Home / รักโบราณ / พี่สาวจอหงวนไม่ง่าย / ตอนที่ 5  ชั่วสม่ำเสมอ 

Share

ตอนที่ 5  ชั่วสม่ำเสมอ 

last update Last Updated: 2025-04-10 17:34:57

ตอนที่ 5  ชั่วสม่ำเสมอ 

ชาวบ้านที่อยากรู้อยากเห็นก็ตามรถม้าของหวังเว่ยซินไป  ในขณะที่คนในรถม้ากำลังครุ่นคิดยิ้มมุมปาก นับได้ว่าความชั่วสม่ำเสมอของสกุลหวังทำให้นางประหยัดทั้งเวลาและเงินขึ้นไม่น้อย  เดิมคิดว่าต้องใช้เงินจำนวนมากซื้อตัวมารดากับน้องชายเสียอีก และไม่รู้ว่าจะต้องใช้พลังเจรจาแค่ไหน 

ทว่าในตอนนี้  ในเมื่อถูกขับออกมาแล้วจะไปที่ใดก็ล้วนง่าย

เมื่อเข้าไปใกล้เรือน จี้เจินก็ตะโกนเรียกส่งเสียงออกไปก่อน

“อี้หยาง อี้หยาง  พี่เว่ยซินกลับมาแล้ว” 

ปัก! ปัก!   เสียงผ่าฟืนของหวังอี้หยางถูกเสียงร้องเรียกของจี้เจินขัดจังหวะ  จือซือจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนล้าจากอาการป่วย   “นั่นไม่ใช่เสียงของจี้เจินหรือ ไปดูเสียหน่อยเถอะ” 

“ขอรับท่านแม่”

หวังอี้หวางวางขวานลง  จากนั้นก็เดินไปยังประตู

ภาพใบหน้ายิ้มแป้นแววตาระยิบระยับของของจี้เจินทำให้เด็กชายขมวดคิ้ว  กำลังจะเอ่ยถามสายตาก็มองไปเห็นรถม้าที่กำลังเลื่อนมายังประตูและผู้คนจำนวนสิบกว่าคนกำลังตามมา  เมื่อหวังอี้หยางมองเห็นคนเหล่านั้นชัดเจนใบหน้าก็ซีดขึ้น

“พวกท่านปู่ท่านย่ามาทำอะไร”   จี้เจินไม่ทันสังเกตุเห็นสีหน้าของสหายได้ยินคำถามก็รีบตอบทันที

“พวกเขาคงตามพี่เว่ยซินมา..นี่พี่เว่ยซินกลับมาแล้วนะ  นั่นไงนางอยู่ในรถม้านั่น”  หวังอี้หยางไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยิน ขณะนั้นรถม้าก็มาจอดตรงหน้าเรือนแล้วมีหญิงสาวงดงามแต่งกายหรูหราผู้หนึ่งลงมาจากรถม้า  พอเห็นใบหน้าเขาก็พยายามก้าวเท้าเดินออกไปด้วยความยากลำบาก  เอ่ยถามน้ำเสียงสั่น

“พะ..พี่เว่ยซินจริงหรือ”   เด็กชายเอ่ยถามเพราะคิดว่านี้คือความฝัน ไม่ทันได้มองดูให้ชัดอีกสักครั้งภาพตรงหน้าก็พร่ามัวไปหมดเพราะหยาดน้ำตา   หวังเว่ยซินยิ้มอย่างอ่อนโยน  นางเดินเข้าไปโอบกอดเด็กชาย  “พี่กลับมา ..ท่านแม่เล่าท่านแม่อยู่ไหน” 

อี้หยางกลืนก้อนสะอื้นลงคอเอามือปาดน้ำตาลวก ๆ พูด  “ท่านแม่อยู่ในเรือน...พี่สาวรีบเข้าไปหาท่านแม่เถอะ  ท่านล้มป่วยเพราะคิดมากเรื่องท่าน” 

เด็กชายคว้ามือพี่สาวเข้าไปในเรือน   หวังเว่ยซินยังไม่ก้าวเท้าตาม  นางเบือนหน้ามายังลู่เมิ่งกล่าว  “ท่านลู่...รบกวนท่านช่วยเฝ้าประตูเรือน  อย่าให้ผู้ใดเข้าไปข้างในได้”

“ขอรับคุณหนู” 

 ฉับพลันคนของลู่เมิ่งก็เคลื่อนไหวออกมาเป็นกำแพงมนุษย์อยู่หน้าประตูอย่างรวดเร็ว  พวกสกุลหวังที่กำลังจะก้าวเท้าตามหวังเว่ยซินต่างชะงักและเงยหน้ามองอย่างหวาดกลัว  หวังจงได้รับความอับอายอีกครั้ง   เขาข่มความกลัวกล่าว “เรือนนี้เป็นของสกุลหวัง  เหตุใดพวกข้าจะเข้าไปไม่ได้”

ลู่เมิ่งจ้องมองด้วยสายตาดุดัน   กลิ่นอายแผ่ซานความอำมหิตออกมา  ตอบห้วน  “ข้ามิทราบ”

ริมฝีปากของหวังจงสั่นระริก ๆ ทว่าแม้จะเกรงกลัว แต่พวกเขาก็ยังใจดีสู้เสือ หันไปขอความเห็นใจจากชาวบ้านที่มามุงดู  เสียงพูดคุยข้างนอกเริ่มโอนเอียงเข้าข้างสกุลหวัง  หวังเว่ยซินไม่ได้สนใจ  นางคุกเข่าข้างมารดา  “ท่านแม่...ข้ากลับมาแล้วเจ้าค่ะ”

มือหยาบกระด้างของจือซือลูบไล้ไปยังใบหน้าเนียนของหวังเว่ยซินสั่นระริก ๆ   นางจ้องมองบุตรสาวกลัวว่าภาพตรงหน้าจะหายไป เอ่ยเสียงแหบพร่า

“ซินเอ๋อร์  ลูกจริง ๆ ใช่ไหม”

“ท่านแม่ข้าเอง”

จือซือดึงบุตรสาวเข้ามาในอ้อมกอดร้องไห้โหเสียงดัง  “ดีเหลือเกิน  ดีเหลือเกิน”  ทำให้เสียงหน้าเรือนพลันเบาลง

 ลู่เมิ่งยืนนิ่งเฝ้าประตูด้วยท่าทางดุดัน  ใบหน้าไม่แสดงอารมณ์  ทว่าหูกลับกำลังเอียงฟังเสียงข้างในเรือน

หวังเว่ยซินปล่อยให้มารดาร้องไห้ให้หน่ำใจ  ก่อนจะพูดคุย เอ่ยเล่าเรื่องตกแต่งอย่างพิถีพิถันลงท้ายด้วยการขอร้องมารดาออกเดินทางไปด้วยกัน 

“ท่านแม่...ไปกับข้าเถิด ที่นั้นข้ามีพร้อมสำหรับทุกอย่าง  อี้หยางก็จะได้เล่าเรียนมิใช่อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้”

