“เยี่ยมมากครับคุณดิเอโก คุณนี่ช่างสุดยอดจริงๆ ยอมทิ้งสมบัติ ทิ้งบริวาร เพื่อแลกกับผู้หญิงคนเดียว นับถือๆ โว้ว... ฮ่าๆๆ” เดฟ อัลเดอร์ลัสหัวเราะร่าอย่างสะใจเมื่อดิเอโกติดต่อมาว่ายินดีทำตามข้อเสนอที่เขาต้องการ และตอนนี้คู่อริก็มายืนอยู่ตรงหน้าพร้อมทนายความส่วนตัว
“ว่าไงเควิน เปลี่ยนใจมาอยู่กับฉันก็ยังทันนะ มีเจ้านายไม่ได้เรื่องแบบนี้แกยังจะภักดีอีกเหรอวะ ฮ่าๆๆ” หันมาถามบอดี้การ์ดคนเก่งของดิเอโกอย่างหยามหยัน ดิเอโกแทบสะกดกลั้นความขุ่นเคืองใจไว้ไม่ไหวรีบรวบรัดตัดความก่อนที่จะหมดความอดทน
“หุบปาก! แล้วเลิกเห่าได้แล้วเดฟ รีบๆ จัดการ ฉันไม่อยากเสียเวลา”
“ฮ่าๆๆ เควิน แกลองฟังนะ เจ้านายแกเขาอยากรีบพาน้องหนูไปขึ้นสวรรค์ ไม่สนใจสักนิดว่าพวกแกกับลูกน้องจะเป็นยังไง โว้ว! สะใจจริงโว้ย!” เดฟยังคงหัวเราะร่าอย่างบ้าคลั่งก่อนหันไปสั่งลูกน้องคนสนิทให้พาสุพิชญาออกมาแลกเปลี่ยน
“ซาอิคเอาตัวผู้หญิงคนนั้นมา”
“ครับเดฟ” รับคำหนักแน่นนอบน้อมก่อนเดินหายเข้าไปในห้องหนึ่ง แล้วออกมาพร้อมหญิงสาวที่ยามนี้อยู่ในชุดราตรีสีแดงสดชุดเดิมที่สวมใส่มาเมื่อสามวันก่อน
“พิชชา!” ดิเอโกพึมพำขานนามนั้นเมื่อเห็นหญิงสาวยังอยู่ในสภาพพร้อมสมบูรณ์ไม่มีริ้วรอยการถูกทำร้าย แต่ทว่าดวงตาวาวโรจน์ที่จับจ้องมองมาที่เขานั้นมันช่างชวนให้รู้สึกผิดต่อเธอยิ่งนักที่เป็นเหตุให้ต้องมาเผชิญชะตากรรมเช่นนี้
“ส่งตัวเธอมา” ดิเอโกหันไม่ออกคำสั่งเสียงเข้มกับเดฟ แต่อีกฝ่ายกลับเลิกคิ้วทำหน้าเย้ยหยันยามยอกย้อนคำ
“ง่ายไปหน่อยไหมดิเอโก ไหนล่ะหลักฐานการโอนกรรมสิทธิ์”
“มิสเตอร์ฟาน” ดิเอโกเอ่ยเรียกทนายความประจำตัวขณะสายตายังจับจ้องเดฟไม่วางตา เจ้าพ่อใหญ่ไม่วายตวัดสายตาไปมองสุพิชญาที่ยืนเชิดหน้าไม่มองมาที่เขาแม้แต่นิด
“ครับดิเอโก นี่ครับเดฟ เอกสารการโอนสิทธิ์ทุกอย่างที่เดอะไนท์คาสิโน กับเกาะบาหลัน” มิสเตอร์ฟานก้าวขึ้นมายืนข้างๆ พร้อมทั้งหยิบเอกสารออกมาจากกระเป๋า
“คุณชอน ตรวจสอบเอกสารทุกใบ” เดฟสั่งทนายประจำตัวให้เข้าไปตรวจเอกสารทันทีแต่ทว่าชอนยังไม่ทันได้ขยับเท้าเสียงดุกร้าวของดิเอโกก็ดังขึ้นเสียก่อน
“เดี๋ยว! ฉันจะไม่ให้นายแตะต้องเอกสารใดๆ ถ้านายไม่ปล่อยเธอมาก่อน” เอ่ยเสียงเข้มพร้อมจ้องมองเดฟอย่างไม่นึกเกรงกลัว เมื่อเห็นเดฟมีท่าทีฮึดฮัด เจ้าพ่อหนุ่มก็รีบกระตุ้นจุดอ่อนของอีกฝ่ายทันที
