“บัดซบ! ไอ้ดิเอโก มึงกล้าตบตากู วันนี้กูจะทำให้มึงรู้ว่าคนอย่างกูฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ ซาอิคเตรียมคนเอารถออกกูจะไปรังไอ้ดิเอโก” เสียงทรงอำนาจตวาดอย่างเกรี้ยวกราด เมื่อได้รับรู้ข้อมูลจากทนายความส่วนตัวว่า เอกสารการโอนกรรมสิทธิ์เดอะไนท์คาสิโนและกิจการบนเกาะบาหลันเป็นโมฆะเพราะไม่มีลายเซ็นของบลาลอส เวนนิส อดีตเจ้าพ่อผู้ชุบเลี้ยงดิเอโกมา นับตั้งแต่วางมือจากวงการและส่งมอบให้ดิเอโกสานต่อก็ไม่มีใครรู้เลยว่าเฒ่าบลาลอสไปอยู่ที่ใดในโลกนี้ นั่นจึงทำให้ เดฟ อัลเดอร์ลัส ถึงกับคุ้มคลั่งอยากไปฆ่าดิเอโกให้ตายกับมือเสียเดี๋ยวนั้น
“เดฟครับ แต่ว่า... ”
“กูสั่งไม่ได้ยินหรือไง” ตวาดดังลั่นอีกครั้งเมื่อบอดี้การ์ดคนสนิทตั้งท่าจะท้วงติง แต่ดูเหมือนซาอิคจะไม่ใส่ใจกับคำด่ากราดนั่น บอดี้การ์ดหนุ่มยังคงเอ่ยวาจาทัดทานต่อไปอย่างไม่เกรงกลัวอารมณ์ของผู้เป็นนาย
“ได้ยินครับเดฟ แต่ผมคงทำตามคำสั่งเดฟไม่ได้”
“ซาอิคมึงกล้าขัดคำสั่งกูงั้นเหรอ” กระชากคอเสื้อมาถามด้วยแรงโทสะที่พวยพุ่งขึ้นจนยากที่จะหักห้ามอารมณ์ได้ ฟากซาอิคยังคงสีหน้านิ่งไม่ไหวติง ไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ มีเพียงวาจาแสดงปณิธานอันแน่วแน่เท่านั้นที่หลุดรอดจากริมฝีปากหนา
“ถ้าเพื่อความปลอดภัยของเดฟ ต่อให้เดฟฆ่าผมตายผมก็ทำตามคำสั่งไม่ได้”
“ซาอิค แก” เดฟเอ่ยได้เพียงเท่านั้น วาจาแสนตรงและจริงจังของลูกน้องหนุ่มทำเอาเจ้าพ่ออารมณ์ร้ายถึงกับชะงักอึ้ง
“เดฟครับ ผมเข้าใจว่าเดฟแค้นใจ แต่ผมพาเดฟไปรังไอ้ดิเอโกไม่ได้ เดฟน่าจะรู้ว่าไอ้ดิเอโกมันเล่ห์เหลี่ยมสารพัดพิษ ยิ่งถ้าเป็นถิ่นมันด้วยแล้ว ผมเกรงว่าเดฟจะไม่ปลอดภัย” กล่าวต่อไปเมื่อผู้เป็นนายเริ่มอารมณ์เย็นลง
“จริงของมึงซาอิค เจ็บใจนัก ไอ้ดิเอโกมันหยามหน้ากูชัดๆ คอยดูเถอะกูจะเอาคืนให้สาสม” ท้ายประโยคน้ำเสียงเต็มไปด้วยเพลิงโทสะที่ดูเหมือนจะเริ่มคุกรุ่นขึ้นแต่เจ้าของก็พยายามระงับไว้อย่างถึงที่สุด
“นั่นใคร! มาทำลับๆ ล่อๆ อะไรอยู่ตรงนั้น ออกมา!” ตวาดลั่นอีกครั้งเมื่อหางตาเห็นใครบางคนผลุบโผล่อยู่ตรงทางเข้าโถงที่เขากับซาอิคกำลังเสวนากันอยู่ น้ำเสียงนั้นบ่งบอกพลังอำนาจเสียจนคนที่แอบซ่อนเดินตัวลีบออกมาอย่างเกรงกลัวสุดใจ
“ขอโทษค่ะเดฟ ยี่หลินเองค่ะ”
“เธอมาทำอะไรตรงนี้” ถามเสียงดุพลางจ้องมองอย่างจับผิด เมื่อ ยี่หลินหญิงสาวทรวดทรงสุดเซ็กซี่ก้าวออกมาจากมุมประตู
