หน้าหลัก / แฟนตาซี / พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน / ตอนที่ 38 เขตแดนแห่งการทำลายล้าง

แชร์

ตอนที่ 38 เขตแดนแห่งการทำลายล้าง

ผู้เขียน: Abyssgloom
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-14 16:24:04

เสียงหอบของเอรอสกลืนไปกับเสียงลั่นของหิน และ ฝุ่นที่ลอยคละคลุ้งในอากาศ เขายืนหยัดอยู่กลางพื้นที่ของอาคารที่ถูกทำลายจากการโจมตีของทั้งสองฝั่ง ผิวดินที่แตกออกเป็นริ้วรอย และ เศษหินเกลื่อนกลาดรอบตัวเป็นพยานถึงการโจมตีที่รุนแรง ขวานสีทองในมือยังคงส่องแสงท่ามกลางหมอกฝุ่นรอบตัว หัวใจของเขาเต้นกระหน่ำในอก แต่อย่างไรเขาก็ต้องยืนหยัดต่อไป ไม่ให้ศัตรูเบื้องหน้ามองเห็นความอ่อนแอ

มิโนทอร์ร่างยักษ์ตรงหน้า ผิวหนังสีคล้ำประหนึ่งแผ่นหิน ถูกปกคลุมด้วยชุดเกราะหนาทึบ เงามืดและพลังเวทย์สีเขียวหม่นแผ่กระจายออกจากร่างของมันอย่างน่ากลัว มันกวัดแกว่งขวานหินขนาดใหญ่ในมือเหมือนกับมันเป็นเพียงแค่ของเล่น ก่อนที่มันจะย่างสามขุมเข้ามาหาเอรอส ใบหน้าหนากร้าวคล้ายสัตว์ร้าย ดวงตาสีแดงเรืองวาวอย่างดุดัน คำรามต่ำในลำคอ ราวกับต้องการบดขยี้เขาให้กลายเป็นเศษซากใต้เท้าของมัน

ขวานหินนั้นฟาดลงมาอีกครั้ง พื้นดินระเบิดแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ ด้วยพลังดุจแผ่นดินไหว เอรอสรีบกระโดดถอยหลัง พลางปัดป้องอย่างฉิวเฉียด ก่อนจะตวัดขวานของเขาฟาดฟันใส่ขาของมัน แต่แสงสะท้อนของเกราะหินบนร่างมันทำให้คมขวานของเอรอสเบี่ยงไป ขวานทองกระแทกเข้ากับเกราะแข็งเสียงดังสนั่น เหมือนเอรอสกำลังพยายามเจาะแผ่นภูผาอันแกร่งกล้า

“แค่นี้เองเหรอ?”มันแสยะยิ้มเยาะเย้ย สายตาดูหมิ่นจับจ้องไปที่เอรอส ไม่แม้แต่จะถอยหลัง แต่กลับง้างขวานหินขึ้นอีกครั้ง เงามืดก่อตัวขึ้นรอบตัวของมัน มันส่งแรงระเบิดของพลังเวทย์ดินกระจายออกไปในรัศมี เสริมความแข็งแกร่งของเกราะบนตัวมัน จนดูราวกับว่าทุกครั้งที่ฟาดฟัน มันยิ่งแน่นและแข็งยิ่งกว่าเดิม

เอรอสรู้สึกถึงความรุนแรงของแรงกดดันรอบตัว ทุกครั้งที่มิโนทอร์โจมตี มันเป็นเหมือนฝันร้ายที่เขายิ่งต้องฝ่าฟันขวานของเขาด้วยความระมัดระวังมากขึ้น พลางขบกรามเพื่อสู้กับความเหนื่อยล้า ในใจของเขามีแต่เสียงหนึ่งที่ดังก้องว่าเขาต้องหลีกเลี่ยงการใช้มานา แต่ทุกครั้งที่เขามองไปยังไอลีนที่นอนบาดเจ็บอยู่ใกล้ๆ เขาก็เริ่มรู้ว่าตัวเองคงไม่อาจหลีกเลี่ยงมันไปได้อีกนานนัก

เสียงคำรามของมิโนทอร์ดังก้องกังวาน ขณะที่มันโถมเข้าหาเอรอสด้วยความรุนแรง ฝุ่นตลบคลุ้งจากพื้นดินที่มันเหยียบจนแตกเป็นริ้วรอย ทุกก้าวย่างของมันเต็มไปด้วยอำนาจและแรงกดดันที่มากขึ้นทุกขณะ มันสะบัดขวานหินขนาดยักษ์ลงมาอีกครั้ง เฉียดหน้าเอรอสไปเพียงนิดเดียว เศษหินจากแรงกระแทกพุ่งใส่ตัวเขาอย่างแรงจนรู้สึกเจ็บแปลบ

เอรอสสะบัดขวานทองของเขาขึ้น ฟาดฟันทุกการโจมตีที่มุ่งตรงมา เสียงเหล็กและหินปะทะกันดังก้อง ฝุ่นคลุ้งรอบตัวแทบทำให้ทัศนวิสัยเลือนราง แต่เขาก็ยังคงยืนหยัด ท่ามกลางหมอกฝุ่นที่ปกคลุมพื้นที่อย่างหนักหน่วง ทุกครั้งที่ขวานของเขาปะทะกับเกราะหินหนาของมิโนทอร์ รอยร้าวเพียงเล็กน้อยก็ดูเหมือนจะไม่ทำอะไรมันได้เลย

มันยกขวานขึ้นสูงอีกครั้งก่อนจะพุ่งลงมาอย่างดุดัน ความแรงจากขวานทำให้พื้นรอบข้างสั่นสะเทือน เอรอสต้องขยับตัวหลบอย่างรวดเร็ว พลิกขวานในมือสวนขึ้นไป หวังจะโจมตีจุดอ่อนในเกราะของมัน แต่ขวานทองของเขากระทบกับขาเกราะหินหนาจนสะท้าน เศษหินกระเด็นออกมาเพียงเล็กน้อยก่อนที่มันจะหันมาทำหน้าตาระรื่นเย้ยหยันใส่เขา

เอรอสกัดฟันแน่น มือทั้งสองกำขวานของเขาแน่นขึ้น พยายามจะรักษาจังหวะการต่อสู้ให้มั่นคง แม้ว่าพละกำลังของมันจะเหนือกว่ามาก ทุกครั้งที่มันฟาดขวานใส่ เขาต้องใช้พลังทั้งหมดเพื่อหลบ และ สวนกลับด้วยความรวดเร็ว แต่ดูเหมือนมันจะไม่รู้จักคำว่าเหนื่อยล้า ขณะที่ตัวเขากลับเริ่มหอบหนัก จังหวะการโจมตีของมันไม่มีท่าทีว่าจะช้าลงแม้แต่น้อย

