ครู่ต่อมา
“อย่างนี้ทุกทีสิน่าลูกสาวฉัน” ธีรดลถอนหายใจเฮือกใหญ่จ้องหน้าลูกสาวคนโตที่นั่งฝั่งตรงข้ามด้วยสายตาที่ค่อนข้างปลงเมื่อรุ้เรื่องทั้งหมดจากปากคนเป็นลูก
“คุณพ่ออย่าโกรธฟ้าเลยนะคะฟ้าขอโทษ” สาวเจ้าเอ่ยเสียงออดอ้อนคนเป็นพ่อเช่นที่เคยทำ
“แน่ใจแล้วใช่ไหมว่าจะเป็นแม่คนได้” เรื่องที่เพียงฟ้ารับเป็นแม่บุญธรรมให้กับธาวินเขาไมได้ติงอะไรแค่เขากลัวว่าเพียงฟ้าจะตัดสินใจเพียงเพราะอยากให้อัสนียื่นมือเข้ามาช่วยเรื่องรีสอร์ทเท่านั้น
“ฟ้าตัดสินใจแล้วค่ะ” ดวงตากลมมองหน้าคนเป็นพ่อด้วยสายตาที่มุ่มมั่น
“ในเมื่อฟ้าตัดสินใจแล้วพ่อจะว่าอะไรได้...พ่อขอบอกไว้อย่างนะลูกหน้าที่แม่เป็นแล้วเลิกไม่ได้” ธีรดลพยักหน้าเบาๆและอดเตือนเพียงฟ้าไม่ได้ว่าหากลูกของเขาเลือกที่จะเป็นแม่ให้กับธาวินแล้วหน้าที่นี้มันจะคงอยู่ตลอดไปดังนั้นจะมาทำเป็นเล่นกับชีวิตคนๆนึงไม่ได้
“ฟ้าเข้าใจค่ะ..เอ่อ..คุณพ่อพูดแบบนี้ไม่โกรธฟ้าใช่ไหมคะ”
ธีรดลยิ้มอ่อนเขารู้ดีว่าลูกเขาอยากทำอะไรคงห้ามได้ยากคงต้องปล่อยให้เรียนรู้ผิดถูกเอาเองเพราะโตแล้ว
“ขอบคุณนะคะคุณพ่อที่เข้าใจฟ้า” นับว่าตอนนี้เพียงฟ้าโล่งใจเหมือนยกภูเขาออกจากอกนึกว่าจะโดนดุชุดใหญ่เสียอีกรู้แบบนี้เธอบอกกับพ่อเธอให้รู้แล้วรู้รอดไปนานแล้ว
20.00 น.
ไร่ปรานโชค
เมื่อบินกลับจากกรุงเทพได้เพียงฟ้าก็ขับรถดิ่งมาที่ไร่ปรานโชคทันทีหญิงสาวลากกระเป๋าใบใหญ่ที่มีเสื้อผ้าของใช้ตัวเองจุมาเต็มกระเป๋ามาวางไว้ที่ห้องนั่งเล่นของบ้านหลังใหญ่
“ลุงพันคะพ่อเลี้ยงอยู่ไหนเหรอคะ” ดวงตากลมมองเห็นประพันธ์ผู้จัดการไร่ที่กำลังเดินออกมาจากห้องทำงานของอัสนีจึงรีบเข้าไปถามหาอัสนีกับประพันธ์
“พาคุณหนูเข้าห้องไปแล้วนะครับ” มือหนาชี้ไปทางห้องนอนของอัสนีเพราะเมื่อครู่พ่อเลี้ยงหนุ่มนั้นพึ่งจะอุ้มธาวินเข้าไปในห้องนอน
“อ๋อ..ค่ะ” เมื่อรู้ดังนั้นสาวเจ้าก็รีบเดินจ้ำอ้าวไขกุญแจเข้าไปในห้องของอัสนีทันที
“เอ่อ.ค...หื้ม..ไวจริงๆ” พอประพันธ์จะส่งเสียงเรียกหญิงสาวเอาไว้เธอก็เข้าไปในห้องเสียแล้วเขาเองก็ปากหนักลืมบอกเธอเสียก่อนว่าอัสนีสั่งห้ามให้ใครเข้าไปกวน
