"ผมเป็นคนพูดแล้วไม่คืนคำ ครั้งก่อนๆพ่อคุณก็มาเสนอด้วยตัวเองครั้งนี้ส่งลูกสาวมาคงจะคิดสินะครับว่าผมจะคงรับข้อเสนอเพราะเห็นว่าคุณเป็นผู้หญิงแต่คิดผิดที่ผมเชิญคุณมาคุยกะทันหันวันนี้ เพราะผมจะบอกว่าครั้งหน้าไม่ต้องเสนออะไรมาอีกเพราะผมไม่คิดแม้แต่จะเปิดข้อเสนอดูมันเสียเวลาเปล่า หรือถ้าจะใช้ตัวคุณเสนอผมก็ไม่ยอมรับอยู่ดี"
โนอาห์เอ่ยอย่างตรงไปตรงมาหวังว่าคราวหน้าจะไม่มีข้อเสนอจากMHLให้เขาต้องพิจารณาอะไรอีก
"มันจะมากไปแล้วนะคะ หึ่"
ไอรีนกำมือแน่นเอไม่ได้หวังจะมาเสนอตัวอะไรให้กับโนอาห์เลยสักนิดซ้ำตอนนี้ยังถูกดูถูกจนหน้าชาเธอรีบหยิบเอกสารแล้วเดินหันหลังกลับในทันที
“จำเอาไว้โนอาห์ฉันจะทำให้คุณมาขอร้องที่จะร่วมงานกับฉันเองให้ได้”
ไอรีนนั่งรถกลับไปด้วยใจที่แค้นเคืองโนอาห์อยู่หลายเรื่องจากคราแรกที่เธอไม่อยากจะร่วมงานกับโนอาห์แต่ถูกพ่อเธอบังคับให้มาตอนนี้เธอชักอยากจะลองท้าทายเขาดูสักตั้งแล้วเธออยากจะรู้เหมือนกันว่าคนที่หยิ่งทรนงตนอย่างโนอาห์ถึงวันที่ต้องขอร้องเธอจะมีสีหน้าเป็นอย่างไร
คฤหาสน์ซาเรฟ
"เสื้อผ้าพวกนี้ส่งซักรีดเรียบร้อยแล้วนะคะ"
นาเดียกำลังจัดแจงเสื้อผ้าที่พึ่งส่งมาใส่ตู้ให้กับนายหญิงของเธอ
"ห้องนี้ตู้เสื้อผ้าเยอะจังเลยนะคะ"
ตรีรัตน์เห็นว่าเสื้อผ้าของเธอกับลูกก็มีเพียงแค่คนละตู้ไม่รู้ว่าอีกตู้ใหญ่มีไว้เพื่ออะไร
“ค่ะ"
นาเดียไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่พยักหน้าให้กับตรีรัตน์ด้วยรอยยิ้มเท่านั้น
“แล้วทำไมคนที่นี่ถึงพูดไทยได้หมดล่ะคะ”
เป็นเรื่องที่ตรีรัตน์ยังคงสงสัยอีกเรื่องโดยเฉพาะโนอาห์ที่พูดไทยชัดจนเธอแปลกใจ
“คนที่นี่พูดได้หลายภาษาค่ะแต่ที่พูดไทยได้คล่องก็เพราะคุณท่านเป็นคนไทยค่ะ”
“คุณท่าน”
“คุณย่าของนายน่ะค่ะ”
คุณย่าของโนอาห์เป็นคนไทยคนที่นี่ก็เลยพูดภาษาไทยเป็นกันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
“อ๋อ..ค่ะ”
ตรีรัตน์พยักหน้าหากนาเดียไม่บอกเธอก็ไม่รู้เลยว่าโนอาห์มีเชื้อสายเป็นคนไทยอยู่ด้วย
หลังจากที่นาเดียเก็บของให้ตรีรัตน์เสร็จแล้วจึงพาทั้งตรีรัตน์และคุณหนูของเธอที่พึ่งจะตื่นลงมาทานอาหารเย็นที่ห้องทานอาหารชั้นล่าง
"แอ้ๆ.."
