นับเป็นเวลาเกือบสี่ปีแล้วในร่างแมวและโลกใบใหม่ หลังจากค่ำคืนในวัดร้างชีวิตแมวจรของกมลเนตรพลิกผันกลายเป็นแมวของท่านอ๋องผู้สูงศักดิ์ ร่ำรวยเงินทอง มากอำนาจบารมี แถมยังถูกตั้งชื่อว่า หงอี้
ภายในจวนหลังใหญ่ อาณาเขตกว้างขวางเหมาะแก่การวิ่งเล่น น่าเสียดายที่เจ้าของจวนเกลียดดอกไม้เข้าเส้น
สวนภายในนี้จึงมีแค่ต้นไม้ หญ้าและไม้พุ่มสีเขียวซึ่งถูกตัดแต่งอย่างดีเท่านั้น เมื่อหาความสวยงามจากด้านหน้าไม่พบ หงอี้ จึงมักไปขลุกตัวอยู่บริเวณท้ายจวนกับสาวใช้ทั้งหลาย สถานที่ตรงนี้เป็นเหมือนจุดพักผ่อนสำหรับสาวใช้ เมื่อเสร็จจากงานในหน้าที่รับผิดชอบ พวกนางมักจะปลูกผัก ปลูกดอกไม้
หงอี้ชอบกลิ่นหอมของดอกไม้มาก จึงมักมานอนกลิ้งตัว บางขณะก็มักจะสูดดมไปตามกลีบดอกด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้ม หญ้านุ่ม ๆ นั้นดีอยู่หรอกแต่จะสมบูรณ์แบบขึ้นไปอีกถ้าได้ดอกไม้หลากสีสันประดับตกแต่งด้วย
พูดถึงความเปลี่ยนแปลงเห็นจะมากทีเดียว เมื่อสถานะเปลี่ยนจากแมวจรเป็นแมวเลี้ยง ร่างกายผอมโซราวกับไร้เรี่ยวแรงเปลี่ยนเป็นอวบอ้วน เต็มไม้เต็มมือ ขนสีขาวที่เคยเปื้อนกระดำกระด่าง ยังมีขนหลุดเป็นกระจุกจนมองเห็นหนัง สาเหตุเกิดจากไปตบตีกับเจ้าถิ่นจนบาดเจ็บไปตาม ๆ กัน ทั้งหมดที่กล่าวมา ตอนนี้หายไปแล้ว เหลือเพียงเจ้าตัวกลมขนสีขาวบริสุทธิ์จนแทบกลายเป็นสีเงินแสนนุ่มนิ่ม
หางมีขนยาวเป็นพวงดูสุขภาพดีจากการเลี้ยงดูอย่างเอาใจใส่ ถึงขนาดมีเรือนนอนและสาวใช้คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะการกิน อาบน้ำ ทุกอย่างดีมากจนหงอี้รู้สึกราวเป็นคุณหนูน้อยคนสำคัญของจวนอ๋อง
สาวใช้พวกนี้ก็เอ็นดูนาง ชอบหาของเล่นมาล่อ บ้างก็ปักชุดสวยงามมาให้สวมใส่ ชีวิตไร้กังวลแสนสุขสบายนี้ไม่คิดฝันเลยว่านางจะได้ครอบครองมันหลังจากตื่นมาในร่างแมวน้อย เสียแม่ไปหลังจากรู้ความได้หกเดือน ต้องเร่ร่อนหนีเอาตัวรอด หิวก็ต้องขโมย นอนหลับและตื่นเพียงลำพัง
“หงอี้ เมื่อกี้ข้าได้ยินสาวใช้จากเรือนท่านอ๋องกำลังตามหาเจ้าอยู่ มาหลบอยู่ตรงนี้อีกแล้วหรือ”
เหมี๊ยว เข้าใจแล้ว ข้าไปก่อนนะ
ร่างสีขาวร้องรับเสียงยาว วิ่งกลับเรือนของเจ้านายอย่างไม่คิดรอช้า เพื่อให้เจ้านายผู้มีนิสัยกระด้างหยาบคนนี้ชื่นชอบในตัวนาง ต้องใช้ความพยายามอยู่ไม่น้อย จะทำอะไรขัดใจเขาไม่ได้เด็ดขาด หากถูกเมินแล้วต้องระเห็จตัวเองออกไปเร่ร่อนข้างนอก นางคงยากจะรับไหว