มันกระโจนเข้ามาอีกครั้ง ขวานหินฟาดลงอย่างไร้ความปราณี เอรอสกระโดดหลบขึ้นเหนือไปเพียงนิด ก่อนจะลงมาสวนด้วยการเหวี่ยงขวานใส่ไหล่มันเต็มแรง เศษเกราะกระเด็นออกมาบ้าง แต่ก็ไม่ได้สร้างความเสียหายมากพอให้มันลดความดุดันลง

มันคำรามออกมาอย่างเดือดดาล ขณะย่อตัวลงเตรียมพร้อมอีกครั้ง ราวกับสัตว์ร้ายที่ถูกยั่วโทสะจนถึงขีดสุด ขวานหินในมือมันเต็มไปด้วยพลังเวทย์สีเขียวที่แผ่พลังร้ายกาจออกมา มันพุ่งเข้าหาเอรอสอีกครั้ง ด้วยความเร็วที่น่าทึ่งกว่าครั้งก่อน เอรอสพยายามสวนกลับ แต่พละกำลังของเขาเริ่มถดถอย มันฟาดขวานหินใส่จนเขากระเด็นถอยหลังไปไกล

ในจังหวะที่เขาต้องถอยอย่างเสียเปรียบ มันแสยะยิ้มกว้าง ก่อนจะเบนสายตามองไปทางไอลีนที่นอนบาดเจ็บอยู่ข้างหลัง มันย่างเท้าตรงไปหาเธอ ยื่นมือหยาบกร้านเหมือนเกราะหินจะคว้าเธอด้วยท่าทีที่อำมหิต ไอลีนพยายามจะขยับตัวหนี แต่แรงกายที่มีเหลือน้อยนิดไม่อาจให้เธอขัดขืนได้

“ออกไปให้้ห่างน่ะเว้ย…!” เอรอสตะโกนถลั่น ดวงตาสีแดงฉายแววตึงเครียด

แม้เขาจะลังเลเพราะรู้ดีว่าหากเริ่มใช้มานา เขาจะต้องเผชิญหน้ากับเจ้าของร่างนี้ที่เข้ามาครอบงำ แต่ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เขากำขวานทองในมือแน่น หลับตาลงชั่วครู่เพื่อดึงเอาพลังจากส่วนลึกขึ้นมา ก่อนจะรู้สึกถึงกระแสไหลเวียนของมานาที่แผ่ซ่านเข้าสู่ร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว แสงสว่างสีแดงเข้มจางๆ ปรากฏรอบตัวเขา ราวกับมีคลื่นพลังงานไร้ตัวตนค่อยๆแผ่ขยายออกไปโดยรอบ

เมื่อเขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง ความมุ่งมั่นแน่วแน่ฉายชัดในดวงตาสีแดงฉานเหมือนเลือด เขาระเบิดพลังมานาเสริมเข้าไปในขวานทองที่เริ่มส่องประกายเข้มข้นขึ้น กระโจนพุ่งตัวเข้าใส่มิโนทอร์อย่างไร้ความลังเล ฟาดขวานใส่สีข้างของมันเต็มแรง พลังมหาศาลจากขวานทำให้มันเซไปด้านข้าง เสียงเกราะแตกร้าวดังสนั่น เศษหินกระจายออกจากร่างของมัน

มิโนทอร์คำรามด้วยความเจ็บปวด พยายามจะพุ่งเข้ามาคว้าไอลีนอีกครั้ง แต่คราวนี้เอรอสยืนขวางหน้ามันไว้อย่างแน่วแน่ เขาสูดลมหายใจลึก ก่อนจะเหวี่ยงขวานทองกระแทกเข้ากับร่างของมันจนมันกระเด็นถอยออกไป เสียงคำรามของมันดังสะท้านไปทั่ว ก่อนที่มันจะเสียหลักล้มลงกับพื้น

เอรอสยืนนิ่งอยู่ชั่วครู่ มองตรงไปยังมิโนทอร์ที่กำลังค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างช้าๆ เขารู้ดีว่าพลังที่มีอยู่ในตอนนี้ไม่เพียงพอที่จะต่อกรกับมันในระยะยาว ความเหนื่อยล้าเริ่มกัดกินทุกอณูในร่างกาย แต่เขาก็ต้องตัดสินใจให้แน่วแน่ เขาหลับตาลง สัมผัสถึงความเย็นเยือกที่ค่อยๆคลืบคลานขึ้นมาจากภายในจิตใจ มันเป็นพลังที่เขาปฏิเสธมาโดยตลอด “เขตแดน”ที่แสดงถึงรูปลักษณ์ของเจตจำนงของเจ้าของร่างที่เขาใช้ มันมีพลัง และ อำนาจมากพอที่จะทำลายสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้สิ้นซาก หากถูกตัดสินว่าเป็นความชั่วร้าย แต่หากเขาเปิดใช้ เขาจะต้องเสี่ยงต่อการถูกควบคุมโดยเจ้าของร่างทันทีที่พลังหมดลง

“บ้าเอ๊ย…” เขาพึมพำกับตัวเอง เสียงกระซิบของความลังเลพยายามรั้งเขาไว้ แต่ความรุนแรงของสถานการณ์และอาการบาดเจ็บของไอลีนทำให้เขาฝืนใจใช้พลังนั้นออกมา ดวงตาของเขาหรี่ลง ก่อนจะเปล่งประกายสีแดงเข้มขึ้นมาอีกครั้ง เงยหน้าขึ้นสูดลมหายใจลึก และ เปล่งพลังอันลึกล้ำออกมาจากใจกลางจิตวิญญาณ

ทันใดนั้นเอง ลมรอบตัวเอรอสเริ่มไหลวน บิดเบี้ยวราวกับโลกทั้งใบกำลังตอบสนองต่อเจตจำนงของเขา พลังมานาเริ่มไหลเวียนออกจากร่างอย่างรุนแรง และ ไม่เป็นระเบียบ คล้ายกับมีหลายสิ่งที่เขายังขาดหายไปสำหรับการสร้างเขตแดนนี้ได้อย่างสมบูรณ์ แต่ถึงอย่างนั้น เอรอสก็กัดฟัน ใช้ทุกพลังที่มีเปิดเขตแดนออกมาโดยไม่ย่อท้อ

