เสียงปรบมือกับเสียงโห่ร้องดังกึกก้องกังวานจนสุพิชญารู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งใจ ยามนี้หญิงสาวรู้สึกดวงตาทั้งสองข้างพร่ามัวไปด้วยธารน้ำตาที่เอ่อล้นจนแทบจะไหลริน มือน้อยขย้ำผ้าปูแสนสวยแน่นเมื่อตระหนักถึงชะตากรรมที่กำลังเผชิญ เวรกรรมใดหนอถึงนำพาให้เธอต้องเจอแต่ความเจ็บแค้นแสนสาหัสเช่นนี้
“เชิญครับคุณผู้หญิง” เสียงทุ้มกังวานของบุรุษเพศเอ่ยขึ้นอย่างนอบน้อมฉุดดึงให้สุพิชญาหลุดออกจากห้วงความคิด หญิงสาวรีบกระพริบเปลือกตาขับไล่น้ำตาแห่งความรันทดให้ไหลคืนกลับสู่ภายใน เธอไม่ต้องการเรียกร้องความเห็นใจใด และไม่จำเป็นต้องทำตัวให้เป็นที่น่าสังเวชในสายตาของคนพวกนี้
“คุณจะพาฉันไปไหน” สุพิชญาถามด้วยเสียงห้วนสั้นออกกร้าวกระด้างเมื่อเงยหน้าขึ้นมาพบชายฉกรรจ์ในชุดสูทสีดำยืนตระหง่านอยู่ด้านหน้า
คนพวกนี้อีกแล้ว ทำไมพวกจิตใจทรามต่ำช้าถึงต้องสวมใส่ชุดสูทเหล่านี้ให้มันเสื่อมเสียด้วยนะ คิดจะทำชั่วแต่กลัวถูกตราหน้ารึไงถึงต้องมาสวมใส่สูทให้มันดูดี! สุพิชญาคิดอย่างแค้นเคืองในใจ ตั้งแต่เธอตื่นขึ้นมาเมื่อเช้าวันใหม่เธอเจอแต่คนในสูทสีดำจนมันดูกราดเกลื่อนไปหมด
“เดฟให้พวกเรามาเชิญคุณไปที่ เดอะลัส!” หนึ่งในสองคนเอ่ยขึ้นด้วยเสียงราบเรียบ สุพิชญามองใบหน้าภายใต้แว่นตาสีดำสนิทนั้นด้วยใจที่ออกอาการสั่นสะท้าน หญิงสาวพยายามคิดหาหนทางที่จะพาตัวเองให้หลุดรอดไปจากวงการอุบาทว์นี้
“เชิญครับ” เสียงเดิมเอ่ยกำกับขึ้นพร้อมผายมือเชื้อเชิญหญิงสาวราวให้เกียรติเสียเหลือเกิน
หากเป็นยามปกติมันคงเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่เธอถูกปฏิบัติราวเธอเป็นสตรีผู้เลอค่า แต่ทว่ายามนี้มันก็ไม่ต่างอะไรกับโสเภณีที่กำลังขายตัว และมันจะเป็นแบบนี้ต่อไปไม่มีสิ้นสุดหากเธอยังทำเม็ดเงินมูลค่ามหาศาลให้กับคนเหล่านั้น
ดิเอโก! ฉันขอสาปแช่งให้เวรกรรมตามสนองคุณ ให้มันมากกว่าที่คุณทำกับฉันเป็นร้อยเท่าพันเท่า!
สุพิชญานึกสาปแช่งผู้ชายที่ทำให้ชีวิตของเธอต้องพลิกผัน เขาพรากพรหมจรรย์ไปจากเธอแล้วก็เฉดหัวทิ้งอย่างไม่ใยดี ไม่ใช่สิ! เขาเอาเธอมาขายแล้วโกยเงินเข้ากระเป๋าไปอย่างเลือดเย็นต่างหาก
ป่านนี้เขาคงกำลังยิ้มเยาะอย่างสะใจที่ขายเธอได้ราคาสูงลิ่วขนาดนี้ ดวงตาคู่งามกวาดมองโดยรอบอีกครั้งราวต้องการดูให้แน่ใจว่าไม่มีแม้เงาของผู้ชายที่ชื่อดิเอโกในนั้นจริงๆ ก่อนที่จะตัดใจเดินไปกับชายชุดดำที่เดินขนาบข้างราวเป็นบอดี้การ์ด ยามนี้เธอต้องตั้งสติให้มั่นเพื่อรับมือกับชะตากรรมข้างหน้าที่น่าจะเป็นเรื่องร้ายมากกว่าดี บางทีผู้ชายที่ชื่อเดฟ อัลเดอร์ลัส อาจไม่ใจร้ายอย่างที่เธอคิดกังวล อาจพอมีหนทางให้เธอเจรจากับเขาก็ได้พิชชา!
