผมจะให้คนไปคุ้มกันความปลอดภัยที่หน้าห้อง”“เดี๋ยว! แล้วดิเ
“ว่าไงนะ! ดิเอโกถูกยิงบาดเจ็บ แล้วเขาเป็นยังไงบ้าง แล้วคุณกลับมาทำไม... ทำไมไม่อยู่กับเขา” สุพิชญาอุทานดังลั่นห้องเมื่อได้ฟังคำบอกเล่าของบอดี้การ์ดใหญ่ หัวใจสาวสั่นระรัวไปหมด เพราะทั้งกังวลและหวาดกลัวเกี่ยวกับอาการของดิเอโก“เควินคะ เอาเรือออก ฉันจะไปหาเขา พาฉันไปหาดิเอโกที”“ใจเย็นก่อนครับมิส ตั้งสติ หายใจเข้าลึกๆ แล้วฟังครับ” บอดี้การ์ดใหญ่บอกเสียงเข้มเกือบดุหวังเรียกสติหญิงสาวที่บัดนี้ดูท่ากระเจิดกระเจิงเสียแล้ว เมื่อเห็นอีกฝ่ายมีทีท่าสงบลง เขาก็ค่อยๆ บอกเล่าเหตุการณ์ต่อไปตามบทที่ซักซ้อมมาอย่างดี“ดิเอโกบาดเจ็บจริงแต่ว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว และอยู่ในความคุ้มครองของตำรวจ มิสไม่ต้องกังวลครับ และที่ผมกลับมานี่ เป็นเพราะดิเอโกสั่งให้ผมมาคุ้มกันมิส เพราะพวกของเดฟอาจคิดจะรุกรานมาถึงที่นี่ก็ได้”“ต่อสายดิเอโกให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ” สุพิชญาร้องขออย่างน่าสงสารหลังจากฟังคำบอกเล่าของบอดี้การ์ดใหญ่จบ เพียงแค่ได้ยินว่าเขาปลอดภัยเธอก็เบาใจแต่ก็ยังอยากได้ยินเสียงให้แน่ใจอีกครั้งว่าเควินไม่ได้หลอกล่อให้เธอวางใจ“ผมคงทำตามคำขอของมิสไม่ได้ เพราะตอนนี้ทุกอย่างถูกคุมเข้มห้ามใครติดต่อกับดิเ
“โอ๊ะ! / อุ๊ย!” ดิเอโกแสร้งอุทานเมื่อสุพิชญาดึงรั้งเสื้อเชิ้ตให้หลุดออกจากแขนแกร่ง หญิงสาวพลอยอุทานไปกับเขาด้วย“ขอโทษค่ะ ฉันจะระวังให้มากกว่านี้นะคะ คุณช่วยยกแขนข้างนี้ขึ้นสูงอีกนิดได้ไหมคะ ไหวไหม” ท้ายประโยคถามด้วยความห่วงใยหลังจากที่สั่งให้เขาขยับแขนข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บขึ้นเพื่อเธอจะได้ถอดเสื้อได้ง่ายขึ้น“ดะ...ได้ครับ” เจ้าพ่อใหญ่เอ่ยตอบเสียงตะกุกตะกักใบหน้าเหยเกเต็มที ดวงตาคู่สนิมหรี่มองหญิงสาวที่ค่อยๆ บรรจงถอดเสื้อ“แล้วกางเกง...”สุพิชญาหน้าแดงซ่านราวลูกตำลึงสุกเมื่อดิเอโกถามค้างเพียงเท่านั้น หญิงสาวหลุบตาต่ำอย่างเขินอายก่อนตวัดสายตาขึ้นมองสบดวงตาสีสนิม ในที่สุดเธอก็กลั้นหายใจกัดฟันตอบออกไป“ฉะ...ฉัน เอ่อ... ฉันช่วยถอดให้ก็ได้ค่ะ”“ขอบคุณนะครับยาหยี เพราะผมเจ็บแบบนี้คุณเลยต้องลำบาก”ดิเอโกบอกพร้อมทอดสายตาอ่อนโยนเป็นการขอบคุณ สุพิชญายิ้มหวานให้ก่อนเอ่ยบอกจากใจจริงเช่นกัน“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แค่คุณยังหายใจอยู่ ฉันก็ดีใจแล้ว เพราะหากคุณเป็นอะไรไปใครจะอนุญาตให้ฉันกลับบ้านล่ะคะ” ท้ายประโยคสัพยอกนั่นทำให้ดิเอโกหลุดหัวเราะออกมากับวาจาค่อนแคะเขา“ยาหยี นี่ผมมีค่าแค่นั้นเองเหรอ” คนตัวโ
