เรื่องราวในอดีต
ย้อนไปเมื่อตอนที่ตรีรัตน์เป็นนักศึกษาปีสองอยู่ที่มหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร
“แตงกวาผลงานของเธอได้รับคัดเลือกนะ”
ปารวีบอกข่าวดีกับตรีรัตน์ในขณะที่ตรีรัตน์กับเธอนั่งอ่านหนังสืออยู่ด้วยกันในห้องสมุดของมหาลัย
ปารวีหญิงสาวลูกคุณหนูไฮโซที่เป็นเพื่อนคนเดียวของตรีรัตน์เพราะมหาลัยเอกชนชื่อดังแห่งนี้ไม่มีคนที่อยากจะสุงสิงนักเรียนทุนอย่างเธอเท่าไรนักเพราะไม่ใช่ลูกผู้ดีชนชั้นเดียวกับคนอื่นๆมีเพียงปารวีคนเดียวเท่านั้นที่เป็นเพื่อนกับเธอตั้งแต่ปีหนึ่ง
“ผลงานอะไรเหรอ” ตรีรัตน์ทำหน้าสงสัยเล็กน้อย
“รูปสร้อยคอที่เธอออกแบบไงเราเอาส่งไปประกวดแต่เป็นชื่อเราเธอไม่ว่าอะไรเรานะ”
“อ๋อ..ที่เราวาดให้เธอน่ะเหรอ”
ตรีรัตน์พอจะจำได้แล้วว่ารูปนั้นคือรูปอะไรมันเป็นเพียงรูปที่เธอออกแบบแล้วให้เพื่อนเธอใช้ส่งอาจารย์นั่นเอง
“ใช่...วันอาทิตย์นี้บริษัทที่ฉันส่งไปประกวดเค้านัดคุยเพื่อที่จะซื้อลิขสิทธิ์ภาพนี้เธอไปกับเรานะเงินที่ได้เราเธอจะได้เอาไว้ใช้ไง”
“ได้สิขอบใจนะลูกปลา”
ตรีรัตน์รู้สึกของคุณปารวีมากที่หาทางช่วยเหลือเธออยู่ตลอด
“สองสาวทำอะไรกันอยู่เหรอ” ฉัตรภพเข้ามาทักทายสองสาวด้วยเสียงที่ไม่ได้ดังมากนักและถือวิสาสะนั่งข้างๆกับแตงกวา
ฉัตรภพเป็นลูกเจ้าของโรงงานผลิตกระเป๋ารายใหญ่เขาเป็นหนุ่มรูปหล่อที่มีดีกรีเป็นถึงเดือนคณะตอนนี้เขาอยู่ปีสี่แล้วไล่ตามจีบแตงกวาตั้งแต่ที่เธอเข้าปีหนึ่งแต่ก็ไม่สำเร็จเสียที
“ก็อ่านหนังสืออยู่ไงคะที่นี่ห้องสมุด”
แตงกวาหันมาเอ่ยหยอกกับฉัตรภพด้วยรอยยิ้มเพราะเธอค่อนข้างที่จะสนิทกับเขาด้วยที่เขาชอบเข้าหาเธอบ่อยๆแต่เธอก็คิดกับเขาเป็นเพียงแค่พี่ชายเท่านั้น
“รู้แล้ว พรุ่งนี้วันหยุดแตงกวาไปเที่ยวกับพวกพี่ไหม”