ลำบากแล้วสุขสบายนั้นทำง่าย แต่สุขสบายแล้วกลับไปลำบากนั้นทำยาก วาจานี้ไม่เกินจริงแม้แต่น้อย
หงอี้แทรกตัวจากประตูห้องที่เปิดอ้า ส่งเสียงให้คนด้านในรู้ว่านางมาแล้ว พอเห็นเขาตบหน้าตักก็กระโดดขึ้นไป หมุนตัวหาจุดเหมาะแล้วล้มตัวนอนขด ปล่อยให้มือหนาลูบขนแผ่วเบา
อ่า สบายจัง เพิ่งตื่นนอน ไยจึงง่วงอีกแล้ว
ไต้ชินอ๋องมองชุดที่เปื้อนอยู่เล็กน้อยของตนเอง ร่องรอยของอุ้งเท้าบอกได้ดีว่าใครคือตัวการ กระนั้นก็ไม่เก็บมาใส่ใจ “ออกไปวิ่งเล่นซุกซนที่ใดมา”
หงอี้ไม่ตอบแต่ใช้หัวถูไถฝ่ามือหยาบ ครางครืดคราดในลำคอ พวงหางสีขาวกวัดแกร่งไปมาดูน่ามันเขี้ยวจนชินอ๋องต้องจับมารูดจากโคนจรดปลายหาง น้ำหนักไม่เบานักแต่ก็ไม่แรงจนสร้างความเจ็บปวด เพื่อเอาใจมันมือหนาหยิบขนมที่เตรียมไว้สำหรับแมวโดยเฉพาะส่งให้ หงอี้อ้าปากรับขนมเคี้ยวกรุบ ๆ ทั้งหลับตา กลายเป็นของเหลวอยู่บนตักแกร่งโดยปริยาย
ชินอ๋องหัวเราะกับท่าทางขี้เกียจของเจ้าขี้เซา ละความสนใจมาทำงานต่ออีกเล็กน้อย เมื่อพ่อบ้านแจ้งว่าได้เวลาอาหารแล้วจึงวางพู่กันในมือลง อุ้มหงอี้แนบอกด้วยมือเดียว เดินไปยังห้องอาหาร หนึ่งคน หนึ่งสัตว์ต่างนั่งลงประจำที่ ทุกอย่างกลายเป็นภาพชินตาของสาวใช้และเหล่าองครักษ์ในจวนอ๋องไปเสียแล้ว
นับแต่คืนที่ท่านอ๋องบาดเจ็บ ในอ้อมแขนแกร่งอุ้มแมวตัวผอมแสนน่าเกลียดไม่ยอมปล่อย จวนอันแสนเคร่งขรึมก็ดูจะสดใสขึ้นมากโข ด้วยมีแมวขนยาวสีขาวจอมซุกซนเข้ามาเป็นสมาชิกเพิ่ม สร้างความบันเทิงแก่สาวใช้และพ่อบ้านให้ปวดหัวในความดื้อและแสนซนของหงอี้
นับว่าประหลาดจนเกิดข่าวลือ ไต้ชินอ๋องทำสงครามจนเสียสติจึงเก็บแมวตัวหนึ่งมาเลี้ยงดูอย่างดีในจวน เวลาเดินไปที่ใด หากไม่ใช่กิจสำคัญมักจะเห็นเจ้าขนฟูเกาะติด ยืนบนไหล่หนาบ้าง ซุกในชุดบริเวณอก โผล่ออกมาเพียงหน้าขนและหูสองข้างขยับดุ๊กดิ๊ก ความต่างสุดขั้วนี้ทำเอาคนที่พบเห็นเอ่ยสิ่งใดไม่ออก
ยังคงเป็นวันอันแสนน่าเบื่อสำหรับใครหลายคน ไต้ชินอ๋องต้องเข้าประชุมในท้องพระโรงแต่เช้าตรู่ กิจวัตรประจำวันของหงอี้ก็คือกินอาหารอิ่มแล้วจึงลงไปนอนกลิ้งบนสนามหญ้าเพื่อรอย่อย