“ว่าไงนะ! ดิเอโกถูกยิงบาดเจ็บ แล้วเขาเป็นยังไงบ้าง แล้วคุณกลับมาทำไม... ทำไมไม่อยู่กับเขา” สุพิชญาอุทานดังลั่นห้องเมื่อได้ฟังคำบอกเล่าของบอดี้การ์ดใหญ่ หัวใจสาวสั่นระรัวไปหมด เพราะทั้งกังวลและหวาดกลัวเกี่ยวกับอาการของดิเอโก“เควินคะ เอาเรือออก ฉันจะไปหาเขา พาฉันไปหาดิเอโกที”“ใจเย็นก่อนครับมิส ตั้งสติ หายใจเข้าลึกๆ แล้วฟังครับ” บอดี้การ์ดใหญ่บอกเสียงเข้มเกือบดุหวังเรียกสติหญิงสาวที่บัดนี้ดูท่ากระเจิดกระเจิงเสียแล้ว เมื่อเห็นอีกฝ่ายมีทีท่าสงบลง เขาก็ค่อยๆ บอกเล่าเหตุการณ์ต่อไปตามบทที่ซักซ้อมมาอย่างดี“ดิเอโกบาดเจ็บจริงแต่ว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว และอยู่ในความคุ้มครองของตำรวจ มิสไม่ต้องกังวลครับ และที่ผมกลับมานี่ เป็นเพราะดิเอโกสั่งให้ผมมาคุ้มกันมิส เพราะพวกของเดฟอาจคิดจะรุกรานมาถึงที่นี่ก็ได้”“ต่อสายดิเอโกให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ” สุพิชญาร้องขออย่างน่าสงสารหลังจากฟังคำบอกเล่าของบอดี้การ์ดใหญ่จบ เพียงแค่ได้ยินว่าเขาปลอดภัยเธอก็เบาใจแต่ก็ยังอยากได้ยินเสียงให้แน่ใจอีกครั้งว่าเควินไม่ได้หลอกล่อให้เธอวางใจ“ผมคงทำตามคำขอของมิสไม่ได้ เพราะตอนนี้ทุกอย่างถูกคุมเข้มห้ามใครติดต่อกับดิเ
“หยุดก่อน!” เสียงหวานของสุพิชญาดังมาจากตรงเชิงบันได บอดี้การ์ดหนุ่มที่เดินอยู่ในบริเวณนั้นหยุดชะงักก่อนหันมาทำความเคารพนายหญิง“ครับมิส”“ฉันได้ยินแว่วๆ ว่าใครเป็นอะไร” สุพิชญาถามรัวเร็วเมื่อก้าวเดินเข้าไปใกล้บอดี้การ์ด เหตุเพราะเธอได้ยินบทสนทนาที่ดูเหมือนว่าใครเกิดการปะทะกับใคร ความใจร้อนทำให้เธอตะโกนเรียกเหล่าบอดี้การ์ดไว้เมื่อเห็นว่าพวกเขากำลังจะแยกย้ายกันไปตามจุดต่างๆ“เอ่อ... คือ... ”“ว่าไงคะ” หญิงสาวยิงคำถามจี้ถามติดๆ กันเมื่อพากันเอาแต่อ้ำอึ้ง สุพิชญาเค้นเอาคำตอบด้วยการจ้องเขม็งสายตานิ่งสนิทเป็นการบอกกลายๆ ว่าหากไม่ได้รับคำตอบเธอจะไม่มีวันปล่อยให้ใครเดินจากไปเด็ดขาดหัวหน้าบอดี้การ์ด ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนตัดสินใจบอกกล่าวผู้เป็นนายหญิง“เควินสั่งการมาให้พวกเราคุมเข้มทุกจุด เพราะเกิดการปะทะกับเดฟที่เดอะไนท์ครับมิส”“ปะทะกับเดฟ! ที่เดอะไนท์” สุพิชญาอุทานตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน หัวใจแทบหล่นไปอยู่ตาตุ่ม หญิงสาวร้อนรุ่มไปหมด ในใจลึกๆ ยังปฏิเสธว่าสิ่งที่ได้ยินไม่ใช่เรื่องจริง แต่ทว่า...“ครับมิส เชิญมิสขึ้นไปพักบนห้องดีกว่าครับ ผมจะให้คนไปคุ้มกันความปลอดภัยที่หน้าห้อง”“เดี๋ยว! แล้วดิเ
