Share

ตอนที่19

“ไม่เป็นไรค่ะ...คุณอยู่คนเดียวแบบนี้ไม่ลำบากเหรอคะ” ผ้าแพรมีแววตาสงสารหญิงสาวอย่างเห็นได้ชัดเธอนึกไม่ออกเลยว่าหากเธออยู่คนเดียวตอนท้องจะลำบากและหดหู่แค่ไหน

“นั่นสิสามีคุณเป็นคนยังไงกันถึงได้ปล่อยให้คุณอยู่แบบนี้”  ภูผาเอ่ยอย่างใส่อารมณ์

“ที่ไหนที่เค้าไม่อยากอยู่ฉันก็มาอยากบังคับค่ะอยู่กันไปก็อึดอัดเปล่าๆเค้าก็คงมีเหตุผลของเค้านั่นแหละค่ะถึงได้ทิ้งฉันไปแบบนี้”

“ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรคนแบบนี้ก็คือคนที่ขาดความรับผิดชอบเห็นแก่ตัวที่สุด”

“คุณภูคะ” ผ้าแพรดึงข้อมือภูผาเบาๆให้เขาลดอารมณ์ลงเพราะเขายิ่งพูดเธอก็ยิ่งเห็นหญิงสาวข้างๆเธอหน้าเสีย

“ต่อไปนี้คุณจะไม่ตัวคนเดียวนะคะเรารู้จักกันถือว่าเป็นเพื่อนกันแล้วฉันจะแวะเวียนมาหาคุณบ่อยๆนะคะคุณ...” ผ้าแพรเริ่มเปลี่ยนเรื่องและทำความรู้จักกับหญิงสาวท้องโตทันทีเพราะรู้สึกถูกชะตากับเธอตั้งแต่แรกเห็นเธอเป็นหญิงสาวที่น่าจะแก่กว่าเธอไม่กี่ปีแต่รูปร่างหน้าตาสะสวยอยู่ไม่น้อยไม่รู้ว่าสามีของหญิงสาวที่ทิ้งเธอไปไม่เสียดายบ้างหรืออย่างไร

“ฉันชื่อวีนาค่ะแล้วคุณล่ะคะ” หญิงสาวตอบพร้อมยิ้มอ่อน

“ฉันชื่อแพรส่วนสามีฉันชื่อภูค่ะ” ผ้าแพรเริ่มแนะนำตัวเองและภูผาอย่างเป็นทางการเพราะไหนๆก็ถือว่าจะรู้จักมักจี่กันแล้ว

“คุณเคยทำงานอะไรมาก่อนหรือเปล่าครับ”

“ฉันรับจ้างทำบัญชีฟรีแลนซ์ค่ะพอตอนท้องก็ไม่ค่อยได้รับงานเท่าไรฉันเวียนหัวบ่อยเลยกลัวงานพลาดค่ะ”

“ถ้าคุณอยากได้งานเมื่อไรติดต่อผมได้เลยนะครับผมมีงานให้คุณตลอดแล้ว” ภูผายื่นนามบัตรของเขาให้กับวีนาเพราะเขาอยากช่วยเหลือเธอจริงๆหากจะให้เป็นเงินก็กลัวว่าอีกฝ่ายคิดว่าเขานั้นจะดูถูก

“ขอบคุณนะคะ”

หลังจากที่ทั้งสามคุยกันได้ครู่ใหญ่ภูผากับผ้าแพรก็ขอตัวกลับเพราะไม่อยากรบกวนวีนามากนัก

“ถ้าแพรเป็นคุณวีนาแพรจะเป็นยังไงนะคงจะลำบากน่าดูเลย” ในระหว่างนั่งรถกลับผ้าแพรก็อดนึกถึงวีนาไม่ได้นับว่าเธอโชคดีไม่น้อยที่มีคนคอยอยู่ข้างๆ

“ฉันไม่ยอมให้เธอเป็นแบบนั้นหรอกน่า” ภูผาเอื้อมมือลูบหัวทุยของหญิงสาวเบาๆเขารู้ว่าผ้าแพรคงจะหดหู่กับเรื่องวีนาไม่น้อยเขาเองก็เช่นกันแต่เขาจะไม่ยอมปล่อยให้หญิงสาวได้รับชะตากรรมแบบนั้นเด็ดขาดแม้เขาจะดูเสเพลในสายตาคนอื่นแต่เขาก็ไม่เคยบ่ายเบี่ยงกับสิ่งที่ตนเองจะต้องรับผิดชอบ