พื้นดินรอบตัวเขาสั่นไหว ผืนฟ้าสีครามแปรเปลี่ยนกลายเป็นสีหม่นเข้ม ดวงจันทร์ที่เคยส่องแสงสลัวเริ่มถูกบดบังด้วยเงามืด ขณะที่พลังอันลึกลับกำลังก่อตัวขึ้น ไอลีนที่นอนอยู่มองภาพนี้ด้วยดวงตาเบิกกว้าง ความรู้สึกหนาวเยือกค่อย ๆ แทรกซึมเข้าในหัวใจของเธอ ราวกับมีอำนาจที่ไม่อาจหาคำมาอธิบายกำลังปลุกปั้นตนขึ้นจากอากาศรอบๆตัวเขา

จู่ๆ จากท่ามกลางความมืดที่ครอบคลุมพื้นที่โดยรอบ แขนขนาดมหึมาสีฟ้าเรืองรองปรากฏขึ้นอย่างเงียบเชียบ ความใหญ่โต และ ทรงพลังของมันราวกับจะบดขยี้ทุกสิ่ง ข้อมือหนาแน่นไปด้วยเส้นเลือดที่ปูดโปน ผิวเนื้อเข้มแข็งราวกับหินก่ำสลักลาย นิ้วมือทั้งห้าเรียวยาวแต่ทว่าเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อบีบแน่นราวกับกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการทำลายล้าง มันจับขวานยักษ์ใหญ่สีทองขนาดใหญ่ด้วยมือข้างเดียว แผ่ออร่าดุจโลหะหลอมเหลว ที่แฝงไปด้วยมานามหาศาลที่เข้มข้น ราวกับจะทำให้ผู้ที่ได้เห็นต้องหวาดหวั่นจนไม่อาจต้านทานได้

ไอลีนมองเห็นเพียงเงาของ “แขน” ขนาดมหึมานั้น แต่เพียงแค่เงาก็ทำให้เธอขนลุกซู่ ความเกรี้ยวกราดและเจตจำนงอันดุดันที่สิงอยู่ในพลังนั้นเหมือนมีชีวิตเป็นของตัวเอง เจตนาร้ายอันเยียบเย็นทะลักออกมาจากเขตแดนลึกลับของเอรอส ราวกับว่ามันต้องการทำลายล้างทุกสิ่งตรงหน้าให้สิ้นซาก

“นั่นมัน…อะไรกัน?” ไอลีนพึมพำออกมาแผ่วเบา ดวงตาเบิกกว้าง ร่างกายของเธอสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว ปนเปด้วยความทึ่งที่เธอไม่อาจอธิบายได้ ภาพตรงหน้าน่ากลัวและน่าประทับใจไปพร้อมๆกัน แต่พลังที่ฝืนสร้างขึ้นนี้กลับทำให้เธออดคิดไม่ได้ว่าชายตรงหน้านั้นน่ากลัว และ อันตรายมากแค่ไหน

แขนขนาดมหึมาค่อยๆ ยกขวานขึ้นเหนือศีรษะเอรอส ราวกับกำลังสะสมพลังเพื่อสยบมิโนทอร์และทุกสิ่งรอบตัวในชั่วพริบตา ไอลีนไม่อาจละสายตาจากภาพนี้ได้ แม้หัวใจของเธอจะเต้นระรัวด้วยความรู้สึกที่เธอไม่คุ้นเคย แท้จริงแล้ว…เขาเป็นใครกันแน่?

บทที่เกี่ยวข้อง

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 39 การครอบงำ

    ออร่าสีทองค่อยๆปกคลุมร่างไอลีน ราวกับกระแสธารแห่งชีวิตที่ค่อยๆไหลซึมเข้าสู่ร่างของเธอ เสียงหายใจที่แผ่วเบากลับมาสม่ำเสมออีกครั้ง ร่องรอยบาดแผลและความอ่อนล้าที่เกาะกินค่อยๆถูกชะล้างออกจากตัวของเธอ ผิวของไอลีนเปล่งประกายดูมีชีวิตชีวาขึ้นราวกับเธอฟื้นคืนพลังที่สูญเสียไปเอรอสที่ยืนอยู่ไม่ห่างนัก จ้องมองภาพนั้นด้วยความสับสน "นั้นมันอะไรกัน?" พลังแห่งการฟื้นฟูนี้ไม่เคยปรากฏกับเจ้าของร่างเดิมมาก่อน เขาครุ่นคิด ไม่เห็นจำได้เลยว่าเจ้าของร่างนี้จะมีพลังแบบนี้ แม้นี้จะเป็นครั้งที่สองที่เขาเขาใช้ แต่ก็มั่นใจว่าสิ่งนั้นมันเป็นผลจากเขตแดนแห่งเจตจำนงนี้แน่นอน ไม่ผิดเป็นอย่างอื่นในขณะเดียวกัน มิโนทอร์ที่เผชิญหน้ากับแขนขนาดมหึมาสีฟ้าที่ปรากฏขึ้นเหนือร่างเอรอส รู้สึกถึงแรงกดดันจากพลังทำลายล้างมหาศาลของสิ่งนั้น ความใหญ่โตของมันราวกับภูเขาที่ทาบทับเหนือหัว เส้นเลือดปูดโปนล้อมรอบแขนขนาดมหึมานั้นราวกับรากไม้เก่าแก่นั้น พลังที่แฝงอยู่ในมือขนาดมหึมานั้น กระจายออกมาทุกทิศทาง โลหะสีทองที่อยู่ในมือ เปล่งประกายราวกับถูกหลอมขึ้นมาใหม่ด้วยพลังอันเข้มข้น ขณะที่มันเงื้อขึ้นสูงเหนือร่างของมิโนทอร์ กระแสพลังอันน่าเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-14
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 40 รอยจางรอบคอ

    กลางคืนเงียบงันจนน่าขนลุก เงามืดจากซากอาคารที่พังทลายทอดยาวไปทุกทิศทาง ไอลีนพยายามกลั้นหายใจในขณะที่ลากเอรอสเข้าไปในมุมอับใต้คานไม้ที่ทรุดตัวลง เศษซากกำแพงที่แตกกระจายมีร่องรอยการปะทะอย่างรุนแรง บางส่วนยังเปื้อนเขม่าดำและกลิ่นไหม้อ่อนๆ ที่ลอยวนอยู่ในอากาศพื้นดินใต้เท้าเย็นชื้น ราวกับสะท้อนความหนาวเหน็บที่กัดกร่อนหัวใจของเธอ เธอพยายามหาที่กำบังที่ปลอดภัยที่สุดในบริเวณนั้น มือทั้งสองข้างที่จับแขนของเอรอสสั่นเทาด้วยแรงจากทั้งความเหนื่อยล้าและความหวาดกลัว“พวกเราเข้ามาหลบ... ตรงนี้ก่อน” ไอลีนกระซิบ ขณะที่พวกเขาแทรกตัวเข้าไปใต้กองเศษซากไม้เอรอสไม่ได้ตอบ เขานั่งนิ่งเหมือนตกอยู่ในภวังค์ ใบหน้าเรียบเฉย แต่ลมหายใจหนักหน่วงผิดปกติ และดวงตาสีแดงเรืองรองในความมืดนั้น กำลังสะท้อนถึงบางสิ่งที่ไม่ปกติ“เงียบไว้...” เธอกระซิบเสียงเบา ลมหายใจของเธอเร่งรัวจนแทบจะควบคุมไม่ได้ดวงตาสีฟ้าของเธอจับจ้องไปยังรอยแตกเล็กๆในกำแพงที่เปิดออกสู่ด้านนอก ช่องเล็กพอที่จะมองเห็นเงาของกลุ่มคนที่กำลังเคลื่อนที่เข้ามาใกล้ เสียงฝีเท้าหนักๆ บนเศษหินดังก้องในความเงียบ“พวกเขามาแล้ว” ไอลีนกระซิบแผ่ว ดวงตาเบิกกว้างเสียงสนท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-17
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 41 ปลายทางของเหรียญทอง

