“กรี๊ดดด... ดิเอโก! อย่าเข้ามา ได้โปรด... ออกไป” เสียงกรีดร้องอย่างโหยหวนพร้อมเสียงตะโกนก้องร้องห้ามเขาดังไปทั่วบริเวณ ดิเอโกแทบถลาเข้าหาเจ้าของเสียงนั้น แต่ทว่ากลับมีกรงเหล็กขวางกั้นทำให้เขาไม่อาจเข้าไปหาคนที่กำลังร้องไห้คร่ำครวญได้
“ดาราเดล! รอหน่อยนะฉันจะช่วยเธอเอง” ดิเอโกตะโกนก้องบอกคนที่กำลังร้องไห้อย่างเสียขวัญ รอบกายถูกพันธนาการด้วยสายไฟระโยงระยางไปหมด นั่นไม่ร้ายเท่ามีระเบิดเวลาผูกติดแน่นอยู่กับตัวเธอจนเขาร้อนรนแทบทนไม่ได้
ดิเอโกทำทุกวิถีทางที่จะเข้าช่วยหญิงสาว ทั้งทุบทั้งงัดกรงเหล็กที่ขวางกั้นจนมือแตกเลือดไหลอาบมือเต็มไปหมด แต่ทว่า...
บึ้ม! ตูม!!
“ดาราเดล! ม่ายยยยย!! ” ดิเอโกตะโกนก้องร้องเรียกหญิงสาวที่รักด้วยหัวใจที่แตกสลายเมื่อได้เห็นเปลวไฟลุกทั่วร่างท่ามกลางเสียงระเบิดที่ดังสนั่นหวั่นไหว น้ำตาของลูกผู้ชายไหลรินยามโขกศีรษะกับกรงเหล็กอย่างบ้าคลั่ง ท้ายสุดก่อนที่ทุกอย่างจะหยุดสิ้น เขาก็รู้สึกราวศีรษะถูกกระแทกอย่างแรง
“ดาราเดล!” ดิเอโกตะโกนก้องก่อนสะดุ้งสุดตัวเมื่อรู้สึกคล้ายหล่นวูบลงไปในหุบเหวลึก
เจ้าพ่อใหญ่ลืมตาโพลงทันทีอย่างตกใจ เรือนกายแกร่งผุดลุกขึ้นนั่งทันควันเมื่อพบว่าเหตุการณ์ทุกอย่างเป็นเพียงฝันไป
“ฝันอีกแล้วหรือนี่” ดิเอโกพึมพำกับตัวเองยามนั่งพิงกายกับหัวเตียงพร้อมหายใจหอบราววิ่งมาไกลหลายร้อยกิโลเมตร เจ้าพ่อหนุ่มยกมือขึ้นเสยผมที่ปรกหน้าผาก ฝันร้ายที่เคยเฝ้าวนเวียนหลอนหลอกเขาทุกคืนค่ำเมื่อหลายปีก่อนยามนี้กลับมาเยือนอีกครั้ง
“ดาราเดล ผม...ขอโทษ” ดิเอโกรำพันกับตัวเองอย่างรวดร้าวใจ สิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับดาราเดลราวเข็มที่ฝังแน่นอยู่ในหัวใจจนกลายเป็นกลัดหนอง
เจ้าพ่อใหญ่เคลื่อนกายลงจากเตียงก่อนหยัดยืนด้วยขาอันสั่นเทา ยังไม่ทันยืนได้มั่นคงดี สองเท้าก็ก้าวเดินพาร่างกายที่อ่อนแรงไปยังเค้าท์เตอร์เปิดฝาขวดน้ำสีเหลืองอำพันก่อนยกกระดกขึ้นกรอกเข้าปากอย่างรวดเร็วจนแทบสำลัก
ดิเอโกหย่อนกายลงนั่งทอดสายตาเหม่อมองเพดานราวต้องการปลดปล่อยจิตใจให้ล่องลอยไปในห้วงความคิด ภาพเรือนร่างของดาราเดลถูกไฟครอกหลังเสียงระเบิดดังกึกก้องยังติดตาเขามาจนถึงทุกวันนี้ ผู้หญิงคนเดียวที่เขารักต้องมารับชะตากรรมอันโหดร้ายที่ตัวเองไม่ได้ก่อเพียงเพราะมีพี่ชายแสนชั่วช้าอย่างเดฟ อัลเดอร์ลัส และมีคนรักที่ไม่เอาไหนอย่างเขา
