แชร์

ไม่รู้ตัว

ผู้เขียน: suniki
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-22 09:38:22

แม้เมื่อวานชินอ๋องจะกลับมาพร้อมสตรีและยังดื่มน้ำผึ้งยามค่ำคืน จนกระทั่งล่วงเข้าวันใหม่ แต่พ่อบ้านรวมถึงคนสนิทไม่ได้เอ่ยปากถาม พวกเขาเพียงลอบส่งสายตาเพื่อพูดคุยกันว่าสตรีนางนั้นหายไปที่ใดแล้ว ในเมื่อท่านอ๋องกำลังเดินอุ้มหงอี้ที่หายตัวไปออกมาจากห้อง

สาวใช้ผู้เข้าไปปรนนิบัติถูกพ่อบ้านสอบซัก ได้ความว่าไร้เงาของสตรีที่ท่านอ๋องอุ้มเข้าห้อง

น่าแปลกเกินไป รวมถึงน่าเหลือเชื่อ คนทั้งคนจะหายไปโดยไม่มีผู้ใดพบเห็นเลยหรือ

การหายตัวไปของหงอี้ไม่ใช่เรื่องน่าสงสัย แมวตัวนี้ชอบเที่ยวเล่น ซุกซนตลอดเวลา หายตัวไปก็กลับมาเองได้ พวกเขาทั้งหมดเคยชินเสียแล้ว เมื่อคืนถึงถึงก็เพียงนึกห่วงเท่านั้น เช้านี้พบอยู่กับท่านอ๋อง เป็นอันว่าหายห่วง

หงอี้กลับมาอยู่ในร่างแมวเพียงแค่คิดเท่านั้น นางยังนึกแปลกใจ ก่อนหน้านั้นเคยลองแล้วผลปรากฏว่าว่างเปล่า นางยังคงเป็นแมวสีขาวขนปุย แล้วเหตุใดจึงเกิดขึ้น

มันได้รับการกระตุ้น?

แล้วอะไรคือตัวกระตุ้น หงอี้ปวดหัวไปหมด ยิ่งคิดยิ่งใช้สมองมาก ความหิวยิ่งถาโถม เสียงท้องเจ้ากรรมดังเข้าหูชินอ๋อง จนเขาก้มมองเจ้าก้อนขนในอ้อมอกอย่างนึกสงสาร รีบหันไปสั่งสาวใช้จัดโต๊ะอาหาร จับนางเข้าประจำที่

นมอุ่นถูกยกมาวางตรงหน้า หงอี้หิวจนตาลายสามารถเขมือบไก่ได้คราวเดียวสามตัว รีบซุกหน้าลงในถ้วยนม

ชินอ๋องมองดูแมวตะกละดื่มนมอย่างหิวโซ เขาคิดว่าหากทำได้หงอี้คงลงไปนอนในชามน้ำนม รู้สึกหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกทั้งที่ยังคงสีหน้าปลาตาย พอดื่มนมจนหมดถึงได้เงยหน้าขึ้นมา จมูกและปากรวมถึงขนสีขาวโดยรอบเปียกลู่ไปหมด

สาวใช้ประจำตัวหยิบผ้ามาเช็ดให้ด้วยสีหน้าแปลกใจ ปกติหงอี้จะกินหรือดื่มด้วยความเรียบร้อย ไม่หกเลอะเทะ แถมยังรักความสะอาดจนนางไม่ต้องเหนื่อยคอยดูแลความสะอาดเลยสักนิด ทว่าวันนี้กลับต่างออกไป

ชินอ๋องโบกมือห้าม สาวใช้ประจำตัวของหงอี้จึงหลุดจากความคิด รีบก้มหน้าถอยหลบไปยืนจุดเดิม หน้าที่เช็ดนมออกจากหน้าขนจึงเป็นของเขา “ยกอาหารของหงอี้เข้ามา”

ปกติหงอี้จะดื่มนมหลังตื่นนอนแล้วเดินเล่นไปทั่วสวนประมาณหนึ่งเค่อ ถึงค่อยกลับมากินข้าว แต่วันนี้คงต้องตัดกิจกรรมเดินเล่นออกไป ส่วนสำคัญอีกอย่างคือเขาคิดชื่อตอนนางเป็นคนได้แล้ว

ดวงตาสีเทากลมแป๋วฉายแววความสุขเมื่อถูกตามใจ ดูเหมือนการออดอ้อนของนางในห้องนอน จะทำให้ชินอ๋องโยนความคิดกลั่นแกล้งทิ้งไป และหันมาตามใจนางอีกครั้งหลังจากสนุกสนามกับการกลั่นแกล้งนางให้เขินอาย

ในที่สุดท้องอันหิวโหยก็ถูกเติมเต็ม....

หลังกินข้าวจนอิ่ม ชินอ๋องพานางออกมานั่งรับลมในศาลา แมวสีขาวที่มักจะนอนขนตัวอยู่บนตักหรือบนเบาะนั่งข้างตัวเขา คือภาพอันเคยชินในสายตาของทุกคนในจวนอ๋องไปเสียแล้ว

วันนี้กลับต่างออกไป ด้วยความหิวทำให้นางเผลอกินข้าวเยอะกว่าปกติ (อีกแล้ว) สภาพในยามนี้จึงไม่ใช่การนอนขดตัวแล้วหลับ แต่กำลังนอนตะแคง (นอนหงายแล้วถูกสายตาคมมองดุว่านอนไม่เรียบร้อย) อวดท้องป่อง ๆ ของตัวเองให้ชินอ๋องดูด้วยสภาพราวแมวอืด

น่าอายเกินไป

นางพยายามขยับตัวเพื่อลุกขึ้นด้วยเขินอายต่อสายตาคู่นั้น พบว่าเมื่อนอนลงไปกลับรู้สึกหนักไปทั้งตัว

ฮือ หงอี้ เอ๊ย หงอี้ ไม่เคยจำเลยว่ากินอิ่มทีไรประสบกับปัญหาติดพุงทุกที

ชินอ๋องผู้มีสีหน้าปลาตายถึงขั้นหลุดหัวเราะแผ่วเบา เมื่อมองดูแมวตัวกลมกลายสภาพเป็นหนอนอ้วนดิ้นอยู่บนเบาะ ช่างแตกต่างจนเขาประหลาดใจ

นางตอนเป็นมนุษย์มีรูปร่างอ้อนแอ้น ตัวเล็กบางในส่วนที่บาง และอวบอิ่มในส่วนที่ควรอวบอิ่ม เหตุใดพออยู่ในร่างแมวจึงเป็นเช่นนี้ไปเสียได้

แง้วววว หยุดหัวเราะข้านะ ฮึ่ม คนนิสัยไม่ดี

“ข้าหรือนิสัยไม่ดี ข้าไม่ใช่คนบังคับให้เจ้ากินเข้าไปมากขนาดนั้น”

แม้วววว เหมี๊ยว~ แต่ท่านทรมานข้าจนหมดเรี่ยวแรง ข้าจึงหิวจนตาลายกินมากกว่าเดิม

“...” หงอี้/ชินอ๋อง

หนึ่งคนหนึ่งแมวชะงักเมื่อสิ้นเสียงทุ้มไร้อารมณ์ของชินอ๋อง ดวงตาสีรัตติกาลปรากฏระลอกคลื่นทางอารมณ์แล้วเลือนหายไป จัดการช้อนอุ้มหงอี้ขึ้นมาสำรวจอย่างสนใจ

ประเด็นเรื่องการทรมานจนหมดแรงไม่ผ่านเข้าหูเลยสักนิด หงอี้ก็หยุดชะงักเพราะกำลังตกใจที่ชินอ๋องโต้เถียงกับนางราวได้ยินสิ่งที่นางพูด

มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!!

