“ค่อยโล่งใจ..” อัสนีได้ยินเช่นนี้เขาก็พอโล่งใจที่ทุกอย่างราบรื่นแต่ดูจะไม่ราบรื่นก็ตรงที่เพียงฟ้าดูจะทำอะไรตามใจตัวเองกับบ้านของเขาจนเกินไป
“คืนนี้ฉันจะนอนที่นี่”
“นี่มันบ้านผมจะมานอนบ้านผู้ชายไม่กลัวตัวเองเสียหายหรือไง” อัสนีคิดว่าหญิงสาวจะไม่ทำเรื่องอะไรให้เขาลำบากใจแล้วเสียอีกแต่คำที่หลุดออกมาจากปากหญิงสาวเมื่อครู่ทำให้เขาต้องปวดหัวอีกรอบ
“ไม่...ฉันจะอยู่ที่นี่ดูแลตาวินกับคุณ...” เพียงฟ้าพูดไปยิ้มไปอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับอาการไม่ยินดีกับอัสนีเลยสักนิดเพราะคนอย่างเธอตัดสินใจอะไรแล้วก็ต้องทำให้ได้
“ผมแค่ให้คุณเซ็นรับเป็นแม่ตาวินเฉยๆไม่ได้ให้คุณมารับผิดชอบเต็มหน้าที่ขนาดนี้” อัสนีเห็นว่าเขาคงต้องทวนข้อตกลงกับหญิงสาวให้เข้าใจเสียใหม่แล้วเพราะเขาไม่ได้ให้เธอทำหน้าที่ตอลดเวลาแบบนี้
“ไม่รู้ล่ะไหนๆฉันก็ได้ชื่อว่าเป็นแม่ธาวินแล้วยังไงฉันก็จะทำหน้าที่เต็มความสามารถ...ดึกแบบนี้คุณไล่ฉันกลับไม่ใจร้ายไปหน่อยหรือไง” ร่างบางกอดอกมองหน้าอัสนีด้วยสายตาที่เจ้าเล่ห์
“เฮ้อ..” พ่อเลี้ยงหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูงกอดอกมองหน้าคนเอาแต่ใจพร้อมทั้งถอนหายใจเฮือกใหญ่
และแล้วเขาก็ต้องยอมในความเผด็จการของเพียงฟ้าเพราะหากไล่เธอกลับไปตอนนี้มันก็คงจะอันตรายอย่างที่หญิงสาวพูดจริงๆ
“ขอบคุณนะคะพ่อเลี้ยงพรุ่งนี้ฉันจะตื่นแต่เช้ามาทำอาหารให้ตาวินนะคะ” สาวเจ้าลากกระเป๋ามาที่ห้องข้างๆห้องนอนของอัสนีในขณะที่เขาขนเครื่องนอนมาให้เธอเสร็จสรรพ
“ที่นี่มีแม่ครัว”
“แต่ฉันอยากทำให้ตาวินเองนี่คะ”
“แล้วแต่คุณก็แล้วกันผมขอตัว” เวลานี้อัสนีเบื่อจะเถียงกับเพียงฟ้าเต็มทนหากเธออยากจะทำอะไรต่อจากนี้ก็แล้วแต่เธอเลยก็แล้วกันเพราะเขารู้เสียแล้วว่าคำพูดของเธอที่พูดกับเขาไม่ใช่คำขออนุญาตแต่เป็นเพียงแค่บอกก่อนที่จะลงมือทำเท่านั้นว่าจบก็เดินหันหลังกลับไปห้องนอนของตน
“ฝันดีนะคะพ่อเลี้ยงถ้ามีอะไรให้ฉันช่วยมาเคาะห้องได้เลยนะคะ” เสียงใสเอ่ยตามหลังพ่อเลี้ยงหนุ่มก่อนที่เธอจะยิ้มปากบานหันหลังกลับเข้าห้องของเธอไป
วันต่อมา
ไร่ศรีน่าน
