นักฆ่าเกิดใหม่ครั้งที่สองในร่างหวังเย่วซินเด็กสาวที่ย่าแท้ ๆ ขายให้กับพ่อค้าทาส นั่นไม่ใช่ปัญหานางมีเงินที่ซ่อนไว้ในชาติที่แล้ว ไถ่ตัวเองแล้วสร้างฐานะใหม่ เป้าหมายในชาตินี้คือขัดเกลาส่งเสริมน้องชายให้เป็นจอหงวน
Lihat lebih banyakตอนที่ 11 เข้าใจผิด หวังเว่ยซินออกมาโรงน้ำชาด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว นางกระจ่างใจดี ในตอนนี้หวังอี้หยางไม่สามารถเข้าเรียนร่วมกับเด็กคนอื่นได้ ยังมีอีกหลายอย่างที่เด็กชายต้องได้รับการขัดเกลาเป็นพิเศษ นางจึงต้องจำเป็นหาอาจารย์ไปสอนที่เรือนเท่านั้น เดินเล่นไปสักพักก็มาถึงเรือนเสียงพูดคุยของคนข้างใน ผุดความอบอุ่นสายหนึ่งวิ่งเข้ามาทำให้จิตใจของนางสงบลง “กำลังทำอะไรกันอยู่หรือ” จือซือหันมายิ้มให้บุตรสาวแล้วพูดขึ้น “แม่กำลังจะปลูกผัก อย่างไรก็อยู่ว่าง ๆ” หวังเว่ยซินพยักหน้ารับทราบหันไปมองดู หวังอี้หยางกับโจวชุนที่กำลังช่วยกันขุดดินทำแปลงอย่างสนุกสนาน ทุกคนต่างมีสีหน้าดีขึ้นมากพลางคิดในใจ “หากซื้อที่ดินสักหลายแปลงให้พวกเขาทำไร่ทำนาจะดีกว่าไหมนะ” นางนั่งเล่นพูดคุยกับพวกเขาสักพักก็ขอตัวไปพักผ่อน บางอย่างคิดไม่ออกก็ยังไม่ต้องคิด เมื่อเข้ามาในห้องก็หยิบกระดาษออก วาดรูปแบบโรงเตี๊ยมที่ต้องการคร่าว ๆ พอใกล้ถึงมื้อเย็น ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหยุดที่หน้าประตูจากนั้นก็ได้ยินเสียง“พี่สาว ข้าเข้าไปได้หรือไม่” โจวชุนเอ่ยถาม “เข้ามาสิ”
ตอนที่ 10 ปฏิเสธและไม่ปฏิเสธ บนระเบียงชั้นสองโรงน้ำชา หวังเว่ยซินยกชาดื่มรวดเดียวหมดอย่างรู้สึกคับแค้นใจ พลางนึกถึงเรื่องราวในวันนี้ “ขออภัยคุณหนูหวัง ท่านก็ทราบว่าการรับศิษย์ของข้านั้นค่อนข้างเข้มงวด ข้าต้องเสียมารยาทต่อท่านแล้ว”“ขออภัยคุณหนู ข้ามิอาจรับน้องชายของท่านได้จริงๆ” “ขออภัย...นักเรียนของข้าเต็มแล้ว” “ขออภัย...” “ขออภัย......” มือเรียวขาวจับก้อนถ่ายขีดรายชื่อ เหล่าอาจารย์ที่ได้มาจากเด็กที่ร้านหนังสือถูกขีดทิ้งจนหมดสิ้น เด็กสาวเอนกายพิงเสาพลางคิด “หากเอากระบี่พาดคอคนพวกนั้น จะยอมรับหวังอี้หยางเป็นศิษย์หรือเปล่านะ” ในขณะนั้นนางก็เห็นชายเสื้อสีดำลายไก่ฟ้ามาหยุดอยู่เบื้องหน้า เด็กสาวเงยหน้าขึ้นสบกับสายตาของชายหนุ่มมันแฝงประกายเย้ยหยัน มุมปากหล่อเหลายกยิ้มเอ่ย “ท่าทางของคุณหนูหวัง เหนื่อยล้ายิ่งนัก” หวังเว่ยซินเบ้ปากเบือนหน้าหนี นางพอรู้สาเหตุแล้ว บุรุษผู้นี้จิตใจคับแคบ ไม่มีทางปล่อยให้นางล่อเล่นด้วยง่าย ๆ แต่นางเป็นสตรีตัวเล็ก ๆ และนางอุตสาช่วยเหลือให้การสืบข่า