เมื่อเห็นคนแสนพยศเอาแต่นิ่งเงียบนัยน์ตาหม่นเศร้า เจ้าพ่อใหญ่ก็เลื่อนมือมาจับไหล่กลมกลึงสองข้างก่อนเลื่อนฝ่ามือข้างหนึ่งมาแตะพวงแก้มนุ่มนิ่มแล้วใช้ปลายนิ้วเชยปลายคางให้เธอแหงนเงยใบหน้าขึ้นมองเขา แต่การกระทำนั้นราวเป็นการบังคับกลายๆ ให้เธอต้องสบตาเขาและห้ามเบือนหน้าหลบหนีเด็ดขาดจนกว่าเขาจะพูดจบ“ผมดูแลคุณไม่ดีตรงไหนหรือเปล่ายาหยี คุณถึง...”“ดิเอโกคะ... ฉันยอมรับว่าคุณดูแลฉันดีมาก แต่ฉันก็ไม่ลืมว่าฉันมาอยู่ที่นี่ด้วยความไม่เต็มใจ” พยายามให้เหตุผลหลังจากสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดด้านดิเอโกเมื่อได้ฟังวาจานั้นเจ้าพ่อใหญ่ก็เริ่มเกิดอารมณ์หงุดหงิด เหตุเพราะไม่รู้ว่ากี่ครั้งแล้วที่เขาต้องมาคุยเรื่องนี้กับเธอ“ฟังนะยาหยี! คุณอาจจะคอยย้ำเตือนตัวเองตลอดเวลาว่าคุณมาด้วยความไม่เต็มใจ นั่นมันเป็นเพราะคุณอคติ คุณถึงได้พยายามสร้างกำแพง ยกเหตุผลสารพัดเพียงเพื่อหลอกตัวเองว่าคุณไม่มีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่ แต่คุณไม่เคยยอมรับตัวเองต่างหากว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นคุณเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ กลับกันคุณกลับเต็มใจรับมันด้วยซ้ำ” “ดิเอโก!” ขานนามนั้นอย่างตกตะลึง เพราะสิ่งที่เขาพูดมานั้นมันกระแทกใจเธออย่างจัง“หรือคุณจะบอ
ตลอดช่วงสายของวันนั้นจนเวลาล่วงเลยมาค่อนคืน สุพิชญาเฝ้าคอยดูแลแม่ลูกอ่อนอย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีภาวะแทรกซ้อนหลังคลอดเกิดขึ้น หญิงสาวไม่คิดว่าดิเอโกจะใจดีสั่งการให้เคลื่อนย้ายลูกน้องหญิงไปพักที่เรือนใหญ่ซึ่งเป็นที่พักส่วนตัวของเขา ซ้ำดิเอโกเองก็เฝ้าวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ไม่คิดปล่อยหญิงสาวไว้ตามลำพังเจ้าพ่อใหญ่สั่งการให้แม่บ้านจัดเตรียมอาหารมาให้เขาและเธอ แม้หญิงสาวจะเอ่ยปากหลายครั้งให้เขาไปพักผ่อนอย่าได้กังวลเกี่ยวกับเธอ แต่ดิเอโกก็หาได้ฟังไม่ เขายังยืนยันอยู่เป็นเพื่อนเธอและคอยสอดส่องสายตามองหาตลอดเวลาที่เธอหายเข้าไปในห้องพัก และยามนี้เวลาก็ล่วงเลยเข้าสู่วันใหม่มาได้ชั่วโมงกว่าแล้วหญิงสาวตั้งใจว่าอีกสักพักเธอก็จะเอนกายพักผ่อนบ้าง ด้วยอาการของแม่หลังคลอดนั้นไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วงแล้ว แต่เมื่อเธอก้าวพ้นประตูห้องออกมาก็พบดิเอโกนอนขดกายอยู่บนโซฟาที่ขนาดไม่พอดีกับร่างกายสูงใหญ่ของเขาสักนิด สุพิชญาส่ายหน้ากับภาพนั้นก่อนเดินเข้าไปหาหวังจะปลุกให้เขากลับเรือนพักไปนอนให้สะดวกสบาย“ดิเอโกคะ ตื่น... ว้าย!!” เสียงหวานหวีดร้องเสียงหลงเมื่ออยู่ๆ ก็ถูกตวัดรวบแขนบิดพ่ายไปด้านหลังเพียงแค่เธอยื
