Share

โดนแมวงอน

Author: suniki
last update Last Updated: 2025-02-22 09:39:22

เมื่อมาถึงห้องทรงพระอักษร หงอี้ที่ยังไม่อยากเสวนากับชินอ๋องรีบดิ้นออกจากอ้อมแขนของเขา เดินนวยนาดไปหาบุรุษผู้ทรงอำนาจที่สุดในแคว้น แต่กลับแย้มสรวลเมื่อเห็นก้อนสีขาวเดินส่ายพวงหางเข้ามาคลอเคลียชายฉลองพระองค์

หลี่ไต้ซานแย้มโอษฐ์ โน้มพระวรกายลงช้อนอุ้มหงอี้แล้วตรัสอย่างรู้ทันว่า “หงุดหงิดเจ้าหน้าตายอยู่ละสิ จึงเดินมาคลอเคลียข้าเช่นนี้”

หากในเวลาปกติ การเดินมาออดอ้อนเช่นนี้มีแทบนับครั้งได้ ไม่หงุดหงิดน้องชายของเขาก็อยากได้บางอย่าง ครานี้พระองค์ทรงคาดเคาว่าเหตุผลข้อแรก แม้ชินอ๋องจะไม่แสดงออกทางสีหน้าแต่แววตาละห้อยที่มองตามหลังเจ้าตัวกลมก็ชัดเจนดี

หงอี้วางคางบนไหล่หนาของฮ่องเต้ เมินเฉยคำถามเท่าทันนั้น ในคราแรกนางตื่นตัวอยู่บ้างเมื่อได้เข้าเฝ้าฮ่องเต้ บุคคลผู้ทรงอำนาจเหนือผู้ใดในแคว้นนี้ บารมีของเขาเรืองรองจนนางแสดงความนอบน้อมออกมาโดยธรรมชาติ จึงออกอาการเกร็งเมื่อถูกโอบอุ้ม

เมื่อนานวันเข้าความสนิทสนมเริ่มมากขึ้นความรู้สึกหวั่นเกรงหายไป กล้าอ้อนกล้าซุกมากขึ้น ยิ่งหลี่ไต้ซานปล่อยให้นางทำตามใจ โดยไร้ซึ่งโทสะแถมยังมีความสุขทุกคราเมื่อนางมาอยู่ใกล้ หงอี้จึงยิ่งได้ใจ

การถูกเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดีจากมังกรและนางหงส์ผู้สูงศักดิ์ นับเป็นวาสนาของวิญญาณสาวผู้มาสิงสู่ในร่างแมวแล้ว

แม้หงอี้จะยกให้ชินอ๋องดีที่สุด ทว่าเวลานี้นางกำลังโกรธเขาอยู่ อันดับหนึ่งจึงถูกปัดตกไปอยู่ในอันดับสองแทน

ชินอ๋องถูกแมวเมินแล้วให้ไม่สบายใจ ตาลุกวาวอยากตรงไปกระชากตัวนางออกจากอกของพี่ชาย กระนั้นจำต้องกัดฟัน ข่มกลั้นความหวงลงเสีย เขาไม่อยากทำให้นางรู้สึกไม่ดีมากกว่านี้ ยิ่งต้องห่างกันนานนับเดือนยิ่งตัดใจทิ้งไม่ลง

หลี่ไต้ซานเห็นอาการกระวนกระวายของน้องชายแล้วให้มีความสุข เห็นพี่ชายยืนอุ้มแมวส่งยิ้มผู้ชนะมาให้แล้วชักตงิดใจ ความหวงถูกระงับไว้เริ่มเอาไม่อยู่

“ท่านคงไม่ได้มอบหมายงานให้ข้าออกเดินทางไกลเพราะมีแผนการดึงตัวหงอี้มาอยู่ใกล้?”

“เจ้าคิดมากเกินไป งานนี้ข้าไม่ไว้ใจผู้ใด เจ้าต้องลงไปจัดการด้วยตัวเอง ราชโองการผู้แทนพระองค์ก็เขียนให้แล้ว จะแคลงใจอันใดหนักหนา”

หลี่ไต้ซวนหรี่ตามองพี่ชาย มีหรือเขาจะไม่รู้เท่าทัน กงเจิ้งต้องเดินทางไปด้วยในครานี้ ตัวเลือกในการดูแลหงอี้จึงตกเป็นของฝ่าบาทและฮองเฮา หากบอกว่าไร้ซึ่งแผนการก็ออกจะไร้ยางอายสักหน่อย

“หยุดมองข้าด้วยสายตาเช่นนั้นเสียที หรือเจ้าไว้ใจผู้ใดมากกว่าข้าอีก”

ไต้ชินอ๋องถอนหายใจแรง ยอมจำนนเพราะความจำเป็น การเดินทางยากลำบากมาก ต้องใช้ม้าเพื่อเร่งความเร็ว การพาหงอี้ติดตามไปด้วยจะทำให้ทุกอย่างล่าช้าจนแผนการผิดพลาด

ฮ่องเต้ยิ้มสมหวังก้มลงไปตรัสกับหงอี้ ผู้ยามนี้ทิ้งตัวอ่อนเหลวในอ้อมอกของพระองค์เสียงเบา “ข้ายังมีธุระต้องหารือกับชินอ๋องอีกเล็กน้อย เจ้าจะไปวิ่งเล่นในตำหนักคุณหนิงของฮองเฮาก่อนหรือไม่”

การพูดกับแมว หากในสายตาของผู้อื่นคงผิดปกติ ทว่าทุกคนในที่นี้ชาชินเสียแล้ว ส่วนหงอี้เองก็ฉลาดและเข้าใจทุกอย่าง มันจึงกลายเป็นเรื่องปกติเหมือนการสนทนากับคนด้วยกัน

กงกงคนสนิทรับเอาหงอี้มาอุ้ม เมื่อเจ้าตัวน้อยผละมาทางเขาในลักษณะให้อุ้มหลังฝ่าบาทตรัสจบ ท่านกงกงชรามากแล้ว ทำงานอยู่ในวังหลัง พบเจอทั้งเล่ห์เหลี่ยม อันตรายมากมายกว่าจะมายืนในจุดนี้ ไร้ทายาทหรือครอบครัวทำให้ชีวิตไร้สีสัน แห้งเหี่ยวขาดซึ่งความไว้วางใจและหวาดระแวงตน

การมีสัตว์ตัวน้อยแวะมาคลอเคลีย ส่งพลังงานบวกผ่านขนแสนนุ่มฟูและกลิ่นหอมเฉพาะตัว ช่วยให้จิตใจของผู้ชราชุ่มชื่นราวดอกไม้ได้รับหยาดน้ำฝน

เมื่อมองส่งท่านกงกงพาหงอี้ไปส่งให้ฮองเฮาที่ตำหนักคุณหนิง หลี่ไต้ซวนจึงเข้าเรื่องโดยไม่รอช้า

“ข้าลองตรวจสอบบันทึกเก่าแก่ของแคว้นนับแต่ก่อตั้งจนถึงยุคของ มนุษย์ สัตว์อสูร พลังปราณ จนกระทั่งถึงปัจจุบัน มีความเป็นไปได้ว่าหงอี้อาจเป็นสัตว์อสูรสายเลือดบริสุทธิ์”

สัตว์อสูรเลือดผสมจะไม่มีทางเปลี่ยนร่างกายเป็นมนุษย์ ด้วยข้อกำจัดหลายอย่างซึ่งเขาลองค้นบันทึกทั้งหมดแล้วไม่พบคำตอบในเรื่องนี้เลย ราวกับหมอกหนา คลุมเคลือยากต่อการสืบค้น

