“ถ้าเค้าจะไปหาผู้หญิงเค้าจะบอกว่าไปหาเพื่อนทำไมล่ะคะคุณย่าอีกอย่างแพรก็ไม่ใช่คนที่คุณภูรักด้วย” ผ้าแพรเชื่อใจภูผาเป็นที่สุดไม่มีอะไรที่เธอต้องไม่เชื่อเพราะเขาไม่จำเป็นต้องโกหกเธอในเมื่อเธอและเขาไม่ได้มีความรู้สึกแบบชู้สาว
“ถึงไม่ใช่แต่เราก็แต่งงานมีลูกด้วยกันคาท้องอยู่อย่างนี้หากวันนึงลูกเกิดมาจะต้องเห็นพ่อตัวเองไปหาผู้หญิงคนอื่นจะรู้สึกยังไง” สายทองมองหลานสะใภ้ของเธอด้วยสายตาเอ็นดูไม่รู้เลยว่าพิกุลนั้นเลี้ยงหลานมายังไงถึงได้จิตใจดีแบบนี้ แต่ยังไงเธอก็จะยอมให้ผ้าแพรนั้นคิดแบบนี้ต่อไปไม่ได้ในเมื่ออนาคตภูผาจะต้องเป็นผู้นำครอบครัวและตัวอย่างที่ดีให้แก่ลูกที่กำลังจะเกิดมา
“ลูกก็จะต้องเสียใจแล้วแพรก็จะต้องเสียใจที่ลูกเสียใจแต่ถ้าบอกให้คุณภูห้ามยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นแพรคงทำไมได้ค่ะเพราะผู้หญิงของคุณภูมาก่อนแพรถ้าให้พวกเค้าเลิกกันทั้งที่ยังรักกันแพรทำแบบนั้นไม่ได้ค่ะคุณย่า” ผ้าแพรเงียบไปครู่หนึ่งเธอลองคิดตามที่สายทองพูดแล้วค่อยๆเอ่ยออกมาอย่างพินิจพิเคราะห์ไม่นานสายตาที่ไม่รู้สึกอะไรก็เริ่มก็จะไหววูบเพราะคิดไม่ตกเสียแล้ว
“อืมๆ..ย่าว่าเดี๋ยวย่าคุยกับตาภูเองจะดีกว่า” สายทองมองหน้ากับดวงใจด้วยท่าทางอ่อนใจเห็นว่าเธอจะให้สองคนผัวเมียตกลงกันเองจะไม่ได้แล้วคงต้องยื่นมือเข้าช่วยบ้างในบางเรื่อง
ครู่ต่อมา
“ตาภูออกไปไหนคะคุณแม่” โสพิศกลับมาจากทำธุระในช่วงเย็นเธอเห็นแต่ผ้าแพรเดินเล่นอยู่กับดวงใจที่ริมแม่น้ำไม่ยักเห็นลูกชายเธออยู่ด้วยจึงเข้ามาถามสายทอง
“จะไปหาเพื่อนบอกจะกลับดึกๆหน่อย”
“คุณแม่ไม่ห้ามเหรอคะ” โสพิศเห็นทุกครั้งสายทองจะห้ามหลานไม่ให้ไปเที่ยววันนี้เห็นปล่อยไปได้ทั้งที่ไม่สมควรปล่อยเพราะผ้าแพรพึ่งจะมาอยู่ที่นี่วันแรก
“คนนั้นเค้าอนุญาตฉันก็เลยไม่อยากก้าวก่าย” สายทองเหลือบสายตาไปที่หลานสะใภ้ของเธอทั้งเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อน
“คงต้องสอนกันอีกเยอะนั่นแหละค่ะ” โสพิศส่ายหัวเบาๆพรางถอนหายใจเธอเห็นทีคงต้องอบรมสะใภ้เธอใหม่เสียแล้ว
