Share

ตอนที่7

“ฉันขอโทษนะคะที่ฉันเป็นต้นเหตุทำให้คุณทะเลาะกับผู้หญิงของคุณ” ผ้าแพรอยู่กับภูผาสองต่อสองในห้องหอเธอเหลือบมองชายหนุ่มจากด้านหลังของเขาในขณะที่เขายืนกอดอกมองออกไปนอกหน้าต่างและเอ่ยออกมาอย่างรู้สึกผิด

“อะไรนะ​ นี่ฉันคิดว่าเธอจะโกรธฉันซะอีกนะเนี่ย​” ภูผาขมวดคิ้วหันกลับหลังมามองหญิงสาวที่นั่งก้มหน้าอยู่บนเตียงที่เขายืนมองไปนอกหน้าต่างเพื่อทำสมาธิให้ใจเย็นก่อนที่จะถูกหญิงสาวต่อว่าเขาเสียอีก

“ฉันจะโกรธคุณเรื่องอะไรล่ะคะ” คนที่นั่งอยู่ปลายเตียงหันมาส่ายหัวเธอไม่ได้โกรธอะไรเขาเลยหนำซ้ำยังกลัวว่าเขาจะต่อว่าเธอที่เป็นต้นเหตุทำให้ทะเลาะกับผู้หญิงของเขาด้วยซ้ำ

“เปล่าๆ” ภูผารู้สึกว่าผ้าแพรจะแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นที่เขาได้รู้จักเธอเหมือนเป็นคนที่ไม่ค่อยคิดถึงตัวเองเท่าไรนักกลับห่วงแต่ความรู้สึกคนอื่น

“คุณหิวหรือเปล่าคะ” ผ้าแพรเดินเข้าไปเปิดกล่องหวายสานขนาดไม่ใหญ่มากนักใต้เตียงของเธอพร้อมค่อยๆยกออกมา

“นิดหน่อย” ภูผามองหญิงสาวด้วยอาการแปลกใจว่าเธอกำลังทำอะไรที่ใต้เตียง

“นี่ขนมฉันแอบยายกับน้าพิมเอามาไว้ในห้องค่ะเพราะรู้ว่าคุณจะต้องหิวบ้างทานสิคะ” หญิงสาวค่อยๆวางกล่องที่โต๊ะตั้งโคมไฟข้างหัวเตียงและเปิดกล่องหยิบของด้านในออกมาให้ชายหนุ่มในมือของเธอเป็นกล่องพลาสติกใบใหญ่ที่ในนั้นมีทั้งขนมหวานและแซนวิซเธอตั้งใจเก็บเอาไว้เพราะรู้ว่าภูผาคงจะหิวแน่นอน

“เธอแอบเอาไว้เหรอ” ภูผารับกล่องอาหารจากหญิงสาวทั้งยิ้มอ่อนด้วยอารมณ์ขันเล็กน้อยไม่คิดว่าเธอจะแอบอาหารเอาไว้ให้เขาด้วย

“ค่ะเพราะถ้าไม่แอบจะถูกยายกับน้าพิมดุค่ะเพราะขนมพวกนี้จะทำให้มดขึ้นห้องนอนของฉัน” ผ้าแพรพยักหน้าเบาๆทั้งรีบสูดหายใจเข้าลึกๆเพราะเธอรู้สึกว่าหน้ามืดกะทันหัน

“เธอนี่ก็แปลกดีนะ​ ยังไงก็ขอบใจ.. นี่เธอเป็นอะไร” ภูผาขอบคุณหญิงสาวที่ยังมีกะใจห่วงเขาทั้งรีบวงกล่องอาหารในมือประคองร่างบางเอาไว้เมื่อเห็นเธอท่าจะไม่ค่อยดี

“เอ่อ​ เวียนหัวนิดหน่อยค่ะไม่เป็นอะไรมาก” ผ้าแพรรีบหยิบหลอดยาดมที่พกติดตัวมาสูดดมให้สดชื่นอาการนี้คงเป็นเพราะเธอไม่ได้ทานอะไรแถมชุดไทยที่เธอใส่ก็ยังค่อนข้างแน่นอีกด้วย

“ทานอะไรบ้างหรือยัง” สีหน้าของภูผาเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด

“ไม่ค่ะ”

“ทานนี่ซะลูกฉันอยู่ในท้องเธอทานอาหารให้ตรงเวลาหน่อยสิ” มือหนาเอื้อมหยิบแซนวิชในกล่องยื่นให้หญิงสาวได้ทาน

“ปกติฉันก็ทานตรงเวลาค่ะเพียงแต่ว่าเวลาทานแล้วจะอาเจียนวันนี้ฉันกลัวเสียงานก็เลยไม่ได้ทานอะไรค่ะ” ผ้าแพรหยิบแซนวิชในมือภูผากัดไปคำโตเพราะเธอก็หิวเช่นกันเมื่อเช้าพิมพรรณจัดอาหารเอาไว้ให้เธอได้ทานรองท้องแล้วแต่เธอไม่อยากทานเพราะกลัวว่าจะอาเจียนออกมา

