“อื้อ! อื้อ!” สุพิชญาส่งเสียงอู้อี้อย่างขัดใจดวงตาคู่สวยเต็มไปด้วยแววชิงชังเคียดแค้นในตัวเจ้าพ่อหนุ่ม เขาจับเธอทุ่มเข้ามาในรถแล้วมัดมือมัดเท้าปิดปากราวกับเธอไม่ใช่คน อย่าให้เธอมีโอกาสหนีรอดไปได้ สาบานเลยว่าเธอจะเอาเรื่องเขาให้ถึงที่สุด!!
“เลิกใช้สายตามองผมแบบนั้นดีกว่ายาหยี คุณน่าจะรู้ตัวดีว่าจริงๆ แล้วคุณไม่ได้เกลียดชังผม กลับกันคุณอาจคลั่งผมเสียจนถอนตัวไม่ขึ้นโดยที่คุณยังไม่รู้ตัวก็ได้” ดิเอโกชะโงกหน้าเข้าไปใกล้พร้อมใช้ปลายนิ้วแกร่งบีบบังคับเชยคางสวยให้เธอสบตาเขา เจ้าพ่อใหญ่พึงพอใจที่เห็นท่าทีฮึดฮัดขัดใจด้วยไม่อาจทำอะไรเขาได้
คำพูดยั่วเย้านั่นช่างยั่วอารมณ์เธอให้คุกรุ่นจนแทบอยากซัดฝ่ามือเข้าใบหน้าแสนยียวนเสียครั้งสองครั้งให้สาแก่ใจ เกิดมาเธอไม่เคยพบเจอใครหยาบคายได้เท่าผู้ชายตรงหน้านี้มาก่อนเลยสักนิด ‘ให้ตายเถอะ! พิชชานี่เธอสร้างเวรกรรมกับอีตาหื่นนี่มาแต่ชาติปางไหนกัน เธอถึงต้องมาพบเจอกับเรื่องบ้าๆ นี่’
“อื้อ! อื้อ!” สุพิชญาพยายามส่งเสียงต่อต้าน เมื่อดิเอโกเพียงแค่แก้ผืนผ้าที่ผูกข้อเท้าเธอออกเท่านั้น แต่ไม่คิดปล่อยให้มือและปากของเธอเป็นอิสระ ซ้ำเขายังฉุดกระชากเธอให้เดินตามอย่างไม่ปราณีปราศรัยหลังจากที่รถคันโก้จอดลงตรงที่จอดรถส่วนตัวในอาคารของเดอะไนท์คาสิโน
“อย่าเพิ่งใจร้อนสิครับยาหยี รอให้ถึงห้องก่อนแล้วจะครวญครางเสียงดังเท่าไรผมจะไม่ห้ามคุณเลย” หันมากระซิบด้วยเสียงกึ่งเยาะหยันชนิดที่หญิงสาวแทบอยากกรีดร้องให้สาแก่ใจแต่ยามนี้สิ่งที่ทำได้ก็แค่เพียงถลึงตาใส่คนตัวโตบ้าอำนาจเท่านั้น
“เจค สั่งคนของเราคุมทุกจุดอย่าให้คนของเดฟเข้าไปในเดอะไนท์ได้แม้แต่คนเดียว” เปลี่ยนมาสั่งลูกน้องผู้ติดตามด้วยน้ำเสียงเข้มกังวาน
“ครับดิเอโก” เจครับคำสั่งทันทีอย่างไม่คิดท้วงติงใดๆ คำสั่งของดิเอโกถือเป็นที่สุด เพราะทุกคนรู้ดีว่าวาจาที่ออกจากริมฝีปากบางเฉียบคู่นั้นผ่านการไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้วเสมอ