สามวันต่อมา

เชียงใหม่

ตอนนี้สายทองโสพิศและผ้าแพรมาถึงที่บ้านสวนของพิกุลกันเรียบร้อยแล้วในช่วงสายของวัน

“ยายคะคิดถึงที่สุดเลย” เมื่อผ้าแพรมาถึงหน้าบ้านเห็นคนเป็นยายนั่งอยู่ใต้ถุนบ้านก็รีบกระโจนเข้าไปโถมอกอดด้วยความคิดถึง

“ตัวหนูก็ใหญ่แล้วนะ” พิกุลหน้าเบ้เล็กน้อยเพราะเหมือนหลานเธอจะนึกว่าตัวเองยังตัวเล็กๆเหมือนเมื่อก่อนแต่ไม่ใช่แล้วตอนนี้หลานเธอดูมีเนื้อหนังมีน้ำมีนวลมากพอสมควรนับว่าทางบ้านสามีหลานเธอคงจะดูแลหลานเธอดีไม่น้อย

“น้าพิม” เมื่อกอดหอมยายตนจนหนำใจแล้วจึงรีบเข้าไปกอดน้าสาวของเธอแน่นเธอคิดถึงน้าของเธอไม่น้อยไปกว่ายายของเธอเลย

“นึกยังไงจะมาพักผ่อนที่นี่กันล่ะ” พิมพรรณเอ่ยทักทายคนมาจากเมืองกรุงด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเธอเตรียมห้องเอาไว้รับรองแทบไม่ทันเพราะโสพิศพึ่งจะโทรบอกเธอกะทันหันว่าจะมาเมื่อวานนี้เอง

“เห็นหนูแพรบอกคิดถึงที่นี่ฉันก็เลยพามาใจก็อยากจะมาพักผ่อนด้วยนั่นแหละคราวที่แต่งก็รีบๆร้อนๆไม่ได้อยู่ชมธรรมชาติที่นี่สักเท่าไร”

“เรานี่ยังไงกันไปอยู่บ้านเค้าไม่เท่าไรก็ทำให้เค้าต้องลำบากพากลับมา” พิกุลมองหน้าหลานสาวตนด้วยสายตาตำหนิไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากให้หลานสาวมหาแต่เกรงใจคนที่ต้องถ่อพากลับมามากกว่า

“ไม่เป็นอะไรหรอกก็บอกแล้วไงว่าฉันอยากจะมาพักผ่อนด้วย” สายทองปัดไม้ปัดมือเบาๆให้พิกุลนั้นอย่าตำหนิผ้าแพรเพราเธอเองก็อยากจะมาพักผ่อนที่นี่ด้วย

“สามีเราล่ะ” พิกุลเห็นจะมีแค่สามคนที่มาถึงแต่หลานเขยเธอไม่ยักจะเห็น

“เดี๋ยวคุณภูตามมาค่ะยาย” ผ้าแพรเอ่ยเสียงแจ๋วภูผาอยู่ประชุมในช่วงเช้าเสร็จแล้วถึงจะตามมาเห็นโทรบอกว่าถึงสนามบินที่กรุงเทพแล้วอีกไม่นานเดี๋ยวก็คงจะมาถึงที่นี่

พิมพรรณและพิกุลเห็นว่าคนกรุงมาเยือนถึงที่อีกครั้งเธอก็เลยอยากจะโชว์ฝีมือการทำขนมให้ดูเสียหน่อยทั้งยังเป็นการหากิจกรรมทำกันไปเพลินๆอีกด้วย

วันนี้ทุกคนเลยได้นั่งล้อมวงกันทำขนมใส่ไส้กันไปโดยปริยายโดยมีผ้าแพรเป็นคนตัดใบตองไปตากแห้งส่วนพิกุลนั้นก็เตรียมแป้งและวัตถุดิบพิมพรรณนั้นก็กวนไส้หน้ากระฉีกกระทะใหญ่เพราะมะพร้าวที่ขูดเอาไว้มีเยอะพอสมควรพอกวนจนได้ที่แล้วพักให้เย็นจึงมาลงมือปั้นเป็นก้อนกลมขนาดประมาณหนึ่งนิ้ว

“นี่ของโปรดรายนั้นเลยล่ะ” พิกุลมองไปที่ไส้ขนมที่กำลังจะถูกปั้นแล้วบอกให้สายทองกับโสพิศได้รู้ว่ามะพร้าวขูดที่กวนกับน้ำตาลมะพร้าวที่ถูกกวนจนเป็นสีน้ำตาลนี่เป็นของโปรดของผ้าแพร

“ปั้นไส้เสร็จถูกขโมยหายทุกทีเลยค่ะต้องคอยดูไม่ห่างเลย” พิมพรรณที่กำลังปั้นไส้ขนมแอบเหล่สายตามองหลานสาวของเธอที่กำลังนั่งจ้องไส้ขนมตาเป็นมันด้วยรอยยิ้ม

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status