“เธอว่าคนอย่างหนูแพรจะหยุดตาภูได้หรือเปล่าล่ะแม่โส” สายทองอมยิ้มและมองไปยังร่างบางที่เดินเล่นตื่นตากับบรรยากาศริมแม่น้ำยามเย็นเหมือนเด็กที่ได้เที่ยวที่ใหม่แล้วหันมาถามลูกสะใภ้ของเธอขอความเห็นว่าโสพิศนั้นคิดอย่างไรกับเรื่องที่เธอกล่าว
“ไม่รู้เหมือนกันสิคะคุณแม่ไม่ทันคนแบบนี้โสไม่แน่ใจเท่าไรเลยแต่หนูแพรก็ดูน่ารักไม่น้อยเลยนะคะไม่รู้ว่าตาภูจะชอบแบบนี้หรือเปล่าเห็นควงแต่ละคนดารานางแบบทั้งนั้นแต่นิสัยนี่ไม่ได้เลย” โสพิศมองลูกสะใภ้ของเธอด้วยสีหน้าครุ่นคิด
“ถูกใจสะใภ้คนนี้ล่ะสิ” สายทองมองโสพิศแล้วอมยิ้มมุมปากเล็กๆ
“กิริยามารยาทก็ได้อยู่นะคะก็ต้องดูกันไปยาวๆ อีกอย่างเห็นสองคนก็ไม่ได้รักกันยิ่งยากเข้าไปใหญ่ที่จะให้หนูแพรหยุดตาภูเพราะตาภูจะไปไหนก็ให้ไปหมดแบบนี้ก็ได้ใจกันใหญ่น่ะสิคะ” โสพิศยอมรับว่าตอนแรกก็มีอคติกับผ้าแพรอยู่บ้างเพราะคิดว่าคงไม่พ้นเหมือนผู้หญิงคนอื่นที่จ้องจะจับลูกชายเธอแต่พอรู้จักจริงๆแล้วกลับไม่ใช่แถมยังเป็นผู้หญิงที่ใจดีจนแปลกคน
“แต่ฉันคิดอีกอย่างนะแม่โส..ความเป็นตัวเองของหนูแพรนี่แหละจะหยุดตาภูเองเราก็แค่ช่วยนิดๆหน่อยๆเท่านั้นและก็เชื่อว่าอีกไม่นานทั้งสองก็คงจะรักกันเอง” สายทองพึ่งคิดตกอีกอย่างเธอเห็นว่านิสัยแบบนี้ของผ้าแพรนี่แหละจะเอาหลานชายเธออยู่โดยที่ไม่ต้องทำอะไรก็เป็นได้เพียงแค่เธอนั้นช่วยกันปรามความเจ้าชู้ของภูผาในตอนนี้เสียหน่อยเท่านั้น
22.00 น.
ร่างบางนั่งพิงหัวเตียงนุ่มสุดหรูอยู่ในชุดนอนเดรสตัวโคร่งสีขาวผ้าฝ้ายที่เตรียมมาจากบ้านเธอนั่งมองโคมไฟมาพักใหญ่ร่วมหลายชั่วโมงในห้องที่มีแต่ความเงียบจนได้ยินเสียงแอปรับอากาศ
“ทำไมไม่หลับซะทีนะ” เธอถอนหายใจแล้วถอนหายใจอีกในคราแรกคิดว่าจะนอนหลับแต่เปล่าเลยคงเป็นเพราะแปลกที่และใจของเธอก็ยังพะวงถึงภูผาว่าจะกลับมาในตอนไหนดวงตากลมหมายมองหาหนังสือแต่ก็ไม่ยักจะเห็นมีครั้นจะรื้อหาก็กลัวเจ้าของห้องว่าเธอไม่มีมารยาทจึงได้แต่นั่งมองซ้ายมองขวาสลับกับนอนนับแกะวนไป
คลับXXX
คลับหรูใจกลางเมืองที่มีแดเนียลหนุ่มลูกครึ่งรูปหล่อขวัญใจสาวๆกลางคืนเป็นเจ้าของตอนนี้ภูผาก็ได้นั่งอยู่ที่นี่ด้วยเพราะเขาและแดเนียลเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่เด็กๆรวมทั้งปกรณ์ลูกชายเจ้าของโรงงานทอผ้าไทยส่งออกยักษ์ใหญ่ในอ.เมืองเชียงรายเป็นอีกคนที่เป็นเพื่อนสนิทกับภูผานั่งรวมอยู่ด้วยกันในโซนวีไอพีของคลับ
