“ท้องเหรอวะ” แดเนียลหนุ่มลูกครึ่งมาดขรึมที่เป็นตัวเบรกในความเจ้าชู้ของเพื่อนๆเพราะเขาไม่ค่อยชอบเรื่องผู้หญิงเท่าไรเขานั้นพอจะดูออกว่าเสืออย่างภูผายอมแต่งงานกะทันหันได้โดยที่ตั้งตนว่าจะอยู่เป็นโสดมีคู่นอนเท่านั้น คงมีเรื่องเดียวที่ทำให้ภูผายอมได้ แต่เขาก็ไม่ยักรู้ว่าคนที่รอบคอบอย่างภูผาจะมาพลาดเรื่องนี้ได้อย่างไร
“อืม” ภูผาหันกลับมาพยักหน้าให้แดเนียลทั้งกระดกดื่มไวน์ในแก้วจนหมด
“เสืออย่างภูผาพลาดได้ไงวะ” ปกรณ์ตบบ่าภูผาเบาๆทั้งเอ่ยด้วยน้ำเสียงหยอกเอิญเพราะเขาเคยพนันกับภูผาว่าใครแต่งงานก่อนคนนั้นแพ้
“ช่างมันเถอะเรื่องเกิดแล้วยังไงฉันก็ต้องรับผิดชอบ” ภูผาเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าค่อนข้างปลงและมีรอยยิ้มมุมปากเล็กน้อย
“แหม...คำพูดแบบนี้ไม่น่าออกจากปากแกนะคนนี้ถูกใจแกไม่น้อยใช่ไหม” แดเนียลได้ยินคำพูดของภูผาเขาก็ถึงกับต้องผงะจนวางแก้วเครื่องดื่มในมือด้วยนึกว่าตัวเองหูฝาดเพราะหากเป็นภูผาที่เขารู้จักคงจะโวยวายหนักกว่านี้แน่
เพราะขนาดมีข่าวหลุดเข้าโรงแรมกับนางแบบยังบ่นอุกจนเขาหูชา แต่ตอนนี้ต้องมารับผิดชอบผู้หญิงที่ทำเขาท้องอย่างไม่ได้ตั้งใจกลับดูเหมือนจะยอมรับแบบปลงง่ายๆเสียอย่างนั้นทั้งที่เรื่องนี้คือบ่วงรัดคอคนเจ้าชู้อย่างภูผา
“ก็น่ารักดี..” ภูผาพยักหน้าเบาๆทั้งหลบสายตาเพื่อนๆด้วยการก้มหน้าเล็กน้อย
“ชักอยากจะเจอซะแล้วสิวะ” แดเนียลกำลังคิดในใจว่าที่ภูผาควงผู้หญิงที่เป็นดาราสาวสวยมีความมั่นใจสูงเพราะไม่ได้ชอบแบบนี้แต่แค่อยากได้เป็นที่ระบายเป็นครั้งคราวเท่านั้นเสร็จงานจ่ายเงินจบเนื่องจากไม่ชอบก็จะทำให้ไม่ลงใจอะไร
แต่กับคนที่แต่งด้วยกลับแตกต่างจากสาวๆทุกคนอาจเป็นคนนี้ที่ภูผานั้นให้ใจเธอก็เป็นได้ ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งอยากรู้จักภรรยาหมาดๆของภูผาให้มากขึ้นเสียแล้ว
“ผู้หญิงเข้าหาแกตั้งเยอะไม่สนแกจะมาอยากเจออะไรเมียฉันวะ” ภูผาขมวดคิ้วไม่พอใจเท่าไรที่แดเนียลดูเหมือนจะสนใจที่จะเจอผ้าแพรเหลือเกินทั้งที่ก่อนหน้าไม่ยักจะสนใจอยากเจอผู้หญิงคนไหน
“เมียฉัน...เต็มปากยิ่งแกหวงฉันก็ยิ่งอยากเจอ” แดเนียลยกยิ้มเอื้อมมือมาตบบ่าภูผาหนักๆจนร่างใหญ่ต้องเอี้ยวตัวหลบ
“แล้วผู้หญิงของแกล่ะวะยอมเหรอ” ปกรณ์หันมาถามภูผาอย่างเป็นห่วงเพราะถ้าหากเขาเป็นภูผาตอนนี้ก็คงจะหนักใจไม่น้อย