ยามนี้สุพิชญากำลังตกที่นั่งลำบากเพียงเพราะความงี่เง่าของเขาเอง หญิงสาวผู้บริสุทธิ์ต้องเจอกับชะตากรรมอันโหดร้ายในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ก่อ เขาจะทำใจได้หรือ แม้ไม่ได้รัก แต่ความรู้สึกสำนึกผิดชอบชั่วดีทำให้เขาไม่อาจทำใจวางเฉยได้ แต่สิ่งที่ต้องแลกกับหนึ่งชีวิตที่บริสุทธิ์ทำให้เขาต้องครุ่นคิดอย่างหนัก เพราะเท่ากับส่งมอบชีวิตบริสุทธิ์อีกหลายร้อยชีวิตให้ตกอยู่ในมือมาร
ดิเอโกพยุงกายลุกขึ้นก่อนปลดเปลื้องเสื้อคลุมตัวโคร่งออกโยนทิ้งไปอย่างไม่สนใจแล้วเดินตรงดิ่งเข้าห้องน้ำเพื่อหวังใช้สายน้ำที่ชุ่มฉ่ำรินรดกายให้สดชื่น ยามนี้เจ้าพ่อใหญ่ราวกล้ำกลืนฝืนทนราวอมยาที่แสนขมไว้จะกลืนก็ไม่ได้จะคลายก็ยิ่งยากกว่าหลายเท่า
…ผมควรทำยังไงดีดาราเดล
หลังจากปล่อยให้สายน้ำไหลผ่านเพื่อชำระความเหนื่อยล้าออกไปจนพอใจ ดิเอโกก็คว้าผ้าเช็ดตัวมาพันกายก่อนหยิบเสื้อคลุมตัวหนามาสวมอย่างลวกๆ แล้วเดินออกจากห้องน้ำไปราวกับมีเรื่องเร่งด่วนที่ต้องจัดการเสียตอนนั้น
“เฮเลนบอกเควินมาพบฉันที่ห้องด่วน!” เจ้าพ่อใหญ่กรอกเสียงเข้าไปในอินเตอร์คอม
“ค่ะดิเอโก” เสียงหวานนอบน้อมตอบรับทันควันราวเป็นเครื่องตอบรับอัตโนมัติ
เจ้าพ่อใหญ่เดินออกไปยังโถงด้านหน้าของตัวห้องพัก พร้อมหย่อนกายลงกึ่งนั่งกึ่งนอนบนโซฟาตัวใหญ่ ใบหน้าคมสันยามนี้เคร่งเครียดเมื่อครุ่นคิดถึงสิ่งที่ต้องตัดสินใจ เพียงไม่นานบอดี้การ์ดหนุ่มก็เข้ามาพบตามคำสั่ง
“มาแล้วรึเควิน” เจ้าพ่อใหญ่ทักทายด้วยไม่รู้จะเอ่ยอะไรมากไปกว่านั้นด้วยยามนี้มันหนักอึ้งไปหมดกับสิ่งที่จะเอื้อนเอ่ย
“ครับดิเอโก” บอดี้การ์ดหนุ่มรับคำสั้นๆ แต่ไม่วายชำเลืองตามองผู้เป็นนายที่ยามนี้ใบหน้าดูคร่ำเคร่งเสียจนน่าเห็นใจ
“โทรตามมิสเตอร์ฟานมาพบฉันบ่ายนี้ แล้วให้เตรียมเอกสารการโอนกรรมสิทธิ์ของเดอะไนท์และเกาะบาหลันมาให้พร้อม” เจ้าพ่อใหญ่สั่งการทันทีไม่เอื้อนเอ่ยคำใดให้มากความ แต่ทว่าคำสั่งนั้นสร้างความหวาดหวั่นตกตะลึงให้กับเควินยิ่งนัก
“แต่ว่าดิเอโก เกาะบาหลัน... ”
“ฉันยืนยันสั่งตามนั้น” ดิเอโกตวาดเสียงดุเข้มเมื่อบอดี้การ์ดหนุ่มขยับทักท้วง ดวงตาคมกล้ามองไปด้านหน้าเขม็งอย่างเคร่งเครียด เขาไม่ต้องการให้ใครมาเอ่ยถึงสิ่งที่เสียดแทงใจอยู่ยามนี้
“ดิเอโกครับหากเกาะบาหลันตกไปอยู่ในมือเดฟ เท่ากับอีกหลายร้อยชีวิตเชียวนะครับที่ต้องเดือดร้อน” เควินแย้งอย่างไม่เห็นด้วย เพราะรู้จุดประสงค์ของเดฟดีว่าต้องการเกาะบาหลันไปเพื่อการใด