“รู้ตัวรึเปล่าว่าตัวเองเป็นคนพูดมาก” ภูผาหยิบกล่องอาหารมาไว้ในมือเขาหยิบแซนวิชอีกชิ้นขึ้นมาทานกันอยู่สองคนที่ปลายเตียงแถมอดจะพูดถึงเรื่องที่หญิงสาวเป็นคนที่พูดมากไม่ได้เขาถามคำเธอก็อธิบายเสียยาวไม่รู้เธอจะเป็นแบบนี้กับทุกคนหรือเปล่ากันหากเป็นจะไม่มีใครบ่นรำคาญเธอบ้างหรืออย่างไร

“น้าพิมบอกว่าฉันไม่ใช่พูดมากแต่ว่าฉันชอบอธิบายให้มันละเอียดมากกว่าค่ะแต่คุณฟ้าบอกว่าฉันพูดน่ารักดีค่ะคุณฟ้าชอบแล้วก็..พ..” เมื่อถูกถามมาสาวเจ้าที่นั่งกัดแซนวิชคำโตก็รีบกลืนลงคอแล้วรีบอธิบายให้คนที่นั่งข้างๆได้ฟังว่ามีในการพูดมากของเธอนั้นคนอื่นๆบอกกับเธอมาว่าอย่างไร

“พอๆฉันเข้าใจแล้ว” ภูผาจำต้องปรามหญิงสาวเอาไว้ก่อนไม่อย่างนั้นเธอคงอธิบายยาวไม่จบแน่

เย็นของวัน

วันนี้พิมพรรณตั้งใจทำอาหารเย็นไว้หลายอย่างนอกเหนือจากอาหารที่เหลือจากงานเมื่อเช้าเพื่อที่จะมีอาหารหลากหลายไว้ให้หลานเขยหมาดๆของเธอได้เลือกทานเสียดายหากสายทองและโสพิศไม่มีธุระต้องกลับกรุงเทพก่อนคงจะได้ชิมฝีมือของเธอ

ตอนนี้ทั้งสี่มารวมกันที่โต๊ะอาหารในช่วงเย็นโดยมีผ้าแพรเป็นคนจัดแจงตักข้าวใส่จานให้กับทุกคนอาหารหลากหลายวางเรียงรายบนโต๊ะทำเอาภูผาเลือกที่จะทานไม่ถูกกันเลยทีเดียว

“ทานให้เต็มที่เลยนะคะคุณภู” พิมพรรณเห็นทีภูผาที่นั่งข้างเธอจะเอาแต่จ้องอาหารบนโต๊ะไม่ทานเสียทีเธอจึงเอ่ยให้เขาทานให้เต็มที่ตามสบายจะได้ไม่เกร็ง

“ครับน้าพิม” ภูผายิ้มอ่อนเขาไม่ใช่ไม่อยากทานแต่ไม่รู้ว่าจะทานอะไรก่อนเหมือนกัน

“ขาดเหลืออะไรก็บอกหนูแพรก็แล้วกัน” พิกุลรู้ดีว่าการมาอยู่บ้านอื่นโดยที่ไม่คุ้นหากมีอะไรที่ขาดเหลือชายหนุ่มคงจะไม่กล้าบอกเธอตรงๆจึงให้เอ่ยผ่านผ้าแพรเพื่อที่จะได้ไม่ต้องนึกเกรงใจอะไรมากนัก

“ครับคุณยาย” ภูผาพยักหน้ารับเขาค่อนข้างโล่งใจที่วันนี้คนในบ้านดูจะคุยดีกับเขามากต่างจากวันแรกที่เขามา

“วันนี้มีของโปรดยายของแพรด้วยนี่นา” ผ้าแพรตักแกงกะทิเห็ดเผาะชะอมให้กับยายของเธอเพราะรู้ว่าเป็นของโปรดเมื่อตักเสร็จก็ถูหัวทุยกับแขนของยายเธอเบาๆปานลูกแมวน้อยแสนขี้อ้อน

“อ้อนอีกแล้วจะเอาอะไรอีกล่ะ” พิกุลยกมือลูบหัวหลานเธอเบาๆมาอาการนี้เธอรู้ได้ทันทีว่าหลานสาวต้องมีอะไรจะอ้อนเธออีกแน่

“เปล่าค่ะอีกหน่อยแพรก็ไม่ค่อยได้อ้อนยายแล้ว” ผ้าแพรกอดแขนยายของเธอสาวเจ้าก้มหน้างุดเล็กน้อยทั้งบุ้ยปากบ่นอู้อี้เพราะรู้ดีว่าเธอคงจะได้อยู่ที่นี่อีกสองสามวันเท่านั้นเพราะจะต้องย้ายไปอยู่ที่กรุงเทพกับภูผาดั่งคำที่ยายของเธอและย่าของภูผาได้ตกลงกันเอาไว้

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status