    บรรยากาศในห้องทำงานของผู้อำนวยการบ้านเด็กกำพร้าช่างอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก กลิ่นอับของเอกสารเก่าผสมกับกลิ่นบุหรี่จางๆ โอบล้อมพื้นที่เล็กๆ ที่เต็มไปด้วยกองเอกสารและบัญชีการเงิน ผู้อำนวยการนั่งหลังตรงอยู่บนเก้าอี้หนังเก่าซึ่งดูเหมือนพร้อมจะพังได้ทุกเมื่อ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาชวนให้รู้สึกระแวงมากกว่าสบายใจ"คุณเอรอสใช่ไหม? ฉันได้รับการแจ้งมาว่าคุณต้องการบริจาคเงินให้เหล่าเด็กๆที่คุณหนูไอลีนพามา" เสียงของเขาเนิบนาบ ท่าทางเหมือนพยายามจับจุดอีกฝ่ายเอรอสนั่งนิ่งอยู่ตรงข้าม เขาสูงโปร่งสำหรับเด็กหนุ่มวัย 16 ปี สายตาสีเทาของเขาเย็นชาและไม่เปิดเผยความรู้สึกใดๆ“ใช่ ผมมาที่นี่ บริจาคเงิน ให้เด็กๆที่เพิ่งเข้ามา" เขาเอ่ยเสียงเรียบผู้อำนวยการชะงักเล็กน้อย ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจ"อืม น่าชื่นชมจริงๆนะครับ แต่การรับผิดชอบเงินจำนวนมากขนาดนี้คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เธอมาจากครอบครัวไหนหรือ ถึงได้ใจกว้างขนาดนี้?"คำถามนั้นเหมือนมีความนัย แต่เอรอสไม่แสดงอาการใดๆ เขาเพียงหยิบถุงเงินออกมาจากกระเป๋าแล้ววางมันลงบนโต๊ะ เสียงเหรียญกระทบกันดังชัดเจน"ไม่จำเป็นต้องถาม" เขาตอบสั้นๆน้ำเสียงราบเรียบ แต่หนักแน่น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-18
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 42 จุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลง

    เมื่อเอรอสเฝ้ามองไอลีนอยู่นาน สีหน้าเย็นชาของเขาเริ่มแสดงความไม่พอใจออกมาเล็กน้อย เขาขมวดคิ้วก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงห้วนๆ"ถ้าไม่มีธุระอะไรก็ช่วยหลบไปหน่อย"เขาเบี่ยงตัวไปด้านข้าง เตรียมเดินผ่าน แต่ก่อนที่เขาจะก้าวออกไป ไอลีนก็ยื่นมือออกมาคว้าข้อมือเขาไว้ ดวงตาของเธอที่เคยลังเลกลับแน่วแน่ขึ้น"ฉันมีเรื่องต้องคุยกับคุณเป็นการส่วนตัว" ไอลีนพูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามเก็บความกังวลเอรอสหยุดชะงัก แววตาของเขาเปลี่ยนเป็นไม่พอใจชัดเจนยิ่งขึ้น เขาหันไปมองรอบๆ เห็นสายตาของเด็กบางคนที่อาจกำลังแอบมองอยู่จากหน้าต่าง และหญิงชราที่ครัวกำลังหันมามองเช่นกันหลังจากที่ประเมินสถานการณ์ เขาเลื่อนสายตาไปยังมุมโล่งใต้ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลนัก"ตามมา" เขาเอ่ยสั้นๆก่อนจะดึงมือออกจากการเกาะกุมของเธอ และเดินนำไปยังที่ที่เขาเลือกไว้ไอลีนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเดินตามเขาไป ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ สายลมอ่อนๆพัดผ่านเบาๆ ท่ามกลางความเงียบที่อึดอัด ทั้งสองยืนประจันหน้ากัน เอรอสกอดอกและเอนตัวพิงต้นไม้ สายตาของเขาจ้องมองเธออย่างเย็นชา"พูดมา จะพูดอะไรก็รีบพูด" เขาเร่งด้วยน้ำเสียงที่ราวกับไม่สนใจ แต่ก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-20
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 43 ผู้รับรอง

    เสียงกระซิบแห่งเวทมนตร์ แผ่วเบา แต่ทรงพลัง ดังก้องอยู่ในอากาศอันเย็นเยียบ ริบบิ้นสีดำ ที่ราวกับเงาแห่งความมืดจากอีกโลกหนึ่ง ปรากฏตัวขึ้นจากความว่างเปล่า มันเคลื่อนไหวดั่งมีชีวิต เลื้อยวนรอบร่างของ เอรอส ซ้อนชั้นขึ้นเรื่อยๆ ราวกับงูพิษที่กำลังจู่โจมเหยื่อ ความแน่นหนาของริบบิ้นทำให้แม้แต่ลมหายใจยังรู้สึกตึงเครียด แขนขาถูกตรึงแน่น ริบบิ้นเลื้อยขึ้นสูง ปิดริมฝีปาก และบดบังดวงตาของเขาไว้อย่างมิดชิด ไม่ว่าจะดิ้นรนหรือใช้พลังทั้งหมดที่มี พันธนาการเหล่านั้นยังคงรัดแน่น น้ำหนักของเวทมนตร์ที่โอบล้อมร่างเขาเหมือนโซ่ตรวนหนักอึ้งที่ไม่มีวันปลดได้จอมเวทย์ผู้ร่ายมนตรามองดูภาพตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา รอยยิ้มที่มุมปากของเขา แฝงความพอใจอย่างปิดไม่มิด ในขณะที่อีกคนหนึ่งในกลุ่มของเขาเดินเข้ามาใกล้ กระชากคอเสื้อของเอรอสอย่างรุนแรง พร้อมๆกับลากเขาไปกับพื้น ราวกับเป็นเพียงสิ่งของไร้ค่าไม่ไกลออกไป ไอลีน ยืนตัวแข็งทื่อ ดวงตาเบิกกว้างขณะมองสิ่งที่เกิดขึ้น เธอไม่สามารถปล่อยให้เรื่องนี้ดำเนินต่อไปได้ ก่อนที่วิ่งตรงไปข้างหน้าด้วยความแน่วแน่ แล้วตะโกนเสียงดังลั่น"หยุดเดี๋ยวนี้! คุณตั้งใจจะพาเขาไปที่ไหน?"น้ำเสียง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-23
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 44 เรียนรู้