“ผมได้ข่าวมาว่าพ่อเลี้ยงอัสมันร่วมหุ้นที่จะทำรีสอร์ทกับนังคุณหนูเพียงฟ้าแล้วนะพ่อ” มนัสร้อนใจจากข่าวที่พึ่งได้รับจึงรีบแจ้นกลับบ้านมาบอกกับคนเป็นพ่อให้รู้
“ฉันรู้แล้วเดี๋ยวมันจะได้รู้สึกว่าตั้งตนเป็นศรัตรูซึ่งหน้ากับฉันมันจะเป็นยังไง” ศรีน่านชายวัยหกสิบที่รูปร่างอ้วนใหญ่ทรงเสี่ยหัวล้านเมื่อได้ยินเรื่องที่ลูกชายเอ่ยถึงเขาก็ไม่ได้ตกใจอะไรมากนักเพราะรู้ข่าวนี้มาจากลูกน้องคนสนิทแล้ว
“พ่อจะทำอะไรไอ้พ่อเลี้ยงนั่นได้คนรู้จักมันใหญ่ๆโตๆทั้งนั้น”
“ตอนนี้ข้าไม่กลัวมันแล้วโว้ย” ศรีน่านรู้ว่าสารวัตรคนเก่าที่เป็นคนสนิทของอัสนีได้ออกจากอำเภอนี้ไปแล้วและเขาก็จะหาทางตีสนิทกับสารวัตรคนใหม่ให้มาเป็นพวกพ้องของแทน
“พ่อหมายความว่าไงเมื่อก่อนยังไม่ค่อยจะกล้ากับมันสักนิดได้แต่ลอบกัดไปเป็นครั้งๆคราๆ” มนัสไม่ค่อยจะเชื่อในความมั่นใจของพ่อตัวเองเท่าไรนักเพราะเห็นพูดแบบนี้มาหลายครั้งแต่ก็ไม่เคยจะชนะอัสนีสักครั้ง
“ปากหมาเหมือนใครวะแกเนี่ย” ศรีน่านมองค้อนขวับหันไปมองลูกชายที่ดูท่าจะพูดจาไม่เข้าหู
“ก็ผมลูกพ่อจะให้เหมือนใครล่ะครับ” มนัสตอบกลับเสียงห้วน
“บ๊ะ..เอ็งนี่..” ร่างอ้วนท้วนลุกยืนขึ้นเท้าเอวด้วยความอารมณ์เสีย
“แค่หยอกเล่นน่ะพ่อจริงจังไปได้...ที่พ่อว่าไม่กลัวมันแล้วคืออะไร”
“ก็ไอ้สารวัตรคนเก่ามันออกไปแล้วคนใหม่นี้พ่อว่าจะเข้าไปคุยด้วยซะหน่อย” ศรีน่านค่อนข้างมั่นใจว่าตัวเองนั้นจะดึงสารวัตรคนใหม่มาเป็นพวกพ้องตัวเองได้เพราะได้ยินมาว่าเป็นสารวัตรที่อายุยังน้อยน่าจะหว่านล้อมได้ไม่ยาก
ไร่ปรานโชค
“ตั้งแต่วันนี้สั่งให้คนเฝ้าเวรยามที่ไร่เป็นสองเท่านะครับลุงพัน” อัสนีเรียกประพันธ์มาคุยที่ห้องทำงานในช่วงสายด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างเคร่งเครียด
“ครับพ่อเลี้ยง” ประพันธ์รู้ดีว่าที่อัสนีสั่งการแบบนี้เพราะเหตุใดหากไม่มีคำสั่งเขาก็ตั้งใจจะทำแบบนี้อยู่เหมือนกันเนื่องด้วยไม่รู้ว่าศรีน่านจะสั่งคนมาก่อกวนที่นี่อีกเมื่อไร
ครู่ต่อมา
“เมื่อไรจะกลับนี่ก็สายแล้วนะคุณ” อัสนีอุ้มธาวินเข้ามาดูเพียงฟ้าที่กำลงง่วนอยู่ในครัว