“ข้าได้ยินเสียงของเจ้า”

หน้าขนพยักขึ้นลง ดวงตากลมเบิกกว้าง สามปีที่ถูกเขาเลี้ยงดู ยืนยันได้ว่าแม้นางจะพูดจนนำลายแห้ง หลอกด่าจนตัวแทบไหม้ เขาก็ไม่มีทางเข้าใจภาษาเหมียวหง่าวของนางได้ ทำไมวันนี้ถึงฟังเข้าใจ

ไม่นะ! ต่อไปนางจะหลอกด่าเจ้าหน้าปลาตายอีกได้ยังไง ในเมื่อตอนนี้เขาฟังนางเข้าใจทุกคำ

นี่ต้องเป็นนิยายของปลอมแน่ มีคนคัดลอกนิยายของนางแล้วนำไปดัดแปลงหรือเปล่า สิ่งที่นางอ่านไม่มีอะไรพวกนี้นะ มันแค่นิยายรักอันหวานชื่นของพระเอกนางเอกที่มีอุปสรรคเข้ามาให้ทดสอบแค่เล็กน้อยเท่านั้น

ไม่ได้ซับซ้อนอย่างตอนนี้

ไต้ชินอ๋องนิ่งขรึมกว่าปกติ ทั้งตกใจและยอมรับได้อย่างรวดเร็ว เมื่อคราพยัคฆ์ดำเขาพอจะคาดเดาได้ว่าหงอี้คุยกับมันรู้ความ จึงมอบหมายหน้าที่เกลี้ยกล่อมให้จัดการ ผลออกมาน่าชื่นชมและยืนยันได้ว่าเขาคิดถูก

คงต้องจริงจังกับการสืบค้นข้อมูลประวัติศาสตร์ของแคว้นเสียที นัยน์ตาราบเรียบมองหงอี้กำลังยกอุ้งเท้าหน้าสองข้างขึ้นกุมหัวด้วยความกลัดกลุ้ม เขาพอจะนึกภาพออกหากนางทำท่านี้เมื่อตอนเป็นมนุษย์

เอาละ หัวใจเต้นแรง และมุมปากที่คอยแต่จะยกเป็นรอยยิ้ม ทุกครั้งเมื่อเห็นท่าทางตลกของนางนี่มันคือสิ่งใด

เขากำลังป่วยหรือไม่

ผ่านมาหลายวัน หงอี้ยังคงใช้ชีวิตปกติสุขในจวนอ๋อง พ่วงด้วยทุกคืนนางต้องไปนอนกับเขาในร่างของมนุษย์ แค่ก นอนหลับด้วยกันบนเตียง ไม่มีอะไรในกอไผ่ทั้งสิ้น

ถึงอีตาอ๋องหน้าปลาตายจะทำตัวยั่วยวนนางแค่ไหน จิตใจดวงน้อยอันหนักแน่น ไม่ไหวหวั่นแม้ถูกล่อลวง ทำให้รอดพ้นมาจนถึงวันนี้ รึเปล่าหว่า ก็มีหลายคืนที่เขาและนางต่างช่วยเหลือกันจากภายนอกจนเสร็จสม

คงไม่ต้องนับมันหรอก

คนอื่นเสียตัวขนาดนี้จะคิดยังไงนางไม่สนใจ หงอี้แค่ต้องการชีวิตสุขสบาย มีที่นอนอุ่น มีอาหารกินอิ่มท้อง ไม่ต้องกังวลว่าวันนี้จะใช้ชีวิตยังไง ไม่งี่เง่า ไม่เรียกร้องในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ นางรู้ตัวเองดีว่าอยู่ในฐานะไหน

หากจะบอกว่าการคิดเช่นนั้นดูใจง่ายนางก็ไม่สนใจ ถ้าคิดเป็นสิ่งตอบแทน มอบร่างกายให้ ดูจะสบายใจกว่าคิดซับซ้อน

นั่นคือความตั้งใจอันแรงกล้าในช่วงแรกหลังผ่านคืนนั้นมา

ทั้งที่บอกตัวเองว่ามันมีแค่นั้น นางกลับห้ามความน้อยใจเวลาเห็นชินอ๋องเข้าหานางเอกเมื่อสบโอกาสไม่ได้ ทั้งน้อยใจทั้งหมั่นไส้

เนื้อเรื่องยังคงดำเนินไปตามเส้นเรื่องหลัก แม้จะมีเหตุการณ์บางอย่างมาขัด สุดท้ายก็กลับสู่เส้นทางเดิม ตัวร้ายยังคงหลงรักนางเอกตามต้นฉบับ ส่วนนางคงเป็นได้แค่ตัวประกอบผู้เกาะติดตัวร้ายราวลูกลิง

แมวน้อยเซื่องซึม ไม่ชอบใจเลยสักนิดที่มันเป็นแบบนี้ ไม่ชอบเวลาก้อนเนื้อในอกมันเต้นแผ่วและปวดหนึบ มันควรรู้สึกเฉย ๆ สิ นางเป็นแค่ส่วนประกอบไม่สำคัญ เขาก็คงรักและห่วงใยนางในด้านของสัตว์เลี้ยง เท่านั้น

คงมีแค่นางคิดเลยเถิดไปไกลอยู่ฝ่ายเดียว หงอี้ทบทวนตัวเองอยู่เงียบ ๆ บางที มันอาจเกิดขึ้นตั้งแต่แรกก็ได้

แมวน้อยมุดหน้าซ่อนความเศร้า เมินเสียงพูดคุยของชินอ๋องและอ้ายเมิ่งเหยา ปล่อยผ่านเลยราวไม่ใช่สิ่งสำคัญ

ส่วนคนวางยากำหนัดชินอ๋องในงานเลี้ยงตระกูลเจียง ถูกสอบสวนจนพบตัวบงการแล้ว เป็นคุณหนูจากตระกูลหนึ่งของพระสนมขั้นผิน การถูกโทสะของชินอ๋องเล่นงานคงทำให้คุณหนูและคนในตระกูลนั้นสงบเสงี่ยมไปสักระยะหนึ่ง

วันนี้อากาศดีชินอ๋องจึงกระเตงนางมาเที่ยวเล่นในตลาด นางมีความสุขมากแม้ว่าช่วงบ่ายจะต้องเข้าไปอยู่ในวังเป็นเพื่อนเล่นของฮองเฮา ส่วนชินอ๋องได้รับมอบหมายให้เดินทางไปจัดการขุนนางกังฉินที่ต่างเมือง การเดินทางและลงมือกวาดล้างขุนนางชั่วต้องใช้เวลาหลายวัน จึงต้องจำใจฝากนางไว้กับฮองเฮา

ในขณะเดินเที่ยวเล่นดูความคึกคักของร้านรวงและผู้คนที่ออกมาจับจ่ายซื้อของ เป็นไปตามคาด หงอี้ถูกชินอ๋องอุ้มแนบอก โดยมีนางเอกของนิยายอย่างอ้ายเมิ่งเหยาจ้องมองด้วยดวงตาเป็นประกาย

“หลังจากได้อุ้มหงอี้ในวันนั้น ข้าถึงขั้นต้องไปหาแมวในตลาดค้าสัตว์เลยนะเจ้าคะ น่าเสียดายไม่มีตัวไหนกลิ่นหอมเหมือนหงอี้เลย”