“ผู้หญิงที่ฉันเคยมีก็ไม่เคยผูกมัดอยู่แล้ว” ภูผาส่ายหัวเบาๆอย่างไม่ได้ใส่ใจเพราะผู้หญิงของเขาไม่ได้ควงออกหน้าเหมือนปกรณ์หากเขาไม่ไปเจอพวกเธอมันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
“ฉันรู้ว่าแกมีแค่คู่นอนแต่คนที่ทะเยอทะยานไม่อยากเป็นแค่คู่นอนแกน่ะสิ” ปกรณ์รู้ดีว่าภูผาดิวกับผู้หญิงที่นอนด้วยคือจ่ายเงินแล้วจบแต่กับคนที่อยากจะเป็นตัวจริงของภูผาเขาก็รู้ว่ามันมีเช่นทับทิมเป็นตัวอย่าง
“ฉันก็แค่ตัดทิ้ง” เรื่องนี้ภูผาไม่ได้คิดอะไรมากเลยหากมีคนเรื่องมากกับเขาก็แค่ตัดทิ้งเท่านั้น
“ตัดทิ้งแค่คนที่ก้าวก่ายแกแต่คนที่อยู่เฉยแกก็ยังยุ่งกับเค้าอยู่เหรอวะแบบนี้เมียแกจะยอมเหรอ” แดเนียลมีคำถามที่อยากรู้ว่าหลังจากนี้ภูผานั้นจะจัดการกับปัญหานี้อย่างไร
“ไม่รู้สิตอนนี้ฉันก็ไม่ได้อยากยุ่งกับใครแต่ก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะอยู่อย่างนี้ไปได้นานเท่าไร” ภูผายังไมได้คิดถึงเรื่องนี้เพราะเรื่องแต่งงานก็พึ่งผ่านมาแบบรีบๆร้อนๆช่วงนี้เขาก็ไม่ได้อยากเจอใครอีกด้วย
“หยุดได้ก็หยุดนะโว้ยอีกหน่อยลูกก็จะลืมตาดูโลกแล้ว” แดเนียลเตือนภูผาด้วยความหวังดีเพราะเห็นว่าเพื่อนตนมีลูกมีเมียเป็นตัวเป็นตนแล้วเรื่องไม่ดีหยุดได้ก็หยุด
“......” ภูผาไม่ได้เอ่ยตอบอะไรได้แต่เพียงดื่มแล้วคิดตามที่แดเนียลบอกเท่านั้น
เที่ยงคืน
แกร๊กกก
“คุณภู” ในขณะที่ผ้าแพรกำลังจะหลับก็มีเสียงประตูเปิดออกเธอจึงชะโงกหัวดูและรีบลุกออกจากเตียงมาเพื่อประคองภูผาที่กำลังเดินโซซัดโซเซกลิ่นแอลกอฮอลคละคลุ้งมาที่เตียง
“ยางงง..ม่ายนอนอีกเหรอ..อืมม” ตอนนี้คนตัวโตเหมือนจะไมได้สติพูดจาไม่รู้เรื่องแล้วเขานอนหลับตาพริ้มยิ้มอ่อนที่ปลายเตียงใบหน้าแดงก่ำเพราะฤทธิ์น้ำเมา
“ดื่มมาหนักขนาดนี้เลยเหรอคะ” ร่างบางพยามยามลากคนเมานอนให้ถูกที่เมื่อสำเร็จก็รีบไปหาผ้าเช็ดตัวชุบน้ำในห้องน้ำมาเช็ดตัวให้เขาจะได้นอนสบายๆคิ้วบางขมวดเข้ากันเล็กน้อยไม่รู้ว่าเขาขับรถกลับมาได้อย่างไรในขณะที่เมาขนาดนี้
“อืม” ภูผาที่รู้สึกว่ากำลังมีคนถอดเสื้อเพื่อเช็ดตัวให้เขาก็ขยับพลิกนอนตะแคงดึงมือเรียวของผ้าแพรจนเธอนั้นล้มนอนไปกับเตียง
“ค.คุณภู” ผ้าแพรเรียกชื่อคนเมาด้วยน้ำเสียงตกใจเพราะไม่ใช่เขาแค่ดึงมือของเธอไปแค่นั้นเขายังวาดแขนอีกข้างกอดรัดเธอเอาไว้อีกด้วย
“รู้หรือเปล่าว..ว่า..ช้านน..ม่ายอยากจะเข้าใกล้เธอออ..เพราะว่า..”