ข้อมูลบางส่วนไม่ละเอียดชัดเจนนัก มันเกี่ยวข้องกับสัตว์อสูร ซึ่งยามนี้เหมือนว่าจะกลายเป็นศัตรู

หลี่ไต้ซานเลิกคิ้ว เขาเคยได้ยินเรื่องพวกนี้มาเช่นกัน แม้จะเป็นบันทึกเก่าแก่หลายร้อยปี ในฐานะฮ่องเต้ต้องรอบรู้ทุกเรื่องของแคว้น ย้อนกลับไปในอดีตหลายร้อยหรือนับพันปี

โลกของพลังปราณ ทุกสิ่งมีชีวิตต่างมีพลังวิเศษไม่เว้นกับต้นไม้ใบหญ้าสมุนไพร แม้กระทั่งสัตว์ในป่าก็มีสมองอันชาญฉลาดและพลังปราณตามแต่ว่าตัวไหนจะฝึกฝนถึงขั้นใด

เมื่อฝ่ายของมนุษย์และสัตว์ต่างแข็งแกร่ง การทำข้อตกลงแบ่งแยกดินแดนจึงเกิดขึ้น ทั้งสองต่างใช้ชีวิตร่วมกันอย่างสงบสุข จนกระทั่งมนุษย์เริ่มมีความคิดว่าตนเองมีทุกอย่างเหนือชั้นกว่าสัตว์อสูร สงครามระหว่างอดีตพันฒมิตรจึงเริ่มขึ้น

สงครามที่มีเพียงความสูญเสียของทั้งสองฝ่าย ทว่ามนุษย์ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนย่อมมีข้อได้เปรียบจากการมองหาช่องโหว ด้วยจิตใจของมนุษย์ยากแท้หยั่งถึง เต็มไปด้วยเล่ห์กลมากมาย

ส่วนสัตว์อสูร แม้จะเก่งกาจมีพละกำลังแข็งแกร่งกว่า ด้านความเฉลียวฉลาดยังตกเป็นรองอยู่มาก ก็มักมุทะลุและใจร้อนตามสัญชาติญาณของสัตว์ป่า พวกมันจึงแพ้ในสงครามนี้ ทำได้เพียงรวบรวมสัตว์ที่เหลืออยู่ ถอยร่นหายเข้าป่าลึก ร่ายอักขระโบราณจากสมุดบันทึกอันเก่าแก่

ซึ่งเป็นสมบัติตกทอดของบรรพบุรุษ ว่ากันว่ากว่าหนึ่งร้อยปีก่อนต้นตระกูลของพวกมันได้รับความเมตตาจากเทพเซียนที่ลงมาเที่ยวเล่นในแดนโลก มอบพรและหน้าที่ให้แก่พวกมันพร้อมสมุนบันทึกเล่มนั้นด้วย ผู้นำของสัตว์อสูรจึงใช้มันเป็นเกราะกำบัง ปกปิดทุกชีวิตอยู่หลังม่านอักขระบางเบาทว่าอานุภาพรุนแรง

เส้นทางการไปถึงดินแดนลี้ลับหลังม่านอักขระ อันตรายถึงชีวิต ไม่เคยมีมนุษย์คนใดลักลอบเข้าไปแล้วได้กลับออกมา

นับแต่นั้นสัตว์อสูรค่อย ๆ เลือนหายไปจากความทรงจำของมนุษย์ ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ถูกเขียนขึ้นจากผู้ชนะ กล่าวเป็นนัยว่าสัตว์อสูรดุร้ายและเกลียดชังมนุษย์ด้วยตนพ่ายแพ้ในสงคราม

ผ่านไปหลายร้อยปี ตัวตนอันน่าตื่นตาก็กลายเป็นเพียงเรื่องเล่าสนุกสนานในวงสุรา หรือตามโรงแสดงละครเท่านั้น

“เจ้าอย่าบอกว่าสตรีที่เจ้าอุ้มหายไปในห้องทั้งคืนก็คือ...”

“หงอี้”

ฮ่องเต้ขยับพระวรกาย พระพักตร์สายแววเคร่งขรึม เมื่อตำนานนับร้อยนับพันปีได้กลับมามีตัวตนอีกครั้ง แถมยังใกล้ชิดเสียจนคาดไม่ถึง จนกระทั่ง

“นางกลับมาเป็นมนุษย์ได้อย่างไร เจ้ารังแกนางหนักถึงขนาดนั้นยังหลงเหลือความเมตตาในหัวใจอยู่หรือไม่”

แม้ความจริงอันตื่นตะลึงจะทำให้พระองค์ตึงเครียด แต่ความเอ็นดูที่ทรงมอบให้หงอี้คือของจริง พอมาตระหนักถึงเรื่องสำคัญมากกว่า ซึ่งแว่วมาให้พระองค์ได้รับรู้ตั้งแต่วันเกิดเหตุ จึงยิงคำถามใส่หน้าน้องชายไม่หยุด แถมยังส่งสายตาประณามการกระทำอันรุนแรงของชินอ๋อง

คนถูกพี่ชายโยนข้อกล่าวหาใส่หัว แผ่ความกดดันออกมาผ่านทางนัยน์ตาสุขุม

“ฝ่าบาท”

“เจ้ารังแกหงอี้ถึงเพียงนั้นยังคิดจะสนใจสตรีอื่น อย่าคิดว่าทำสิ่งใดแล้วข้าจะไม่รู้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ น้องสะใภ้เพียงคนเดียวที่ข้าจะยอมรับก็คือหงอี้คนเดียวเท่านั้น หากเจ้าทำเรื่องโง่งมต่อนาง ข้าจะ...”

“พี่ใหญ่ ท่านอยากตายหรือ” ไม่ต้องรอให้พี่ชายโวยวายใส่ความจนจบ ครานี้ชินอ๋องเปลี่ยนมาใช้วาจาสนิทสนม เมื่อพี่ชายคนนี้ชักจะทำให้เรื่องมันใหญ่โตขึ้น

“หน็อย ไอ้น้องเวร ข่มขู่พี่ชายงั้นรึ อยากไปประจำการอยู่ชายแดนตลอดชีวิตหรือไง” หลี่ไต้ซานเต้นผ่างราวโกรธหนักหนา ลุกขึ้นยืนชี้หน้าน้องชายหลังถูกข่มขู่หมายชีวิต “รอเจ้าออกเดินทางเมื่อใดข้าจะมองหาบุรุษดี ๆ สักคนให้หงอี้”

หลี่ไต้ซวนหรือจะสลด ซ้ำดวงตายังวาวโรจน์เมื่อได้ยินวาจาไม่เข้าหู ตอบกลับพี่ชายอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ท่านคงสุขสบายจนหาเรื่องรนหาที่สินะ หากท่านกล้ายกนางให้ผู้อื่น ข้าก็กล้าก่อสงคราม”

“โอ้ ชินอ๋องมากล้นด้วยอำนาจ บอกพี่ชายมาตามตรงเถิดว่าเจ้าเป็นบุรุษจิตใจโลเล หวงสตรีอีกนางแต่ก็ยังคอยตามเกี้ยวสตรีอีกนาง อยากจับปลาสองมือเรอะ โลภมากระวังจะไม่เหลือปลาในมือเลยสักตัว”

ข้อกล่าวหานี้ชินอ๋องยากจะปัดให้พ้นตัว จึงเปลี่ยนเข้าเรื่องสำคัญเสีย “พี่ใหญ่ ท่านเลิกพูดเรื่องไร้สาระเถิด ข้าจะออกเดินทางในเย็นวันนี้ ระหว่างทางจะลองสืบข่าวดูว่ามีอะไรน่าสงสัยหรือไม่”