แมวสีขาวแถมยังอวบอ้วนของชินอ๋องน่ารัก นุ่มนิ่ม จนนางอยากอุ้มกลับจวนเสียเดี๋ยวนั้น ความนุ่มใต้ฝ่ามือทำเอาไม่อยากผละจากไปไหน คงจะดีมากถ้าถูกหงอี้เดินเข้ามาคลอเคลียและนอนหลับด้วยกันถึงเช้าบนเตียง

บุรุษผู้มีชื่อเสียงว่าเฉยชาไม่สนใจผู้ใด แถมยังโหดเหี้ยมดั่งมัจจุราชกระหายเลือดเมื่อทำสงครามผู้นี้จะมุมอ่อนโยนด้วย จากคราแรกได้พูดคุย อ้ายเมิ่งเหยารู้สึกเกร็งจนทำตัวไม่ถูก ก็เริ่มผ่อนคลาย สามารถยิ้มแย้มจากใจได้บ้างแล้ว

“อาจจะดูเกินจริงไปบ้างแต่หงอี้ไม่เหมือนแมวตัวอื่น และตัวอื่นก็ไม่สามารถเหมือนเช่นกัน”

“หงอี้พิเศษหรือเจ้าคะ”

“ถูกต้อง หงอี้พิเศษกว่าแมวทุกตัว” ชินอ๋องละส่วนสำคัญเอาไว้ กล่าวเพิ่มเติมว่า “หากคุณหนูอ้ายชื่นชอบลองเดินเล่นไปแถวจวนอ๋อง หงอี้ชอบเดินไปตามกำแพงและเที่ยวเล่นในตลาด”

“จริงหรือเจ้าคะ ที่ผ่านมาข้าไม่เคยพบเลย” อ้ายเมิ่งเหยามีสีหน้าตกใจเล็กน้อย ก่อนจะยื่นมือจับอุ้งเท้าเล็ก ๆ ของหงอี้อย่างเบามือ

หงอี้ถูกงัดจากอกเสื้อของชินอ๋อง มองดูภาพสองหนุ่มสาวแล้วกรอกตามองบน นึกหมั่นไส้ชินอ๋องจนต้องใช้เท้าอีกข้างข่วนชุดผ้าไหมราคาแพงจนเป็นขุนให้หายหงุดหงิด นางถูกใช้เป็นข้ออ้างได้ใกล้ชิดกับสตรีที่สนใจ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นนางแสดงออกชัดเจนว่าไม่ชอบเป็นเครื่องมือ

ผ่านมาหลายวันตัวร้ายคนนี้ก็ความจำสั้น หลงลืมทุกอย่างหมดแล้ว ฮึ่ย หงุดหงิดจนอยากข่วนหน้าให้เป็นรอย

ชินอ๋องเลิกคิ้วมองเจ้าก้อนขนในอ้อมแขน เหมือนจะจับความรู้สึกของนางได้ว่ากำลังหงุดหงิดมาก “เบื่อแล้วหรือ”

“ใกล้เที่ยงแล้ว หงอี้คงหิวกระมัง” อ้ายเมิ่งเหยาเห็นหงอี้กลายร่างเป็นแมวเจ้าอารมณ์ก็หัวเราะชอบใจ จะทำท่าทางแบบไหนก็น่ารักไปหมดเลย ชักจะอิจฉาชินอ๋องแล้วสิที่ได้เลี้ยงแมวฉลาดแบบนี้

“เช่นนั้นข้าคงต้องขอตัวก่อน รบกวนเวลาเที่ยวเล่นของคุณหนูอ้ายแล้ว” ชินอ๋องลูบสันหลังของหงอี้หวังปลอบใจให้สงบลง กล่าวลาเมื่อถูกหงอี้แผลงฤทธิ์ใส่อีกครั้ง

อ้ายเมิ่งเหยาแสนเสียดายแต่มิได้รั้งไว้ แม้จะอยากเล่นกับหงอี้อีกหน่อยแต่ธรรมเนียมชายหญิงไม่ควรใกลิชดหรือสนทนากันนานเกินควร ยิ่งนางมีคนรักยิ่งต้องระมัดระวังตัว

การพบกันของนางเอกและตัวร้ายจบลงเพียงเท่านี้ หงอี้เมินชินอ๋องทั้งที่กำลังถูกเขากระชับแขนโอบอุ้มไม่ห่าง

“โมโหหิวอีกแล้วหรือ”

แมวเมินรีบหันหัวกลับมาจิกสายตามองเจ้าของผู้สูงศักดิ์ ส่งเสียงบ่นง้องแง้งจนคนฟังต้องโคลงศีรษะยอมรับความผิดโดยไม่คิดโต้เถียง พอเสียงบ่นสงบลงจึงอธิบายเสียงทุ้มต่ำ แววตาขรึมเคร่ง ไม่เข้าใจร่างกายของตนเอง

“ข้าก็ไม่รู้ได้ว่าทำไมถึงต้องเข้าไปทักทายนางอย่างกระตือรือร้นทุกครา ขอโทษนะที่ทำเจ้าหงุดหงิด คราวหลังข้าจะพยายามบังคับตัวเองมากกว่านี้”

หงอี้ตวัดตาค้อนคนอธิบายหน้าเศร้า เลิกสนใจเขาดิ้นสะบัดอยากลงเดินเอง ติดที่แขนแกร่งยึดนางไว้ จำต้องฮึดฮัดอยู่อย่างนั้น

*****

ถึงจะรู้สาเหตุแต่มันอดหงุดหงิดไม่ได้น้อ คนของเราเต๊าะสาวต่อหน้าต่อตา

ข่วนหน้ามันลูก! อย่าไปยอม5555

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   โดนแมวงอน

    เมื่อมาถึงห้องทรงพระอักษร หงอี้ที่ยังไม่อยากเสวนากับชินอ๋องรีบดิ้นออกจากอ้อมแขนของเขา เดินนวยนาดไปหาบุรุษผู้ทรงอำนาจที่สุดในแคว้น แต่กลับแย้มสรวลเมื่อเห็นก้อนสีขาวเดินส่ายพวงหางเข้ามาคลอเคลียชายฉลองพระองค์หลี่ไต้ซานแย้มโอษฐ์ โน้มพระวรกายลงช้อนอุ้มหงอี้แล้วตรัสอย่างรู้ทันว่า “หงุดหงิดเจ้าหน้าตายอยู่ละสิ จึงเดินมาคลอเคลียข้าเช่นนี้”หากในเวลาปกติ การเดินมาออดอ้อนเช่นนี้มีแทบนับครั้งได้ ไม่หงุดหงิดน้องชายของเขาก็อยากได้บางอย่าง ครานี้พระองค์ทรงคาดเคาว่าเหตุผลข้อแรก แม้ชินอ๋องจะไม่แสดงออกทางสีหน้าแต่แววตาละห้อยที่มองตามหลังเจ้าตัวกลมก็ชัดเจนดีหงอี้วางคางบนไหล่หนาของฮ่องเต้ เมินเฉยคำถามเท่าทันนั้น ในคราแรกนางตื่นตัวอยู่บ้างเมื่อได้เข้าเฝ้าฮ่องเต้ บุคคลผู้ทรงอำนาจเหนือผู้ใดในแคว้นนี้ บารมีของเขาเรืองรองจนนางแสดงความนอบน้อมออกมาโดยธรรมชาติ จึงออกอาการเกร็งเมื่อถูกโอบอุ้มเมื่อนานวันเข้าความสนิทสนมเริ่มมากขึ้นความรู้สึกหวั่นเกรงหายไป กล้าอ้อนกล้าซุกมากขึ้น ยิ่งหลี่ไต้ซานปล่อยให้นางทำตามใจ โดยไร้ซึ่งโทสะแถมยังมีความสุขทุกคราเมื่อนางมาอยู่ใกล้ หงอี้จึงยิ่งได้ใจการถูกเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดีจาก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-22
  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   บทนำ