“ตาวินหลับแล้วนี่นาแล้วพ่อเลี้ยงไปไหนล่ะเนี่ย” เมื่อเข้ามาในห้องนอนของอัสนีได้ร่างบางก็ยืนกวาดมองห้องกว้างแล้วเดินตรงเข้าไปที่เปลเด็กข้างเตียงใหญ่สีขาวเธอเห็นว่าธาวินนั้นหลับอุตุไปแล้วแต่ยักเห็นพ่อเลี้ยงหนุ่มนั้นจะอยู่ในห้องตามที่ประพันธ์บอก
แกร๊ก.. เสียงดังของลูกบิดของห้องน้ำในห้องทำให้เพียงฟ้ารีบหันขวับไปมองและภาพตรงหน้าก็ทำเอาสาวเจ้าหน้าชาไม่น้อย
“คุณ...เอ่อ..” อัสนีเดินออกมาจากห้องน้ำในขณะที่ร่างยังเปล่าเปลือยมีเพียงผ้าขนหนูผืนขาวพันท่อนล่างโชว์กล้ามแกร่งเมื่อเห็นเพียงฟ้ายืนมองเขาอยู่ไม่ห่างจึงรีบที่จะสาวเท้าเดินกลับเข้ไปในห้องน้ำแต่ซ้ำร้ายผ้าขนหนูผืนเดียวที่ปกปิดของสงวนเอาไว้ดันหลุดลงไปกองกับพื้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“หา..อ..” วินาทีนี้ทำเอาเพียงฟ้ายืนชะงักตัวเกร็งเมื่อครู่ที่เห็นชายหนุ่มออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูผืนเดียงเธอก็รู้สึกหน้าชาแล้วตอนนี้เขายังมาเปลือยเปล่าให้เธอดูอีกริมฝีปากบางจึงเตรียมอ้าเพื่อจะกรีดร้องตกใจ
“อย่าร้อง...เดี๋ยวตาวินตื่น...หลับตาก่อน” อัสนีเห็นอาการของหญิงสาวเช่นนั้นเขาจึงละความสนใจที่จะเก็บผ้าขนหนูรีบสาวเท้ายาวมาประชิดตัวหญิงสาวเพื่อที่จะปิดปากเธอก่อนที่เสียงร้องของเธอจะทำธาวินตานขึ้นมาเพราะกว่าเขาจะกล่อมเจ้าก้อนกลมนี่หลับได้เสียเวลาไปนานพอสมควร
“อื้มๆ” ดวงตากลมรีบปิดเปลือกตาลงและพยักหน้าหงึกหงักทำความเข้าใจกับสิ่งที่ชายหนุ่มสั่ง
ครู่ต่อมา
หลังจากที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้วโดยใช้เวลาไม่นานเท่าไรอัสนีก็เดินออกมาคุยกับหญิงสาวที่ห้องนั่งเล่น
“คุณเข้าห้องผมมาได้ยังไง” ดวงตาคมจ้องมองหญิงสาวด้วยสายตาที่คาดโทษเพราะเขาจำได้ว่าเขานั้นล็อคประตูห้องนอนของเขาเรียบร้อยแล้วแถมกุญแจห้องนอนของเขามีเพียงดอกเดียวเท่านั้นและมันก็อยู่กับเขาตลอดเวลา
“ฉันปั๊มกุญแจบ้านกับห้องคุณเอาไว้” เพียงฟ้าเอ่ยตอบกลับคนที่นั่งที่โซฟาตรงข้ามหน้าตาเฉย
“อะไรนะ..ตั้งแต่เมื่อไรแล้วเอากุญแจไปตอนไหน” อัสนีถึงกับขมวดคิ้วเอ่ยเสียงเข้ม
“หลายวันแล้วล่ะ...เห็นคุณวางเอาไว้ตรงโต๊ะทำงานฉันมีแม่พิมกุญแจอยู่ก็เลยทำได้” เรื่องนี้หญิงสาวก็ว่าจะบอกเขาตั้งแต่คราแรกที่ทำเสร็จแต่ก็ดันลืมครั้งนี้มีโอกาสบอกก็บอกเสียตอนนี้เลย