หนูน้อยที่อยู่ในรถนั่งยัดกำปั้นเข้าปากยกใหญ่จนนาเดียต้องรีบหยิบถ้วยข้าวมาป้อน
"ท่าทางคุณหนูจะหิวมากเลยนะคะ"
นาเดียอมยิ้มให้กับพฤติกรรมของหนูน้อยที่น่าเอ็นดูตรงหน้า
"ยัดกำปั้นใส่ปากอีกแล้วนะลูก"
ตรีรัตน์ส่ายหัวเบาๆเป็นแบบนี้ทุกทีเวลาหิวเธอไม่รู้ว่าเด็กเล็กๆเป็นแบบนี้ทุกคนหรือเปล่าเพราะเจ้าแฝดน้ำเมยกับน้ำปายก็เป็นเช่นกันในตอนอายุเท่านี้
"แล้วคุณไม่ทานข้าวเหรอคะ"
ตรีรัตน์เห็นนาเดียคอยป้อนข้าวให้ลูกของเธอทั้งที่เวลานี้มันเป็นเวลาอาหารเย็น
"ฉันทานแล้วค่ะไม่ต้องเป็นห่วง"
นาเดียหันมายิ้มอ่อนพร้อมส่ายหัวให้กับตรีรัตน์พวกเธอทานอาหารกันก่อนเวลานี้อยู่แล้วทั้งยังดีใจที่นายหญิงของเธอนั้นเป็นห่วงเธอ
"แอ้.. อื้มม"
เมื่อคนป้อนไม่ค่อยทันใจหนูน้อยนิชารีก็เริ่มส่งเสียงร้องประท้วง
"คุณหนูทานเก่งมากเลยนะคะนายหญิง"
นาเดียเห็นว่าข้าวหมดถ้วยแล้วเธอจึงไมได้ป้อนต่อแต่ดูเหมือนคุณหนูของเธอนั้นยังจะไม่อิ่มง่ายๆ
"ค่ะ...ถ้ารอให้อิ่มเองยังไงก็ไม่ยอมอิ่ม"
ตรีรัตน์รู้นิสัยของลูกเธอดีหากไม่หยุดป้อนก็ไม่ยอมอิ่มง่ายๆต้องทำร้ายจิตใจเรื่องนี้กันสักหน่อยแต่เพื่อลูกเธอจะไม่เสียสุขภาพเธอก็ต้องทำ
"นั่นสิคะฉันก็คิดอยู่เหมือนกันเลยค่ะ...แล้วนายหญิงล่ะคะอาหารถูกปากหรือเปล่า นายจ้างแม่ครัวคนไทยมาเลยนะคะ"
"อาหารอะไรฉันก็ทานได้หมดค่ะ...เอ่อ..คุณนาเดียคะ"
คำพูดของนาเดียมันฟังดูน่าปลื้มใจแต่เธอไม่ได้คิดแบบนั้นเลยยิ่งรู้ว่าโนอาห์ทำแบบนี้เท่ากับเขาเตรียมพร้อมที่จะให้เธออยู่ที่นี่ตลอดไปมากกว่ายิ่งมองไปรอบๆเธอนึกว่าเธอกำลังถูกคุมขังอยู่เพราะไม่ว่าเธอจะเดินไปทางไหนก็ต้องมีบอดี้การ์ดสามสี่คนคอยยืนคุมอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลตลอด
"คะนายหญิง"
"เมื่อไรพวกเค้าจะออกไปคะ"
ตรีรัตน์มองไปทางบอดี้การ์ดที่กำลังยืนเฝ้ากันอยู่ใกล้ๆ
"อ๋อ...พวกเค้าเป็นบอดี้การ์ดประจำตัวนายหญิงกับคุณหนูค่ะจะอยู่ใกล้ๆตลอด"
"ม..หมดนี่เลยเหรอคะ.."