ฉัตรภพถือโอกาสชวนตรีรัตน์ไปเที่ยวเสียเลยเพราะตอนนี้เพื่อนๆของเขาไม่ได้อยู่ด้วยจะได้ไม่ต้องมีใครที่ขัดแข้งขัดขา
“คือพรุ่งนี้แตงกวาต้องไปทำธุระกับลูกปลาน่ะค่ะ”
“โทษทีนะคะพี่ภพพรุ่งนี้ลูกปลาจองตัวแตงกวาไว้แล้วค่ะ”
ปารวียิ้มอ่อน
“เสียดายแย่เลย”
ฉัตรภพมีสีหน้าและน้ำเสียงผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด
“นี่พวกเธออ่านหนังสือกันเงียบๆหน่อย”
“อุ้ย..ค่ะ/ครับอาจารย์”
ทั้งสามหน้าเจื่อนกันเล็กน้อยเมื่ออาจารย์ที่ดูแลห้องสมุดในเวลานี้มาเลยเตือนให้ทั้งสามเงียบเสียงเพราะคนอื่นกำลังอ่านหนังสือกันอยู่
วันต่อมา
เพนท์เฮ้าส์
โนอาห์และมัคซิมพักอยู่ที่เพนท์เฮ้าส์แห่งหนึ่งในใจกลางเมืองเพื่อรอประชุมกับหุ้นส่วนบริษัทแบรนด์เครื่องประดับและรอคุยกับเจ้าของผลงานที่ชนะการสมัครแข่งขันออกแบบเครื่องประดับอีกด้วย
“นายจะคุยด้วยตัวเองเลยเหรอครับ”
มัคซิมถามโนอาห์ให้แน่ใจอีกรอบเพราะคิดว่าแค่การซื้อลิขสิทธิ์มันน่าจะให้หุ้นส่วนคนในบริษัททำก็ได้นายของเขาไม่จำเป็นต้องคุยเองเลยเพราะเสียเวลางานอย่างอื่นเปล่าๆ
“อืม ฉันอยากรู้แรงบันดาลใจในการสร้างผลงานชิ้นนี้ออกมา”
ผลงานที่ส่งมาเป็นผลงานที่เขาถูกใจมากที่สุดถึงขั้นเห็นแล้วสะดุดตาตั้งแต่คราแรกเขาจึงอยากเห็นหน้าคนที่สร้างสรรค์มันขึ้นมาว่าเป็นคนอย่างไรแล้วมีแรงบันดาลใจอะไรที่ทำให้สร้างผลงานชิ้นนี้ขึ้นมาได้ดีขนาดนี้
ทางด้านตรีรัตน์
“โอเคลูกปลาเรากำลังรีบออกไป”
ตอนนี้ตรีรัตน์รีบสุดชีวิตทั้งปารวีก็ยังโทรตามเธออยู่เรื่อยๆเธอออกมาเช้าแล้วแต่เป็นเพราะต้องรอรถเมล์ไหนจะต้องมาต่อรถอีกรอบเพื่อที่จะไปถึงบริษัทที่นัดปารวีเอาไว้อีก
“รถเยอะจังเลย”
ตรีรัตน์วางสายจากปารวีได้ตอนนี้เธอก็หาทางข้ามถนนอยู่เพราะใกล้ๆไม่มีสะพานลอยเลยมีแค่ทางม้าลายแถมสัญญาณไฟก็ไม่มีเธอคงต้องวัดดวงเอาเองแต่ช่วงนี้รถก็เยอะเสียเหลือเกินจน
ปรี๊นนน
“อ๊ายย..”