“เฮเลนสั่งให้คนเตรียมอาหารไปให้ฉันที่ห้อง คืนนี้ฉันจะฉลองต้อนรับมิสกลับคืนอ้อมอก” สั่งบอดี้การ์ดสาวที่ออกมารอรับ หลังจากที่เจคติดต่อแจ้งข่าวการเดินทางก่อนเขาจะมาถึงเพียงไม่กี่นาที สายตาคมกล้าตวัดมองคนข้างกายที่จ้องมองเขาตาโตยามเขาเอ่ยวาจาในช่วงท้ายประโยค คำว่ามิสที่ได้ยินมันดูราบเรียบแต่ช่างกระตุกใจคนฟังเสียเหลือเกิน ไม่ใช่เพราะปลาบปลื้ม แต่เพราะคิดไม่ถึงว่าเขาจะใช้สรรพนามแทนตัวเธอด้วยคำนี้ต่างหาก
“ค่ะดิเอโก” บอดี้การ์ดสาวรับคำพลางก้าวถอยหลังกลับเข้าไปเพื่อจัดการสั่งการตามคำสั่งของนายใหญ่ ไม่มีใครปริปากถามไถ่ถึงการเปลี่ยนมือผู้ครอบครองเดอะไนท์คาสิโน หากดิเอโกไม่เอ่ยปากใดๆ ทุกคนก็มีหน้าที่เพียงปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งเท่านั้น
“ไปกันเถอะยาหยี ผมชักอดใจไม่ไหวแล้วล่ะสิ อยากจะรับขวัญคุณซะเดี๋ยวนี้เลยล่ะ” หันมากระซิบบอกด้วยน้ำเสียงสุดเซ็กซี่พร้อมส่งสายตาพราวระยับจับจ้องลึกลงไปในดวงตาขุ่นเขียวของสุพิชญาที่กำลังถลึงตาใส่อย่างเคืองโกรธ แต่เจ้าพ่อใหญ่หาได้ใส่ใจสักนิด ดวงตาคู่คมกลับลากเรื่อยลงไปจับจ้องร่องอกอิ่มที่ปริ่มล้นออกมายั่วยวนสายตาอย่างเปิดเผย
“อื้อ! อื้อ!” หญิงสาวส่งเสียงอู้อี้อย่างขัดใจกับสายตาจาบจ้วงคู่นั้น ดิเอโกนอกจากจะวาจาร้ายเหลือแล้วเขายังลวนลามเธอด้วยสายตาอย่างไม่คิดให้เกียรติกัน
ฝากไว้ก่อนเถอะอีตาบ้ากาม!! แก้มัดฉันเมื่อไร ฉันจะซัดหน้านายสักทีสองที!
“นี่ อยู่เฉยๆ อย่าดิ้นได้ไหมฮึ” ดุเสียงเข้มเมื่อร่างน้อยในอ้อมกอดเอาแต่ดิ้นไปมาไม่ยอมอยู่นิ่งยามเขาแก้มัดผ้าที่ผูกมือออกให้ แต่เหมือนอีกฝ่ายจะไม่ฟังในวาจาดุดันนั้นสักนิด เพราะยิ่งดิ้นหนักขึ้นทุกขณะ เจ้าพ่อใหญ่จึงต้องใช้มาตรการเด็ดขาด
“ไม่หยุดดิ้นใช่ไหม ได้! งั้นผมจะให้คุณได้ดิ้นพล่านสมใจ” จบคำร่างบางก็ถูกเหวี่ยงขึ้นเตียงกว้างทันทีโดยทั้งมือและปากยังถูกพันธนาการไว้อย่างหนาแน่นเพราะเจ้าพ่อใหญ่ไม่ใส่ใจที่จะปลดเปลื้องมันออกเสียแล้ว เขาหมายมั่นสั่งสอนให้อีกฝ่ายหยุดพยศซะตั้งแต่ตอนนี้
สุพิชญาไม่มีโอกาสทัดทานสักนิด ซ้ำดิเอโกยังตามติดประชิดตัวอย่างรวดเร็วโดยที่เธอไม่อาจหลีกหนีได้ ที่ร้ายกว่านั้นคือ... ปลายจมูกโด่งฝากฝังลงตรงร่องอกหยุ่นพร้อมส่งริมฝีปากบางเฉียบเข้าดูดกลืนนวลเนื้อนุ่มแทบพร้อมๆ กัน นั่นยังไม่ร้ายเท่าฝ่ามืออันร้อนระอุเคลื่อนไปสัมผัสแผ่นหลังที่เปลือยเปล่าไปกว่าครึ่งดึงรั้งซิปให้ต่ำลงก่อนขยับกายถอยห่างกระชากชุดราตรีสีบาดตาให้หลุดพ้นไปในพริบตาเดียว