จือซือหลังจากคลายความโคกเศร้าเริ่มมีสติ   นางเหม่อมองบุตรสาว    “ซินเอ๋อร์...ขอเพียงเจ้าอยู่อย่างมีสุขปลอดภัย  แม่อยู่ที่นี่ได้”

หวังเว่ยซินส่ายหน้า   “หากไม่อยู่ร่วมกันข้าก็ไม่อาจจะวางใจได้   ท่านแม่ที่นี่ยังมีสิ่งใดให้ท่านอาวรณ์อีกหรือ”

จือซือสะอึกในลำคอ  นางไตร่ตรองภายในใจอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น  “..แม่เข้าใจแล้ว  เช่นนั้นแม่จะไปกับเจ้า   อี้หยางไปเก็บข้าวของ”

“ขอรับท่านแม่”

หวังเว่ยซินกวาดสายตามองภายในบ้านอันทรุดโทรม  สั่นสะท้านในใจนอกจากอาภรณ์ที่สวมใส่  ล้วนไม่มีสิ่งที่ต้องเก็บสักอย่าง  “เก็บแค่สิ่งของสำคัญเถอะเจ้าค่ะ” 

หวังอี้หยางเห็นสายตาของพี่สาวก็เข้าใจความหมาย  เขาจึงผงกหัวก่อนจะเข้าไปในห้องนอน 

ประตูเรือนถูกเปิดออกมา   ปรากฏภาพหวังเว่ยซินที่กำลังประครองจือซือออกมา   แม้ดวงตาหงส์กับรูปร่างอ่อนซ้อยพวกชาวบ้านจะคุ้นชิน  ทว่าความเด็ดขาดที่แฝงออกมาทางแววตาของหวังเว่ยซินทำให้พวกเขาตกตะลึงไม่กล้าเอ่ยพูดส่งเดช 

“นี่พวกเจ้าจะไปไหน”  หวังจงไม่ยอมแพ้  วันนี้พวกเขาควรจะได้รับผลประโยชน์บ้าง

“ข้าจะพามารดากับน้องชายไปอยู่ที่เมืองหลวงด้วย”  หวังเว่ยซินตอบอย่างไม่ปิดปัง  นางวาดสายตามองกลุ่มคนเบื้องหน้ายิ้มบาง ๆ ชำเลืองมองไปยังลู่เมิ่ง  

“ท่านลู่  ช่วยยกสิ่งที่ข้าเตรียมเอาไว้ออกมาด้วยเจ้าค่ะ”

บ่าวรับใช้ไม่รอให้ลู่เมิ่งสั่งการ  พวกเขารีบนำออกมาทันที  หวังจงและฮูหยินผู้เฒ่าต่างแสดงอาการตื่นเต้น  คาดหวังหลายอย่างในใจ  ยิ่งเมื่อเปิดหีบออกพวกเขาก็เบิกตามองแววตาเปี่ยมด้วยความปิติยินดี  ก้าวเท้าออกไปแต่ไปทันได้แตะต้องหีบก็ถูกกระบี่ขวางทางเอาไว้   หวังหนิงรีบพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน

“ซินเอ๋อร์  ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าเป็นเด็กมีน้ำใจ  ย่อมแบ่งปั่นวาสนาในครั้งนี้เป็นแน่”

รอยยิ้มเย้ยหยันที่มุมปาก ดูแฝงเจตนาร้ายชัดเจน ทำให้หวังหนิงที่กำลังจะพูดต่อหยุดชะงัก  “เจ้ายิ้มเช่นนี้  หมายความว่าอย่างไร” 

หวังเว่ยซินก้าวออกไปก้มหยิบเครื่องประดับชุดหนึ่งออกมา  แล้วเดินออกไปยังเบื้องหน้าเด็กสาวคนหนึ่ง  “อิ้จิน...ข้าจำได้ได้ว่าเจ้าชอบผีเสื้อ”

อี้จินตกตะลึงไม่คิดว่า  หวังเว่ยซินจะเอ่ยและมอบของให้ตน  นางมองปิ่นหยกแกะสลักผีเสื้อกำลังโบยบินอย่างสับสนอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น  “เว่ยซิน  มันล้ำค่าเกินไป ข้ารับไม่ได้หรอก”  หวังเว่ยซินดันเครื่องประดับให้ต่อ   “ถือว่าเป็นของที่ข้ามอบให้เจ้า  ตอบแทนที่เคยช่วยเหลือข้าตลอดมา”

จากนั้นนางก็หันกลับไปหยิบผ้านวมผืนใหญ่แล้วเดินไปยังหญิงวัยกลางคนผู้หนึ่ง    “ป้าจาง  ผ้านวมผืนนี้ตอบแทนที่ท่านให้ความอบอุ่นกับข้า”   

ป้าจางมองดูผ้านวมในมือหวังเว่ยซินไม่กล้าปฏิเสธ  หน้าหนาวแต่ละปีช่างเหน็บหนาวเหลือเกิน

“ซินเอ๋อร์  เจ้าจะไม่กลับมาอีกแล้วหรือ”  ป้าจางเอ่ยถาม

“ข้ามิทราบ”   จากนั้นนางก็หันไปหยิบสิ่งของอีก  ชาวบ้านมีจำนวนมากขึ้น ทุกคนต่างได้รับสิ่งที่ควรได้รับแม้กระทั่ง  จี้เจินก็ยังได้รับเงินเป็นค่าเล่าเรียนเพิ่มอีกสิบตำลึง 

ลู่เมิ่งปรายตามอง  หวังเว่ยซินที่กำลังมอบของให้เหล่าชาวบ้าน  นางไม่เพียงมอบให้เฉย ๆ ยังเอ่ยวาจาอีกหลายประโยคแสดงความสนิทสนมคุ้นเคย  ชายหนุ่มตั้งคำถาม

นางกำลังแสดงให้เขาดูหรือให้ใครดูกันแน่ 

คนสกุลหวังที่คาดหวังว่าตนเองจะได้รับสีหน้าเปลี่ยนจากยิ้มระรื่นเป็นเขียวคล้ำขึ้นเรื่อย ๆ   หวังเว่ยซินมอบสิ่งของออกไปจนเกือบหมดสิ้น  แล้ว!!  หวังจงทนไม่ไหวเอ่ยขึ้น 

“หวังเว่ยซิน  เจ้าทำเช่นนี้หมายความอย่างไร  เจ้ากำลังเหยียบหยามพวกข้าหรือ” 

หวังเว่ยซินเค่นยิ้มในลำคอ   ในที่สุดก็รู้ตัวเสียที    

“มิใช่ข้าบอกไปแล้วหรือทุกคนที่ข้ามอบให้ล้วนมีเหตุผลนะ”  ชาวบ้านที่ได้ผลประโยชน์ต่างหยักหน้า