    คนเราเมื่อตายแล้วไปไหน เป็นคนถามยอดฮิตที่คนเป็นยังหาคำตอบไม่ได้ว่าเมื่อ ตาย แล้ว วิญญาณจะไปที่ไหนต่อส่วน กมลเนตร สาวไทยวัย 28 ปี พบว่าเมื่อตัวเธอตายวิญญาณไม่ได้ขึ้นสวรรค์หรือลงนรก แต่กลับมาอยู่ในร่างของแมวจรผู้อดอยาก ผิดยุคผิดสมัยฟังไม่ผิด เธอตื่นขึ้นมาในร่างแมวจรจัด หลังเรือล่มในทะเลจากการเที่ยวในวันหยุดยาว ยอมรับว่าความรู้สึกของการเดินสี่ขา ความรู้สึกของการเป็นสัตว์ที่ไร้เจ้าของ ไม่ทำให้เธอรู้สึกแย่มากกว่าการพบว่ายุคที่อยู่ไม่ใช่ยุคปัจจุบันในเมื่อตอนเป็นคนเธอก็กำพร้าพ่อแม่ เติบโตมาจากบ้านเด็กกำพร้า พอเรียนจบมัธยมปลายก็ออกมาอยู่หอพัก ทำงานหนักจนสายตัวแทบขาดหาเงินส่งตัวเองเรียนจนจบ ทุกคืนเมื่อกลับถึงห้องพักความโดดเดี่ยวกัดกินหัวใจจนรู้สึกชาชิน แม้จะมีคุณแม่ในบ้านเด็กกำพร้าและเพื่อนจากในนั้นคอยถามข่าวคราวแต่ทุกคนต่างก็ต้องดิ้นรนในแบบของตัวเอง นอกจากถามไถ่ทุกข์สุข ก็ไม่สามารถช่วยเหลือ หยิบยื่นโอกาสอะไรให้ในช่วงแรกนอกจากตกตะลึง ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงมาอยู่ในร่างแมวน้อยไร้เรี่ยวแรง กมลเนตรก็หม่นหมองอยู่สักพักแล้วทำใจได้อย่างรวดเร็วตามประสาคนที่ปรับตัวตามสถานการณ์ได้ทุกเวลา ถึงจะมีช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-13
  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   หงอี้น้อย

    นับเป็นเวลาเกือบสี่ปีแล้วในร่างแมวและโลกใบใหม่ หลังจากค่ำคืนในวัดร้างชีวิตแมวจรของกมลเนตรพลิกผันกลายเป็นแมวของท่านอ๋องผู้สูงศักดิ์ ร่ำรวยเงินทอง มากอำนาจบารมี แถมยังถูกตั้งชื่อว่า หงอี้ภายในจวนหลังใหญ่ อาณาเขตกว้างขวางเหมาะแก่การวิ่งเล่น น่าเสียดายที่เจ้าของจวนเกลียดดอกไม้เข้าเส้นสวนภายในนี้จึงมีแค่ต้นไม้ หญ้าและไม้พุ่มสีเขียวซึ่งถูกตัดแต่งอย่างดีเท่านั้น เมื่อหาความสวยงามจากด้านหน้าไม่พบ หงอี้ จึงมักไปขลุกตัวอยู่บริเวณท้ายจวนกับสาวใช้ทั้งหลาย สถานที่ตรงนี้เป็นเหมือนจุดพักผ่อนสำหรับสาวใช้ เมื่อเสร็จจากงานในหน้าที่รับผิดชอบ พวกนางมักจะปลูกผัก ปลูกดอกไม้หงอี้ชอบกลิ่นหอมของดอกไม้มาก จึงมักมานอนกลิ้งตัว บางขณะก็มักจะสูดดมไปตามกลีบดอกด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้ม หญ้านุ่ม ๆ นั้นดีอยู่หรอกแต่จะสมบูรณ์แบบขึ้นไปอีกถ้าได้ดอกไม้หลากสีสันประดับตกแต่งด้วยพูดถึงความเปลี่ยนแปลงเห็นจะมากทีเดียว เมื่อสถานะเปลี่ยนจากแมวจรเป็นแมวเลี้ยง ร่างกายผอมโซราวกับไร้เรี่ยวแรงเปลี่ยนเป็นอวบอ้วน เต็มไม้เต็มมือ ขนสีขาวที่เคยเปื้อนกระดำกระด่าง ยังมีขนหลุดเป็นกระจุกจนมองเห็นหนัง สาเหตุเกิดจากไปตบตีกับเจ้าถิ่นจนบาดเจ็บไปต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-13
  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   ทาสแมวเต็มขั้น

    “อีอี~”ใบหน้ากลมป้อมหันมองทางต้นเสียงจึงเห็นบุรุษร่างสูงใหญ่ กำลังฉีกยิ้มราวคนโง่งมวิ่งอ้าแขนตรงมาหานาง หงอี้มองเขาด้วยแววตาเบื่อหน่าย รอจนเขาวิ่งมาใกล้ตัวจึงกระโดดหลบวิธีวงแขนนั้นอย่างง่ายดาย เมินสีหน้าผิดหวังของคนชอบฉวยโอกาส ยืนส่ายพวงหางดมกลีบดอกกุหลาบสีชมพู ดูยโสไม่น้อย“เหมี๊ยววว ม่าวว” อย่าคิดว่าเป็นสหายของชินอ๋องแล้วจะมากอดข้าตอนไหนก็ได้นะเจ้าคะ เป็นบุรุษมิควรใกล้ชิดสตรี“เจ้าใจร้าย ข้าอุตส่าห์ได้ของเล่นมาใหม่ สั่งทำพิเศษเพื่อเจ้าโดยเฉพาะเลยนะ”หงอี้ยังคงเมินบุรุษร่างใหญ่แต่ขี้ใจน้อย ดวงตากลมมองตามผีเสื้อแสนสวยบินผ่านหน้าไป พอมันเกาะบนกลีบดอกไม้นางจึงยกเท้าหน้าหวังเขี่ยอย่างนึกสนุกแมวขนยาวสีขาวท่ามกลางดอกไม้หลากสีเป็นภาพที่ทำคนมองใจละลาย สลัดความน้อยใจหลังถูกแมวเมินทิ้ง นั่งมองความน่ารักนั้นอย่างมีความสุขเมื่อสามปีก่อนชีวิตของท่านกุนซือหนุ่มแม้จะสุนกสนานตามประสาแต่ก็เงียบเหงาไร้จุดหมาย จนกระทั่งการปรากฏตัวของเจ้าก้อนขนสีขาวในอ้อมแขนของไต้ชินอ๋อง โดยไม่รู้ตัว กงเจิ้งก็ถูกดวงตาสีเทากลมแป๋วคู่นั้นหว่านเสน่ห์ให้ตกหลุมความน่ารักจนถอนตัวไม่ขึ้นดูเนื้อตัวกลม ๆ และขนปุกปุยนั่นสิ คว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-15
  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   คิดจับปลาสองมืองั้นรึ?