“แล้วนายจะปล่อยให้พิชชาต้องรับชะตากรรมที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนก่อรึไง” เจ้าพ่อใหญ่ตวาดถามด้วยเสียงดุกร้าวยามตวัดสายตากลับมาจับจ้องบอดี้การ์ดหนุ่มที่ยืนก้มหน้าอย่างสำนึกผิด
“ทำไมเราไม่บุกเข้าชิงตัวกลับมาล่ะครับดิเอโก ในเมื่อกำลังของเราก็พร้อม” เควินเสนอทางที่น่าเป็นไปได้อย่างน้อยยอมเสี่ยงช่วยสุพิชญายังดีกว่าประเคนชีวิตบริสุทธิ์อีกหลายร้อยชีวิตไปให้ เดฟ อัลเดอร์ลัส
“แล้วนายจะมั่นใจได้ยังไงว่าพิชชาจะปลอดภัย นายคิดว่าเดฟจะปล่อยให้เราบุกชิงตัวได้ง่ายๆ รึไง แค่เราขยับตัวพิชชาก็จะถูกย่ำยีจนไม่เหลือซาก หรือนายอยากให้เป็นอย่างนั้นเควิน” ดิเอโกย้อนถามในสิ่งที่เควินไม่อาจคาดเดาได้ บอดี้การ์ดหนุ่มถึงกับสะอึกอึ้งทันทีที่ได้ยิน
“ทำตามที่ฉันสั่ง บางทีอาจถึงเวลาเสียทีที่ฉันต้องวางมือ” ดิเอโกตัดบทจบก่อนพึมพำคล้ายจะรำพันกับตัวเอง แต่ทว่าวาจาท้ายประโยคนั้นกลับราวน้ำร้อนสาดซัดเข้าเต็มหน้าบอดี้การ์ดคนเก่ง
“ดิเอโก” เควินอุทานขานนามเจ้านายหนุ่มด้วยหัวใจที่รุ่มร้อน เขารู้ดียามนี้ดิเอโกหนักใจเพียงใดในสิ่งที่ต้องตัดสินใจ ความผิดครั้งนี้จะโทษใครได้ถ้าไม่ใช่เพราะเขาพามาผิดตัว
“บอกคนของเราให้เตรียมพร้อม พรุ่งนี้หากเดฟคิดตุกติกแม้แต่นิดจัดการได้ทันที” ดิเอโกสั่งการอีกครั้งก่อนลุกขึ้นเดินกลับเข้าด้านในของตัวห้อง
“ครับดิเอโก” เควินขานรับคำสั่งก่อนมองตามแผ่นหลังของผู้เป็นนายไปด้วยหัวใจที่หนักอึ้งไม่แพ้กัน เกาะบาหลัน เกาะนี้มีความหมายกับเจ้านายเพียงใดทำไมเขาจะไม่รู้ ที่สำคัญหากโอนกรรมสิทธิ์เกาะนั่นให้ เดฟ อัลเดอร์ลัส เท่ากับว่าได้หยิบยื่นหายนะให้ชีวิตบริสุทธิ์อีกนับร้อยนับพันอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
“เยี่ยมมากครับคุณดิเอโก คุณนี่ช่างสุดยอดจริงๆ ยอมทิ้งสมบัติ ทิ้งบริวาร เพื่อแลกกับผู้หญิงคนเดียว นับถือๆ โว้ว... ฮ่าๆๆ” เดฟ อัลเดอร์ลัสหัวเราะร่าอย่างสะใจเมื่อดิเอโกติดต่อมาว่ายินดีทำตามข้อเสนอที่เขาต้องการ และตอนนี้คู่อริก็มายืนอยู่ตรงหน้าพร้อมทนายความส่วนตัว“ว่าไงเควิน เปลี่ยนใจมาอยู่กับฉันก็ยังทันนะ มีเจ้านายไม่ได้เรื่องแบบนี้แกยังจะภักดีอีกเหรอวะ ฮ่าๆๆ” หันมาถามบอดี้การ์ดคนเก่งของดิเอโกอย่างหยามหยัน