“รึนายกลัวล่ะเดฟ ที่นี่มันรังของนาย ไม่เห็นจะมีอะไรน่ากลัวไม่ใช่รึไง” วาจานั้นได้ผลชะงัดเพราะยามนี้เดฟนัยน์ตาลุกวาวเมื่อถูกอีกฝ่ายหยามหยัน
“ซาอิคส่งตัวผู้หญิงให้มัน” ออกคำสั่งเสียงกร้าวอย่างเคืองโกรธ ใบหน้าที่หล่อเหลาบิดเบี้ยวเหยเกยามจับจ้องคู่อริไม่วางตา
“ครับเดฟ” ลูกน้องผู้ภักดีรับคำก่อนพาสุพิชญาไปส่งให้อีกฝ่าย
เควินรีบมารับตัวไปอย่างรู้หน้าที่ ขณะที่ชอนเดินเข้ามาฉกเอกสารในมือมิสเตอร์ฟานไปตรวจดูอย่างถี่ถ้วนแทบทุกตัวอักษร
“เอกสารเรียบร้อยครับเดฟ ทุกอย่างระบุไว้ชัดเจนครับ” ชอนรายงานเจ้านายหนุ่มเมื่อทำหน้าที่เรียบร้อย เดฟพยักหน้าอย่างพึงพอใจก่อนหัวเราะร่าอีกครั้ง
“ฮ่าๆๆ สะใจ สมน้ำหน้าไอ้ดิเอโกจริงๆ”
“พวกเรากลับ” ดิเอโกแม้จะแค้นเคืองที่ถูกอีกฝ่ายหยามหยันแต่ต้องอดกลั้นไว้เพราะเขาต้องพาทุกคนออกไปจากที่นี่อย่างปลอดภัยไม่เช่นนั้นแล้วสิ่งที่ทำลงไปจะไม่เกิดประโยชน์อันใดเลยสักนิด
“เดี๋ยวครับดิเอโก” ชอนท้วงขึ้นเมื่อดิเอโกกับพรรคพวกตั้งท่าจะถอยกลับ
ดิเอโกชักสีหน้าไม่พึงพอใจก่อนหันไปถามทนายความประจำตัวของเดฟ
“มีอะไรอีกล่ะคุณชอน” น้ำเสียงติดจะรำคาญนิดๆ แล้วก็ต้องยิ่งหงุดหงิดใจมากขึ้นเมื่อได้ยินวาจาของชอน
“หากไม่รบกวนเกินไป รบกวนดิเอโกกับมิสเตอร์ฟานประทับรอยนิ้วมือที่เอกสารอีกรอบ อย่างน้อยผมรอบครอบไว้ก่อนพวกคุณคงไม่มีปัญหานะครับ” ชอนกระตุกยิ้ม อาชีพทนายความทำให้เขาไม่วางใจอะไรง่ายๆ การที่ ดิเอโกเซ็นโอนกรรมสิทธ์ให้อย่างง่ายดาย มันน่าสงสัยเอาการ
“ได้! ไม่มีปัญหา” ดิเอโกตอบรับเสียงกร้าวไม่พอใจหลังจากส่งสายตาเป็นเชิงปรึกษามิสเตอร์ฟาน
“เรียบร้อยแล้ว ผมกลับได้แล้วใช่ไหมครับคุณชอน” ดิเอโกถามหลังจากที่ประทับรอยนิ้วมือลงบนเอกสารทุกฉบับเรียบร้อย
“เชิญครับ” ชอนค้อมศีรษะนิดๆ ก่อนตอบรับคำพร้อมเหยียดยิ้มหยันให้พลางผายมือเชื้อเชิญราวนบนอบ แต่กิริยานั้นช่างขวางหูขวางตานักในความรู้สึกของดิเอโก
เมื่อคล้อยหลังดิเอโกกับพรรคพวก ชอนยื่นเอกสารทั้งหมดให้เดฟที่กำลังหัวเราะร่าอย่างสะใจที่ได้สมบัติของดิเอโกมาครอบครองแม้จะไม่ใช่ทั้งหมดแต่นับว่าเป็นบ่อน้ำบ่อใหญ่ที่หล่อเลี้ยงลูกน้องของดิเอโกทุกชีวิตเลยทีเดียว เขาอยากรู้นักว่าในเมื่อทุกอย่างตกเป็นของเขา คนของดิเอโกจะยังสวามิภักดิ์ต่อเจ้านายหน้าโง่ที่ยอมทิ้งทุกอย่างแลกกับผู้หญิงคนเดียวหรือไม่