“อะไรเหรอคะคุณภู” จู่ๆภูผาก็เอ่ยอะไรบางอย่างออกมาอย่างไม่ชัดเจนนักแต่หญิงสาวก็พอฟังออกเมื่อตั้งใจฟังเหตุผลเขากลับไม่พูดออกมาแถมหลับไปเสียอย่างนั้น
“เฮ้อ..หลับจริงแล้วเหรอ..ที่คุณไม่อยากจะเข้าใกล้แพรเพราะคุณไม่ได้ชอบแพรข้อนี้แพรรู้ดีค่ะคืนนี้คุณนอนบนเตียงไปนะคะแพรจะไปนอนโซฟาแพรทนกลิ่นแอลกอฮอลแบบนี้ไม่ได้หรอกค่ะ” ผ้าแพรยกลำแขนของชายหนุ่มออกจากลำตัวของเธอและมองคนที่หลับด้วยความเข้าใจเธอไมได้รู้สึกน้อยใจในคำพูดของเขาเลยสักนิดเพราะเธอรู้ดีว่าเขาคิดอย่างไรกับเธอ
มือน้อยรีบหยิบหมอนไปนอนที่โซฟาหลังจากจัดการท่านอนให้ภูผาได้เข้าที่แล้วเพราะเธอคงจะนอนกับเขาไมได้เนื่องจากไม่ชอบกลิ่นแอลกอฮอลเป็นที่สุดดีที่เธอไม่ผะอืดผะอมมาในตอนนี้ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้พักอีกพักใหญ่
วันต่อมา“ป้าดวงทำอะไรอยู่เหรอคะ” แพรวาตื่นมาตั้งแต่ยังไม่ทันจะหกโมงเช้าเธอเดินลงมาในครัวหมายจะทำอาหารเช้าแต่ก้เห็นดวงใจนั้นยืนง่วนอยู่ก่อนแล้ว“ตื่นมาทำไมแต่เช้าคะคุณแพร” ดวงใจที่กำลังมือเป็นระวิงกับการจัดแจงอาหารเช้าของทุกคนในบ้านเธอหันมายิ้มให้กับผ้าแพรซึ่งเป็นเจ้านายคนเดียวในบ้านที่ตื่นเช้าขนาดนี้“แพรอยากทำอาหารค่ะ” ผ้าแพรรีบเอ่ยความจำนงออกไปและมองดูรอบๆห้องครัว“คุณแพรอยากทานอะไรบอกป้าเลยค่ะ”“แพรอยากทำอาหารมากกว่าค่ะแพรชอบ” ผ้าแพรส่ายหัวเบาๆที่เธอมาที่นี่เพราะเธออยากจะทำอาหารเองไม่ใช่แค่อยากทานอะไรและมาบอกดวงใจเท่านั้นหากเธอไม่ได้ทำอะไรที่เธอชอบเธอคงเบื่อตายพอดีในการอยู่ที่นี่“อย่างนั้นก็ได้ค่ะคุณแพรอุปกรณ์เครื่องครัวอยู่นี่นะคะ” ดวงใจเห็นหญิงสาวดูจะอยากทำขนาดนั้นเธอก็ไม่อบยากขัดใจคนท้องจึงบอกให้ผ้าแพรนั้นจัดการได้ตามสบายโยมีเธอคอยอยู่ใกล้ๆ“ค่ะ” เมื่อได้รับอนุญาตร่างบางก็ยิ้มร่ารีบหยิบจับของในครัวอย่างชำนาญวันนี้เธอจะโชว์ฝีมือการทำอาหารเช้าให้ทุกคนได้ลองทานสักเมนูเพราะเห็นว่าดวงใจนั้นจัดการทำข้าวต้มแล้วสองชั่วโมงต่อมาโต๊ะอาหาร“ตาภูยังไม่ตื่นอีกเหรอหนูแพร” สายทองเห็นผ้าแพรน
