Home / แฟนตาซี / พันธะสัญญาของผู้กลืนกิน / ตอนที่ 33 เงื่อนไขที่มากับการดูแล

Share

ตอนที่ 33 เงื่อนไขที่มากับการดูแล

เอรอสยืนมองไอลีนที่เก็บ Arcane Pulse Gun เข้าที่ ท่าทางของเธอแน่วแน่ แต่สายตากลับแฝงด้วยความเหนื่อยล้า เขายิ้มเล็กน้อยก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงทุ้มสงบ

“ยังตามหาพวกรีดไถ่อยู่อีกงั้นเหรอ?”

ไอลีนยักไหล่ แววตาฉายความมุ่งมั่น

“ใช่สิ จะให้พวกนั้นอยู่เฉย ๆ แล้วทำร้ายคนอื่นไปเรื่อยเหรอ?”

ไอลีนปรายตามองเขาด้วยรอยยิ้มล้อเลียน พร้อมเอียงศีรษะเล็กน้อย

“แล้วคุณ หมาป่าเดียวดาย มาทำอะไรแถวนี้? มาตามหาฉันหรือไง?”

เอรอสถอนหายใจเบาๆ เขาส่ายหัวอย่างระอากับชื่อเล่นที่เธอตั้งให้เขา แม้ในใจจะรู้สึกไม่ชอบใจนัก แต่ก็เลือกที่จะทำสีหน้าเรียบนิ่ง ไม่แสดงปฏิกิริยาใดๆกับฉายาที่เธอแกล้งตั้งให้ ก่อนที่จะขยับตัว เอามือไพล่ไว้ด้านหลัง

“ใช่ ฉันมาที่นี่เพื่อเตือนเธอ”

ไอลีนเลิกคิ้วขึ้น สีหน้าสงสัยปนฉงน “เตือน? เตือนเรื่องอะไร?”

เอรอสถอนหายใจแผ่วเบา เผยให้เห็นถึงน้ำเสียงจริงจังขึ้น “ฉันอยากให้เธอหยุดพาเด็กๆ จากสลัมไปอยู่ในบ้านเด็กกำพร้าแบบนั้น มันเปล่าประโยชน์”

คำพูดนั้นทำให้ไอลีนชะงักไป เธอมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสับสนและไม่เข้าใจ"คุณหมายความว่าไง? ฉันแค่พาเด็กๆ ไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัยกว่า ไม่มีอะไรเสียหายสักหน่อย"

เอรอสจ้องมองกลับตอบด้วยแววตาเรียบนิ่ง แต่แฝงความจริงจัง

"เธอไม่ได้ให้เงินกับพวกนั้นใช่ไหม?"

เธอเลิกคิ้ว "เงิน? ถ้าหมายถึงเงินบริจาคล่ะก็... ฉันให้ไปแค่ 1-2 เหรียญเงินเท่านั้นเอง—"

“คิดว่าแค่นั้นมันจะพอช่วยอะไรได้งั้นเหรอ?”เอรอสเอ่ยขึ้นขัดจังหวะทันที ท่าทางของเขาทำให้ไอลีนเผลอกระพริบตาด้วยความไม่สบายใจ ความกดดันในสายตาของเอรอสทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกกดให้พิจารณาเรื่องที่เธอไม่เคยใส่ใจมาก่อน

"หมายความว่ายังไง? สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าก็มีหน้าที่ดูแลเด็กๆ ให้ได้รับการดูแลไม่ใช่หรือไง?" ไอลีนพยายามถามต่อด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แต่ความไม่มั่นใจฉายชัดในดวงตาของเธอ

เอรอสถอนหายใจเบาๆก่อนจะเอ่ย “เธอไม่สงสัยบ้างเลยรึไง? ทำไมถึงมีเด็กจากสลัมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถ้าสถานรับเลี้ยงนั้นทำหน้าที่ได้ดีจริงๆ”เอรอสเว้นช่วงเล็กน้อย เพื่อย้ำชัดถึงความเป็นจริง "ไม่มีทางที่จะมีเด็กๆเหลือให้เธอช่วยแน่นอน"

ไอลีนเงียบไปครู่หนึ่ง สีหน้าที่เคยมั่นใจเริ่มเปลี่ยนเป็นหนักใจมากขึ้น ดวงตาหม่นลงเล็กน้อยขณะครุ่นคิดถึงสิ่งที่เอรอสพูด “คุณพูดเรื่องอะไร……?”