ช่วงนี้ทั้งสามไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยเท่าเมื่อก่อนนักเพราะต่างคนต่างก็มีหน้าที่ในการบริหารงานของครอบครัวตัวเองจะมีครั้งนี้ที่นัดกันเป็นการด่วนเพราะข่าวที่ภูผาแต่งงานแล้วไม่ได้บอกเพื่อนตัวเองนี่แหละ
“ได้ข่าวว่าแต่งงานไม่บอกเพื่อนบอกฝูงบ้างเลยล่ะ” ปกรณ์บ่นอุกเมื่อเห็นข่าวการแต่งงานของเพื่อนสนิทตนจากนักข่าวแต่ไม่รู้เรื่อง
ปกรณ์หนุ่มไฮโซชาวเหนือที่ใช้ชีวิตไปๆมาๆเชียงรายกับกรุงเทพเป็นว่าเล่นเพราะทั้งติดเที่ยวและติดผู้หญิงเรียกได้ว่าเข้าขากับภูผาได้เป็นอย่างดีในเรื่องผู้หญิง
“มันกะทันหันน่ะ” ร่างใหญ่ที่นั่งพิงโซฟาไขว่ห้างมือถือแก้วไวน์ราคาแพงเปรยสายตามองเพื่อนๆของเขาอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวเรื่องที่แต่งงานแล้วไม่ยอมบอกเพื่อนบอกฝูง
“ท้องเหรอวะ” แดเนียลหนุ่มลูกครึ่งมาดขรึมที่เป็นตัวเบรกในความเจ้าชู้ของเพื่อนๆเพราะเขาไม่ค่อยชอบเรื่องผู้หญิงเท่าไรเขานั้นพอจะดูออกว่าเสืออย่างภูผายอมแต่งงานกะทันหันได้โดยที่ตั้งตนว่าจะอยู่เป็นโสดมีคู่นอนเท่านั้น คงมีเรื่องเดียวที่ทำให้ภูผายอมได้ แต่เขาก็ไม่ยักรู้ว่าคนที่รอบคอบอย่างภูผาจะมาพลาดเรื่องนี้ได้อย่างไร“อืม” ภูผาหันกลับมาพยักหน้าให้แดเนียลทั้งกระดกดื่มไวน์ในแก้วจนหมด“เสืออย่างภูผาพลาดได้ไงวะ” ปกรณ์ตบบ่าภูผาเบาๆทั้งเอ่ยด้วยน้ำเสียงหยอกเอิญเพราะเขาเคยพนันกับภูผาว่าใครแต่งงานก่อนคนนั้นแพ้“ช่างมันเถอะเรื่องเกิดแล้วยังไงฉันก็ต้องรับผิดชอบ” ภูผาเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าค่อนข้างปลงและมีรอยยิ้มมุมปากเล็กน้อย“แหม...คำพูดแบบนี้ไม่น่าออกจากปากแกนะคนนี้ถูกใจแกไม่น้อยใช่ไหม” แดเนียลได้ยินคำพูดของภูผาเขาก็ถึงกับต้องผงะจนวางแก้วเครื่องดื่มในมือด้วยนึกว่าตัวเองหูฝาดเพราะหากเป็นภูผาที่เขารู้จักคงจะโวยวายหนักกว่านี้แน่เพราะขนาดมีข่าวหลุดเข้าโรงแรมกับนางแบบยังบ่นอุกจนเขาหูชา แต่ตอนนี้ต้องมารับผิดชอบผู้หญิงที่ทำเขาท้องอย่างไม่ได้ตั้งใจกลับดูเหมือนจะยอมรับแบบปลงง่ายๆเสียอย่างนั้นทั้งที่เรื่องนี้คื