    เอรอสค่อยๆตื่นขึ้นในห้องประชุมท่ามกลางความมืดมิดที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณ มีเพียงแสงริบหรี่ที่ส่องลอดเข้ามาจากขอบประตู ร่องรอยของเวทมนตร์เก่าก่อนยังคงอบอวลอยู่ในอากาศจางๆ แม้แสงจากเทียนเวทมนตร์ที่เคยให้ความสว่างจะดับไปจากการตัดการเชื่อมต่อกับเวทมนตร์ทำให้บรรยากาศในห้องเย็นยะเยือกและว่างเปล่า แต่กลิ่นอายของพลังที่เหลืออยู่ยังคงสร้างแรงกดดันให้ผู้ที่อยู่ภายในเล็กน้อยเขาขยับตัวกึ่งลุกกึ่งนั่งจากเก้าอี้ที่ดูเหมือนจะทำให้เขาหลับไปลึกเกินคาด โต๊ะยาวตรงหน้าเขามีแฟ้มเอกสารเล็กๆวางไว้อยู่ ดูเหมือนจะเป็นเอกสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องที่เขาจะรับปากจะจัดการให้เขาหยิบแฟ้มเอกสารที่วางไว้บนโต๊ะมาตรวจสอบ ใช้มือสีคล้ำที่มีกล้ามเนื้อชัดเจนลูบเส้นผมสีเทาของตัวเองเบาๆ เพื่อเรียกความกระปรี้กระเปร่า สายตาสีแดงฉานของเขากวาดมองไปทั่วห้องเล็กๆที่ยังคงอบอวลด้วยบรรากาศที่ชวนให้รู้สึกพิศวง พลางเหลือบมองเวลาที่บอกเขาว่านี้เป็นเวลาตี 1 ดูเหมือนเขาจะเผลอหลับไปแค่ชั่วโมงเดียว ยังดีที่เสียเวลาแค่นั้นหลังจากตรวจดูเอกสารครู่หนึ่งโดยที่ไม่มีใจความสำคัญอะไรที่ทำให้เขาต้องรีบร้อนเป็นพิเศษ เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้ และก้าวออกจาก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-29
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 45 หัวใจที่ไม่อาจไขว่คว้า

    คาร์ลีนเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ ผ่อนลมหายใจยาว เส้นผมดำขลับทิ้งตัวแนบกับไหล่ราวเงามืดที่เกาะกุมตัวเธอ ผิวขาวซีดราวหินอ่อนสะท้อนแสงอ่อนจากโคมไฟบนโต๊ะ ขับเน้นชุดยาวสีดำที่พลิ้วไหวดุจเงามืดในสถานที่แห่งนี้ในดันเจี้ยนที่ผสานเขากับเขตแดนของเธอ ทุกสิ่งล้วนเชื่อมโยงกับเธอ ความสัมพันธ์ลึกลับนี้ ทำให้คาร์ลีนรับรู้ถึงทุกการเคลื่อนไหวของเขา ไม่ว่าเขาจะอยู่จุดใดในสถานที่แห่งนี้ เธอก็สามารถสัมผัสถึงตัวตนของเขาได้เสมอเรย์นาร์ค—หรือเอรอสในร่างของชายที่มีฉายาว่า จอมเชือด เรื่องราวที่ซับซ้อนเกี่ยวกับตัวตนและพลังของเขานั้นเป็นสิ่งที่เธอรับรู้มาเนิ่นนาน แต่สิ่งที่เธอปรารถนากลับไม่ใช่การค้นพบด้วยตัวเอง หากแต่เป็นการได้ยินคำตอบจากปากของเขาโดยตรงเธอเฝ้ารอให้เขาเปิดเผยความลับนี้กับเธอ แม้เวลาจะผ่านไปเนิ่นนาน แต่เขาก็ยังเลือกที่จะเก็บมันไว้ ไม่มีท่าทีที่จะบอกเธอ ราวกับคำพูดนั้นหนักเกินกว่าจะเปล่งออกมาดวงตาสีม่วงเข้มของเธอสะท้อนแสงจากโคมไฟ เธอนั่งนิ่งราวกับขบคิด แต่ในความเป็นจริง เธอกำลังต่อสู้กับความรู้สึกในใจ ความหนักใจเหมือนสายลมหนาวที่แผ่วผ่านกลับถูกเติมเต็มด้วยความหวังอันเปราะบาง เธออยากให้เขามาหา อยากได

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-30
  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 46 ทายาทแห่งดาบ

    คลินิกของโจชัว ตั้งอยู่ในเขตสามัญชน ตัวอาคารหินสีซีดดูเรียบง่ายแฝงความล้าสมัย ท่ามกลางความเงียบสงัดของยามดึก หน้าต่างกระจกสีชั้นล่างสะท้อนแสงไฟริบหรี่จากเสาไฟถนนที่อยู่ห่างออกไป ลวดลายบนกระจกดูเหมือนจะพร่ามัวในแสงสลัว คลินิกนี้ไม่ได้ใหญ่โตเหมือนโรงพยาบาล แต่เพียงพอสำหรับรองรับผู้ป่วยประมาณสิบคน เหมาะสำหรับการดูแลแบบส่วนตัวยามตีสี่ ลมหนาวพัดโชยไปทั่วบริเวณ ความเงียบรอบตัวแทบจะทำให้ได้ยินเสียงใบไม้ร่วงกระทบพื้น เอรอสยืนพิงกำแพงใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ตรงข้ามคลินิก แม้ลมหนาวจะพัดแรง แต่ร่างกายของเอรอสกลับไร้ซึ่งปฏิกิริยาต่อความเย็น ราวกับความหนาวนั้นไม่อาจแตะต้องเขาได้ ดวงตาสีแดงจับจ้องไปยังหน้าต่างชั้นสองที่ปิดสนิท นั่นเป็นห้องทำงานของโจชัว ซึ่งเขาใช้สำหรับจัดการเอกสารในช่วงกลางวัน แต่ในยามนี้ ไม่มีแสงไฟส่องลอดออกมา“ไม่ใช่เวลามาลังเลแล้ว ตัดสินใจไปแล้วนี่…” เขาพึมพำเสียงเบา ความเงียบรอบตัวทำให้เสียงนั้นแทบชัดเจนในสายลม เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและไร้สุ้มเสียง กระโดดขึ้นเกาะขอบหน้าต่างชั้นสอง เสียงลมแผ่วเบาและใบไม้ไหวกลบการเคลื่อนไหวของเขา ดวงตาสีแดงสังเกตการณ์ในห้องอีกครั้งเพื่อยืนยันว่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-01