สุพิชญาแทบน้ำตาไหลพรากกับการกระทำอันจาบจ้วงนั้น พยายามพลิกตะแคงตัวแล้วคู้กายเข้าหากันอย่างต้องการปิดบังซ่อนเร้นสิ่งสงวน แต่ทว่าเพียงเสี้ยววินาทีดิเอโกก็จับกายหงายพลิกแล้วเริ่มจู่โจมอีกหน หญิงสาวพยายามอย่างยิ่งที่จะดิ้นรนขัดขืนแต่ทว่าไม่อาจทำได้ดังใจเพราะมือน้อยทั้งสองข้างยังถูกพันธนาการไว้อย่างแน่นหนา ไหนจะยังถูกผ้าคาดปิดปากไว้ เสียงหวีดร้องอย่างขัดใจจึงเล็ดลอดออกมากลายเป็นเพียงเสียงอู้อี้เท่านั้น
เจ้าพ่อใหญ่มองสบตาเขียวขุ่นของสุพิชญาเพียงนิดเดียวเท่านั้นก็หลุบต่ำลงสบนิ่งที่ทรวงอกนุ่มภายใต้บราเซียร์สีเดียวกับชุดราตรีที่บัดนี้ลอยไปกองอยู่ตรงมุมหนึ่งของห้อง เขาไม่สนใจอาการขัดขืนของคนใต้ร่างสักนิด ริมฝีปากบางเฉียบกระตุกยิ้มที่มุมปากเมื่อพบเจอกับอาหารจานโปรด นั่นยิ่งสร้างความโกรธเกรี้ยวให้หญิงสาวมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ดวงตาคู่งามร้อนผ่าวด้วยความอัดอั้นตันใจที่ไม่สามารถทำอะไรผู้ชายจอมหื่นอย่างดิเอโกได้
กายสาวกระตุกเฮือกเมื่อฝ่ามือร้อนผ่าวของเจ้าพ่อใหญ่ตรงเข้าปลดตะขอบราเซียร์ตัวน้อยให้หลุดออกจากกันแล้วเหวี่ยงทิ้งไปอย่างไม่รั้งรอให้ล่าช้าแม้เพียงเสี้ยววินาที หัวใจดวงน้อยเต้นรัวเร็วหายใจหอบถี่ด้วยตระหนกกับการกระทำนั้น ดิเอโกจับจ้องมองทรวงอกนุ่มที่ขยับขึ้นลงถี่ยิบตามจังหวะการหายใจอย่างพึงพอใจ สายตาคู่สนิมตวัดขึ้นมองดวงตาที่ฉายแววตื่นตระหนกอีกครั้งก่อนหลุบมองของหวานตรงหน้าที่เผยโฉมยวนตาให้ใจสั่นสะท้าน
เสียงหวานพยายามกรีดร้องประท้วงยามสบเข้ากับดวงตาสีสนิมคู่นั้น ไม่ต้องอธิบายให้มากความ สุพิชญาก็รู้ดีว่าชะตากรรมในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้เธอจะต้องพ่ายแพ้แก่ความช่ำชองของอีกฝ่ายอย่างไม่อาจต้านทานได้ เพียงแค่นี้เธอยังรู้สึกหวามไหวทั้งที่ใจก่นด่าเขาสารพัด แต่รสสวาทที่เขาปรนเปรอให้เมื่อหลายวันที่ผ่านมายังอยู่ในความทรงจำไม่ลางเลือน เธอจำได้ดีว่ามันช่างหอมหวานและแสนเย้ายวนใจเพียงใด ...เธอจะทำอย่างไรให้เขาหยุดการกระทำนี้ ในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้!