“ฮ่าๆๆ สบจะได้ก็ได้มาง่ายแสนง่าย ไม่คิดว่ามันจะง่ายขนาดนี้” เดฟ อัลเดอร์ลัส มองดูเอกสารในมืออย่างกระหยิ่มใจ แต่ทว่าชอนกลับเอ่ยวาจาชวนอารมณ์ขุ่นมัวเสียกระนั้น
“นั่นน่ะสิครับผมเองยังไม่คิดว่ามันจะง่ายขนาดนี้”
คำพูดของชอนทำเอาเจ้าพ่อตัวร้ายตาขวาง
“ไหนคุณตรวจสอบเอกสารทุกอย่างแล้วไง จะมาสงสัยอะไรคุณชอน” เดฟหรี่ตามองชอน สีหน้าเริ่มเคร่งเครียดเมื่อเริ่มคิดตามที่ทนายประจำตัวเอ่ย แต่คำของตอนประโยคต่อมาก็ทำให้เจ้าพ่อวายร้ายคลายความตึงเครียดไปได้
“ครับผมตรวจสอบหมดแล้วทุกอย่าง เรื่องลายเซ็นนั่นไม่เป็นปัญหาแน่นอนครับ หากดิเอโกคิดไม่ซื่อ เราก็มีรอยนิ้วมือแล้ว ยังไงก็ตุกติกไม่ได้แน่นอนครับ”
“ดี! ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ คุณเอาเอกสารไปจัดการโอนทุกอย่างมาเป็นของฉันโดยเร็วที่สุด ฮ่าๆๆ” อีกครั้งที่เดฟหัวเราะลั่นอย่างถูกใจ
“ครับเดฟ” ชอนรับคำก่อนยื่นมือไปรับเอกสารแล้วถอยห่างออกไปเพื่อเตรียมพร้อมจัดการทุกอย่างตามคำสั่งในวันรุ่งขึ้น
ยามนี้เดฟ อัลเดอร์ลัสมองนิ่งตรงไปข้างหน้าด้วยสายตากร้าวกระด้างเมื่อคิดถึงแผนการเด็ดหัวเด็ดหางคู่อริอย่างดิเอโกขั้นต่อไปที่จะมาถึงในไม่ช้านี้
เมื่อออกจากรังของเดฟมาได้ระยะหนึ่งซึ่งเจ้าพ่อหนุ่มคะเนดูแล้วว่าปลอดภัยไม่มีคนของคู่อริติดตามมาแน่นอน จึงสั่งให้คนขับรถชะลอรถแล้วส่งสัญญาณให้เควินที่ขับรถตามมาติดๆ จอดเทียบข้างทางก่อนลงจากรถไปเพื่อสั่งความกับบอดี้การ์ดหนุ่มสุพิชญาที่นั่งเงียบมาตลอดทางรีบตามลงไปเพื่อหาทางเจรจาด้วยเธอไม่อยากกลับไปอยู่ในการควบคุมของดิเอโกอีก แม้ลึกๆ ในใจจะดีใจที่เขาติดตามมาพาเธอออกไปให้รอดพ้นเงื้อมมือคนโฉดอย่างเดฟ อัลเดอร์ลัส แต่นั่นแหละทุกอย่างมันเป็นความผิดเขาสุพิชญาคิดเช่นนั้น!“เควินนายพามิสเตอร์ฟานไปที่เกาะบาหลัน ฉันจะไปที่เดอะไนท์” ดิเอโกสั่งความ แต่บอดี้การ์ดหนุ่มกลับนิ่วหน้าด้วยความสงสัยและเอ่ยถามออกไปอย่างรวดเร็ว“แต่ดิเอโกครับ เกาะบาหลันกับเดอะไนท์”“ทำตามที่ฉันสั่ง คุ้มกันมิสเตอร์ฟาน อย่าให้ใครเข้าเกาะบาหลันได้” เจ้าพ่อใหญ่เอ่ยสั่งด้วยเสียงเฉียบขาดไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้ไถ่ถามให้ยืดยาวด้วยเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะนั่งอธิบายเรื่องราวใดๆ“ไปเถอะเควินแล้วนายจะเข้าใจเอง” บอกเสียงอ่อนลงเมื่อเห็นสีหน้าไม่สบายใจและไม่เข้าใจของบอดี้การ์ดคนสนิท เควินที่ไม่อาจขัดคำสั่งเจ้านายใหญ่ได้จำก้มหน้ารับคำบัญชาอย่างเ
