ครู่ต่อมา
“เดี๋ยวนี้ทานข้าวเก่งจังเลยนะครับฝีมือแม่อร่อยใช่ม้า...” เพียงฟ้ายิ้มหน้าบานเมื่อธาวินนั้นถูกใจในฝีมือการทำข้าวบดของเธอจนตอนนี้กินจนหมดถ้วยแล้ว
“หม่ำๆๆ..” เด็กชายจ้องมองไปที่ถ้วยในมือของคนเป็นแม่ว่าเมื่อไรจะป้อนอีกเพราะเจ้าตัวนั้นยังไม่อิ่ม
“ยังไม่อิ่มอีกเหรอข้าวหมดแล้วด้วยสิรอแม่เดี๋ยวนะครับเดี๋ยวแม่เอาน้ำผักมาให้เข้าใจไหมครับ”
“ฮับ” เด็กชายพยักหน้าหงึกหงัก
“เก่งที่สุดเลย” สาวเจ้ารีบลุกออกจากระเบียงบ้านเข้าไปในครัวเพื่อไปเอาน้ำผักในตู้เย็นมาให้ธาวินกินแก้หิวในระหว่างที่เธอไปทำอาการให้เด็กชายใหม่
สถานีตำรวจ
“ไหนคุณว่าไม่มีปัญหาอะไรแล้วไงทำไมถึงมีหมายจับออกมาได้” ศรีน่านเข้ามาที่สถานีตำรวจตามหมายจับอย่างหัวเสียเพราะเขาคิดว่าจะไม่มีปัญหาอะไรที่จะต้องมาที่นี่แล้วเสียอีก
“ผมบอกกับเสี่ยว่าไม่มีปัญหาตอนขนของไม่ได้รับปากนี่ครับว่าจะไม่มีหมายจับออกมา” คนินทร์เอ่ยด้วยรอยยิ้มอ่อน
“แก..” ศรีน่านกัดฟันกรอดคิดในใจว่าเขาไม่น่าเสียรู้สารวัตรละอ่อนนี่เลย
“การลงทุนครั้งนี้ถือว่าไม่สูญเปล่านะครับเสี่ย” อัสนีเข้ามาในห้องและหย่อนก้นนั่งลงข้างๆศรีน่านด้วยสีหน้าระรื่น
“อัสนี” ศรีน่านขมวดคิ้วแปลกใจว่าเหตุใดอัสนีถึงมาอยู่ที่นี่
“ครับ..ผมเองนี่แหละครับที่เป็นคนรับซื้ออาวุธเถื่อนตอนนี้ของกลางทั้งหมดอยู่กับทางการและคลิปภาพคลิปเสียงของเสี่ยในช่วงเวลาส่งของมีครบทุกชอตครั้งนี้คงจะรอดยากซะแล้วล่ะครับ” อัสนีค่อยๆเอื้อนเอ่ยออกมาช้าๆให้ศรีน่านได้รับรู้ว่าหมายจับของศรีน่านนั้นออกมาได้อย่างไร
“พวกแกจำเอาไว้ให้ดีฉันรอดไปได้เมื่อไรไม่เอาพวกแกไว้แน่” สายตาเสี่ยน่านจ้องมองอัสนีและคนินทร์ด้วยความแค้นอยู่มีอิทธิพลจนถึงทุกวันนี้ดันมาถูกเด็กเมื่อวานซืนถอนหงอกเอาเสียได้
“ผมจะรอวันนั้นนะครับแต่เกรงว่าเสี่ยจะรอดยากซะด้วยสิ” อัสนีไมได้เกรงกลัวคำขู่ของศรีน่านแม้แต่น้อยเพราะรู้ดีว่าครั้งนี้ศรีน่านคงจะรอดยาก
RrrrrrrrRrrrrrrrr
“มีอะไรเหรอ” อัสนีขมวดคิ้วก่อนจะรับโทรศัพท์เพราะน้อยครั้งนักที่เพียงฟ้าจะโทรหาเขาในเวลาที่เขาออกมาทำธุระข้างนอก