****************************************************
“มันเกิดเรื่องบ้าๆ นี่ได้ยังไง โจว์” เจ้าพ่อใหญ่เกรี้ยวกราดใส่หนุ่มชาวเอเชียทันทีที่เจอหน้า หลังจากที่การประมูลจบสิ้นลงเขาให้เควินไปพา โจว์ คนที่เขามักมอบหมายให้ทำงานอย่างลับๆ มาพบ ไม่เคยมีครั้งไหนที่โจว์จะทำให้เขาผิดหวัง ทุกครั้งไม่เคยผิดพลาดแต่ครั้งนี้ทุกอย่างมันพลาดเสียจนเขานั่งไม่ติดที่
โจว์ได้แต่ยืนก้มหน้านิ่งมือประสานกันอยู่ด้านหน้าดวงตาคู่รีหลุบต่ำลงพื้นอย่างสุดที่จะคาดเดาได้ว่ากำลังคิดหรือรู้สึกอย่างไร ด้วยเขามักเก็บซ่อนอารมณ์ได้ดีเสมอภายใต้สีหน้าเรียบเฉย
“ผมขอโทษครับดิเอโก ผมไม่คิดว่าจะมีคนกล้าเสนอราคามากขนาดนั้น ที่สำคัญตอนนั้นเสียงคุณเงียบหายไปผมเลยเข้าใจว่า... ”
“บัดซบ! เดฟมันต้องการอะไรถึงได้ยอมทุ่มเงินมากมายขนาดนั้น” ดิเอโกตวาดกลับก่อนที่โจว์จะทันได้พูดจนจบด้วยยามนี้ไม่อาจควบคุมอารมณ์ได้
ดวงตาคู่สนิมวาววับบ่งบอกอารมณ์ที่คุกรุ่นด้วยเพลิงโทสะที่กำลังลุกโชนอยู่ในอก ทั้งที่เขากำกับการประมูลผ่านเครื่องมือสื่อสารชั้นดีแทบทุกวินาทีแต่โจว์กลับปล่อยให้สุพิชญาถูกคนอื่นประมูลตัดหน้าไปได้ ที่สำคัญคนที่ประมูลสุพิชญาไปนั้นคือ เดฟ อัลเดอร์ลัส
“ดิเอโกคะเดฟอยู่ในสายค่ะ” เสียงเฮเลนบอดี้การ์ดสาวเอ่ยขัดขึ้นก่อนที่ดิเอโกจะบันดาลเพลิงโทสะมากไปกว่านั้น ดิเอโกรีบยื่นมือไปรับโทรศัพท์ทันทีแทบเป็นกระชากและก่อนที่เขาจะกรอกเสียงเข้าไป คนปลายสายก็ส่งเสียงทักทายพร้อมหัวเราะร่าราวกับล่วงรู้ว่ายามนี้เขาอยู่ในสาย
“กำลังร้อนรนจนนั่งไม่ติดสินะดิเอโก ฮ่าๆๆ”
“นายต้องการอะไร” ดิเอโกเก็บข่มความร้อนรุ่มเอาไว้ยามกรอกเสียงห้าวห้วนกลับไป แต่ทว่าปลายสายกลับยียวนมาเสียจนดิเอโกแทบกระอักเลือด
“โอ๊ะ... โอ... ก็ไม่ได้ต้องการอะไรหรอกครับคุณดิเอโก ก็แค่อยากจะโทรมาบอกว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า ผมกำลังจะพาสาวน้อยแสนสวยไปทัวร์สวรรค์ก็แค่นั้น ฮ่าๆๆ”
“ระยำ!” ดิเอโกสบถด่าด้วยแรงอารมณ์ด้วยยามนี้คงไม่มีสิ่งใดที่เขาทำได้นอกจากสิ่งนั้น
“ว้าว! ขอบใจนะที่ชมดิเอโก แต่มันคงไม่เลวระยำเท่านาย ที่ขายได้แม้แต่ผู้หญิงของตัวเอง” เสียงของเดฟตอบกลับมาอย่างเกรี้ยวกราด ดิเอโกถึงกับหน้าชากับคำด่าว่านั้น
“เดฟ!” ดิเอโกทำได้เพียงเค้นเสียงเอ่ยนามของเจ้าพ่อคู่แค้น ปลายสายก็สบถด่ากลับมาก่อนวางสายปล่อยให้ดิเอโกได้แต่หงุดหงิดงุ่นง่านหัวฟัดหัวเหวี่ยง
“ความเลวระยำที่นายเคยทำไว้มันกำลังจะคืนสนองนายจำไว้! ฉันจะทำให้นายตายทั้งเป็น ผู้หญิงของนายจะกลายเป็นโสเภณีชั้นดีที่จะทำเงินให้ฉันมากกว่าร้อยล้านที่นายได้ไปดิเอโก”
“ระยำ! เดฟ!” ดิเอโกตวาดลั่นก่อนกรอกเสียงขานนามนั้นอย่างเกี้ยวกราด แต่ทว่าปลายสายกลับไร้ซึ่งสัญญาณเสียแล้ว
“เควิน! เอารถออกฉันจะไปรังของเดฟ เดี๋ยวนี้!” เจ้าพ่อใหญ่หันมาสั่งการบอดี้การ์ดคนสนิทลั่นหลังจากที่ขว้างโทรศัพท์ในมือลงพื้นจนแตกกระจาย
“แต่ว่า...ดิเอโก!” บอดี้การ์ดหนุ่มพยายามท้วงติงด้วยห่วงในสวัสดิภาพของเจ้านายหนุ่ม ขณะที่โจว์ยังคงยืนกุมมือก้มหน้านิ่งรอรับคำสั่ง
“ฉันสั่งได้ยินไหม!!” ดิเอโกตวาดกลับด้วยแรงโทสะไม่ใส่ใจกับคำทักท้วงแม้สักนิด
“ครับดิเอโก” เควินได้แต่โค้งคำนับรับคำก่อนถอยฉากออกไปเตรียมรถตามคำสั่ง แม้เขาจะเป็นห่วงและรู้สึกผิดต่อสุพิชญา แต่เขาก็ไม่เห็นด้วยกับการที่ดิเอโกจะเข้าไปถึงรังของ เดฟ อัลเดอร์ลัส ด้วยตัวเองเช่นนี้