“เช่นนั้นแล้วของข้าเล่า”  หวังหนิงโวยวายขึ้น

“ฮ่า  ฮ่า...เช่นนั้นท่านลองกล่าวมาเถิดว่าข้าควรมอบให้ท่านด้วยเหตุผลใด”  หวังหนิงชะงัก ทวนความทรงจำ  แต่ภาพที่ประกฏออกมานางกลับไม่กล้าพูดออกมา  เสียงตนเองด่าทอหวังเว่ยซินทุกวี่วันผุดขึ้นมา เสียงตบตีอีกฝ่าย  ไม่ว่าจะพยายามคิดอย่างไรก็ยังหาเหตุผลไม่ได้   แต่นางยังแถออกไป

“แล้วท่านแม่เล่า  มิใช่ท่านแม่หรือที่มอบเงินให้แม่เจ้าไปซื้อย่ามารักษาเจ้าตอนป่วย อีกทั้งเรือนและอาหารที่เลี้ยงเจ้าจนเติบโตมาจนบัดนี้  เจ้าจะไม่สำนึกบุญคุณสักนิดหรือ”

วาจานี้  หวังเว่ยซินย่อมรู้ว่าอีกฝ่ายจะต้องเอ่ย  นางจึงยกหีบเงินออกมา  จากนั้นก็ก้าวออกไป  ไม่รู้ว่านางสะดุดอะไรทำให้หีบเงินหล่นออกจากมือ  เงินตำลึงจำนวนประมาณห้าสิบตำลึงหล่นกระจายออกมา

“นี่เจ้า  นี่เจ้า จงใจใช่หรือไม่”  หวังจงชี้หน้าหวังเว่ยซินไม่ทันได้ด่าอะไร  ก็หันไปเห็นบุตรหลานของตนเองช่วยกันเก็บเงินดังกล่าว  มีเงินก้อนหนึ่งกลิ้งมาที่เท้าของเขา  หวังจงจ้องมองหวังเว่ยซินสั่งให้นางก้มลงไปเก็บ  แน่นอนว่านางไม่ทำ..ในจังหวะนั้นหญิงรับใช้ที่หวังเว่ยซินจ้างมาชั่วคราวก็โผล่ออกมาทำทีจะก้มลงเก็บเงินด้วยความโลภหวังจงไม่ทันคิด  เขารีบก้มลงเก็บเงินนั่นทันที

หึ!  หวังเว่ยซินยิ้มอย่างพอใจ  นับว่าช่วยทำให้ภาพลักษณ์สกุลหวังลดลงไปมาก  เอาเท่านี้ก็พอ

นางหันไปประครองให้มารดาขึ้นรถม้า  หวังหนิงรีบตะโกนทันที  “หวังเว่ยซิน  เงินพวกนี้ข้าดูแล้วน่าจะไม่กี่สิบตำลึง  เจ้าตอบแทนสกุลหวังเท่านี้หรือ”

จือซือกำลังจะเอ่ยปาก  เสียงหัวเราะเยาะของหวังเว่ยซินทำให้นางชะงักไม่กล้าพูด 

“ด้วยการเลี้ยงดูอย่างที่พวกเจ้าทำ  ชาวบ้านทุกคนต่างรับรู้  ไม่รวมที่ท่านเมตตาขายข้าให้คนพ่อค้าค้าทาส ไล่มารดาและน้องชายข้ามาอยู่ที่เก่าซอมซ่อ  ท่านคิดว่าพวกท่านควรได้รับเท่าไร”    น้ำเสียงท้าทายแฝงความขบขันขมขืน

ชาวบ้านที่ได้รับผลประโยชน์ต่างหันส่งสายตา  เย้ยหยันสกุลหลังทำให้หวังจงไม่กล้าเอ่ยวาจา 

จือซือ ย่อคารวะบอกลาทุกคนอีกครั้ง    “ทุกท่านโปรดดูแลสุขภาพด้วย”  จากนั้นก็ขึ้นรถม้าไป  หวังอี้หยางหันไปลาสหายแล้วค่อยขึ้นรถม้าตามมารดา

หวังเว่ยซินยิ้มน้อย ๆ โค้งศรีษะ แล้วหันไปพยักหน้าให้ลู่เมิ่ง

ฮูหยินผู้เฒ่าจ้องมองเข้าของต่าง ๆ ที่อยู่ในมือชาวบ้านด้วยสายตาเคียดแค้น  

มันควรเป็นของข้า  มันควรเป็นของข้า

นางก้าวเท้าหวังจะเข้าไปคุยกับหวังเว่ยซินก็ถูกคนของ     ลู่เมิ่งขวางเอาไว้

หวังเว่ยซินเลิกผ้าม่านออกมาสบตาเหยียดหยามฮูหยินผู้เฒ่าอีกครั้ง  เช่นนี้ เป็นการแก้แค้นที่ดีที่สุด

พวกคนโลภเมื่อต้องสูญเสียสิ่งที่ตนเองควรจะได้  ทุกราตรี  มิอาจนอนหลับสนิท ยามเข้าสู่ห้วงฝันก็จะเพ้อถึงของที่ถูกแย่งชิงไป

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • พี่สาวจอหงวนไม่ง่าย   ตอนที่ 6  ข้านี่ล่ะ หวังเว่ยซิน

    ตอนที่ 6 ข้านี่ล่ะ หวังเว่ยซิน หลังจากจัดการดูแลให้หวังเว่ยซินเข้าพักในโรงเตี๊ยมเสร็จเรียบร้อย ลู่เมิ่งก็เร้นกายออกไป ชั่วพริบตาเขาก็มาปรากฏกายนั่งอยู่เบื้องหน้าของบุรุษองอาจผู้หนึ่ง ชายหนุ่มผู้นั้นรินสุราให้อีกฝ่ายพร้อมกล่าว “ต้องรบกวนเวลางานของนายน้อยลู่ เกรงใจยิ่งนัก” “ให้ท่านผู้บัญชาการหลีต้องรอ ข้าเองก็รู้สึกผิด” แม้จะกล่าวเช่นนั้น ทว่าน้ำเสียงและสีหน้าของลู่เมิ่งหาได้หมายความเช่นนั้น “มิกล้า มิกล้า ทว่าการที่ได้เจอนายน้อยลู่หานที่นี่..ช่างนับได้ว่าเป็นวาสนา” ลู่หานที่อยู่ในนามลู่เมิ่งยกจอกสุราขึ้นดื่มพลางกล่าว “ข้าก็เช่นกัน” จางเคอรู้สึกเหนื่อยใจกับวาจาทั้งสองฝ่ายยิ่งนัก เขาหวังว่าการสนทนานี้จะจบลงด้วยดีไม่มีการชักกระบี่ออกมา“นายน้อย ลงมือสืบข่าวด้วยตนเองคงมีเรื่องที่น่าสนใจที่หมู่บ้านอี้จือกระมัง” สิ้นวาจาของหลีเซียวหยวน พลันลู่หานก็คล้ายกระจ่างใจบางอย่าง“อ่า...” จอกสุราในมือของหลีเซียวหยวนหยุดชะงัก หรี่ตามองแววตาประกายเต็มไปด้วยนัยแฝงของลู่หาน“มีอะไร”“หึ ท่านเองก็คงตามคุณหนูหวังเว่ยซินมากระมัง”