ความคิดสะดุดลงฉับพลันเมื่อดิเอโกส่งฝ่ามือร้อนเข้ากอบกุมทรวงอกนุ่มหยุ่นอย่างถือสิทธิ์ กายสาวเริ่มบิดเร่าราวถูกของร้อนเพราะหลังก้อนเนื้อนุ่มถูกครอบครองไว้ในอุ้งมือ เจ้าพ่อใหญ่ก็โน้มตัวต่ำลงพร้อมส่งปลายลิ้นร้อนตวัดไล้ปลายยอดสีหวานที่ชูชันอวดโฉมเชิญชวนให้ลองลิ้มชิมรสว่าหอมหวานเฉกเช่นเดียวกับรูปโฉมที่เย้ายวนตาหรือไม่หัวใจดวงน้อยแทบหลุดลอยตามเพราะเขาเพียงแค่ตวัดไล้แผ่วเบาแต่ไม่ยอมคลุกเคล้าหนักหน่วงอย่างที่ส่วนลึกในใจเรียกร้อง เสียงหวานกรีดร้องก้องในลำคอราวทุกข์ทรมานเหลือแสนเมื่อเจ้าพ่อใหญ่ไม่ใส่ใจที่จะครอบครองก้อนเนื้อนุ่มมากไปกว่านั้นกลับกันกลับส่งปลายจมูกโด่งและ ริมฝีปากบางเฉียบเลาะเลียบลงไปตามหน้าท้องแบนราบพรมจูบแผ่วเบาราวกลัวว่าเรือนร่างบอบบางจะบุบสลาย เพียงเท่านั้นกายสาวก็ดิ้นพล่านอย่างทุรนทุรายมือน้อยร้าวระบมไปหมดเพราะเจ้าของออกแรงบิดหวังให้หลุดพ้นจากพันธนาการนั้น ดิเอโกกระตุกยิ้มย่องอย่างลำพองใจยามนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาผืนผ้าที่พันธนาการข้อมือบางอีกต่อไปเขาจะใช้ประสบการณ์อันเหนือชั้นจัดการปราบพยศคนอวดดีให้สิ้นฤทธิ์และยินยอมพร้อมใจไปกับเขาเฉกเช่นวันวานเพียงแค่ถูกปลดปล่อยให้
“บัดซบ! ไอ้ดิเอโก มึงกล้าตบตากู วันนี้กูจะทำให้มึงรู้ว่าคนอย่างกูฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ ซาอิคเตรียมคนเอารถออกกูจะไปรังไอ้ดิเอโก” เสียงทรงอำนาจตวาดอย่างเกรี้ยวกราด เมื่อได้รับรู้ข้อมูลจากทนายความส่วนตัวว่า เอกสารการโอนกรรมสิทธิ์เดอะไนท์คาสิโนและกิจการบนเกาะบาหลันเป็นโมฆะเพราะไม่มีลายเซ็นของบลาลอส เวนนิส อดีตเจ้าพ่อผู้ชุบเลี้ยงดิเอโกมา นับตั้งแต่วางมือจากวงการและส่งมอบให้ดิเอโกสานต่อก็ไม่มีใครรู้เลยว่าเฒ่าบลาลอสไปอยู่ที่ใดในโลกนี้ นั่นจึงทำให้ เดฟ อัลเดอร์ลัส ถึงกับคุ้มคลั่งอยากไปฆ่าดิเอโกให้ตายกับมือเสียเดี๋ยวนั้น “เดฟครับ แต่ว่า... ” “กูสั่งไม่ได้ยินหรือไง” ตวาดดังลั่นอีกครั้งเมื่อบอดี้การ์ดคนสนิทตั้งท่าจะท้วงติง แต่ดูเหมือนซาอิคจะไม่ใส่ใจกับคำด่ากราดนั่น บอดี้การ์ดหนุ่มยังคงเอ่ยวาจาทัดทานต่อไปอย่างไม่เกรงกลัวอารมณ์ของผู้เป็นนาย “ได้ยินครับเดฟ แต่ผมคงทำตามคำสั่งเดฟไม่ได้” “ซาอิคมึงกล้าขัดคำสั่งกูงั้นเหรอ” กระชากคอเสื้อมาถามด้วยแรงโทสะที่พวยพุ่งขึ้นจนยากที่จะหักห้ามอารมณ์ได้ ฟากซาอิคยังคงสีหน้านิ่งไม่ไหวติง ไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ มีเ