“ดิเอโกคะ แล้วโจว์” เฮเลนถามขึ้นหลังจากที่เควินก้าวออกไปแล้ว เจ้าพ่อใหญ่ตวัดสายตามองโจว์ที่ยืนก้มหน้านิ่งเพียงนิดก็เอ่ยปากสั่งการบอดี้การ์ดสาว“ให้คนไปส่งที่สนามบิน” น้ำเสียงนั้นราบเรียบไม่บ่งบอกว่ารู้สึกอย่างไร แต่กลับสร้างความหนักใจให้กับบอดี้การ์ดสาวที่ตามติดรับใช้ใกล้ชิดเจ้าพ่อใหญ่ อะไรบางอย่างในตัวของโจว์ทำให้เธอรู้สึกว่าเขาไม่น่าไว้วางใจ“แต่ว่า...ดิเอโก” เฮเลนพยายามท้วงติงให้เขาไตร่สวนโจว์ให้มากกว่านี้ แต่ทว่าดิเอโกกลับตวาดด้วยเสียงดุกร้าวจนเธอไม่อาจทัดทานได้“ทำตามที่ฉันสั่ง เฮเลน”“ค่ะดิเอโก” เฮเลนจำใจน้อมรับคำสั่งแต่โดยดี เมื่อเจ้านายตวาดกร้าวพร้อมกำกับด้วยสายตาดุเข้ม บอดี้การ์ดสาวถอยฉากพลางผายมือเชื้อเชิญชายหนุ่มนามว่าโจว์เพื่อพาเขาไปส่งยังจุดหมายตามคำสั่งการ“ขอบคุณครับดิเอโก ผมรู้สึกละอายใจ” โจว์ก้มศีรษะเพียงนิดยามเอ่ยคำ ดิเอโกมองคนที่เอ่ยสำนึกผิดก่อนเอ่ยตัดบท เพราะยามนี้เขามีสิ่งที่ต้องทำมากกว่ามาคาดคั้นเอาความผิดใคร“ช่างเถอะ! สิ่งผิดพลาดฉันจะแก้ไขด้วยตัวฉันเอง นายไปได้แล้วโจว์”“ครับดิเอโก” โจว์รับคำก่อนโค้งคำนับแล้วถอยหลังก่อนเดินตามเฮเลนออกไป ชายหนุ่มคล้ายจะกระตุกยิ้
สุพิชญาสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงม่านโมบายดังขึ้นบ่งบอกว่าเจ้าพ่อผู้น่าเกรงขามได้ก้าวผ่านเข้ามายังตัวห้องด้านในแล้ว หญิงสาวเฝ้าภาวนาขอให้เขาเห็นใจและฟังคำร้องขอจากเธอ“อยู่นี่เองรึสาวน้อย คุณทำให้ผมเสียเวลาตามหารู้ไหม” เสียงทุ้มดูน่าฟังดังขึ้นด้านหลังขณะที่สุพิชญายืนนิ่งตัวเกร็งด้วยความหวาดหวั่น หากเป็นยามปกติเธอคงหลงใหลไปกับน้ำเสียงชวนอบอุ่นนั้น แต่ทว่าไม่ใช่ยามนี้ที่น้ำเสียงนั้นช่างดุจดั่งเสียงของราชสีห์ที่จ้องตระครุบเหยื่อในความรู้สึกของสุพิชญา“ไหนขอมองคุณใกล้ๆหน่อยสิ อยากรู้ว่าจะสวยเหมือนตอนที่อยู่บนเวทีไหม” เดฟช่างทอดเสียงทุ้มได้นุ่มนวลน่าฟังนักยามเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ใกล้ๆ จนแผงอกกว้างใต้เสื้อคลุมตัวโคร่งแทบแนบชิดแผ่นหลังบอบบางของสุพิชญา“ว้าว! สวยมาก!” เสียงนั้นบ่งบอกความตื่นตาตื่นใจยิ่งนักยามเมื่อ ฝ่ามือร้อนผ่าวเกาะกุมไหล่บอบบางแล้วเหนี่ยวรั้งหมุนร่างของสุพิชญาให้หันมาเผชิญหน้า“สวยจนไม่อยากเชื่อว่าดิเอโกจะขายคุณได้ลงคอ” น้ำเสียงติดจะเยาะหยันอยู่ในทีเมื่อปลายนิ้วแกร่งเชยคางมนของสุพิชญาให้แหงนเงยใบหน้าหวานล้ำขึ้นเพื่อเขาจะได้ชื่นชมความงามบนใบหน้านั้นอย่างเต็มตาสุพิชญาลอบกลื
“สวัสดีครับคุณดิเอโก... รู้สึกเป็นเกียรติจริงๆ ที่ได้ต้อนรับคุณที่นี่ฮ่าๆๆ” เดฟหัวเราะเสียงดังลั่นเมื่อยามปรากฏกายตรงเชิงบันไดของตัวตึก เสียงนั้นฉุดให้ดิเอโกและเควินที่ยืนจังก้าอยู่กลางโถงมีลูกน้องของเดฟห้อมล้อมเป็นด่านกักกั้นโดยรอบต่างพากันหันไปมองทันทีเดฟส่งสัญญาณให้ลูกน้องกระจายตัวออกแล้วก้าวลงมายืนเผชิญหน้ากับดิเอโกอย่างไม่หวั่นเกรง“ฉันมารับตัวผู้หญิงของฉันคืน” ดิเอโกเอ่ยทันที เจ้าพ่อใหญ่เช่นเขาไม่เคยเกรงกลัวคนอย่างเดฟแม้แต่นิด และไม่เคยคิดจะล้ำเส้นให้เขม่นกันมากกว่าที่เป็นอยู่ แม้ตลอดเวลาเดฟจะคอยตั้งท่าหาเรื่องอยู่เนืองนิตย์“โอ๊ว... ว้าว! ผู้หญิงของคุณ ใครไม่ทราบครับคุณดิเอโก ที่นี่มีแต่ผู้หญิงของผมเท่านั้น! ฮ่าๆๆ” เดฟยังคงหัวเราะร่าราวกับว่ากำลังพูดคุยเรื่องขบขัน แต่น้ำเสียงและสีหน้าท่าทางแสดงอาการเย้ยหยันดิเอโกสุดใจ“นี่เงินของนายเอาคืนไปแล้วส่งตัวผู้หญิงของฉันคืนมา” ดิเอโกโยนกระเป๋าในมือออกไปตรงหน้าเดฟ ลูกน้องที่รุมล้อมระวังภัยขยับหมายเข้าชาร์ตตัวฝ่ายตรงข้ามแต่เดฟยกมือสั่งห้ามไว้“ฮะ ฮะ ฮ่า มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ ฉันอุตส่าห์ลงแข่งประมูลกว่าจะได้มา แต่นายกลับจะมาโยนเงินนี่ใส่
