เพียงเพราะต้องการช่วยเหลือรักแรกของเขา "ฮั่วอู๋ซวน" จำต้องยอมเป็นคู่บำเพ็ญเพียรของปีศาจจิ้งจอกพันปีที่มีนามว่า "ฉีเยี่ยนหลี"
View Moreฤดูกาลผันเปลี่ยน วันแล้ววันเล่า ปีแล้วปีเล่า ฮั่วอู๋ซวนก็ยังคงอาศัยอยู่ที่กระท่อมแห่งนี้ การตายของคนรักเคี่ยวกำทรมานจิตใจเขาจนแทบอยู่ไม่สู้ตาย โดยเฉพาะข้างในหัวใจ มันช่างเจ็บปวดเหมือนถูกคมมีดกรีดเฉือนเนื้อจนเหวอะหวะ ทุกวันดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ชายหนุ่มก็จะมานั่งเฝ้าต้นสาลี่เก่าแก่ ต้นไม้ที่เคยเป็นสักขีพยานความรักอันบริสุทธิ์ กลายเป็นที่ระลึกถึงความผิดพลาดที่ตามหลอกหลอนเขาจิบสุราขมขื่นพลางจ้องมองไปยังกิ่งก้านที่เคยโอนเอนรับลมไปตามเสียงขลุ่ยหวานของนาง ฉีเยี่ยนหลี่...หญิงสาวผู้ที่จากไปไกลฤดูใบไม้ผลิที่เคยเบ่งบานกลับกลายเป็นฤดูแห่งความโศกเศร้า กลีบดอกสาลี่สีขาวบริสุทธิ์ร่วงหล่นลงมาทับถมบนหลุมศพราวกับน้ำตาที่ไหลไม่หยุด พวกมันล้อเลียนความรักที่โรยราและชีวิตที่ต้องดำเนินต่อไปอย่างโดดเดี่ยวเดิมทีเขาเองก็คิดที่จะปลิดชีวิตแล้วตามไปอยู่กับคนรักในปรโลก แต่ว่า หากเขาตายไปง่ายๆ เช่นนี้ ก็คงไม่สามารถชดเชยอะไรให้ฉีเยี่ยนหลี่ได้แต่อย่างใดอีกอย่างเขากลับอยากรอ... ในใจของฮั่วอู๋ซวนคิดอยู่เสมอว่าสักวันคนรักของเขาจะต้องกลับมาเกิดใหม่แน่ๆ และเมื่อถึงตอนนั้น เขาสัญญาว่าจะต้องทุ่มสุดกำลังเพื่อรักและดูแลนา
ขณะที่เขาพยายามจะผ่านซือจุนไป เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านหลัง…"ซวนเอ๋อร์ เจ้ายังจะยืนกรานที่จะทำเช่นนี้จริงหรือ?"น้ำเสียงของคนผู้นี้เต็มเปี่ยมไปด้วยความผิดหวังและเจ็บปวด ฮั่วอู๋ซวนหันกลับไปมอง เห็นศิษย์พี่หญิงของเขายืนอยู่ตรงนั้น นางมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเศร้า"ซวนเอ๋อร์ ข้าไม่อาจปล่อยให้เจ้าทำเช่นนี้ เจ้าเคยเป็นคนที่ข้ารัก เจ้าเคยเป็นคนที่ข้าฝากหัวใจไว้ และข้าไม่อาจยอมเห็นชีวิตของเจ้าต้องพังเพราะปีศาจตนนั้น"ฮั่วอู๋ซวนหันไปสบตากับนาง "ศิษย์พี่ ข้าขอโทษ แต่ข้าไม่อาจหวนกลับไปได้อีกแล้ว ข้าต้องการเพียงหลี่เอ๋อร์ ข้ารักนาง ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยนาง ไม่ว่านางจะเป็นปีศาจหรือสิ่งใดก็ตาม"ศิษย์พี่ของเขาพยายามยื่นมือมาขวางเขาไว้!"อู๋ซวน… เจ้าไม่คิดถึงจิตใจของข้าเลยใช่หรือไม่? ข้ารู้ว่าเจ้าเคยรักข้า ข้ารู้ว่าเจ้ามีหน้าที่ในสำนัก ข้ายินดีจะอยู่เคียงข้างเจ้าในทุกๆ หนทาง แต่ขอให้เจ้าถอนตัวออกมา อย่าให้ความรักต่อปีศาจนั้นทำลายเจ้าลงไป"ฮั่วอู๋ซวนมองนางอย่างอ่อนโยน แม้สายตาของเขาจะเต็มไปด้วยความเจ็บปวด"ศิษย์พี่ ข้าขอโทษ ข้าเคยรักท่าน แต่หัวใจของข้าไม่ใช่ของท่านอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้ข้าต