“คุณแม่ว่างหรือเปล่าครับพาแพรออกไปซื้อเสื้อผ้ากับของใช้ทีสิครับผมเห็นว่าเธอไม่ค่อยมีของเลย” ภูผาเอ่ยถามคนเป็นแม่ของเขาในระหว่างที่เธอกำลังนั่งมองลูกมะม่วงในมืออย่างชื่นชมเขาไม่ต้องถามก็เดาออกว่านั่นคงจะเป็นฝีมือของผ้าแพรเพราะคนที่นี่แกะสลักกันไม่เป็นถึงเป็นก็คงไม่สวยขนาดนี้“เมียเราก็พาออกไปเองสิ” โสพิศเปรยตามองคนวานเล็กน้อย“ผมว่าการเลือกของให้ผู้หญิงด้วยกันเลือกจะดีกว่านะครับ”“ของที่แพรมีก็พอใช้แล้วค่ะไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่ม” ผ้าแพรรู้ดีว่าภูผานั้นไม่ได้อยากไปไหนมาไหนกับเธออีกอย่างของเธอถึงจะน้อยแต่มันก็พอใช้สำหรับชีวิตในแต่ละวันไม่จำเป็นต้องซื้ออะไรเพิ่ม“เสื้อผ้าเธอมีไม่ถึงสิบชุดด้วยซ้ำ”“นั่นแหละค่ะพอแล้ว”“จะใส่ซ้ำกันงั้นเหรอ” ภูผาพึ่งจะเคยเห็นผ้าแพรเป็นเคสแรกเพราสาวรุ่นส่วนมากเดี๋ยวนี้ที่เขารู้จักก็มักจะชอบใส่เสื้อผ้าไม่ซ้ำกัน“ค่ะเสื้อผ้าเค้าก็ทำมาให้ใส่ได้หลายครั้งนี่คะคุณภู” ผ้าแพรเอ่ยด้วยรอยยิ้มอ่อนเขารู้ว่าคนเมืองอย่างภูผาน่าจะรู้จักแต่ผู้หญิงที่ชอบแต่งตัวแต่คนชนบทอย่างเธอไม่จำเป็นต้องแต่งตัวไปแข่งกับใครแค่มีเครื่องนุ่งห่มที่พอดูดีก็ใช้ได้แล้วใส่ซ้ำกันมันก็ไม่แปลกเพราะที่ชนบ
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” แดเนียลเหมือนจะจับจ้องไปที่ผ้าแพรไม่วางสายตาว่าในรูปน่ารักแล้วตัวจริงยิ่งน่ารักเสียกว่า“เรียกพี่สองคนว่าพี่ก็ได้ไหนๆเราก็คนกันเอง” ปกรณ์ทักทายผ้าแพรอย่างเป็นกันเองจนภูผาเริ่มหน้าตึงเล็กน้อย“ค่ะพี่กรพี่แดน” สายตาคมของภูผามองผ้าแพรอย่างไม่พอใจที่ดันไปยอมเรียกเพื่อนของเขาทั้งสองว่าพี่ทั้งที่พึ่งเจอกันแต่กลับเรียกเขาด้วยความห่างเหิน“น้องแพรนี่น่ารักกว่าในรูปเยอะเลยนะครับ” ปกรณ์ดูอาการของภูผาออกเขาอยากจะรู้นักว่าความหวงเมียของเพื่อนเขานั้นมันจะมีมากระดับไหนทั้งที่ก่อนหน้านี้โอ้อวดคุยโวนักหนาว่าไม่มีทางให้ใจกับผู้หญิงคนไหน“พี่กรเคยเห็นรูปแพรด้วยเหรอคะ” ผ้าแพรรู้สึกว่าปกรณ์เป็นคนที่คุยเก่งระดับหนึ่งเลยแบบนี้เธอค่อยหายเกร็งหน่อยคิดว่าเพื่อนของภูผาจะไม่อยากยุ่งกับเธอเสียแล้วเพราะเธอก็ไม่ได้อยู่สังคมเดียวกับพวกเขา“เคยสิในข่าวไงแล้วนี่มาทำอะไรกันเหรอครับ” ปกรณ์เดินอ้อมภูผาหน้าตาเฉยแล้วเข้าไปประชิดตัวผ้าแพรหยิบสมาร์ทโฟนราคาแพงของเขาเปิดข่าวให้ผ้าแพรได้ดูว่านักข่างลงรูปเธอกับภูผาแล้วเขียนข่าวว่าอย่างไรแดเนียลเองก็ได้แต่อมยิ้มกับปกรณ์ที่หาเรื่องแกล้งภูผาส่วนคนถูกแกล้