ตอนที่ 9 มันก็ใช่ว่าจะง่าย หลังจากดื่มน้ำชาทานมื้อเที่ยงเสร็จ หวังเว่ยซินก็ไปดูที่ดินที่ตนเองซื้อเอาไว้ นางกระโดนขึ้นไปยืนอยู่บนต้นไม้สูงจุดประจำทอดสายตามองผืนแผ่นดินกว้างด้วยความรู้สึกปลาบปลื้ม พลางมองพลางวางแผนหลายอย่างในใจอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะเร้นกายออกไป หลังจากนั้นก็ ปรากฏบุรุษสวมชุดสีดำลายไก่ฟ้ามายืนแทนที่พลางทอดสายตามองตามร่างอรชนที่เพียงพริบตาก็หายไปร้านเครื่องเขียน “คุณหนูข้าจัดเตรียมให้ท่านเรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดสิบห้าตำลึงขอรับ” หวังเว่ยซินหยิบเงินออกมาจ่าย เด็กในร้านรีบจัดการห่ออุปกรณ์เครื่องเขียนทันที ในขณะที่รอนางก็ได้ยินเสียงหญิงวัยกลางคนผู้หนึ่ง “...ถ้าอย่างนั้นข้าขอกระดาษสักห้าแผ่นก็พอ” “อ่า...จางฮูหยินเช่นนั้นข้าแถมให้ท่านอีกแผ่นละกัน เห็นแก่ความตั้งใจของท่าน” “ขอบคุณ ขอบคุณเถ้าแก่” “..มิกล้า มิกล้า เดินทางกลับดี ๆ ล่ะ” หวังเว่ยซินปรายสายตามองดูหญิงคนนั้นเดินออกจากร้านไป มือที่ถือห่อกระดาษประคับประคองยิ่ง คล้ายมันแบกความฝันของนางเอาไว้ เด็กที่ร้านเห็นนางมองดูพลางขม
ตอนที่ 8 ทุกการเปลี่ยนแปลงต้องปรับตัวทุกคนยังอยู่อาการเหนื่อยล้าจากการเดินทางหวังเว่ยซินจึงจัดมื้อเย็นง่ายในโรงเตี๊ยม กระนั้นก็สร้างความตื่นเต้นประหม่าให้กับพวกเขา “ที่ตรงนั้นเป็นหอสุราหรือเจ้าค่ะ” “แล้วตรงนั้น เป็นเรือสำราญใช่ไหมเจ้าค่ะ” เสียงโจวชุนเอ่ยถามไม่หยุด โชคดีที่เสี่ยวเอ้อก็ตอบยิ้มแย้มตอบคำถามไม่หยุดเหมือนกัน ตอนแรกหวังอี้หยางไม่กล้าเอ่ยวาจาครั้งเห็นโจวชุนพาเจรจาไม่หยุด ก็เอ่ยปากถามบ้าง เกิดเป็นความครื้นเครงขึ้น “พอแล้ว พอแล้ว อาหารมาแล้วมาทานข้าวกันเสียก่อน” จือซือเอ่ยเรียกคนทั้งสอง “ขอรับ/เจ้าค่ะ” “น่ากินทั้งเลย ข้าทานนะเจ้าค่ะ” “ทั้งหมดนี้ คือให้พวกเราทานหรือขอรับ” หวังเว่ยซินยิ้มละมุนตอบ “ใช่ เจ้าทานเยอะ ๆ อย่าให้เหลือเชียว” “ซินเอ๋อร์ มื้อหน้าอย่าสั่งมาเยอะขนาดนี้เลย” “ท่านแม่...พูดเช่นนี้พี่เว่ยซินน้อยใจแย่นะเจ้าคะ” จือซือพลันรู้สึกตกใจรีบพูด “แม่ไม่ได้ตำหนิ เจ้านะ เพียงแต่กลัวว่าจะสิ้นเปลือง เจ้าก็รู้แม่ทานอะไรก็ได้” หวังเว่ยซินเข้าใจดี แต