มือของฮั่วอู๋ซวนกุมไว้ตรงหน้าอก ราวกับว่าความรู้สึกทั้งหมดที่เคยถูกเก็บซ่อนไว้กำลังหลั่งไหลออกมาไม่หยุด... บัดนี้เขาเพิ่งเข้าใจทุกอย่าง ความรู้สึกผูกพันอย่างลึกซึ้งและความรักที่มีต่อฉีเยี่ยนหลี่ไม่ใช่สิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นในชาตินี้ หากแต่เป็นสายใยที่โยงใยข้ามภพชาติ ทั้งหมดนี้คือความทรงจำและความรักที่สืบเนื่องมาแต่ชาติที่แล้วฮั่วอู๋ซวนพึมพำเบา ๆ "ที่แท้... ทุกสิ่งที่ข้าเคยฝันถึง ทุกภาพที่ข้าเคยเห็น… นั่นคือข้ากับเจ้าในชาติก่อน" เขานิ่งไปครู่หนึ่ง รู้สึกทั้งอบอุ่นและเจ็บปวดในเวลาเดียวกัน ราวกับว่าสิ่งที่เคยเป็นเงาในความทรงจำได้แปรเปลี่ยนเป็นความจริงที่เขาไม่อาจหลบหนีได้อีกต่อไปเขายืนอยู่ใต้แสงจันทร์ หัวใจอ่อนโยนเมื่อคิดถึงฉีเยี่ยนหลี่ ผู้หญิงที่เขารักอย่างลึกซึ้งแม้ไม่เข้าใจว่าทำไม และในเวลานี้เขารู้แล้วว่าความรักนี้ไม่ใช่เพียงความรู้สึกชั่วคราว แต่เป็นความรู้สึกที่ผูกพันมาเนิ่นนาน ขณะที่เขายืนอยู่ที่นั่น ความคิดหนึ่งก็พลันเกิดขึ้นในใจ“ข้าจะกลับไปหาเจ้า” เขาพูดเบา ๆ ราวกับสัญญากับตัวเองฮั่วอู๋ซวนถือผลึกแก่นวิญญาณในมือ รู้สึกถึงพลังอันอบอุ่นที่แฝงอยู่ในนั้น ราวกับมีสัมผัสของฉีเยี่ยนห
ฉีเยี่ยนหลี่หัวเราะเบา ๆ แม้จะอ่อนแรง "ข้าไม่สนใจหรอกอู๋ซวน… ข้ารู้แค่ว่า เจ้าอยู่เคียงข้างข้าก็พอแล้ว"ทันใดนั้น ฮั่วอู๋ซวนก็คิดถึงผลไม้ในตำนานที่เคยได้ยินเรื่องราวจากชายชราที่เคยพบระหว่างการฝึกฝนเมื่อครั้งยังเป็นศิษย์ เขาหวังว่าผลไม้วิเศษนั้นอาจช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของฉีเยี่ยนหลี่ได้"ข้าจะออกตามหาผลอมฤตในป่าอนธการ ข้าเชื่อว่ามันจะรักษาเจ้าได้" ฮั่วอู๋ซวนกล่าวขึ้นด้วยความมุ่งมั่น"แต่… ป่าอนธการเต็มไปด้วยปีศาจอันตราย ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อข้า""ข้าไม่มีทางเลือกอื่น" ฮั่วอู๋ซวนยิ้มอย่างอบอุ่น "รอข้ากลับมา ข้าสัญญาว่าจะไม่ปล่อยให้เจ้าอยู่เพียงลำพัง"ฮั่วอู๋ซวนเดินผ่านป่าลึก หันมองรอบตัวด้วยสัญชาตญาณนักพรตที่คุ้นเคย ภายในป่าอนธการนี้เต็มไปด้วยอันตราย ไม่เพียงแต่ความมืดที่แฝงอยู่ในหมอกขาว แต่ยังมีปีศาจที่จ้องจะเล่นงานเขาในทุกซอกมุมทันใดนั้น เงาดำพุ่งเข้ามาจากพุ่มไม้ ปีศาจรูปทรงคล้ายหมาป่าโจนเข้าใส่เขาด้วยความดุร้าย ฮั่วอู๋ซวนพลิกตัวหลบอย่างรวดเร็ว มือคว้าเอามีดสั้นจากเอว ฟันเข้าไปที่ด้านข้างของปีศาจอย่างแม่นยำแม้พลังจินตานของเขาจะอ่อนลง แต่วิชาการต่อสู้ที่สั่งสมมาทำให้เ