“กรี๊ดดด... ดิเอโก! อย่าเข้ามา ได้โปรด... ออกไป” เสียงกรีดร้องอย่างโหยหวนพร้อมเสียงตะโกนก้องร้องห้ามเขาดังไปทั่วบริเวณ ดิเอโกแทบถลาเข้าหาเจ้าของเสียงนั้น แต่ทว่ากลับมีกรงเหล็กขวางกั้นทำให้เขาไม่อาจเข้าไปหาคนที่กำลังร้องไห้คร่ำครวญได้“ดาราเดล! รอหน่อยนะฉันจะช่วยเธอเอง” ดิเอโกตะโกนก้องบอกคนที่กำลังร้องไห้อย่างเสียขวัญ รอบกายถูกพันธนาการด้วยสายไฟระโยงระยางไปหมด นั่นไม่ร้ายเท่ามีระเบิดเวลาผูกติดแน่นอยู่กับตัวเธอจนเขาร้อนรนแทบทนไม่ได้ดิเอโกทำทุกวิถีทางที่จะเข้าช่วยหญิงสาว ทั้งทุบทั้งงัดกรงเหล็กที่ขวางกั้นจนมือแตกเลือดไหลอาบมือเต็มไปหมด แต่ทว่า...บึ้ม! ตูม!!“ดาราเดล! ม่ายยยยย!! ” ดิเอโกตะโกนก้องร้องเรียกหญิงสาวที่รักด้วยหัวใจที่แตกสลายเมื่อได้เห็นเปลวไฟลุกทั่วร่างท่ามกลางเสียงระเบิดที่ดังสนั่นหวั่นไหว น้ำตาของลูกผู้ชายไหลรินยามโขกศีรษะกับกรงเหล็กอย่างบ้าคลั่ง ท้ายสุดก่อนที่ทุกอย่างจะหยุดสิ้น เขาก็รู้สึกราวศีรษะถูกกระแทกอย่างแรง“ดาราเดล!” ดิเอโกตะโกนก้องก่อนสะดุ้งสุดตัวเมื่อรู้สึกคล้ายหล่นวูบลงไปในหุบเหวลึกเจ้าพ่อใหญ่ลืมตาโพลงทันทีอย่างตกใจ เรือนกายแกร่งผุดลุกขึ้นนั่งทันควันเมื่อพบว่าเ
“เยี่ยมมากครับคุณดิเอโก คุณนี่ช่างสุดยอดจริงๆ ยอมทิ้งสมบัติ ทิ้งบริวาร เพื่อแลกกับผู้หญิงคนเดียว นับถือๆ โว้ว... ฮ่าๆๆ” เดฟ อัลเดอร์ลัสหัวเราะร่าอย่างสะใจเมื่อดิเอโกติดต่อมาว่ายินดีทำตามข้อเสนอที่เขาต้องการ และตอนนี้คู่อริก็มายืนอยู่ตรงหน้าพร้อมทนายความส่วนตัว“ว่าไงเควิน เปลี่ยนใจมาอยู่กับฉันก็ยังทันนะ มีเจ้านายไม่ได้เรื่องแบบนี้แกยังจะภักดีอีกเหรอวะ ฮ่าๆๆ” หันมาถามบอดี้การ์ดคนเก่งของดิเอโกอย่างหยามหยัน ดิเอโกแทบสะกดกลั้นความขุ่นเคืองใจไว้ไม่ไหวรีบรวบรัดตัดความก่อนที่จะหมดความอดทน“หุบปาก! แล้วเลิกเห่าได้แล้วเดฟ รีบๆ จัดการ ฉันไม่อยากเสียเวลา”“ฮ่าๆๆ เควิน แกลองฟังนะ เจ้านายแกเขาอยากรีบพาน้องหนูไปขึ้นสวรรค์ ไม่สนใจสักนิดว่าพวกแกกับลูกน้องจะเป็นยังไง โว้ว! สะใจจริงโว้ย!” เดฟยังคงหัวเราะร่าอย่างบ้าคลั่งก่อนหันไปสั่งลูกน้องคนสนิทให้พาสุพิชญาออกมาแลกเปลี่ยน“ซาอิคเอาตัวผู้หญิงคนนั้นมา”“ครับเดฟ” รับคำหนักแน่นนอบน้อมก่อนเดินหายเข้าไปในห้องหนึ่ง แล้วออกมาพร้อมหญิงสาวที่ยามนี้อยู่ในชุดราตรีสีแดงสดชุดเดิมที่สวมใส่มาเมื่อสามวันก่อน“พิชชา!” ดิเอโกพึมพำขานนามนั้นเมื่อเห็นหญิงสาวยังอยู่ในสภาพพร
เมื่อออกจากรังของเดฟมาได้ระยะหนึ่งซึ่งเจ้าพ่อหนุ่มคะเนดูแล้วว่าปลอดภัยไม่มีคนของคู่อริติดตามมาแน่นอน จึงสั่งให้คนขับรถชะลอรถแล้วส่งสัญญาณให้เควินที่ขับรถตามมาติดๆ จอดเทียบข้างทางก่อนลงจากรถไปเพื่อสั่งความกับบอดี้การ์ดหนุ่มสุพิชญาที่นั่งเงียบมาตลอดทางรีบตามลงไปเพื่อหาทางเจรจาด้วยเธอไม่อยากกลับไปอยู่ในการควบคุมของดิเอโกอีก แม้ลึกๆ ในใจจะดีใจที่เขาติดตามมาพาเธอออกไปให้รอดพ้นเงื้อมมือคนโฉดอย่างเดฟ อัลเดอร์ลัส แต่นั่นแหละทุกอย่างมันเป็นความผิดเขาสุพิชญาคิดเช่นนั้น!“เควินนายพามิสเตอร์ฟานไปที่เกาะบาหลัน ฉันจะไปที่เดอะไนท์” ดิเอโกสั่งความ แต่บอดี้การ์ดหนุ่มกลับนิ่วหน้าด้วยความสงสัยและเอ่ยถามออกไปอย่างรวดเร็ว“แต่ดิเอโกครับ เกาะบาหลันกับเดอะไนท์”“ทำตามที่ฉันสั่ง คุ้มกันมิสเตอร์ฟาน อย่าให้ใครเข้าเกาะบาหลันได้” เจ้าพ่อใหญ่เอ่ยสั่งด้วยเสียงเฉียบขาดไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้ไถ่ถามให้ยืดยาวด้วยเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะนั่งอธิบายเรื่องราวใดๆ“ไปเถอะเควินแล้วนายจะเข้าใจเอง” บอกเสียงอ่อนลงเมื่อเห็นสีหน้าไม่สบายใจและไม่เข้าใจของบอดี้การ์ดคนสนิท เควินที่ไม่อาจขัดคำสั่งเจ้านายใหญ่ได้จำก้มหน้ารับคำบัญชาอย่างเ
