หน้าหลัก / แฟนตาซี / พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน / ตอนที่ 41 ปลายทางของเหรียญทอง

แชร์

ตอนที่ 41 ปลายทางของเหรียญทอง

บรรยากาศในห้องทำงานของผู้อำนวยการบ้านเด็กกำพร้าช่างอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก กลิ่นอับของเอกสารเก่าผสมกับกลิ่นบุหรี่จางๆ โอบล้อมพื้นที่เล็กๆ ที่เต็มไปด้วยกองเอกสารและบัญชีการเงิน ผู้อำนวยการนั่งหลังตรงอยู่บนเก้าอี้หนังเก่าซึ่งดูเหมือนพร้อมจะพังได้ทุกเมื่อ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาชวนให้รู้สึกระแวงมากกว่าสบายใจ

"คุณเอรอสใช่ไหม? ฉันได้รับการแจ้งมาว่าคุณต้องการบริจาคเงินให้เหล่าเด็กๆที่คุณหนูไอลีนพามา" เสียงของเขาเนิบนาบ ท่าทางเหมือนพยายามจับจุดอีกฝ่าย

เอรอสนั่งนิ่งอยู่ตรงข้าม เขาสูงโปร่งสำหรับเด็กหนุ่มวัย 16 ปี สายตาสีเทาของเขาเย็นชาและไม่เปิดเผยความรู้สึกใดๆ

“ใช่ ผมมาที่นี่ บริจาคเงิน ให้เด็กๆที่เพิ่งเข้ามา" เขาเอ่ยเสียงเรียบ

ผู้อำนวยการชะงักเล็กน้อย ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจ

"อืม น่าชื่นชมจริงๆนะครับ แต่การรับผิดชอบเงินจำนวนมากขนาดนี้คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เธอมาจากครอบครัวไหนหรือ ถึงได้ใจกว้างขนาดนี้?"

คำถามนั้นเหมือนมีความนัย แต่เอรอสไม่แสดงอาการใดๆ เขาเพียงหยิบถุงเงินออกมาจากกระเป๋าแล้ววางมันลงบนโต๊ะ เสียงเหรียญกระทบกันดังชัดเจน

"ไม่จำเป็นต้องถาม" เขาตอบสั้นๆน้ำเสียงราบเรียบ แต่หนักแน่น

ผู้อำนวยการทำสีหน้าลำบากใจเล็กน้อยก่อนจะปรับเป็นรอยยิ้มแห้งๆเขาเปิดถุงเงินออกดู แล้วแสร้งทำท่าพอใจ 

"จำนวนนี้... ใช่เลย เพียงพอสำหรับค่าดูแลเด็กๆ ของคุณหนูไอลีนแน่นอนครับ"

"เงินนี้ ไม่ได้มาจากเธอ และคุณก็น่าจะรู้" เอรอสพูดแทรก สายตาของเขาจับจ้องไปที่อีกฝ่าย

"อย่าใช้ชื่อนั้นมาผูกผมเอาไว้ และ ผมหวังว่าเงินเท่านี้จะเพียงพอที่คุณจะไม่ใช้งานเด็กพวกนั้น สำหรับเดือนนี้"

คำพูดนั้นทำให้ผู้อำนวยการนิ่งงันไปชั่วครู่ ก่อนที่เขาจะระเบิดเสียงหัวเราะแห้งๆ ออกมา

"ฮ่าฮ่า แน่นอนครับ แน่นอน... บ้านเด็กกำพร้าแห่งนี้ให้ความสำคัญกับชีวิตของเด็กๆ มากกว่าสิ่งใด คุณไม่ต้องกังวล"

เอรอสยังคงจ้องมองอีกฝ่ายตรงๆ แววตาของเขากลับเย็นเฉียบ ราวกับมองทะลุคำโกหกทั้งหมดที่หลุดออกมาจากปากอีกฝ่าย แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้สนใจท่าทีใดๆของเขาเอรอสก็ตาม

“….ทำตามที่พูดไว้ แล้วผมสัญญา เงินจำนวนนี้จะถูกส่งกลับมาอีกในเดือนหน้า ”เขาตอบเสียงเรียบ ก่อนจะลุกขึ้นไปอย่างรวดเร็ว

“ท่านช่างเป็นผู้มีจิตใจอันงดงามจริงๆ!” ผู้อำนวยการกล่าวพร้อมยิ้มกว้าง แต่คำพูดนั้นดูไร้ความจริงใจ