    Last Updated : 2025-04-10
  • พี่สาวจอหงวนไม่ง่าย   ตอนที่ 7  ครอบครัวใหม่พี่น้องใหม่

    ตอนที่ 7 ครอบครัวใหม่พี่น้องใหม่ “อะไรนะ” จือซือเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตกใจระคนแปลกใจ “ท่านแม่ฟังไม่ผิด ข้ารับเด็กสาวคนนี้ โจวชุน เป็นน้องสาวบุญธรรม ท่านแม่ได้โปรดเมตตานางด้วย” จือซือปรายสายตาขอความเห็นจากหวังอี้หยาง ทั้งที่ไม่ควรไว้ใจคนส่งเดช ทว่าทั้งสองก็ไม่กล่าวขัดขวางอันใด “ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้ว เจ้าว่าเช่นไรก็ให้เป็นเช่นนั้น” โจวชุนเบิกตากว้างอย่างยินดี นางเดินไปคุกเข่าเบื้องหน้าจือซือพร้อมกล่าวเสียงปนสะอื้น “ข้า ข้าขอคารวะท่านแม่” “เอ่อ...” จือซือตื่นตระหนกกับท่าทีอีกฝ่ายทำไมดูไม่เคอะเขินลื่นไหลขนาดนี้ และนี่หมายความว่านางต้องรับเด็กคนนี้เป็นบุตรสาวบุญธรรมด้วยหรือ แต่พอมองสบตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของเด็กสาว มันสะกิดใจจนนางไม่กล้าทักท้วง กล่าวตอบด้วยเสียงอ่อนโยนอย่างไม่รู้ตัว “ลุกขึ้น ๆ ในเมื่อเป็นครอบครัวเดียวกันจะคุกเข่าทำไม” “ท่านแม่...” โจวชุนกลืนก้อนสะอื้นในคอจากนั้นก็หยิบถุงผ้าออกมา แล้วพูดสิ่งที่ต้องทำ“พี่สาวให้ข้าเตรียมชุดมาเปลี่ยนให้ท่านก่อนเดินทาง..” จากนั้นหวังเว่ย

    Last Updated : 2025-04-10
  • พี่สาวจอหงวนไม่ง่าย   ตอนที่ 8  ทุกการเปลี่ยนแปลงต้องปรับตัว

    ตอนที่ 8 ทุกการเปลี่ยนแปลงต้องปรับตัวทุกคนยังอยู่อาการเหนื่อยล้าจากการเดินทางหวังเว่ยซินจึงจัดมื้อเย็นง่ายในโรงเตี๊ยม กระนั้นก็สร้างความตื่นเต้นประหม่าให้กับพวกเขา “ที่ตรงนั้นเป็นหอสุราหรือเจ้าค่ะ” “แล้วตรงนั้น เป็นเรือสำราญใช่ไหมเจ้าค่ะ” เสียงโจวชุนเอ่ยถามไม่หยุด โชคดีที่เสี่ยวเอ้อก็ตอบยิ้มแย้มตอบคำถามไม่หยุดเหมือนกัน ตอนแรกหวังอี้หยางไม่กล้าเอ่ยวาจาครั้งเห็นโจวชุนพาเจรจาไม่หยุด ก็เอ่ยปากถามบ้าง เกิดเป็นความครื้นเครงขึ้น “พอแล้ว พอแล้ว อาหารมาแล้วมาทานข้าวกันเสียก่อน” จือซือเอ่ยเรียกคนทั้งสอง “ขอรับ/เจ้าค่ะ” “น่ากินทั้งเลย ข้าทานนะเจ้าค่ะ” “ทั้งหมดนี้ คือให้พวกเราทานหรือขอรับ” หวังเว่ยซินยิ้มละมุนตอบ “ใช่ เจ้าทานเยอะ ๆ อย่าให้เหลือเชียว” “ซินเอ๋อร์ มื้อหน้าอย่าสั่งมาเยอะขนาดนี้เลย” “ท่านแม่...พูดเช่นนี้พี่เว่ยซินน้อยใจแย่นะเจ้าคะ” จือซือพลันรู้สึกตกใจรีบพูด “แม่ไม่ได้ตำหนิ เจ้านะ เพียงแต่กลัวว่าจะสิ้นเปลือง เจ้าก็รู้แม่ทานอะไรก็ได้” หวังเว่ยซินเข้าใจดี แต

    Last Updated : 2025-04-11
  • พี่สาวจอหงวนไม่ง่าย   ตอนที่ 9  มันก็ใช่ว่าจะง่าย

    ตอนที่ 9 มันก็ใช่ว่าจะง่าย หลังจากดื่มน้ำชาทานมื้อเที่ยงเสร็จ หวังเว่ยซินก็ไปดูที่ดินที่ตนเองซื้อเอาไว้ นางกระโดนขึ้นไปยืนอยู่บนต้นไม้สูงจุดประจำทอดสายตามองผืนแผ่นดินกว้างด้วยความรู้สึกปลาบปลื้ม พลางมองพลางวางแผนหลายอย่างในใจอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะเร้นกายออกไป หลังจากนั้นก็ ปรากฏบุรุษสวมชุดสีดำลายไก่ฟ้ามายืนแทนที่พลางทอดสายตามองตามร่างอรชนที่เพียงพริบตาก็หายไปร้านเครื่องเขียน “คุณหนูข้าจัดเตรียมให้ท่านเรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดสิบห้าตำลึงขอรับ” หวังเว่ยซินหยิบเงินออกมาจ่าย เด็กในร้านรีบจัดการห่ออุปกรณ์เครื่องเขียนทันที ในขณะที่รอนางก็ได้ยินเสียงหญิงวัยกลางคนผู้หนึ่ง “...ถ้าอย่างนั้นข้าขอกระดาษสักห้าแผ่นก็พอ” “อ่า...จางฮูหยินเช่นนั้นข้าแถมให้ท่านอีกแผ่นละกัน เห็นแก่ความตั้งใจของท่าน” “ขอบคุณ ขอบคุณเถ้าแก่” “..มิกล้า มิกล้า เดินทางกลับดี ๆ ล่ะ” หวังเว่ยซินปรายสายตามองดูหญิงคนนั้นเดินออกจากร้านไป มือที่ถือห่อกระดาษประคับประคองยิ่ง คล้ายมันแบกความฝันของนางเอาไว้ เด็กที่ร้านเห็นนางมองดูพลางขม

    Last Updated : 2025-04-11
  • พี่สาวจอหงวนไม่ง่าย   ตอนที่ 10  ปฏิเสธและไม่ปฏิเสธ