ดิเอโกแทบสะกดกลั้นความขุ่นเคืองใจไว้ไม่ไหวรีบรวบรัดตัดความก่อนที่จะหมดความอดทน“หุบปาก! แล้วเลิกเห่าได้แล้วเดฟ รีบๆ จัดการ ฉันไม่อยากเสียเวลา”“ฮ่าๆๆ เควิน แกลองฟังนะ เจ้านายแกเขาอยากรีบพาน้องหนูไปขึ้นสวรรค์ ไม่สนใจสักนิดว่าพวกแกกับลูกน้องจะเป็นยังไง โว้ว! สะใจจริงโว้ย!” เดฟยังคงหัวเราะร่าอย่างบ้าคลั่งก่อนหันไปสั่งลูกน้องคนสนิทให้พาสุพิชญาออกมาแลกเปลี่ยน“ซาอิคเอาตัวผู้หญิงคนนั้นมา”“ครับเดฟ” รับคำหนักแน่นนอบน้อมก่อนเดินหายเข้าไปในห้องหนึ่ง แล้วออกมาพร้อมหญิงสาวที่ยามนี้อยู่ในชุดราตรีสีแดงสดชุดเดิมที่สวมใส่มาเมื่อสามวันก่อน“พิชชา!” ดิเอโกพึมพำขานนามนั้นเมื่อเห็นหญิงสาวยังอยู่ในสภาพพร
เมื่อออกจากรังของเดฟมาได้ระยะหนึ่งซึ่งเจ้าพ่อหนุ่มคะเนดูแล้วว่าปลอดภัยไม่มีคนของคู่อริติดตามมาแน่นอน จึงสั่งให้คนขับรถชะลอรถแล้วส่งสัญญาณให้เควินที่ขับรถตามมาติดๆ จอดเทียบข้างทางก่อนลงจากรถไปเพื่อสั่งความกับบอดี้การ์ดหนุ่มสุพิชญาที่นั่งเงียบมาตลอดทางรีบตามลงไปเพื่อหาทางเจรจาด้วยเธอไม่อยากกลับไปอยู่ในการควบคุมของดิเอโกอีก แม้ลึกๆ ในใจจะดีใจที่เขาติดตามมาพาเธอออกไปให้รอดพ้นเงื้อมมือคนโฉดอย่างเดฟ อัลเดอร์ลัส แต่นั่นแหละทุกอย่างมันเป็นความผิดเขาสุพิชญาคิดเช่นนั้น!“เควินนายพามิสเตอร์ฟานไปที่เกาะบาหลัน ฉันจะไปที่เดอะไนท์” ดิเอโกสั่งความ แต่บอดี้การ์ดหนุ่มกลับนิ่วหน้าด้วยความสงสัยและเอ่ยถามออกไปอย่างรวดเร็ว“แต่ดิเอโกครับ เกาะบาหลันกับเดอะไนท์”“ทำตามที่ฉันสั่ง คุ้มกันมิสเตอร์ฟาน อย่าให้ใครเข้าเกาะบาหลันได้” เจ้าพ่อใหญ่เอ่ยสั่งด้วยเสียงเฉียบขาดไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้ไถ่ถามให้ยืดยาวด้วยเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะนั่งอธิบายเรื่องราวใดๆ“ไปเถอะเควินแล้วนายจะเข้าใจเอง” บอกเสียงอ่อนลงเมื่อเห็นสีหน้าไม่สบายใจและไม่เข้าใจของบอดี้การ์ดคนสนิท เควินที่ไม่อาจขัดคำสั่งเจ้านายใหญ่ได้จำก้มหน้ารับคำบัญชาอย่างเ
“อื้อ! อื้อ!” สุพิชญาส่งเสียงอู้อี้อย่างขัดใจดวงตาคู่สวยเต็มไปด้วยแววชิงชังเคียดแค้นในตัวเจ้าพ่อหนุ่ม เขาจับเธอทุ่มเข้ามาในรถแล้วมัดมือมัดเท้าปิดปากราวกับเธอไม่ใช่คน อย่าให้เธอมีโอกาสหนีรอดไปได้ สาบานเลยว่าเธอจะเอาเรื่องเขาให้ถึงที่สุด!!