“อะไรนะผมจะรีบกลับไปเดี๋ยวนี้” อัสนีผุดลุกออกจากห้องอย่างรวดเร็วเมื่อได้รับข่าวร้ายจากเพียงฟ้าเรื่องของธาวิน
“มีอะไร” คนินทร์เห็นสีหน้าของอัสนีไม่ค่อยดีจึงเดินตามอัสนีออกมา
“มนัสลักพาตัวลูกฉันไป” อัสนีเอ่ยเสียงสั่นด้วยความโกรธเพราะไม่คิดว่าเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงที่เขาละสายตาจากลูกชายจะเกิดเรื่องร้ายได้
“ฉันไปด้วยทางนี้เดี๋ยวให้คนของฉันจัดการดูแลไปก่อน” คนินทร์คงปล่อยให้เพื่อนของเขาไปคนเดียวไม่ได้เขาจึงอาสาตามไปด้วย
“ขอบใจมาก”
ครู่ต่อมา
“ฉันออกมาตามตาวินคุณมาตามโลเคชั่นนี้เลยนะ”
“ทำไมดื้อแบบนี้นะ” อัสนีนั่งรถออกมาจากโรงพักพร้อมกับคนินทร์มาได้ครู่หนึ่งจากที่กังวลอยู่พอตัวแล้วเมื่อได้รับข้อความจากเพียงฟ้าเขายิ่งกังวลหนักเข้าไปอีกเมื่อหญิงสาวนั้นไม่ฟังคำสั่งของเขากลับออกไปเสี่ยงอันตราย
“อะไร”
“คุณฟ้าน่ะสิฉันบอกให้รออยู่บ้านตอนนี้ตามตาวินไปคนเดียว” หลังจาที่เพียงฟ้าได้ดูกล้องวงจรที่แอบติดเอาไว้ในบ้านดูว่าธาวินหายไปได้ยังไงเธอก็เห็นว่าณจันทร์เป็นคนพาตัวออกไปพร้อมกับมนัสดีที่เธอใส่สร้อยที่มีสัญญาณจีพีเอสให้กับธาวินเธอจึงรีบตามสัญญาณนั้นไปทันที
“หา..” สารวัตรหนุ่มตกใจไม่น้อยไม่คิดว่าผู้หญิงตัวคนเดียวจะใจเด็ดกล้าตามพวกนั้นไปคนเดียว
ชายป่า
“อะไรนะพ่อกูถูกจับ” มนัสพาธาวินมาที่ชายป่าเพื่อรอการติดต่อกับอัสนีและเขาก็พึ่งได้รู้ข่าวร้ายจากลุกน้องคนสนิทว่าพ่อของเขานั้นถูกจับ
“ไอ้พ่อเลี้ยงอัสมันร่วมมือกับทางการครับ” คนสนิทของมนัสรีบบอกเรื่องทั้งหมดให้มนัสได้ฟังเรื่องที่อัสนีร่วมมือกับคนินทรน์และอาวุธล็อตก่อนที่ส่งก็เป็นอัสนีเองที่ล่อซื้อแล้วเก็บหลักฐานให้มัดตัวศรีน่านมากที่สุดจนออกหมายจับศรีน่านโดยไม่มีใครเป็นแพะรับบาปได้อีก
“ดีมันมาที่นี่กูจะยิงแม่งให้หัวกระจุยเลย” มือหนาของมนัสกำแน่นกัดฟันกรอดจากที่เกลียดขี้หน้าอัสนีอยู่แล้วตอนนี้จึงอยากจะฆ่าให้มันตายคามือของเขาให้มันรู้แล้วรู้รอดไป
“ไมได้นะเสี่ยจะฆ่าพ่อเลี้ยงไม่ได้” ณจันทร์ที่ได้ยินดังนันก็รีบห้ามมนัสไว้ทันทีเพราะเธอจะทนเห็นอัสนีตายต่อหน้าต่อตาไม่ได้และที่มนัสตกลงกับเธอก็ไม่ใช่แบบนี้ที่ให้เธอจับธาวินมาก็เพราะอยากให้อัสนีล้มเลิกการสร้างรีสอร์ทเท่านั้น