บทล่าสุด

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 49 หน้ากากแห่งคำลวง

    เอเลน่านั่งอยู่บนเตียง จ้องมองอาร์วินที่ยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ใกล้ๆ กับเตียง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าและเศร้าสร้อย ดวงตาสีเทาที่มองมาทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกดึงเข้าสู่ความลึกที่อธิบายไม่ได้ มีบางสิ่งในแววตานั้นที่ทำให้หัวใจเธอสั่นไหว แต่เธออ่านมันไม่ออกบรรยากาศรอบตัวเงียบสงัด เสียงลมเบาๆ จากหน้าต่างที่เปิดแง้มอยู่ดังก้องในห้องที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด เธอสัมผัสได้ถึงความเย็นของผ้าปูที่นอนใต้ฝ่ามือ พยายามดึงสติกลับมา แต่ก็ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น เหมือนถูกตรึงด้วยแรงบางอย่างที่มองไม่เห็นอาร์วินเงยหน้าขึ้นมองเธอ ท่าทางของเขาดูเหมือนกำลังรวบรวมความกล้าอย่างยากลำบาก ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา"เอเลน่า... ฉันไม่แน่ใจว่าควรเริ่มจากตรงไหน แต่ฉันจะพยายามเล่าให้เธอฟัง"เสียงของเขานุ่มลึก แต่สั่นเครือเล็กน้อย เธอรู้ว่าเขากำลังแบกรับอะไรบางอย่างที่หนักหนา ทว่าในใจของเธอเองก็เต็มไปด้วยคำถามที่ไม่รู้จบ เอเลน่านิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนพยักหน้าเบาๆ เป็นเชิงให้เขาพูดต่อ แม้ในใจจะปั่นป่วนจนแทบระเบิดอาร์วินถอนหายใจยาว เสียงนั้นเหมือนลมหายใจที่พยายามปลดปล่อยความกดดันบางอย่าง"ตอนที่ฉันถูกจับอยู่ในคุก... ฉ

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 48 ชื่อที่ไม่ควรถูกเอ่ย

    แสงแดดอ่อนในยามสายลอดผ่านช่องว่างของผ้าม่านสีขาว ลำแสงบางตกกระทบบนเตียงนุ่ม ส่งไออุ่นที่สัมผัสได้ เอเลน่าค่อยๆลืมตาขึ้น เสียงนกร้องจากต้นไม้ไกลๆ กลืนไปกับบรรยากาศเงียบสงบในห้อง เธอพลิกตัวอย่างเกียจคร้าน ความอบอุ่นของผ้าห่มราวกับกักเก็บเธอไว้ในห้วงความฝันที่ไม่อยากตื่นจากมันเธอค่อยๆยืดเส้นยืดสายด้วยท่าทีผ่อนคลาย แต่จู่ๆหัวใจก็เต้นผิดจังหวะ เมื่อสายตาเธอกวาดมองไปรอบห้องและสะดุดเข้ากับร่างของใครบางคนที่นั่งอยู่ข้างเตียงชายหนุ่มนั่งหลับพิงเก้าอี้อยู่ ใบหน้าสงบนิ่งในเงามืด เส้นผมสีทองของเขาดูอ่อนโยนขึ้นเมื่อต้องแสงที่ลอดเข้ามา เอเลน่าจ้องมองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา ช่วงเวลานี้เผยให้เห็นอีกด้านของเขา—ความเปราะบางที่ซ่อนอยู่ภายใต้ท่าทีเหมือนจะซ่อนเร้นก่อนหน้า ทำให้เธอโล่งใจเล็กน้อย ดวงตาของเธอสบเข้ากับใบหน้าอ่อนล้าของเขา ความรู้สึกปะปนกันระหว่างความสับสนและความอบอุ่นไหลเวียนในอก“อาร์วิน...” เธอเรียกชื่อเขาเบาๆเหมือนจะยืนยันว่าเขาอยู่ตรงนี้จริงๆ ก่อนที่แก้มของเธอจะร้อนวูบวาบเมื่อเหลือบมองตัวเองที่นอนอยู่บนเตียง ซึ่งเธอรู้ดีว่ามันไม่ใช่เตียงของเธอ แต่เป็นของเขา“ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่?” เสียงข

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 47 ในความสงบของรุ่งสาง

    เอรอสก้าวออกจากป่าทึบในรูปลักษณ์ของอาร์วิน สายลมเย็นยามค่ำคืนพัดผ่านตัวเขาอย่างแผ่วเบา แสงจันทร์ยังคงสลัวทำให้เห็นเงาของคฤหาสน์ตระกูลวัลธอเรนลางๆ อยู่ไม่ไกล จุดที่เขามุ่งหน้าไปคือบริเวณใต้หน้าต่างห้องพักของเขาเองก่อนหน้านี้ ในจุดลึกที่สุดของป่า เขาได้ซ่อนสิ่งของเอาไว้ใต้รากไม้เก่าแก่ บริเวณนั้นมีการวางอาคมพิเศษที่เรียนรู้จากชายคนหนึ่งที่เขาเคยช่วยไว้เมื่อหลายปีก่อนชายแปลกหน้าที่เอรอสช่วยเหลือไว้ปรากฏตัวในชุดยาวสีฟ้าอมเทา ตกแต่งด้วยลวดลายเมฆและคลื่นน้ำปักด้วยด้ายเงิน เสื้อตัวนั้นพาดสาบทับกันอย่างประณีต แขนเสื้อกว้างและชายผ้าปล่อยยาวราวกับหยิบยกมาจากยุคโบราณ ชายคนนี้ดูเหมือนนักเดินทางที่หลงยุค เขาอ้างว่ากำลังเดินทางรอบโลกแต่กลับถูกปล้นระหว่างทาง สูญเสียเงินทองและข้าวของมีค่าทั้งหมด แม้เอรอสจะช่วยจับตัวคนร้ายไว้ได้ แต่เนื่องจากสิ่งของที่ถูกขโมยมามีเยอะ ทำให้ขั้นตอนการตรวจสอบและคืนทรัพย์สินยังคงใช้เวลาหลายวันแทนการตอบแทนด้วยทรัพย์สินที่เขาไม่มี ชายคนนั้นกลับยื่นหนังสือเก่าแก่เล่มหนึ่งที่ไม่ได้ถูกขโมยมาให้ หนังสือเล่มนี้เต็มไปด้วยตัวอักษรและภาพสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความเป็นศาสตร์โบราณ ซึ