    กงเจิ้งอยากพูดบางอย่างแต่สีหน้าของชินอ๋องสั่งเขาให้หุบปาก เมื่อรถม้าจอดหน้าจวนจึงลงจากรถม้าแต่โดยดี ภายในรถม้าเหลือเพียงหนึ่งคนหนึ่งแมว หงอี้ยังไม่รู้ตัวว่าการที่นางสยบเสือร้ายจนหงอเป็นเรื่องแปลกประหลาด จึงนั่งเลียขนเงียบ ๆ บนตักแกร่งไต้ชินอ๋องหลุบตามองสัตว์เลี้ยงที่ไม่เคยตั้งใจเก็บมาเลี้ยงอย่างใช้ความคิด แคว้นหลี่ก่อตั้งมายาวนานนับพันปี เปลี่ยนราชวงศ์มานับสิบราชวงศ์ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนหรือสูญหาย นั่นก็คือตำนานเก่าแก่ในสมุดบันทึก ซึ่งตกทอดและถูกเก็บรักษาอย่างดีในห้องลับ มีเพียงคนในราชวงศ์ไม่กี่คนสามารถเข้าถึงมันได้เขาไม่เคยอยากสนใจศึกษาอย่างถ่องแท้จนกระทั่งวันนี้ หงอี้เป็นแค่แมวแต่กลับทำให้เสือดำยอมสงบลงได้เพียงแค่ขู่ หงอี้ฉลาดกว่าแมวทั่วไปเขายอมรับ มันถึงขนาดเข้าใจท่าทีหรือภาษาคนได้ มีหลายครั้งหรือเหตุการณ์บางอย่างที่เขามิได้คิดไปเองเห็นทีต้องกลับไปลื้อค้นตำนานพวกนั้นมาอ่านสักครั้ง บางทีอาจมีคำตอบในข้อสงสัยของวันนี้ ส่วนเสือดำแต่มีลายพาดกลอนตัวนั้น...หลี่ไต้ซวนก้มมองหงอี้ผู้นอนหมอบนิ่งบนตัก ตัดสินใจทดสอบบางอย่างอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ “หงอี้”เจ้าของชื่อผงกหัวมองคนเรียก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-20
  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   หนักใจ

    หงอี้มองตามแผ่นหลังกว้างของชินอ๋องจนลับสายตา พอถูกนำมาวางบนเบาะนอนซึ่งกงกงคนสนิทของฮ่องเต้จัดวางบนโต๊ะทรงงาน พร้อมถ้วยใส่นมอุ่น ๆ ความสนใจของนางจึงกลับมาจดจ่อกับของกินแทนโอรสสวรรค์ยิ้มปลาบปลื้ม รู้สึกมีแรงทำงานเพิ่มขึ้นหลังได้กลิ่นประจำตัวของจอมขี้เซา รอให้พระองค์จัดการงานบนโต๊ะแล้วเสร็จ ค่อยพาหงอี้ไปเสวยสำรับเช้าที่ตำหนักของฮองเฮาด้วยผลตรวจร่างกายรอบล่าสุด ทำให้พระองค์มีความหวังที่จะผลิตองค์หญิงตัวน้อยหน้าตาเหมือนฮองเฮาออกมาวิ่งเล่นไปทั่วพระราชวัง ส่งเสียงเรียกพระองค์ว่าเสด็จพ่อเจ้าคะ เสด็จพ่อเจ้าขาองค์หญิงน้อยเนื้อตัวนุ่มนิ่มหอมน้ำนม สวมชุดปักลวดลายสวยงาม ทำผมเป็นก้อนซาลาเปา ฉีกยิ้มหวานจนแก้มขึ้นก้อนกลมส่งมาให้...เพียงแค่คิดก็มีความสุขแล้ว“สำหรับเรื่องที่ข้าปรารถนาในตอนนี้ เจ้าคือความหวังเดียว หงอี้”เจ้าก้อนขนแสนนุ่มนิ่มเลียปากหลังดื่มนมอุ่นจนหมดถ้วย มองบุรุษผู้อยู่เหนือคนทั้งใต้หล้าด้วยดวงตากลมแป๋ว แสนใสซื่อ ไม่อาจเข้าใจว่านางเป็นความหวังในเรื่องใดหากนั่นทำให้คนมีความหวัง แม้จะเล็กน้อย ถือว่านางมีความสำคัญ หรือเปล่านะหงอี้โคลงศีรษะ ท้องอิ่มเล็กน้อยทำให้นางขี้เกียจก็ไม่อยากนอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-24
  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   ชาติกำเนิดแสนลึกลับ

    เมื่อเห็นสีหน้าของชินอ๋องกลับมาอ่อนโยนอีกครั้ง อ้ายเมิ่งเหยาจึงลอบถอนหายใจโดยระวังไม่ให้บุรุษตัวโตจับได้นางเหลือบมองคนสนิทที่ยืนตัวแข็งทื่อจากการถูกแรงกดดันรอบตัวของชินอ๋องไปนาน แล้วออกเดินนำ จึงไม่ได้เห็นรอยยิ้มชอบใจตรงมุมปากหยักของคนตัวโตด้านหลังทิ้งความรู้สึกหงุดหงิดบางอย่าง ก้าวตามแผ่นหลังของสตรีที่เขาเกิดสนใจขึ้นมากะทันหัน ลึกลงไปในแววตากร้าวกระด้าง เกิดแววไม่ยินยอมต่อบางสิ่ง ทว่ากลับไร้หนทางต่อต้าน ทำได้เพียงโอนเอนตามแรงฉุดดึงที่มองไม่เห็นเพื่อหาคำตอบเย็นวันนั้น พอออกจากพระราชวัง ซึ่งกว่าจะหลุด ต้องนั่งมองการยื้อยุดของสองพี่น้องอยู่นานสองนาน ด้วยฮ่องเต้คิดหาข้ออ้างดึงตัวนางไว้ข้างกายอีกหนึ่งคืน ชินอ๋องไม่ยอมอ่อนข้ออาศัยช่วงทีเผลอคว้าตัวนางแล้วเดินตัวปลิวออกจากห้องทรงพระอักษรพอกินข้าวเย็นอิ่ม หงอี้ได้รับการไหว้วานจากชินอ๋องให้ติดตามไปยังโรงประมูลซวี่หัวอีกครั้ง เบื้องหน้าของนางยังคงเป็นกรงขังขนาดใหญ่ ภายในนั้นเป็นเสือดำลายพาดกลอนตัวใหญ่ผู้หงุดหงิดง่าย นอนหมดแรงหลังถูกวางยาสลายกำลังซึ่งเป็นตัวยาหายาก แทบสูญหายจากแผ่นดิน ต้องใช้ทั้งกำลังคนและกำลังทรัพย์ออกค้นหา เมื่อได้มาแล้วย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-24
  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   เครื่องมือเข้าหาสตรี