    ตอนที่ 10 ปฏิเสธและไม่ปฏิเสธ บนระเบียงชั้นสองโรงน้ำชา หวังเว่ยซินยกชาดื่มรวดเดียวหมดอย่างรู้สึกคับแค้นใจ พลางนึกถึงเรื่องราวในวันนี้ “ขออภัยคุณหนูหวัง ท่านก็ทราบว่าการรับศิษย์ของข้านั้นค่อนข้างเข้มงวด ข้าต้องเสียมารยาทต่อท่านแล้ว”“ขออภัยคุณหนู ข้ามิอาจรับน้องชายของท่านได้จริงๆ” “ขออภัย...นักเรียนของข้าเต็มแล้ว” “ขออภัย...” “ขออภัย......” มือเรียวขาวจับก้อนถ่ายขีดรายชื่อ เหล่าอาจารย์ที่ได้มาจากเด็กที่ร้านหนังสือถูกขีดทิ้งจนหมดสิ้น เด็กสาวเอนกายพิงเสาพลางคิด “หากเอากระบี่พาดคอคนพวกนั้น จะยอมรับหวังอี้หยางเป็นศิษย์หรือเปล่านะ” ในขณะนั้นนางก็เห็นชายเสื้อสีดำลายไก่ฟ้ามาหยุดอยู่เบื้องหน้า เด็กสาวเงยหน้าขึ้นสบกับสายตาของชายหนุ่มมันแฝงประกายเย้ยหยัน มุมปากหล่อเหลายกยิ้มเอ่ย “ท่าทางของคุณหนูหวัง เหนื่อยล้ายิ่งนัก” หวังเว่ยซินเบ้ปากเบือนหน้าหนี นางพอรู้สาเหตุแล้ว บุรุษผู้นี้จิตใจคับแคบ ไม่มีทางปล่อยให้นางล่อเล่นด้วยง่าย ๆ แต่นางเป็นสตรีตัวเล็ก ๆ และนางอุตสาช่วยเหลือให้การสืบข่า

    Last Updated : 2025-04-12
  • พี่สาวจอหงวนไม่ง่าย   ตอนที่ 11  เข้าใจผิด

    ตอนที่ 11 เข้าใจผิด หวังเว่ยซินออกมาโรงน้ำชาด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว นางกระจ่างใจดี ในตอนนี้หวังอี้หยางไม่สามารถเข้าเรียนร่วมกับเด็กคนอื่นได้ ยังมีอีกหลายอย่างที่เด็กชายต้องได้รับการขัดเกลาเป็นพิเศษ นางจึงต้องจำเป็นหาอาจารย์ไปสอนที่เรือนเท่านั้น เดินเล่นไปสักพักก็มาถึงเรือนเสียงพูดคุยของคนข้างใน ผุดความอบอุ่นสายหนึ่งวิ่งเข้ามาทำให้จิตใจของนางสงบลง “กำลังทำอะไรกันอยู่หรือ” จือซือหันมายิ้มให้บุตรสาวแล้วพูดขึ้น “แม่กำลังจะปลูกผัก อย่างไรก็อยู่ว่าง ๆ” หวังเว่ยซินพยักหน้ารับทราบหันไปมองดู หวังอี้หยางกับโจวชุนที่กำลังช่วยกันขุดดินทำแปลงอย่างสนุกสนาน ทุกคนต่างมีสีหน้าดีขึ้นมากพลางคิดในใจ “หากซื้อที่ดินสักหลายแปลงให้พวกเขาทำไร่ทำนาจะดีกว่าไหมนะ” นางนั่งเล่นพูดคุยกับพวกเขาสักพักก็ขอตัวไปพักผ่อน บางอย่างคิดไม่ออกก็ยังไม่ต้องคิด เมื่อเข้ามาในห้องก็หยิบกระดาษออก วาดรูปแบบโรงเตี๊ยมที่ต้องการคร่าว ๆ พอใกล้ถึงมื้อเย็น ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหยุดที่หน้าประตูจากนั้นก็ได้ยินเสียง“พี่สาว ข้าเข้าไปได้หรือไม่” โจวชุนเอ่ยถาม “เข้ามาสิ”

    Last Updated : 2025-04-12
  • พี่สาวจอหงวนไม่ง่าย   ตอนที่ 12  ได้เริ่มต้นแล้ว

    ตอนที่ 12 ได้เริ่มต้นแล้วรุ่งเช้าหวังเว่ยซินก็ไปปรากฏกายที่ร้านเครื่องเขียน“จางฮูหยินหรือขอรับ?” เด็กในร้านทวนวาจาของหวังเว่ยซิน“ใช่...ข้าต้องการรู้ที่อยู่ของนาง” “ได้ ๆ ขอรับ...” หลังจากได้ที่อยู่สักพัก หวังเว่ยซินก็มาปรากฏกายอยู่หน้าเรือนของสกุลจาง เรือนหลังเล็กค่อนข้างทรุดโทรม ประตูเรือนถูกปิดเอาไว้ไม่ได้ใส่กุญแจไม่เกรงกลัวผู้ใดจะเข้าไปขโมยของ เด็กสาวแต่งกายงดงามโดดเด่นเพื่อนบ้านที่ชะโงก มองดูนางยืนอยู่ครู่หนึ่งก็ตะโกนมาบอก“คุณหนู..สกุลจาง... ไม่มีผู้ใดอยู่หรอก พวกเขาออกไปทำงานกันหมดแล้ว” หวังเว่ยซินหันไป ถามต่อ “ท่านป้าพอทราบหรือไม่ พวกเขาจะกลับมาเมื่อไร”“ลูกชายกับลูกสาวออกไปรับจ้างทำนา คงมืดค่ำจึงจะได้กลับ ส่วนจางฮูหยินออกไปขายขนม ขายหมดเมื่อไรก็กลับมาเมื่อนั้น”ไม่มีคนอยู่เรือน หวังเว่ยซินตะโกนขอบคุณกลับ แล้วเดินออกมา ในเมื่อรู้ที่พักแล้วเย็นนี้ค่อยกลับมาเจอพวกเขา จากนั้นนางก็เร้นกายออกไปยังชานเมืองหาโรงน้ำชาเงียบสงบสักที่ ออกแบบโรงเตี๊ยมของนางต่อ เสร็จแล้วจะได้หาผู้รับเหมาก่อสร้างเสียทีทว่า บรรยากาศโรงน้ำชานอกเมืองหาได้เงียบสงบดั่งใจคิด กลุ่มคนเดินทาง