“คุณนี่มันโจรชัดๆ” อัสนีหลับตาข่มอารมณ์โมโหเอาไว้เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะต่อว่าหญิงสาวเสียงแข็ง
“ไม่ใช่ซะหน่อยฉันก็กะจะบอกคุณแต่ลืม” มือน้อยปัดไปมาเหมือนเห็นว่าเรื่องที่ปั๊มกุญแจบ้านของคนอื่นเป็นเรื่องปกติ
“ไม่ใช่ประเด็นที่ไม่บอกผมก่อนมันไม่สมควรจะทำด้วยซ้ำ”
“จะโมโหอะไรเนี่ยคุณพ่อเลี้ยงไหนๆก็ทำไปแล้วจะอะไรนักหนา” เพียงฟ้ายังคงไม่สลดกับคำที่อีกฝ่ายต่อว่า
“คนอย่างคุณจะทำให้ผมทึ่งได้กี่ครั้งกันเนี่ย...แล้วคุณมาที่นี่มีธุระอะไร”
“ฉันจะมาบอกคุณว่าฉันคุยกับคุณพ่อเรียบร้อยแล้วท่านไม่ได้ว่าอะไร”
“ค่อยโล่งใจ..” อัสนีได้ยินเช่นนี้เขาก็พอโล่งใจที่ทุกอย่างราบรื่นแต่ดูจะไม่ราบรื่นก็ตรงที่เพียงฟ้าดูจะทำอะไรตามใจตัวเองกับบ้านของเขาจนเกินไป“คืนนี้ฉันจะนอนที่นี่”“นี่มันบ้านผมจะมานอนบ้านผู้ชายไม่กลัวตัวเองเสียหายหรือไง” อัสนีคิดว่าหญิงสาวจะไม่ทำเรื่องอะไรให้เขาลำบากใจแล้วเสียอีกแต่คำที่หลุดออกมาจากปากหญิงสาวเมื่อครู่ทำให้เขาต้องปวดหัวอีกรอบ“ไม่...ฉันจะอยู่ที่นี่ดูแลตาวินกับคุณ...” เพียงฟ้าพูดไปยิ้มไปอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับอาการไม่ยินดีกับอัสนีเลยสักนิดเพราะคนอย่างเธอตัดสินใจอะไรแล้วก็ต้องทำให้ได้“ผมแค่ให้คุณเซ็นรับเป็นแม่ตาวินเฉยๆไม่ได้ให้คุณมารับผิดชอบเต็มหน้าที่ขนาดนี้” อัสนีเห็นว่าเขาคงต้องทวนข้อตกลงกับหญิงสาวให้เข้าใจเสียใหม่แล้วเพราะเขาไม่ได้ให้เธอทำหน้าที่ตอลดเวลาแบบนี้“ไม่รู้ล่ะไหนๆฉันก็ได้ชื่อว่าเป็นแม่ธาวินแล้วยังไงฉันก็จะทำหน้าที่เต็มความสามารถ...ดึกแบบนี้คุณไล่ฉันกลับไม่ใจร้ายไปหน่อยหรือไง” ร่างบางกอดอกมองหน้าอัสนีด้วยสายตาที่เจ้าเล่ห์“เฮ้อ..” พ่อเลี้ยงหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูงกอดอกมองหน้าคนเอาแต่ใจพร้อมทั้งถอนหายใจเฮือกใหญ่และแล้วเขาก็ต้องยอมในความเผด็จการของเพียง