“อื้อ! อื้อ!” สุพิชญาส่งเสียงอู้อี้อย่างขัดใจดวงตาคู่สวยเต็มไปด้วยแววชิงชังเคียดแค้นในตัวเจ้าพ่อหนุ่ม เขาจับเธอทุ่มเข้ามาในรถแล้วมัดมือมัดเท้าปิดปากราวกับเธอไม่ใช่คน อย่าให้เธอมีโอกาสหนีรอดไปได้ สาบานเลยว่าเธอจะเอาเรื่องเขาให้ถึงที่สุด!!“เลิกใช้สายตามองผมแบบนั้นดีกว่ายาหยี คุณน่าจะรู้ตัวดีว่าจริงๆ แล้วคุณไม่ได้เกลียดชังผม กลับกันคุณอาจคลั่งผมเสียจนถอนตัวไม่ขึ้นโดยที่คุณยังไม่รู้ตัวก็ได้” ดิเอโกชะโงกหน้าเข้าไปใกล้พร้อมใช้ปลายนิ้วแกร่งบีบบังคับเชยคางสวยให้เธอสบตาเขา เจ้าพ่อใหญ่พึงพอใจที่เห็นท่าทีฮึดฮัดขัดใจด้วยไม่อาจทำอะไรเขาได้คำพูดยั่วเย้านั่นช่างยั่วอารมณ์เธอให้คุกรุ่นจนแทบอยากซัดฝ่ามือเข้าใบหน้าแสนยียวนเสียครั้งสองครั้งให้สาแก่ใจ เกิดมาเธอไม่เคยพบเจอใครหยาบคายได้เท่าผู้ชายตรงหน้านี้มาก่อนเลยสักนิด ‘ให้ตายเถอะ! พิชชานี่เธอสร้างเวรกรรมกับอีตาหื่นนี่มาแต่ชาติปางไหนกัน เธอถึงต้องมาพบเจอกับเรื่องบ้าๆ นี่’“อื้อ! อื้อ!” สุพิชญาพยายามส่งเสียงต่อต้าน เมื่อดิเอโกเพียงแค่แก้ผืนผ้าที่ผูกข้อเท้าเธอออกเท่านั้น แต่ไม่คิดปล่อยให้มือและปากของเธอเป็นอิสระ ซ้ำเขายังฉุดกระชากเธอให้เดินตามอย่างไม่ปรา
ความคิดสะดุดลงฉับพลันเมื่อดิเอโกส่งฝ่ามือร้อนเข้ากอบกุมทรวงอกนุ่มหยุ่นอย่างถือสิทธิ์ กายสาวเริ่มบิดเร่าราวถูกของร้อนเพราะหลังก้อนเนื้อนุ่มถูกครอบครองไว้ในอุ้งมือ เจ้าพ่อใหญ่ก็โน้มตัวต่ำลงพร้อมส่งปลายลิ้นร้อนตวัดไล้ปลายยอดสีหวานที่ชูชันอวดโฉมเชิญชวนให้ลองลิ้มชิมรสว่าหอมหวานเฉกเช่นเดียวกับรูปโฉมที่เย้ายวนตาหรือไม่หัวใจดวงน้อยแทบหลุดลอยตามเพราะเขาเพียงแค่ตวัดไล้แผ่วเบาแต่ไม่ยอมคลุกเคล้าหนักหน่วงอย่างที่ส่วนลึกในใจเรียกร้อง เสียงหวานกรีดร้องก้องในลำคอราวทุกข์ทรมานเหลือแสนเมื่อเจ้าพ่อใหญ่ไม่ใส่ใจที่จะครอบครองก้อนเนื้อนุ่มมากไปกว่านั้นกลับกันกลับส่งปลายจมูกโด่งและ ริมฝีปากบางเฉียบเลาะเลียบลงไปตามหน้าท้องแบนราบพรมจูบแผ่วเบาราวกลัวว่าเรือนร่างบอบบางจะบุบสลาย