ตอนที่ 7 ครอบครัวใหม่พี่น้องใหม่ “อะไรนะ” จือซือเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตกใจระคนแปลกใจ “ท่านแม่ฟังไม่ผิด ข้ารับเด็กสาวคนนี้ โจวชุน เป็นน้องสาวบุญธรรม ท่านแม่ได้โปรดเมตตานางด้วย” จือซือปรายสายตาขอความเห็นจากหวังอี้หยาง ทั้งที่ไม่ควรไว้ใจคนส่งเดช ทว่าทั้งสองก็ไม่กล่าวขัดขวางอันใด “ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้ว เจ้าว่าเช่นไรก็ให้เป็นเช่นนั้น” โจวชุนเบิกตากว้างอย่างยินดี นางเดินไปคุกเข่าเบื้องหน้าจือซือพร้อมกล่าวเสียงปนสะอื้น “ข้า ข้าขอคารวะท่านแม่” “เอ่อ...” จือซือตื่นตระหนกกับท่าทีอีกฝ่ายทำไมดูไม่เคอะเขินลื่นไหลขนาดนี้ และนี่หมายความว่านางต้องรับเด็กคนนี้เป็นบุตรสาวบุญธรรมด้วยหรือ แต่พอมองสบตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของเด็กสาว มันสะกิดใจจนนางไม่กล้าทักท้วง กล่าวตอบด้วยเสียงอ่อนโยนอย่างไม่รู้ตัว “ลุกขึ้น ๆ ในเมื่อเป็นครอบครัวเดียวกันจะคุกเข่าทำไม” “ท่านแม่...” โจวชุนกลืนก้อนสะอื้นในคอจากนั้นก็หยิบถุงผ้าออกมา แล้วพูดสิ่งที่ต้องทำ“พี่สาวให้ข้าเตรียมชุดมาเปลี่ยนให้ท่านก่อนเดินทาง..” จากนั้นหวังเว่ย
ตอนที่ 6 ข้านี่ล่ะ หวังเว่ยซิน หลังจากจัดการดูแลให้หวังเว่ยซินเข้าพักในโรงเตี๊ยมเสร็จเรียบร้อย ลู่เมิ่งก็เร้นกายออกไป ชั่วพริบตาเขาก็มาปรากฏกายนั่งอยู่เบื้องหน้าของบุรุษองอาจผู้หนึ่ง ชายหนุ่มผู้นั้นรินสุราให้อีกฝ่ายพร้อมกล่าว “ต้องรบกวนเวลางานของนายน้อยลู่ เกรงใจยิ่งนัก” “ให้ท่านผู้บัญชาการหลีต้องรอ ข้าเองก็รู้สึกผิด” แม้จะกล่าวเช่นนั้น ทว่าน้ำเสียงและสีหน้าของลู่เมิ่งหาได้หมายความเช่นนั้น “มิกล้า มิกล้า ทว่าการที่ได้เจอนายน้อยลู่หานที่นี่..ช่างนับได้ว่าเป็นวาสนา” ลู่หานที่อยู่ในนามลู่เมิ่งยกจอกสุราขึ้นดื่มพลางกล่าว “ข้าก็เช่นกัน” จางเคอรู้สึกเหนื่อยใจกับวาจาทั้งสองฝ่ายยิ่งนัก เขาหวังว่าการสนทนานี้จะจบลงด้วยดีไม่มีการชักกระบี่ออกมา“นายน้อย ลงมือสืบข่าวด้วยตนเองคงมีเรื่องที่น่าสนใจที่หมู่บ้านอี้จือกระมัง” สิ้นวาจาของหลีเซียวหยวน พลันลู่หานก็คล้ายกระจ่างใจบางอย่าง“อ่า...” จอกสุราในมือของหลีเซียวหยวนหยุดชะงัก หรี่ตามองแววตาประกายเต็มไปด้วยนัยแฝงของลู่หาน“มีอะไร”“หึ ท่านเองก็คงตามคุณหนูหวังเว่ยซินมากระมัง”