“คะ...คือ ยี่หลินเห็นว่าเดฟเพิ่งกลับเข้ามาเลยมาดูเผื่อเดฟเรียกใช้น่ะค่ะ”
“คราวหน้าคราวหลังถ้าฉันไม่เรียกใช้อย่าสะเออะมาเสนอหน้าแถวนี้เข้าใจไหม”
“ค่ะเดฟ ยี่หลินขอโทษ ยี่หลินผิดไปแล้ว” เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเทาน้ำตาเริ่มคลอเบ้า เท่าที่เธออยู่ใกล้ชิดเดฟมายี่หลินรู้ดีว่าเจ้าพ่อวายร้ายนั้น อารมณ์ร้ายขนาดไหน หากใครขัดใจหรือทำอะไรไม่เข้าตาก็อาจสิ้นชีวาได้ง่ายๆ
“เดี๋ยว! นั่นจะไปไหน” ตวาดเสียงก้องเมื่อเห็นร่างอวบอัดของยี่หลินกำลังหันหลังขยับจะกลับออกไป น้ำเสียงทรงอำนาจนั้นก็กระตุกใจเสียจนเธอเสียวหลังวาบ
“ก็เดฟบอกว่าถ้าไม่เรียกใช้ ไม่ให้เอ่อ... ”
“พอๆ ไม่ต้องพูด ไหนๆ ก็มาแล้ว ไปเตรียมน้ำให้ฉันหน่อย ฉันอยากแช่น้ำให้สบายอารมณ์”
“ค่ะเดฟ” รับคำอย่างดีใจทั้งที่ก่อนหน้านี้ยืนตัวลีบด้วยเกรงกลัวว่าจะเผลอทำสิ่งใดให้ขัดใจเจ้าพ่อวายร้ายเข้า หญิงสาวร่างอวบรีบรุดออกไปทำตามคำสั่งทันทีไม่รีรอให้อีกฝ่ายต้องเอื้อนเอ่ยคำซ้ำ เมื่อคล้อยหลังยี่หลิน เดฟก็หันมาเอ่ยกับบอดี้การ์ดคนสนิทอีกครั้ง
“ซาอิค ฉันขอบใจที่นายหวังดีและเตือนสติ วันนี้นายไปพักผ่อนเถอะ แล้วฉันจะคิดอีกทีว่าจะจัดการไอ้ดิเอโกอย่างไรให้สมกับความโอหังของมัน”
“ครับเดฟ”
**************************************
“มิสคะดิเอโกให้มาเชิญค่ะ”
“ไปไหน” สุพิชญาถามอย่างสงสัยหัวใจดวงน้อยเต้นตึกตักขึ้นมาอย่างไม่อาจหักห้ามได้ หญิงสาวไม่เข้าใจว่าทำไมหัวใจเธอจึงต้องเต้นรัวเร็วเช่นนี้ด้วยเพียงแค่ได้ยินชื่อของเจ้าพ่อบ้ากามเท่านั้นเธอก็รู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งกายและใจ
หลังจากวันที่เขาให้บอดี้การ์ดสาวนำพาเธอมาพักในห้องนี้เธอก็ไม่มีโอกาสได้ย่างกรายออกไปจากห้องเลยแม้แต่นิด เธอใช้ชีวิตอยู่เยี่ยงนักโทษที่ถูกกักขังตลอดระยะเวลา 5 วันที่ผ่านมา ดีหน่อยก็ตรงที่ว่าเสื้อผ้า อาหารการกิน มีคนคอยดูแลจัดการให้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง และเธอไม่ต้องถูกใส่กุญแจมือหรือล่ามโซ่ มีเพียงแค่ถูกกักบริเวณเท่านั้น
“ตามมาเถอะค่ะ... เดี๋ยวถึงแล้วมิสจะรู้เอง” บอกต่ออย่างไม่คิดตอบคำถามให้เสียเวลาสักนิด สุพิชญายิ่งรู้สึกอึดอัดใจ เพราะเผชิญหน้ากับดิเอโกคราใดเธอเป็นต้องเสียเปรียบทุกครั้งไป แม้ในใจลึกๆ จะรู้สึกยินดีที่จะได้เจอเขาก็ตาม
“แต่ว่าฉัน...”