เอรอสไม่ได้หันกลับไปมอง เขาเดินออกจากห้องโดยไม่แยแสคำยกยอใดๆ

ภายในทางเดินของอาคารบ้านเด็กกำพร้า

หลังจากจัดการกับธุระในห้องผู้อำนวยการ เอรอสก็เดินออกมา เขาเลี่ยงไม่เข้าไปในส่วนที่เด็กๆ เล่นกันอยู่เพราะไม่ต้องการให้ใครจำหน้าได้

เสียงกระทะกระทบกับเตาดังเป็นจังหวะขณะที่เอรอสก้าวผ่านหน้าห้องครัวเล็กๆภายในอาคาร มีกลิ่นหอมของขนมปังอบใหม่ๆ หญิงชราคนหนึ่งกำลังล้างจานอยู่ที่มุมห้อง ดวงตาของเธอละสายตาจากจานไปมองเด็กคนหนึ่งที่นั่งอยู่ใกล้ๆด้วยความอ่อนโยน

เมื่อเอรอสกำลังจะเดินผ่านโดยที่ไม่สนใจหญิงชราที่อยู่ในครัว แต่แล้วเธอก็กลับหันมามองเขา และ ก้มหัวให้เขาอย่างสุภาพ แล้วเข้ามาขอบคุณตัวเขาอย่างกระตือรือร้น

“คุณคือคนที่มาบริจาคเงินให้เด็กๆใช่ไหมคะ?” เธอถามน้ำเสียงนุ่มนวล ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยริ้วรอยจากวัย แต่แววตายังคงอบอุ่น

“ใช่” เอรอสตอบเรียบๆ

หญิงชราเช็ดมือด้วยผ้ากันเปื้อนของเธอ ก่อนจะพูดต่อ

“ฉันไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร แต่เงินที่คุณบริจาคมันมากพอที่จะช่วยเด็กๆ ได้อีกหลายเดือน ฉันไม่รู้จะขอบคุณยังไงดี”

เอรอสนิ่งไปเล็กน้อย ราวกับไม่รู้ว่าจะตอบอะไร ความคิดหนึ่งวาบขึ้นมาในหัว

“หลายเดือน? เดือนเดียวล่ะสิไม่ว่า ทำไมต้องเสียเวลาทำอะไรที่ไร้ประโยชน์ขนาดนี้?” แต่เขาไม่ได้พูดออกมา

“คุณทำงานที่นี่มานานหรือยัง?” เขาถาม น้ำเสียงของเขาแฝงความสงสัยอย่างจริงจัง

“ก็นานพอสมควรค่ะ เกือบยี่สิบปีได้แล้ว” เธอตอบพร้อมรอยยิ้มบางๆ

“คุณรู้ไหมว่าคุณได้อะไรจากการทำงานแบบนี้? ไม่คิดว่าเสียเวลางั้นหรอ?”

คำถามนั้นทำให้หญิงชราหัวเราะเบาๆ “ได้อะไรหรือคะ? บางทีอาจจะไม่ได้อะไรเลยในสายตาคนอื่น แต่มันทำให้ฉันมีความสุขที่ได้เห็นเด็กๆ มีรอยยิ้ม”

เอรอสเงียบไป เขาจ้องมองเธออย่างไม่เข้าใจ

“มันไม่สมเหตุสมผลเลย ทำไมเธอต้องเสียสละตัวเองเพื่อเด็กๆพวกนี้ด้วย” เขาพูดเบาๆแต่เสียงนั้นก็พอให้หญิงชราได้ยิน

“บางสิ่งในชีวิตไม่จำเป็นต้องสมเหตุสมผลหรอกค่ะ ฉันก็แค่ต้องการจะดูแลเด็กๆพวกนี้ให้ดีที่สุด จวบจนวันสุดท้ายของชีวิต อย่างน้อยชีวิตของฉัน ก็มีค่าสำหรับเด็กๆพวกนี้บ้าง” เธอยิ้มด้วยความอ่อนโยน ปราศจากความโลภใดๆที่แผ่ออกมา

เอรอสเลื่อนสายตาไปที่เด็กคนหนึ่งที่นั่งแกะขนมปังในจานของเขาอย่างตั้งใจ เด็กคนนั้นหัวเราะเบาๆขณะเล่นกับเศษขนมปัง ครั้งนึงที่พวกเขาต้องใช้ชีวิตอยู่ข้างถนน พลางหาเศษอาหาร หรือ ขโมยเพื่อเอาชีวิตรอด ในตอนนี้กำลังใช้ชีวิตอย่างสงบสุข โดบปราศจากความทุกข์ใดๆ