"ใช่ค่ะ"
"เฮ้อ...เหมือนฉันเป็นผู้ต้องขังเลยนะคะ"
ตรีรัตน์ถึงกับต้องนั่งถอนหายใจเฮือกใหญ่แบบนี้เหรอตามสบายที่โนอาห์พูด
"ไม่หรอกค่ะนายหญิงอย่าคิดมากสิคะเพื่อความปลอดภัยค่ะ"
นาเดียส่ายหัวเป็นคำตอบให้กับนายหญิงเธอเข้าใจว่าไม่นานเดี๋ยวตรีรัตน์ก็จะชินไปเอง
22.00 น.
"เฮ้อ..."
ตรีรัตน์ยังคงหลับไม่ลงแม้ว่าลูกสาวของเธอจะหลับไปนานแล้วก็ตามเธอยังคงยืนมองผ่านไปยังนอกหน้าต่างเธอคิดไม่ออกเลยว่าจะพาลูกออกไปจากที่นี่ยังไง แถมยิ่งมองเหล่าบอดี้การ์ดที่เดินตรวจตรารอบๆอยู่ตลอดเวลาก็ยิ่งหมดหวังทั้งยังนึกถึงเรื่องเก่าๆที่ทำให้เธอต้องมาพบเจอคนอย่างโนอาห์อีกด้วยเพราะความที่ไว้ใจคนผิดแท้ๆ
เรื่องราวในอดีตย้อนไปเมื่อตอนที่ตรีรัตน์เป็นนักศึกษาปีสองอยู่ที่มหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร“แตงกวาผลงานของเธอได้รับคัดเลือกนะ”ปารวีบอกข่าวดีกับตรีรัตน์ในขณะที่ตรีรัตน์กับเธอนั่งอ่านหนังสืออยู่ด้วยกันในห้องสมุดของมหาลัยปารวีหญิงสาวลูกคุณหนูไฮโซที่เป็นเพื่อนคนเดียวของตรีรัตน์เพราะมหาลัยเอกชนชื่อดังแห่งนี้ไม่มีคนที่อยากจะสุงสิงนักเรียนทุนอย่างเธอเท่าไรนักเพราะไม่ใช่ลูกผู้ดีชนชั้นเดียวกับคนอื่นๆมีเพียงปารวีคนเดียวเท่านั้นที่เป็นเพื่อนกับเธอตั้งแต่ปีหนึ่ง“ผลงานอะไรเหรอ” ตรีรัตน์ทำหน้าสงสัยเล็กน้อย“รูปสร้อยคอที่เธอออกแบบไงเราเอาส่งไปประกวดแต่เป็นชื่อเราเธอไม่ว่าอะไรเรานะ”“อ๋อ..ที่เราวาดให้เธอน่ะเหรอ”ตรีรัตน์พอจะจำได้แล้วว่ารูปนั้นคือรูปอะไรมันเป็นเพียงรูปที่เธอออกแบบแล้วให้เพื่อนเธอใช้ส่งอาจารย์นั่นเอง“ใช่...วันอาทิตย์นี้บริษัทที่ฉันส่งไปประกวดเค้านัดคุยเพื่อที่จะซื้อลิขสิทธิ์ภาพนี้เธอไปกับเรานะเงินที่ได้เราเธอจะได้เอาไว้ใช้ไง”“ได้สิขอบใจนะลูกปลา”ตรีรัตน์รู้สึกของคุณปารวีมากที่หาทางช่วยเหลือเธออยู่ตลอด“สองสาวทำอะไรกันอยู่เหรอ” ฉัตรภพเข้ามาทักทายสองสาวด้วยเสียงที่ไม่ได้