“พอโดนจี้ใจดำถึงกับรีบเปลี่ยนเรื่อง เหอะ!” โอรสสวรรค์ยังคงไม่คิดปล่อยเรื่องนี้ไปง่าย ๆ แต่ยามนี้มีสิ่งสำคัญกว่าต้องจัดการ ส่วนการร้องหาความยุติธรรมให้หงอี้ ค่อยทำหลังคุยงานจบก็ยังไม่สาย “จะว่าไปช่วงก่อนข้าได้ข่าวมาว่ามีกลุ่มคนแปลกหน้าเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง เมื่อลองสืบหาเบื้องหลังของพวกเขา กลับพบเพียงความว่างเปล่า”

“ข่าวพวกนี้ตั้งแต่เมื่อใดขอรับ”

“หลังจบงานประมูลได้เพียงสามวัน” หลี่ไต้ซานหย่อนกายนั่งเหมือนเดิม ยกมือลูบคางอย่างใช้ความคิด จู่ ๆ ก็มีบางสิ่งวาบผ่านเมื่อสบตาของน้องชาย พบว่าทั้งสองคิดเห็นตรงกัน

“บางทีการที่โรงประมูลได้พยัคฆ์ดำมาอาจมิใช่เรื่องบังเอิญ”

ไต้ชินอ๋องพึมพำเสียงเบา ฮ่องเต้รับคำเสียงขรึมกล่าวต่อว่า

“หากหงอี้คืออสูรสายเลือดบริสุทธิ์ การมีอยู่ของพยัคฆ์ดำอาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างเจ้าว่า”

ตำนานหรือเรื่องเล่าของสัตว์อสูรมีทั้งจริงและเท็จ บันทึกเก่าแก่เขียนไว้ให้พิจารณากันเอาเอง การที่หงอี้พูดกับพยัคฆ์ดำได้คงเป็นความสามารถของสัตว์อสูร

แล้ว นางเป็นอสูรของตระกูลไหนเล่า

ว่ากับว่าอสูรสายเลือดบริสุทธิ์มีด้วยกันอยู่สี่ตระกูล คอยถ่วงดุลอำนาจในหมู่สัตว์อสูร ปกครองสัตว์ชั้นต่ำ ชั้นกลางและชั้นสูงให้อยู่ในกฎเกณฑ์ บรรพบุรุษของสี่ตระกูลได้รับมอบหมายจากเทพเซียนพลังแก่กล้า ให้คอยควบคุมพวกเดียวกันไม่ให้สร้างปัญหาและสามารถอยู่ร่วมกับมนุษย์อย่างสันติสุข

ตระกูลเฟิง มีพลังทำลายและพลังรักษา ผู้นำทุกคนมาจากตระกูลเฟิง สัตว์อสูรมักเรียกผู้นำของพวกมันว่าราชา เนื่องจากต้นบรรพบุรุษของตระกูลเฟิงใกล้ชิดและได้รับความไว้วางใจจากเทพเซียนมากกว่าอีกสามตระกูล เก่งกาจในเชิงธนู อีกทั้งพลังของพวกเขานับว่าอันตรายมาก หากต้องต่อสู้ปะมือ ยากจะมีชีวิตรอดถึงสามกระบวนท่า ด้วยถูกพลังทำลายดูดซับพลังชีวิตออกจากร่างจนหมดสิ้น

ตระกูลซุ่ยเหริน มีพลังการสร้าง ตระกูลอันดับสอง มีพละกำลังแข็งแกร่ง เก่งกาจในเชิงดาบและทวน บุรุษหรือแม้แต่สตรีต่างขึ้นมายืนในตำแหน่งสำคัญของกองทัพ มีนิสัยซื่อสัตย์ รักพวกพ้อง จึงได้รับความไว้วางใจจากท่านราชาให้คอยเป็นกำลังทัพสำคัญเมื่อยามสู้รบ เชี่ยวชาญการสร้างอาวุธจากวัสดุทุกชนิด

ตระกูลเซวียน มีพลังดูดซับอารมณ์ของผู้อื่น รัก โลภ โกรธ หลง เมื่อได้ดูซับจะทำให้สายเลือดของตระกูลเซวียนแข็งแกร่ง สายเลือดสตรีเมื่อดูดซับอารมณ์มาได้ ยังนำมันมาปรุงยาได้อีกด้วย ว่ากันว่ายาสมุนไพรที่ตระกูลเซวียนปรุงขึ้น แม้จะเป็นระดับต่ำก็ให้ผลดีกว่ายาสมุนไพรที่ปรุงขึ้นจากหมอทั่วไป ในราชการลับซึ่งมีเพียงฮ่องเต้และอีกไม่กี่คน พบว่ายาสมุนไพรจากตระกูลนี้ยังคงหลงเหลือและมักหลุดมาถึงโรงประมูลอยู่เป็นระยะ

ตระกูลเหลียง มีพลังตาทิพย์และพลังในการปลูก สามารถมองเห็นเหตุการณ์ในขณะนั้น น่าเสียดายพวกเขาไม่สามารถมองเห็นอดีตและอนาคต กระนั้นพวกเขาก็ยังครองอำนาจเป็นอำดับสี่ได้อย่างยืนยาวด้วยถือครองพื้นที่ของสมุนไพรแสนล้ำค่าและมีเรื่องของปากท้องเป็นข้อต่อรอง เชี่ยวชาญการสังหารด้วยเข็มพิษและพัด

ทั้งหมดสามารถจำแลงกายเป็นมนุษย์ตั้งแต่เกิด เพื่อรักษาความบริสุทธิ์ของสายเลือด ทั้งสี่ตระกูลมักจะแต่งงานกันเอง

เมื่อเวลาผ่านไป พลังปราณหนาแน่นทำให้สัตว์ชั้นกลางขยับเป็นสัตว์ชั้นสูง จึงเกิดการผ่อนปรนเพื่อเพิ่มจำนวนประชากรของสัตว์อสูร สมาชิกในตระกูลทั้งสี่ ระดับปลายแถวจึงหันไปแต่งงานกับสัตว์อสูรชั้นสูงแทนจนก่อเกิดทายาทสายเลือดผสม

หลายร้อยปีต่อมา มนุษย์และสัตว์อสูรแตกหัก แบ่งแยกดินแดนกันอยู่ สัตว์อสูรยังไม่ทันตั้งตัวจากสงครามครานั้น สงครามสายเลือดผสมกลับถูกก่อตัวขึ้น

ส่งผลให้เหล่าทายาทของสี่ตระกูลใหญ่ ต่างตกตายในสงครามครานั้นแทบหมดสิ้น บ้างก็ระหกระเหินหนีเอาชีวิตรอดมาถึงดินแดนมนุษย์ บ้างก็ซ่อนเร้นตัวตนจากการตามล่า กว่าสงครามจะจบนับว่าพวกเขาสูญเสียไปมากมายจริง ๆ