“เลิกใช้สายตามองผมแบบนั้นดีกว่ายาหยี คุณน่าจะรู้ตัวดีว่าจริงๆ แล้วคุณไม่ได้เกลียดชังผม กลับกันคุณอาจคลั่งผมเสียจนถอนตัวไม่ขึ้นโดยที่คุณยังไม่รู้ตัวก็ได้” ดิเอโกชะโงกหน้าเข้าไปใกล้พร้อมใช้ปลายนิ้วแกร่งบีบบังคับเชยคางสวยให้เธอสบตาเขา เจ้าพ่อใหญ่พึงพอใจที่เห็นท่าทีฮึดฮัดขัดใจด้วยไม่อาจทำอะไรเขาได้คำพูดยั่วเย้านั่นช่างยั่วอารมณ์เธอให้คุกรุ่นจนแทบอยากซัดฝ่ามือเข้าใบหน้าแสนยียวนเสียครั้งสองครั้งให้สาแก่ใจ เกิดมาเธอไม่เคยพบเจอใครหยาบคายได้เท่าผู้ชายตรงหน้านี้มาก่อนเลยสักนิด ‘ให้ตายเถอะ! พิชชานี่เธอสร้างเวรกรรมกับอีตาหื่นนี่มาแต่ชาติปางไหนกัน เธอถึงต้องมาพบเจอกับเรื่องบ้าๆ นี่’“อื้อ! อื้อ!” สุพิชญาพยายามส่งเสียงต่อต้าน เมื่อดิเอโกเพียงแค่แก้ผืนผ้าที่ผูกข้อเท้าเธอออกเท่านั้น แต่ไม่คิดปล่อยให้มือและปากของเธอเป็นอิสระ ซ้ำเขายังฉุดกระชากเธอให้เดินตามอย่างไม่ปรา
ความคิดสะดุดลงฉับพลันเมื่อดิเอโกส่งฝ่ามือร้อนเข้ากอบกุมทรวงอกนุ่มหยุ่นอย่างถือสิทธิ์ กายสาวเริ่มบิดเร่าราวถูกของร้อนเพราะหลังก้อนเนื้อนุ่มถูกครอบครองไว้ในอุ้งมือ เจ้าพ่อใหญ่ก็โน้มตัวต่ำลงพร้อมส่งปลายลิ้นร้อนตวัดไล้ปลายยอดสีหวานที่ชูชันอวดโฉมเชิญชวนให้ลองลิ้มชิมรสว่าหอมหวานเฉกเช่นเดียวกับรูปโฉมที่เย้ายวนตาหรือไม่หัวใจดวงน้อยแทบหลุดลอยตามเพราะเขาเพียงแค่ตวัดไล้แผ่วเบาแต่ไม่ยอมคลุกเคล้าหนักหน่วงอย่างที่ส่วนลึกในใจเรียกร้อง เสียงหวานกรีดร้องก้องในลำคอราวทุกข์ทรมานเหลือแสนเมื่อเจ้าพ่อใหญ่ไม่ใส่ใจที่จะครอบครองก้อนเนื้อนุ่มมากไปกว่านั้นกลับกันกลับส่งปลายจมูกโด่งและ ริมฝีปากบางเฉียบเลาะเลียบลงไปตามหน้าท้องแบนราบพรมจูบแผ่วเบาราวกลัวว่าเรือนร่างบอบบางจะบุบสลาย เพียงเท่านั้นกายสาวก็ดิ้นพล่านอย่างทุรนทุรายมือน้อยร้าวระบมไปหมดเพราะเจ้าของออกแรงบิดหวังให้หลุดพ้นจากพันธนาการนั้น ดิเอโกกระตุกยิ้มย่องอย่างลำพองใจยามนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาผืนผ้าที่พันธนาการข้อมือบางอีกต่อไปเขาจะใช้ประสบการณ์อันเหนือชั้นจัดการปราบพยศคนอวดดีให้สิ้นฤทธิ์และยินยอมพร้อมใจไปกับเขาเฉกเช่นวันวานเพียงแค่ถูกปลดปล่อยให้