แต่วันนี้ห้องครัวทำอาหารใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามา เห็นสิ่งใดล้วนน้ำลายสอนางจึงเผลอตัว กินทุกอย่างที่สาวใช้คีบให้หมดเลย
ไม่น่าตะกละกินเยอะเลย ฮือ
หงอี้พยายามขยับตัวเท่าที่ไหว ท้องกลมป่องเป็นปัญหาต่อการลุกเดินอย่างยิ่ง ทางออกคือการนอนอืด กลิ้งตัวไปมาแทน เท้าหลังยกงอ ดีดไปมาบนฟ้าราวกำลังออกกำลัง เท้าหน้าสองข้างตบลงบนหน้าท้องอย่างหมดอาลัยตายอยาก
สาบานเลยว่าต่อไปนางจะยับยั้งปากของตัวเอง
ทรมาน~
ภาพของหงอี้นอนอืดกลางสนามหญ้า ในสายตาของสาวใช้และทหารลาดตระเวนภายในจวน กลับน่ารักน่าเอ็นดูจนพวกเขาลอบอมยิ้มตาม ๆ กัน เพราะหงอี้คือความสดใสเดียวของจวนอ๋อง
กว่าชั่วยามแมวขาวจึงยอมลุกจากการนอน เดินไปนั่งริมสระบัวเพื่อส่องเจ้าปลาหลากสีราคาแพง ไม่อยากยอมรับว่านางน้ำลายสอทุกคราเมื่อเห็นปลาพวกนี้ดำผุดดำว่ายในน้ำ
คิดถึงปลาเผาน้ำจิ้มแซ่บ ๆ อ่า
หงอี้บ่นอุบพ่นลมหายใจ ระบายความหงุดหงิดด้วยการใช้เท้าหน้าตีน้ำจนเนื้อตัวเปียก ไล่ปลาพวกนี้ให้พ้นสายตา ในเมื่อกินไม่ได้ก็อย่ามาให้เห็นหน้า
สาวใช้พี่เลี้ยงร้องโวยวายมาแต่ไกลเมื่อเห็นเจ้าก้อนสีขาวซุกซน สร้างงานให้นางอีกแล้ว ดวงตาสีเทาเหลือบมองสาวใช้ ฉายแววเจ้าเล่ห์ รอจนกระทั่งนางเดินมาใกล้จึงวิ่งลอดหว่างขาหายไปทางท้ายจวนอย่างรวดเร็ว เมินเสียงบ่นปนหัวเราะจากด้านหลัง เทน้ำหนักลงที่ขาหลังกระโจนขึ้นไปยืนบนกำแพงอย่างสง่างาม
ถึงเวลาคุณหนูหงอี้หนีเที่ยว
หงอี้ลัดเลาะไปตามกำแพงอย่างคุ้นเคย ตลาดเบื้องล่างยังคงคึกคักไม่เปลี่ยน ชีวิตกว่าสี่ปีไม่มีสักวันจะเงียบเหงา นางเที่ยวเล่นจวนนั้นออกจวนนี้ ยังถูกพาออกงานเลี้ยงกับไต้ชินอ๋องเป็นบางครา
กล่าวถึงเจ้านายคนนี้ นางเองเพิ่งแน่ชัดว่าเขาเป็นใครหลังถูกรับมาเลี้ยงได้หนึ่งเดือน ไต้ชินอ๋องเป็นอนุชาร่วมมารดาของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน ฝีมือการรบเก่งกาจ ตลอดสี่แคว้นไม่มีผู้ใดกล้าต่อกรหากไต้ชินอ๋องก้าวลงสนามรบ
แคว้นหลี่จึงไร้ศัตรู เจริญรุ่งเรืองขีดสุด ประชาชนในเมืองต่าง ๆ กินดีอยู่ดี การจัดเก็บภาษีเป็นไปอย่างเหมาะสมตามพื้นที่เพาะปลูก และจะเก็บภาษีสามปี งดเว้นหนึ่งปีไปจนกว่าจะหมดรัชสมัยของฮ่องเต้พระองค์นี้
โดยกฎหมายการเก็บภาษีแบบใหม่ถูกประชาชนทั่วแคว้นหลี่ยกขึ้นมาสรรเสริญ พวกเขาต่างคิดว่าฮ่องเต้พระองค์นี้ คือองค์เง็กเซียนลงมาจุติเพื่อความสงบสุขของปวงประชา ส่วนไต้ชินอ๋อง อนุชาผู้เก่งกาจก็คือเทพสงครามลงมาจุติเพื่อปกป้องแคว้นหลี่
