หน้าหลัก / แฟนตาซี / พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน / ตอนที่ 36 ความเชื่อที่สั่นคลอน

แชร์

ตอนที่ 36 ความเชื่อที่สั่นคลอน

หลังจากเอรอสจัดการลูกสมุนที่ตามล่าเขาจนหมดสิ้น เขาเก็บรวบรวมถุงเงินและของมีค่าทั้งหมดไปซ่อนไว้ในที่ปลอดภัย ก่อนจะย้อนกลับมาที่เดิม จัดแจงให้ร่างกายแนบชิดไปกับเงามืดของต้นไม้ใหญ่ ตาจับจ้องไปที่ไอลีนซึ่งกำลังต่อสู้กับบอสขององค์กรอย่างดุเดือด โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าเขากำลังเฝ้ามองอยู่ใกล้ ๆ

เอรอสมองตามทุกการเคลื่อนไหวของเธออย่างเงียบงัน ขณะที่ไอลีนพยายามหลบหลีกและโจมตีอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าร่างกายจะเต็มไปด้วยบาดแผล แต่แววตาของเธอกลับเปล่งประกายด้วยความมุ่งมั่น ท่าทางการต่อสู้ที่ดุดันนั้นทำให้เอรอสรู้สึกทึ่ง รู้สึกถึงความกล้าหาญที่เขาไม่คาดคิดว่าจะพบในตัวเธอ ท่ามกลางความวุ่นวายและเสียงปะทะ เขาแอบมองเธอในความมืด รู้สึกได้ถึงความพยายามอันเด็ดเดี่ยวที่หายากในตัวคนทั่วไป

ร่างกายของไอลีนดูอ่อนล้าลงเรื่อยๆ หายใจหอบแรง บาดแผลที่แขนและขาดูเหมือนจะทำให้เธอแทบยืนไม่ไหว แต่เธอก็ยังคงยืนหยัด และพยายามต่อสู้อย่างสุดกำลัง จนกระทั่งเอรอสสังเกตเห็นบางสิ่งบนพื้นใกล้ๆ

โพชั่นมานาขวดหนึ่งที่ตกอยู่ไม่ไกลจากหญิงสาวที่ไอลีนตั้งใจจะไปช่วย เป็นโพชั่นเดียวที่เขาเอาไว้ให้เธอสามารถฟื้นฟูมานาของตัวเองใยการต่อสู้ แต่ไอลีนกลับเลือกที่จะโยนขวดโพชั่นนั้นให้หญิงสาวคนนั้นแทน ความใจดี และ การเสียสละที่ไม่คิดถึงตัวเองนั้น ทำให้เอรอสรู้สึกสับสน

"โง่จริง ๆ" เขาพึมพำกับตัวเอง รู้สึกขัดใจกับการกระทำของเธอที่ดูเหมือนจะไร้เหตุผล เขาคิดเสมอว่าในสถานการณ์แบบนี้ คนส่วนใหญ่จะต้องเลือกตัวเองก่อน แต่ในเวลาเดียวกัน ความคิดของเขากลับเริ่มสั่นคลอน การเสียสละนี้ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เขาเคยเชื่อมาโดยตลอด มนุษย์ทุกคนจะเห็นแก่ตัวในยามคับขัน...ไม่ใช่หรือ?

ในขณะที่ความคิดของเขายังคงวนเวียนอยู่นั้น เขาเห็นไอลีนดึงกระสุนมานาสีแดงออกมาเสริมพลังให้กับปืน หายใจเข้าอย่างหนัก ก่อนจะหันกลับไปประจันหน้ากับศัตรูอีกครั้ง แม้ว่าเธอจะดูอ่อนแรงเต็มที แต่ความเด็ดเดี่ยวของเธอทำให้เอรอสไม่อาจละสายตาได้ รู้สึกได้ถึงความรู้สึกคละเคล้าระหว่างความชื่นชมและความหงุดหงิด ทว่าความรู้สึกนี้กลับทำให้เขาไม่อาจละสายตาไปจากเธอได้เลย