“อ้าวคุณจันทร์มีเอกสารที่ต้องเซ็นเหรอครับ” อัสนีเห็นณจันทร์เขชาก็พึ่งนึกได้ว่าเขาไม่ได้เข้าไปที่สำนักงานลายวันที่หญิงสาวมาที่นี่คงเป็นเรื่องเอกสารเป็นแน่“ค่ะ..”“สักครู่นะครับ..ฝากตาวินหน่อยคุณ”“อืม..ไปจัดการธุระของคุณเถอะ”ชายหนุ่มวางธาวินลงให้เพียงฟ้านั้นช่วยดูและเดินออกไปที่ห้องรับแขกเพื่อคุยธุระเรื่องงานกับณจันทร์เป็นการส่วนตัว“เธออยู่ที่นี่เหรอคะ” ในขณะที่อัสนีกำลังเซ็นเอกสารณจันทร์ก็ถือโอกาสถามเรื่องเพียงฟ้าด้วยเลยเพราะเธอรู้ว่าเพียงฟ้านั้นรับเป็นแม่บุญธรรมให้กับธาวินแต่ไม่คิดว่าเธอจะมาอยู่ที่นี่กับอัสนีด้วย“เห็นเธอว่าอย่างนั้นนะครับ” อัสนีเลยหน้าขึ้นมาให้คำตอบกับณจันทร์ครู่หนึ่งแล้วจึงก้มมองเอกสารต่อ“อ่อ..ค่ะ” ณจันทร์พยักหน้ารับเบาๆ“เรียบร้อยแล้วครับ...ช่วงนี้ผมคงไม่ค่อยได้เข้าไปที่สำนักงานคงต้องลำบากคุณจันทร์มาที่นี่บ่อยๆแล้วล่ะครับ”“ไม่เป็นไรเลยค่ะจันทร์ยินดี” ณจันทร์ยิ้มอ่อนเธอไม่ได้ลำบากเลยที่จะมาที่นี่“ขอบคุณนะครับ” หลายวันต่อมา“รีสอร์ทฉันเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้วนะคุณรั้วรอบขอบชิดก็มีแล้วตอนนี้มันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแล้วล่ะมั้งคุณไม่ต้องลำบากส่งคนมาเฝ้าก็ได้”ว
“ตาวินเป็นอะไรคะ” เพียงฟ้าได้ยินเสียงร้องของธาวินดังขึ้นจึงรีบวิ่งเข้ามาในบ้านหน้าตาตื่นอย่างรวดเร็ว“ลูกอมในโหลนี่ของคุณใช่หรือเปล่า” อัสนีมองต่ำไปที่พื้นทั้งพูดกับเพียงฟ้าเสียงแข็ง“อืมใช่..” หญิงสาวพยักหน้ายอมรับว่าเจ้าโถลูกอมเป็นของเธอแต่ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ทำไมมาอยู่กับพื้นได้“คุณเกือบทำให้ตาวินตายแล้วรู้ตัวหรือเปล่าผมไม่น่าไว้ใจคุณเลย” “ฮือๆๆๆ”“ฉันทำอะไร” สองหนุ่มสาวสาดอารมณ์ใส่กันในขณะที่ธาวินยังคงสะอึกสะอื้นไม่หยุด“ก็ไอ้นี่มันอยู่ในคอตาวินไงดีนะที่ลุงพันช่วยไว้ทัน” อัสนีหยิบลูกอมชิ้นที่ติดคอธาวินเมื่อครู่ชูให้เพียงฟ้าได้ดู“แต่โหลแก้วนี่ฉันจำได้ว่าเอาไว้บนโต๊ะนี่คะ” เพียงฟ้าค่อนข้างมั่นใจว่าเธอไม่ได้หยิบโถลูกอมลงมาเพราะเธอจะทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไรในเมื่อธาวินนั่งเล่นอยู่กับพื้น“ยังจะแก้ตัวอีกแค่ยอมรับว่าตัวเองผิดมันยากนักหรือไง” อัสนีแผดเสียงฝาดจนเพียงฟ้าสะดุ้งตัวโยนพูดอะไรไม่ออก“ใจเย็นๆกันก่อนเถอะครับ” ประพันธ์เห็นท่าอัสนีจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่จึงอาศัยความเป็นผู้ใหญ่ของตนปรามเอาไว้ก่อนเพราะเขาก็เข้าใจว่าเพียงฟ้าคงไมได้ต้องการให้เกิดเรื่องแบบนี้เหมือนกันจี๊ดๆๆๆ“อีตา