เพียงเท่านั้นกายสาวก็ดิ้นพล่านอย่างทุรนทุรายมือน้อยร้าวระบมไปหมดเพราะเจ้าของออกแรงบิดหวังให้หลุดพ้นจากพันธนาการนั้น ดิเอโกกระตุกยิ้มย่องอย่างลำพองใจยามนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาผืนผ้าที่พันธนาการข้อมือบางอีกต่อไปเขาจะใช้ประสบการณ์อันเหนือชั้นจัดการปราบพยศคนอวดดีให้สิ้นฤทธิ์และยินยอมพร้อมใจไปกับเขาเฉกเช่นวันวานเพียงแค่ถูกปลดปล่อยให้
“บัดซบ! ไอ้ดิเอโก มึงกล้าตบตากู วันนี้กูจะทำให้มึงรู้ว่าคนอย่างกูฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ ซาอิคเตรียมคนเอารถออกกูจะไปรังไอ้ดิเอโก” เสียงทรงอำนาจตวาดอย่างเกรี้ยวกราด เมื่อได้รับรู้ข้อมูลจากทนายความส่วนตัวว่า เอกสารการโอนกรรมสิทธิ์เดอะไนท์คาสิโนและกิจการบนเกาะบาหลันเป็นโมฆะเพราะไม่มีลายเซ็นของบลาลอส เวนนิส อดีตเจ้าพ่อผู้ชุบเลี้ยงดิเอโกมา นับตั้งแต่วางมือจากวงการและส่งมอบให้ดิเอโกสานต่อก็ไม่มีใครรู้เลยว่าเฒ่าบลาลอสไปอยู่ที่ใดในโลกนี้ นั่นจึงทำให้ เดฟ อัลเดอร์ลัส ถึงกับคุ้มคลั่งอยากไปฆ่าดิเอโกให้ตายกับมือเสียเดี๋ยวนั้น “เดฟครับ แต่ว่า... ” “กูสั่งไม่ได้ยินหรือไง” ตวาดดังลั่นอีกครั้งเมื่อบอดี้การ์ดคนสนิทตั้งท่าจะท้วงติง แต่ดูเหมือนซาอิคจะไม่ใส่ใจกับคำด่ากราดนั่น บอดี้การ์ดหนุ่มยังคงเอ่ยวาจาทัดทานต่อไปอย่างไม่เกรงกลัวอารมณ์ของผู้เป็นนาย “ได้ยินครับเดฟ แต่ผมคงทำตามคำสั่งเดฟไม่ได้” “ซาอิคมึงกล้าขัดคำสั่งกูงั้นเหรอ” กระชากคอเสื้อมาถามด้วยแรงโทสะที่พวยพุ่งขึ้นจนยากที่จะหักห้ามอารมณ์ได้ ฟากซาอิคยังคงสีหน้านิ่งไม่ไหวติง ไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ มีเ
“ว่าไงครับ” ถามย้ำอีกรอบไม่สนใจสีหน้าบ่งบอกอาการบุญไม่รับของอีกฝ่าย สุพิชญาได้แต่เข่นเขี้ยวในใจที่ไม่อาจทำอะไรดิเอโกได้ หญิงสาวจึงหย่อนกายนั่งลงอย่างกระแทกกระทั้น ดิเอโกกระตุกยิ้มอย่างพึงพอใจพร้อมไหวไหล่อย่างผู้ชนะ“ก็แค่นั้น”สุพิชญาหน้าบูดบึ้งมากกว่าเดิมหลายเท่าตัวเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำท่าคล้ายหัวเราะยั่วยวนยามเอ่ยวาจานั้น