“บัดซบ! ไอ้ดิเอโก มึงกล้าตบตากู วันนี้กูจะทำให้มึงรู้ว่าคนอย่างกูฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ ซาอิคเตรียมคนเอารถออกกูจะไปรังไอ้ดิเอโก” เสียงทรงอำนาจตวาดอย่างเกรี้ยวกราด เมื่อได้รับรู้ข้อมูลจากทนายความส่วนตัวว่า เอกสารการโอนกรรมสิทธิ์เดอะไนท์คาสิโนและกิจการบนเกาะบาหลันเป็นโมฆะเพราะไม่มีลายเซ็นของบลาลอส เวนนิส อดีตเจ้าพ่อผู้ชุบเลี้ยงดิเอโกมา นับตั้งแต่วางมือจากวงการและส่งมอบให้ดิเอโกสานต่อก็ไม่มีใครรู้เลยว่าเฒ่าบลาลอสไปอยู่ที่ใดในโลกนี้ นั่นจึงทำให้ เดฟ อัลเดอร์ลัส ถึงกับคุ้มคลั่งอยากไปฆ่าดิเอโกให้ตายกับมือเสียเดี๋ยวนั้น “เดฟครับ แต่ว่า... ” “กูสั่งไม่ได้ยินหรือไง” ตวาดดังลั่นอีกครั้งเมื่อบอดี้การ์ดคนสนิทตั้งท่าจะท้วงติง แต่ดูเหมือนซาอิคจะไม่ใส่ใจกับคำด่ากราดนั่น บอดี้การ์ดหนุ่มยังคงเอ่ยวาจาทัดทานต่อไปอย่างไม่เกรงกลัวอารมณ์ของผู้เป็นนาย “ได้ยินครับเดฟ แต่ผมคงทำตามคำสั่งเดฟไม่ได้” “ซาอิคมึงกล้าขัดคำสั่งกูงั้นเหรอ” กระชากคอเสื้อมาถามด้วยแรงโทสะที่พวยพุ่งขึ้นจนยากที่จะหักห้ามอารมณ์ได้ ฟากซาอิคยังคงสีหน้านิ่งไม่ไหวติง ไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ มีเ
“ว่าไงครับ” ถามย้ำอีกรอบไม่สนใจสีหน้าบ่งบอกอาการบุญไม่รับของอีกฝ่าย สุพิชญาได้แต่เข่นเขี้ยวในใจที่ไม่อาจทำอะไรดิเอโกได้ หญิงสาวจึงหย่อนกายนั่งลงอย่างกระแทกกระทั้น ดิเอโกกระตุกยิ้มอย่างพึงพอใจพร้อมไหวไหล่อย่างผู้ชนะ“ก็แค่นั้น”สุพิชญาหน้าบูดบึ้งมากกว่าเดิมหลายเท่าตัวเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำท่าคล้ายหัวเราะยั่วยวนยามเอ่ยวาจานั้น แต่เธอก็ไม่คิดจะโต้ตอบให้ป่วยการเพราะรู้ดีว่าอย่างไรเสียก็คงไม่สามารถเอาชนะผู้ชายบ้าอำนาจตรงหน้าไปได้“เมื่อคืนนอนไม่หลับหรือว่าท้องผูกล่ะยาหยี”“คะ” ขานรับอย่างงงงันกับคำถามที่แสนกวนนั้นดิเอโกยิ้มขันกับอาการตาโตหน้าเหวอของอีกฝ่าย เจ้าพ่อใหญ่รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก แต่ที่แน่ๆ เขาชอบให้เธอทำหน้าตาตื่น โวยวายเอากับเขามากกว่าร้องไห้หนักหน่วงเฉกเช่นวันนั้น“ผมเพิ่งรู้ว่าเดี๋ยวนี้คุณกลายเป็นคนชอบให้ผมพูดซ้ำๆ” เขาเอ่ยพร้อมรอยยิ้มขันระบายเต็มใบหน้า สุพิชญาได้แต่ตะลึงอึ้งกับดวงตาพราวระยับและรอยยิ้มแสนเสน่หานั้น หัวใจสาวแกว่งไกวขึ้นมาทันใด เธอยอมรับว่าเวลานี้เขาช่างหล่อบาดตาบาดใจมากกว่ายามทำหน้าเคร่งขรึมหลายเท่านัก“ตกลงคุณมีอะไรพูดกับฉันคะ ถ้าไม่มีฉันจะกลับ” ยังคงตอบกลับอย่าง