ในขณะที่หญิงสาวตัดสินใจข้ามถนนทั้งที่รถยังเยอะอยู่เพราะกลัวไม่ทันเธอก็ต้องชะงักกรีดร้องเพราะมีรถหรูคันหนึ่งที่ขับมาน่าจะไม่เห็นเธอเลยเกือบชนเข้า
“อะไรซิม”
โนอาห์ที่นั่งอยู่บนรถเห็นว่ามัคซิมหยุดรถกะทันหันจึงหันไปถามมัคซิมด้วยสีหน้าตกใจ
“มีคนวิ่งตัดหน้ารถกะทันหันครับ”
“เดี๋ยวฉันลงไปดูเอง”
โนอาห์ขอลไปดูเองว่ามีคนบาดเจ็บหรือเปล่าเขาจะได้รีบชดใช้ให้แล้วจะได้รีบไปเพราะจะไม่ทันเวลานัด
“เฮ้อ...ยังไม่ตายใช่ไหมเนี่ย”
เมื่อหญิงสาวตั้งสติได้ก็จับเนื้อตัวของตัวเองหน้าตาตื่นเธอยืนถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อรู้ตัวว่าตัวเองไม่ได้เป็นอะไร
“เธอเป็นอะไรหรือเปล่า”
โนอาห์เข้าไปถามหญิงสาวร่างบางที่กำลังยืนสำรวจตัวเองอยู่
“เอ่อ..ไม่ค่ะฉันต้องขอโทษด้วยนะคะพอดีฉันรีบ...หา..รถเมล์”
ตรีรัตน์รีบเงยหน้าขอโทษคนร่างสูงทันทีด้วยความตกใจและรีบวิ่งหนีไปเพราะเห็นว่ารถเมล์ที่เธอต้องการขึ้นมาพอดี
“เดี๋ยวสิ”
โนอาห์มองหญิงสาวตาเป็นมันเพราะเธอสวยน่ารักถูกใจเขาเป็นอย่างมากแต่ตอนนี้เธอก็ดันวิ่งหนีเขาไปเสียอย่างนั้น
ปรี๊นๆๆ
“เฮ่อออ”
โนอาห์หลุดจากภวังค์เพราะเสียงแตรรถด้านหลังรถของเขาที่จอดอยู่จึงรีบเดินกลับเข้าไปในรถทันที
ชั่วโมงต่อมา
“ตื่นเต้นที่สุดเลย”
ตอนนี้สองสาวก็อยู่ที่หน้าห้องเพื่อรอโนอาห์มาสัมภาษณ์แล้วดูคนที่ตื่นเต้นที่สุดเห็นจะเป็นปารวี
“หายใจเข้าลึกๆทำใจสบายๆเชื่อเราแล้วจำเรื่องแรงบันดาลใจที่เราบอกได้ไหม”
ตรีรัตน์กุมมือเพื่อนเธอเอาไว้หลวมๆทั้งยังย้ำเตือนเรื่องแรงบันดาลใจให้กับปารวีได้ฟังเพราะรู้ว่าต้องมีคำถามนี้เกิดขึ้นมาแน่นอน
“อืม..จำได้ดีเลยล่ะ”ปารวีพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม“นายครับเธอรออยู่ที่หน้าห้องแล้วครับ”มัคซิมบอกถึงเรื่องที่ประชาสัมพันธ์แจ้งมากับโนอาห์“อืม”“เชิญคุณปารวีครับ”เมื่อมัคซิมและโนอาห์มาถึงห้องสัมภาษณ์มัคซิมเห็นสองสาวนั่งอยู่ด้วยกันจึงเอ่ยเรียกปารวีเพื่อเชิญเข้าไปคุยด้านใน“เอ่อ..”ตรีรัตน์มองเห็นโนอาห์เธอก็จำได้ทันทีว่าเขาเป็นคนที่เธอเจอเมื่อเช้าแม้จะแค่แวบเดียวเธอก็จำได้จึงรีบก้มหน้าลงเล็กน้อย โนอาห์อมยิ้มมุมปากเล็กน้อยเมื่อเห็นหญิงสาวที่เขาพึ่งเจอเธอเมื่อเช้าแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปและเดินเข้าห้องไปครู่ต่อมา“ไม่ยักรู้นะว่าเด็กสมัยนี้จะฝีมือระดับนี้ฉันยอมรับว่าเธอเก่งจริงๆ” โนอาห์เอ่ยชมปารวีหลงจากที่เข้ามาคุยกันในห้องแล้ว“ขอบคุณค่ะ”“ฉันอยากจะรู้ว่าแรงบันดาลใจที่ทำให้เธอสร้างสรรค์ผลงานนี้ขึ้นมาได้คืออะไร”“คือ..