****

เริ่มมองเห็นเค้าลางแล้วใช่ไหมคะ อิอิ

Related chapters

  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   บทนำ

    คนเราเมื่อตายแล้วไปไหน เป็นคนถามยอดฮิตที่คนเป็นยังหาคำตอบไม่ได้ว่าเมื่อ ตาย แล้ว วิญญาณจะไปที่ไหนต่อส่วน กมลเนตร สาวไทยวัย 28 ปี พบว่าเมื่อตัวเธอตายวิญญาณไม่ได้ขึ้นสวรรค์หรือลงนรก แต่กลับมาอยู่ในร่างของแมวจรผู้อดอยาก ผิดยุคผิดสมัยฟังไม่ผิด เธอตื่นขึ้นมาในร่างแมวจรจัด หลังเรือล่มในทะเลจากการเที่ยวในวันหยุดยาว ยอมรับว่าความรู้สึกของการเดินสี่ขา ความรู้สึกของการเป็นสัตว์ที่ไร้เจ้าของ ไม่ทำให้เธอรู้สึกแย่มากกว่าการพบว่ายุคที่อยู่ไม่ใช่ยุคปัจจุบันในเมื่อตอนเป็นคนเธอก็กำพร้าพ่อแม่ เติบโตมาจากบ้านเด็กกำพร้า พอเรียนจบมัธยมปลายก็ออกมาอยู่หอพัก ทำงานหนักจนสายตัวแทบขาดหาเงินส่งตัวเองเรียนจนจบ ทุกคืนเมื่อกลับถึงห้องพักความโดดเดี่ยวกัดกินหัวใจจนรู้สึกชาชิน แม้จะมีคุณแม่ในบ้านเด็กกำพร้าและเพื่อนจากในนั้นคอยถามข่าวคราวแต่ทุกคนต่างก็ต้องดิ้นรนในแบบของตัวเอง นอกจากถามไถ่ทุกข์สุข ก็ไม่สามารถช่วยเหลือ หยิบยื่นโอกาสอะไรให้ในช่วงแรกนอกจากตกตะลึง ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงมาอยู่ในร่างแมวน้อยไร้เรี่ยวแรง กมลเนตรก็หม่นหมองอยู่สักพักแล้วทำใจได้อย่างรวดเร็วตามประสาคนที่ปรับตัวตามสถานการณ์ได้ทุกเวลา ถึงจะมีช

    Last Updated : 2025-01-13
  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   หงอี้น้อย

    นับเป็นเวลาเกือบสี่ปีแล้วในร่างแมวและโลกใบใหม่ หลังจากค่ำคืนในวัดร้างชีวิตแมวจรของกมลเนตรพลิกผันกลายเป็นแมวของท่านอ๋องผู้สูงศักดิ์ ร่ำรวยเงินทอง มากอำนาจบารมี แถมยังถูกตั้งชื่อว่า หงอี้ภายในจวนหลังใหญ่ อาณาเขตกว้างขวางเหมาะแก่การวิ่งเล่น น่าเสียดายที่เจ้าของจวนเกลียดดอกไม้เข้าเส้นสวนภายในนี้จึงมีแค่ต้นไม้ หญ้าและไม้พุ่มสีเขียวซึ่งถูกตัดแต่งอย่างดีเท่านั้น เมื่อหาความสวยงามจากด้านหน้าไม่พบ หงอี้ จึงมักไปขลุกตัวอยู่บริเวณท้ายจวนกับสาวใช้ทั้งหลาย สถานที่ตรงนี้เป็นเหมือนจุดพักผ่อนสำหรับสาวใช้ เมื่อเสร็จจากงานในหน้าที่รับผิดชอบ พวกนางมักจะปลูกผัก ปลูกดอกไม้หงอี้ชอบกลิ่นหอมของดอกไม้มาก จึงมักมานอนกลิ้งตัว บางขณะก็มักจะสูดดมไปตามกลีบดอกด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้ม หญ้านุ่ม ๆ นั้นดีอยู่หรอกแต่จะสมบูรณ์แบบขึ้นไปอีกถ้าได้ดอกไม้หลากสีสันประดับตกแต่งด้วยพูดถึงความเปลี่ยนแปลงเห็นจะมากทีเดียว เมื่อสถานะเปลี่ยนจากแมวจรเป็นแมวเลี้ยง ร่างกายผอมโซราวกับไร้เรี่ยวแรงเปลี่ยนเป็นอวบอ้วน เต็มไม้เต็มมือ ขนสีขาวที่เคยเปื้อนกระดำกระด่าง ยังมีขนหลุดเป็นกระจุกจนมองเห็นหนัง สาเหตุเกิดจากไปตบตีกับเจ้าถิ่นจนบาดเจ็บไปต

    Last Updated : 2025-01-13
  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   ทาสแมวเต็มขั้น

    “อีอี~”ใบหน้ากลมป้อมหันมองทางต้นเสียงจึงเห็นบุรุษร่างสูงใหญ่ กำลังฉีกยิ้มราวคนโง่งมวิ่งอ้าแขนตรงมาหานาง หงอี้มองเขาด้วยแววตาเบื่อหน่าย รอจนเขาวิ่งมาใกล้ตัวจึงกระโดดหลบวิธีวงแขนนั้นอย่างง่ายดาย เมินสีหน้าผิดหวังของคนชอบฉวยโอกาส ยืนส่ายพวงหางดมกลีบดอกกุหลาบสีชมพู ดูยโสไม่น้อย“เหมี๊ยววว ม่าวว” อย่าคิดว่าเป็นสหายของชินอ๋องแล้วจะมากอดข้าตอนไหนก็ได้นะเจ้าคะ เป็นบุรุษมิควรใกล้ชิดสตรี“เจ้าใจร้าย ข้าอุตส่าห์ได้ของเล่นมาใหม่ สั่งทำพิเศษเพื่อเจ้าโดยเฉพาะเลยนะ”หงอี้ยังคงเมินบุรุษร่างใหญ่แต่ขี้ใจน้อย ดวงตากลมมองตามผีเสื้อแสนสวยบินผ่านหน้าไป พอมันเกาะบนกลีบดอกไม้นางจึงยกเท้าหน้าหวังเขี่ยอย่างนึกสนุกแมวขนยาวสีขาวท่ามกลางดอกไม้หลากสีเป็นภาพที่ทำคนมองใจละลาย สลัดความน้อยใจหลังถูกแมวเมินทิ้ง นั่งมองความน่ารักนั้นอย่างมีความสุขเมื่อสามปีก่อนชีวิตของท่านกุนซือหนุ่มแม้จะสุนกสนานตามประสาแต่ก็เงียบเหงาไร้จุดหมาย จนกระทั่งการปรากฏตัวของเจ้าก้อนขนสีขาวในอ้อมแขนของไต้ชินอ๋อง โดยไม่รู้ตัว กงเจิ้งก็ถูกดวงตาสีเทากลมแป๋วคู่นั้นหว่านเสน่ห์ให้ตกหลุมความน่ารักจนถอนตัวไม่ขึ้นดูเนื้อตัวกลม ๆ และขนปุกปุยนั่นสิ คว

    Last Updated : 2025-01-15
  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   คิดจับปลาสองมืองั้นรึ?

    กงเจิ้งอยากพูดบางอย่างแต่สีหน้าของชินอ๋องสั่งเขาให้หุบปาก เมื่อรถม้าจอดหน้าจวนจึงลงจากรถม้าแต่โดยดี ภายในรถม้าเหลือเพียงหนึ่งคนหนึ่งแมว หงอี้ยังไม่รู้ตัวว่าการที่นางสยบเสือร้ายจนหงอเป็นเรื่องแปลกประหลาด จึงนั่งเลียขนเงียบ ๆ บนตักแกร่งไต้ชินอ๋องหลุบตามองสัตว์เลี้ยงที่ไม่เคยตั้งใจเก็บมาเลี้ยงอย่างใช้ความคิด แคว้นหลี่ก่อตั้งมายาวนานนับพันปี เปลี่ยนราชวงศ์มานับสิบราชวงศ์ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนหรือสูญหาย นั่นก็คือตำนานเก่าแก่ในสมุดบันทึก ซึ่งตกทอดและถูกเก็บรักษาอย่างดีในห้องลับ มีเพียงคนในราชวงศ์ไม่กี่คนสามารถเข้าถึงมันได้เขาไม่เคยอยากสนใจศึกษาอย่างถ่องแท้จนกระทั่งวันนี้ หงอี้เป็นแค่แมวแต่กลับทำให้เสือดำยอมสงบลงได้เพียงแค่ขู่ หงอี้ฉลาดกว่าแมวทั่วไปเขายอมรับ มันถึงขนาดเข้าใจท่าทีหรือภาษาคนได้ มีหลายครั้งหรือเหตุการณ์บางอย่างที่เขามิได้คิดไปเองเห็นทีต้องกลับไปลื้อค้นตำนานพวกนั้นมาอ่านสักครั้ง บางทีอาจมีคำตอบในข้อสงสัยของวันนี้ ส่วนเสือดำแต่มีลายพาดกลอนตัวนั้น...หลี่ไต้ซวนก้มมองหงอี้ผู้นอนหมอบนิ่งบนตัก ตัดสินใจทดสอบบางอย่างอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ “หงอี้”เจ้าของชื่อผงกหัวมองคนเรียก