น่าเสียดาย บุรุษผู้เก่งกาจทั้งยังสูงศักดิ์อย่างไต้ชินอ๋อง ตลอดแคว้นหลี่หากบอกว่าเขาคือที่สอง คงไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยว่าตนคือที่หนึ่ง กลับเป็นได้แค่ตัวร้ายในความรักของพระเอกและนางเอกเท่านั้น
ครานั้นหงอี้ถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า นางหลุดเข้ามาในนิยายที่เพิ่งพิสูจน์อักษรเสร็จ แถมตอนนางอ่านเนื้อหา ไต้ชินอ๋องไม่เคยรับเลี้ยงแมวมาก่อน
นี่แหละปัญหา
การมีอยู่ของนางอาจทำให้เนื้อหาของนิยายเปลี่ยน แม้จะเชื่อเช่นนั้นแต่หงอี้ยังคงเฝ้ารอให้ถึงเวลาแห่งการพบกันของนางเอกและตัวร้าย ฉากตกหลุมรักยังคงตราตรึง นักเขียนบรรยายได้เข้าถึงอารมณ์มาก
พอมีคนเข้ามากระตุกดวงใจแกร่งให้สั่นคลอน การเข้าหานางเอกจึงเริ่มต้นขึ้น ยิ่งรู้ว่าสตรีที่หลงรักมีใจให้บุรุษอื่น ความไม่ยินยอมจึงบังเกิด เรื่องราวความรักแสนวุ่นจึงเริ่มต้นขึ้น หนึ่งสตรีสองบุรุษแน่นอนว่าต้องมีหนึ่งคนเจ็บปวด
นิยายเรื่องนี้เน้นความสัมพันธ์ของตัวละคร ปมไม่ซับซ้อน มีดราม่าเล็กน้อยให้พอลุ้น จุดจบของตัวละครถือว่าสมเหตุสมผล ตัวร้ายที่แม้จะรักมากแต่ก็ต้องยอมปล่อยเมื่อคนที่รักไม่เคยรักเรา จากตามขัดขวางความรักของพระนางอย่างสุดความสามารถก็ยอมถอย หลบไปเลียแผลใจไกลถึงชายแดน ไม่ขอกลับมาเมืองหลวงหากไม่มีราชโองการเรียกกลับ
ส่วนนางร้ายแม้ตอนแรกจะไม่ลงมือหนักด้วยยังไว้ตัว ถือว่าตนนั้นสูงศักดิ์จะลงมือกระทำเช่นสตรีไร้การอบรมนั้นดูจะไม่เหมาะสม แต่พอเห็นว่าตัวเองจะเสียคนที่รักไปจริง ๆ จึงเกิดความริษยา
คิดวางแผนการต่าง ๆ ขึ้นเพื่อแยกคนสองคนออกจากกัน แต่แผนร้ายถูกเปิดโปง จึงถูกลงโทษให้ออกจากเมืองหลวง แต่เพราะนางทำด้วยตัวเอง ตระกูลช่ายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจึงไม่ถูกนำเข้าไปเอี่ยวกับความผิดนี้
แม้ว่าจะมีขุนนางฝ่ายตรงข้ามพยายามหยิบยกข้อกล่าวหาขึ้นมา เพื่อหวังปลดฮองเฮาแต่ฮ่องเต้ก็ใช้หลักฐานปิดปากพวกเขาจนเงียบสนิท
ต่อมานางร้ายได้แต่งงานกับคหบดีแก่คราวพ่อ เรื่องราวจบลงที่ตรงนั้น ไม่มีการเอ่ยถึงอีก มาเน้นกล่าวเรื่องพระนางว่ามีความสุข สร้างครอบครัวอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า นิยายจบลงอย่างสวยงาม คนอ่านฟินกันเป็นแถว