    สามวันต่อมา จวนตระกูลเจียงจัดงานครบรอบวันเกิดให้แก่ราชเลขาเจียง ผู้เป็นแรงสำคัญนำพาให้ตระกูลเจียงกลับมาผงาด จนยืนอย่างมั่นคงท่ามกลางตระกูลขุนนางชั้นสูงในเมืองหลวงได้อีกครั้งหลังจากตระกูลเจียงตกต่ำมานับสิบแปดปี ด้วยการตัดสินใจทำการค้ากับขุนนางนิสัยชั่วร้าย หลอกลวงได้แม้กระทั่งราชสำนัก แม้จะพิสูจน์หลักฐานพบเพียงตระกูลเจียงไม่รู้เห็น แต่ความร่ำรวยของพวกเขาปฏิเสธไม่ได้ว่ามาจากเงินของราษฎรบทลงโทษของพวกเขาตระกูลเจียง คือ ยึดทรัพย์สินเข้าคลังหลวง เพื่อชดเชยความเสียหายจากการค้า จากตระกูลคหบดีผู้ร่ำรวย ดิ่งสู่จุดต่ำสุด เคยอาศัยในจวนหลังใหญ่ สาวใช้บ่าวไพร่นับร้อยชีวิตคอยทำงาน ชีวิตสุขสบายหายไปพวกเขาต้องใช้จ่ายอย่างประหยัดย้ายออกจากจวนเดิม สาวใช้บ่าวไพร่ต่างถูกขายเพื่อลดรายจ่าย บุตรหลานตระกูลเจียงราวตกสวรรค์ พวกเขาไม่มีทางฟื้นคืนได้อีกแล้ว แม้แต่สหายที่เคยคบหายังหนีหน้า เลิกคบหาพวกเขาสอนให้เห็นถึงจิตใจแท้จริงของคนเมื่อหกปีก่อนเจียงจื้อหมิงสอบได้จอหงวน เขาเริ่มทำงานเป็นขุนนางขั้นเล็ก ๆ ไต่เต้าด้วยความสามารถจนกระทั่งวันนี้ กลายเป็นราชเลขาคนสำคัญที่ฝ่าบาทไว้วางพระทัยและว่าที่ผู้นำตระกูลเจียงคนต่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-01

บทล่าสุด

  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   โดนแมวงอน

    เมื่อมาถึงห้องทรงพระอักษร หงอี้ที่ยังไม่อยากเสวนากับชินอ๋องรีบดิ้นออกจากอ้อมแขนของเขา เดินนวยนาดไปหาบุรุษผู้ทรงอำนาจที่สุดในแคว้น แต่กลับแย้มสรวลเมื่อเห็นก้อนสีขาวเดินส่ายพวงหางเข้ามาคลอเคลียชายฉลองพระองค์หลี่ไต้ซานแย้มโอษฐ์ โน้มพระวรกายลงช้อนอุ้มหงอี้แล้วตรัสอย่างรู้ทันว่า “หงุดหงิดเจ้าหน้าตายอยู่ละสิ จึงเดินมาคลอเคลียข้าเช่นนี้”หากในเวลาปกติ การเดินมาออดอ้อนเช่นนี้มีแทบนับครั้งได้ ไม่หงุดหงิดน้องชายของเขาก็อยากได้บางอย่าง ครานี้พระองค์ทรงคาดเคาว่าเหตุผลข้อแรก แม้ชินอ๋องจะไม่แสดงออกทางสีหน้าแต่แววตาละห้อยที่มองตามหลังเจ้าตัวกลมก็ชัดเจนดีหงอี้วางคางบนไหล่หนาของฮ่องเต้ เมินเฉยคำถามเท่าทันนั้น ในคราแรกนางตื่นตัวอยู่บ้างเมื่อได้เข้าเฝ้าฮ่องเต้ บุคคลผู้ทรงอำนาจเหนือผู้ใดในแคว้นนี้ บารมีของเขาเรืองรองจนนางแสดงความนอบน้อมออกมาโดยธรรมชาติ จึงออกอาการเกร็งเมื่อถูกโอบอุ้มเมื่อนานวันเข้าความสนิทสนมเริ่มมากขึ้นความรู้สึกหวั่นเกรงหายไป กล้าอ้อนกล้าซุกมากขึ้น ยิ่งหลี่ไต้ซานปล่อยให้นางทำตามใจ โดยไร้ซึ่งโทสะแถมยังมีความสุขทุกคราเมื่อนางมาอยู่ใกล้ หงอี้จึงยิ่งได้ใจการถูกเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดีจาก

  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   ไม่รู้ตัว

    แม้เมื่อวานชินอ๋องจะกลับมาพร้อมสตรีและยังดื่มน้ำผึ้งยามค่ำคืน จนกระทั่งล่วงเข้าวันใหม่ แต่พ่อบ้านรวมถึงคนสนิทไม่ได้เอ่ยปากถาม พวกเขาเพียงลอบส่งสายตาเพื่อพูดคุยกันว่าสตรีนางนั้นหายไปที่ใดแล้ว ในเมื่อท่านอ๋องกำลังเดินอุ้มหงอี้ที่หายตัวไปออกมาจากห้องสาวใช้ผู้เข้าไปปรนนิบัติถูกพ่อบ้านสอบซัก ได้ความว่าไร้เงาของสตรีที่ท่านอ๋องอุ้มเข้าห้องน่าแปลกเกินไป รวมถึงน่าเหลือเชื่อ คนทั้งคนจะหายไปโดยไม่มีผู้ใดพบเห็นเลยหรือการหายตัวไปของหงอี้ไม่ใช่เรื่องน่าสงสัย แมวตัวนี้ชอบเที่ยวเล่น ซุกซนตลอดเวลา หายตัวไปก็กลับมาเองได้ พวกเขาทั้งหมดเคยชินเสียแล้ว เมื่อคืนถึงถึงก็เพียงนึกห่วงเท่านั้น เช้านี้พบอยู่กับท่านอ๋อง เป็นอันว่าหายห่วงหงอี้กลับมาอยู่ในร่างแมวเพียงแค่คิดเท่านั้น นางยังนึกแปลกใจ ก่อนหน้านั้นเคยลองแล้วผลปรากฏว่าว่างเปล่า นางยังคงเป็นแมวสีขาวขนปุย แล้วเหตุใดจึงเกิดขึ้นมันได้รับการกระตุ้น?แล้วอะไรคือตัวกระตุ้น หงอี้ปวดหัวไปหมด ยิ่งคิดยิ่งใช้สมองมาก ความหิวยิ่งถาโถม เสียงท้องเจ้ากรรมดังเข้าหูชินอ๋อง จนเขาก้มมองเจ้าก้อนขนในอ้อมอกอย่างนึกสงสาร รีบหันไปสั่งสาวใช้จัดโต๊ะอาหาร จับนางเข้าประจำที่นมอ