“ว่าไงครับ” ถามย้ำอีกรอบไม่สนใจสีหน้าบ่งบอกอาการบุญไม่รับของอีกฝ่าย สุพิชญาได้แต่เข่นเขี้ยวในใจที่ไม่อาจทำอะไรดิเอโกได้ หญิงสาวจึงหย่อนกายนั่งลงอย่างกระแทกกระทั้น ดิเอโกกระตุกยิ้มอย่างพึงพอใจพร้อมไหวไหล่อย่างผู้ชนะ“ก็แค่นั้น”สุพิชญาหน้าบูดบึ้งมากกว่าเดิมหลายเท่าตัวเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำท่าคล้ายหัวเราะยั่วยวนยามเอ่ยวาจานั้น แต่เธอก็ไม่คิดจะโต้ตอบให้ป่วยการเพราะรู้ดีว่าอย่างไรเสียก็คงไม่สามารถเอาชนะผู้ชายบ้าอำนาจตรงหน้าไปได้“เมื่อคืนนอนไม่หลับหรือว่าท้องผูกล่ะยาหยี”“คะ” ขานรับอย่างงงงันกับคำถามที่แสนกวนนั้นดิเอโกยิ้มขันกับอาการตาโตหน้าเหวอของอีกฝ่าย เจ้าพ่อใหญ่รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก แต่ที่แน่ๆ เขาชอบให้เธอทำหน้าตาตื่น โวยวายเอากับเขามากกว่าร้องไห้หนักหน่วงเฉกเช่นวันนั้น“ผมเพิ่งรู้ว่าเดี๋ยวนี้คุณกลายเป็นคนชอบให้ผมพูดซ้ำๆ” เขาเอ่ยพร้อมรอยยิ้มขันระบายเต็มใบหน้า สุพิชญาได้แต่ตะลึงอึ้งกับดวงตาพราวระยับและรอยยิ้มแสนเสน่หานั้น หัวใจสาวแกว่งไกวขึ้นมาทันใด เธอยอมรับว่าเวลานี้เขาช่างหล่อบาดตาบาดใจมากกว่ายามทำหน้าเคร่งขรึมหลายเท่านัก“ตกลงคุณมีอะไรพูดกับฉันคะ ถ้าไม่มีฉันจะกลับ” ยังคงตอบกลับอย่าง
“งั้นเราก็มาต่อกันอีกหลายๆ ครั้งแล้วกันนะยาหยี เผื่อคุณจะระลึกได้ว่าผมเป็นสามีคุณ”“อ๊ายยย... ดิเอโก! ปล่อยนะไอ้คนบ้า ไอ้คนหื่นกาม ปล่อย! ว้าย!” ท้ายประโยคหวีดร้องสุดเสียงเมื่อเจ้าพ่อใหญ่ทุ่มร่างน้อยลงบนเตียงกว้างแล้วก้าวย่างขึ้นตามติดประชิดตัวไม่เปิดช่องให้เธอได้ถอยหนี นั่นยังไม่ร้ายเท่ามือน้อยทั้งสองข้างถูกขึงตรึงกางแนบไปกับเตียงกว้าง ทรวงอกนุ่มหยุ่นขยับขึ้นลงรัวเร็วตามแรงหายใจหอบถี่ เรียวขาสวยถูกเรือนกายท่อนร่างของเขาตรึงไว้แน่นจนไม่อาจดิ้นหนีได้“ร้องไปนะยาหยีร้องให้ดังๆ เพราะเวลาคุณครวญครางมันดังกว่านี้หลายเท่านัก”“กรี๊ดดดด... อื้ม!”สุพิชญาพยายามเบี่ยงหน้าหลบหนีไม่ยอมให้อีกฝ่ายครอบครองกลีบปากนุ่มนิ่มตามใจชอบ แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้เพราะเจ้าพ่อใหญ่ก็ตามติดประกบปิดริมฝีปากแสนหวานได้ในที่สุด และนั่นก็ทำให้หัวใจดวงน้อยแทบหยุดเต้นเพราะเขาทั้งขบเม้มดูดดื่มราวกับหิวกระหายมาแรมปี จุมพิตเร่าร้อนรุนแรงช่างยาวนานไม่เปิดช่องให้เธอได้หายใจสักนิดสุพิชญาคิดว่าเธอจะขาดอากาศหายใจเสียให้ได้ เพราะยามนี้เธอเริ่มหายใจติดขัดแต่เหมือนดิเอโกจะล่วงรู้ เจ้าพ่อใหญ่จึงปล่อยกลีบปากนุ่มนิ่มให้เป็นอิสระ แต่ท