“ผมไม่เคยพูดเล่น”“คุณอัส..เมื่อวานฉันไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดเหตุไม่ดีขึ้นเลยนะคะฉันก็เสียใจเหมือนกันในที่ตาวินต้องเจ็บเพราะฉัน”“ออกไปได้แล้ว” อัสนียังคงยืนยันเสียงแข็งสิ้นเสียงของพ่อเลี้ยงหนุ่มดวงตากลมโตของหญิงสาวก็เหลือบมองเด็กชายที่นั่งยิ้มให้เธออยู่ตาละห้อยหากตอนนี้เธอต้องไปจริงๆคงคิดถึงธาวินแย่แต่ในเมื่อเจ้าของบ้านไม่ยอมใจอ่อนให้เธอขนาดนี้อยู่ไปก็คงจะอึดอัดกันน่าดูจึงค่อยๆลุกขึ้นยืนและเดินหันหลังออกไปด้วยสีหน้าที่ห่อเหี่ยว“แม่..แม่..” เด็กชายส่งเสียงเรียกคนเป็นแม่พร้อมมองตาแป๋วด้วยความไร้เดียงสา“ครับลูก” เพียงฟ้าแทบน้ำตาตกเมื่อได้ยินธาวินเรียกเธอเอาไว้“ผมจะให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย” อัสนีกัดฟันกรอดถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่จะหันไปบอกกับหญิงสาวเสียงแข็ง“ฉันจะรักษาโอกาสนี้ไว้ให้ดีค่ะ” ริมฝีปากบางที่กำลังบุ้ยอยู่คราแรกตอนนี้ฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจรีบสัญญากับอีกฝ่ายว่าเธอจะไม่ปล่อยให้ธาวินมีอันตรายอย่างครั้งก่อนแน่นอนหลายวันต่อมาเพียงฟ้าและอัสนีได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอีกเกือบเดือนความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดีขึ้นเรื่อยๆจนทั้งคู่รู้สึกว่าเป็นครอบครัวเดียวกันจริงๆแต่ก็ยังไม่มีใครรู้คว
ครู่ต่อมา“เดี๋ยวนี้ทานข้าวเก่งจังเลยนะครับฝีมือแม่อร่อยใช่ม้า...” เพียงฟ้ายิ้มหน้าบานเมื่อธาวินนั้นถูกใจในฝีมือการทำข้าวบดของเธอจนตอนนี้กินจนหมดถ้วยแล้ว“หม่ำๆๆ..” เด็กชายจ้องมองไปที่ถ้วยในมือของคนเป็นแม่ว่าเมื่อไรจะป้อนอีกเพราะเจ้าตัวนั้นยังไม่อิ่ม“ยังไม่อิ่มอีกเหรอข้าวหมดแล้วด้วยสิรอแม่เดี๋ยวนะครับเดี๋ยวแม่เอาน้ำผักมาให้เข้าใจไหมครับ” “ฮับ” เด็กชายพยักหน้าหงึกหงัก“เก่งที่สุดเลย” สาวเจ้ารีบลุกออกจากระเบียงบ้านเข้าไปในครัวเพื่อไปเอาน้ำผักในตู้เย็นมาให้ธาวินกินแก้หิวในระหว่างที่เธอไปทำอาการให้เด็กชายใหม่สถานีตำรวจ“ไหนคุณว่าไม่มีปัญหาอะไรแล้วไงทำไมถึงมีหมายจับออกมาได้” ศรีน่านเข้ามาที่สถานีตำรวจตามหมายจับอย่างหัวเสียเพราะเขาคิดว่าจะไม่มีปัญหาอะไรที่จะต้องมาที่นี่แล้วเสียอีก“ผมบอกกับเสี่ยว่าไม่มีปัญหาตอนขนของไม่ได้รับปากนี่ครับว่าจะไม่มีหมายจับออกมา” คนินทร์เอ่ยด้วยรอยยิ้มอ่อน“แก..” ศรีน่านกัดฟันกรอดคิดในใจว่าเขาไม่น่าเสียรู้สารวัตรละอ่อนนี่เลย“การลงทุนครั้งนี้ถือว่าไม่สูญเปล่านะครับเสี่ย” อัสนีเข้ามาในห้องและหย่อนก้นนั่งลงข้างๆศรีน่านด้วยสีหน้าระรื่น“อัสนี” ศรีน่านขมวดคิ้วแปลก
“ฉันมาได้ก็แล้วกันลูกฉันอยู่ไหนเอาลูกฉันคืนมาเดี๋ยวนี้” เพียงฟ้าไม่ยอมบอกว่าเธอตามทุกคนมาได้อย่างไรเธอรีบแผดเสียงใส่มนัสกับลูกน้องอีกสองสามคนที่ยืนอยู่ด้วยความโมโห“เฮ้ยย” มนัสออกคำสั่งให้ลูกน้องจับตัวหญิงสาวเอาไว้“ลองมาจับฉันสิแม่จะยิงให้ไส้กระจุยเลย” ก่อนที่ลูกน้องสองสามคนของมนัสจะเข้ามาประชิดตัวของเธอหญิงสาวจึงรีบควักปืนออกจากกระเป๋าออกมาป้องกันตัวอย่างไม่เกรงกลัว“ลองยิงดูสิ” มนัสรีบเปิดประตูรถอีกคันที่มีธาวินอยู่ด้านในและจ่อปืนไปที่เจ้าก้อนกลมที่กำลังร้องเรียกหาคนเป็นแม่น้ำตาพรั่งพรู“แม่ๆ..แง้งๆๆๆ”“เอาลูกฉันมาเดี๋ยวนี้นะจำเอาไว้ว่าถ้าลูกฉันเป็นอะไรแกไม่ตายดีแน่” เพียงฟ้ามือไม้สั่นไม่คิดว่าพวกคนชั่วพวกนี้จะเอาเด็กมาเป็นเครื่องมือทั้งที่ธาวินนั้นไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วย“คุณฟ้า” อัสนีที่นั่งซุ่มดูเหตุการณ์ทั้งหมดพร้อมกับคนินทร์เมื่อเห็นว่าเพียงฟ้ากำลังอยู่ในอันตรายเขาจึงจะรีบเขาไปช่วยแต่ก็ถูกคนินทร์นั้นรั้งเอาไว้ก่อน“อย่าพึ่งเข้าไป” คนินทร์มองเกมส์ออกว่าตอนนี้มนัสคงยังไม่ทำอะไรทั้งเพียงฟ้าและและธาวินแน่นอนแต่หากเพื่อนเขาออกไปแล้วก็ไม่แน่จึงอยากจะรอให้กำลังเสริมมาถึงที่นี่ก่อนแล้ว