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 46 ทายาทแห่งดาบ

    คลินิกของโจชัว ตั้งอยู่ในเขตสามัญชน ตัวอาคารหินสีซีดดูเรียบง่ายแฝงความล้าสมัย ท่ามกลางความเงียบสงัดของยามดึก หน้าต่างกระจกสีชั้นล่างสะท้อนแสงไฟริบหรี่จากเสาไฟถนนที่อยู่ห่างออกไป ลวดลายบนกระจกดูเหมือนจะพร่ามัวในแสงสลัว คลินิกนี้ไม่ได้ใหญ่โตเหมือนโรงพยาบาล แต่เพียงพอสำหรับรองรับผู้ป่วยประมาณสิบคน เหมาะสำหรับการดูแลแบบส่วนตัวยามตีสี่ ลมหนาวพัดโชยไปทั่วบริเวณ ความเงียบรอบตัวแทบจะทำให้ได้ยินเสียงใบไม้ร่วงกระทบพื้น เอรอสยืนพิงกำแพงใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ตรงข้ามคลินิก แม้ลมหนาวจะพัดแรง แต่ร่างกายของเอรอสกลับไร้ซึ่งปฏิกิริยาต่อความเย็น ราวกับความหนาวนั้นไม่อาจแตะต้องเขาได้ ดวงตาสีแดงจับจ้องไปยังหน้าต่างชั้นสองที่ปิดสนิท นั่นเป็นห้องทำงานของโจชัว ซึ่งเขาใช้สำหรับจัดการเอกสารในช่วงกลางวัน แต่ในยามนี้ ไม่มีแสงไฟส่องลอดออกมา“ไม่ใช่เวลามาลังเลแล้ว ตัดสินใจไปแล้วนี่…” เขาพึมพำเสียงเบา ความเงียบรอบตัวทำให้เสียงนั้นแทบชัดเจนในสายลม เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและไร้สุ้มเสียง กระโดดขึ้นเกาะขอบหน้าต่างชั้นสอง เสียงลมแผ่วเบาและใบไม้ไหวกลบการเคลื่อนไหวของเขา ดวงตาสีแดงสังเกตการณ์ในห้องอีกครั้งเพื่อยืนยันว่

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 45 หัวใจที่ไม่อาจไขว่คว้า

    คาร์ลีนเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ ผ่อนลมหายใจยาว เส้นผมดำขลับทิ้งตัวแนบกับไหล่ราวเงามืดที่เกาะกุมตัวเธอ ผิวขาวซีดราวหินอ่อนสะท้อนแสงอ่อนจากโคมไฟบนโต๊ะ ขับเน้นชุดยาวสีดำที่พลิ้วไหวดุจเงามืดในสถานที่แห่งนี้ในดันเจี้ยนที่ผสานเขากับเขตแดนของเธอ ทุกสิ่งล้วนเชื่อมโยงกับเธอ ความสัมพันธ์ลึกลับนี้ ทำให้คาร์ลีนรับรู้ถึงทุกการเคลื่อนไหวของเขา ไม่ว่าเขาจะอยู่จุดใดในสถานที่แห่งนี้ เธอก็สามารถสัมผัสถึงตัวตนของเขาได้เสมอเรย์นาร์ค—หรือเอรอสในร่างของชายที่มีฉายาว่า จอมเชือด เรื่องราวที่ซับซ้อนเกี่ยวกับตัวตนและพลังของเขานั้นเป็นสิ่งที่เธอรับรู้มาเนิ่นนาน แต่สิ่งที่เธอปรารถนากลับไม่ใช่การค้นพบด้วยตัวเอง หากแต่เป็นการได้ยินคำตอบจากปากของเขาโดยตรงเธอเฝ้ารอให้เขาเปิดเผยความลับนี้กับเธอ แม้เวลาจะผ่านไปเนิ่นนาน แต่เขาก็ยังเลือกที่จะเก็บมันไว้ ไม่มีท่าทีที่จะบอกเธอ ราวกับคำพูดนั้นหนักเกินกว่าจะเปล่งออกมาดวงตาสีม่วงเข้มของเธอสะท้อนแสงจากโคมไฟ เธอนั่งนิ่งราวกับขบคิด แต่ในความเป็นจริง เธอกำลังต่อสู้กับความรู้สึกในใจ ความหนักใจเหมือนสายลมหนาวที่แผ่วผ่านกลับถูกเติมเต็มด้วยความหวังอันเปราะบาง เธออยากให้เขามาหา อยากได

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 44 เรียนรู้

    เอรอสค่อยๆตื่นขึ้นในห้องประชุมท่ามกลางความมืดมิดที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณ มีเพียงแสงริบหรี่ที่ส่องลอดเข้ามาจากขอบประตู ร่องรอยของเวทมนตร์เก่าก่อนยังคงอบอวลอยู่ในอากาศจางๆ แม้แสงจากเทียนเวทมนตร์ที่เคยให้ความสว่างจะดับไปจากการตัดการเชื่อมต่อกับเวทมนตร์ทำให้บรรยากาศในห้องเย็นยะเยือกและว่างเปล่า แต่กลิ่นอายของพลังที่เหลืออยู่ยังคงสร้างแรงกดดันให้ผู้ที่อยู่ภายในเล็กน้อยเขาขยับตัวกึ่งลุกกึ่งนั่งจากเก้าอี้ที่ดูเหมือนจะทำให้เขาหลับไปลึกเกินคาด โต๊ะยาวตรงหน้าเขามีแฟ้มเอกสารเล็กๆวางไว้อยู่ ดูเหมือนจะเป็นเอกสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องที่เขาจะรับปากจะจัดการให้เขาหยิบแฟ้มเอกสารที่วางไว้บนโต๊ะมาตรวจสอบ ใช้มือสีคล้ำที่มีกล้ามเนื้อชัดเจนลูบเส้นผมสีเทาของตัวเองเบาๆ เพื่อเรียกความกระปรี้กระเปร่า สายตาสีแดงฉานของเขากวาดมองไปทั่วห้องเล็กๆที่ยังคงอบอวลด้วยบรรากาศที่ชวนให้รู้สึกพิศวง พลางเหลือบมองเวลาที่บอกเขาว่านี้เป็นเวลาตี 1 ดูเหมือนเขาจะเผลอหลับไปแค่ชั่วโมงเดียว ยังดีที่เสียเวลาแค่นั้นหลังจากตรวจดูเอกสารครู่หนึ่งโดยที่ไม่มีใจความสำคัญอะไรที่ทำให้เขาต้องรีบร้อนเป็นพิเศษ เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้ และก้าวออกจาก