บรรยากาศยามเช้าวันนี้ช่างอบอุ่นหัวใจเสียเหลือเกินในความรู้สึกของสุพิชญา หญิงสาวทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่างห้องนอนปล่อยใจให้ล่องลอยไปบนท้องฟ้ากว้าง ดวงตาคู่งามเหม่อมองไปไกลจนสุดปลายสายรุ้งที่ตรงโค้งฟ้า เธอไม่อาจปฏิเสธได้ว่าช่วงค่ำคืนที่ผ่านมาเธอไม่ได้เศร้าเสียใจสักนิด แต่กลับกันเธอกลับรู้สึกเหมือนเสี้ยวหนึ่งของชีวิตได้รับการเติมเต็มดิเอโกทำให้เธอสั่นสะท้านไปกับทุกสัมผัสที่เร่าร้อนของเขา คำว่า “สามี” ที่เขาเฝ้าตอกย้ำให้เธอจดจำราวสายฝนที่โปรยปรายจนชุ่มฉ่ำในหัวใจ แม้จะไม่มีการเอ่ยคำว่ารัก แต่ทุกการกระทำที่เขาแสดงออกว่าหลงใหลคลั่งไคล้ในตัวเธอนั้นมันสำคัญกว่าสิ่งอื่นใดแม้เช้านี้ตื่นขึ้นมาข้างกายจะไร้ซึ่งเรือนกายแกร่งที่เธอกอดก่ายเมื่อตอนรุ่งสาง แต่ทว่านั่นไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกมัวหมองสักนิด แม้ในใจลึกๆ จะผิดหวังที่ไม่ได้เจอหน้าเขาเมื่อยามลืมตาตื่นขึ้นมา เหตุใดหนอเธอจึงเป็นไปได้มากมายเช่นนี้ ทั้งที่ปากบอกรังเกียจ แต่เพียงได้ชิดใกล้ เขากลับมาวิ่งวุ่นวายอยู่ในใจเธอไม่ว่างเว้น อารมณ์หงุดหงิดขุ่นเคืองใจเมื่อหลายวันก่อนหายไปไหนกัน ดิเอโกมีอิทธิพลกับเธอมากถึงเพียงนี้เชียวหรือ ไม่เคยรู้จักแต่กลับป
เพียงริมฝีปากนุ่มสัมผัสแผ่วเบาเจ้าพ่อใหญ่ก็เผยอแย้มเรียวปากกว้างขึ้นเปิดช่องให้อีกฝ่ายสอดใส่ปลายลิ้นเล็กเข้าไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ ส่วนสะโพกสอบก็ขยับขับเคลื่อนท่อนกายแกร่งที่บัดนี้แฝงตัวอย่างองอาจวาดลวดลายอยู่ในซอกหลืบนุ่ม ธารน้ำหลั่งไหลอาบตัวตนแห่งความเป็นชายจนชุ่มฉ่ำถ้วนทั่ว ยิ่งสุพิชญามอบจุมพิตแบบกล้าๆ กลัวๆ เขาก็ยิ่งเร่งจังหวะรัวเร็วขึ้นเพื่อให้อีกฝ่ายได้ปลดปล่อยตัวตนข้างในออกมาสุพิชญาลืมเลือนไปเสียแล้วว่าเธอตั้งใจปฏิเสธเขาตั้งแต่แรก เพราะเพียงเขาแทรกกายผ่านกลางกายเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว หัวใจเธอก็เต้นรัวเร็วทั้งตื่นตระหนก ทั้งหวามไหว ปั่นป่วนไปทั่วเรือนกาย เธอไม่คิดว่าดิเอโกจะจู่โจมฝากฝังความเป็นชายเข้าในเรือนร่างของเธอรวดเร็วเช่นนั้น ซ้ำยังแสดงลีลารักผาดโผนแบบไม่คิดเกรงใจฟ้าดิน ด้วยยามนี้ ณ ตรงที่เขาวาดลวดลายมันคือผนังกระจกทั้งด้านที่มองเห็นวิวทิวทัศน์ภายนอกถ้วนทั่ว แต่ที่ร้ายกว่านั้นคือบานกระจกใสจนภายนอกมองเข้ามาเห็นภายในได้เกือบทั่วทุกตารางนิ้วแต่ดูเหมือนว่าเจ้าพ่อใหญ่จะไม่ใส่ใจ เพราะเพียงตวัดเสื้อคลุมตัวโคร่งออกจากร่างเธอแล้วปลดเปลื้องพันธนาการเรือนกายท่อนร่างของตัวเองออกเขาก็สอ