สร้อยที่ฉันออกแบบอยากทำให้ใส่ได้ตั้งแต่วัยรุ่นถึงวัยผู้ใหญ่จึงไม่ได้ดูลูกเล่นเยอะจนเกินไปแต่ก็ดูทันสมัยค่ะสิ่งที่คิดตอนแรกก็คือฉันอยากให้สร้อยเส้นนี้ดูน้อยแต่มากแม้จะไม่ค่อยมีลูกเล่นอะไรแต่ดูสะดุดตา”ปารวีตอบฉะฉานเธอจำได้หมดทุกคำที่ตรีรัตน์บอก“อืม..ดีแล้ว นั่นเพื่อนเธอใช่ไหม”โ
"อย่าพูดมากเลยไปกับฉัน"โนอาห์ไม่จำเป็นจะต้องอธิบายอะไรในเมื่อเธอรับเงินเขาไปแล้วก็เท่ากับรู้ข้อตกลงแล้วเขาจึงลากเธอขึ้นไปชั้นบนกับเขา"ปล่อยฉันนะคะ นี่คุณจะทำอะไร"ตรีรัตน์ยื้นสุดแรงที่จะไม่ให้เขาลากเธอไปได้"เธอนี่ก็ตีหน้าซื่อเก่งเหมือนกันนะ เงินฉันก็ให้ไปเยอะแล้วอย่าแสดงเพื่อเรียกราคาเพิ่มเลย""พูดอะไรของคุณ""เธอขายตัวให้ฉันแล้วเพราะฉะนั้นฉันจะทำอะไรกับตัวเธอก็ได้"โนอาห์หันมาตวาดใส่หญิงสาวที่กำลังขัดขืน"ขายตัวอะไรของคุณปล่อยนะฉันไม่ได้มาขายตัวฉันแค่เอาของมาให้แทนเพื่อนเฉยๆ"ตรีรัตน์เบิกตาโพลงเธอคิดว่าเขาเข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้วเพล้งงงง หญิงสาววาดมือไปหยิบแจกันใบเล็กที่วางตกแต่งอยู่ข้างทางขึ้นฟาดไปที่หัวของชายหนุ่มเต็มๆและรีบวิ่งหนีไปเธอไม่ได้อยากให้ใครเจ็บตัวแต่เป็นเขาที่ไม่ยอมฟังเธออธิบายเองทั้งยังจะทำมิดีมิร้ายกับเธออีก"โอ้ยย...ยัยเด็กบ้าเอ้ยกลับมาเดี๋ยวนี้นะ"โนอาห์ถึงกับฟุบลงไปกองกับพื้นด้วยความเจ็บ"ขายตัวบ้าบออะไรกันอีตาโรคจิตเอ้ย ชาตินี้ขออย่าได้เจอกันเลย"ตรีรัตน์รีบวิ่งหนีออกมาด้วยอาการตกใจทั้งยังรู้สึกกลัวอยู่ไม่น้อยกับเหตุการณ์ที่พึ่งเจอเมื่อครู่ชั่วโมงต่อมา"เฮ้อ ทำ
"ฉลาดนี่ให้เพื่อนรับเงินแทนแล้วบอกว่าไม่รู้เรื่อง คิดว่าข้ออ้างแค่นี้จะปฏิเสธอะไรฉันได้หรือไง"โนอาห์ลากตัวหญิงสาวมาไว้ในอ้อมกอดและกระซิบเสียงพร่าข้างๆหูของเธอเบาๆ"ปล่อยนะไอ้โรคจิต"ตรีรัตน์ขืนตัวสุดชีวิตแต่เหมือนแรงของเธอจะทำอะไรคนตัวโตไม่ได้เลยสักเล็กน้อยเธอยังคงติดอยู่ในพันธนาการของเขาอยู่แบบนั้น“ถ้าเธอทำตัวดีๆกับฉันคงไม่ต้องมาเจออะไรแบบนี้หรอก"โนอาห์ผลักหญิงสาวนอนราบไปกับเตียงส่วนเขาก็คร่อมตัวเธอเอาไว้ไม่ให้หนีไปไหนได้และเริ่มใช้บริการร่างบางให้คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปในทันที"ฮือๆๆๆ"ตอนนี้ก็มีเพียงเสียงร้องเจ็บปวดจากหญิงสาวเท่านั้นเพราะเธออยากขัดขืนเท่าไรก็ทำไม่ได้และความบริสุทธิ์ของเธอก็ได้เสียให้คนใจร้ายไปในคืนนี้ตั้งแต่คืนนั้นก็เป็นอาทิตย์แล้วที่โนอาห์กักขังหญิงสาวไว้ที่นี่เพื่อบำเรอเขาและวันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายที่โนอาห์จะขังเธอไว้ที่นี่เนื่องจากหมดสัญญาที่เขาตกลงซื้อเธอแล้ว“ฉันอยากให้เธอเป็นผู้หญิงของฉันต่อไปแล้วเธออยากจะได้อะไรฉันจะหามาให้ทุกอย่าง"โนอาห์นอนกอดหญิงสาวอยู่บนเตียงนุ่มตอนนี้ร่างของทั้งสองเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงมีเพียงผ้านวมผืนใหญ่ที่ปกปิดร่างของทั้งสองเอาไว้
"นายครับนิติบอกว่าเธอย้ายออกไปแล้วครับคุณลูกปลาก็ไม่รู้ด้วยว่าคุณแตงกวาไปไหน""อะไรนะ"หลังจากเสร็จธุระจากญี่ปุ่นเมื่อไปร่วมเดือนโนอาห์ก็กลับมาที่ไทยอีกครั้งเพื่อมาเอาคำตอบจากหญิงสาวแต่เขาก็ต้องผิดหวังเพราะตอนนี้หญิงสาวไม่ได้อยู่ที่กรุงเทพแล้วหากเธอไม่อยากสุขสบายเขาก็จะไม่ตามเธอแล้วเพราะเขาอุตส่าห์เสียเวลากลับมาหาเธอขนาดนี้เธอยังไม่สนเขาจึงบินกลับไปเพื่อทำงานของตัวเองต่อปัจจุบัน02.30"หลับแล้วสินะ"โนอาห์กลับมาถึงคฤหาสน์ในเวลาเกือบตีสามเขาไม่เปิดไฟเพราะกลัวว่าตรีรัตน์กับลูกของเขาจะตื่นอาศัยแสงจากโคมไฟที่หัวเตียงมองทางเท่านั้นชายหนุ่มยิ้มอ่อนเมื่อเห็นทั้งสองหลับไปได้คราแรกเขานึกว่าตรีรัตน์จะหลับไม่ลงเสียอีกเขายืนมองหญิงสาวกับลูกสลับกันไปมาด้วยท่าทีครุ่นคิดเขามองทั้งสองอยู่อย่างนั้นครู่ใหญ่เพราะไม่เคยคิดเลยว่าวันนึงเขาจะมีภรรยาและลูกนอนรออยู่ที่บ้านแบบนี้มันเป็นความรู้สึกที่แปลกใหม่แต่ก็เป็นความรู้สึกที่ทำให้เขาอยากกลับมาที่นี่มากขึ้นกว่าแต่ก่อนครึ่งชั่วโมงต่อมา"ยัยตัวเล็กอย่าหนีแดดดี๊ไปไหนนะครับ"โนอาห์จัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเขาก็มายืนมองหน้าลูกน้อยในเปลทั้งยื่นมือหนาเขี่ย