แต่ตอนนี้ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป เมื่อมีตัวละครใหม่อย่างนางเข้ามาเป็นส่วนเกิน
เพื่ออะไร ทำไมถึงฟื้นขึ้นในร่างแมว แล้วนิยายจะดำเนินต่อไปยังไง หงอี้คิดจนปวดหัวมาสามปีแล้ว
*****
พลาดท่า เสียทีเข้าไปอ้อนตัวร้ายจนโดนเก็บมาเลี้ยง
ชะตากรรมของตัวร้ายแสนอดสู ต้องมาคอยนั่งแก้ปัญหาให้คุณหนูหงอี้คิดแล้วเพลีย
“อีอี~”ใบหน้ากลมป้อมหันมองทางต้นเสียงจึงเห็นบุรุษร่างสูงใหญ่ กำลังฉีกยิ้มราวคนโง่งมวิ่งอ้าแขนตรงมาหานาง หงอี้มองเขาด้วยแววตาเบื่อหน่าย รอจนเขาวิ่งมาใกล้ตัวจึงกระโดดหลบวิธีวงแขนนั้นอย่างง่ายดาย เมินสีหน้าผิดหวังของคนชอบฉวยโอกาส ยืนส่ายพวงหางดมกลีบดอกกุหลาบสีชมพู ดูยโสไม่น้อย“เหมี๊ยววว ม่าวว” อย่าคิดว่าเป็นสหายของชินอ๋องแล้วจะมากอดข้าตอนไหนก็ได้นะเจ้าคะ เป็นบุรุษมิควรใกล้ชิดสตรี“เจ้าใจร้าย ข้าอุตส่าห์ได้ของเล่นมาใหม่ สั่งทำพิเศษเพื่อเจ้าโดยเฉพาะเลยนะ”หงอี้ยังคงเมินบุรุษร่างใหญ่แต่ขี้ใจน้อย ดวงตากลมมองตามผีเสื้อแสนสวยบินผ่านหน้าไป พอมันเกาะบนกลีบดอกไม้นางจึงยกเท้าหน้าหวังเขี่ยอย่างนึกสนุกแมวขนยาวสีขาวท่ามกลางดอกไม้หลากสีเป็นภาพที่ทำคนมองใจละลาย สลัดความน้อยใจหลังถูกแมวเมินทิ้ง นั่งมองความน่ารักนั้นอย่างมีความสุขเมื่อสามปีก่อนชีวิตของท่านกุนซือหนุ่มแม้จะสุนกสนานตามประสาแต่ก็เงียบเหงาไร้จุดหมาย จนกระทั่งการปรากฏตัวของเจ้าก้อนขนสีขาวในอ้อมแขนของไต้ชินอ๋อง โดยไม่รู้ตัว กงเจิ้งก็ถูกดวงตาสีเทากลมแป๋วคู่นั้นหว่านเสน่ห์ให้ตกหลุมความน่ารักจนถอนตัวไม่ขึ้นดูเนื้อตัวกลม ๆ และขนปุกปุยนั่นสิ คว
กงเจิ้งอยากพูดบางอย่างแต่สีหน้าของชินอ๋องสั่งเขาให้หุบปาก เมื่อรถม้าจอดหน้าจวนจึงลงจากรถม้าแต่โดยดี ภายในรถม้าเหลือเพียงหนึ่งคนหนึ่งแมว หงอี้ยังไม่รู้ตัวว่าการที่นางสยบเสือร้ายจนหงอเป็นเรื่องแปลกประหลาด จึงนั่งเลียขนเงียบ ๆ บนตักแกร่งไต้ชินอ๋องหลุบตามองสัตว์เลี้ยงที่ไม่เคยตั้งใจเก็บมาเลี้ยงอย่างใช้ความคิด แคว้นหลี่ก่อตั้งมายาวนานนับพันปี เปลี่ยนราชวงศ์มานับสิบราชวงศ์ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนหรือสูญหาย นั่นก็คือตำนานเก่าแก่ในสมุดบันทึก ซึ่งตกทอดและถูกเก็บรักษาอย่างดีในห้องลับ มีเพียงคนในราชวงศ์ไม่กี่คนสามารถเข้าถึงมันได้เขาไม่เคยอยากสนใจศึกษาอย่างถ่องแท้จนกระทั่งวันนี้ หงอี้เป็นแค่แมวแต่กลับทำให้เสือดำยอมสงบลงได้เพียงแค่ขู่ หงอี้ฉลาดกว่าแมวทั่วไปเขายอมรับ มันถึงขนาดเข้าใจท่าทีหรือภาษาคนได้ มีหลายครั้งหรือเหตุการณ์บางอย่างที่เขามิได้คิดไปเองเห็นทีต้องกลับไปลื้อค้นตำนานพวกนั้นมาอ่านสักครั้ง บางทีอาจมีคำตอบในข้อสงสัยของวันนี้ ส่วนเสือดำแต่มีลายพาดกลอนตัวนั้น...หลี่ไต้ซวนก้มมองหงอี้ผู้นอนหมอบนิ่งบนตัก ตัดสินใจทดสอบบางอย่างอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ “หงอี้”เจ้าของชื่อผงกหัวมองคนเรียก
คนเราเมื่อตายแล้วไปไหน เป็นคนถามยอดฮิตที่คนเป็นยังหาคำตอบไม่ได้ว่าเมื่อ ตาย แล้ว วิญญาณจะไปที่ไหนต่อส่วน กมลเนตร สาวไทยวัย 28 ปี พบว่าเมื่อตัวเธอตายวิญญาณไม่ได้ขึ้นสวรรค์หรือลงนรก แต่กลับมาอยู่ในร่างของแมวจรผู้อดอยาก ผิดยุคผิดสมัยฟังไม่ผิด เธอตื่นขึ้นมาในร่างแมวจรจัด หลังเรือล่มในทะเลจากการเที่ยวในวันหยุดยาว ยอมรับว่าความรู้สึกของการเดินสี่ขา ความรู้สึกของการเป็นสัตว์ที่ไร้เจ้าของ ไม่ทำให้เธอรู้สึกแย่มากกว่าการพบว่ายุคที่อยู่ไม่ใช่ยุคปัจจุบันในเมื่อตอนเป็นคนเธอก็กำพร้าพ่อแม่ เติบโตมาจากบ้านเด็กกำพร้า พอเรียนจบมัธยมปลายก็ออกมาอยู่หอพัก ทำงานหนักจนสายตัวแทบขาดหาเงินส่งตัวเองเรียนจนจบ ทุกคืนเมื่อกลับถึงห้องพักความโดดเดี่ยวกัดกินหัวใจจนรู้สึกชาชิน แม้จะมีคุณแม่ในบ้านเด็กกำพร้าและเพื่อนจากในนั้นคอยถามข่าวคราวแต่ทุกคนต่างก็ต้องดิ้นรนในแบบของตัวเอง นอกจากถามไถ่ทุกข์สุข ก็ไม่สามารถช่วยเหลือ หยิบยื่นโอกาสอะไรให้ในช่วงแรกนอกจากตกตะลึง ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงมาอยู่ในร่างแมวน้อยไร้เรี่ยวแรง กมลเนตรก็หม่นหมองอยู่สักพักแล้วทำใจได้อย่างรวดเร็วตามประสาคนที่ปรับตัวตามสถานการณ์ได้ทุกเวลา ถึงจะมีช
กงเจิ้งอยากพูดบางอย่างแต่สีหน้าของชินอ๋องสั่งเขาให้หุบปาก เมื่อรถม้าจอดหน้าจวนจึงลงจากรถม้าแต่โดยดี ภายในรถม้าเหลือเพียงหนึ่งคนหนึ่งแมว หงอี้ยังไม่รู้ตัวว่าการที่นางสยบเสือร้ายจนหงอเป็นเรื่องแปลกประหลาด จึงนั่งเลียขนเงียบ ๆ บนตักแกร่งไต้ชินอ๋องหลุบตามองสัตว์เลี้ยงที่ไม่เคยตั้งใจเก็บมาเลี้ยงอย่างใช้ความคิด