“ดิเอโกไม่ชอบให้ขัดใจ มิสน่าจะทราบในข้อนี้ไว้นะคะ”
“แต่ฉันมีสิทธิ์ที่จะรู้” น้ำเสียงออกขุ่นเขียวเล็กน้อยเมื่อบอดี้การ์ดสาวตั้งท่าออกแนวข่มขู่เธอเฉกเช่นเดียวกับผู้เป็นนาย ผิดกันก็แค่น้ำเสียงและท่าทีที่ดูนบนอบนั้น
“นั่นไม่ใช่สิ่งที่มิสจะหาคำตอบในเวลานี้ค่ะ เชิญเถอะค่ะ ดิเอโกรออยู่” อีกครั้งที่ไม่คิดฟังคำผู้ที่ตัวเองเอ่ยสรรพนามแทนตัวว่ามิสสักนิด เพราะนั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญ เรื่องที่สำคัญกว่าคือดิเอโกต้องการพบผู้หญิงที่เขาให้ทุกคนเรียกว่ามิสหรือนายหญิงเดี๋ยวนี้!
“บ้าจริง! คนบ้าอำนาจ! คอยดูเถอะอย่าหวังว่าฉันจะตามใจคุณง่ายๆ นะดิเอโก” สบถด่ากับตัวเองเบาๆ ก่อนก้าวเดินตามบอดี้การ์ดสาวของเจ้าพ่อใหญ่ไปอย่างไม่เต็มใจ ตั้งแต่วันที่เขาให้เฮเลนพาเธอมาพักที่ห้องนี่ก็หลายวันแล้ว แม้จะรู้สึกปลอดโปร่งที่ไม่มีใครมากวนใจ แต่สุพิชญาก็ยอมรับว่าเธอรู้สึกเหงา และเคว้งคว้างเหลือเกิน และดูเหมือนผู้ชายที่ชื่อดิเอโกจะวนเวียนอยู่ในหัวเธอไม่ว่างเว้นแม้วินาทีเดียว
“ดิเอโกคะมิสมาแล้วค่ะ” บอดี้การ์ดสาวรายงานเมื่อพาสุพิชญามาถึงที่หมาย จากนั้นจึงผายมือให้หญิงสาวก้าวเข้าไปใกล้โต๊ะอาหารที่มีดิเอโกนั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“เชิญค่ะมิส”
เฮเลนรู้ดีว่ายามนี้นายใหญ่ต้องการเวลาส่วนตัวจึงถอยกลับไปอย่างรู้หน้าที่เมื่อดิเอโกพยักหน้าส่งสัญญาณให้ออกไปได้
“นั่งสิยาหยี ยืนอยู่แบบนั้นแล้วจะเริ่มทานอาหารได้ยังไงล่ะ” หันกลับมาเอ่ยกับสุพิชญาที่ยังยืนนิ่งไม่ยอมนั่งลงตรงเก้าอี้ด้านตรงข้ามเขา
“คุณมีอะไรก็พูดมาเถอะค่ะ เสร็จธุระฉันจะได้กลับ” บอกพลางเชิดหน้าอย่างถือดี ดิเอโกซ่อนยิ้มขันกับท่าทางตั้งคอแข็งนั้น เจ้าพ่อใหญ่แสร้งทำหน้าขึงขังจริงจังยามเอ่ยแกมบังคับ
“เลือกเอาว่าจะนั่งลงตรงนั้นดีๆ หรือจะย้ายที่มานั่งบนตักผม”
“คุณ!”