“อื้อ! อื้อ!” สุพิชญาส่งเสียงอู้อี้อย่างขัดใจดวงตาคู่สวยเต็มไปด้วยแววชิงชังเคียดแค้นในตัวเจ้าพ่อหนุ่ม เขาจับเธอทุ่มเข้ามาในรถแล้วมัดมือมัดเท้าปิดปากราวกับเธอไม่ใช่คน อย่าให้เธอมีโอกาสหนีรอดไปได้ สาบานเลยว่าเธอจะเอาเรื่องเขาให้ถึงที่สุด!!“เลิกใช้สายตามองผมแบบนั้นดีกว่ายาหยี คุณน่าจะรู้ตัวดีว่าจริงๆ แล้วคุณไม่ได้เกลียดชังผม กลับกันคุณอาจคลั่งผมเสียจนถอนตัวไม่ขึ้นโดยที่คุณยังไม่รู้ตัวก็ได้” ดิเอโกชะโงกหน้าเข้าไปใกล้พร้อมใช้ปลายนิ้วแกร่งบีบบังคับเชยคางสวยให้เธอสบตาเขา เจ้าพ่อใหญ่พึงพอใจที่เห็นท่าทีฮึดฮัดขัดใจด้วยไม่อาจทำอะไรเขาได้คำพูดยั่วเย้านั่นช่างยั่วอารมณ์เธอให้คุกรุ่นจนแทบอยากซัดฝ่ามือเข้าใบหน้าแสนยียวนเสียครั้งสองครั้งให้สาแก่ใจ เกิดมาเธอไม่เคยพบเจอใครหยาบคายได้เท่าผู้ชายตรงหน้านี้มาก่อนเลยสักนิด ‘ให้ตายเถอะ! พิชชานี่เธอสร้างเวรกรรมกับอีตาหื่นนี่มาแต่ชาติปางไหนกัน เธอถึงต้องมาพบเจอกับเรื่องบ้าๆ นี่’“อื้อ! อื้อ!” สุพิชญาพยายามส่งเสียงต่อต้าน เมื่อดิเอโกเพียงแค่แก้ผืนผ้าที่ผูกข้อเท้าเธอออกเท่านั้น แต่ไม่คิดปล่อยให้มือและปากของเธอเป็นอิสระ ซ้ำเขายังฉุดกระชากเธอให้เดินตามอย่างไม่ปรา
ความคิดสะดุดลงฉับพลันเมื่อดิเอโกส่งฝ่ามือร้อนเข้ากอบกุมทรวงอกนุ่มหยุ่นอย่างถือสิทธิ์ กายสาวเริ่มบิดเร่าราวถูกของร้อนเพราะหลังก้อนเนื้อนุ่มถูกครอบครองไว้ในอุ้งมือ เจ้าพ่อใหญ่ก็โน้มตัวต่ำลงพร้อมส่งปลายลิ้นร้อนตวัดไล้ปลายยอดสีหวานที่ชูชันอวดโฉมเชิญชวนให้ลองลิ้มชิมรสว่าหอมหวานเฉกเช่นเดียวกับรูปโฉมที่เย้ายวนตาหรือไม่หัวใจดวงน้อยแทบหลุดลอยตามเพราะเขาเพียงแค่ตวัดไล้แผ่วเบาแต่ไม่ยอมคลุกเคล้าหนักหน่วงอย่างที่ส่วนลึกในใจเรียกร้อง เสียงหวานกรีดร้องก้องในลำคอราวทุกข์ทรมานเหลือแสนเมื่อเจ้าพ่อใหญ่ไม่ใส่ใจที่จะครอบครองก้อนเนื้อนุ่มมากไปกว่านั้นกลับกันกลับส่งปลายจมูกโด่งและ ริมฝีปากบางเฉียบเลาะเลียบลงไปตามหน้าท้องแบนราบพรมจูบแผ่วเบาราวกลัวว่าเรือนร่างบอบบางจะบุบสลาย เพียงเท่านั้นกายสาวก็ดิ้นพล่านอย่างทุรนทุรายมือน้อยร้าวระบมไปหมดเพราะเจ้าของออกแรงบิดหวังให้หลุดพ้นจากพันธนาการนั้น ดิเอโกกระตุกยิ้มย่องอย่างลำพองใจยามนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องพึ่งพาผืนผ้าที่พันธนาการข้อมือบางอีกต่อไปเขาจะใช้ประสบการณ์อันเหนือชั้นจัดการปราบพยศคนอวดดีให้สิ้นฤทธิ์และยินยอมพร้อมใจไปกับเขาเฉกเช่นวันวานเพียงแค่ถูกปลดปล่อยให้
“โอ๊ะ! / อุ๊ย!” ดิเอโกแสร้งอุทานเมื่อสุพิชญาดึงรั้งเสื้อเชิ้ตให้หลุดออกจากแขนแกร่ง หญิงสาวพลอยอุทานไปกับเขาด้วย“ขอโทษค่ะ ฉันจะระวังให้มากกว่านี้นะคะ คุณช่วยยกแขนข้างนี้ขึ้นสูงอีกนิดได้ไหมคะ ไหวไหม” ท้ายประโยคถามด้วยความห่วงใยหลังจากที่สั่งให้เขาขยับแขนข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บขึ้นเพื่อเธอจะได้ถอดเสื้อได้ง่ายขึ้น“ดะ...ได้ครับ” เจ้าพ่อใหญ่เอ่ยตอบเสียงตะกุกตะกักใบหน้าเหยเกเต็มที ดวงตาคู่สนิมหรี่มองหญิงสาวที่ค่อยๆ บรรจงถอดเสื้อ“แล้วกางเกง...”สุพิชญาหน้าแดงซ่านราวลูกตำลึงสุกเมื่อดิเอโกถามค้างเพียงเท่านั้น หญิงสาวหลุบตาต่ำอย่างเขินอายก่อนตวัดสายตาขึ้นมองสบดวงตาสีสนิม ในที่สุดเธอก็กลั้นหายใจกัดฟันตอบออกไป“ฉะ...ฉัน เอ่อ... ฉันช่วยถอดให้ก็ได้ค่ะ”“ขอบคุณนะครับยาหยี เพราะผมเจ็บแบบนี้คุณเลยต้องลำบาก”ดิเอโกบอกพร้อมทอดสายตาอ่อนโยนเป็นการขอบคุณ สุพิชญายิ้มหวานให้ก่อนเอ่ยบอกจากใจจริงเช่นกัน“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แค่คุณยังหายใจอยู่ ฉันก็ดีใจแล้ว เพราะหากคุณเป็นอะไรไปใครจะอนุญาตให้ฉันกลับบ้านล่ะคะ” ท้ายประโยคสัพยอกนั่นทำให้ดิเอโกหลุดหัวเราะออกมากับวาจาค่อนแคะเขา“ยาหยี นี่ผมมีค่าแค่นั้นเองเหรอ” คนตัวโ
“ว่าไงนะ! ดิเอโกถูกยิงบาดเจ็บ แล้วเขาเป็นยังไงบ้าง แล้วคุณกลับมาทำไม... ทำไมไม่อยู่กับเขา” สุพิชญาอุทานดังลั่นห้องเมื่อได้ฟังคำบอกเล่าของบอดี้การ์ดใหญ่ หัวใจสาวสั่นระรัวไปหมด เพราะทั้งกังวลและหวาดกลัวเกี่ยวกับอาการของดิเอโก“เควินคะ เอาเรือออก ฉันจะไปหาเขา พาฉันไปหาดิเอโกที”“ใจเย็นก่อนครับมิส ตั้งสติ หายใจเข้าลึกๆ แล้วฟังครับ” บอดี้การ์ดใหญ่บอกเสียงเข้มเกือบดุหวังเรียกสติหญิงสาวที่บัดนี้ดูท่ากระเจิดกระเจิงเสียแล้ว เมื่อเห็นอีกฝ่ายมีทีท่าสงบลง เขาก็ค่อยๆ บอกเล่าเหตุการณ์ต่อไปตามบทที่ซักซ้อมมาอย่างดี“ดิเอโกบาดเจ็บจริงแต่ว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว และอยู่ในความคุ้มครองของตำรวจ มิสไม่ต้องกังวลครับ และที่ผมกลับมานี่ เป็นเพราะดิเอโกสั่งให้ผมมาคุ้มกันมิส เพราะพวกของเดฟอาจคิดจะรุกรานมาถึงที่นี่ก็ได้”“ต่อสายดิเอโกให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ” สุพิชญาร้องขออย่างน่าสงสารหลังจากฟังคำบอกเล่าของบอดี้การ์ดใหญ่จบ เพียงแค่ได้ยินว่าเขาปลอดภัยเธอก็เบาใจแต่ก็ยังอยากได้ยินเสียงให้แน่ใจอีกครั้งว่าเควินไม่ได้หลอกล่อให้เธอวางใจ“ผมคงทำตามคำขอของมิสไม่ได้ เพราะตอนนี้ทุกอย่างถูกคุมเข้มห้ามใครติดต่อกับดิเ
“หยุดก่อน!” เสียงหวานของสุพิชญาดังมาจากตรงเชิงบันได บอดี้การ์ดหนุ่มที่เดินอยู่ในบริเวณนั้นหยุดชะงักก่อนหันมาทำความเคารพนายหญิง“ครับมิส”“ฉันได้ยินแว่วๆ ว่าใครเป็นอะไร” สุพิชญาถามรัวเร็วเมื่อก้าวเดินเข้าไปใกล้บอดี้การ์ด เหตุเพราะเธอได้ยินบทสนทนาที่ดูเหมือนว่าใครเกิดการปะทะกับใคร ความใจร้อนทำให้เธอตะโกนเรียกเหล่าบอดี้การ์ดไว้เมื่อเห็นว่าพวกเขากำลังจะแยกย้ายกันไปตามจุดต่างๆ“เอ่อ... คือ... ”“ว่าไงคะ” หญิงสาวยิงคำถามจี้ถามติดๆ กันเมื่อพากันเอาแต่อ้ำอึ้ง สุพิชญาเค้นเอาคำตอบด้วยการจ้องเขม็งสายตานิ่งสนิทเป็นการบอกกลายๆ ว่าหากไม่ได้รับคำตอบเธอจะไม่มีวันปล่อยให้ใครเดินจากไปเด็ดขาดหัวหน้าบอดี้การ์ด ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนตัดสินใจบอกกล่าวผู้เป็นนายหญิง“เควินสั่งการมาให้พวกเราคุมเข้มทุกจุด เพราะเกิดการปะทะกับเดฟที่เดอะไนท์ครับมิส”“ปะทะกับเดฟ! ที่เดอะไนท์” สุพิชญาอุทานตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน หัวใจแทบหล่นไปอยู่ตาตุ่ม หญิงสาวร้อนรุ่มไปหมด ในใจลึกๆ ยังปฏิเสธว่าสิ่งที่ได้ยินไม่ใช่เรื่องจริง แต่ทว่า...“ครับมิส เชิญมิสขึ้นไปพักบนห้องดีกว่าครับ ผมจะให้คนไปคุ้มกันความปลอดภัยที่หน้าห้อง”“เดี๋ยว! แล้วดิเ
เมื่อเห็นคนแสนพยศเอาแต่นิ่งเงียบนัยน์ตาหม่นเศร้า เจ้าพ่อใหญ่ก็เลื่อนมือมาจับไหล่กลมกลึงสองข้างก่อนเลื่อนฝ่ามือข้างหนึ่งมาแตะพวงแก้มนุ่มนิ่มแล้วใช้ปลายนิ้วเชยปลายคางให้เธอแหงนเงยใบหน้าขึ้นมองเขา แต่การกระทำนั้นราวเป็นการบังคับกลายๆ ให้เธอต้องสบตาเขาและห้ามเบือนหน้าหลบหนีเด็ดขาดจนกว่าเขาจะพูดจบ“ผมดูแลคุณไม่ดีตรงไหนหรือเปล่ายาหยี คุณถึง...”