ตอนที่ 5 ชั่วสม่ำเสมอ ชาวบ้านที่อยากรู้อยากเห็นก็ตามรถม้าของหวังเว่ยซินไป ในขณะที่คนในรถม้ากำลังครุ่นคิดยิ้มมุมปาก นับได้ว่าความชั่วสม่ำเสมอของสกุลหวังทำให้นางประหยัดทั้งเวลาและเงินขึ้นไม่น้อย เดิมคิดว่าต้องใช้เงินจำนวนมากซื้อตัวมารดากับน้องชายเสียอีก และไม่รู้ว่าจะต้องใช้พลังเจรจาแค่ไหน ทว่าในตอนนี้ ในเมื่อถูกขับออกมาแล้วจะไปที่ใดก็ล้วนง่ายเมื่อเข้าไปใกล้เรือน จี้เจินก็ตะโกนเรียกส่งเสียงออกไปก่อน“อี้หยาง อี้หยาง พี่เว่ยซินกลับมาแล้ว” ปัก! ปัก! เสียงผ่าฟืนของหวังอี้หยางถูกเสียงร้องเรียกของจี้เจินขัดจังหวะ จือซือจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนล้าจากอาการป่วย “นั่นไม่ใช่เสียงของจี้เจินหรือ ไปดูเสียหน่อยเถอะ” “ขอรับท่านแม่”หวังอี้หวางวางขวานลง จากนั้นก็เดินไปยังประตูภาพใบหน้ายิ้มแป้นแววตาระยิบระยับของของจี้เจินทำให้เด็กชายขมวดคิ้ว กำลังจะเอ่ยถามสายตาก็มองไปเห็นรถม้าที่กำลังเลื่อนมายังประตูและผู้คนจำนวนสิบกว่าคนกำลังตามมา เมื่อหวังอี้หยางมองเห็นคนเหล่านั้นชัดเจนใบหน้าก็ซีดขึ้น“พวกท่านปู่ท่านย่ามาทำอะไร” จี้เจินไม่ทันสังเกตุเห็นสีหน้าของสหายได้ยินคำถามก็รีบตอบทันที“พวก
ตอนที่ 4 คุกเข่าคารวะ ขบวนเดินทางของหวังเว่ยซินเดินทางโดยไม่หยุดพัก เมื่อตะวันคล้อยบ่ายก็มาถึงประตูเมืองหลงไป๋ หัวหน้าลู่เมิงผู้นำในการเดินทางครั้งนี้ ควบม้ามาใกล้รถม้าแล้วเอ่ยขึ้น “คุณหนูหวังขอรับ ตอนนี้เรากำลังจะเข้าเมืองหลงไป๋ อีกประมาณสองเค่อ ก็จะถึงหมู่บ้านอี้จือ” หวังเว่ยซินได้ยินเช่นนั้นก็เลิกผ้าม่านขึ้น ชโงกหัวออกมาเล็กน้อยพูดขึ้น “รบกวนท่านลู่ให้คนไปจองห้องที่โรงเตี๊ยมสักสามห้องให้ข้า ด้วยคืนนี้เราจะพักในตัวเมือง..และช่วยพาไปยังร้านอาภรณ์กับเครื่องประดับเสียก่อน” ลู่เมิ่งเอ่ยตอบ “ขอรับ..ข้าจะให้คนไปจัดการตอนนี้” เห็นอีกฝ่ายไม่ขมวดคิ้ว ไม่เอ่ยถาม หวังเว่ยซินก็รู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก นางผงกศีรษะเล็กน้อยก่อนจะปิดผ้าม่านลง พอจะต้องเจอกับครอบครัวของเจ้าของร่างนางก็รู้สึกประหม่าอยู่บ้าง เตือนสติตนเอง ต้องอดทนให้มากจุดประสงค์ของนางคือมารับมารดากับน้องชายไปอยู่ด้วย ห้ามทำให้มากเรื่องเด็ดขาด แต่ว่าจะกลับแบบธรรมดาก็ดูจะง่ายไป รถม้าหยุดอยู่ร้านผ้าแพรร้านที่ใหญ่ที่สุด เมื่อเข้าไปในร้านหวังเว่ยซินก็เอ่ยบอกสิ่ง