“ว่าไงครับ” ถามย้ำอีกรอบไม่สนใจสีหน้าบ่งบอกอาการบุญไม่รับของอีกฝ่าย สุพิชญาได้แต่เข่นเขี้ยวในใจที่ไม่อาจทำอะไรดิเอโกได้ หญิงสาวจึงหย่อนกายนั่งลงอย่างกระแทกกระทั้น ดิเอโกกระตุกยิ้มอย่างพึงพอใจพร้อมไหวไหล่อย่างผู้ชนะ“ก็แค่นั้น”สุพิชญาหน้าบูดบึ้งมากกว่าเดิมหลายเท่าตัวเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำท่าคล้ายหัวเราะยั่วยวนยามเอ่ยวาจานั้น แต่เธอก็ไม่คิดจะโต้ตอบให้ป่วยการเพราะรู้ดีว่าอย่างไรเสียก็คงไม่สามารถเอาชนะผู้ชายบ้าอำนาจตรงหน้าไปได้“เมื่อคืนนอนไม่หลับหรือว่าท้องผูกล่ะยาหยี”“คะ” ขานรับอย่างงงงันกับคำถามที่แสนกวนนั้นดิเอโกยิ้มขันกับอาการตาโตหน้าเหวอของอีกฝ่าย เจ้าพ่อใหญ่รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก แต่ที่แน่ๆ เขาชอบให้เธอทำหน้าตาตื่น โวยวายเอากับเขามากกว่าร้องไห้หนักหน่วงเฉกเช่นวันนั้น“ผมเพิ่งรู้ว่าเดี๋ยวนี้คุณกลายเป็นคนชอบให้ผมพูดซ้ำๆ” เขาเอ่ยพร้อมรอยยิ้มขันระบายเต็มใบหน้า สุพิชญาได้แต่ตะลึงอึ้งกับดวงตาพราวระยับและรอยยิ้มแสนเสน่หานั้น หัวใจสาวแกว่งไกวขึ้นมาทันใด เธอยอมรับว่าเวลานี้เขาช่างหล่อบาดตาบาดใจมากกว่ายามทำหน้าเคร่งขรึมหลายเท่านัก“ตกลงคุณมีอะไรพูดกับฉันคะ ถ้าไม่มีฉันจะกลับ” ยังคงตอบกลับอย่าง
“งั้นเราก็มาต่อกันอีกหลายๆ ครั้งแล้วกันนะยาหยี เผื่อคุณจะระลึกได้ว่าผมเป็นสามีคุณ”“อ๊ายยย... ดิเอโก! ปล่อยนะไอ้คนบ้า ไอ้คนหื่นกาม ปล่อย! ว้าย!” ท้ายประโยคหวีดร้องสุดเสียงเมื่อเจ้าพ่อใหญ่ทุ่มร่างน้อยลงบนเตียงกว้างแล้วก้าวย่างขึ้นตามติดประชิดตัวไม่เปิดช่องให้เธอได้ถอยหนี นั่นยังไม่ร้ายเท่ามือน้อยทั้งสองข้างถูกขึงตรึงกางแนบไปกับเตียงกว้าง ทรวงอกนุ่มหยุ่นขยับขึ้นลงรัวเร็วตามแรงหายใจหอบถี่ เรียวขาสวยถูกเรือนกายท่อนร่างของเขาตรึงไว้แน่นจนไม่อาจดิ้นหนีได้“ร้องไปนะยาหยีร้องให้ดังๆ เพราะเวลาคุณครวญครางมันดังกว่านี้หลายเท่านัก”“กรี๊ดดดด... อื้ม!”สุพิชญาพยายามเบี่ยงหน้าหลบหนีไม่ยอมให้อีกฝ่ายครอบครองกลีบปากนุ่มนิ่มตามใจชอบ แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้เพราะเจ้าพ่อใหญ่ก็ตามติดประกบปิดริมฝีปากแสนหวานได้ในที่สุด และนั่นก็ทำให้หัวใจดวงน้อยแทบหยุดเต้นเพราะเขาทั้งขบเม้มดูดดื่มราวกับหิวกระหายมาแรมปี จุมพิตเร่าร้อนรุนแรงช่างยาวนานไม่เปิดช่องให้เธอได้หายใจสักนิดสุพิชญาคิดว่าเธอจะขาดอากาศหายใจเสียให้ได้ เพราะยามนี้เธอเริ่มหายใจติดขัดแต่เหมือนดิเอโกจะล่วงรู้ เจ้าพ่อใหญ่จึงปล่อยกลีบปากนุ่มนิ่มให้เป็นอิสระ แต่ท