เอรอสที่ซุ่มมองอยู่ในเงามืด มองอย่างเฉยชา ยากที่จะอ่านออก เขาจับตามองทุกท่าทีของไอลีน แม้จะรู้ว่าพลังของเธอกำลังร่อยหรอลงทุกที แต่เธอก็ยังสู้ไม่ย่อท้อ ร่างกายที่อ่อนล้าจนแทบยืนไม่ไหว ไม่อาจหยุดยั้งความมุ่งมั่นในดวงตาของเธอได้ สายตาของเอรอสเต็มไปด้วยความสงสัยปนความหงุดหงิดเล็กน้อย หญิงสาวผู้นี้กลับทำให้เขารู้สึกได้ถึงความกล้าหาญที่ขัดกับความเชื่อที่เขามีต่อมนุษย์อย่างสิ้นเชิง

เมื่อเห็นเธอหยิบแก่นมานาสีแดงใส่เข้าไปในปืนอีกครั้ง เอรอสพึมพำกับตัวเอง "ดื้อด้านจริงๆ" เขาพูดเสียงแผ่ว แต่มีแววชื่นชมซ่อนอยู่

เสียงปืนดังสนั่น กระสุนมานาพุ่งทะลุอากาศเข้าหาผู้ชายอ้วนท้วมคนนั้น คราวนี้สร้างรอยแผลลึกจนมันต้องถอยไปเล็กน้อย พร้อมส่งเสียงคำรามก้องไปทั่วพื้นที่ ทว่าพลังของเขาแผ่กระจายออกมาจนพื้นดินสั่นสะเทือน ไอลีนที่อ่อนแรงอยู่แล้ว ดูท่าจะรับมือได้ยากขึ้นทุกขณะ เอรอสยืนนิ่ง มองดูสถานการณ์ที่พลิกผันอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว บางทีเขาอาจจะกำลังรอดูว่าเธอจะพลาดพลั้ง หรือ เธอจะมีปาฏิหาริย์อะไรที่จะพลิกสถานการณ์นี้อยู่อีก

เมื่อไอลีนล้มลงกับพื้น ความหวังริบหรี่เอื้อมถึงในดวงตาของเธอ เอรอสเห็นเธอหยิบขวดเล็กที่เขาให้มาออกมา จากเงามืด เขาแสยะยิ้มที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ รอดูว่าหญิงสาวจะนำมันมาใช้ยังไง เขาแอบคาดหวังเล็กน้อยว่าไอลีนจะสงสัยในของที่เขามอบให้ แต่เธอกลับขว้างมันใส่บอสเต็มแรงโดยไม่ลังเล ขวดแตกกระจาย แมลงสีดำที่อยู่ภายในพุ่งออกไปเกาะบนตัวของบอส บอสชะงักไปเล็กน้อย มองดูแมลงด้วยสีหน้าเย้ยหยัน ก่อนจะหัวเราะลั่นด้วยความเยาะเย้ย

"คิดว่าเจ้าแมลงตัวน้อยนี่จะทำอะไรข้าได้หรือ?" เสียงของบอสดังก้อง พร้อมความโกรธในดวงตาที่ฉายชัดขึ้น ไอลีนเองก็ชะงักไปเล็กน้อย เหมือนจะเพิ่งตระหนักว่าเธออาจโดนหลอก

เอรอสได้แต่ยืนมองดูจากเงามืด ในใจรู้สึกสะใจกับการกระทำเล็กน้อย เธอหลงเชื่อในของที่เขามอบให้โดยไม่เอะใจเลยว่าเขาอาจมีแผนอะไรซ่อนอยู่ ขณะที่มันเข้าประชิดตัวไอลีนและเตรียมระดมโจมตี เธอยังพยายามจับปืนเอาไว้ ไม่หนีไปไหน แม้ร่างกายแทบไม่เหลือเรี่ยวแรงพอจะถือปืนอีกแล้วก็ตาม 