    Last Updated : 2025-01-20
  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   หนักใจ

    หงอี้มองตามแผ่นหลังกว้างของชินอ๋องจนลับสายตา พอถูกนำมาวางบนเบาะนอนซึ่งกงกงคนสนิทของฮ่องเต้จัดวางบนโต๊ะทรงงาน พร้อมถ้วยใส่นมอุ่น ๆ ความสนใจของนางจึงกลับมาจดจ่อกับของกินแทนโอรสสวรรค์ยิ้มปลาบปลื้ม รู้สึกมีแรงทำงานเพิ่มขึ้นหลังได้กลิ่นประจำตัวของจอมขี้เซา รอให้พระองค์จัดการงานบนโต๊ะแล้วเสร็จ ค่อยพาหงอี้ไปเสวยสำรับเช้าที่ตำหนักของฮองเฮาด้วยผลตรวจร่างกายรอบล่าสุด ทำให้พระองค์มีความหวังที่จะผลิตองค์หญิงตัวน้อยหน้าตาเหมือนฮองเฮาออกมาวิ่งเล่นไปทั่วพระราชวัง ส่งเสียงเรียกพระองค์ว่าเสด็จพ่อเจ้าคะ เสด็จพ่อเจ้าขาองค์หญิงน้อยเนื้อตัวนุ่มนิ่มหอมน้ำนม สวมชุดปักลวดลายสวยงาม ทำผมเป็นก้อนซาลาเปา ฉีกยิ้มหวานจนแก้มขึ้นก้อนกลมส่งมาให้...เพียงแค่คิดก็มีความสุขแล้ว“สำหรับเรื่องที่ข้าปรารถนาในตอนนี้ เจ้าคือความหวังเดียว หงอี้”เจ้าก้อนขนแสนนุ่มนิ่มเลียปากหลังดื่มนมอุ่นจนหมดถ้วย มองบุรุษผู้อยู่เหนือคนทั้งใต้หล้าด้วยดวงตากลมแป๋ว แสนใสซื่อ ไม่อาจเข้าใจว่านางเป็นความหวังในเรื่องใดหากนั่นทำให้คนมีความหวัง แม้จะเล็กน้อย ถือว่านางมีความสำคัญ หรือเปล่านะหงอี้โคลงศีรษะ ท้องอิ่มเล็กน้อยทำให้นางขี้เกียจก็ไม่อยากนอ

    Last Updated : 2025-01-24
  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   ชาติกำเนิดแสนลึกลับ

    เมื่อเห็นสีหน้าของชินอ๋องกลับมาอ่อนโยนอีกครั้ง อ้ายเมิ่งเหยาจึงลอบถอนหายใจโดยระวังไม่ให้บุรุษตัวโตจับได้นางเหลือบมองคนสนิทที่ยืนตัวแข็งทื่อจากการถูกแรงกดดันรอบตัวของชินอ๋องไปนาน แล้วออกเดินนำ จึงไม่ได้เห็นรอยยิ้มชอบใจตรงมุมปากหยักของคนตัวโตด้านหลังทิ้งความรู้สึกหงุดหงิดบางอย่าง ก้าวตามแผ่นหลังของสตรีที่เขาเกิดสนใจขึ้นมากะทันหัน ลึกลงไปในแววตากร้าวกระด้าง เกิดแววไม่ยินยอมต่อบางสิ่ง ทว่ากลับไร้หนทางต่อต้าน ทำได้เพียงโอนเอนตามแรงฉุดดึงที่มองไม่เห็นเพื่อหาคำตอบเย็นวันนั้น พอออกจากพระราชวัง ซึ่งกว่าจะหลุด ต้องนั่งมองการยื้อยุดของสองพี่น้องอยู่นานสองนาน ด้วยฮ่องเต้คิดหาข้ออ้างดึงตัวนางไว้ข้างกายอีกหนึ่งคืน ชินอ๋องไม่ยอมอ่อนข้ออาศัยช่วงทีเผลอคว้าตัวนางแล้วเดินตัวปลิวออกจากห้องทรงพระอักษรพอกินข้าวเย็นอิ่ม หงอี้ได้รับการไหว้วานจากชินอ๋องให้ติดตามไปยังโรงประมูลซวี่หัวอีกครั้ง เบื้องหน้าของนางยังคงเป็นกรงขังขนาดใหญ่ ภายในนั้นเป็นเสือดำลายพาดกลอนตัวใหญ่ผู้หงุดหงิดง่าย นอนหมดแรงหลังถูกวางยาสลายกำลังซึ่งเป็นตัวยาหายาก แทบสูญหายจากแผ่นดิน ต้องใช้ทั้งกำลังคนและกำลังทรัพย์ออกค้นหา เมื่อได้มาแล้วย

    Last Updated : 2025-01-24
  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   เครื่องมือเข้าหาสตรี

    สามวันต่อมา จวนตระกูลเจียงจัดงานครบรอบวันเกิดให้แก่ราชเลขาเจียง ผู้เป็นแรงสำคัญนำพาให้ตระกูลเจียงกลับมาผงาด จนยืนอย่างมั่นคงท่ามกลางตระกูลขุนนางชั้นสูงในเมืองหลวงได้อีกครั้งหลังจากตระกูลเจียงตกต่ำมานับสิบแปดปี ด้วยการตัดสินใจทำการค้ากับขุนนางนิสัยชั่วร้าย หลอกลวงได้แม้กระทั่งราชสำนัก แม้จะพิสูจน์หลักฐานพบเพียงตระกูลเจียงไม่รู้เห็น แต่ความร่ำรวยของพวกเขาปฏิเสธไม่ได้ว่ามาจากเงินของราษฎรบทลงโทษของพวกเขาตระกูลเจียง คือ ยึดทรัพย์สินเข้าคลังหลวง เพื่อชดเชยความเสียหายจากการค้า จากตระกูลคหบดีผู้ร่ำรวย ดิ่งสู่จุดต่ำสุด เคยอาศัยในจวนหลังใหญ่ สาวใช้บ่าวไพร่นับร้อยชีวิตคอยทำงาน ชีวิตสุขสบายหายไปพวกเขาต้องใช้จ่ายอย่างประหยัดย้ายออกจากจวนเดิม สาวใช้บ่าวไพร่ต่างถูกขายเพื่อลดรายจ่าย บุตรหลานตระกูลเจียงราวตกสวรรค์ พวกเขาไม่มีทางฟื้นคืนได้อีกแล้ว แม้แต่สหายที่เคยคบหายังหนีหน้า เลิกคบหาพวกเขาสอนให้เห็นถึงจิตใจแท้จริงของคนเมื่อหกปีก่อนเจียงจื้อหมิงสอบได้จอหงวน เขาเริ่มทำงานเป็นขุนนางขั้นเล็ก ๆ ไต่เต้าด้วยความสามารถจนกระทั่งวันนี้ กลายเป็นราชเลขาคนสำคัญที่ฝ่าบาทไว้วางพระทัยและว่าที่ผู้นำตระกูลเจียงคนต่