“อืม..จำได้ดีเลยล่ะ”ปารวีพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม“นายครับเธอรออยู่ที่หน้าห้องแล้วครับ”มัคซิมบอกถึงเรื่องที่ประชาสัมพันธ์แจ้งมากับโนอาห์“อืม”“เชิญคุณปารวีครับ”เมื่อมัคซิมและโนอาห์มาถึงห้องสัมภาษณ์มัคซิมเห็นสองสาวนั่งอยู่ด้วยกันจึงเอ่ยเรียกปารวีเพื่อเชิญเข้าไปคุยด้านใน“เอ่อ..”ตรีรัตน์มองเห็นโนอาห์เธอก็จำได้ทันทีว่าเขาเป็นคนที่เธอเจอเมื่อเช้าแม้จะแค่แวบเดียวเธอก็จำได้จึงรีบก้มหน้าลงเล็กน้อย โนอาห์อมยิ้มมุมปากเล็กน้อยเมื่อเห็นหญิงสาวที่เขาพึ่งเจอเธอเมื่อเช้าแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปและเดินเข้าห้องไปครู่ต่อมา“ไม่ยักรู้นะว่าเด็กสมัยนี้จะฝีมือระดับนี้ฉันยอมรับว่าเธอเก่งจริงๆ” โนอาห์เอ่ยชมปารวีหลงจากที่เข้ามาคุยกันในห้องแล้ว“ขอบคุณค่ะ”“ฉันอยากจะรู้ว่าแรงบันดาลใจที่ทำให้เธอสร้างสรรค์ผลงานนี้ขึ้นมาได้คืออะไร”“คือ..สร้อยที่ฉันออกแบบอยากทำให้ใส่ได้ตั้งแต่วัยรุ่นถึงวัยผู้ใหญ่จึงไม่ได้ดูลูกเล่นเยอะจนเกินไปแต่ก็ดูทันสมัยค่ะสิ่งที่คิดตอนแรกก็คือฉันอยากให้สร้อยเส้นนี้ดูน้อยแต่มากแม้จะไม่ค่อยมีลูกเล่นอะไรแต่ดูสะดุดตา”ปารวีตอบฉะฉานเธอจำได้หมดทุกคำที่ตรีรัตน์บอก“อืม..ดีแล้ว นั่นเพื่อนเธอใช่ไหม”โ
"อย่าพูดมากเลยไปกับฉัน"โนอาห์ไม่จำเป็นจะต้องอธิบายอะไรในเมื่อเธอรับเงินเขาไปแล้วก็เท่ากับรู้ข้อตกลงแล้วเขาจึงลากเธอขึ้นไปชั้นบนกับเขา"ปล่อยฉันนะคะ นี่คุณจะทำอะไร"ตรีรัตน์ยื้นสุดแรงที่จะไม่ให้เขาลากเธอไปได้"เธอนี่ก็ตีหน้าซื่อเก่งเหมือนกันนะ เงินฉันก็ให้ไปเยอะแล้วอย่าแสดงเพื่อเรียกราคาเพิ่มเลย""พูดอะไรของคุณ""เธอขายตัวให้ฉันแล้วเพราะฉะนั้นฉันจะทำอะไรกับตัวเธอก็ได้"โนอาห์หันมาตวาดใส่หญิงสาวที่กำลังขัดขืน"ขายตัวอะไรของคุณปล่อยนะฉันไม่ได้มาขายตัวฉันแค่เอาของมาให้แทนเพื่อนเฉยๆ"ตรีรัตน์เบิกตาโพลงเธอคิดว่าเขาเข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้วเพล้งงงง หญิงสาววาดมือไปหยิบแจกันใบเล็กที่วางตกแต่งอยู่ข้างทางขึ้นฟาดไปที่หัวของชายหนุ่มเต็มๆและรีบวิ่งหนีไปเธอไม่ได้อยากให้ใครเจ็บตัวแต่เป็นเขาที่ไม่ยอมฟังเธออธิบายเองทั้งยังจะทำมิดีมิร้ายกับเธออีก"โอ้ยย...ยัยเด็กบ้าเอ้ยกลับมาเดี๋ยวนี้นะ"โนอาห์ถึงกับฟุบลงไปกองกับพื้นด้วยความเจ็บ"ขายตัวบ้าบออะไรกันอีตาโรคจิตเอ้ย ชาตินี้ขออย่าได้เจอกันเลย"ตรีรัตน์รีบวิ่งหนีออกมาด้วยอาการตกใจทั้งยังรู้สึกกลัวอยู่ไม่น้อยกับเหตุการณ์ที่พึ่งเจอเมื่อครู่ชั่วโมงต่อมา"เฮ้อ ทำ