หลังจากเจ้าสำนักและศิษย์สำนักจากไป ฮั่วอู๋ซวนพยุงร่างที่อ่อนแรงของฉีเยี่ยนหลี่กลับมาที่กระท่อม หญิงสาวบาดเจ็บสาหัส และในใจของเขาก็เจ็บปวดไม่น้อยเมื่อเห็นคนรักในสภาพนี้"ขอโทษนะหลี่เอ๋อร์ ข้าคงไม่มีพลังมากพอที่จะรักษาเจ้าได้แล้ว… ตอนนี้ข้าเองก็ไร้พลังจินตาน กลายเป็นเพียงคนธรรมดาเท่านั้น"ฉีเยี่ยนหลี่หัวเราะเบา ๆ แม้จะอ่อนแรง "ข้าไม่สนใจหรอกอู๋ซวน… ข้ารู้แค่ว่า เจ้าอยู่เคียงข้างข้าก็พอแล้ว"ทันใดนั้น ฮั่วอู๋ซวนก็คิดถึงผลไม้ในตำนานที่เคยได้ยินเรื่องราวจากชายชราที่เคยพบระหว่างการฝึกฝนเมื่อครั้งยังเป็นศิษย์ เขาหวังว่าผลไม้วิเศษนั้นอาจช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของฉีเยี่ยนหลี่ได้"ข้าจะออกตามหาผลอมฤตในป่าอนธการ ข้าเชื่อว่ามันจะรักษาเจ้าได้" ฮั่วอู๋ซวนกล่าวขึ้นด้วยความมุ่งมั่น"แต่… ป่าอนธการเต็มไปด้วยปีศาจอันตราย ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อข้า""ข้าไม่มีทางเลือกอื่น" ฮั่วอู๋ซวนยิ้มอย่างอบอุ่น "รอข้ากลับมา ข้าสัญญาว่าจะไม่ปล่อยให้เจ้าอยู่เพียงลำพัง"เพื่อเขียนบรรยายเรื่องราวอย่างละเอียด ฉากนี้สามารถขยายโดยให้ความสำคัญกับการแสดงอารมณ์ของตัวละครและการกระทำที่แฝงด้วยความหมายลึกซึ้ง นอกจากนี
“ท่านพ่อ… ทำไมท่านถึงมาอยู่ที่นี่?”ฮั่วอู๋ซวนถามด้วยความงุนงง แต่ทันใดนั้น เขาเห็นแววตาของบิดาที่เต็มไปด้วยความผิดหวังและความโกรธ“เจ้าบังอาจกลายเป็นคู่บำเพ็ญเพียรกับปีศาจเช่นนี้ได้อย่างไร?” บิดาของเขาตะคอกออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว“เจ้ามิได้รู้หรือว่าการเป็นนักพรตต้องรักษาความบริสุทธิ์ เพื่อพลังที่บริสุทธิ์และคงอยู่ในสัจธรรม แต่เจ้ากลับ… กลับเลือกที่จะเสพสมกับปีศาจ!”ฮั่วอู๋ซวนขบกรามแน่น “ท่านพ่อ ข้าไม่สนใจสัจธรรมที่ท่านกล่าว ข้ารู้เพียงว่า นางเป็นคนเดียวที่ทำให้ข้ารู้สึกสงบสุข และนางมิได้มีเจตนาร้ายใด ๆ ท่านอย่าได้โทษนางเลย”หญิงสาวจิ้งจอกที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เริ่มรู้สึกผิดหวังในตัวเอง“ท่านอาจารย์ ข้ามิได้มีเจตนาทำร้ายฮั่วอู๋ซวน ข้ารักเขาจริง ๆ… ข้าจะยอมถอยไปเพื่อไม่ให้ข้าต้องเป็นภาระของเขา…”แต่ฮั่วอู๋ซวนคว้ามือของฉี่เยี่ยนหลีไว้แน่น“ไม่! เจ้าจะไม่ไปไหน ข้าเลือกแล้วที่จะอยู่กับเจ้า หากท่านพ่อไม่อาจเข้าใจ ข้าก็จะไม่กลับไปที่สำนักอีก”เจ้าสำนักนิ่งเงียบไปชั่วครู่ ก่อนที่เขาจะสูดหายใจลึกและพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น“ในเมื่อเจ้าเลือกเช่นนี้ ข้าก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก ข้าจะนับว่าเจ้าไม่ใช่บุ
ฮั่วอู๋ซวนหัวเราะให้กับความไร้เดียงสาของจิ้งจอกสาวแล้วหยิบขลุ่ยไม้จากในห่อสัมภาระของเขา เขามอบขลุ่ยให้กับนาง"ของขวัญจากข้า เจ้าอยากลองเป่าดูไหม?"หญิงสาวรับขลุ่ยมาอย่างงุนงง "ให้ข้าหรือ?"ฮั่วอู๋ซวนยิ้มแล้วสอนนางจับขลุ่ย "นี่ไง จับอย่างนี้ แล้วก็เป่าเบาๆ แบบนี้"เสียงขลุ่ยดังขึ้นแผ่วเบาในป่าหิมะ สร้างบรรยากาศอันเงียบสงบและอบอุ่นในใจของทั้งคู่ฮั่วอู๋ซวนใช้ชีวิตกับจิ้งจอกหิมะในป่าอนธการอย่างสงบสุข ทั้งสองต่างพึ่งพาและเรียนรู้ซึ่งกันและกัน วันแล้ววันเล่า กลางป่ามืดมิดที่เต็มไปด้วยกลิ่นของไอปีศาจ แม้จะเป็นสถานที่ที่อันตราย แต่ฮั่วอู๋ซวนก็กลับรู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาดวันหนึ่งขณะที่เขานั่งซ่อมขลุ่ยที่เขามอบให้กับจิ้งจอกหิมะ หญิงสาวจิ้งจอกก็เดินเข้ามาพร้อมกับตะกร้าผลไม้"นี่ ผลไม้สด ข้าเก็บมาจากริมลำธาร ลองกินดูเถิด" ฉี่เยี่ยนหลี่ยิ้มพลางยื่นผลไม้ให้เขา"ขอบใจนะ" ฮั่วอู๋ซวนรับตะกร้ามา รู้สึกถึงความห่วงใยที่อีกฝ่ายมีให้ เขานั่งลงข้างหญิงสาว ก่อนจะเล่าถึงการเดินทางของเขาและชีวิตในสำนัก"ข้าไม่เคยคิดเลยว่า การอยู่ห่างจากสำนักจะทำให้ข้ารู้สึกสงบสุขเช่นนี้ บางที… ข้าก็คิดว่าชีวิตนี้น่าจะใช้ร
ในห้องที่เงียบสงัด ฮั่วอู๋ซวนขังตัวเองอยู่เพียงลำพัง ใจจดจ่ออยู่กับหม้อต้มยาที่ค่อยๆ ร้อนขึ้นทีละน้อย ภายใต้แสงไฟสีส้มที่ส่องวาบจากตะเกียง เขาเพิ่มสมุนไพรทีละชนิดลงไปอย่างระมัดระวัง กำหนดอัตราส่วนอย่างละเอียดอ่อนและแน่นอน ผลอมฤตที่ถูกขบเคี้ยวด้วยความมุ่งมั่นรอคอยขั้นตอนสุดท้ายของการหลอมยาในขณะที่เขาค่อยๆ หย่อนผลอมฤตลงไปในหม้อ แสงสีขาวเจิดจ้าก็วาบสว่างไปทั่วห้อง เขาสะดุ้งเฮือกและปิดตาแน่น หัวใจเต้นรัวขึ้นอย่างหวาดระแวงว่าอาจทำผิดขั้นตอนบางอย่างไป ทันใดนั้น เมื่อแสงหายไป ภาพเหตุการณ์ในอดีตเริ่มพรั่งพรูขึ้นในจิตใจเขาเป็นฉากๆ อย่างกับมันเป็นเศษเสี้ยวของความทรงจำที่คุ้นเคยฮั่วอู๋ซวนเห็นใบหน้าของฉีเยี่ยนหลี่ ทุกภาพล้วนสะท้อนถึงความทรงจำที่แก่นวิญญาณของนางฝากไว้กับผลึกในผลอมฤตนี้ในชาติที่แล้ว ฮั่วอู๋ซวนยังคงเป็นนักพรตผู้มีความสามารถสูงในการปราบปีศาจเช่นเดียวกับในชาตินี้ แต่สิ่งที่แตกต่างอย่างชัดเจนคือเขาเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของเจ้าสำนักใหญ่แห่งคุนหลุน และถูกวางตัวไว้ให้สืบทอดตำแหน่งเจ้าสำนักในอนาคตบิดาของเขาหมายมั่นให้เขาก้าวขึ้นเป็นผู้ดูแลและปกป้องสำนัก คาดหวังในศักดิ์ศรีและหน้าที่ที่