“ฟ้ายังไมได้พูดถึงพ่อเลี้ยงเลยนะคะ...แล้วแพรกับเด็กๆล่ะคะ” สาวเจ้าก้มหน้างุดโบ้ยไปคุยเรื่องอื่นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นรู้ทันความคิดของเธอ“อยู่บ้านรอคุณพ่อน่ะถ้าคุณพ่อมาแล้วจะตามมา”“ฟ้าทำให้คุณพ่อเป็นกังวลอีกจนได้” เพียงฟ้าถอนหายใจเฮือกใหญ่และแล้วเธอก็ทำให้พ่อของเธอต้องมาเป็นห่วงอีกจนได้“ใครจะคิดว่ามันจะเกิดล่ะอย่าคิดมากเลย” ภูผาทำได้เพียงแค่ปลอบใจเรื่องแบบนี้มีใครอยากจะให้เกิดแกร๊กก“คุณอัส” เพียงฟ้าหันมองไปทางประตูเมื่อมันมีเสียงเปิดแล้วเธอก็ยิ้มกว้างด้วยความดีใจที่เห็นอัสนีเข้ามา“คุณภูสวัสดีครับตาวินกวนหรือเปล่าครับ” “ไม่เลยครับพอมีเพื่อนเข้าก็อารมณ์ดีเลยครับ” เรื่องธาวินภูผาให้อัสนีเบาใจได้เพราะรายนั้นพอเจอน้องชายก็เล่นด้วยกันจนน่าจะลืมความกลัวจากเหตุการณ์ก่อนหน้าไปแล้ว“ค่อยโล่งอก” อัสนียิ้มออกกะว่าเดี๋ยวช่วงเย็นก็จะไปรับธาวินกลับแล้วเพราะไม่อยากรบกวนผ้าแพรกับภูผานาน“คุณเป็นยังไงบ้าง” อัสนีเดินเข้ามานั่งที่ข้างเตียงของเพียงฟ้าตรงข้ามกับที่ภูผานั่ง“คนอย่างเพียงฟ้าเจ็บแค่นี้จิ้บๆ” สีหน้าของหญิงสาวดูจะเบิกบานกว่าตอนที่คุยกับคนเป็นพี่ชายมากจนภูผาอดจะหมั่นไส้ไม่ได้ทีเห็นเขาทำห
ร้านบ้านของหวานณ ร้านคาเฟ่เล็กๆน่ารักๆสไตล์มินิมอลที่แม่ริมจ.เชียงใหม่ตอนนี้เป็นช่วงเย็นของวันลูกค้าก็เริ่มจะเยอะขึ้นส่วนมากจะเป็นวัยรุ่นเสียมากกว่าที่มาทานอาหารและหาที่ถ่ายรูปอัพลงโซเชียลกันคาเฟ่แห่งนี้มีเพียงฟ้าคุณหนูไฮโซลูกเจ้าของโรงแรมใหญ่ในกรุงเทพอายุยี่สิบสี่ปีเรียนจบเมืองนอกเมืองนามาเมื่อกลับมาแล้วก็ไม่อยากบริหารงานที่โรงแรมอยากเปิดร้านคาเฟ่เล็กๆในต่างจังหวัดมากกว่าจึงมาเปิดร้านที่นี่ได้ปีหนึ่งแล้วและมีผู้จัดการร้านคือผ้าแพรหญิงสาววัยยี่สิบสองที่พึ่งเรียนจบคหกรรมมาหมาดๆก็มาสมัครงานที่นี่ฝีมือของเธอถูกใจเพียงฟ้าอย่างมากจึงรับเข้าทำงานทันทีโดยไม่ลังเลว่าเธอจะไม่มีประสบการณ์ทั้งจ้างเด็กเสริฟและลูกมือผ้าแพรอีกสองสามคนเท่านั้น ที่นี่แม้จะเป็นคาเฟ่เล็กๆแต่ก็ได้รับความนิยมพอสมควรเพราะอาหารอร่อยทั้งยังติดกับธรรมชาติที่สวยงามร่มรื่น“กลับกับยายเดี๋ยวนี้ยายมีเรื่องจะคุยกับเรา” คนในร้านและพนักงานต่างก็มองกันมาเป็นตาเดียวเมื่อพิกุลหญิงชราวัยหกสิบแต่ยังท่าทางแข็งแรงเดินเข้ามาจูงผ้าแพรหลานสาวของเธอในขณะที่กำลังยืนต้อนรับลูกค้าให้กลับไปคุยกับเธอที่บ้านด้วยท่าทางที่ดูจะโมโหจากอะไรบางอย่างเอ