“แต่ฉันเหนื่อยหรือจะให้ฉันกลับไป” ภูผาหันมาตอบหญิงสาวเสียงแข็งจนหญิงสาวก้มหน้างุด“ไม่เป็นไรค่ะเหนื่อยก็กลับบ้านไปนอนพักนะคะ” มือน้อยทั้งสองของเธอบีบกันแน่น“เธอยังอยากได้ขนมพวกนั้นอยู่อีกหรือเปล่า” เวลานี้ที่เห็นหญิงสาวนั่งหน้าละห้อยเขาก็จำได้ว่าเขาลืมพาเธอแวะซื้อขนมก่อนจะกลับอย่างที่รับปากเธอเอาไว้หากเขาไม่โมโหปกรณ์จนรีบร้อนจะกลับเธอก็คงไม่นั่งหน้าหงอยแบบนี้แน่“อ๋อ..ไม่หรอกค่ะ” ผ้าแพรเงยหน้าอมยิ้มอ่อนแม้เธอจะอยากได้ขนมพวกนั้นมากแค่ไหนหากภูผาลืมก็ไม่เป็นไร22.00 น.“ทำไมคุณภูนอนดึกจังล่ะคะไม่ดีต่อสุขภาพนะคะ” ผ้าแพรนอนมองภูผาที่อยู่ในชุดนอนสีเทากำลังนั่งพิงหัวเตียงทำงานในโน๊ตบุ๊คด้วยสายตาสะลึมสะลือเพราะตอนนี้เธอง่วงเต็มทน“เธอง่วงก็นอนก่อนเลย” ภูผาตอบกลับในขณะที่สายตาและมือของเขายังจับจ้องอยู่กับโน๊ตบุ๊ค“เปิดไฟแบบนี้แพรคงไม่หลับหรอกค่ะ”“โอเค..งั้นฉันจะปิดไฟ” ภูผาหันไปมองคนที่กำลังนอนกอดหมอนข้างดุท่าเธอจะง่วงเต็มทนเขาจำต้องละมือวางงานและเอื้อมมือปิดไฟดวงใหญ่ในห้องให้เหลือเพียงแสงไฟจากโคมไฟใกล้หัวเตียงแล้วลิ้มตัวนอนตะแคงหันหน้ามาทางหญิงสาว“ดีค่ะ” ผ้าแพรยิ้มอ่อนแบบนี้เธอค่อยนอนได้หน่
18.00 น.โต๊ะอาหาร“ไปตั้งแต่เช้ากลับมาซะเย็นวันหยุดแทนที่จะอยู่บ้านกับเมีย” สายทองตำหนิหลานชายของเธอในระหว่างที่ร่วมโต๊ะทานอาหารเย็น“ผมก็มีธุระนี่ครับวันนี้อาหารเยอะเลยมีแขกมาเหรอครับ” ภูผารู้ดีว่าเขาต้องถูกตำหนิอยู่แล้วเมื่อออกนอกบ้านในวันหยุดโดยที่ไม่บอกย่าของเขาว่าไปทำอะไรแต่ที่เขาแปลกใจก็คือไม่รู้ว่าวันนี้จะมีแขกมาร่วมโต๊ะอาหารด้วยหรืออย่างไรถึงมีอาหารหลากหลายเรียงรายอยู่เต็มโต๊ะ“ไม่มีหรอกค่ะแพรตั้งใจทำอาหารหลายๆอย่างให้คุณภูกับทุกคนลองชิมว่าจานไหนอร่อยแพรจะได้ทำบ่อยๆค่ะ” ผ้าแพรรีบเอ่ยขึ้นมาเพราะนี่เป็นฝีมือของเธอ“แต่ที่ย่าชิมก็อร่อยทุกอย่างนะ”“ฉันก็เห็นด้วยกับคุณแม่นะเธอก็มีฝีมือปลายจวักดีเหมือนกันนี่”คำชมของสายทองและโสพิศทำคนลงมือยิ้มแก้มปริหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งคราวนี้ก็เหลือแค่ภูผาเท่านั้นว่าจะโอเคกับฝีมือของเธอหรือเปล่า“งั้นคุณภูลองชิมสิคะว่าชอบหรือเปล่าเพราะคุณย่าบอกว่าถ้าอาหารในบ้านอร่อยคุณภูจะไม่ไปทานอาหารนอกบ้านทำให้มีความสุขในบ้านได้ค่ะ” พูดจบก็ยิ้มหวานดูภูผาว่าเขานั้นจะเลือกทานอะไรและจะชอบหรือไม่“อ๋อ..ผมเข้าใจแล้ว” จบคำพูดของผ้าแพรสายตาคมของภูผาก็มองไปที่ย่าของเ
“เป็นอะไรคะไม่ชอบเหรอคะ” ผ้าแพรผละออกจากชายหนุ่มเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเขานิ่งไป“อ่อเปล่าฉันว่าปิดไปทั้งตาเลยจะดีกว่า” ภูผาหลุดจากภวังค์เมื่อได้ยินคำถามเขารีบหยิบชิ้นแตงกวามาปิดตาทั้งสองข้างและรีบนอนลงไปอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะสงบใจไม่ให้ฟุ้งซ่าน“คุณภูหลับไปได้เลยนะคะเดี๋ยวอีกสักพักฉันจะเอาออกให้เอง” ผ้าแพรก้มมองหน้าชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินถือจานไปวางที่โต๊ะตรงมุมห้อง“อือ” คนตัวโตค่อยหายใจทั่วท้องได้หน่อยที่ได้ยินเสียงร่างบางอยู่ไกลๆวันต่อมาวันนี้ที่บ้านเงียบเหงาเป็นพิเศษเพราะภูผาก็ไปทำงานแต่เช้าโสพิศก็ออกไปทำธุระพาดวงใจและสมหมายคนขับรถไปด้วยที่บ้านริมน้ำหลังนี้ก็เหลือเพียงแค่สายทองกับผ้าแพรเท่านั้น“ผลไม้ค่ะคุณย่า” ผ้าแพรเห็นสายทองนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่สวนหลังบ้านติดริมแม่น้ำที่เดิมที่สายทองนั้นชอบนั่งเธอจึงเข้าครัวปอกผลไม้สามสี่อย่างใส่จานมาให้สายทองได้ทานเป็นของว่าง“ขอบใจจ่ะ...เป็นยังไงบ้างเริ่มคุ้นชินกับที่นี่แล้วหรือยัง” หญิงชราละมือจากหนังสือแล้วนั่งทานผลไม้ที่ผ้าแพรจัดใส่จานมาให้พรางถามเรื่องการเป็นอยู่ไปด้วย“ค่ะคุณย่า” หญิงสาวพยักหน้าเบาๆพร้อมอมยิ้มอ่อนคนที่นี่ดีกับเธอท