“ฉันต้องการสถานที่และอุปกรณ์เดี๋ยวนี้”“คุณต้องการอะไรบ้างว่ามา”สุพิชญาบอกสิ่งที่ตัวเองต้องการ ดิเอโกหันไปสั่งความลูกน้องทันทีเช่นกัน ยามนี้ไม่มีทีท่าของคนชอบวางอำนาจไม่ยอมเป็นรองเธอให้เห็นสักนิด“รีบไปจัดการตามที่นายหญิงสั่งสิ”“ครับดิเอโก!!”ตลอดระยะเวลาที่สุพิชญาทำคลอดดิเอโกแทบหายใจไม่ทั่วท้อง เจ้าพ่อใหญ่เดินไปมาให้วุ่นวายไปหมด หัวใจแกร่งร้อนรุ่ม เขาแทบอยากพังประตูเข้าไปเสียเดี๋ยวนี้ ความห่วงใย ความพะวงทำเอาเขาว้าวุ่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แต่เพราะคำสั่งที่แสนเด็ดขาดของคนที่ดูบอบบางอย่างสุพิชญาว่าให้เขาออกมารอด้านนอก ขอไว้เพียงคนงานหญิงที่เธอให้คอยเป็นผู้ช่วยหยิบจับในสิ่งที่ต้องการเท่านั้น“อุ๊แว้! อุ๊แว้!”“พิชชา!” ดิเอโกอุทานขานเรียกชื่อหญิงสาวออกมาแทบเป็นตะโกนเมื่อได้ยินเสียงเด็กร้องดังออกมาจากด้านใน เจ้าพ่อใหญ่แทบกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจเสียงเด็กที่เล็ดลอดออกมานั้นช่างเหมือนเสียงสวรรค์ เขามั่นใจว่าพิชชาปฏิบัติภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว แต่ว่า... เวลาก็ล่วงเลยมาสักระยะแล้วกลับไม่มีใครก้าวออกมาจากห้องสักคน เสียงเด็กก็พลอยเงียบหายไปด้วย“หรือว่าจะเกิดอะไรขึ้น” เจ้าพ่อใหญ่รำพันกับตัวเอง
“ที่นี่สวยจังค่ะ เงียบสงบดูไม่วุ่นวาย เป็นเกาะที่น่าอยู่มากจริงๆ” สุพิชญาเอ่ยออกมาด้วยใบหน้างามเต็มไปด้วยรอยยิ้ม หญิงสาวทอดสายตามองไปยังชายหาดขนาดย่อมความยาวไม่ไกลเกินหนึ่งกิโลเมตร ผืนทรายนั้นเป็นสีขาวดูสะอาดตากลมกลืนกับท้องทะเลสีฟ้าใส เธอเพิ่งรู้เมื่อไม่กี่นาทีนี้เองว่า สถานที่เธอยืนอยู่ยามนี้ชื่อว่า ‘เกาะบาหลัน’ เกาะส่วนตัวเล็กๆ เกาะหนึ่งของประเทศอินโดนีเซีย“แล้วคุณอยากอยู่ไหมล่ะ”“คะ” หันขวับไปมองคนที่เดินมาหยุดยืนอยู่ข้างๆ พลางเลิกคิ้วถามอย่างสงสัยด้วยไม่แน่ใจในสิ่งที่อีกฝ่ายเอ่ยออกมา ดิเอโกเบือนหน้าไปมองคนข้างกายพร้อมคลี่ยิ้มบางเบาก่อนเอ่ยประโยคต่อไป“ในเมื่อที่นี่น่าอยู่ ทำไมคุณไม่อยู่เลยล่ะ... ยาหยี”“คะ...คือฉัน” สุพิชญาออกอาการติดอ่างขึ้นมาทันใด หญิงสาวไม่คิดว่าจะได้ยินคำเชิญชวนแสนง่ายนั้น แต่ก่อนที่เธอจะได้เอ่ยคำใดต่อไป ดิเอโกก็แทรกขึ้นด้วยประโยคที่ชวนให้เธออารมณ์กรุ่นขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยระลึกได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นเธอไม่ได้เต็มใจสักนิด“ผมยินดีนะถ้าคุณจะอยู่กับผมที่นี่มากกว่าหนึ่งเดือน ตามข้อตกลงนั่น”“ฉันบอกคุณกี่ครั้งแล้วคะ ว่าฉันไม่รู้เรื่องข้อตกลงอะไรนั่น คุ