บรรยากาศยามเช้าวันนี้ช่างอบอุ่นหัวใจเสียเหลือเกินในความรู้สึกของสุพิชญา หญิงสาวทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่างห้องนอนปล่อยใจให้ล่องลอยไปบนท้องฟ้ากว้าง ดวงตาคู่งามเหม่อมองไปไกลจนสุดปลายสายรุ้งที่ตรงโค้งฟ้า เธอไม่อาจปฏิเสธได้ว่าช่วงค่ำคืนที่ผ่านมาเธอไม่ได้เศร้าเสียใจสักนิด แต่กลับกันเธอกลับรู้สึกเหมือนเสี้ยวหนึ่งของชีวิตได้รับการเติมเต็มดิเอโกทำให้เธอสั่นสะท้านไปกับทุกสัมผัสที่เร่าร้อนของเขา คำว่า “สามี” ที่เขาเฝ้าตอกย้ำให้เธอจดจำราวสายฝนที่โปรยปรายจนชุ่มฉ่ำในหัวใจ แม้จะไม่มีการเอ่ยคำว่ารัก แต่ทุกการกระทำที่เขาแสดงออกว่าหลงใหลคลั่งไคล้ในตัวเธอนั้นมันสำคัญกว่าสิ่งอื่นใดแม้เช้านี้ตื่นขึ้นมาข้างกายจะไร้ซึ่งเรือนกายแกร่งที่เธอกอดก่ายเมื่อตอนรุ่งสาง แต่ทว่านั่นไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกมัวหมองสักนิด แม้ในใจลึกๆ จะผิดหวังที่ไม่ได้เจอหน้าเขาเมื่อยามลืมตาตื่นขึ้นมา เหตุใดหนอเธอจึงเป็นไปได้มากมายเช่นนี้ ทั้งที่ปากบอกรังเกียจ แต่เพียงได้ชิดใกล้ เขากลับมาวิ่งวุ่นวายอยู่ในใจเธอไม่ว่างเว้น อารมณ์หงุดหงิดขุ่นเคืองใจเมื่อหลายวันก่อนหายไปไหนกัน ดิเอโกมีอิทธิพลกับเธอมากถึงเพียงนี้เชียวหรือ ไม่เคยรู้จักแต่กลับป
เพียงริมฝีปากนุ่มสัมผัสแผ่วเบาเจ้าพ่อใหญ่ก็เผยอแย้มเรียวปากกว้างขึ้นเปิดช่องให้อีกฝ่ายสอดใส่ปลายลิ้นเล็กเข้าไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ ส่วนสะโพกสอบก็ขยับขับเคลื่อนท่อนกายแกร่งที่บัดนี้แฝงตัวอย่างองอาจวาดลวดลายอยู่ในซอกหลืบนุ่ม ธารน้ำหลั่งไหลอาบตัวตนแห่งความเป็นชายจนชุ่มฉ่ำถ้วนทั่ว ยิ่งสุพิชญามอบจุมพิตแบบกล้าๆ กลัวๆ เขาก็ยิ่งเร่งจังหวะรัวเร็วขึ้นเพื่อให้อีกฝ่ายได้ปลดปล่อยตัวตนข้างในออกมาสุพิชญาลืมเลือนไปเสียแล้วว่าเธอตั้งใจปฏิเสธเขาตั้งแต่แรก เพราะเพียงเขาแทรกกายผ่านกลางกายเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว หัวใจเธอก็เต้นรัวเร็วทั้งตื่นตระหนก ทั้งหวามไหว ปั่นป่วนไปทั่วเรือนกาย เธอไม่คิดว่าดิเอโกจะจู่โจมฝากฝังความเป็นชายเข้าในเรือนร่างของเธอรวดเร็วเช่นนั้น ซ้ำยังแสดงลีลารักผาดโผนแบบไม่คิดเกรงใจฟ้าดิน ด้วยยามนี้ ณ ตรงที่เขาวาดลวดลายมันคือผนังกระจกทั้งด้านที่มองเห็นวิวทิวทัศน์ภายนอกถ้วนทั่ว แต่ที่ร้ายกว่านั้นคือบานกระจกใสจนภายนอกมองเข้ามาเห็นภายในได้เกือบทั่วทุกตารางนิ้วแต่ดูเหมือนว่าเจ้าพ่อใหญ่จะไม่ใส่ใจ เพราะเพียงตวัดเสื้อคลุมตัวโคร่งออกจากร่างเธอแล้วปลดเปลื้องพันธนาการเรือนกายท่อนร่างของตัวเองออกเขาก็สอ