แต่เธอก็ไม่คิดจะโต้ตอบให้ป่วยการเพราะรู้ดีว่าอย่างไรเสียก็คงไม่สามารถเอาชนะผู้ชายบ้าอำนาจตรงหน้าไปได้“เมื่อคืนนอนไม่หลับหรือว่าท้องผูกล่ะยาหยี”“คะ” ขานรับอย่างงงงันกับคำถามที่แสนกวนนั้นดิเอโกยิ้มขันกับอาการตาโตหน้าเหวอของอีกฝ่าย เจ้าพ่อใหญ่รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก แต่ที่แน่ๆ เขาชอบให้เธอทำหน้าตาตื่น โวยวายเอากับเขามากกว่าร้องไห้หนักหน่วงเฉกเช่นวันนั้น“ผมเพิ่งรู้ว่าเดี๋ยวนี้คุณกลายเป็นคนชอบให้ผมพูดซ้ำๆ” เขาเอ่ยพร้อมรอยยิ้มขันระบายเต็มใบหน้า สุพิชญาได้แต่ตะลึงอึ้งกับดวงตาพราวระยับและรอยยิ้มแสนเสน่หานั้น หัวใจสาวแกว่งไกวขึ้นมาทันใด เธอยอมรับว่าเวลานี้เขาช่างหล่อบาดตาบาดใจมากกว่ายามทำหน้าเคร่งขรึมหลายเท่านัก“ตกลงคุณมีอะไรพูดกับฉันคะ ถ้าไม่มีฉันจะกลับ” ยังคงตอบกลับอย่าง
“งั้นเราก็มาต่อกันอีกหลายๆ ครั้งแล้วกันนะยาหยี เผื่อคุณจะระลึกได้ว่าผมเป็นสามีคุณ”“อ๊ายยย... ดิเอโก! ปล่อยนะไอ้คนบ้า ไอ้คนหื่นกาม ปล่อย! ว้าย!” ท้ายประโยคหวีดร้องสุดเสียงเมื่อเจ้าพ่อใหญ่ทุ่มร่างน้อยลงบนเตียงกว้างแล้วก้าวย่างขึ้นตามติดประชิดตัวไม่เปิดช่องให้เธอได้ถอยหนี นั่นยังไม่ร้ายเท่ามือน้อยทั้งสองข้างถูกขึงตรึงกางแนบไปกับเตียงกว้าง ทรวงอกนุ่มหยุ่นขยับขึ้นลงรัวเร็วตามแรงหายใจหอบถี่ เรียวขาสวยถูกเรือนกายท่อนร่างของเขาตรึงไว้แน่นจนไม่อาจดิ้นหนีได้“ร้องไปนะยาหยีร้องให้ดังๆ เพราะเวลาคุณครวญครางมันดังกว่านี้หลายเท่านัก”“กรี๊ดดดด... อื้ม!”สุพิชญาพยายามเบี่ยงหน้าหลบหนีไม่ยอมให้อีกฝ่ายครอบครองกลีบปากนุ่มนิ่มตามใจชอบ แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นไปได้เพราะเจ้าพ่อใหญ่ก็ตามติดประกบปิดริมฝีปากแสนหวานได้ในที่สุด และนั่นก็ทำให้หัวใจดวงน้อยแทบหยุดเต้นเพราะเขาทั้งขบเม้มดูดดื่มราวกับหิวกระหายมาแรมปี จุมพิตเร่าร้อนรุนแรงช่างยาวนานไม่เปิดช่องให้เธอได้หายใจสักนิดสุพิชญาคิดว่าเธอจะขาดอากาศหายใจเสียให้ได้ เพราะยามนี้เธอเริ่มหายใจติดขัดแต่เหมือนดิเอโกจะล่วงรู้ เจ้าพ่อใหญ่จึงปล่อยกลีบปากนุ่มนิ่มให้เป็นอิสระ แต่ท
