Share

ตอนที่4

“หยุดเลยลูกคาท้องเมียแกอยู่แกจะไปไหน” สายทองเห็นทีจะปล่อยให้หลานของเธอทำตัวสบายใจแบบนี้ไมได้แล้วเพราะอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันแต่งงานหากมีข่าวเรื่องผู้หญิงของหลานชายของเธอออกมาตอนนี้มีหวังพิกุลคงไม่ยอมยกหลานสาวของเจ้าตัวให้พอดีนั่นเท่ากับว่าเธอก็จะไม่ได้เลี้ยงเหลนเองด้วย

“โถ่คุณย่า” ภูผาถึงกับคอตกที่ย่าของเขายกเหตุผลนี้มาค้ำคอของเขาไม่ให้ออกไปสังสรรค์กับเพื่อนข้างนอก

“กลับเข้าบ้านมาเดี๋ยวนี้เลยก่อนที่ฉันจะตัดบัตรแกอย่าคิดว่าแกเป็นผู้บริหารโรงแรมแล้วจะดื้อกับย่าได้นะ” สายทองจ้องหลานชายของเธอตาเขม็งดูซิจะกล้าแข็งคอกับเธออีกหรือเปล่า

“คุณย่าทำไมทำกับผมแบบนี้ล่ะครับเพราะเธอคนเดียวเลยผ้าแพร” ภูผาจำต้องเดินคอตกกลับขึ้นห้องของตัวเองไปแม้เขาจะเป็นผู้บริหารแล้วแต่ย่าของเขาก็มองเขาเป็นเด็กอยู่ทุกทีไปทั้งบ่นอู้อี้ถึงตัวต้นเหตุเบาๆ

“บ่นอะไร” สายทองส่ายหัวเบาๆที่หลานเธอนั้นบ่นถึงผ้าแพรทั้งที่เจ้าตัวนั่นที่เป็นตัวต้นเรื่อง

เชียงใหม่

“ฮัดชิ่ว” ในขณะที่ผ้าแพรกำลังปอกผลไม้ที่เห็บมาจากสวนใส่กล่องเอาไว้ทานเธอก็เกิดจามขึ้นมาเพราะรู้สึกคัดจมูกกะทันหัน

“หนูไม่สบายเหรอลูก” พิมพรรณมองหน้าหลานของเธอด้วยสีหน้าที่เป็นห่วงเธอไม่อยากให้หลานของเธอป่วยเพราะคนท้องจะทานยาอะไรลำบาก

“เปล่าค่ะน้าพิมหนูแค่คัดจมูกนิดหน่อยค่ะ” ผ้าแพรส่ายหัวเล็กน้อย

“จามปานมีคนนินทาเลยลูก” พิมพรรณเห็นดังนั้นค่อยยิ้มออกคงเป็นเพราะมีคนพูดถึงตามโบราณว่าเป็นแน่ถึงได้จามแบบนี้

“จามแบบนี้คือมีคนนินทาเหรอคะ” ผ้าแพรเลิกคิ้วถามน้าสาวของเธออย่างสงสัยเธอเคยได้ยินเรื่องนี้มานานแล้วแต่ก็ไม่ยักจะเชื่อเท่าไร

“ใช่น่ะสิโบราณว่าไว้” พิมพรรณย้ำคำทั้งพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

“อย่างหนูใครจะมาพูดถึงล่ะคะไม่ค่อยมีเพื่อนซะด้วย” ผ้าแพรนึกไม่ออกเลยว่าใครจะพูดถึงเธอเพราะเธอนั้นก็ค่อนข้างเพื่อนน้อยเสียด้วยหรืออีกคนที่เธอคิดอาจจะเป็นเพียงฟ้าที่บ่นถึงเธอก็เป็นได้

อาทิตย์ต่อมา

วันนี้ที่เรือนไทยหลังโตในสวนผู้คนคึกคักกันจนเต็มทั้งชาวบ้านที่พิกุลไปบอกให้มาร่วมงานรวมทั้งแขกผู้ใหญ่ของทางภูผารวมไปถึงนักข่าวหลายสำนักที่มาทำข่าวงานแต่งอันเรียบง่ายของนักธุรกิจหนุ่มที่แต่งงานกะทันหัน

“เธอสวยมากเลยรู้หรือเปล่าแพร” เพียงฟ้าดูแลความเรียบร้อยแต่งตัวให้เจ้าสาวอย่างผ้าแพรอยู่กับช่างแต่งหน้าแต่งตัวอีกสองสามคนวันนี้ผ้าแพรสวยเป็นพิเศษจากหน้าที่หวานอยู่แล้วได้รับการแต่งแต้มแต่พองามด้วยช่างฝีมือเธอก็ยิ่งดูสวยน่ารักเข้าไปอีกจนเพียงฟ้าอดชมไม่ได้ยิ่งชุดไทยสไบเฉียงสีทองที่ปักลายโดยช่างฝีมือประจำตัวของสายทองยิ่งขับผิวขาวของหญิงสาวให้ผุดผ่องงานนี้เธอคิดว่าภูผาพี่ชายของเธอคงมีตะลึงกันบ้างเพราะแม้ผ้าแพรจะไม่ได้สวยอย่างนางแบบดาราที่ภูผาเคยควงแต่เธอก็มีเสน่ห์ในแบบของเธอ