ครู่ต่อมา"นาเดียพาลูกฉันไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า"โนอาห์เรียกให้นาเดียมารับตัวลูกของเขาไปหลังจากเล่นน้ำได้พักใหญ่แล้ว"ค่ะนาย""เธอเอาชุดคลุมให้ฉันหน่อย"โนอาห์เห็นตรีรัตน์กำลังจะเดินตามนาเดียไปเขาจึงเรียกให้เธอหยิบชุดคลุมให้เขา"อื้อ...ว้ายยย"ตู้มม ตรีรัตน์หยิบชุดคลุมยื่นส่งให้ชายหนุ่มแต่เขาไม่ได้ดึงแค่ชุดคลุมไปดันดึงมือเธอล่วงน้ำไปเสียอย่างนั้น“นี่เธอ"โนอาห์เห็นตรีรัตน์ตะเกียกตะกายจะให้พ้นน้ำเขาก็รู้ได้ทันทีว่าเธอว่ายน้ำไม่เป็นจึงรีบคว้าตัวเธอเอาไว้ในอ้อมกอด"นี่ทำอะไรของคุณฉันว่ายน้ำไม่เป็นนะ จะฆ่าฉันหรือไง"ตรีรัตน์พ้นจากน้ำขึ้นมาได้ก็เกาะตัวโนอาห์เอาไว้แน่นอนเพราะเธอตกใจมากเธอกลัวที่สุดคือน้ำเพราะเธอว่าน้ำไม่เป็น"ใครจะฆ่าเมียตัวเองลง"โนอาห์ยอมรับว่าใจเสียไม่น้อยแต่เมื่อได้ยินหญิงสาวต่อว่าเขาได้เขาก็โล่งใจทั้งยังยียวนกวนประสาทเธอเล่นด้วยคำพูดที่น่าจะแสลงหูเธออีกด้วย"เลิกพูดว่าฉันเป็นเมียคุณซะทีได้ไหมคะ"เป็นอีกครั้งที่คำพูดของเขาทำให้เธอต้องมองค้อนเพราะไม่พอใจ"แล้วเธอไม่ใช่เมียฉันงั้นเหรอ"โนอาห์หมายจะหอมแก้มนวลแต่เธอก็หันหนีเขาเสียก่อน"หยุดพูดได้แล้ว ฉันหนาว"ตรีรัตน์รีบห
"ตั้งแต่นายหญิงกับคุณหนูมาอยู่ที่นี่นายก็ดูอารมณ์ดีขึ้นแถมกลับมาที่นี่ทุกวันด้วยนะคะ"นาเดียพูดไปยิ้มไปตั้งแต่ที่ตรีรัตน์มาอยู่ที่นี่คฤหาสน์นี้ก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมากกว่าแต่ก่อนมากคงเพราะมีเด็กเล็กอยู่และอีกอย่างก็คือโนอาห์กลับมาที่นี่ทุกวันที่นี่จึงแลดูเป็นบ้านมากขึ้น"เมื่อก่อนเค้าไม่ได้เป็นแบบนี้เหรอคะ"ตรีรัตน์ถามนาเดียกลับด้วยสีหน้าสงสัยเธอคิดว่าเขาจะอยู่ที่นี่ตลอดเสียอีก"เมื่อก่อนนายจะนอนที่เพนท์เฮ้าส์หรือไม่ก็โรงแรมใกล้ๆบริษัทที่ไปตรวจงานน่ะค่ะ""แล้วก็อาจจะมีอยู่กับผู้หญิงด้วยใช่ไหมคะ"ตรีรัตน์เอ่ยด้วยรอยยิ้มอ่อนที่เธอกล้าพูดแบบนี้ได้เพราะเธอไม่ได้คิดอะไรกับโนอาห์แม้แต่น้อย"เอ่อ..คือ"นาเดียถึงกับหน้าเจื่อนและต้องรีบก้มหน้าหลบสายตาตรีรัตน์เพราะเธอไม่รู้ว่าหญิงสาวว่าเป็นอย่างที่เธอคิดดีหรือไม่"ไม่ต้องปิดหรอกค่ะฉันเข้าใจฉันไม่ได้คิดอะไรกับเค้าหรอกค่ะ""อะไรนะคะนายหญิง"นาเดียว่าเธอเครียดกับคำที่เธอจะตอบแล้วตอนนี้เธอเริ่มเครียดกับคำพูดของตรีรัตน์มากกว่า"นาเดียออกไปก่อน"โนอาห์ที่เข้ามาได้ฟังจังหวะนี้พอดีเขาจึงรีบให้นาเดียออกไปจากห้องเพราะเขาอยากคุยกับหญิงสาวเป็นการส่วนตัว“นาย