“มันก็เป็นแค่สถานที่ที่ไว้หลอกกินเงินบริจาค และ เงินสนับสนุนจากเมืองเท่านั้น” เอรอสเอ่ยเสียงนิ่ง พลางเว้นจังหวะเล็กน้อยเพื่อสังเกตท่าทีของไอลีน เธอเบิกตาขึ้นเล็กน้อย สีหน้าตกใจอย่างชัดเจน ซึ่งเอรอสก็ไม่แปลกใจนัก เพราะเธอมาจากชายแดน คงไม่มีโอกาสได้รู้เบื้องหลังอันซับซ้อนเหล่านี้มาก่อน

ถ้าเธออยากให้เด็กๆที่เธอส่งไปอยู่สบายจริงๆ ก็คงต้องให้เงินพวกนั้นเยอะหน่อย…. แล้วที่ผ่านมาเธอชวนสำเร็จไปแล้ว กี่คนหล่ะ?”

ไอลีนชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะคิดแล้วตอบเสียงแผ่วเบา “สิบคน”

“ถ้าอย่างนั้น… 20 เหรียญทองก็คงจะพอ” เอรอสพูดด้วยน้ำเสียงตั้งใจ ทิ้งความหมายให้ไอลีนรับรู้โดยไม่จำเป็นต้องพูดต่อ เขาไม่ได้เอ่ยถึงว่าจำนวนนี้ต้องจ่ายเป็นรายเดือน แต่แววตาของเขาก็เพียงพอให้เธอเข้าใจนัยสำคัญ

ไอลีนเบิกตาขึ้น น้ำเสียงเธอสั่นเล็กน้อย "จำนวนเงินขนาดนั้นมัน...!” เธอคิดถึงจำนวนเงินที่สามารถเลี้ยงดูพี่น้องของเธอ ให้กินอิ่มได้ทุกมื้อถึงหนึ่งเดือนอย่างสบายๆ และ เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายในตระกูล

เอรอสยิ้มบางๆ ส่ายศีรษะเล็กน้อย “ไม่มีจ่ายสินะ? ถ้าอย่างนั้นก็อย่าไปยุ่งกับเรื่องพวกนี้อีกเลย ถ้ารับผิดชอบไม่ไหว ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนอื่นเถอะ—”

เขานิ่งไปครู่หนึ่ง เมื่อเห็นท่าทางเสียใจในสายตาของไอลีน เธอเงียบ และ หันสายตาลงต่ำ รู้สึกละอายอย่างชัดเจน ความสงสารเอ่อในใจเขา แม้เอรอสจะลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจพูดออกมาเบาๆ

"ฉันจะจัดการที่เหลือเอง แค่สัญญาว่าจะไม่ชวนเด็กๆไปที่นั่นอีกก็พอ”

เอรอสเตรียมหันหลังเดินจากไป แต่ทันทีที่หมุนตัว เสียงของไอลีนก็เอ่ยเรียกเขาไว้ “นายตั้งใจจะทำอะไร?”

เอรอสยิ้มมุมปาก ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งที่แฝงความมั่นใจ

"ก็ไปหาเงินมาจ่ายให้ไงล่ะ?"เขาทำท่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ดวงตาสีเทาเหลือบมองไอลีนที่ยืนอยู่ลำพัง เธอยังคงมีสีหน้าฉงนและสงสัยอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่เอรอสจะถอนหายใจเบาๆ และตัดสินใจเอ่ยขึ้น

"ไหนๆ เธอก็กำลังตามหาพวกมันอยู่แล้วนี่ ถ้าพวกมันถูกจับ เธอคงไม่ต้องวนเวียนมาแถวนี้อีกใช่ไหม?"