วันต่อมา“ป้าดวงทำอะไรอยู่เหรอคะ” แพรวาตื่นมาตั้งแต่ยังไม่ทันจะหกโมงเช้าเธอเดินลงมาในครัวหมายจะทำอาหารเช้าแต่ก้เห็นดวงใจนั้นยืนง่วนอยู่ก่อนแล้ว“ตื่นมาทำไมแต่เช้าคะคุณแพร” ดวงใจที่กำลังมือเป็นระวิงกับการจัดแจงอาหารเช้าของทุกคนในบ้านเธอหันมายิ้มให้กับผ้าแพรซึ่งเป็นเจ้านายคนเดียวในบ้านที่ตื่นเช้าขนาดนี้“แพรอยากทำอาหารค่ะ” ผ้าแพรรีบเอ่ยความจำนงออกไปและมองดูรอบๆห้องครัว“คุณแพรอยากทานอะไรบอกป้าเลยค่ะ”“แพรอยากทำอาหารมากกว่าค่ะแพรชอบ” ผ้าแพรส่ายหัวเบาๆที่เธอมาที่นี่เพราะเธออยากจะทำอาหารเองไม่ใช่แค่อยากทานอะไรและมาบอกดวงใจเท่านั้นหากเธอไม่ได้ทำอะไรที่เธอชอบเธอคงเบื่อตายพอดีในการอยู่ที่นี่“อย่างนั้นก็ได้ค่ะคุณแพรอุปกรณ์เครื่องครัวอยู่นี่นะคะ” ดวงใจเห็นหญิงสาวดูจะอยากทำขนาดนั้นเธอก็ไม่อบยากขัดใจคนท้องจึงบอกให้ผ้าแพรนั้นจัดการได้ตามสบายโยมีเธอคอยอยู่ใกล้ๆ“ค่ะ” เมื่อได้รับอนุญาตร่างบางก็ยิ้มร่ารีบหยิบจับของในครัวอย่างชำนาญวันนี้เธอจะโชว์ฝีมือการทำอาหารเช้าให้ทุกคนได้ลองทานสักเมนูเพราะเห็นว่าดวงใจนั้นจัดการทำข้าวต้มแล้วสองชั่วโมงต่อมาโต๊ะอาหาร“ตาภูยังไม่ตื่นอีกเหรอหนูแพร” สายทองเห็นผ้าแพรน
“คุณแม่ว่างหรือเปล่าครับพาแพรออกไปซื้อเสื้อผ้ากับของใช้ทีสิครับผมเห็นว่าเธอไม่ค่อยมีของเลย” ภูผาเอ่ยถามคนเป็นแม่ของเขาในระหว่างที่เธอกำลังนั่งมองลูกมะม่วงในมืออย่างชื่นชมเขาไม่ต้องถามก็เดาออกว่านั่นคงจะเป็นฝีมือของผ้าแพรเพราะคนที่นี่แกะสลักกันไม่เป็นถึงเป็นก็คงไม่สวยขนาดนี้“เมียเราก็พาออกไปเองสิ” โสพิศเปรยตามองคนวานเล็กน้อย“ผมว่าการเลือกของให้ผู้หญิงด้วยกันเลือกจะดีกว่านะครับ”“ของที่แพรมีก็พอใช้แล้วค่ะไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่ม” ผ้าแพรรู้ดีว่าภูผานั้นไม่ได้อยากไปไหนมาไหนกับเธออีกอย่างของเธอถึงจะน้อยแต่มันก็พอใช้สำหรับชีวิตในแต่ละวันไม่จำเป็นต้องซื้ออะไรเพิ่ม“เสื้อผ้าเธอมีไม่ถึงสิบชุดด้วยซ้ำ”“นั่นแหละค่ะพอแล้ว”“จะใส่ซ้ำกันงั้นเหรอ” ภูผาพึ่งจะเคยเห็นผ้าแพรเป็นเคสแรกเพราสาวรุ่นส่วนมากเดี๋ยวนี้ที่เขารู้จักก็มักจะชอบใส่เสื้อผ้าไม่ซ้ำกัน“ค่ะเสื้อผ้าเค้าก็ทำมาให้ใส่ได้หลายครั้งนี่คะคุณภู” ผ้าแพรเอ่ยด้วยรอยยิ้มอ่อนเขารู้ว่าคนเมืองอย่างภูผาน่าจะรู้จักแต่ผู้หญิงที่ชอบแต่งตัวแต่คนชนบทอย่างเธอไม่จำเป็นต้องแต่งตัวไปแข่งกับใครแค่มีเครื่องนุ่งห่มที่พอดูดีก็ใช้ได้แล้วใส่ซ้ำกันมันก็ไม่แปลกเพราะที่ชนบ