ฮั่วอู๋ซวนก้าวเดินออกมาจากป่าอนธการด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งภาคภูมิใจในความสำเร็จและในขณะเดียวกันเขาก็มีความรู้สึกเจ็บแปลบที่อกข้างซ้ายแสงอาทิตย์สาดส่องลงมาจากท้องฟ้าเมื่อเขาก้าวพ้นจากป่ามืดมิดที่เต็มไปด้วยอันตราย เส้นทางข้างหน้าที่เขาต้องเดินไปยังคงยาวไกล แต่กระนั้นหัวใจของเขากลับยังคงหวนระลึกถึงใครบางคนในป่าแห่งนั้นฮั่วอู๋ซวนก้าวเดินออกมาจากป่าอนธการด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งภาคภูมิใจในความสำเร็จและความรู้สึกหนักอึ้งที่ซ่อนลึกอยู่ภายในใจ แสงอาทิตย์สาดส่องลงมาจากท้องฟ้าเมื่อเขาก้าวพ้นจากป่ามืดมิดที่เต็มไปด้วยอันตราย เส้นทางข้างหน้าที่เขาต้องเดินไปยังคงยาวไกล แต่กระนั้นหัวใจของเขากลับยังคงหวนระลึกถึงใครบางคนในป่าแห่งนั้น“ผลอมฤต” สิ่งล้ำค่าที่เขาเสี่ยงชีวิตไปตามหาจนสำเร็จ บัดนี้ถูกเก็บไว้ในถุงผ้าที่รัดแน่นอยู่ในอกเสื้อ มันเป็นผลไม้ในตำนานที่มีพลังทิพย์ ว่ากันว่าผู้ใดได้ครอบครองจะสามารถรักษาโรคภัยและฟื้นฟูพลังชีวิตได้อย่างมหัศจรรย์บรรดาปีศาจที่เคยคอยรอซุ่มโจมตีและคุกคามตลอดการเดินทางก่อนหน้านี้ ต่างถอยห่างเมื่อเขาถือผลอมฤตไว้อยู่กับตัว ราวกับว่ามันปล่อยพลังที่เป็นเสมือนเขตห
เช้าตรู่บนยอดเขาคุนหลุนในวันนี้ถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบสงบ หมอกบางเบาลอยอ้อยอิ่งคลุมยอดเขาสูงเสียดฟ้า“ฮั่วอู๋ซวน” ยืนอย่างสง่างามอยู่บนเนินเขา สายตาจ้องไปยังเรือนพักของ “ลั่วอี๋เฟิง” ที่ตั้งอยู่เบื้องล่าง ดวงตาของเขาทอแสงแห่งความมุ่งมั่นที่ไม่หวั่นไหว แม้ว่าในห้วงความคิดจะเต็มไปด้วยภาระอันหนักอึ้ง เขาไม่อาจหันหลังกลับได้อีกแล้ว... “ข้าสัญญากับท่านแล้ว ศิษย์พี่…ข้าจะนำผลอมฤตกลับมาให้ท่านให้จงได้ ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับอุปสรรคใดก็ตาม”ฮั่วอู๋ซวนกระชับสายกระเป๋าผ้าแนบไหล่ กระเป๋าใบนี้เต็มไปด้วยของจำเป็นที่จะช่วยเขาในการเดินทางอันยาวไกล“ไม่ว่าจะยากลำบากเพียงใด ข้าจะต้องทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ”เขาบอกกับตัวเองในใจจะไม่ยอมล้มเหลวอีกเป็นอันขาด เพราะความเป็นความตายของลั่วอี๋เฟิงนั้นอยู่ในกำมือของเขาฮั่วอู๋ซวนในวัยเด็กนั้นเต็มไปด้วยความโดดเดี่ยวเพราะเป็นเด็กกำพร้า บิดาและมารดาถูกปีศาจร้ายฆ่าตายทั้งคู่ เขาจึงเติบโตมาโดยไม่มีครอบครัวอยู่เคียงข้างจนกระทั่งวันหนึ่ง เขาได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับสำนักคุนหลุน ที่ผู้คนเชื่อว่าเป็นสำนักฝึกเซียนอันศักดิ์สิทธิ์ที่จะหล่อหลอมผู้คนให้มีจิตใจแข็งแกร่งและปราบปีศ...
Comments