แต่อย่างไรก็ตาม หากเพียงแค่เขาไม่บริจาคเงินให้เด็กพวกนี้ในเดือนหน้า พวกเขาทั้งหมด ก็จะถูกส่งไปใช้แรงงานให้ตระกูลขุนนางในเมือง เพื่อกลายเป็นเด็กรับใช้ หรือ ไม่ก็ถูกส่งให้ไปใช้แรงงานในตลาด เพื่อหาเงินส่งตัวเองเรียนแทน ทำให้ความสงบสุขที่อยู่ตรงหน้านี้ มันช่างเปราะบางจริงๆ เขาหันกลับมามองหญิงชราอีกครั้ง

"คุณเป็นคนที่ดีน่ะ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่ง แม้ในใจของเขาจะไม่ได้คิดแบบนั้นก็ตาม

หญิงชรานิ่งไป ก่อนจะยิ้มกว้างและขอบคุณเขาด้วยความจริงใจ

“ขอบคุณค่ะ”หลังจากนั้นเสียงเตาอบก็ดังขึ้น เธอขอตัวเพื่อจะไปจัดการกับขนมปังที่อยู่ข้างในก่อน ก่อนจะก้มหัวให้เขา แล้วเดินจากไป

เอรอสยังคงมองหญิงชราอยู่เงียบๆ แม้ว่าในใจของเขาจะยังคงเต็มไปด้วยความสงสัย เขายังไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอพูดเลยแม้แต่น้อย และมันคงยากที่จะเข้าใจการทำอะไรที่ไร้สาระแบบนั้น

เขาหันหลังเดินออกจากห้องครัว ความคิดที่เกี่ยวกับการเสียสละของหญิงชรากลับมาหลอกหลอนในหัวเขา แต่มันก็ไม่สามารถทำให้เขาเข้าใจได้มากขึ้น ว่าทำไมคนถึงต้องทำสิ่งที่ไร้ประโยชน์แบบนี้

เมื่อเขากำลังจะเปิดประตูเพื่อออกจากสถานที่แห่งนี้ ประตูกลับถูกดึงออกไปก่อน และทันใดนั้นเอง เขาก็พบกับหญิงสาวผมสีฟ้าดุจดั่งท้องฟ้ายามค่ำคืนยืนอยู่ตรงหน้าด้วยท่าทางลังเล เธอสวมเครื่องประดับที่คล้องรอบคอ ราวกับพยายามปกปิดรอยมือที่เกิดขึ้นเมื่อคืน รอยยิ้มที่เธอพยายามยกขึ้นดูไม่ค่อยมั่นใจนัก และแววตาของเธอก็แฝงไปด้วยความกังวล

ทั้งสองยืนเผชิญหน้ากันในความเงียบ จ้องมองกันอยู่ครู่หนึ่ง ราวกับกำลังค้นหาคำพูดที่เหมาะสม แต่กลับไม่มีคำใดหลุดออกมา ความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความค้างคาและไม่แน่ใจเหมือนลอยวนอยู่ในอากาศ เอรอสยังคงนิ่งเฉย สายตาของเขามองออกไปนอกประตู ชวนให้รู้สึกเหมือนว่าเขาต้องการจะหลีกหนี ก่อนที่สายตาคู่นั้นจะกลับมาจับจ้องที่ไอลีนอีกครั้ง

ไอลีนยืนอยู่ตรงนั้น สีหน้าของเธอบ่งบอกถึงความลังเล เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย คล้ายกำลังชั่งใจว่าจะพูดอะไรบางอย่างหรือไม่ แต่สุดท้ายกลับเลือกที่จะนิ่งเงียบ เธอไม่ได้ขยับตัว มีเพียงสายตาที่ทอดไปยังเอรอส ซึ่งดูเหมือนกำลังรอคำพูดบางคำจากเธอ

ความเงียบระหว่างทั้งสองแผ่ปกคลุมบรรยากาศจนดูเหมือนทุกอย่างรอบตัวหยุดนิ่ง ท่ามกลางความสงัดที่ดูหนักอึ้ง แม้ว่าทั้งสองจะยืนอยู่ใกล้กันจนแทบจะสัมผัสได้ถึงลมหายใจ แต่กลับรู้สึกเหมือนมีกำแพงบางอย่างกั้นขวาง ระยะห่างที่มองไม่เห็น แต่กลับรู้สึกชัดเจนในหัวใจของทั้งคู่

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status