“ถ้าไม่อยากตายอย่าเสอะมาสั่งกู” มนัสจ่อปืนไปที่หัวของณจันทร์จนหญิงสาวนิ่งงันไปด้วยความตกใจ
ครู่ต่อมา
“ที่นี่สินะ” เมื่อเพียงฟ้าตามสัญญาณมาถึงชายป่าเธอเห็นว่ามีรถจอดอยู่ตรงหน้าสองสามคันจึงมั่นใจว่าธาวินต้องอยู่ที่นี่แน่นอนจึงหยิบปืนของอัสนีที่เธอแอบหยิบก่อนออกมาเอาไว้ในกระเป๋าสะพายของเธอและรีบออกจากรถวิ่งเข้าไปด้านในป่าทันที
“ลูกฉันอยู่ไหน”
“ฉันยังไม่ทันโทรตามไอ้พ่อเลี้ยงเลยทำไมแกถึงมาที่นี่ได้” มนัสหันขวับมามองหญิงสาวที่วิ่งเข้ามาด้วยใบหน้าตกใจไม่น้อยเพราะเขายังไม่ทันได้โทรหาอัสนีเลยว่าเอาธาวินมาไว้ที่ไหนแต่หญิงสาวดันโผล่มาที่นี่ได้
“ฉันมาได้ก็แล้วกันลูกฉันอยู่ไหนเอาลูกฉันคืนมาเดี๋ยวนี้” เพียงฟ้าไม่ยอมบอกว่าเธอตามทุกคนมาได้อย่างไรเธอรีบแผดเสียงใส่มนัสกับลูกน้องอีกสองสามคนที่ยืนอยู่ด้วยความโมโห“เฮ้ยย” มนัสออกคำสั่งให้ลูกน้องจับตัวหญิงสาวเอาไว้“ลองมาจับฉันสิแม่จะยิงให้ไส้กระจุยเลย” ก่อนที่ลูกน้องสองสามคนของมนัสจะเข้ามาประชิดตัวของเธอหญิงสาวจึงรีบควักปืนออกจากกระเป๋าออกมาป้องกันตัวอย่างไม่เกรงกลัว“ลองยิงดูสิ” มนัสรีบเปิดประตูรถอีกคันที่มีธาวินอยู่ด้านในและจ่อปืนไปที่เจ้าก้อนกลมที่กำลังร้องเรียกหาคนเป็นแม่น้ำตาพรั่งพรู“แม่ๆ..แง้งๆๆๆ”“เอาลูกฉันมาเดี๋ยวนี้นะจำเอาไว้ว่าถ้าลูกฉันเป็นอะไรแกไม่ตายดีแน่” เพียงฟ้ามือไม้สั่นไม่คิดว่าพวกคนชั่วพวกนี้จะเอาเด็กมาเป็นเครื่องมือทั้งที่ธาวินนั้นไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วย“คุณฟ้า” อัสนีที่นั่งซุ่มดูเหตุการณ์ทั้งหมดพร้อมกับคนินทร์เมื่อเห็นว่าเพียงฟ้ากำลังอยู่ในอันตรายเขาจึงจะรีบเขาไปช่วยแต่ก็ถูกคนินทร์นั้นรั้งเอาไว้ก่อน“อย่าพึ่งเข้าไป” คนินทร์มองเกมส์ออกว่าตอนนี้มนัสคงยังไม่ทำอะไรทั้งเพียงฟ้าและและธาวินแน่นอนแต่หากเพื่อนเขาออกไปแล้วก็ไม่แน่จึงอยากจะรอให้กำลังเสริมมาถึงที่นี่ก่อนแล้ว