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” แดเนียลเหมือนจะจับจ้องไปที่ผ้าแพรไม่วางสายตาว่าในรูปน่ารักแล้วตัวจริงยิ่งน่ารักเสียกว่า“เรียกพี่สองคนว่าพี่ก็ได้ไหนๆเราก็คนกันเอง” ปกรณ์ทักทายผ้าแพรอย่างเป็นกันเองจนภูผาเริ่มหน้าตึงเล็กน้อย“ค่ะพี่กรพี่แดน” สายตาคมของภูผามองผ้าแพรอย่างไม่พอใจที่ดันไปยอมเรียกเพื่อนของเขาทั้งสองว่าพี่ทั้งที่พึ่งเจอกันแต่กลับเรียกเขาด้วยความห่างเหิน“น้องแพรนี่น่ารักกว่าในรูปเยอะเลยนะครับ” ปกรณ์ดูอาการของภูผาออกเขาอยากจะรู้นักว่าความหวงเมียของเพื่อนเขานั้นมันจะมีมากระดับไหนทั้งที่ก่อนหน้านี้โอ้อวดคุยโวนักหนาว่าไม่มีทางให้ใจกับผู้หญิงคนไหน“พี่กรเคยเห็นรูปแพรด้วยเหรอคะ” ผ้าแพรรู้สึกว่าปกรณ์เป็นคนที่คุยเก่งระดับหนึ่งเลยแบบนี้เธอค่อยหายเกร็งหน่อยคิดว่าเพื่อนของภูผาจะไม่อยากยุ่งกับเธอเสียแล้วเพราะเธอก็ไม่ได้อยู่สังคมเดียวกับพวกเขา“เคยสิในข่าวไงแล้วนี่มาทำอะไรกันเหรอครับ” ปกรณ์เดินอ้อมภูผาหน้าตาเฉยแล้วเข้าไปประชิดตัวผ้าแพรหยิบสมาร์ทโฟนราคาแพงของเขาเปิดข่าวให้ผ้าแพรได้ดูว่านักข่างลงรูปเธอกับภูผาแล้วเขียนข่าวว่าอย่างไรแดเนียลเองก็ได้แต่อมยิ้มกับปกรณ์ที่หาเรื่องแกล้งภูผาส่วนคนถูกแกล้
“แต่ฉันเหนื่อยหรือจะให้ฉันกลับไป” ภูผาหันมาตอบหญิงสาวเสียงแข็งจนหญิงสาวก้มหน้างุด“ไม่เป็นไรค่ะเหนื่อยก็กลับบ้านไปนอนพักนะคะ” มือน้อยทั้งสองของเธอบีบกันแน่น“เธอยังอยากได้ขนมพวกนั้นอยู่อีกหรือเปล่า” เวลานี้ที่เห็นหญิงสาวนั่งหน้าละห้อยเขาก็จำได้ว่าเขาลืมพาเธอแวะซื้อขนมก่อนจะกลับอย่างที่รับปากเธอเอาไว้หากเขาไม่โมโหปกรณ์จนรีบร้อนจะกลับเธอก็คงไม่นั่งหน้าหงอยแบบนี้แน่“อ๋อ..ไม่หรอกค่ะ” ผ้าแพรเงยหน้าอมยิ้มอ่อนแม้เธอจะอยากได้ขนมพวกนั้นมากแค่ไหนหากภูผาลืมก็ไม่เป็นไร22.00 น.