ภายในห้องพักสุดหรูของบ้านพักตากอากาศในพื้นที่ส่วนบุคคลหลายร้อยไร่บนเกาะบาหลียามนี้ บรรยากาศภายในห้องช่างสุดแสนโรแมนติก แสงนวลสีเหลืองอ่อนจากโคมไฟระย้าที่ตกกระทบผนังห้องสีครีมชวนให้เกิดแสงสว่างนุ่มนวลตา บนเตียงกว้างด้านหนึ่งของห้องปรากฏเรือนร่างของหญิงสาวทรวดทรงสุดเซ็กซี่ภายใต้ชุดราตรีสั้นสีเขียวมรกตขับให้ผิวนวลดูผุดผ่องต้องตาตรงหน้าประตูห้องน้ำที่เพิ่งแง้มออก ร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มชาวสเปนผู้มีเชื้อสายละตินวัยสามสิบห้าปี ผมหยักศกสีน้ำตาลเข้มตัดรองทรงดูยุ่งเหยิงน้อยๆ ด้วยผ้าขนหนูสีขาวที่ถูกฝ่ามือใหญ่ยกขึ้นซับน้ำให้พอแห้งหมาดๆ ดวงตาสีสนิมจับจ้องเรือนร่างยวนตาบนเตียงกว้างอย่างพอใจ เขารู้สึกหัวใจเต้นแรงขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกระตุ้นความต้องการของเขามากเท่านี้สองเท้าค่อยๆ ก้าวเข้าหาเตียงกว้างก่อนที่จะหยุดข้างเตียงและหย่อนกายนั่งลงข้างเรือนร่างโปร่งบาง ริมฝีปากบางเฉียบกระตุกยิ้มอย่างพึงพอใจยามยื่นฝ่ามือหนาออกไปสัมผัสลูบไล้นวลเนื้อเนียนตรงต้นแขนเรียวอย่างแผ่วเบา ไม่น่าเชื่อว่าเพียงเท่านั้นเรือนกายแกร่งก็ออกอาการสั่นเทาราวเป็นไข้ ดวงตาสีสนิมตวัดไล้ไปทั่วเรือนร่างราวต้อ
กายสาวกระตุกเฮือกราวหวาดผวาเมื่อยอดดอกบัวงามสัมผัสถึงความร้อนชื้นในโพรงปากนุ่มที่เข้าครอบครองดื่มด่ำราวกำลังหิวกระหายหลังจากฝ่ามือร้อนระอุบรรจงสรรค์สร้างให้ก้อนเนื้อนุ่มกลายเป็นดอกบัวคู่งามชูชันแข่งกันอวดโฉมรอเหล่าภมรมาคลอเคล้าเสียงหวีดร้องขัดขืนแปรเปลี่ยนเป็นครวญครางกระเส่าด้วยรู้สึกเร่าร้อนไปทั้งกายและใจยามทั้งมือและอุ้งปากที่เต็มไปด้วยธารน้ำอุ่นซ่านสลับสับกันคลึงเคล้าด้วยท่วงทำนองที่สอดประสานกันราวกำลังบรรจงสรรค์สร้างดอกบัวคู่งามให้เป็นงานศิลป์อันตระการตาแรงขัดขืนค่อยๆ ลดน้อยถอยลงจนแทบมลายหายไปสิ้น ทั้งที่ใจอยากต่อต้านแต่กายกลับไหวสะท้านสั่นระริกไปกับสัมผัสแปลกใหม่จากชายแปลกหน้าชนิดที่หญิงสาวผู้รักนวลสงวนตัวอย่าง สุพิชญา นาฏดิลก ไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นในชีวิตนี้เรียวแขนอันงดงามผวาเข้ากอดรัดต้นคอแกร่งแน่นอย่างหวาดผวา เพราะเพียงฝ่ามือใหญ่ปลดปล่อยข้อมือน้อยทั้งสองข้างให้หลุดออกจากพันธนาการ เรือนร่างบอบบางก็ถูกผลักให้นอนราบทาบทับลงไปกับเตียงกว้าง ทุกการกระทำช่างรวดเร็วเสียจนหญิงสาวไม่มีโอกาสดึงสติให้กลับมาสมบูรณ์พร้อม เพียงเธอผวาเกาะกอด เรือนกายแข็งแกร่งก็โน้มทาบทับลงมาและเริ่มรุกเร้