“ว้าย... ดิเอโก!! ตามเข้ามาทำไมคะ” เสียงหวานอุทานลั่นด้วยความตื่นตระหนกเมื่อเธอเดินเข้าห้องน้ำไปแล้ว แต่ก่อนที่จะทันได้ปิดประตู ดิเอโกก็แทรกตัวเข้ามาแล้วจัดการปิดล็อกเสียเอง สุพิชญาเบิกตากว้างมองเขาอย่างหวาดหวั่น เธอรู้ตัวดีว่าลงเขาเข้ามาด้วยแบบนี้ เธอไม่มีทางจะรอดพ้นจากเพลิงพิศวาสของเขาไปได้อย่างแน่นอน“ฉันร้อนอยากอาบน้ำ คุณออกไปสิคะ”“ผมก็ร้อนมาก ผมเลยคิดว่าเราน่าจะอาบพร้อมกันดีกว่านะ จะได้ไม่เสียเวลา”“ดิเอโก! อุ๊ย!” สุพิชญาอุทานขานชื่อนั้นอย่างตกใจแล้วก็ยิ่งตกใจยิ่งกว่าเมื่อเจ้าพ่อใหญ่ตรงเข้ารวบร่างน้อยเข้าหา หญิงสาวตระหนักทันทีว่าจะเกิดอะไรขึ้นนับจากวินาทีนี้ไป“อย่า... ” เสียงหวานร้องห้ามสั่นพร่า แต่ทว่าหาได้หยุดยั้งเจ้าพ่อใหญ่ได้ เพราะฝ่ามือร้อนเริ่มลูบไล้รุกไล่ไปทั่วเรือนกาย ปลายจมูกโด่งก็ซุกซนไปทั่วหัวใจสาวสั่นระรัวเมื่อถูกดันร่างแนบชิดติดผนังห้องน้ำ ปลายนิ้วแกร่งรุกไล่ปลดเปลื้องเสื้อตัวสวยออกจากเรือนร่างราวต้องการตกย้ำให้เธอตระหนักว่า อย่างไรเสียเขาก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจแน่นอน และจ
“เกาะอะไรคะดิเอโก” ถามเมื่อสายตาสบเข้ากับเกาะขนาดย่อมตรงหน้า ตามการคาดเดาด้วยสายตาสุพิชญาคิดว่าอีกไม่ถึงสิบนาที เธอและเขาก็จะถึงที่นั่น อารมณ์ขุ่นมัวที่อีกฝ่ายเอาแต่ใจไม่ยอมให้เธอได้ออกความเห็นหรือเรียกร้องสิทธิ์ใดๆ มลายหายไปสิ้นตั้งแต่ขึ้นเรือมาสุพิชญายอมรับว่า ยามที่ทอดสายตามองออกไปยังท้องทะเลที่กว้างไกลพร้อมปล่อยให้ผิวกายปะทะเข้ากับลมทะเลที่โบกพัดมาทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายขึ้น จนมีกะจิตกะใจที่จะหันไปชวนเจ้าพ่อใหญ่พูดคุย แต่ทว่าคำตอบที่ได้รับกลับมาทำให้แทบอยากเข่นฆ่าเขาเสียเดี๋ยวนั้น“เกาะผมให้แน่นๆ ไงครับยาหยี หรือจะให้ผมเกาะคุณดี ผมเกาะไม่ปล่อยนะจะบอกให้” เขาตอบพลางโน้มกายเข้าหาราวกับว่าจะเกาะกอดเธอต่อหน้าบอดี้การ์ดจริงๆ การกระทำนั้นเรียกเสียงหวีดร้องของหญิงสาวได้เป็นอย่างดี“คนบ้า! คนผี! ฉันหมายถึงเกาะนี้ต่างหาก ชื่อเกาะอะไร” สุพิชญาตวาดเสียงเข้มนัยน์ตาขุ่นเขียวเรียวปากสวยเม้มเข้าหากันอย่างขัดใจ นั่นเรียกเสียงหัวเราะขบขันจากดิเอโกได้มากมายนัก“ฮ่าๆๆ ก็คุณไม่ได้ถามแบบนี้นี่”“นี่คุณอย่ามาเล่นลิ้นนะ” หญิงสาวตั้งท่าข่มขู่ตาโต แต่เจ้าพ่อใหญ่กลับหายำเกรงไม่ ยังคงหยอกเย้าเธฮต่อไปแต่ก็กึ