    Last Updated : 2025-04-14
  • พี่สาวจอหงวนไม่ง่าย   ตอนที่ 0 ความเดิมชาติที่แล้ว

    ตอนที่ 0 ความเดิมชาติที่แล้ว หวังเว่ยซินในชาติที่แล้ว ทะลุมิติเข้าในนิยายอยู่ในร่างของกู้เฉียวจิงฮูหยินเอกของแม่ทัพบูรพาเสิ่นเยี่ยหงพร้อมมีบุตรด้วยกันสองคน ในวันที่เกิดใหม่พร้อมภารกิจตู้ยาวิเศษ เกิดเรื่องราวมากมายจนกระทั่งนางหลงรักบุตรชายและบุตรสาวทั้งสองคนมากไม่อาจจะตัดใจจากไป ทว่านางไม่มีความรู้สึกลึกซึ้งกับเสิ่นเยี่ยหงแม้แต่น้อยอีกทั้งคนที่บุรุษรักก็ไม่ใช่นาง หากฝืนรักฝืนอยู่ด้วยกันย่อมมีปัญหามากมายตามมาที่หลัง จนกระทั้งทำภารกิจที่ห้าสำเร็จ นางได้รับรางวัลเป็นพรสามประการและยังค้นพบอีกว่าตั้งแต่แรกที่นางมาอยู่ที่นี่...เจ้าของร่างเดิมกู้เฉียวจิงยังอยู่กับนาง เป็นหนึ่งร่างสองวิญญาณ กู้เฉียวจิง เจ้าของร่างเดิมไม่ได้คิดจะทวงร่างคืน เพราะหากไม่มีหวังเว่ยซินที่เข้ามาอยู่ในร่างแทนแม้กระทั่งชีวิตของบุตรชายก็ไม่อาจจะรักษาเอาไว้ได้ บุญคุณครั้งนี้แค่ร่างกายนางยินดีที่จะมอบให้ นางจึงมาขอพรหนึ่งข้อเพื่อไปเกิดใหม่ ทำให้หวังเว่ยซิน ผุดวาบความคิดหนึ่งขึ้นมา ความตั้งใจเดิมของนาง คืออยากออกจากจวนหงอี้โหว อยากหย่า เพียงแต่นางไม่อาจตัดใจทำร้ายจิตใจเด

    Last Updated : 2025-04-09

Latest chapter

  • พี่สาวจอหงวนไม่ง่าย   ตอนที่ 12  ได้เริ่มต้นแล้ว

    ตอนที่ 12 ได้เริ่มต้นแล้วรุ่งเช้าหวังเว่ยซินก็ไปปรากฏกายที่ร้านเครื่องเขียน“จางฮูหยินหรือขอรับ?” เด็กในร้านทวนวาจาของหวังเว่ยซิน“ใช่...ข้าต้องการรู้ที่อยู่ของนาง” “ได้ ๆ ขอรับ...” หลังจากได้ที่อยู่สักพัก หวังเว่ยซินก็มาปรากฏกายอยู่หน้าเรือนของสกุลจาง เรือนหลังเล็กค่อนข้างทรุดโทรม ประตูเรือนถูกปิดเอาไว้ไม่ได้ใส่กุญแจไม่เกรงกลัวผู้ใดจะเข้าไปขโมยของ เด็กสาวแต่งกายงดงามโดดเด่นเพื่อนบ้านที่ชะโงก มองดูนางยืนอยู่ครู่หนึ่งก็ตะโกนมาบอก“คุณหนู..สกุลจาง... ไม่มีผู้ใดอยู่หรอก พวกเขาออกไปทำงานกันหมดแล้ว” หวังเว่ยซินหันไป ถามต่อ “ท่านป้าพอทราบหรือไม่ พวกเขาจะกลับมาเมื่อไร”“ลูกชายกับลูกสาวออกไปรับจ้างทำนา คงมืดค่ำจึงจะได้กลับ ส่วนจางฮูหยินออกไปขายขนม ขายหมดเมื่อไรก็กลับมาเมื่อนั้น”ไม่มีคนอยู่เรือน หวังเว่ยซินตะโกนขอบคุณกลับ แล้วเดินออกมา ในเมื่อรู้ที่พักแล้วเย็นนี้ค่อยกลับมาเจอพวกเขา จากนั้นนางก็เร้นกายออกไปยังชานเมืองหาโรงน้ำชาเงียบสงบสักที่ ออกแบบโรงเตี๊ยมของนางต่อ เสร็จแล้วจะได้หาผู้รับเหมาก่อสร้างเสียทีทว่า บรรยากาศโรงน้ำชานอกเมืองหาได้เงียบสงบดั่งใจคิด กลุ่มคนเดินทาง

  • พี่สาวจอหงวนไม่ง่าย   ตอนที่ 11  เข้าใจผิด

    ตอนที่ 11 เข้าใจผิด หวังเว่ยซินออกมาโรงน้ำชาด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว นางกระจ่างใจดี ในตอนนี้หวังอี้หยางไม่สามารถเข้าเรียนร่วมกับเด็กคนอื่นได้ ยังมีอีกหลายอย่างที่เด็กชายต้องได้รับการขัดเกลาเป็นพิเศษ นางจึงต้องจำเป็นหาอาจารย์ไปสอนที่เรือนเท่านั้น เดินเล่นไปสักพักก็มาถึงเรือนเสียงพูดคุยของคนข้างใน ผุดความอบอุ่นสายหนึ่งวิ่งเข้ามาทำให้จิตใจของนางสงบลง “กำลังทำอะไรกันอยู่หรือ” จือซือหันมายิ้มให้บุตรสาวแล้วพูดขึ้น “แม่กำลังจะปลูกผัก อย่างไรก็อยู่ว่าง ๆ” หวังเว่ยซินพยักหน้ารับทราบหันไปมองดู หวังอี้หยางกับโจวชุนที่กำลังช่วยกันขุดดินทำแปลงอย่างสนุกสนาน ทุกคนต่างมีสีหน้าดีขึ้นมากพลางคิดในใจ “หากซื้อที่ดินสักหลายแปลงให้พวกเขาทำไร่ทำนาจะดีกว่าไหมนะ” นางนั่งเล่นพูดคุยกับพวกเขาสักพักก็ขอตัวไปพักผ่อน บางอย่างคิดไม่ออกก็ยังไม่ต้องคิด เมื่อเข้ามาในห้องก็หยิบกระดาษออก วาดรูปแบบโรงเตี๊ยมที่ต้องการคร่าว ๆ พอใกล้ถึงมื้อเย็น ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหยุดที่หน้าประตูจากนั้นก็ได้ยินเสียง“พี่สาว ข้าเข้าไปได้หรือไม่” โจวชุนเอ่ยถาม “เข้ามาสิ”