“ฉันก็จะอยู่ช่วยคุณดูแลตาวินไงอีกอย่างฉันอยู่ที่นี่ก็ใกล้กับรีสอร์ทด้วยคุณอย่าพยายามไล่ฉันเลยน่าฉันไม่ไปง่ายๆหรอก...แม่จะอยู่กับหนูที่นี่นะลูก” เพียงฟ้ากอดอกพูดหน้าตาเฉยว่าเธอจะไม่ยอมไปจากที่นี่ง่ายๆทั้งยังเอ่ยหยอกกับธาวินเล่นอย่างไม่ได้สนใจว่าเจ้าของบ้านจะเต็มใจให้เธออยู่ที่นี่หรือไม่
ก๊อกๆๆ
“พ่อเลี้ยงคะ” ณจันทร์สาวสวยวัยยี่สิบแปดเป็นคนทำบัญชีของไร่เธอเดินเข้ามาในบ้านของอัสนีอย่างถือวิสาสะเพื่อเอาเอกสารมาให้อัสนี้นั้นเซ็นเนื่องจากเขาไม่ได้เข้าไปที่สำนักงานของไร่หลายวันแล้ว
“อ้าวคุณจันทร์มีเอกสารที่ต้องเซ็นเหรอครับ” อัสนีเห็นณจันทร์เขชาก็พึ่งนึกได้ว่าเขาไม่ได้เข้าไปที่สำนักงานลายวันที่หญิงสาวมาที่นี่คงเป็นเรื่องเอกสารเป็นแน่“ค่ะ..”“สักครู่นะครับ..ฝากตาวินหน่อยคุณ”“อืม..ไปจัดการธุระของคุณเถอะ”ชายหนุ่มวางธาวินลงให้เพียงฟ้านั้นช่วยดูและเดินออกไปที่ห้องรับแขกเพื่อคุยธุระเรื่องงานกับณจันทร์เป็นการส่วนตัว“เธออยู่ที่นี่เหรอคะ” ในขณะที่อัสนีกำลังเซ็นเอกสารณจันทร์ก็ถือโอกาสถามเรื่องเพียงฟ้าด้วยเลยเพราะเธอรู้ว่าเพียงฟ้านั้นรับเป็นแม่บุญธรรมให้กับธาวินแต่ไม่คิดว่าเธอจะมาอยู่ที่นี่กับอัสนีด้วย“เห็นเธอว่าอย่างนั้นนะครับ” อัสนีเลยหน้าขึ้นมาให้คำตอบกับณจันทร์ครู่หนึ่งแล้วจึงก้มมองเอกสารต่อ“อ่อ..ค่ะ” ณจันทร์พยักหน้ารับเบาๆ“เรียบร้อยแล้วครับ...ช่วงนี้ผมคงไม่ค่อยได้เข้าไปที่สำนักงานคงต้องลำบากคุณจันทร์มาที่นี่บ่อยๆแล้วล่ะครับ”“ไม่เป็นไรเลยค่ะจันทร์ยินดี” ณจันทร์ยิ้มอ่อนเธอไม่ได้ลำบากเลยที่จะมาที่นี่“ขอบคุณนะครับ” หลายวันต่อมา“รีสอร์ทฉันเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้วนะคุณรั้วรอบขอบชิดก็มีแล้วตอนนี้มันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้วล่ะมั้งคุณไม่ต้องลำบากส่งคนมาเฝ้าก็ได้”ว
“ตาวินเป็นอะไรคะ” เพียงฟ้าได้ยินเสียงร้องของธาวินดังขึ้นจึงรีบวิ่งเข้ามาในบ้านหน้าตาตื่นอย่างรวดเร็ว“ลูกอมในโหลนี่ของคุณใช่หรือเปล่า” อัสนีมองต่ำไปที่พื้นทั้งพูดกับเพียงฟ้าเสียงแข็ง“อืมใช่..” หญิงสาวพยักหน้ายอมรับว่าเจ้าโถลูกอมเป็นของเธอแต่ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ทำไมมาอยู่กับพื้นได้“คุณเกือบทำให้ตาวินตายแล้วรู้ตัวหรือเปล่าผมไม่น่าไว้ใจคุณเลย” “ฮือๆๆๆ”“ฉันทำอะไร” สองหนุ่มสาวสาดอารมณ์ใส่กันในขณะที่ธาวินยังคงสะอึกสะอื้นไม่หยุด“ก็ไอ้นี่มันอยู่ในคอตาวินไงดีนะที่ลุงพันช่วยไว้ทัน” อัสนีหยิบลูกอมชิ้นที่ติดคอธาวินเมื่อครู่ชูให้เพียงฟ้าได้ดู“แต่โหลแก้วนี่ฉันจำได้ว่าเอาไว้บนโต๊ะนี่คะ” เพียงฟ้าค่อนข้างมั่นใจว่าเธอไม่ได้หยิบโถลูกอมลงมาเพราะเธอจะทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไรในเมื่อธาวินนั่งเล่นอยู่กับพื้น“ยังจะแก้ตัวอีกแค่ยอมรับว่าตัวเองผิดมันยากนักหรือไง” อัสนีแผดเสียงฝาดจนเพียงฟ้าสะดุ้งตัวโยนพูดอะไรไม่ออก“ใจเย็นๆกันก่อนเถอะครับ” ประพันธ์เห็นท่าอัสนีจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่จึงอาศัยความเป็นผู้ใหญ่ของตนปรามเอาไว้ก่อนเพราะเขาก็เข้าใจว่าเพียงฟ้าคงไมได้ต้องการให้เกิดเรื่องแบบนี้เหมือนกันจี๊ดๆๆๆ“อีตา
“ผมไม่เคยพูดเล่น”“คุณอัส..เมื่อวานฉันไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดเหตุไม่ดีขึ้นเลยนะคะฉันก็เสียใจเหมือนกันในที่ตาวินต้องเจ็บเพราะฉัน”“ออกไปได้แล้ว” อัสนียังคงยืนยันเสียงแข็งสิ้นเสียงของพ่อเลี้ยงหนุ่มดวงตากลมโตของหญิงสาวก็เหลือบมองเด็กชายที่นั่งยิ้มให้เธออยู่ตาละห้อยหากตอนนี้เธอต้องไปจริงๆคงคิดถึงธาวินแย่แต่ในเมื่อเจ้าของบ้านไม่ยอมใจอ่อนให้เธอขนาดนี้อยู่ไปก็คงจะอึดอัดกันน่าดูจึงค่อยๆลุกขึ้นยืนและเดินหันหลังออกไปด้วยสีหน้าที่ห่อเหี่ยว“แม่..แม่..” เด็กชายส่งเสียงเรียกคนเป็นแม่พร้อมมองตาแป๋วด้วยความไร้เดียงสา“ครับลูก” เพียงฟ้าแทบน้ำตาตกเมื่อได้ยินธาวินเรียกเธอเอาไว้“ผมจะให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย” อัสนีกัดฟันกรอดถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่จะหันไปบอกกับหญิงสาวเสียงแข็ง“ฉันจะรักษาโอกาสนี้ไว้ให้ดีค่ะ” ริมฝีปากบางที่กำลังบุ้ยอยู่คราแรกตอนนี้ฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจรีบสัญญากับอีกฝ่ายว่าเธอจะไม่ปล่อยให้ธาวินมีอันตรายอย่างครั้งก่อนแน่นอนหลายวันต่อมาเพียงฟ้าและอัสนีได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอีกเกือบเดือนความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดีขึ้นเรื่อยๆจนทั้งคู่รู้สึกว่าเป็นครอบครัวเดียวกันจริงๆแต่ก็ยังไม่มีใครรู้คว