"ฉลาดนี่ให้เพื่อนรับเงินแทนแล้วบอกว่าไม่รู้เรื่อง คิดว่าข้ออ้างแค่นี้จะปฏิเสธอะไรฉันได้หรือไง"โนอาห์ลากตัวหญิงสาวมาไว้ในอ้อมกอดและกระซิบเสียงพร่าข้างๆหูของเธอเบาๆ"ปล่อยนะไอ้โรคจิต"ตรีรัตน์ขืนตัวสุดชีวิตแต่เหมือนแรงของเธอจะทำอะไรคนตัวโตไม่ได้เลยสักเล็กน้อยเธอยังคงติดอยู่ในพันธนาการของเขาอยู่แบบนั้น“ถ้าเธอทำตัวดีๆกับฉันคงไม่ต้องมาเจออะไรแบบนี้หรอก"โนอาห์ผลักหญิงสาวนอนราบไปกับเตียงส่วนเขาก็คร่อมตัวเธอเอาไว้ไม่ให้หนีไปไหนได้และเริ่มใช้บริการร่างบางให้คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปในทันที"ฮือๆๆๆ"ตอนนี้ก็มีเพียงเสียงร้องเจ็บปวดจากหญิงสาวเท่านั้นเพราะเธออยากขัดขืนเท่าไรก็ทำไม่ได้และความบริสุทธิ์ของเธอก็ได้เสียให้คนใจร้ายไปในคืนนี้ตั้งแต่คืนนั้นก็เป็นอาทิตย์แล้วที่โนอาห์กักขังหญิงสาวไว้ที่นี่เพื่อบำเรอเขาและวันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายที่โนอาห์จะขังเธอไว้ที่นี่เนื่องจากหมดสัญญาที่เขาตกลงซื้อเธอแล้ว“ฉันอยากให้เธอเป็นผู้หญิงของฉันต่อไปแล้วเธออยากจะได้อะไรฉันจะหามาให้ทุกอย่าง"โนอาห์นอนกอดหญิงสาวอยู่บนเตียงนุ่มตอนนี้ร่างของทั้งสองเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงมีเพียงผ้านวมผืนใหญ่ที่ปกปิดร่างของทั้งสองเอาไว้
"นายครับนิติบอกว่าเธอย้ายออกไปแล้วครับคุณลูกปลาก็ไม่รู้ด้วยว่าคุณแตงกวาไปไหน""อะไรนะ"หลังจากเสร็จธุระจากญี่ปุ่นเมื่อไปร่วมเดือนโนอาห์ก็กลับมาที่ไทยอีกครั้งเพื่อมาเอาคำตอบจากหญิงสาวแต่เขาก็ต้องผิดหวังเพราะตอนนี้หญิงสาวไม่ได้อยู่ที่กรุงเทพแล้วหากเธอไม่อยากสุขสบายเขาก็จะไม่ตามเธอแล้วเพราะเขาอุตส่าห์เสียเวลากลับมาหาเธอขนาดนี้เธอยังไม่สนเขาจึงบินกลับไปเพื่อทำงานของตัวเองต่อปัจจุบัน02.30"หลับแล้วสินะ"โนอาห์กลับมาถึงคฤหาสน์ในเวลาเกือบตีสามเขาไม่เปิดไฟเพราะกลัวว่าตรีรัตน์กับลูกของเขาจะตื่นอาศัยแสงจากโคมไฟที่หัวเตียงมองทางเท่านั้นชายหนุ่มยิ้มอ่อนเมื่อเห็นทั้งสองหลับไปได้คราแรกเขานึกว่าตรีรัตน์จะหลับไม่ลงเสียอีกเขายืนมองหญิงสาวกับลูกสลับกันไปมาด้วยท่าทีครุ่นคิดเขามองทั้งสองอยู่อย่างนั้นครู่ใหญ่เพราะไม่เคยคิดเลยว่าวันนึงเขาจะมีภรรยาและลูกนอนรออยู่ที่บ้านแบบนี้มันเป็นความรู้สึกที่แปลกใหม่แต่ก็เป็นความรู้สึกที่ทำให้เขาอยากกลับมาที่นี่มากขึ้นกว่าแต่ก่อนครึ่งชั่วโมงต่อมา"ยัยตัวเล็กอย่าหนีแดดดี๊ไปไหนนะครับ"โนอาห์จัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเขาก็มายืนมองหน้าลูกน้อยในเปลทั้งยื่นมือหนาเขี่ย
ครู่ต่อมา"นาเดียพาลูกฉันไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า"โนอาห์เรียกให้นาเดียมารับตัวลูกของเขาไปหลังจากเล่นน้ำได้พักใหญ่แล้ว"ค่ะนาย""เธอเอาชุดคลุมให้ฉันหน่อย"โนอาห์เห็นตรีรัตน์กำลังจะเดินตามนาเดียไปเขาจึงเรียกให้เธอหยิบชุดคลุมให้เขา"อื้อ...ว้ายยย"ตู้มม ตรีรัตน์หยิบชุดคลุมยื่นส่งให้ชายหนุ่มแต่เขาไม่ได้ดึงแค่ชุดคลุมไปดันดึงมือเธอล่วงน้ำไปเสียอย่างนั้น“นี่เธอ"โนอาห์เห็นตรีรัตน์ตะเกียกตะกายจะให้พ้นน้ำเขาก็รู้ได้ทันทีว่าเธอว่ายน้ำไม่เป็นจึงรีบคว้าตัวเธอเอาไว้ในอ้อมกอด"นี่ทำอะไรของคุณฉันว่ายน้ำไม่เป็นนะ จะฆ่าฉันหรือไง"ตรีรัตน์พ้นจากน้ำขึ้นมาได้ก็เกาะตัวโนอาห์เอาไว้แน่นอนเพราะเธอตกใจมากเธอกลัวที่สุดคือน้ำเพราะเธอว่าน้ำไม่เป็น"ใครจะฆ่าเมียตัวเองลง"โนอาห์ยอมรับว่าใจเสียไม่น้อยแต่เมื่อได้ยินหญิงสาวต่อว่าเขาได้เขาก็โล่งใจทั้งยังยียวนกวนประสาทเธอเล่นด้วยคำพูดที่น่าจะแสลงหูเธออีกด้วย"เลิกพูดว่าฉันเป็นเมียคุณซะทีได้ไหมคะ"เป็นอีกครั้งที่คำพูดของเขาทำให้เธอต้องมองค้อนเพราะไม่พอใจ"แล้วเธอไม่ใช่เมียฉันงั้นเหรอ"โนอาห์หมายจะหอมแก้มนวลแต่เธอก็หันหนีเขาเสียก่อน"หยุดพูดได้แล้ว ฉันหนาว"ตรีรัตน์รีบห