“ทำไมคุณภูนอนดึกจังล่ะคะไม่ดีต่อสุขภาพนะคะ” ผ้าแพรนอนมองภูผาที่อยู่ในชุดนอนสีเทากำลังนั่งพิงหัวเตียงทำงานในโน๊ตบุ๊คด้วยสายตาสะลึมสะลือเพราะตอนนี้เธอง่วงเต็มทน“เธอง่วงก็นอนก่อนเลย” ภูผาตอบกลับในขณะที่สายตาและมือของเขายังจับจ้องอยู่กับโน๊ตบุ๊ค“เปิดไฟแบบนี้แพรคงไม่หลับหรอกค่ะ”“โอเค..งั้นฉันจะปิดไฟ” ภูผาหันไปมองคนที่กำลังนอนกอดหมอนข้างดุท่าเธอจะง่วงเต็มทนเขาจำต้องละมือวางงานและเอื้อมมือปิดไฟดวงใหญ่ในห้องให้เหลือเพียงแสงไฟจากโคมไฟใกล้หัวเตียงแล้วลิ้มตัวนอนตะแคงหันหน้ามาทางหญิงสาว“ดีค่ะ” ผ้าแพรยิ้มอ่อนแบบนี้เธอค่อยนอนได้หน่
18.00 น.โต๊ะอาหาร“ไปตั้งแต่เช้ากลับมาซะเย็นวันหยุดแทนที่จะอยู่บ้านกับเมีย” สายทองตำหนิหลานชายของเธอในระหว่างที่ร่วมโต๊ะทานอาหารเย็น“ผมก็มีธุระนี่ครับวันนี้อาหารเยอะเลยมีแขกมาเหรอครับ” ภูผารู้ดีว่าเขาต้องถูกตำหนิอยู่แล้วเมื่อออกนอกบ้านในวันหยุดโดยที่ไม่บอกย่าของเขาว่าไปทำอะไรแต่ที่เขาแปลกใจก็คือไม่รู้ว่าวันนี้จะมีแขกมาร่วมโต๊ะอาหารด้วยหรืออย่างไรถึงมีอาหารหลากหลายเรียงรายอยู่เต็มโต๊ะ“ไม่มีหรอกค่ะแพรตั้งใจทำอาหารหลายๆอย่างให้คุณภูกับทุกคนลองชิมว่าจานไหนอร่อยแพรจะได้ทำบ่อยๆค่ะ” ผ้าแพรรีบเอ่ยขึ้นมาเพราะนี่เป็นฝีมือของเธอ“แต่ที่ย่าชิมก็อร่อยทุกอย่างนะ”“ฉันก็เห็นด้วยกับคุณแม่นะเธอก็มีฝีมือปลายจวักดีเหมือนกันนี่”คำชมของสายทองและโสพิศทำคนลงมือยิ้มแก้มปริหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งคราวนี้ก็เหลือแค่ภูผาเท่านั้นว่าจะโอเคกับฝีมือของเธอหรือเปล่า“งั้นคุณภูลองชิมสิคะว่าชอบหรือเปล่าเพราะคุณย่าบอกว่าถ้าอาหารในบ้านอร่อยคุณภูจะไม่ไปทานอาหารนอกบ้านทำให้มีความสุขในบ้านได้ค่ะ” พูดจบก็ยิ้มหวานดูภูผาว่าเขานั้นจะเลือกทานอะไรและจะชอบหรือไม่“อ๋อ..ผมเข้าใจแล้ว” จบคำพูดของผ้าแพรสายตาคมของภูผาก็มองไปที่ย่าของเ
“เป็นอะไรคะไม่ชอบเหรอคะ” ผ้าแพรผละออกจากชายหนุ่มเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเขานิ่งไป“อ่อเปล่าฉันว่าปิดไปทั้งตาเลยจะดีกว่า” ภูผาหลุดจากภวังค์เมื่อได้ยินคำถามเขารีบหยิบชิ้นแตงกวามาปิดตาทั้งสองข้างและรีบนอนลงไปอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะสงบใจไม่ให้ฟุ้งซ่าน“คุณภูหลับไปได้เลยนะคะเดี๋ยวอีกสักพักฉันจะเอาออกให้เอง” ผ้าแพรก้มมองหน้าชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินถือจานไปวางที่โต๊ะตรงมุมห้อง“อือ” คนตัวโตค่อยหายใจทั่วท้องได้หน่อยที่ได้ยินเสียงร่างบางอยู่ไกลๆวันต่อมาวันนี้ที่บ้านเงียบเหงาเป็นพิเศษเพราะภูผาก็ไปทำงานแต่เช้าโสพิศก็ออกไปทำธุระพาดวงใจและสมหมายคนขับรถไปด้วยที่บ้านริมน้ำหลังนี้ก็เหลือเพียงแค่สายทองกับผ้าแพรเท่านั้น“ผลไม้ค่ะคุณย่า” ผ้าแพรเห็นสายทองนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่สวนหลังบ้านติดริมแม่น้ำที่เดิมที่สายทองนั้นชอบนั่งเธอจึงเข้าครัวปอกผลไม้สามสี่อย่างใส่จานมาให้สายทองได้ทานเป็นของว่าง“ขอบใจจ่ะ...เป็นยังไงบ้างเริ่มคุ้นชินกับที่นี่แล้วหรือยัง” หญิงชราละมือจากหนังสือแล้วนั่งทานผลไม้ที่ผ้าแพรจัดใส่จานมาให้พรางถามเรื่องการเป็นอยู่ไปด้วย“ค่ะคุณย่า” หญิงสาวพยักหน้าเบาๆพร้อมอมยิ้มอ่อนคนที่นี่ดีกับเธอท
“คุณแพรคะยื่นแขนมาค่ะ” ไม่นานหมอสาวก็เรียกให้ผ้าแพรนั้นยื่นแขนวางบนโต๊ะเพื่อที่เธอจะได้จัดการเช็ดแอลกอฮอลและเจาะเลือด“สามีให้กำลังใจภรรยาด้วยนะคะ” หมอสาวเห็นสีหน้าที่ซีดเซียวผ้าแพรก้อมยิ้มและพร้อมบอกให้ภูผานั้นให้กำลังใจหญิงสาวเพื่อที่จะได้ลดความกลัวลงบ้าง“ครับ” มือหนาเอื้อมไปจับมือเรียวของคนที่เอาแต่ก้มหน้างุดมากุมเอาไว้แน่นแบบนี้คงไม่ได้กลัวนิดหน่อยอย่างที่เธอบอกเขาเป็นแน่“นิดเดียวนะคะ” หมอสาวให้สัญญาณก่อนที่จะลงปลายเข็มไปที่เส้นเลือด“อืม” ร่างบางสะดุ้งเบาๆเมื่อปลายเข็มจิ้มมาที่เนื้อของเธอดีที่มือเรียวอีกข้างที่ภูผาจับมือเธอเอาไว้เธอค่อยหายกลัวไปเปราะหนึ่งไม่อย่างนั้นตอนนี้คงได้น้ำตาไหลจนขายขี้หน้าคนในนี้ไปแล้วครู่ต่อมา“วัดคลื่นหัวใจเจ้าตัวเล็กหน่อยนะคะ” เมื่อเจาะเลือดเสร็จตอนนี้ภูผากับผ้าแพรก็อยู่ในห้องอัลตร้าซาวน์โดยตอนนี้ผ้าแพรนั้นนอนอยู่บนเตียงและมีภูผานั่งอยู่ข้างๆ“เอ่อ..” ในขณะที่หมอสาวเริ่มถกชุดคลุมของผ้าแพรขึ้นหญิงสาวก็เห็นว่าภูผายังคงเอาแต่จับจ้องมาที่ท้องของเธอไม่ยอมหันหนีไปเสียและตอนนี้หมอสาวก็กำลังถกกางเกงตัวจิ๋วของเธอลงผ้าแพรจึงรีบใช้มือเรียวดันเบี่ยงใบหน้าของภูผ