ครู่ต่อมา“เดี๋ยวนี้ทานข้าวเก่งจังเลยนะครับฝีมือแม่อร่อยใช่ม้า...” เพียงฟ้ายิ้มหน้าบานเมื่อธาวินนั้นถูกใจในฝีมือการทำข้าวบดของเธอจนตอนนี้กินจนหมดถ้วยแล้ว“หม่ำๆๆ..” เด็กชายจ้องมองไปที่ถ้วยในมือของคนเป็นแม่ว่าเมื่อไรจะป้อนอีกเพราะเจ้าตัวนั้นยังไม่อิ่ม“ยังไม่อิ่มอีกเหรอข้าวหมดแล้วด้วยสิรอแม่เดี๋ยวนะครับเดี๋ยวแม่เอาน้ำผักมาให้เข้าใจไหมครับ” “ฮับ” เด็กชายพยักหน้าหงึกหงัก“เก่งที่สุดเลย” สาวเจ้ารีบลุกออกจากระเบียงบ้านเข้าไปในครัวเพื่อไปเอาน้ำผักในตู้เย็นมาให้ธาวินกินแก้หิวในระหว่างที่เธอไปทำอาการให้เด็กชายใหม่สถานีตำรวจ“ไหนคุณว่าไม่มีปัญหาอะไรแล้วไงทำไมถึงมีหมายจับออกมาได้” ศรีน่านเข้ามาที่สถานีตำรวจตามหมายจับอย่างหัวเสียเพราะเขาคิดว่าจะไม่มีปัญหาอะไรที่จะต้องมาที่นี่แล้วเสียอีก“ผมบอกกับเสี่ยว่าไม่มีปัญหาตอนขนของไม่ได้รับปากนี่ครับว่าจะไม่มีหมายจับออกมา” คนินทร์เอ่ยด้วยรอยยิ้มอ่อน“แก..” ศรีน่านกัดฟันกรอดคิดในใจว่าเขาไม่น่าเสียรู้สารวัตรละอ่อนนี่เลย“การลงทุนครั้งนี้ถือว่าไม่สูญเปล่านะครับเสี่ย” อัสนีเข้ามาในห้องและหย่อนก้นนั่งลงข้างๆศรีน่านด้วยสีหน้าระรื่น“อัสนี” ศรีน่านขมวดคิ้วแปลก
“ฉันมาได้ก็แล้วกันลูกฉันอยู่ไหนเอาลูกฉันคืนมาเดี๋ยวนี้” เพียงฟ้าไม่ยอมบอกว่าเธอตามทุกคนมาได้อย่างไรเธอรีบแผดเสียงใส่มนัสกับลูกน้องอีกสองสามคนที่ยืนอยู่ด้วยความโมโห“เฮ้ยย” มนัสออกคำสั่งให้ลูกน้องจับตัวหญิงสาวเอาไว้“ลองมาจับฉันสิแม่จะยิงให้ไส้กระจุยเลย” ก่อนที่ลูกน้องสองสามคนของมนัสจะเข้ามาประชิดตัวของเธอหญิงสาวจึงรีบควักปืนออกจากกระเป๋าออกมาป้องกันตัวอย่างไม่เกรงกลัว“ลองยิงดูสิ” มนัสรีบเปิดประตูรถอีกคันที่มีธาวินอยู่ด้านในและจ่อปืนไปที่เจ้าก้อนกลมที่กำลังร้องเรียกหาคนเป็นแม่น้ำตาพรั่งพรู“แม่ๆ..