“ฟ้ายังไมได้พูดถึงพ่อเลี้ยงเลยนะคะ...แล้วแพรกับเด็กๆล่ะคะ” สาวเจ้าก้มหน้างุดโบ้ยไปคุยเรื่องอื่นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นรู้ทันความคิดของเธอ“อยู่บ้านรอคุณพ่อน่ะถ้าคุณพ่อมาแล้วจะตามมา”“ฟ้าทำให้คุณพ่อเป็นกังวลอีกจนได้” เพียงฟ้าถอนหายใจเฮือกใหญ่และแล้วเธอก็ทำให้พ่อของเธอต้องมาเป็นห่วงอีกจนได้“ใครจะคิดว่ามันจะเกิดล่ะอย่าคิดมากเลย” ภูผาทำได้เพียงแค่ปลอบใจเรื่องแบบนี้มีใครอยากจะให้เกิดแกร๊กก“คุณอัส” เพียงฟ้าหันมองไปทางประตูเมื่อมันมีเสียงเปิดแล้วเธอก็ยิ้มกว้างด้วยความดีใจที่เห็นอัสนีเข้ามา“คุณภูสวัสดีครับตาวินกวนหรือเปล่าครับ” “ไม่เลยครับพอมีเพื่อนเข้าก็อารมณ์ดีเลยครับ” เรื่องธาวินภูผาให้อัสนีเบาใจได้เพราะรายนั้นพอเจอน้องชายก็เล่นด้วยกันจนน่าจะลืมความกลัวจากเหตุการณ์ก่อนหน้าไปแล้ว“ค่อยโล่งอก” อัสนียิ้มออกกะว่าเดี๋ยวช่วงเย็นก็จะไปรับธาวินกลับแล้วเพราะไม่อยากรบกวนผ้าแพรกับภูผานาน“คุณเป็นยังไงบ้าง” อัสนีเดินเข้ามานั่งที่ข้างเตียงของเพียงฟ้าตรงข้ามกับที่ภูผานั่ง“คนอย่างเพียงฟ้าเจ็บแค่นี้จิ้บๆ” สีหน้าของหญิงสาวดูจะเบิกบานกว่าตอนที่คุยกับคนเป็นพี่ชายมากจนภูผาอดจะหมั่นไส้ไม่ได้ทีเห็นเขาทำห
ร้านบ้านของหวานณ ร้านคาเฟ่เล็กๆน่ารักๆสไตล์มินิมอลที่แม่ริมจ.เชียงใหม่ตอนนี้เป็นช่วงเย็นของวันลูกค้าก็เริ่มจะเยอะขึ้นส่วนมากจะเป็นวัยรุ่นเสียมากกว่าที่มาทานอาหารและหาที่ถ่ายรูปอัพลงโซเชียลกันคาเฟ่แห่งนี้มีเพียงฟ้าคุณหนูไฮโซลูกเจ้าของโรงแรมใหญ่ในกรุงเทพอายุยี่สิบสี่ปีเรียนจบเมืองนอกเมืองนามาเมื่อกลับมาแล้วก็ไม่อยากบริหารงานที่โรงแรมอยากเปิดร้านคาเฟ่เล็กๆในต่างจังหวัดมากกว่าจึงมาเปิดร้านที่นี่ได้ปีหนึ่งแล้วและมีผู้จัดการร้านคือผ้าแพรหญิงสาววัยยี่สิบสองที่พึ่งเรียนจบคหกรรมมาหมาดๆก็มาสมัครงานที่นี่ฝีมือของเธอถูกใจเพียงฟ้าอย่างมากจึงรับเข้าทำงานทันทีโดยไม่ลังเลว่าเธอจะไม่มีประสบการณ์ทั้งจ้างเด็กเสริฟและลูกมือผ้าแพรอีกสองสามคนเท่านั้น ที่นี่แม้จะเป็นคาเฟ่เล็กๆแต่ก็ได้รับความนิยมพอสมควรเพราะอาหารอร่อยทั้งยังติดกับธรรมชาติที่สวยงามร่มรื่น“กลับกับยายเดี๋ยวนี้ยายมีเรื่องจะคุยกับเรา” คนในร้านและพนักงานต่างก็มองกันมาเป็นตาเดียวเมื่อพิกุลหญิงชราวัยหกสิบแต่ยังท่าทางแข็งแรงเดินเข้ามาจูงผ้าแพรหลานสาวของเธอในขณะที่กำลังยืนต้อนรับลูกค้าให้กลับไปคุยกับเธอที่บ้านด้วยท่าทางที่ดูจะโมโหจากอะไรบางอย่างเอ