แคว้นหลี่ก่อตั้งมายาวนานนับพันปี เปลี่ยนราชวงศ์มานับสิบราชวงศ์ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนหรือสูญหาย นั่นก็คือตำนานเก่าแก่ในสมุดบันทึก ซึ่งตกทอดและถูกเก็บรักษาอย่างดีในห้องลับ มีเพียงคนในราชวงศ์ไม่กี่คนสามารถเข้าถึงมันได้เขาไม่เคยอยากสนใจศึกษาอย่างถ่องแท้จนกระทั่งวันนี้ หงอี้เป็นแค่แมวแต่กลับทำให้เสือดำยอมสงบลงได้เพียงแค่ขู่ หงอี้ฉลาดกว่าแมวทั่วไปเขายอมรับ มันถึงขนาดเข้าใจท่าทีหรือภาษาคนได้ มีหลายครั้งหรือเหตุการณ์บางอย่างที่เขามิได้คิดไปเองเห็นทีต้องกลับไปลื้อค้นตำนานพวกนั้นมาอ่านสักครั้ง บางทีอาจมีคำตอบในข้อสงสัยของวันนี้ ส่วนเสือดำแต่มีลายพาดกลอนตัวนั้น...หลี่ไต้ซวนก้มมองหงอี้ผู้นอนหมอบนิ่งบนตัก ตัดสินใจทดสอบบางอย่างอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ “หงอี้”เจ้าของชื่อผงกหัวมองคนเรียก
“อีอี~”ใบหน้ากลมป้อมหันมองทางต้นเสียงจึงเห็นบุรุษร่างสูงใหญ่ กำลังฉีกยิ้มราวคนโง่งมวิ่งอ้าแขนตรงมาหานาง หงอี้มองเขาด้วยแววตาเบื่อหน่าย รอจนเขาวิ่งมาใกล้ตัวจึงกระโดดหลบวิธีวงแขนนั้นอย่างง่ายดาย เมินสีหน้าผิดหวังของคนชอบฉวยโอกาส ยืนส่ายพวงหางดมกลีบดอกกุหลาบสีชมพู ดูยโสไม่น้อย“เหมี๊ยววว ม่าวว” อย่าคิดว่าเป็นสหายของชินอ๋องแล้วจะมากอดข้าตอนไหนก็ได้นะเจ้าคะ เป็นบุรุษมิควรใกล้ชิดสตรี“เจ้าใจร้าย ข้าอุตส่าห์ได้ของเล่นมาใหม่ สั่งทำพิเศษเพื่อเจ้าโดยเฉพาะเลยนะ”หงอี้ยังคงเมินบุรุษร่างใหญ่แต่ขี้ใจน้อย ดวงตากลมมองตามผีเสื้อแสนสวยบินผ่านหน้าไป พอมันเกาะบนกลีบดอกไม้นางจึงยกเท้าหน้าหวังเขี่ยอย่างนึกสนุกแมวขนยาวสีขาวท่ามกลางดอกไม้หลากสีเป็นภาพที่ทำคนมองใจละลาย สลัดความน้อยใจหลังถูกแมวเมินทิ้ง นั่งมองความน่ารักนั้นอย่างมีความสุขเมื่อสามปีก่อนชีวิตของท่านกุนซือหนุ่มแม้จะสุนกสนานตามประสาแต่ก็เงียบเหงาไร้จุดหมาย จนกระทั่งการปรากฏตัวของเจ้าก้อนขนสีขาวในอ้อมแขนของไต้ชินอ๋อง โดยไม่รู้ตัว กงเจิ้งก็ถูกดวงตาสีเทากลมแป๋วคู่นั้นหว่านเสน่ห์ให้ตกหลุมความน่ารักจนถอนตัวไม่ขึ้นดูเนื้อตัวกลม ๆ และขนปุกปุยนั่นสิ คว
นับเป็นเวลาเกือบสี่ปีแล้วในร่างแมวและโลกใบใหม่ หลังจากค่ำคืนในวัดร้างชีวิตแมวจรของกมลเนตรพลิกผันกลายเป็นแมวของท่านอ๋องผู้สูงศักดิ์ ร่ำรวยเงินทอง มากอำนาจบารมี แถมยังถูกตั้งชื่อว่า หงอี้ภายในจวนหลังใหญ่ อาณาเขตกว้างขวางเหมาะแก่การวิ่งเล่น น่าเสียดายที่เจ้าของจวนเกลียดดอกไม้เข้าเส้นสวนภายในนี้จึงมีแค่ต้นไม้ หญ้าและไม้พุ่มสีเขียวซึ่งถูกตัดแต่งอย่างดีเท่านั้น เมื่อหาความสวยงามจากด้านหน้าไม่พบ หงอี้ จึงมักไปขลุกตัวอยู่บริเวณท้ายจวนกับสาวใช้ทั้งหลาย สถานที่ตรงนี้เป็นเหมือนจุดพักผ่อนสำหรับสาวใช้ เมื่อเสร็จจากงานในหน้าที่รับผิดชอบ พวกนางมักจะปลูกผัก ปลูกดอกไม้หงอี้ชอบกลิ่นหอมของดอกไม้มาก จึงมักมานอนกลิ้งตัว บางขณะก็มักจะสูดดมไปตามกลีบดอกด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้ม หญ้านุ่ม ๆ นั้นดีอยู่หรอกแต่จะสมบูรณ์แบบขึ้นไปอีกถ้าได้ดอกไม้หลากสีสันประดับตกแต่งด้วยพูดถึงความเปลี่ยนแปลงเห็นจะมากทีเดียว เมื่อสถานะเปลี่ยนจากแมวจรเป็นแมวเลี้ยง ร่างกายผอมโซราวกับไร้เรี่ยวแรงเปลี่ยนเป็นอวบอ้วน เต็มไม้เต็มมือ ขนสีขาวที่เคยเปื้อนกระดำกระด่าง ยังมีขนหลุดเป็นกระจุกจนมองเห็นหนัง สาเหตุเกิดจากไปตบตีกับเจ้าถิ่นจนบาดเจ็บไปต
คนเราเมื่อตายแล้วไปไหน เป็นคนถามยอดฮิตที่คนเป็นยังหาคำตอบไม่ได้ว่าเมื่อ ตาย แล้ว วิญญาณจะไปที่ไหนต่อส่วน กมลเนตร สาวไทยวัย 28 ปี พบว่าเมื่อตัวเธอตายวิญญาณไม่ได้ขึ้นสวรรค์หรือลงนรก แต่กลับมาอยู่ในร่างของแมวจรผู้อดอยาก ผิดยุคผิดสมัยฟังไม่ผิด เธอตื่นขึ้นมาในร่างแมวจรจัด หลังเรือล่มในทะเลจากการเที่ยวในวันหยุดยาว ยอมรับว่าความรู้สึกของการเดินสี่ขา ความรู้สึกของการเป็นสัตว์ที่ไร้เจ้าของ ไม่ทำให้เธอรู้สึกแย่มากกว่าการพบว่ายุคที่อยู่ไม่ใช่ยุคปัจจุบันในเมื่อตอนเป็นคนเธอก็กำพร้าพ่อแม่ เติบโตมาจากบ้านเด็กกำพร้า พอเรียนจบมัธยมปลายก็ออกมาอยู่หอพัก ทำงานหนักจนสายตัวแทบขาดหาเงินส่งตัวเองเรียนจนจบ ทุกคืนเมื่อกลับถึงห้องพักความโดดเดี่ยวกัดกินหัวใจจนรู้สึกชาชิน แม้จะมีคุณแม่ในบ้านเด็กกำพร้าและเพื่อนจากในนั้นคอยถามข่าวคราวแต่ทุกคนต่างก็ต้องดิ้นรนในแบบของตัวเอง นอกจากถามไถ่ทุกข์สุข ก็ไม่สามารถช่วยเหลือ หยิบยื่นโอกาสอะไรให้ในช่วงแรกนอกจากตกตะลึง ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงมาอยู่ในร่างแมวน้อยไร้เรี่ยวแรง กมลเนตรก็หม่นหมองอยู่สักพักแล้วทำใจได้อย่างรวดเร็วตามประสาคนที่ปรับตัวตามสถานการณ์ได้ทุกเวลา ถึงจะมีช