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 43 ผู้รับรอง

    เสียงกระซิบแห่งเวทมนตร์ แผ่วเบา แต่ทรงพลัง ดังก้องอยู่ในอากาศอันเย็นเยียบ ริบบิ้นสีดำ ที่ราวกับเงาแห่งความมืดจากอีกโลกหนึ่ง ปรากฏตัวขึ้นจากความว่างเปล่า มันเคลื่อนไหวดั่งมีชีวิต เลื้อยวนรอบร่างของ เอรอส ซ้อนชั้นขึ้นเรื่อยๆ ราวกับงูพิษที่กำลังจู่โจมเหยื่อ ความแน่นหนาของริบบิ้นทำให้แม้แต่ลมหายใจยังรู้สึกตึงเครียด แขนขาถูกตรึงแน่น ริบบิ้นเลื้อยขึ้นสูง ปิดริมฝีปาก และบดบังดวงตาของเขาไว้อย่างมิดชิด ไม่ว่าจะดิ้นรนหรือใช้พลังทั้งหมดที่มี พันธนาการเหล่านั้นยังคงรัดแน่น น้ำหนักของเวทมนตร์ที่โอบล้อมร่างเขาเหมือนโซ่ตรวนหนักอึ้งที่ไม่มีวันปลดได้จอมเวทย์ผู้ร่ายมนตรามองดูภาพตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา รอยยิ้มที่มุมปากของเขา แฝงความพอใจอย่างปิดไม่มิด ในขณะที่อีกคนหนึ่งในกลุ่มของเขาเดินเข้ามาใกล้ กระชากคอเสื้อของเอรอสอย่างรุนแรง พร้อมๆกับลากเขาไปกับพื้น ราวกับเป็นเพียงสิ่งของไร้ค่าไม่ไกลออกไป ไอลีน ยืนตัวแข็งทื่อ ดวงตาเบิกกว้างขณะมองสิ่งที่เกิดขึ้น เธอไม่สามารถปล่อยให้เรื่องนี้ดำเนินต่อไปได้ ก่อนที่วิ่งตรงไปข้างหน้าด้วยความแน่วแน่ แล้วตะโกนเสียงดังลั่น"หยุดเดี๋ยวนี้! คุณตั้งใจจะพาเขาไปที่ไหน?"น้ำเสียง

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 42 จุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลง

    เมื่อเอรอสเฝ้ามองไอลีนอยู่นาน สีหน้าเย็นชาของเขาเริ่มแสดงความไม่พอใจออกมาเล็กน้อย เขาขมวดคิ้วก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงห้วนๆ"ถ้าไม่มีธุระอะไรก็ช่วยหลบไปหน่อย"เขาเบี่ยงตัวไปด้านข้าง เตรียมเดินผ่าน แต่ก่อนที่เขาจะก้าวออกไป ไอลีนก็ยื่นมือออกมาคว้าข้อมือเขาไว้ ดวงตาของเธอที่เคยลังเลกลับแน่วแน่ขึ้น"ฉันมีเรื่องต้องคุยกับคุณเป็นการส่วนตัว" ไอลีนพูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามเก็บความกังวลเอรอสหยุดชะงัก แววตาของเขาเปลี่ยนเป็นไม่พอใจชัดเจนยิ่งขึ้น เขาหันไปมองรอบๆ เห็นสายตาของเด็กบางคนที่อาจกำลังแอบมองอยู่จากหน้าต่าง และหญิงชราที่ครัวกำลังหันมามองเช่นกันหลังจากที่ประเมินสถานการณ์ เขาเลื่อนสายตาไปยังมุมโล่งใต้ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลนัก"ตามมา" เขาเอ่ยสั้นๆก่อนจะดึงมือออกจากการเกาะกุมของเธอ และเดินนำไปยังที่ที่เขาเลือกไว้ไอลีนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเดินตามเขาไป ใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ สายลมอ่อนๆพัดผ่านเบาๆ ท่ามกลางความเงียบที่อึดอัด ทั้งสองยืนประจันหน้ากัน เอรอสกอดอกและเอนตัวพิงต้นไม้ สายตาของเขาจ้องมองเธออย่างเย็นชา"พูดมา จะพูดอะไรก็รีบพูด" เขาเร่งด้วยน้ำเสียงที่ราวกับไม่สนใจ แต่ก

  • พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน   ตอนที่ 41 ปลายทางของเหรียญทอง

    บรรยากาศในห้องทำงานของผู้อำนวยการบ้านเด็กกำพร้าช่างอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก กลิ่นอับของเอกสารเก่าผสมกับกลิ่นบุหรี่จางๆ โอบล้อมพื้นที่เล็กๆ ที่เต็มไปด้วยกองเอกสารและบัญชีการเงิน ผู้อำนวยการนั่งหลังตรงอยู่บนเก้าอี้หนังเก่าซึ่งดูเหมือนพร้อมจะพังได้ทุกเมื่อ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาชวนให้รู้สึกระแวงมากกว่าสบายใจ"คุณเอรอสใช่ไหม? ฉันได้รับการแจ้งมาว่าคุณต้องการบริจาคเงินให้เหล่าเด็กๆที่คุณหนูไอลีนพามา" เสียงของเขาเนิบนาบ ท่าทางเหมือนพยายามจับจุดอีกฝ่ายเอรอสนั่งนิ่งอยู่ตรงข้าม เขาสูงโปร่งสำหรับเด็กหนุ่มวัย 16 ปี สายตาสีเทาของเขาเย็นชาและไม่เปิดเผยความรู้สึกใดๆ“ใช่ ผมมาที่นี่ บริจาคเงิน ให้เด็กๆที่เพิ่งเข้ามา" เขาเอ่ยเสียงเรียบผู้อำนวยการชะงักเล็กน้อย ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจ"อืม น่าชื่นชมจริงๆนะครับ แต่การรับผิดชอบเงินจำนวนมากขนาดนี้คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เธอมาจากครอบครัวไหนหรือ ถึงได้ใจกว้างขนาดนี้?"คำถามนั้นเหมือนมีความนัย แต่เอรอสไม่แสดงอาการใดๆ เขาเพียงหยิบถุงเงินออกมาจากกระเป๋าแล้ววางมันลงบนโต๊ะ เสียงเหรียญกระทบกันดังชัดเจน"ไม่จำเป็นต้องถาม" เขาตอบสั้นๆน้ำเสียงราบเรียบ แต่หนักแน่น

DMCA.com Protection Status