    Last Updated : 2025-02-01
  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   ฤทธิ์กำหนัดเล่นงาน

    บรรยากาศแสนหนักอึ้งบนโต๊ะของชินอ๋องหมดไป หงอี้จึงมีความคิดอยากลองชิมสุรา ว่าก็ว่าเถอะ นางเมื่อครั้งยังเป็นกมลเนตรชื่นชอบการเติมแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดมาก ยี่ห้อไหนคนว่าดี ผสมแบบไหนคนว่าเด็ด เป็นต้องขอลองเสมอพออยู่ในร่างแมวความชอบจึงถูกงดเว้นไป หงอี้อาศัยจังหวะที่สองหนุ่มเผลอยื่นอุ้งเท้าหน้าจุ่มลงในจอกสุรา ยกขึ้นใช้ลิ้นแตะ ๆ เพื่อทดลองรสชาติ ลิ้นน้อย ๆ สีแดงเลียอุ้งเท้าหน้าชวนให้คนมองรู้สึกจั๊กจี้อู้ววว รสชาติใช้ได้เลย ฤทธิ์ไม่แรงเท่าไหร่ ถือว่าพอแก้ขัดอาการเปรี้ยวปากได้หลังจากนั้นความสนใจทั้งหมดของนางจึงอยู่ที่จอกสุราตรงหน้า ลิ้มรสชาติแสนคิดถึงอย่างสุขใจ ดวงตากลมหลับพริ้มอย่างมีความสุข ความเร็วของการจุ่มอุ้งเท้าก็เพิ่มขึ้น เผลออีกทีสุราเต็มจอกก็เหลือเพียงครึ่งหนึ่งตายละ ซวนจะรู้ไหมทำไงดี ๆความกังวลส่งผลให้นางไม่ได้นอนเฉยอีกต่อไป ลุกขึ้นกลอกตามองไปมาอย่างใช้ความคิด ก่อนจะ..“หงอี้ ซุกซนอีกแล้วหรือ” ไต้ชินอ๋องบ่นไม่จริงจังนักออกมา เมื่อพบว่าจอกสุราของตนเองหกคว่ำ เมื่อมองดูตัวการกำลังส่งเสียงอย่างรู้สึกผิด จึงเรียกสาวใช้แถวนั้นมาเก็บกวาด สาวใช้รีบเช็ดสุราและเปลี่ยนจอกใหม่พร้อมเติมสุรา

    Last Updated : 2025-02-16

Latest chapter

  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   โดนแมวงอน

    เมื่อมาถึงห้องทรงพระอักษร หงอี้ที่ยังไม่อยากเสวนากับชินอ๋องรีบดิ้นออกจากอ้อมแขนของเขา เดินนวยนาดไปหาบุรุษผู้ทรงอำนาจที่สุดในแคว้น แต่กลับแย้มสรวลเมื่อเห็นก้อนสีขาวเดินส่ายพวงหางเข้ามาคลอเคลียชายฉลองพระองค์หลี่ไต้ซานแย้มโอษฐ์ โน้มพระวรกายลงช้อนอุ้มหงอี้แล้วตรัสอย่างรู้ทันว่า “หงุดหงิดเจ้าหน้าตายอยู่ละสิ จึงเดินมาคลอเคลียข้าเช่นนี้”หากในเวลาปกติ การเดินมาออดอ้อนเช่นนี้มีแทบนับครั้งได้ ไม่หงุดหงิดน้องชายของเขาก็อยากได้บางอย่าง ครานี้พระองค์ทรงคาดเคาว่าเหตุผลข้อแรก แม้ชินอ๋องจะไม่แสดงออกทางสีหน้าแต่แววตาละห้อยที่มองตามหลังเจ้าตัวกลมก็ชัดเจนดีหงอี้วางคางบนไหล่หนาของฮ่องเต้ เมินเฉยคำถามเท่าทันนั้น ในคราแรกนางตื่นตัวอยู่บ้างเมื่อได้เข้าเฝ้าฮ่องเต้ บุคคลผู้ทรงอำนาจเหนือผู้ใดในแคว้นนี้ บารมีของเขาเรืองรองจนนางแสดงความนอบน้อมออกมาโดยธรรมชาติ จึงออกอาการเกร็งเมื่อถูกโอบอุ้มเมื่อนานวันเข้าความสนิทสนมเริ่มมากขึ้นความรู้สึกหวั่นเกรงหายไป กล้าอ้อนกล้าซุกมากขึ้น ยิ่งหลี่ไต้ซานปล่อยให้นางทำตามใจ โดยไร้ซึ่งโทสะแถมยังมีความสุขทุกคราเมื่อนางมาอยู่ใกล้ หงอี้จึงยิ่งได้ใจการถูกเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดีจาก

  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   ไม่รู้ตัว

    แม้เมื่อวานชินอ๋องจะกลับมาพร้อมสตรีและยังดื่มน้ำผึ้งยามค่ำคืน จนกระทั่งล่วงเข้าวันใหม่ แต่พ่อบ้านรวมถึงคนสนิทไม่ได้เอ่ยปากถาม พวกเขาเพียงลอบส่งสายตาเพื่อพูดคุยกันว่าสตรีนางนั้นหายไปที่ใดแล้ว ในเมื่อท่านอ๋องกำลังเดินอุ้มหงอี้ที่หายตัวไปออกมาจากห้องสาวใช้ผู้เข้าไปปรนนิบัติถูกพ่อบ้านสอบซัก ได้ความว่าไร้เงาของสตรีที่ท่านอ๋องอุ้มเข้าห้องน่าแปลกเกินไป รวมถึงน่าเหลือเชื่อ คนทั้งคนจะหายไปโดยไม่มีผู้ใดพบเห็นเลยหรือการหายตัวไปของหงอี้ไม่ใช่เรื่องน่าสงสัย แมวตัวนี้ชอบเที่ยวเล่น ซุกซนตลอดเวลา หายตัวไปก็กลับมาเองได้ พวกเขาทั้งหมดเคยชินเสียแล้ว เมื่อคืนถึงถึงก็เพียงนึกห่วงเท่านั้น เช้านี้พบอยู่กับท่านอ๋อง เป็นอันว่าหายห่วงหงอี้กลับมาอยู่ในร่างแมวเพียงแค่คิดเท่านั้น นางยังนึกแปลกใจ ก่อนหน้านั้นเคยลองแล้วผลปรากฏว่าว่างเปล่า นางยังคงเป็นแมวสีขาวขนปุย แล้วเหตุใดจึงเกิดขึ้นมันได้รับการกระตุ้น?แล้วอะไรคือตัวกระตุ้น หงอี้ปวดหัวไปหมด ยิ่งคิดยิ่งใช้สมองมาก ความหิวยิ่งถาโถม เสียงท้องเจ้ากรรมดังเข้าหูชินอ๋อง จนเขาก้มมองเจ้าก้อนขนในอ้อมอกอย่างนึกสงสาร รีบหันไปสั่งสาวใช้จัดโต๊ะอาหาร จับนางเข้าประจำที่นมอ

  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   เสียอาการ

    “อึก อ๊ะ อ๊า”ถูกเคี่ยวกรำมาหลายชั่วยาม เสียงครางแสนหวานจึงเปลี่ยนเป็นแหบแห้ง หงอี้ถูกจับนอนตะแคงโดยมีร่างใหญ่ซ้อนประชิดด้านหลัง เรียวขาพาดบนแขนแกร่ง แอ่นอ้ารับการป้อนความเสียวจากท่อนกายใหญ่ที่ยังคงสอดเข้าออกอย่างพลิ้วไหวน้ำหวานเจิ่งนองจนรู้สึกแฉะตรงหว่างขา เม็ดเสียวเต่งบวมสั่นริกจากการขยี้ของท้องนิ้วสาก ยิ่งเขาดันเนินชายเข้าลึกนางยิ่งกระสันจนตัวกระตุก แอ่นบั้นท้ายเข้าหาราวนางโลมแสนร่าน กระหายรสสวาทไม่รู้อิ่ม“ขะ ข้า อ๊ะ ซวนจ๋า~ ช้าหน่อย อื้อ อ๊า”ทรมานเหลือเกิน...รัญจวนเหลือแสนกับราคะที่เขาปรนเปรอให้ไม่หยุดพัก“บอกให้ช้าลงแต่เจ้ากลับแอ่นรับไม่น้อยหน้า”“ฮึก อ๊า”“น้ำหวานของเจ้า ไหลอาบข้าจนเปียกแฉะ แมวน้อยแสนร่าน” เนินชายของเขาที่มีขนหยาบแห้งและเปียกวนกันเช่นนี้มาหลายชั่วยาม ถึงจะฉีดน้ำคาวออกไป อีกสักพักลำกายใหญ่ก็กลับมาขยายพองคับโพรงอุ่นให้เขาสร้างความหฤหรรษ์กับนางอีกครั้งวาจาแสนลามกขับความร้อนจนใบหน้าร้อนผ่าว เขินอายเหลือเกินกับความจริงที่เขากล่าวออกมา แต่กลีบบุปผากลับขมิบรัว ราวกับว่ากำลังประจานความคิดแท้จริงของนางให้เขารับรู้ว่าชอบมากแค่ไหนหลี่ไต้ซวนคำรามเมื่อนางทั้งดูดดึงและเ

  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   หงอี้ของเขา

    หงอี้ร้อนวูบวาบตรงจุดประสานเชื่อม ความกระสั่นซ่านไต่ระดับ รู้สึกถึงเขามากกว่าทุกสิ่ง รอบกายราวถูกหยุดเวลาเอาไว้มีเพียงนางและเขาที่หลงระเริงในห้วงราคะ เอวคอดยกตามติดทุกการถอดถอน คล้ายกับว่าไม่ต้องการให้เขาหนีห่าง ร้อนผ่าวจนใบหน้าแทบไหม้เมื่อสบตาหยอกล้อของเขามันเร็วขึ้น เร็วขึ้นจนร่างเคลื่อนคลอนทรวงอิ่มไหวยวบยาบตามจังหวะขึ้นลง จนต้องประคองไว้ในอุ้งมือ นวดเคล้นเนื้อล้นผ่านง่ามนิ้ว แทรกท่อนกายผ่านความอ่อนนุ่ม ให้เนื้อของเขาและนางเสียดสีกันครั้งแล้วครั้งเล่าความคับแน่น เจ็บตึงในร่องแคบเลือนหายไป เหลือเพียงความซ่านกระสันยามความใหญ่โตแทรกผ่าน ขาเรียวอ้ากว้างยิ่งกว่าเดิมนั่นทำให้เขาเข้าถึงทุกอณูการรับรู้ จ้วงทะยานตามความอยากจนกลีบอ่อนยู่เข้ายู่ออก จนหงอี้หนีออกจากความเสียวซ่านไม่พ้นมันมากขึ้น...เสียวขึ้น...ไต่ระดับความเสียวจนแทบขาดใจน้ำเมือกลื่นของนางหลั่งริน ทำให้เขาเร่งเร้าจ้วงแทงราวไม่รู้จักเต็มอิ่ม หลี่ไต้ซวนจุมพิตหน้าผากมลชื้นเหงื่อ ตามด้วยดวงตาทั้งสองข้าง พวงแก้มนุ่ม ปลายจมูกเล็กโด่งรั้นก่อนจะหยัดนั่งตรงมองส่วนประสาน เอวหนาลดความเร็วลง กระทั้นแกนกายเคลือบน้ำหวานสีใสและเลือดสีแด

  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   ยังไม่พอ

    ไต้ชินอ๋องแทบทะยานมาที่เรือนนอน ตอนเปิดประตูใช้เท้า ตอนปิดก็ยังใช้เท้ากระแทกปิดเสียงดังปัง ร่างบางในห่อผ้าอยู่ไม่สุข มือน้อยเลื้อยออกมาสอดเข้าสาบชุดลูบไล้ผิวเนื้อของเขา สัมผัสราวถูกขนนกปัดผ่าน สร้างความวาบหวามจนต้องข่มเสียงครางแสนพอใจแม้ความคิดจะอยากจับนางทุ่มลงบนเตียง ตามด้วยคร่อมทับทรมานให้สาสมกับความต้องการในอก แต่เขาสนใจอย่างอื่นมากกว่า จึงต้องสะกดความร้อนรุ่มวางหญิงสาวผู้อ้างตัวว่าคือหงอี้ แมวขี้เซาที่เขาเลี้ยงไว้ข้างกายตลอดสามปีเมื่อเป็นอิสระ หงอี้ใช้มือปัดผ้าคลุมออกอย่างนึกรำคาญ นางร้อนแทบตายแล้วแต่ชินอ๋องยังใช้มันห่อตัว ไยต้องทำถึงขนาดนี้ด้วยนางก็แค่แมวตัวหนึ่งอุ้มไว้ในอกอย่างเปิดเผย มีสิ่งใดน่าอายกันนัยน์ตาสีเทากลม แวววาวจากแรงปรารถนา มองใบหน้าแดงก่ำของพ่อตัวร้ายหยาดเยิ้ม ยังคงไม่เข้าใจอยู่เหมือนเดิมนางแค่แอบดื่มสุราเองมิใช่หรือ ความร้อนในร่างกายโดยเฉพาะส่วนนั้นมาจากไหนหงอี้สับสนแต่ร่างกายไม่รักดีกลับเอนกายลงบนเตียงเย็นชืด บิดเร่าอย่างชอบใจ ชินอ๋องหายใจหอบกับภาพยั่วราคะของสตรีบนเตียง ผ้าปูสีดำตัดกับผิวกายนวลลออ เส้นผมสีเทาออกเงินกระจายไปทั่วหมอนใบใหญ่“อื้อ...เย็นจัง”บ

  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   ฤทธิ์กำหนัดเล่นงาน

    บรรยากาศแสนหนักอึ้งบนโต๊ะของชินอ๋องหมดไป หงอี้จึงมีความคิดอยากลองชิมสุรา ว่าก็ว่าเถอะ นางเมื่อครั้งยังเป็นกมลเนตรชื่นชอบการเติมแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดมาก ยี่ห้อไหนคนว่าดี ผสมแบบไหนคนว่าเด็ด เป็นต้องขอลองเสมอพออยู่ในร่างแมวความชอบจึงถูกงดเว้นไป หงอี้อาศัยจังหวะที่สองหนุ่มเผลอยื่นอุ้งเท้าหน้าจุ่มลงในจอกสุรา ยกขึ้นใช้ลิ้นแตะ ๆ เพื่อทดลองรสชาติ ลิ้นน้อย ๆ สีแดงเลียอุ้งเท้าหน้าชวนให้คนมองรู้สึกจั๊กจี้อู้ววว รสชาติใช้ได้เลย ฤทธิ์ไม่แรงเท่าไหร่ ถือว่าพอแก้ขัดอาการเปรี้ยวปากได้หลังจากนั้นความสนใจทั้งหมดของนางจึงอยู่ที่จอกสุราตรงหน้า ลิ้มรสชาติแสนคิดถึงอย่างสุขใจ ดวงตากลมหลับพริ้มอย่างมีความสุข ความเร็วของการจุ่มอุ้งเท้าก็เพิ่มขึ้น เผลออีกทีสุราเต็มจอกก็เหลือเพียงครึ่งหนึ่งตายละ ซวนจะรู้ไหมทำไงดี ๆความกังวลส่งผลให้นางไม่ได้นอนเฉยอีกต่อไป ลุกขึ้นกลอกตามองไปมาอย่างใช้ความคิด ก่อนจะ..“หงอี้ ซุกซนอีกแล้วหรือ” ไต้ชินอ๋องบ่นไม่จริงจังนักออกมา เมื่อพบว่าจอกสุราของตนเองหกคว่ำ เมื่อมองดูตัวการกำลังส่งเสียงอย่างรู้สึกผิด จึงเรียกสาวใช้แถวนั้นมาเก็บกวาด สาวใช้รีบเช็ดสุราและเปลี่ยนจอกใหม่พร้อมเติมสุรา