“คุณแพรคะยื่นแขนมาค่ะ” ไม่นานหมอสาวก็เรียกให้ผ้าแพรนั้นยื่นแขนวางบนโต๊ะเพื่อที่เธอจะได้จัดการเช็ดแอลกอฮอลและเจาะเลือด“สามีให้กำลังใจภรรยาด้วยนะคะ” หมอสาวเห็นสีหน้าที่ซีดเซียวผ้าแพรก้อมยิ้มและพร้อมบอกให้ภูผานั้นให้กำลังใจหญิงสาวเพื่อที่จะได้ลดความกลัวลงบ้าง“ครับ” มือหนาเอื้อมไปจับมือเรียวของคนที่เอาแต่ก้มหน้างุดมากุมเอาไว้แน่นแบบนี้คงไม่ได้กลัวนิดหน่อยอย่างที่เธอบอกเขาเป็นแน่“นิดเดียวนะคะ” หมอสาวให้สัญญาณก่อนที่จะลงปลายเข็มไปที่เส้นเลือด“อืม” ร่างบางสะดุ้งเบาๆเมื่อปลายเข็มจิ้มมาที่เนื้อของเธอดีที่มือเรียวอีกข้างที่ภูผาจับมือเธอเอาไว้เธอค่อยหายกลัวไปเปราะหนึ่งไม่อย่างนั้นตอนนี้คงได้น้ำตาไหลจนขายขี้หน้าคนในนี้ไปแล้วครู่ต่อมา“วัดคลื่นหัวใจเจ้าตัวเล็กหน่อยนะคะ” เมื่อเจาะเลือดเสร็จตอนนี้ภูผากับผ้าแพรก็อยู่ในห้องอัลตร้าซาวน์โดยตอนนี้ผ้าแพรนั้นนอนอยู่บนเตียงและมีภูผานั่งอยู่ข้างๆ“เอ่อ..” ในขณะที่หมอสาวเริ่มถกชุดคลุมของผ้าแพรขึ้นหญิงสาวก็เห็นว่าภูผายังคงเอาแต่จับจ้องมาที่ท้องของเธอไม่ยอมหันหนีไปเสียและตอนนี้หมอสาวก็กำลังถกกางเกงตัวจิ๋วของเธอลงผ้าแพรจึงรีบใช้มือเรียวดันเบี่ยงใบหน้าของภูผ
“ไม่เป็นไรค่ะ...คุณอยู่คนเดียวแบบนี้ไม่ลำบากเหรอคะ” ผ้าแพรมีแววตาสงสารหญิงสาวอย่างเห็นได้ชัดเธอนึกไม่ออกเลยว่าหากเธออยู่คนเดียวตอนท้องจะลำบากและหดหู่แค่ไหน“นั่นสิสามีคุณเป็นคนยังไงกันถึงได้ปล่อยให้คุณอยู่แบบนี้” ภูผาเอ่ยอย่างใส่อารมณ์“ที่ไหนที่เค้าไม่อยากอยู่ฉันก็มาอยากบังคับค่ะอยู่กันไปก็อึดอัดเปล่าๆเค้าก็คงมีเหตุผลของเค้านั่นแหละค่ะถึงได้ทิ้งฉันไปแบบนี้”“ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรคนแบบนี้ก็คือคนที่ขาดความรับผิดชอบเห็นแก่ตัวที่สุด”“คุณภูคะ” ผ้าแพรดึงข้อมือภูผาเบาๆให้เขาลดอารมณ์ลงเพราะเขายิ่งพูดเธอก็ยิ่งเห็นหญิงสาวข้างๆเธอหน้าเสีย“ต่อไปนี้คุณจะไม่ตัวคนเดียวนะคะเรารู้จักกันถือว่าเป็นเพื่อนกันแล้วฉันจะแวะเวียนมาหาคุณบ่อยๆนะคะคุณ...” ผ้าแพรเริ่มเปลี่ยนเรื่องและทำความรู้จักกับหญิงสาวท้องโตทันทีเพราะรู้สึกถูกชะตากับเธอตั้งแต่แรกเห็นเธอเป็นหญิงสาวที่น่าจะแก่กว่าเธอไม่กี่ปีแต่รูปร่างหน้าตาสะสวยอยู่ไม่น้อยไม่รู้ว่าสามีของหญิงสาวที่ทิ้งเธอไปไม่เสียดายบ้างหรืออย่างไร“ฉันชื่อวีนาค่ะแล้วคุณล่ะคะ” หญิงสาวตอบพร้อมยิ้มอ่อน“ฉันชื่อแพรส่วนสามีฉันชื่อภูค่ะ” ผ้าแพรเริ่มแนะนำตัวเองและภูผาอย่างเป็นทาง