“ขอบคุณนะคะคุณฟ้า” ผ้าแพรมองดุตัวเองในกระจกก็ยิ้มอ่อนก้มหน้างุดเธอยอมรับในช่างฝีมือที่แต่งตัวให้เธอจริงๆอยากจะเก็บภาพตัวเองตอนนี้ไว้สักหลายร้อยภาพ

“รับรองพี่ภูเห็นต้องตะลึง”  เพียงฟ้ายกสองมือเรียวจับใบหน้าเจ้าสาวทั้งมองด้วยรอยยิ้ม

“หน้าแพรเค้ายังไม่อยากจะมองเลยค่ะ” ผ้าแพรรู้ตัวดีว่าเธอทำอย่างไรภูผาก็คงไม่อยากจะมองเธอเพราะเอเป็นต้นเหตุทำให้เขาต้องมีบ่วงผูกมัดตัวเอาไว้

“เอาน่า” เพียงฟ้าบุ้ยปากส่ายหัวเล็กน้อยเธอไม่อยากให้ผ้าแพรด่วนคิดไปเองเพราะเธอรู้ว่าแม้ภูผาจะไม่พอใจวันหน้าอาจเปลี่ยนใจก็เป็นได้แม้พี่ชายเธอจะดูเจ้าชู้แต่ก็มีความรับผิดชอบเธอเชื่อว่าความใกล้ชิดในการดุแลกันและกันของทั้งสองจะทำให้ความรู้สึกของทั้งสองค่อยๆดีขึ้นต่อกันในทุกๆวัน

ครู่ต่อมา

“คุณย่าคะคุณน้า” เพียงฟ้าจัดการดุแลเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมให้ผ้าแพรเรียบร้อยแล้วก็เดินออกมาหาขบวนแห่ของเจ้าบ่าวที่ยังไม่ได้ตั้งเพื่อส่งข่าวให้รู้ว่าเจ้าสาวนั้นเตรียมตัวเรียบร้อยแล้วให้ทุกคนนั้นจัดตั้งขบวนขันหมากได้

“อ้าวหนูแพรมาพอดีเจ้าสาวแต่งตัวเสร็จหรือยังล่ะย่าจะได้ตั้งขบวนเลย” สายทองดูจะวุ่นกว่าคนอื่นเพราะเธอเป็นคนจัดแจงทุกอย่างรวมถึงสินสอดทองหรือเพชรนิลเงินสดทั้งหลายก็ของเธอทั้งนั้น

“เรียบร้อยแล้วค่ะ” เพียงฟ้าพยักหน้าเบาๆทั้งรีบไปช่วยถือพานสินสอดก่อนจะตั้งขบวน

“ทำหน้าให้มันดีหน่อยตาภู” โสพิศรู้ว่าลูกชายของเธอไม่ชอบงานแบบนี้นักแต่ยังไงวันนี้ก็เป็นวันแต่งงานของเจ้าตัวเจ้าบ่าวจะมาหน้านิ่งบูดบึ้งเหมือนไม่อยากมาไม่ได้

“นั่นสิแต่งงานทั้งทียิ้มหน่อยสิคะพี่ภู” เพียงฟ้าเอ่ยเสริมอีกแรง

“ดูจะร่าเริงเป็นพิเศษเลยนะเรา” ภูผาตวัดสายตามองเพียงฟ้าที่ดูจะร่าเริงเป็นพิเศษราวกับเป็นงานตัวเอง

ทางด้านผ้าแพรที่มองขบวนขันหมากผ่านหน้าต่างของห้องนอนพร้อมกับน้าสาวของเธอในใจก็แอบกังวลไม่น้อยเพราะวันนี้เธอจะต้องแต่งงานอยู่กินกับภูผาแล้วไม่รู้ว่าเธอกับเขาจะเข้ากันได้ดีหรือเปล่าเขาจะรังเกียจเธอจนไม่อยากจะเข้าใกล้เลยหรือไม่ตอนนี้เธอเป็นกังวลไปหมด

“หนูมาดูสิลูกขบวนแห่กำลังจะมาถึงแล้ววันนี้หลานน้าจะได้ออกเหย้าออกเรือนซะทีนะเวลาช่างผ่านไปไวเสียจริงเหมือนหนูยังเล็กๆอยู่ไม่กี่ปีเลย” พิมพรรณทำใจล่วงหน้ามาก่อนแล้วว่าหลานจะต้องออกจากอ้อมอกแต่เมื่อพอถึงวันจริงเธอก็อดใจหายไมได้พิมพรรณพูดไปน้ำตาของเธอก็คลอไปพยายามไม่อยากให้ร้องออกมาเพราะวันนี้เป็นวันมงคลของหลานสาวที่เธอรักมากที่สุด

“ยังไงหนูก็เป็นเด็กตัวเล็กของน้าพิมเสมอนะคะ” ผ้าแพรโอบกอดน้าของเธอใช่น้าเธอคนเดียวเสียที่ไหนที่ใจหายเธอเองก็ไม่ต่างกัน

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status