  • พี่สาวจอหงวนไม่ง่าย   ตอนที่ 10  ปฏิเสธและไม่ปฏิเสธ

    ตอนที่ 10 ปฏิเสธและไม่ปฏิเสธ บนระเบียงชั้นสองโรงน้ำชา หวังเว่ยซินยกชาดื่มรวดเดียวหมดอย่างรู้สึกคับแค้นใจ พลางนึกถึงเรื่องราวในวันนี้ “ขออภัยคุณหนูหวัง ท่านก็ทราบว่าการรับศิษย์ของข้านั้นค่อนข้างเข้มงวด ข้าต้องเสียมารยาทต่อท่านแล้ว”“ขออภัยคุณหนู ข้ามิอาจรับน้องชายของท่านได้จริงๆ” “ขออภัย...นักเรียนของข้าเต็มแล้ว” “ขออภัย...” “ขออภัย......” มือเรียวขาวจับก้อนถ่ายขีดรายชื่อ เหล่าอาจารย์ที่ได้มาจากเด็กที่ร้านหนังสือถูกขีดทิ้งจนหมดสิ้น เด็กสาวเอนกายพิงเสาพลางคิด “หากเอากระบี่พาดคอคนพวกนั้น จะยอมรับหวังอี้หยางเป็นศิษย์หรือเปล่านะ” ในขณะนั้นนางก็เห็นชายเสื้อสีดำลายไก่ฟ้ามาหยุดอยู่เบื้องหน้า เด็กสาวเงยหน้าขึ้นสบกับสายตาของชายหนุ่มมันแฝงประกายเย้ยหยัน มุมปากหล่อเหลายกยิ้มเอ่ย “ท่าทางของคุณหนูหวัง เหนื่อยล้ายิ่งนัก” หวังเว่ยซินเบ้ปากเบือนหน้าหนี นางพอรู้สาเหตุแล้ว บุรุษผู้นี้จิตใจคับแคบ ไม่มีทางปล่อยให้นางล่อเล่นด้วยง่าย ๆ แต่นางเป็นสตรีตัวเล็ก ๆ และนางอุตสาช่วยเหลือให้การสืบข่า

  • พี่สาวจอหงวนไม่ง่าย   ตอนที่ 9  มันก็ใช่ว่าจะง่าย

    ตอนที่ 9 มันก็ใช่ว่าจะง่าย หลังจากดื่มน้ำชาทานมื้อเที่ยงเสร็จ หวังเว่ยซินก็ไปดูที่ดินที่ตนเองซื้อเอาไว้ นางกระโดนขึ้นไปยืนอยู่บนต้นไม้สูงจุดประจำทอดสายตามองผืนแผ่นดินกว้างด้วยความรู้สึกปลาบปลื้ม พลางมองพลางวางแผนหลายอย่างในใจอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะเร้นกายออกไป หลังจากนั้นก็ ปรากฏบุรุษสวมชุดสีดำลายไก่ฟ้ามายืนแทนที่พลางทอดสายตามองตามร่างอรชนที่เพียงพริบตาก็หายไปร้านเครื่องเขียน “คุณหนูข้าจัดเตรียมให้ท่านเรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดสิบห้าตำลึงขอรับ” หวังเว่ยซินหยิบเงินออกมาจ่าย เด็กในร้านรีบจัดการห่ออุปกรณ์เครื่องเขียนทันที ในขณะที่รอนางก็ได้ยินเสียงหญิงวัยกลางคนผู้หนึ่ง “...ถ้าอย่างนั้นข้าขอกระดาษสักห้าแผ่นก็พอ” “อ่า...จางฮูหยินเช่นนั้นข้าแถมให้ท่านอีกแผ่นละกัน เห็นแก่ความตั้งใจของท่าน” “ขอบคุณ ขอบคุณเถ้าแก่” “..มิกล้า มิกล้า เดินทางกลับดี ๆ ล่ะ” หวังเว่ยซินปรายสายตามองดูหญิงคนนั้นเดินออกจากร้านไป มือที่ถือห่อกระดาษประคับประคองยิ่ง คล้ายมันแบกความฝันของนางเอาไว้ เด็กที่ร้านเห็นนางมองดูพลางขม

  • พี่สาวจอหงวนไม่ง่าย   ตอนที่ 8  ทุกการเปลี่ยนแปลงต้องปรับตัว

    ตอนที่ 8 ทุกการเปลี่ยนแปลงต้องปรับตัวทุกคนยังอยู่อาการเหนื่อยล้าจากการเดินทางหวังเว่ยซินจึงจัดมื้อเย็นง่ายในโรงเตี๊ยม กระนั้นก็สร้างความตื่นเต้นประหม่าให้กับพวกเขา “ที่ตรงนั้นเป็นหอสุราหรือเจ้าค่ะ” “แล้วตรงนั้น เป็นเรือสำราญใช่ไหมเจ้าค่ะ” เสียงโจวชุนเอ่ยถามไม่หยุด โชคดีที่เสี่ยวเอ้อก็ตอบยิ้มแย้มตอบคำถามไม่หยุดเหมือนกัน ตอนแรกหวังอี้หยางไม่กล้าเอ่ยวาจาครั้งเห็นโจวชุนพาเจรจาไม่หยุด ก็เอ่ยปากถามบ้าง เกิดเป็นความครื้นเครงขึ้น “พอแล้ว พอแล้ว อาหารมาแล้วมาทานข้าวกันเสียก่อน” จือซือเอ่ยเรียกคนทั้งสอง “ขอรับ/เจ้าค่ะ” “น่ากินทั้งเลย ข้าทานนะเจ้าค่ะ” “ทั้งหมดนี้ คือให้พวกเราทานหรือขอรับ” หวังเว่ยซินยิ้มละมุนตอบ “ใช่ เจ้าทานเยอะ ๆ อย่าให้เหลือเชียว” “ซินเอ๋อร์ มื้อหน้าอย่าสั่งมาเยอะขนาดนี้เลย” “ท่านแม่...พูดเช่นนี้พี่เว่ยซินน้อยใจแย่นะเจ้าคะ” จือซือพลันรู้สึกตกใจรีบพูด “แม่ไม่ได้ตำหนิ เจ้านะ เพียงแต่กลัวว่าจะสิ้นเปลือง เจ้าก็รู้แม่ทานอะไรก็ได้” หวังเว่ยซินเข้าใจดี แต

  • พี่สาวจอหงวนไม่ง่าย   ตอนที่ 7  ครอบครัวใหม่พี่น้องใหม่

    ตอนที่ 7 ครอบครัวใหม่พี่น้องใหม่ “อะไรนะ” จือซือเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตกใจระคนแปลกใจ “ท่านแม่ฟังไม่ผิด ข้ารับเด็กสาวคนนี้ โจวชุน เป็นน้องสาวบุญธรรม ท่านแม่ได้โปรดเมตตานางด้วย” จือซือปรายสายตาขอความเห็นจากหวังอี้หยาง ทั้งที่ไม่ควรไว้ใจคนส่งเดช ทว่าทั้งสองก็ไม่กล่าวขัดขวางอันใด “ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้ว เจ้าว่าเช่นไรก็ให้เป็นเช่นนั้น” โจวชุนเบิกตากว้างอย่างยินดี นางเดินไปคุกเข่าเบื้องหน้าจือซือพร้อมกล่าวเสียงปนสะอื้น “ข้า ข้าขอคารวะท่านแม่” “เอ่อ...” จือซือตื่นตระหนกกับท่าทีอีกฝ่ายทำไมดูไม่เคอะเขินลื่นไหลขนาดนี้ และนี่หมายความว่านางต้องรับเด็กคนนี้เป็นบุตรสาวบุญธรรมด้วยหรือ แต่พอมองสบตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของเด็กสาว มันสะกิดใจจนนางไม่กล้าทักท้วง กล่าวตอบด้วยเสียงอ่อนโยนอย่างไม่รู้ตัว “ลุกขึ้น ๆ ในเมื่อเป็นครอบครัวเดียวกันจะคุกเข่าทำไม” “ท่านแม่...” โจวชุนกลืนก้อนสะอื้นในคอจากนั้นก็หยิบถุงผ้าออกมา แล้วพูดสิ่งที่ต้องทำ“พี่สาวให้ข้าเตรียมชุดมาเปลี่ยนให้ท่านก่อนเดินทาง..” จากนั้นหวังเว่ย