ภายในห้องพักสุดหรูของบ้านพักตากอากาศในพื้นที่ส่วนบุคคลหลายร้อยไร่บนเกาะบาหลียามนี้ บรรยากาศภายในห้องช่างสุดแสนโรแมนติก แสงนวลสีเหลืองอ่อนจากโคมไฟระย้าที่ตกกระทบผนังห้องสีครีมชวนให้เกิดแสงสว่างนุ่มนวลตา บนเตียงกว้างด้านหนึ่งของห้องปรากฏเรือนร่างของหญิงสาวทรวดทรงสุดเซ็กซี่ภายใต้ชุดราตรีสั้นสีเขียวมรกตขับให้ผิวนวลดูผุดผ่องต้องตาตรงหน้าประตูห้องน้ำที่เพิ่งแง้มออก ร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มชาวสเปนผู้มีเชื้อสายละตินวัยสามสิบห้าปี ผมหยักศกสีน้ำตาลเข้มตัดรองทรงดูยุ่งเหยิงน้อยๆ ด้วยผ้าขนหนูสีขาวที่ถูกฝ่ามือใหญ่ยกขึ้นซับน้ำให้พอแห้งหมาดๆ ดวงตาสีสนิมจับจ้องเรือนร่างยวนตาบนเตียงกว้างอย่างพอใจ เขารู้สึกหัวใจเต้นแรงขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกระตุ้นความต้องการของเขามากเท่านี้สองเท้าค่อยๆ ก้าวเข้าหาเตียงกว้างก่อนที่จะหยุดข้างเตียงและหย่อนกายนั่งลงข้างเรือนร่างโปร่งบาง ริมฝีปากบางเฉียบกระตุกยิ้มอย่างพึงพอใจยามยื่นฝ่ามือหนาออกไปสัมผัสลูบไล้นวลเนื้อเนียนตรงต้นแขนเรียวอย่างแผ่วเบา ไม่น่าเชื่อว่าเพียงเท่านั้นเรือนกายแกร่งก็ออกอาการสั่นเทาราวเป็นไข้ ดวงตาสีสนิมตวัดไล้ไปทั่วเรือนร่างราวต้อ
กายสาวกระตุกเฮือกราวหวาดผวาเมื่อยอดดอกบัวงามสัมผัสถึงความร้อนชื้นในโพรงปากนุ่มที่เข้าครอบครองดื่มด่ำราวกำลังหิวกระหายหลังจากฝ่ามือร้อนระอุบรรจงสรรค์สร้างให้ก้อนเนื้อนุ่มกลายเป็นดอกบัวคู่งามชูชันแข่งกันอวดโฉมรอเหล่าภมรมาคลอเคล้าเสียงหวีดร้องขัดขืนแปรเปลี่ยนเป็นครวญครางกระเส่าด้วยรู้สึกเร่าร้อนไปทั้งกายและใจยามทั้งมือและอุ้งปากที่เต็มไปด้วยธารน้ำอุ่นซ่านสลับสับกันคลึงเคล้าด้วยท่วงทำนองที่สอดประสานกันราวกำลังบรรจงสรรค์สร้างดอกบัวคู่งามให้เป็นงานศิลป์อันตระการตาแรงขัดขืนค่อยๆ ลดน้อยถอยลงจนแทบมลายหายไปสิ้น ทั้งที่ใจอยากต่อต้านแต่กายกลับไหวสะท้านสั่นระริกไปกับสัมผัสแปลกใหม่จากชายแปลกหน้าชนิดที่หญิงสาวผู้รักนวลสงวนตัวอย่าง สุพิชญา นาฏดิลก ไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นในชีวิตนี้เรียวแขนอันงดงามผวาเข้ากอดรัดต้นคอแกร่งแน่นอย่างหวาดผวา เพราะเพียงฝ่ามือใหญ่ปลดปล่อยข้อมือน้อยทั้งสองข้างให้หลุดออกจากพันธนาการ เรือนร่างบอบบางก็ถูกผลักให้นอนราบทาบทับลงไปกับเตียงกว้าง ทุกการกระทำช่างรวดเร็วเสียจนหญิงสาวไม่มีโอกาสดึงสติให้กลับมาสมบูรณ์พร้อม เพียงเธอผวาเกาะกอด เรือนกายแข็งแกร่งก็โน้มทาบทับลงมาและเริ่มรุกเร้