“งั้นเราก็มาต่อกันอีกหลายๆ ครั้งแล้วกันนะยาหยี เผื่อคุณจะระลึกได้ว่าผมเป็นสามีคุณ”“อ๊ายยย... ดิเอโก! ปล่อยนะไอ้คนบ้า ไอ้คนหื่นกาม ปล่อย! ว้าย!” ท้ายประโยคหวีดร้องสุดเสียงเมื่อเจ้าพ่อใหญ่ทุ่มร่างน้อยลงบนเตียงกว้างแล้วก้าวย่างขึ้นตามติดประชิดตัวไม่เปิดช่องให้เธอได้ถอยหนี นั่นยังไม่ร้ายเท่ามือน้อยทั้งสองข้างถูกขึงตรึงกางแนบไปกับเตียงกว้าง ทรวงอกนุ่มหยุ่นขยับขึ้นลงรัวเร็วตามแรงหายใจหอบถี่ เรียวขาสวยถูกเรือนกายท่อนร่างของเขาตรึงไว้แน่นจนไม่อาจดิ้นหนีได้“ร้องไปนะยาหยีร้องให้ดังๆ เพราะเวลาคุณครวญครางมันดังกว่านี้หลายเท่านัก”“กรี๊ดดดด... อื้ม!”สุพิชญาพยายามเบี่ยงหน้าหลบหนีไม่ยอมให้อีกฝ่ายครอบครองกลีบปากนุ่มนิ่มตามใจชอบ แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้เพราะเจ้าพ่อใหญ่ก็ตามติดประกบปิดริมฝีปากแสนหวานได้ในที่สุด และนั่นก็ทำให้หัวใจดวงน้อยแทบหยุดเต้นเพราะเขาทั้งขบเม้มดูดดื่มราวกับหิวกระหายมาแรมปี จุมพิตเร่าร้อนรุนแรงช่างยาวนานไม่เปิดช่องให้เธอได้หายใจสักนิดสุพิชญาคิดว่าเธอจะขาดอากาศหายใจเสียให้ได้ เพราะยามนี้เธอเริ่มหายใจติดขัดแต่เหมือนดิเอโกจะล่วงรู้ เจ้าพ่อใหญ่จึงปล่อยกลีบปากนุ่มนิ่มให้เป็นอิสระ แต่ท
บรรยากาศยามเช้าวันนี้ช่างอบอุ่นหัวใจเสียเหลือเกินในความรู้สึกของสุพิชญา หญิงสาวทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่างห้องนอนปล่อยใจให้ล่องลอยไปบนท้องฟ้ากว้าง ดวงตาคู่งามเหม่อมองไปไกลจนสุดปลายสายรุ้งที่ตรงโค้งฟ้า เธอไม่อาจปฏิเสธได้ว่าช่วงค่ำคืนที่ผ่านมาเธอไม่ได้เศร้าเสียใจสักนิด แต่กลับกันเธอกลับรู้สึกเหมือนเสี้ยวหนึ่งของชีวิตได้รับการเติมเต็มดิเอโกทำให้เธอสั่นสะท้านไปกับทุกสัมผัสที่เร่าร้อนของเขา คำว่า “สามี” ที่เขาเฝ้าตอกย้ำให้เธอจดจำราวสายฝนที่โปรยปรายจนชุ่มฉ่ำในหัวใจ แม้จะไม่มีการเอ่ยคำว่ารัก แต่ทุกการกระทำที่เขาแสดงออกว่าหลงใหลคลั่งไคล้ในตัวเธอนั้นมันสำคัญกว่าสิ่งอื่นใดแม้เช้านี้ตื่นขึ้นมาข้างกายจะไร้ซึ่งเรือนกายแกร่งที่เธอกอดก่ายเมื่อตอนรุ่งสาง แต่ทว่านั่นไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกมัวหมองสักนิด แม้ในใจลึกๆ จะผิดหวังที่ไม่ได้เจอหน้าเขาเมื่อยามลืมตาตื่นขึ้นมา เหตุใดหนอเธอจึงเป็นไปได้มากมายเช่นนี้ ทั้งที่ปากบอกรังเกียจ แต่เพียงได้ชิดใกล้ เขากลับมาวิ่งวุ่นวายอยู่ในใจเธอไม่ว่างเว้น อารมณ์หงุดหงิดขุ่นเคืองใจเมื่อหลายวันก่อนหายไปไหนกัน ดิเอโกมีอิทธิพลกับเธอมากถึงเพียงนี้เชียวหรือ ไม่เคยรู้จักแต่กลับป