  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   เสียอาการ

    “อึก อ๊ะ อ๊า”ถูกเคี่ยวกรำมาหลายชั่วยาม เสียงครางแสนหวานจึงเปลี่ยนเป็นแหบแห้ง หงอี้ถูกจับนอนตะแคงโดยมีร่างใหญ่ซ้อนประชิดด้านหลัง เรียวขาพาดบนแขนแกร่ง แอ่นอ้ารับการป้อนความเสียวจากท่อนกายใหญ่ที่ยังคงสอดเข้าออกอย่างพลิ้วไหวน้ำหวานเจิ่งนองจนรู้สึกแฉะตรงหว่างขา เม็ดเสียวเต่งบวมสั่นริกจากการขยี้ของท้องนิ้วสาก ยิ่งเขาดันเนินชายเข้าลึกนางยิ่งกระสันจนตัวกระตุก แอ่นบั้นท้ายเข้าหาราวนางโลมแสนร่าน กระหายรสสวาทไม่รู้อิ่ม“ขะ ข้า อ๊ะ ซวนจ๋า~ ช้าหน่อย อื้อ อ๊า”ทรมานเหลือเกิน...รัญจวนเหลือแสนกับราคะที่เขาปรนเปรอให้ไม่หยุดพัก“บอกให้ช้าลงแต่เจ้ากลับแอ่นรับไม่น้อยหน้า”“ฮึก อ๊า”“น้ำหวานของเจ้า ไหลอาบข้าจนเปียกแฉะ แมวน้อยแสนร่าน” เนินชายของเขาที่มีขนหยาบแห้งและเปียกวนกันเช่นนี้มาหลายชั่วยาม ถึงจะฉีดน้ำคาวออกไป อีกสักพักลำกายใหญ่ก็กลับมาขยายพองคับโพรงอุ่นให้เขาสร้างความหฤหรรษ์กับนางอีกครั้งวาจาแสนลามกขับความร้อนจนใบหน้าร้อนผ่าว เขินอายเหลือเกินกับความจริงที่เขากล่าวออกมา แต่กลีบบุปผากลับขมิบรัว ราวกับว่ากำลังประจานความคิดแท้จริงของนางให้เขารับรู้ว่าชอบมากแค่ไหนหลี่ไต้ซวนคำรามเมื่อนางทั้งดูดดึงและเ

  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   หงอี้ของเขา

    หงอี้ร้อนวูบวาบตรงจุดประสานเชื่อม ความกระสั่นซ่านไต่ระดับ รู้สึกถึงเขามากกว่าทุกสิ่ง รอบกายราวถูกหยุดเวลาเอาไว้มีเพียงนางและเขาที่หลงระเริงในห้วงราคะ เอวคอดยกตามติดทุกการถอดถอน คล้ายกับว่าไม่ต้องการให้เขาหนีห่าง ร้อนผ่าวจนใบหน้าแทบไหม้เมื่อสบตาหยอกล้อของเขามันเร็วขึ้น เร็วขึ้นจนร่างเคลื่อนคลอนทรวงอิ่มไหวยวบยาบตามจังหวะขึ้นลง จนต้องประคองไว้ในอุ้งมือ นวดเคล้นเนื้อล้นผ่านง่ามนิ้ว แทรกท่อนกายผ่านความอ่อนนุ่ม ให้เนื้อของเขาและนางเสียดสีกันครั้งแล้วครั้งเล่าความคับแน่น เจ็บตึงในร่องแคบเลือนหายไป เหลือเพียงความซ่านกระสันยามความใหญ่โตแทรกผ่าน ขาเรียวอ้ากว้างยิ่งกว่าเดิมนั่นทำให้เขาเข้าถึงทุกอณูการรับรู้ จ้วงทะยานตามความอยากจนกลีบอ่อนยู่เข้ายู่ออก จนหงอี้หนีออกจากความเสียวซ่านไม่พ้นมันมากขึ้น...เสียวขึ้น...ไต่ระดับความเสียวจนแทบขาดใจน้ำเมือกลื่นของนางหลั่งริน ทำให้เขาเร่งเร้าจ้วงแทงราวไม่รู้จักเต็มอิ่ม หลี่ไต้ซวนจุมพิตหน้าผากมลชื้นเหงื่อ ตามด้วยดวงตาทั้งสองข้าง พวงแก้มนุ่ม ปลายจมูกเล็กโด่งรั้นก่อนจะหยัดนั่งตรงมองส่วนประสาน เอวหนาลดความเร็วลง กระทั้นแกนกายเคลือบน้ำหวานสีใสและเลือดสีแด

  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   ยังไม่พอ

    ไต้ชินอ๋องแทบทะยานมาที่เรือนนอน ตอนเปิดประตูใช้เท้า ตอนปิดก็ยังใช้เท้ากระแทกปิดเสียงดังปัง ร่างบางในห่อผ้าอยู่ไม่สุข มือน้อยเลื้อยออกมาสอดเข้าสาบชุดลูบไล้ผิวเนื้อของเขา สัมผัสราวถูกขนนกปัดผ่าน สร้างความวาบหวามจนต้องข่มเสียงครางแสนพอใจแม้ความคิดจะอยากจับนางทุ่มลงบนเตียง ตามด้วยคร่อมทับทรมานให้สาสมกับความต้องการในอก แต่เขาสนใจอย่างอื่นมากกว่า จึงต้องสะกดความร้อนรุ่มวางหญิงสาวผู้อ้างตัวว่าคือหงอี้ แมวขี้เซาที่เขาเลี้ยงไว้ข้างกายตลอดสามปีเมื่อเป็นอิสระ หงอี้ใช้มือปัดผ้าคลุมออกอย่างนึกรำคาญ นางร้อนแทบตายแล้วแต่ชินอ๋องยังใช้มันห่อตัว ไยต้องทำถึงขนาดนี้ด้วยนางก็แค่แมวตัวหนึ่งอุ้มไว้ในอกอย่างเปิดเผย มีสิ่งใดน่าอายกันนัยน์ตาสีเทากลม แวววาวจากแรงปรารถนา มองใบหน้าแดงก่ำของพ่อตัวร้ายหยาดเยิ้ม ยังคงไม่เข้าใจอยู่เหมือนเดิมนางแค่แอบดื่มสุราเองมิใช่หรือ ความร้อนในร่างกายโดยเฉพาะส่วนนั้นมาจากไหนหงอี้สับสนแต่ร่างกายไม่รักดีกลับเอนกายลงบนเตียงเย็นชืด บิดเร่าอย่างชอบใจ ชินอ๋องหายใจหอบกับภาพยั่วราคะของสตรีบนเตียง ผ้าปูสีดำตัดกับผิวกายนวลลออ เส้นผมสีเทาออกเงินกระจายไปทั่วหมอนใบใหญ่“อื้อ...เย็นจัง”บ

  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   ฤทธิ์กำหนัดเล่นงาน

    บรรยากาศแสนหนักอึ้งบนโต๊ะของชินอ๋องหมดไป หงอี้จึงมีความคิดอยากลองชิมสุรา ว่าก็ว่าเถอะ นางเมื่อครั้งยังเป็นกมลเนตรชื่นชอบการเติมแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดมาก ยี่ห้อไหนคนว่าดี ผสมแบบไหนคนว่าเด็ด เป็นต้องขอลองเสมอพออยู่ในร่างแมวความชอบจึงถูกงดเว้นไป หงอี้อาศัยจังหวะที่สองหนุ่มเผลอยื่นอุ้งเท้าหน้าจุ่มลงในจอกสุรา ยกขึ้นใช้ลิ้นแตะ ๆ เพื่อทดลองรสชาติ ลิ้นน้อย ๆ สีแดงเลียอุ้งเท้าหน้าชวนให้คนมองรู้สึกจั๊กจี้อู้ววว รสชาติใช้ได้เลย ฤทธิ์ไม่แรงเท่าไหร่ ถือว่าพอแก้ขัดอาการเปรี้ยวปากได้หลังจากนั้นความสนใจทั้งหมดของนางจึงอยู่ที่จอกสุราตรงหน้า ลิ้มรสชาติแสนคิดถึงอย่างสุขใจ ดวงตากลมหลับพริ้มอย่างมีความสุข ความเร็วของการจุ่มอุ้งเท้าก็เพิ่มขึ้น เผลออีกทีสุราเต็มจอกก็เหลือเพียงครึ่งหนึ่งตายละ ซวนจะรู้ไหมทำไงดี ๆความกังวลส่งผลให้นางไม่ได้นอนเฉยอีกต่อไป ลุกขึ้นกลอกตามองไปมาอย่างใช้ความคิด ก่อนจะ..“หงอี้ ซุกซนอีกแล้วหรือ” ไต้ชินอ๋องบ่นไม่จริงจังนักออกมา เมื่อพบว่าจอกสุราของตนเองหกคว่ำ เมื่อมองดูตัวการกำลังส่งเสียงอย่างรู้สึกผิด จึงเรียกสาวใช้แถวนั้นมาเก็บกวาด สาวใช้รีบเช็ดสุราและเปลี่ยนจอกใหม่พร้อมเติมสุรา