‘ความดื้อรั้นนี้มัน น่าหงุดหงิดจริงๆ… มีอะไรซ่อนอยู่ ก็รีบๆใช้ออกมาซ่ะที’ เอรอสพึมพำเบาๆ และมองดูเธอด้วยสายตาที่เยือกเย็นและคลุมเครือ เขายืนนิ่งอยู่ใต้เงาไม้ใหญ่ สายตาจ้องมองไปที่บอสซึ่งกำลังเข้าประชิดตัวไอลีนที่อ่อนล้า ท่ามกลางความมืดและความเงียบรอบข้าง ราวกับบรรยากาศกำลังสะสมแรงกดดันเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ปาฏิหาริย์ที่เขาคิดว่าเธอคงจะมีมันถึงได้มั่นใจว่าจะเข้าไปสู้กับไม่เกิดขึ้น จนในใจของเราเริ่มอึดอัดกับการกระทำของตัวเองขึ้นเรื่อยๆ เมื่อชายอ้วนใหญ่คนนั้นอยู่ห่างจากเธออีกแค่ไม่กี่ก้าว เขาจึงตัดสินใจทันที

ร่างกายของเขาก็เริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆ กล้ามเนื้อที่แขนและขาของเขาค่อยๆขยายขึ้น ผิวหนังของเขาเริ่มเข้มขึ้นจากโทนสีธรรมดากลายเป็นสีคล้ำเรื่อๆที่ดูแข็งแกร่ง ผมสีเทาเงินงอกยาวลงมาปกคลุมไหล่ แสงจันทร์สะท้อนให้เห็นประกายสีเงินจางๆ ในขณะที่ดวงตาของเขาค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงสด ราวกับเลือดที่ไหลริน ส่องประกายอยู่ในความมืด

เขายกมือขึ้นสัมผัสขวานสีทองที่ปรากฏขึ้นในมือ ราวกับอาวุธนี้ถูกเรียกขึ้นมาจากอากาศโดยไม่รู้ตัว ขวานนั้นใหญ่และหนัก แต่ดูเหมือนจะเบาหวิวในมือของเขา เอรอส หรือในตอนนี้คือเรย์นาร์คในร่างสมบูรณ์ของเขา ก้าวออกมาจากเงามืด พุ่งเข้าหาชายคนนั้นโดยไม่มีคำพูดใดๆ เสียงเท้าของเขาทำให้พื้นสั่นสะเทือน ขวานทองคำในมือสะบัดฟาดลงมาพร้อมความรุนแรงเหนือธรรมชาติ กระแทกเข้ากับไหล่ของชายอ้วนคนนั้นเต็มแรง เลือดกระเซ็นเป็นเส้นสีแดงกลางอากาศ เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของดังสะท้อน จนมันเซถอยไปหลายก้าวตามทิศทางที่เขาดึงขวานกลับไป ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและสับสน ไม่คาดคิดว่าจะมีการซุ่มโจมตีเกิดขึ้นมาอีก มันหันมาจ้องเขา ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธและความประหลาดใจผสมกัน เขากัดฟันแน่นและตวาดออกมา 

"แกมาทำอะไรนี้? ไหนสัญญาว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันไงว่ะ!!!"

ไอลีนที่ล้มอยู่กับพื้นชำเลืองมองเขา ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจระคนสงสัย เธอไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่พลังที่แผ่ออกมาทำให้เธอรู้สึกถึงความแข็งแกร่งและน่าเกรงขามอย่างน่าประหลาด ทว่าภายในดวงตาสีแดงของเขากลับแฝงไปด้วยความเย็นชา เธอสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่ทำให้รู้สึกทั้งปลอดภัยและอันตรายในเวลาเดียวกัน

เอรอสยกยิ้มเย้ยหยันที่มุมปากตามสัญชาตญาณของร่างนี้ ไม่ตอบคำถามโดยตรงๆ เพียงแต่จ้องมองมันด้วยสายตาเย็นชาและตอบด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ก็แค่เหม็นขี้หน้าแกเฉยๆ ยังไงก็ฟันไปแล้ว ถึอว่ามันโมฆะไปแล้วกัน”

บอสกัดฟันแน่น ความโกรธเดือดดาลในดวงตาเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ร่างของเขาสั่นเล็กน้อยด้วยแรงอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน ก่อนจะพุ่งเข้าหาเรย์นาร์คด้วยความโกรธและไม่ยอมแพ้ ขณะที่ไอลีนยังคงนอนมองเหตุการณ์อย่างงุนงง ใจเต้นแรงด้วยความกลัวและความหวังที่เริ่มจุดประกายในใจ

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status