“ดิเอโกคะ... ฉันยอมรับว่าคุณดูแลฉันดีมาก แต่ฉันก็ไม่ลืมว่าฉันมาอยู่ที่นี่ด้วยความไม่เต็มใจ” พยายามให้เหตุผลหลังจากสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดด้านดิเอโกเมื่อได้ฟังวาจานั้นเจ้าพ่อใหญ่ก็เริ่มเกิดอารมณ์หงุดหงิด เหตุเพราะไม่รู้ว่ากี่ครั้งแล้วที่เขาต้องมาคุยเรื่องนี้กับเธอ“ฟังนะยาหยี! คุณอาจจะคอยย้ำเตือนตัวเองตลอดเวลาว่าคุณมาด้วยความไม่เต็มใจ นั่นมันเป็นเพราะคุณอคติ คุณถึงได้พยายามสร้างกำแพง ยกเหตุผลสารพัดเพียงเพื่อหลอกตัวเองว่าคุณไม่มีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่ แต่คุณไม่เคยยอมรับตัวเองต่างหากว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นคุณเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ กลับกันคุณกลับเต็มใจรับมันด้วยซ้ำ” “ดิเอโก!” ขานนามนั้นอย่างตกตะลึง เพราะสิ่งที่เขาพูดมานั้นมันกระแทกใจเธออย่างจัง“หรือคุณจะบอ
ตลอดช่วงสายของวันนั้นจนเวลาล่วงเลยมาค่อนคืน สุพิชญาเฝ้าคอยดูแลแม่ลูกอ่อนอย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีภาวะแทรกซ้อนหลังคลอดเกิดขึ้น หญิงสาวไม่คิดว่าดิเอโกจะใจดีสั่งการให้เคลื่อนย้ายลูกน้องหญิงไปพักที่เรือนใหญ่ซึ่งเป็นที่พักส่วนตัวของเขา ซ้ำดิเอโกเองก็เฝ้าวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ไม่คิดปล่อยหญิงสาวไว้ตามลำพังเจ้าพ่อใหญ่สั่งการให้แม่บ้านจัดเตรียมอาหารมาให้เขาและเธอ แม้หญิงสาวจะเอ่ยปากหลายครั้งให้เขาไปพักผ่อนอย่าได้กังวลเกี่ยวกับเธอ แต่ดิเอโกก็หาได้ฟังไม่ เขายังยืนยันอยู่เป็นเพื่อนเธอและคอยสอดส่องสายตามองหาตลอดเวลาที่เธอหายเข้าไปในห้องพัก และยามนี้เวลาก็ล่วงเลยเข้าสู่วันใหม่มาได้ชั่วโมงกว่าแล้วหญิงสาวตั้งใจว่าอีกสักพักเธอก็จะเอนกายพักผ่อนบ้าง ด้วยอาการของแม่หลังคลอดนั้นไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วงแล้ว แต่เมื่อเธอก้าวพ้นประตูห้องออกมาก็พบดิเอโกนอนขดกายอยู่บนโซฟาที่ขนาดไม่พอดีกับร่างกายสูงใหญ่ของเขาสักนิด สุพิชญาส่ายหน้ากับภาพนั้นก่อนเดินเข้าไปหาหวังจะปลุกให้เขากลับเรือนพักไปนอนให้สะดวกสบาย“ดิเอโกคะ ตื่น... ว้าย!!” เสียงหวานหวีดร้องเสียงหลงเมื่ออยู่ๆ ก็ถูกตวัดรวบแขนบิดพ่ายไปด้านหลังเพียงแค่เธอยื
“ฉันต้องการสถานที่และอุปกรณ์เดี๋ยวนี้”“คุณต้องการอะไรบ้างว่ามา”สุพิชญาบอกสิ่งที่ตัวเองต้องการ ดิเอโกหันไปสั่งความลูกน้องทันทีเช่นกัน ยามนี้ไม่มีทีท่าของคนชอบวางอำนาจไม่ยอมเป็นรองเธอให้เห็นสักนิด“รีบไปจัดการตามที่นายหญิงสั่งสิ”“ครับดิเอโก!!”ตลอดระยะเวลาที่สุพิชญาทำคลอดดิเอโกแทบหายใจไม่ทั่วท้อง เจ้าพ่อใหญ่เดินไปมาให้วุ่นวายไปหมด หัวใจแกร่งร้อนรุ่ม เขาแทบอยากพังประตูเข้าไปเสียเดี๋ยวนี้ ความห่วงใย ความพะวงทำเอาเขาว้าวุ่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แต่เพราะคำสั่งที่แสนเด็ดขาดของคนที่ดูบอบบางอย่างสุพิชญาว่าให้เขาออกมารอด้านนอก ขอไว้เพียงคนงานหญิงที่เธอให้คอยเป็นผู้ช่วยหยิบจับในสิ่งที่ต้องการเท่านั้น“อุ๊แว้! อุ๊แว้!”“พิชชา!” ดิเอโกอุทานขานเรียกชื่อหญิงสาวออกมาแทบเป็นตะโกนเมื่อได้ยินเสียงเด็กร้องดังออกมาจากด้านใน เจ้าพ่อใหญ่แทบกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจเสียงเด็กที่เล็ดลอดออกมานั้นช่างเหมือนเสียงสวรรค์ เขามั่นใจว่าพิชชาปฏิบัติภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว แต่ว่า... เวลาก็ล่วงเลยมาสักระยะแล้วกลับไม่มีใครก้าวออกมาจากห้องสักคน เสียงเด็กก็พลอยเงียบหายไปด้วย“หรือว่าจะเกิดอะไรขึ้น” เจ้าพ่อใหญ่รำพันกับตัวเอง