บรรยากาศยามเช้าวันนี้ช่างอบอุ่นหัวใจเสียเหลือเกินในความรู้สึกของสุพิชญา หญิงสาวทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่างห้องนอนปล่อยใจให้ล่องลอยไปบนท้องฟ้ากว้าง ดวงตาคู่งามเหม่อมองไปไกลจนสุดปลายสายรุ้งที่ตรงโค้งฟ้า เธอไม่อาจปฏิเสธได้ว่าช่วงค่ำคืนที่ผ่านมาเธอไม่ได้เศร้าเสียใจสักนิด แต่กลับกันเธอกลับรู้สึกเหมือนเสี้ยวหนึ่งของชีวิตได้รับการเติมเต็มดิเอโกทำให้เธอสั่นสะท้านไปกับทุกสัมผัสที่เร่าร้อนของเขา คำว่า “สามี” ที่เขาเฝ้าตอกย้ำให้เธอจดจำราวสายฝนที่โปรยปรายจนชุ่มฉ่ำในหัวใจ แม้จะไม่มีการเอ่ยคำว่ารัก แต่ทุกการกระทำที่เขาแสดงออกว่าหลงใหลคลั่งไคล้ในตัวเธอนั้นมันสำคัญกว่าสิ่งอื่นใดแม้เช้านี้ตื่นขึ้นมาข้างกายจะไร้ซึ่งเรือนกายแกร่งที่เธอกอดก่ายเมื่อตอนรุ่งสาง แต่ทว่านั่นไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกมัวหมองสักนิด แม้ในใจลึกๆ จะผิดหวังที่ไม่ได้เจอหน้าเขาเมื่อยามลืมตาตื่นขึ้นมา เหตุใดหนอเธอจึงเป็นไปได้มากมายเช่นนี้ ทั้งที่ปากบอกรังเกียจ แต่เพียงได้ชิดใกล้ เขากลับมาวิ่งวุ่นวายอยู่ในใจเธอไม่ว่างเว้น อารมณ์หงุดหงิดขุ่นเคืองใจเมื่อหลายวันก่อนหายไปไหนกัน ดิเอโกมีอิทธิพลกับเธอมากถึงเพียงนี้เชียวหรือ ไม่เคยรู้จักแต่กลับป
เพียงริมฝีปากนุ่มสัมผัสแผ่วเบาเจ้าพ่อใหญ่ก็เผยอแย้มเรียวปากกว้างขึ้นเปิดช่องให้อีกฝ่ายสอดใส่ปลายลิ้นเล็กเข้าไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ ส่วนสะโพกสอบก็ขยับขับเคลื่อนท่อนกายแกร่งที่บัดนี้แฝงตัวอย่างองอาจวาดลวดลายอยู่ในซอกหลืบนุ่ม ธารน้ำหลั่งไหลอาบตัวตนแห่งความเป็นชายจนชุ่มฉ่ำถ้วนทั่ว ยิ่งสุพิชญามอบจุมพิตแบบกล้าๆ กลัวๆ เขาก็ยิ่งเร่งจังหวะรัวเร็วขึ้นเพื่อให้อีกฝ่ายได้ปลดปล่อยตัวตนข้างในออกมาสุพิชญาลืมเลือนไปเสียแล้วว่าเธอตั้งใจปฏิเสธเขาตั้งแต่แรก เพราะเพียงเขาแทรกกายผ่านกลางกายเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว หัวใจเธอก็เต้นรัวเร็วทั้งตื่นตระหนก ทั้งหวามไหว ปั่นป่วนไปทั่วเรือนกาย เธอไม่คิดว่าดิเอโกจะจู่โจมฝากฝังความเป็นชายเข้าในเรือนร่างของเธอรวดเร็วเช่นนั้น ซ้ำยังแสดงลีลารักผาดโผนแบบไม่คิดเกรงใจฟ้าดิน ด้วยยามนี้ ณ ตรงที่เขาวาดลวดลายมันคือผนังกระจกทั้งด้านที่มองเห็นวิวทิวทัศน์ภายนอกถ้วนทั่ว แต่ที่ร้ายกว่านั้นคือบานกระจกใสจนภายนอกมองเข้ามาเห็นภายในได้เกือบทั่วทุกตารางนิ้วแต่ดูเหมือนว่าเจ้าพ่อใหญ่จะไม่ใส่ใจ เพราะเพียงตวัดเสื้อคลุมตัวโคร่งออกจากร่างเธอแล้วปลดเปลื้องพันธนาการเรือนกายท่อนร่างของตัวเองออกเขาก็สอ