“เห็นไหม... มันก็เหมือนๆ กับที่คุณเคยสัมผัส มันอาจจะใหญ่กว่าแต่ผมสัญญาว่าคุณกับมันจะเข้ากันได้ดี” ดิเอโกกระซิบปลอบประโลมดวงตา สีสนิมจับจ้องดวงตาคู่หวานราวต้องการถ่ายทอดความอบอุ่นไปให้“ดะ...ดิเอโก ฉันไม่” สุพิชญาพยายามทักท้วงว่าเขากำลังเข้าใจผิด แต่สติแทบหลุดเมื่ออีกฝ่ายจับกุมมือน้อยของเธอไว้มั่นไม่ยอมปล่อย ซ้ำยังบังคับให้ขยับเขยื้อนลูบคลำส่วนนั้นของร่างกายที่กำลังตื่นตัวตอบรับสัมผัสจากเธออย่างเริงร่า“ปะ...ปล่อย! ได้โปรด... ” สุพิชญาพยายามวิงวอนอีกครั้ง ใจดวงน้อยทั้งหวาดหวั่นและหวามไหว ใจหนึ่งใคร่อยากรู้อยากเห็นอยากลิ้มลองสัมผัสแสนวาบหวามนี้ต่อไปไม่สิ้นสุด แต่ใจหนึ่งยื้อยุดให้ตระหนักถึงศีลธรรมอันดีงาม ยามนี้ไฟราคะกำลังปะทะกับสำนึกฝ่ายดีจนหญิงสาวแทบอยาก กรีดร้องระบายความอึดอัดที่แสนทรมานนั้นให้หมดไป“มาถึงขั้นนี้แล้วจะให้ผมถอยง่ายๆ ได้ไงยาหยี” เจ้าพ่อใหญ่กระซิบด้วยเสียงแหบพร่า ปล่อยมือน้อยให้เป็นอิสระแล้วเปลี่ยนเป้าหมายลากไล้ทักทายจุดกระสันเพื่อสร้างความซาบซ่านให้อีกฝ่ายทันที“ดะ...ดิเอโก อย่า... อื้อ!” เสียงหวานขยับจะทักท้วงแต่เพียงแค่เอ่ยห้ามปลายเสียงก็กลับกลายเป็นครวญครางเมื่อเจ้
“แกว่าอะไรนะเควิน” เจ้าพ่อใหญ่ตวาดกร้าวราวกำลังเกรี้ยวกราดอย่างสุดแสนเควิน เมดิสัน ผู้เป็นทั้งคนสนิทและมือขวาของ ดิเอโก เค เวนนิส เจ้าพ่อบ่อนคาสิโนผู้ยิ่งใหญ่ ได้แต่ยืนก้มหน้าสงบนิ่งอย่างยอมรับความผิดพลาดในงานที่ได้รับมอบหมาย ดวงตาสีน้ำทะเลภายใต้แว่นกันแดดสีดำสนิทมองผ่านเลนส์แว่นนั้นจับจ้องที่ผืนพรมนิ่งไม่ไหวติง“มันเกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไง” ดิเอโกเค้นเสียงถามอย่างหงุดหงิดใจเมื่อลูกน้องคู่ใจเอาแต่สงบเงียบ เจ้าพ่อใหญ่หัวเสียกับสิ่งที่ได้รับรู้เมื่อแรกอรุณของวันใหม่ ทั้งที่เมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมาช่างเป็นช่วงเวลาที่แสนอิ่มเอมใจ หญิงสาวแสนบริสุทธิ์ผู้เร่าร้อนทำให้กระทิงถึกอย่างเขาคึกคะนองจนแทบไม่ได้หลับนอนตลอดทั้งคืน“เจ๊ใหญ่บอกว่าผู้หญิงที่เจ๊ส่งตัวมาเกิดหลงทางเลยมาถึงที่นัดหมายช้ากว่ากำหนด แล้วแบตเตอรี่มือถือก็หมดเลยทำให้ติดต่อกันไม่ได้ครับ ดิเอโก”“แล้วผู้หญิงที่นายพามาเป็นใคร” เจ้าพ่อใหญ่ขมวดคิ้วมุ่นยามตวัดสายตาคมกล้าจับจ้องลูกน้องคนสนิทอย่างคาดคั้น เขาไว้วางใจให้เควินทำงานให้นับครั้งไม่ถ้วนทั้งงานใหญ่งานเล็ก เควินไม่เคยผิดพลาด แต่ทว่าครั้งนี้เควินกลับพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย“ไม่ทรา