  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   เครื่องมือเข้าหาสตรี

    สามวันต่อมา จวนตระกูลเจียงจัดงานครบรอบวันเกิดให้แก่ราชเลขาเจียง ผู้เป็นแรงสำคัญนำพาให้ตระกูลเจียงกลับมาผงาด จนยืนอย่างมั่นคงท่ามกลางตระกูลขุนนางชั้นสูงในเมืองหลวงได้อีกครั้งหลังจากตระกูลเจียงตกต่ำมานับสิบแปดปี ด้วยการตัดสินใจทำการค้ากับขุนนางนิสัยชั่วร้าย หลอกลวงได้แม้กระทั่งราชสำนัก แม้จะพิสูจน์หลักฐานพบเพียงตระกูลเจียงไม่รู้เห็น แต่ความร่ำรวยของพวกเขาปฏิเสธไม่ได้ว่ามาจากเงินของราษฎรบทลงโทษของพวกเขาตระกูลเจียง คือ ยึดทรัพย์สินเข้าคลังหลวง เพื่อชดเชยความเสียหายจากการค้า จากตระกูลคหบดีผู้ร่ำรวย ดิ่งสู่จุดต่ำสุด เคยอาศัยในจวนหลังใหญ่ สาวใช้บ่าวไพร่นับร้อยชีวิตคอยทำงาน ชีวิตสุขสบายหายไปพวกเขาต้องใช้จ่ายอย่างประหยัดย้ายออกจากจวนเดิม สาวใช้บ่าวไพร่ต่างถูกขายเพื่อลดรายจ่าย บุตรหลานตระกูลเจียงราวตกสวรรค์ พวกเขาไม่มีทางฟื้นคืนได้อีกแล้ว แม้แต่สหายที่เคยคบหายังหนีหน้า เลิกคบหาพวกเขาสอนให้เห็นถึงจิตใจแท้จริงของคนเมื่อหกปีก่อนเจียงจื้อหมิงสอบได้จอหงวน เขาเริ่มทำงานเป็นขุนนางขั้นเล็ก ๆ ไต่เต้าด้วยความสามารถจนกระทั่งวันนี้ กลายเป็นราชเลขาคนสำคัญที่ฝ่าบาทไว้วางพระทัยและว่าที่ผู้นำตระกูลเจียงคนต่

  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   ชาติกำเนิดแสนลึกลับ

    เมื่อเห็นสีหน้าของชินอ๋องกลับมาอ่อนโยนอีกครั้ง อ้ายเมิ่งเหยาจึงลอบถอนหายใจโดยระวังไม่ให้บุรุษตัวโตจับได้นางเหลือบมองคนสนิทที่ยืนตัวแข็งทื่อจากการถูกแรงกดดันรอบตัวของชินอ๋องไปนาน แล้วออกเดินนำ จึงไม่ได้เห็นรอยยิ้มชอบใจตรงมุมปากหยักของคนตัวโตด้านหลังทิ้งความรู้สึกหงุดหงิดบางอย่าง ก้าวตามแผ่นหลังของสตรีที่เขาเกิดสนใจขึ้นมากะทันหัน ลึกลงไปในแววตากร้าวกระด้าง เกิดแววไม่ยินยอมต่อบางสิ่ง ทว่ากลับไร้หนทางต่อต้าน ทำได้เพียงโอนเอนตามแรงฉุดดึงที่มองไม่เห็นเพื่อหาคำตอบเย็นวันนั้น พอออกจากพระราชวัง ซึ่งกว่าจะหลุด ต้องนั่งมองการยื้อยุดของสองพี่น้องอยู่นานสองนาน ด้วยฮ่องเต้คิดหาข้ออ้างดึงตัวนางไว้ข้างกายอีกหนึ่งคืน ชินอ๋องไม่ยอมอ่อนข้ออาศัยช่วงทีเผลอคว้าตัวนางแล้วเดินตัวปลิวออกจากห้องทรงพระอักษรพอกินข้าวเย็นอิ่ม หงอี้ได้รับการไหว้วานจากชินอ๋องให้ติดตามไปยังโรงประมูลซวี่หัวอีกครั้ง เบื้องหน้าของนางยังคงเป็นกรงขังขนาดใหญ่ ภายในนั้นเป็นเสือดำลายพาดกลอนตัวใหญ่ผู้หงุดหงิดง่าย นอนหมดแรงหลังถูกวางยาสลายกำลังซึ่งเป็นตัวยาหายาก แทบสูญหายจากแผ่นดิน ต้องใช้ทั้งกำลังคนและกำลังทรัพย์ออกค้นหา เมื่อได้มาแล้วย

  • ตัวร้ายผู้นั้นเก็บข้ามาเลี้ยง   หนักใจ

    หงอี้มองตามแผ่นหลังกว้างของชินอ๋องจนลับสายตา พอถูกนำมาวางบนเบาะนอนซึ่งกงกงคนสนิทของฮ่องเต้จัดวางบนโต๊ะทรงงาน พร้อมถ้วยใส่นมอุ่น ๆ ความสนใจของนางจึงกลับมาจดจ่อกับของกินแทนโอรสสวรรค์ยิ้มปลาบปลื้ม รู้สึกมีแรงทำงานเพิ่มขึ้นหลังได้กลิ่นประจำตัวของจอมขี้เซา รอให้พระองค์จัดการงานบนโต๊ะแล้วเสร็จ ค่อยพาหงอี้ไปเสวยสำรับเช้าที่ตำหนักของฮองเฮาด้วยผลตรวจร่างกายรอบล่าสุด ทำให้พระองค์มีความหวังที่จะผลิตองค์หญิงตัวน้อยหน้าตาเหมือนฮองเฮาออกมาวิ่งเล่นไปทั่วพระราชวัง ส่งเสียงเรียกพระองค์ว่าเสด็จพ่อเจ้าคะ เสด็จพ่อเจ้าขาองค์หญิงน้อยเนื้อตัวนุ่มนิ่มหอมน้ำนม สวมชุดปักลวดลายสวยงาม ทำผมเป็นก้อนซาลาเปา ฉีกยิ้มหวานจนแก้มขึ้นก้อนกลมส่งมาให้...เพียงแค่คิดก็มีความสุขแล้ว“สำหรับเรื่องที่ข้าปรารถนาในตอนนี้ เจ้าคือความหวังเดียว หงอี้”เจ้าก้อนขนแสนนุ่มนิ่มเลียปากหลังดื่มนมอุ่นจนหมดถ้วย มองบุรุษผู้อยู่เหนือคนทั้งใต้หล้าด้วยดวงตากลมแป๋ว แสนใสซื่อ ไม่อาจเข้าใจว่านางเป็นความหวังในเรื่องใดหากนั่นทำให้คนมีความหวัง แม้จะเล็กน้อย ถือว่านางมีความสำคัญ หรือเปล่านะหงอี้โคลงศีรษะ ท้องอิ่มเล็กน้อยทำให้นางขี้เกียจก็ไม่อยากนอ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status