  • พี่สาวจอหงวนไม่ง่าย   ตอนที่ 6  ข้านี่ล่ะ หวังเว่ยซิน

    ตอนที่ 6 ข้านี่ล่ะ หวังเว่ยซิน หลังจากจัดการดูแลให้หวังเว่ยซินเข้าพักในโรงเตี๊ยมเสร็จเรียบร้อย ลู่เมิ่งก็เร้นกายออกไป ชั่วพริบตาเขาก็มาปรากฏกายนั่งอยู่เบื้องหน้าของบุรุษองอาจผู้หนึ่ง ชายหนุ่มผู้นั้นรินสุราให้อีกฝ่ายพร้อมกล่าว “ต้องรบกวนเวลางานของนายน้อยลู่ เกรงใจยิ่งนัก” “ให้ท่านผู้บัญชาการหลีต้องรอ ข้าเองก็รู้สึกผิด” แม้จะกล่าวเช่นนั้น ทว่าน้ำเสียงและสีหน้าของลู่เมิ่งหาได้หมายความเช่นนั้น “มิกล้า มิกล้า ทว่าการที่ได้เจอนายน้อยลู่หานที่นี่..ช่างนับได้ว่าเป็นวาสนา” ลู่หานที่อยู่ในนามลู่เมิ่งยกจอกสุราขึ้นดื่มพลางกล่าว “ข้าก็เช่นกัน” จางเคอรู้สึกเหนื่อยใจกับวาจาทั้งสองฝ่ายยิ่งนัก เขาหวังว่าการสนทนานี้จะจบลงด้วยดีไม่มีการชักกระบี่ออกมา“นายน้อย ลงมือสืบข่าวด้วยตนเองคงมีเรื่องที่น่าสนใจที่หมู่บ้านอี้จือกระมัง” สิ้นวาจาของหลีเซียวหยวน พลันลู่หานก็คล้ายกระจ่างใจบางอย่าง“อ่า...” จอกสุราในมือของหลีเซียวหยวนหยุดชะงัก หรี่ตามองแววตาประกายเต็มไปด้วยนัยแฝงของลู่หาน“มีอะไร”“หึ ท่านเองก็คงตามคุณหนูหวังเว่ยซินมากระมัง”

  • พี่สาวจอหงวนไม่ง่าย   ตอนที่ 5  ชั่วสม่ำเสมอ 

    ตอนที่ 5 ชั่วสม่ำเสมอ ชาวบ้านที่อยากรู้อยากเห็นก็ตามรถม้าของหวังเว่ยซินไป ในขณะที่คนในรถม้ากำลังครุ่นคิดยิ้มมุมปาก นับได้ว่าความชั่วสม่ำเสมอของสกุลหวังทำให้นางประหยัดทั้งเวลาและเงินขึ้นไม่น้อย เดิมคิดว่าต้องใช้เงินจำนวนมากซื้อตัวมารดากับน้องชายเสียอีก และไม่รู้ว่าจะต้องใช้พลังเจรจาแค่ไหน ทว่าในตอนนี้ ในเมื่อถูกขับออกมาแล้วจะไปที่ใดก็ล้วนง่ายเมื่อเข้าไปใกล้เรือน จี้เจินก็ตะโกนเรียกส่งเสียงออกไปก่อน“อี้หยาง อี้หยาง พี่เว่ยซินกลับมาแล้ว” ปัก! ปัก! เสียงผ่าฟืนของหวังอี้หยางถูกเสียงร้องเรียกของจี้เจินขัดจังหวะ จือซือจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนล้าจากอาการป่วย “นั่นไม่ใช่เสียงของจี้เจินหรือ ไปดูเสียหน่อยเถอะ” “ขอรับท่านแม่”หวังอี้หวางวางขวานลง จากนั้นก็เดินไปยังประตูภาพใบหน้ายิ้มแป้นแววตาระยิบระยับของของจี้เจินทำให้เด็กชายขมวดคิ้ว กำลังจะเอ่ยถามสายตาก็มองไปเห็นรถม้าที่กำลังเลื่อนมายังประตูและผู้คนจำนวนสิบกว่าคนกำลังตามมา เมื่อหวังอี้หยางมองเห็นคนเหล่านั้นชัดเจนใบหน้าก็ซีดขึ้น“พวกท่านปู่ท่านย่ามาทำอะไร” จี้เจินไม่ทันสังเกตุเห็นสีหน้าของสหายได้ยินคำถามก็รีบตอบทันที“พวก

  • พี่สาวจอหงวนไม่ง่าย   ตอนที่ 4  คุกเข่าคารวะ

    ตอนที่ 4 คุกเข่าคารวะ ขบวนเดินทางของหวังเว่ยซินเดินทางโดยไม่หยุดพัก เมื่อตะวันคล้อยบ่ายก็มาถึงประตูเมืองหลงไป๋ หัวหน้าลู่เมิงผู้นำในการเดินทางครั้งนี้ ควบม้ามาใกล้รถม้าแล้วเอ่ยขึ้น “คุณหนูหวังขอรับ ตอนนี้เรากำลังจะเข้าเมืองหลงไป๋ อีกประมาณสองเค่อ ก็จะถึงหมู่บ้านอี้จือ” หวังเว่ยซินได้ยินเช่นนั้นก็เลิกผ้าม่านขึ้น ชโงกหัวออกมาเล็กน้อยพูดขึ้น “รบกวนท่านลู่ให้คนไปจองห้องที่โรงเตี๊ยมสักสามห้องให้ข้า ด้วยคืนนี้เราจะพักในตัวเมือง..และช่วยพาไปยังร้านอาภรณ์กับเครื่องประดับเสียก่อน” ลู่เมิ่งเอ่ยตอบ “ขอรับ..ข้าจะให้คนไปจัดการตอนนี้” เห็นอีกฝ่ายไม่ขมวดคิ้ว ไม่เอ่ยถาม หวังเว่ยซินก็รู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก นางผงกศีรษะเล็กน้อยก่อนจะปิดผ้าม่านลง พอจะต้องเจอกับครอบครัวของเจ้าของร่างนางก็รู้สึกประหม่าอยู่บ้าง เตือนสติตนเอง ต้องอดทนให้มากจุดประสงค์ของนางคือมารับมารดากับน้องชายไปอยู่ด้วย ห้ามทำให้มากเรื่องเด็ดขาด แต่ว่าจะกลับแบบธรรมดาก็ดูจะง่ายไป รถม้าหยุดอยู่ร้านผ้าแพรร้านที่ใหญ่ที่สุด เมื่อเข้าไปในร้านหวังเว่ยซินก็เอ่ยบอกสิ่ง

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status