ช่วงบ่ายของวัน"เธอปล่อยผมสิน่ารักดี"ไม่ว่าตรีรัตน์จะเล่นกับลูกให้นมลูกหรือกล่อมลูกนอนโนอาห์ก็ยังคอยตามเฝ้าลูกเมียตนอยู่ไม่ห่างคอยเป็นลูกมือเธอบ้างหรือบางทีก็แอบหยอกหญิงสาวบ้างตามประสาคนอยากมีตัวตนในสายตาของหญิงสาวตลอดเวลาและนี่ก็เป็นอีกครั้งในขณะที่ตรีรัตน์กำลังกล่อมลูกของเธอให้หลับโนอาห์ก็มาแกะยางรัดผมของเธอออกเสียอย่างนั้น"แกล้งฉันอีกแล้วนะคะคุณนาเดียคะฝากพายัยหนูไปนอนทีค่ะ""ค่ะนายหญิง"ตรีรัตน์ค่อนข้างรำคาญชายหนุ่มที่อายุตั้งเท่าไรแล้วยังจะมาเล่นไรเป็นเด็กๆเธอรีบส่งลูกน้อยที่กำลังหลับให้นาเดียและหันหลังกลับไปหาคนที่ชอบแกล้งเธอ"ขอยางรัดผมฉันคืนค่ะ" หญิงสาวแบมือตรงหน้าของโนอาห์"อือ"ชายหนุ่มทำหน้าทะเล้นเล็กน้อยและยื่นยางรัดผมตรงหน้าเธอให้เธอนั้นหยิบที่มือของเขาเอง"ปล่อยสิคะ"ตรีรัตน์พยายามดึงของจากมือของเขาแต่อีกฝ่ายก็ยังแกล้งที่จะไม่ปล่อยเพียะ "โอ้ยย.."และแล้วเสียงร้องของโนอาห์ก็ดังขึ้นเพราะความเจ็บที่หญิงสาวนั้นดีดยางรัดผมใส่มือของเขา"สมน้ำหน้า"ตรีรัตน์หัวเราะร่าแล้วรีบวิ่งหนีเข้าห้องไปเธอสะใจไม่น้อยที่เอาคืนคนที่แกล้งเธอได้เขาจะไม่เจ็บตัวสักนิดเลยหากไม่มาคอยแกล้งเธอก่อ
สามวันต่อมาโนอาห์และตรีรัตน์อยู่ที่นี่กันได้สามสี่วันแล้วหลังจากที่ตรีรัตน์มาอยู่กับโนอาห์ที่ท่ามกลางธรรมชาติแห่งนี้พวกเขาก็ดูจะเป็นมิตรกันดีมากยิ่งขึ้นเพราะโนอาห์ค่อนข้างอ่อนให้ตรีรัตน์อยู่พอสมควรและพยายามเอาใจเธอสารพัดจนตอนนี้หญิงสาวไม่ค่อยอึดอัดเท่าไรแล้วที่ได้อยู่ใกล้กับโนอาห์นับว่าแผนการของยูริและมัคซิมที่ให้โนอาห์พาตรีรัตน์กับลูกมาที่นี่เพื่อกระชับความสัมพันธ์ของทั้งคู่นับว่ามันได้ผลยิ่ง"นี่ของเธอ"โนอาห์เข้ามาโผกอดร่างบางและยื่นสร้อยคอที่มีจี้เพชรรูปหัวใจให้หญิงสาวในขณะที่เธอกำลังกล่อมลูกอยู่บนเตียง"ไม่รับได้หรือเปล่าคะฉันคงไม่ได้ใส่"ตรีรัตน์ยอมรับว่าสร้อยในมือของโนอาห์สวยมากแต่เธอคงไม่มีโอกาสได้ใส่เพราะต้องเลี้ยงลูกมันคงไม่สะดวกนักเพราะลูกเธอคงจะดึงเล่นเป็นแน่"อย่าปฏิเสธฉันได้ไหม ที่ฉันพยายามทำดีกับเธอก็เพราะอยากจะลบล้างอดีตที่ผ่านมา เธอทำใจลืมมันแล้วเริ่มต้นใหม่กับฉันได้หรือเปล่า" โนอาห์ยอมรัยว่าคำขอของเขามันดูเห็นแก่ตัวแต่หากตอนนี้หญิงสาวยังมัวเอาอดีตมายึดติดเธอก็จะมองไม่เห็นสิ่งดีๆที่เขาทำเพื่อเธอสักที ตรีรัตน์มองหน้าลูกของเธอที่กำลังเคลิ้มหลับหากขอความเห็นจากลูกของเธ