"ตั้งแต่นายหญิงกับคุณหนูมาอยู่ที่นี่นายก็ดูอารมณ์ดีขึ้นแถมกลับมาที่นี่ทุกวันด้วยนะคะ"นาเดียพูดไปยิ้มไปตั้งแต่ที่ตรีรัตน์มาอยู่ที่นี่คฤหาสน์นี้ก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมากกว่าแต่ก่อนมากคงเพราะมีเด็กเล็กอยู่และอีกอย่างก็คือโนอาห์กลับมาที่นี่ทุกวันที่นี่จึงแลดูเป็นบ้านมากขึ้น"เมื่อก่อนเค้าไม่ได้เป็นแบบนี้เหรอคะ"ตรีรัตน์ถามนาเดียกลับด้วยสีหน้าสงสัยเธอคิดว่าเขาจะอยู่ที่นี่ตลอดเสียอีก"เมื่อก่อนนายจะนอนที่เพนท์เฮ้าส์หรือไม่ก็โรงแรมใกล้ๆบริษัทที่ไปตรวจงานน่ะค่ะ""แล้วก็อาจจะมีอยู่กับผู้หญิงด้วยใช่ไหมคะ"ตรีรัตน์เอ่ยด้วยรอยยิ้มอ่อนที่เธอกล้าพูดแบบนี้ได้เพราะเธอไม่ได้คิดอะไรกับโนอาห์แม้แต่น้อย"เอ่อ..คือ"นาเดียถึงกับหน้าเจื่อนและต้องรีบก้มหน้าหลบสายตาตรีรัตน์เพราะเธอไม่รู้ว่าหญิงสาวว่าเป็นอย่างที่เธอคิดดีหรือไม่"ไม่ต้องปิดหรอกค่ะฉันเข้าใจฉันไม่ได้คิดอะไรกับเค้าหรอกค่ะ""อะไรนะคะนายหญิง"นาเดียว่าเธอเครียดกับคำที่เธอจะตอบแล้วตอนนี้เธอเริ่มเครียดกับคำพูดของตรีรัตน์มากกว่า"นาเดียออกไปก่อน"โนอาห์ที่เข้ามาได้ฟังจังหวะนี้พอดีเขาจึงรีบให้นาเดียออกไปจากห้องเพราะเขาอยากคุยกับหญิงสาวเป็นการส่วนตัว“นาย
ช่วงบ่ายของวัน"เธอปล่อยผมสิน่ารักดี"ไม่ว่าตรีรัตน์จะเล่นกับลูกให้นมลูกหรือกล่อมลูกนอนโนอาห์ก็ยังคอยตามเฝ้าลูกเมียตนอยู่ไม่ห่างคอยเป็นลูกมือเธอบ้างหรือบางทีก็แอบหยอกหญิงสาวบ้างตามประสาคนอยากมีตัวตนในสายตาของหญิงสาวตลอดเวลาและนี่ก็เป็นอีกครั้งในขณะที่ตรีรัตน์กำลังกล่อมลูกของเธอให้หลับโนอาห์ก็มาแกะยางรัดผมของเธอออกเสียอย่างนั้น"แกล้งฉันอีกแล้วนะคะคุณนาเดียคะฝากพายัยหนูไปนอนทีค่ะ""ค่ะนายหญิง"ตรีรัตน์ค่อนข้างรำคาญชายหนุ่มที่อายุตั้งเท่าไรแล้วยังจะมาเล่นไรเป็นเด็กๆเธอรีบส่งลูกน้อยที่กำลังหลับให้นาเดียและหันหลังกลับไปหาคนที่ชอบแกล้งเธอ"ขอยางรัดผมฉันคืนค่ะ" หญิงสาวแบมือตรงหน้าของโนอาห์"อือ"ชายหนุ่มทำหน้าทะเล้นเล็กน้อยและยื่นยางรัดผมตรงหน้าเธอให้เธอนั้นหยิบที่มือของเขาเอง"ปล่อยสิคะ"ตรีรัตน์พยายามดึงของจากมือของเขาแต่อีกฝ่ายก็ยังแกล้งที่จะไม่ปล่อยเพียะ "โอ้ยย.."และแล้วเสียงร้องของโนอาห์ก็ดังขึ้นเพราะความเจ็บที่หญิงสาวนั้นดีดยางรัดผมใส่มือของเขา"สมน้ำหน้า"ตรีรัตน์หัวเราะร่าแล้วรีบวิ่งหนีเข้าห้องไปเธอสะใจไม่น้อยที่เอาคืนคนที่แกล้งเธอได้เขาจะไม่เจ็บตัวสักนิดเลยหากไม่มาคอยแกล้งเธอก่อ