ตอนที่ 3 บทบาทต่อไป...พี่สาวจอหงวน “คุณหนูหวัง...ถึงโรงเตี๊ยมแล้วขอรับ” เสียงพ่อบ้านเฉิงเอ่ยเรียกอยู่นอกรถม้าด้วยเสียงนอบน้อม พอหวังเว่ยซินเลิกผ้าม่านออกมา ก็เจอป้ายขนาดใหญ่หอสุราชิงเห่อ โรงเตี๊ยมใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง หวังเว่ยซินถอนหายใจ มิต้องสงสัย คงไม่ได้เริ่มต้นแบบชีวิตสตรีชาวบ้านทั่วไปเสียแล้ว นางก้าวลงรถม้า พ่อบ้านเฉิงก็เอ่ยบอก “นี่คือเอกสารของท่านขอรับ เมื่อสักครู่คนเอามาส่งแล้ว” “รบกวนแล้ว ขอบคุณพ่อบ้านเฉิงมาก” “มิกล้า มิกล้า โรงเตี๊ยมนี้ท่านจะอยู่กี่คืนก็ได้ขอรับ ข้าได้สั่งเถ้าแก่เอาไว้ ให้ไปเก็บที่จวน” หวังเว่ยซินยิ้มแห้ง ๆ จากนั้นก็เอ่ย “ท่านพ่อบ้านมีภารกิจมากมาย ขอมิอาจรบกวนนาน ส่งข้าเท่านี้พอ” พ่อบ้านเฉิงถูกกำชับว่าอย่าขัดใจคนเบื้องหน้าเด็ดขาด ก็รีบขานรับทันที “มิกล้า มิกล้า เช่นนั้นบ่าวขอตัว” “เดินทางดี ๆ เจ้าค่ะ” จากนั้นเสี่ยวเอ้อก็มารับหน้าต่อ “คุณหนูเชิญด้านในเจ้าค่ะ ตอนนี้ท่านจะไปยังห้องพักหรือว่านั่งผ่อนคลายที่ระเบียงชั้นสองก่อนดีเจ้าคะ” “ข
ตอนที่ 0 ความเดิมชาติที่แล้ว หวังเว่ยซินในชาติที่แล้ว ทะลุมิติเข้าในนิยายอยู่ในร่างของกู้เฉียวจิงฮูหยินเอกของแม่ทัพบูรพาเสิ่นเยี่ยหงพร้อมมีบุตรด้วยกันสองคน ในวันที่เกิดใหม่พร้อมภารกิจตู้ยาวิเศษ เกิดเรื่องราวมากมายจนกระทั่งนางหลงรักบุตรชายและบุตรสาวทั้งสองคนมากไม่อาจจะตัดใจจากไป ทว่านางไม่มีความรู้สึกลึกซึ้งกับเสิ่นเยี่ยหงแม้แต่น้อยอีกทั้งคนที่บุรุษรักก็ไม่ใช่นาง หากฝืนรักฝืนอยู่ด้วยกันย่อมมีปัญหามากมายตามมาที่หลัง จนกระทั้งทำภารกิจที่ห้าสำเร็จ นางได้รับรางวัลเป็นพรสามประการและยังค้นพบอีกว่าตั้งแต่แรกที่นางมาอยู่ที่นี่...เจ้าของร่างเดิมกู้เฉียวจิงยังอยู่กับนาง เป็นหนึ่งร่างสองวิญญาณ กู้เฉียวจิง เจ้าของร่างเดิมไม่ได้คิดจะทวงร่างคืน เพราะหากไม่มีหวังเว่ยซินที่เข้ามาอยู่ในร่างแทนแม้กระทั่งชีวิตของบุตรชายก็ไม่อาจจะรักษาเอาไว้ได้ บุญคุณครั้งนี้แค่ร่างกายนางยินดีที่จะมอบให้ นางจึงมาขอพรหนึ่งข้อเพื่อไปเกิดใหม่ ทำให้หวังเว่ยซิน ผุดวาบความคิดหนึ่งขึ้นมา ความตั้งใจเดิมของนาง คืออยากออกจากจวนหงอี้โหว อยากหย่า เพียงแต่นางไม่อาจตัดใจทำร้ายจิตใจเด...
Komen