  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   เครื่องมือเข้าหาสตรี

    สามวันต่อมา จวนตระกูลเจียงจัดงานครบรอบวันเกิดให้แก่ราชเลขาเจียง ผู้เป็นแรงสำคัญนำพาให้ตระกูลเจียงกลับมาผงาด จนยืนอย่างมั่นคงท่ามกลางตระกูลขุนนางชั้นสูงในเมืองหลวงได้อีกครั้งหลังจากตระกูลเจียงตกต่ำมานับสิบแปดปี ด้วยการตัดสินใจทำการค้ากับขุนนางนิสัยชั่วร้าย หลอกลวงได้แม้กระทั่งราชสำนัก แม้จะพิสูจน์หลักฐานพบเพียงตระกูลเจียงไม่รู้เห็น แต่ความร่ำรวยของพวกเขาปฏิเสธไม่ได้ว่ามาจากเงินของราษฎรบทลงโทษของพวกเขาตระกูลเจียง คือ ยึดทรัพย์สินเข้าคลังหลวง เพื่อชดเชยความเสียหายจากการค้า จากตระกูลคหบดีผู้ร่ำรวย ดิ่งสู่จุดต่ำสุด เคยอาศัยในจวนหลังใหญ่ สาวใช้บ่าวไพร่นับร้อยชีวิตคอยทำงาน ชีวิตสุขสบายหายไปพวกเขาต้องใช้จ่ายอย่างประหยัดย้ายออกจากจวนเดิม สาวใช้บ่าวไพร่ต่างถูกขายเพื่อลดรายจ่าย บุตรหลานตระกูลเจียงราวตกสวรรค์ พวกเขาไม่มีทางฟื้นคืนได้อีกแล้ว แม้แต่สหายที่เคยคบหายังหนีหน้า เลิกคบหาพวกเขาสอนให้เห็นถึงจิตใจแท้จริงของคนเมื่อหกปีก่อนเจียงจื้อหมิงสอบได้จอหงวน เขาเริ่มทำงานเป็นขุนนางขั้นเล็ก ๆ ไต่เต้าด้วยความสามารถจนกระทั่งวันนี้ กลายเป็นราชเลขาคนสำคัญที่ฝ่าบาทไว้วางพระทัยและว่าที่ผู้นำตระกูลเจียงคนต่

  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   ชาติกำเนิดแสนลึกลับ

    เมื่อเห็นสีหน้าของชินอ๋องกลับมาอ่อนโยนอีกครั้ง อ้ายเมิ่งเหยาจึงลอบถอนหายใจโดยระวังไม่ให้บุรุษตัวโตจับได้นางเหลือบมองคนสนิทที่ยืนตัวแข็งทื่อจากการถูกแรงกดดันรอบตัวของชินอ๋องไปนาน แล้วออกเดินนำ จึงไม่ได้เห็นรอยยิ้มชอบใจตรงมุมปากหยักของคนตัวโตด้านหลังทิ้งความรู้สึกหงุดหงิดบางอย่าง ก้าวตามแผ่นหลังของสตรีที่เขาเกิดสนใจขึ้นมากะทันหัน ลึกลงไปในแววตากร้าวกระด้าง เกิดแววไม่ยินยอมต่อบางสิ่ง ทว่ากลับไร้หนทางต่อต้าน ทำได้เพียงโอนเอนตามแรงฉุดดึงที่มองไม่เห็นเพื่อหาคำตอบเย็นวันนั้น พอออกจากพระราชวัง ซึ่งกว่าจะหลุด ต้องนั่งมองการยื้อยุดของสองพี่น้องอยู่นานสองนาน ด้วยฮ่องเต้คิดหาข้ออ้างดึงตัวนางไว้ข้างกายอีกหนึ่งคืน ชินอ๋องไม่ยอมอ่อนข้ออาศัยช่วงทีเผลอคว้าตัวนางแล้วเดินตัวปลิวออกจากห้องทรงพระอักษรพอกินข้าวเย็นอิ่ม หงอี้ได้รับการไหว้วานจากชินอ๋องให้ติดตามไปยังโรงประมูลซวี่หัวอีกครั้ง เบื้องหน้าของนางยังคงเป็นกรงขังขนาดใหญ่ ภายในนั้นเป็นเสือดำลายพาดกลอนตัวใหญ่ผู้หงุดหงิดง่าย นอนหมดแรงหลังถูกวางยาสลายกำลังซึ่งเป็นตัวยาหายาก แทบสูญหายจากแผ่นดิน ต้องใช้ทั้งกำลังคนและกำลังทรัพย์ออกค้นหา เมื่อได้มาแล้วย

  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   หนักใจ

    หงอี้มองตามแผ่นหลังกว้างของชินอ๋องจนลับสายตา พอถูกนำมาวางบนเบาะนอนซึ่งกงกงคนสนิทของฮ่องเต้จัดวางบนโต๊ะทรงงาน พร้อมถ้วยใส่นมอุ่น ๆ ความสนใจของนางจึงกลับมาจดจ่อกับของกินแทนโอรสสวรรค์ยิ้มปลาบปลื้ม รู้สึกมีแรงทำงานเพิ่มขึ้นหลังได้กลิ่นประจำตัวของจอมขี้เซา รอให้พระองค์จัดการงานบนโต๊ะแล้วเสร็จ ค่อยพาหงอี้ไปเสวยสำรับเช้าที่ตำหนักของฮองเฮาด้วยผลตรวจร่างกายรอบล่าสุด ทำให้พระองค์มีความหวังที่จะผลิตองค์หญิงตัวน้อยหน้าตาเหมือนฮองเฮาออกมาวิ่งเล่นไปทั่วพระราชวัง ส่งเสียงเรียกพระองค์ว่าเสด็จพ่อเจ้าคะ เสด็จพ่อเจ้าขาองค์หญิงน้อยเนื้อตัวนุ่มนิ่มหอมน้ำนม สวมชุดปักลวดลายสวยงาม ทำผมเป็นก้อนซาลาเปา ฉีกยิ้มหวานจนแก้มขึ้นก้อนกลมส่งมาให้...เพียงแค่คิดก็มีความสุขแล้ว“สำหรับเรื่องที่ข้าปรารถนาในตอนนี้ เจ้าคือความหวังเดียว หงอี้”เจ้าก้อนขนแสนนุ่มนิ่มเลียปากหลังดื่มนมอุ่นจนหมดถ้วย มองบุรุษผู้อยู่เหนือคนทั้งใต้หล้าด้วยดวงตากลมแป๋ว แสนใสซื่อ ไม่อาจเข้าใจว่านางเป็นความหวังในเรื่องใดหากนั่นทำให้คนมีความหวัง แม้จะเล็กน้อย ถือว่านางมีความสำคัญ หรือเปล่านะหงอี้โคลงศีรษะ ท้องอิ่มเล็กน้อยทำให้นางขี้เกียจก็ไม่อยากนอ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status