แง้งๆๆๆ”“เอาลูกฉันมาเดี๋ยวนี้นะจำเอาไว้ว่าถ้าลูกฉันเป็นอะไรแกไม่ตายดีแน่” เพียงฟ้ามือไม้สั่นไม่คิดว่าพวกคนชั่วพวกนี้จะเอาเด็กมาเป็นเครื่องมือทั้งที่ธาวินนั้นไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วย“คุณฟ้า” อัสนีที่นั่งซุ่มดูเหตุการณ์ทั้งหมดพร้อมกับคนินทร์เมื่อเห็นว่าเพียงฟ้ากำลังอยู่ในอันตรายเขาจึงจะรีบเขาไปช่วยแต่ก็ถูกคนินทร์นั้นรั้งเอาไว้ก่อน“อย่าพึ่งเข้าไป” คนินทร์มองเกมส์ออกว่าตอนนี้มนัสคงยังไม่ทำอะไรทั้งเพียงฟ้าและและธาวินแน่นอนแต่หากเพื่อนเขาออกไปแล้วก็ไม่แน่จึงอยากจะรอให้กำลังเสริมมาถึงที่นี่ก่อนแล้ว
“ฟ้ายังไมได้พูดถึงพ่อเลี้ยงเลยนะคะ...แล้วแพรกับเด็กๆล่ะคะ” สาวเจ้าก้มหน้างุดโบ้ยไปคุยเรื่องอื่นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นรู้ทันความคิดของเธอ“อยู่บ้านรอคุณพ่อน่ะถ้าคุณพ่อมาแล้วจะตามมา”“ฟ้าทำให้คุณพ่อเป็นกังวลอีกจนได้” เพียงฟ้าถอนหายใจเฮือกใหญ่และแล้วเธอก็ทำให้พ่อของเธอต้องมาเป็นห่วงอีกจนได้“ใครจะคิดว่ามันจะเกิดล่ะอย่าคิดมากเลย” ภูผาทำได้เพียงแค่ปลอบใจเรื่องแบบนี้มีใครอยากจะให้เกิดแกร๊กก“คุณอัส” เพียงฟ้าหันมองไปทางประตูเมื่อมันมีเสียงเปิดแล้วเธอก็ยิ้มกว้างด้วยความดีใจที่เห็นอัสนีเข้ามา“คุณภูสวัสดีครับตาวินกวนหรือเปล่าครับ” “ไม่เลยครับพอมีเพื่อนเข้าก็อารมณ์ดีเลยครับ” เรื่องธาวินภูผาให้อัสนีเบาใจได้เพราะรายนั้นพอเจอน้องชายก็เล่นด้วยกันจนน่าจะลืมความกลัวจากเหตุการณ์ก่อนหน้าไปแล้ว“ค่อยโล่งอก” อัสนียิ้มออกกะว่าเดี๋ยวช่วงเย็นก็จะไปรับธาวินกลับแล้วเพราะไม่อยากรบกวนผ้าแพรกับภูผานาน“คุณเป็นยังไงบ้าง” อัสนีเดินเข้ามานั่งที่ข้างเตียงของเพียงฟ้าตรงข้ามกับที่ภูผานั่ง“คนอย่างเพียงฟ้าเจ็บแค่นี้จิ้บๆ” สีหน้าของหญิงสาวดูจะเบิกบานกว่าตอนที่คุยกับคนเป็นพี่ชายมากจนภูผาอดจะหมั่นไส้ไม่ได้ทีเห็นเขาทำห