“แม่อย่าตีหลานหนูแพรท้องอยู่นะแม่” พิมพรรณเห็นเช่นนั้นจึงรีบเข้าไปโอบกอดหลานสาวของเธอเอาไว้เพราะตั้งแต่พี่สาวเธอเสียเมื่อคลอดผ้าแพรเธอเองก็เป็นเหมือนแม่ที่เลี้ยงคนหนึ่งผ้าแพรมาโดยตลอดจะตีสักคราดุสักครั้งก็ไม่เคยมาถึงครานี้เธอก็จะไม่ยอมให้แม่เธอลงไม้ลงมือกับผ้าแพรเช่นกันหากจะต้องถูกลงโทษจะต้องเป็นเธอมากกว่าที่ดูแลหลานสาวไม่ดีเอง“แกมันก็เข้าข้างแต่หลานนั่นแหละถึงได้เป็นแบบนี้ไง” พิกุลตวาดเสียงฝาดจนสองหน้าหลานที่กอดกันสะดุ้งโหยง“คุณย่าขาเร็วๆค่ะ” หลังจากที่เพียงฟ้าไปรอรับคนทั้งสามที่สนามบินหลังจากให้ทั้งสามบินด่วนมาจากกรุงเทพเป็นชั่วโมงกว่าตอนนี้เพียงฟ้าขับรถมาถึงที่บ้านของผ้าแพรพร้อมกับภูผาและแม่กับย่าของเขาเพื่อที่จะมารับผิดชอบผ้าแพรเมื่อมาถึงพียงฟ้าก็รีบจูงสายทองคุณหญิงจากเมืองกรุงรีบขึ้นไปบนบ้านของผ้าแพรโดยเร็วเพราะไม่รู้ว่าผ้าแพรนั้นจะโดนยายเธอนั้นต่อว่าหรือจัดการอะไรบ้าง“ย่าก็รีบอยู่นี่ไงลูกหนูฟ้า” สายทองหญิงชราวัยเจ็ดสิบสองรู้สึกปวดหัวกับเรื่องหลานๆของเธอพอสมควรมาวันนี้เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าที่ยังช็อกที่พึ่งจะรู้ตัวว่าหลานชายตนไปทำผู้หญิงท้องจึงต้องรีบลากหลานชายกับลูกสะใภ้
“นี่เธอเป็นแบบนี้จริงๆหรือต้องการกวนประสาทฉันแน่เนี่ย” ภูผามองตามหลังหญิงสาวร่างเล็กด้วยสายตาแปลกใจไม่หายไม่เข้าใจว่าที่เธอทำประชดเขาหรือว่าเธอกลัวเขารำคาญจริงๆ“ยังไงก็แต่งก่อนที่ท้องหลานฉันมันจะป่องกว่านี้ส่วนสินสอดก็แล้วแต่พวกคุณฉันไม่บังคับ” เมื่อคุยกันได้พักใหญ่ก็เป็นอันว่าผู้ใหญ่สองฝ่ายตกลงกันได้ด้วยดีในส่วนของสินสอดพิกุลไม่ได้เรียกร้องเพราะบ้านเธอแม้จะดูไม่มีเท่าสายทองแต่เธอก็มีพออยู่พอกินเลี้ยงหลานเลี้ยงเหลนของเธอได้สบายอยู่แล้ว“เป็นอาทิตย์หน้าเห็นจะดีหรือเปล่าล่ะ” สายทองเห็นด้วยกับพิกุลที่จะไม่ให้ผ้าแพรนั้นท้องป่องในงานแต่งเนื่องจากหลานชายของเธอก็ค่อนข้างมีหน้ามีตาไม่อยากให้ดูไม่ดีเช่นกัน“ได้ก็ดีค่ะ” พิกุลเองก็คิดว่าจะจัดให้เร็วแต่ก็ไม่กล้าพูดออกไปแต่เมื่อสานทองเสนอมาเธอก็ไม่ขัดจะได้จบๆไปไม่ขายขี้หน้าคนอื่นนาน“อย่างนั้นก็เป็นอันตกลงกันตามนี้” สายทองพยักหน้ากับพิกุลและหันมามองกับโสพิศที่เอาแต่นั่งเงียบเหตุด้วยคงเพราะอ่อนใจกับลูกชายเธอ“เธอท้องกี่เดือนแล้วล่ะ” โสพิศเดินมาคุยกับผ้าแพรพร้อมกับสายทองก่อนจะกลับเพราะอยากทำความรู้จักกับลูกสะใภ้ของเธอให้มากขึ้น“หมอบอกว่าสิบสัปดาห
“หยุดเลยลูกคาท้องเมียแกอยู่แกจะไปไหน” สายทองเห็นทีจะปล่อยให้หลานของเธอทำตัวสบายใจแบบนี้ไมได้แล้วเพราะอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันแต่งงานหากมีข่าวเรื่องผู้หญิงของหลานชายของเธอออกมาตอนนี้มีหวังพิกุลคงไม่ยอมยกหลานสาวของเจ้าตัวให้พอดีนั่นเท่ากับว่าเธอก็จะไม่ได้เลี้ยงเหลนเองด้วย“โถ่คุณย่า” ภูผาถึงกับคอตกที่ย่าของเขายกเหตุผลนี้มาค้ำคอของเขาไม่ให้ออกไปสังสรรค์กับเพื่อนข้างนอก“กลับเข้าบ้านมาเดี๋ยวนี้เลยก่อนที่ฉันจะตัดบัตรแกอย่าคิดว่าแกเป็นผู้บริหารโรงแรมแล้วจะดื้อกับย่าได้นะ” สายทองจ้องหลานชายของเธอตาเขม็งดูซิจะกล้าแข็งคอกับเธออีกหรือเปล่า“คุณย่าทำไมทำกับผมแบบนี้ล่ะครับเพราะเธอคนเดียวเลยผ้าแพร” ภูผาจำต้องเดินคอตกกลับขึ้นห้องของตัวเองไปแม้เขาจะเป็นผู้บริหารแล้วแต่ย่าของเขาก็มองเขาเป็นเด็กอยู่ทุกทีไปทั้งบ่นอู้อี้ถึงตัวต้นเหตุเบาๆ“บ่นอะไร” สายทองส่ายหัวเบาๆที่หลานเธอนั้นบ่นถึงผ้าแพรทั้งที่เจ้าตัวนั่นที่เป็นตัวต้นเรื่องเชียงใหม่“ฮัดชิ่ว” ในขณะที่ผ้าแพรกำลังปอกผลไม้ที่เห็บมาจากสวนใส่กล่องเอาไว้ทานเธอก็เกิดจามขึ้นมาเพราะรู้สึกคัดจมูกกะทันหัน“หนูไม่สบายเหรอลูก” พิมพรรณมองหน้าหลานของเธอด้วยสีหน้าที่
“เจ้าบ่าวจะมาแล้วเตรียมตัวให้พร้อมล่ะ” พิกุลเดินมาบอกให้หลานของเธอเตรียมตัวให้พร้อมเพราะเมื่อเจ้าบ่าวมาถึงก็จะต้องออกไปทำพิธีตักบาตรแล้วผูกข้อไม้ข้อมือ“ค่ะยาย” ผ้าแพรผละออกจากอ้อมกอดพิมพรรณและเอ่ยเสียงตอบยายของเธอยอมรับเลยว่าตอนนี้ใจของเธอเต้นแทบจะหลุดออกมาจากอกอยู่แล้วเวลาผ่านไปจนถึงพิธีผูกข้อไม้ข้อมือในขณะที่สายทองและพิกุลผูกข้อมืออวยพรหลานทั้งสองเรียบร้อยแล้วก็มานั่งคุยกันตามประสา“หนูแพรแต่งนิดๆหน่อยๆก็ดูดีขึ้นมากเลยนะ” สายทองยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่ทุกคนต่างก็ชมว่าหลานสะใภ้ของเธอน่ารักน่าชังเหมาะสมกับภูผารวมไปถึงนักข่าวก็รัวภาพกันไม่หยุดเธอหวังว่าหลังจากข่าวนี้ออกไปผู้หญิงที่เข้าหาภูผาจะเลิกยุ่งกับหลานเธอเสียทีในเมื่อรู้ว่าหลานเธอนั้นแต่งงานมีภรรยาเป็นตัวเป็นตนแล้วเธอจะได้เลิกปวดหัวกับข่าวการฉาวๆของภูผา“หลานฉันหน้าตาเหมือนแม่ไม่มีผิด” พิกุลนั่งมองหลานสาวของเธอด้วยรอยยิ้มอ่อนพรางนึกถึงพรทิพย์แม่ของผ้าแพรที่เมื่อวัยสาวก็สวยน่ารักแบบนี้ไม่มีผิดถ้าพิมพรรณเองไม่ปล่อยตัวจนอ้วนท้วมก็คงจะสวยเหมือนคนเป็นพี่แต่ก็เข้าใจลูกของเธอว่าไม่อยากให้ใครมาจีบจึงปล่อยตัวเพราะไม่อยากมีครอบครัวหลังจากที
“ยืนอยู่ทำไมเธอก็ตามไปสิ” โสพิศเห็นผ้าแพรยืนนิ่งตั้งแต่เมื่อครู่แล้วหากเป็นผู้หญิงคนอื่นคงโวยวายไปแล้วที่มีผู้หญิงคนอื่นมาควงเจ้าบ่าวตนออกไปแต่ผ้าแพรยังยืนนิ่งเป็นท่อนไม้จนเธอนั้นต้องรีบบอกให้ผ้าแพรตามออกไปดึงภูผากลับมา“หนูต้องตามไปด้วยเหรอคะ..แต่..เค้าน่าจะมีเรื่องต้องคุยกัน” ผ้าแพรมองโสพิศด้วยสายตาสงสัยว่าเธอควรตามออกไปจริงหรือไม่ในเมื่อสองคนนั้นมีเรื่องต้องคุยกันกลัวว่าเธอจะไปขัดแล้วจะเสียมารยาท“วันนี้งานแต่งเธอนะนั่นก็สามีพ่อของลูกในท้องเธอ” โสพิศขมวดคิ้วเป็นปมจับไหล่ลูกสะใภ้เธอแล้วย้ำให้ผ้าแพรได้ฟังว่าเจ้าตัวมีสิทธิ์ในตัวของภูผาทุกอย่างและจะปล่อยให้ผู้หญิงคนอื่นพาสามีตัวเองไปแบบนั้นไม่ได้“เอ่อ.. ก็ได้ค่ะคุณแม่” ผ้าแพรได้ฟังคำของโสพิศเธอก็รีบพยักหน้าและเดินตามสองคนนั้นออกไปทันที“โอ๊ย...ฉันได้ลูกสะใภ้แบบไหนมากันเนี่ย” โสพิศถึงกับยืนส่ายหัวแทบกุมขมับเรื่องแค่นี้เธอก็ต้องสอนลูกสะใภ้ของเธอด้วยหรือไง มองไม่ออกเลยว่าหากผ้าแพรยังเป็นแบบนี้จะเอาลูกชายเธออยู่หรือไม่ความหวังที่จะให้ลูกเธอมีภรรยาแล้วหยุดเจ้าชู้ดูริบหรี่เหลือเกิน“นี่ปล่อยพี่ภูนะ” เพียงฟ้าเห็นทับทิมพยายามจะลากภูผาขึ้นรถเ