คำพูดของเขาทำให้ไอลีนยิ่งสงสัยมากขึ้น เธอมองเขาอย่างไม่แน่ใจ ก่อนที่เอรอสจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่แฝงความเฉียบคม

"ตามมาเงียบๆ อยู่เฉย อย่าทำอะไร เดี๋ยวฉันจัดการเอง"

ไอลีนขมวดคิ้วและถามด้วยความกังวล "นายจะทำอะไร? จะไปจัดการพวกนั้นงั้นเหรอ? ด้วยตัวคนเดียว?"

เอรอสแค่พยักหน้าเล็กน้อยและเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง น้ำเสียงเย็นชาของเขาดูแน่วแน่เมื่อเขาตอบ "ใช่ ฉันจะไปจัดการพวกมันเอง เธอไม่ต้องเป็นห่วง แค่ทำตามที่ฉันบอกก็พอ"

ไอลีนกัดริมฝีปากอย่างลังเล เธอมองแผ่นหลังของเอรอสที่ก้าวเดินไปอย่างมั่นคง แม้เธอจะมีความสงสัยในฝีมือของเขา และ ไม่คิดว่าเขาจะจัดการพวกมันได้ด้วยตัวคนเดียว แต่เธอก็ตัดสินใจที่จะตามหลังไปอย่างเงียบๆ ความกังวลซ่อนอยู่ในสายตา ขณะที่เธอจับมือเข้าหากันแน่น ยอมรับว่าไม่สามารถขัดขวางเขาได้

พวกเขาก้าวเดินลึกเข้าไปทางใต้ของเมืองขึ้นเรื่อยๆ บรรยากาศรอบข้างเริ่มเงียบสงบลงและมืดมิดขึ้น เอรอสพาไอลีนลัดเลาะตามบันไดเก่าๆของอาคารทรุดโทรมหลายชั้น ไอลีนตามเขาขึ้นไปเงียบๆจนกระทั่งถึงจุดที่แสงจันทร์ส่องลอดผ่านช่องว่างบนหลังคา แสงสีเงินร่วงลงมาแตะพื้นเบื้องล่าง เผยให้เห็นเมืองเก่า และ เงาของตรอกซอยที่ทอดยาวอยู่ในความมืด

เอรอสมองไปรอบๆ ก่อนจะหยุดสายตาที่ผ้าสกปรกๆผืนหนึ่งที่แขวนอยู่ตรงขอบหน้าต่างของบ้านเรือนเก่า เขาเอื้อมมือไปคว้าผ้าผืนนั้นมากำไว้ ขณะเดียวกันก็โยนเหรียญทองแดง 4-5 เหรียญทิ้งไว้ตรงขอบหน้าต่าง เป็นการตอบแทนเล็กๆน้อยๆสำหรับเจ้าของบ้านที่อาจไม่รู้ตัว

ไอลีนขมวดคิ้ว มองการกระทำของเขาด้วยความสงสัย "นั่นนายทำอะไร?"

เอรอสไม่ตอบ แต่เดินกลับมาหาเธอพร้อมผ้าสกปรกในมือ เขาโยนมันไปให้เธอโดยไม่บอกอะไรเพิ่มเติม

“คลุมตัวเอาไว้ รูปลักษณ์ของเธอเด่นเกินไป” เขาบอกเสียงเรียบ ขณะที่เหลือบมองเธอจากหัวจรดเท้า ท่าทางราวกับว่าการปลอมตัวเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา

ไอลีนรับผ้าไว้ ย่นคิ้วเล็กน้อยขณะคลุมตัวตามที่เขาบอก เธอไม่ค่อยพอใจนักกับสภาพของผ้าผืนนั้น แต่พอเข้าใจเหตุผลที่เอรอสเลือกให้เธอปกปิดตัวเองเพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจ ขณะนั้นเอรอสหันไปมองทางเบื้องหน้า เตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status