ร้านบ้านของหวานณ ร้านคาเฟ่เล็กๆน่ารักๆสไตล์มินิมอลที่แม่ริมจ.เชียงใหม่ตอนนี้เป็นช่วงเย็นของวันลูกค้าก็เริ่มจะเยอะขึ้นส่วนมากจะเป็นวัยรุ่นเสียมากกว่าที่มาทานอาหารและหาที่ถ่ายรูปอัพลงโซเชียลกันคาเฟ่แห่งนี้มีเพียงฟ้าคุณหนูไฮโซลูกเจ้าของโรงแรมใหญ่ในกรุงเทพอายุยี่สิบสี่ปีเรียนจบเมืองนอกเมืองนามาเมื่อกลับมาแล้วก็ไม่อยากบริหารงานที่โรงแรมอยากเปิดร้านคาเฟ่เล็กๆในต่างจังหวัดมากกว่าจึงมาเปิดร้านที่นี่ได้ปีหนึ่งแล้วและมีผู้จัดการร้านคือผ้าแพรหญิงสาววัยยี่สิบสองที่พึ่งเรียนจบคหกรรมมาหมาดๆก็มาสมัครงานที่นี่ฝีมือของเธอถูกใจเพียงฟ้าอย่างมากจึงรับเข้าทำงานทันทีโดยไม่ลังเลว่าเธอจะไม่มีประสบการณ์ทั้งจ้างเด็กเสริฟและลูกมือผ้าแพรอีกสองสามคนเท่านั้น ที่นี่แม้จะเป็นคาเฟ่เล็กๆแต่ก็ได้รับความนิยมพอสมควรเพราะอาหารอร่อยทั้งยังติดกับธรรมชาติที่สวยงามร่มรื่น“กลับกับยายเดี๋ยวนี้ยายมีเรื่องจะคุยกับเรา” คนในร้านและพนักงานต่างก็มองกันมาเป็นตาเดียวเมื่อพิกุลหญิงชราวัยหกสิบแต่ยังท่าทางแข็งแรงเดินเข้ามาจูงผ้าแพรหลานสาวของเธอในขณะที่กำลังยืนต้อนรับลูกค้าให้กลับไปคุยกับเธอที่บ้านด้วยท่าทางที่ดูจะโมโหจากอะไรบางอย่างเอ
“แม่อย่าตีหลานหนูแพรท้องอยู่นะแม่” พิมพรรณเห็นเช่นนั้นจึงรีบเข้าไปโอบกอดหลานสาวของเธอเอาไว้เพราะตั้งแต่พี่สาวเธอเสียเมื่อคลอดผ้าแพรเธอเองก็เป็นเหมือนแม่ที่เลี้ยงคนหนึ่งผ้าแพรมาโดยตลอดจะตีสักคราดุสักครั้งก็ไม่เคยมาถึงครานี้เธอก็จะไม่ยอมให้แม่เธอลงไม้ลงมือกับผ้าแพรเช่นกันหากจะต้องถูกลงโทษจะต้องเป็นเธอมากกว่าที่ดูแลหลานสาวไม่ดีเอง“แกมันก็เข้าข้างแต่หลานนั่นแหละถึงได้เป็นแบบนี้ไง” พิกุลตวาดเสียงฝาดจนสองหน้าหลานที่กอดกันสะดุ้งโหยง“คุณย่าขาเร็วๆค่ะ” หลังจากที่เพียงฟ้าไปรอรับคนทั้งสามที่สนามบินหลังจากให้ทั้งสามบินด่วนมาจากกรุงเทพเป็นชั่วโมงกว่าตอนนี้เพียงฟ้าขับรถมาถึงที่บ้านของผ้าแพรพร้อมกับภูผาและแม่กับย่าของเขาเพื่อที่จะมารับผิดชอบผ้าแพรเมื่อมาถึงพียงฟ้าก็รีบจูงสายทองคุณหญิงจากเมืองกรุงรีบขึ้นไปบนบ้านของผ้าแพรโดยเร็วเพราะไม่รู้ว่าผ้าแพรนั้นจะโดนยายเธอนั้นต่อว่าหรือจัดการอะไรบ้าง“ย่าก็รีบอยู่นี่ไงลูกหนูฟ้า” สายทองหญิงชราวัยเจ็ดสิบสองรู้สึกปวดหัวกับเรื่องหลานๆของเธอพอสมควรมาวันนี้เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าที่ยังช็อกที่พึ่งจะรู้ตัวว่าหลานชายตนไปทำผู้หญิงท้องจึงต้องรีบลากหลานชายกับลูกสะใภ้