“ที่นี่สวยจังค่ะ เงียบสงบดูไม่วุ่นวาย เป็นเกาะที่น่าอยู่มากจริงๆ” สุพิชญาเอ่ยออกมาด้วยใบหน้างามเต็มไปด้วยรอยยิ้ม หญิงสาวทอดสายตามองไปยังชายหาดขนาดย่อมความยาวไม่ไกลเกินหนึ่งกิโลเมตร ผืนทรายนั้นเป็นสีขาวดูสะอาดตากลมกลืนกับท้องทะเลสีฟ้าใส เธอเพิ่งรู้เมื่อไม่กี่นาทีนี้เองว่า สถานที่เธอยืนอยู่ยามนี้ชื่อว่า ‘เกาะบาหลัน’ เกาะส่วนตัวเล็กๆ เกาะหนึ่งของประเทศอินโดนีเซีย“แล้วคุณอยากอยู่ไหมล่ะ”“คะ” หันขวับไปมองคนที่เดินมาหยุดยืนอยู่ข้างๆ พลางเลิกคิ้วถามอย่างสงสัยด้วยไม่แน่ใจในสิ่งที่อีกฝ่ายเอ่ยออกมา ดิเอโกเบือนหน้าไปมองคนข้างกายพร้อมคลี่ยิ้มบางเบาก่อนเอ่ยประโยคต่อไป“ในเมื่อที่นี่น่าอยู่ ทำไมคุณไม่อยู่เลยล่ะ... ยาหยี”“คะ...คือฉัน” สุพิชญาออกอาการติดอ่างขึ้นมาทันใด หญิงสาวไม่คิดว่าจะได้ยินคำเชิญชวนแสนง่ายนั้น แต่ก่อนที่เธอจะได้เอ่ยคำใดต่อไป ดิเอโกก็แทรกขึ้นด้วยประโยคที่ชวนให้เธออารมณ์กรุ่นขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยระลึกได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นเธอไม่ได้เต็มใจสักนิด“ผมยินดีนะถ้าคุณจะอยู่กับผมที่นี่มากกว่าหนึ่งเดือน ตามข้อตกลงนั่น”“ฉันบอกคุณกี่ครั้งแล้วคะ ว่าฉันไม่รู้เรื่องข้อตกลงอะไรนั่น คุ
“ว้าย... ดิเอโก!! ตามเข้ามาทำไมคะ” เสียงหวานอุทานลั่นด้วยความตื่นตระหนกเมื่อเธอเดินเข้าห้องน้ำไปแล้ว แต่ก่อนที่จะทันได้ปิดประตู ดิเอโกก็แทรกตัวเข้ามาแล้วจัดการปิดล็อกเสียเอง สุพิชญาเบิกตากว้างมองเขาอย่างหวาดหวั่น เธอรู้ตัวดีว่าลงเขาเข้ามาด้วยแบบนี้ เธอไม่มีทางจะรอดพ้นจากเพลิงพิศวาสของเขาไปได้อย่างแน่นอน“ฉันร้อนอยากอาบน้ำ คุณออกไปสิคะ”“ผมก็ร้อนมาก ผมเลยคิดว่าเราน่าจะอาบพร้อมกันดีกว่านะ จะได้ไม่เสียเวลา”“ดิเอโก! อุ๊ย!” สุพิชญาอุทานขานชื่อนั้นอย่างตกใจแล้วก็ยิ่งตกใจยิ่งกว่าเมื่อเจ้าพ่อใหญ่ตรงเข้ารวบร่างน้อยเข้าหา หญิงสาวตระหนักทันทีว่าจะเกิดอะไรขึ้นนับจากวินาทีนี้ไป“อย่า... ” เสียงหวานร้องห้ามสั่นพร่า แต่ทว่าหาได้หยุดยั้งเจ้าพ่อใหญ่ได้ เพราะฝ่ามือร้อนเริ่มลูบไล้รุกไล่ไปทั่วเรือนกาย ปลายจมูกโด่งก็ซุกซนไปทั่วหัวใจสาวสั่นระรัวเมื่อถูกดันร่างแนบชิดติดผนังห้องน้ำ ปลายนิ้วแกร่งรุกไล่ปลดเปลื้องเสื้อตัวสวยออกจากเรือนร่างราวต้องการตกย้ำให้เธอตระหนักว่า อย่างไรเสียเขาก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจแน่นอน และจ
“เกาะอะไรคะดิเอโก” ถามเมื่อสายตาสบเข้ากับเกาะขนาดย่อมตรงหน้า ตามการคาดเดาด้วยสายตาสุพิชญาคิดว่าอีกไม่ถึงสิบนาที เธอและเขาก็จะถึงที่นั่น อารมณ์ขุ่นมัวที่อีกฝ่ายเอาแต่ใจไม่ยอมให้เธอได้ออกความเห็นหรือเรียกร้องสิทธิ์ใดๆ มลายหายไปสิ้นตั้งแต่ขึ้นเรือมาสุพิชญายอมรับว่า ยามที่ทอดสายตามองออกไปยังท้องทะเลที่กว้างไกลพร้อมปล่อยให้ผิวกายปะทะเข้ากับลมทะเลที่โบกพัดมาทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายขึ้น จนมีกะจิตกะใจที่จะหันไปชวนเจ้าพ่อใหญ่พูดคุย แต่ทว่าคำตอบที่ได้รับกลับมาทำให้แทบอยากเข่นฆ่าเขาเสียเดี๋ยวนั้น“เกาะผมให้แน่นๆ ไงครับยาหยี หรือจะให้ผมเกาะคุณดี ผมเกาะไม่ปล่อยนะจะบอกให้” เขาตอบพลางโน้มกายเข้าหาราวกับว่าจะเกาะกอดเธอต่อหน้าบอดี้การ์ดจริงๆ การกระทำนั้นเรียกเสียงหวีดร้องของหญิงสาวได้เป็นอย่างดี“คนบ้า! คนผี! ฉันหมายถึงเกาะนี้ต่างหาก ชื่อเกาะอะไร” สุพิชญาตวาดเสียงเข้มนัยน์ตาขุ่นเขียวเรียวปากสวยเม้มเข้าหากันอย่างขัดใจ นั่นเรียกเสียงหัวเราะขบขันจากดิเอโกได้มากมายนัก“ฮ่าๆๆ ก็คุณไม่ได้ถามแบบนี้นี่”“นี่คุณอย่ามาเล่นลิ้นนะ” หญิงสาวตั้งท่าข่มขู่ตาโต แต่เจ้าพ่อใหญ่กลับหายำเกรงไม่ ยังคงหยอกเย้าเธฮต่อไปแต่ก็กึ