“เจ้าบ่าวจะมาแล้วเตรียมตัวให้พร้อมล่ะ” พิกุลเดินมาบอกให้หลานของเธอเตรียมตัวให้พร้อมเพราะเมื่อเจ้าบ่าวมาถึงก็จะต้องออกไปทำพิธีตักบาตรแล้วผูกข้อไม้ข้อมือ
“ค่ะยาย” ผ้าแพรผละออกจากอ้อมกอดพิมพรรณและเอ่ยเสียงตอบยายของเธอยอมรับเลยว่าตอนนี้ใจของเธอเต้นแทบจะหลุดออกมาจากอกอยู่แล้ว
เวลาผ่านไปจนถึงพิธีผูกข้อไม้ข้อมือในขณะที่สายทองและพิกุลผูกข้อมืออวยพรหลานทั้งสองเรียบร้อยแล้วก็มานั่งคุยกันตามประสา
“หนูแพรแต่งนิดๆหน่อยๆก็ดูดีขึ้นมากเลยนะ” สายทองยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่ทุกคนต่างก็ชมว่าหลานสะใภ้ของเธอน่ารักน่าชังเหมาะสมกับภูผารวมไปถึงนักข่าวก็รัวภาพกันไม่หยุดเธอหวังว่าหลังจากข่าวนี้ออกไปผู้หญิงที่เข้าหาภูผาจะเลิกยุ่งกับหลานเธอเสียทีในเมื่อรู้ว่าหลานเธอนั้นแต่งงานมีภรรยาเป็นตัวเป็นตนแล้วเธอจะได้เลิกปวดหัวกับข่าวการฉาวๆของภูผา
“หลานฉันหน้าตาเหมือนแม่ไม่มีผิด” พิกุลนั่งมองหลานสาวของเธอด้วยรอยยิ้มอ่อนพรางนึกถึงพรทิพย์แม่ของผ้าแพรที่เมื่อวัยสาวก็สวยน่ารักแบบนี้ไม่มีผิดถ้าพิมพรรณเองไม่ปล่อยตัวจนอ้วนท้วมก็คงจะสวยเหมือนคนเป็นพี่แต่ก็เข้าใจลูกของเธอว่าไม่อยากให้ใครมาจีบจึงปล่อยตัวเพราะไม่อยากมีครอบครัว
หลังจากที่ผ่านพิธีการผูกแขนกันไปพักใหญ่แขกเหลื่อก็ทยอยกันกลับและแล้วเวลาก็มาถึงพิธีส่งตัวบ่าวสาวเข้าหอตอนนี้บ่าวสาวทั้งสองนั่งพับเพียบอยู่ตรงหน้าผู้ใหญ่ทั้งสี่ที่นั่งกันอยู่บนโซฟาในห้องนอนของผ้าแพร
“อยู่ดูแลกันจนแก่จนเฒ่านะหนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยซึ่งกันและกัน” สายทองเอื้อมมือของเธอไปลูบหัวของทั้งสองเอาไว้ก่อนจะอวยพรด้วยรอยยิ้มภาพทุกภาพตอนนี้ถูกถ่ายโดยฝีมือของเพียงฟ้าที่เธอต้องการเก็บบรรยากาศประทับใจนี้เอาไว้ให้มากที่สุด
“ค่ะคุณย่า/ครับคุณย่า” สองบ่าวสาวพนมมือรับคำอวยพรจากสายทอง
“ยังไงเธอก็เข้ามาเป็นสะใภ้ฉันแล้วต่อจากนี้ก็ขอให้เธอกับลูกฉันหนักแน่นกับคำว่าครอบครัวให้มากๆ” โสพิศยื่นมือเรียวลูบหัวของผ้าแพรเบาๆเธอรู้ว่าปัญหาของลูกชายเธอมันยังมีมาไม่ขาดอีกแน่แต่ในเมื่อหญิงสาวนั้นเข้ามาเป็นภรรยาลูกชายเธอแล้วยังไงก็อยากจะให้เธอหนักแน่นในคำว่าครอบครัวให้มากๆ
“ขอบคุณค่ะคุณแม่/ครับคุณแม่”
“อยู่เย็นเป็นสุขกันนะลูกแต่งเข้าบ้านเค้าแล้วก็ทำหน้าที่เมียกับแม่อย่าให้ขาดตกบกพร่อง” พิกุลน้ำตารื้นเล็กๆ
“ค่ะยาย” ผ้าแพรโผเข้ากอดยายของเธอเบาๆ
“ยังไงน้าก็ฝากหลานน้าด้วยนะคะคุณภูหนูแพรไม่ค่อยทันคนเท่าไรนักแต่งานบ้านงานเรือนไม่มีขาดตกแน่นอนค่ะ” พิมพรรณไม่รู้ว่าผ้าแพรไปอยู่กับครอบครัวของภูผาจะเป็นอย่างไรแต่เธอก้อยากให้ทุกคนในบ้านดูแลหลานของเธอด้วยเนื่องจากไม่เคยอยู่ในเมืองใหญ่แถมยังเป็นคนซื่อ
“ครับคุณน้า” ภูผารับปากพิมพรรณแม้เขาจะดูเสเพลแต่เขาก็คงไม่ปล่อยปะละเลยแม่ขอลองลูกเขาอยู่แล้ว
ทุกคนจากห้องหอต่างมองออกนอกประตูเป็นตาเดียวกันเพราะได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากด้านนอก
“นี่เข้าไปไม่ได้นะ” เพียงฟ้ากำลังยื้อยุดฉุดกระชากทับทิมดาราสาวที่เป็นคู่ขาของภูผาไม่ให้เข้าไปทำลายพิธีเข้าหอของภูผาและผ้าแพรแต่ดุเหมือนเธอจะเสียเปรียบเพราะเธอนั้นตัวเล็กกว่าแม่ดาราสาวตัวสูงนี้อยู่มาก
“ทำไมฉันจะเข้าไปไม่ได้ก็พี่ภูเป็นผัวฉัน” ทับทิมผลักเพียงฟ้าจนไปกองกับพื้นเดือดดาลไม่น้อยวันนี้เธอแต่งชุดจั๊มสูทสายเดี่ยวขายาวสีดำมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะเพราะมีคนส่งข้อความไปหาเธอว่าภูผาจะแต่งงานที่นี่วันนี้เธอจึงรีบเทกองละครบินด่วนมาที่นี่อย่างรวดเร็ว
“อะไรกัน” พิกุลได้ยินเสียงทับทิมพูดเต็มสองรูหูเธอจึงมีสีหน้าที่ไม่พอใจเท่าไรนักจึงรีบลุกออกมาดูเหตุการณ์ข้างนอกห้องหอของหลานสาวเธอทันที
“พี่ภูมากับทับทิมค่ะ..” ทับทิมเดินดุ่มๆผ่านหน้าพิกุลไปอย่างไม่มีมารยาทและไปดึงตัวภูผาให้ออกไปพร้อมกับเธอทันที
“นี่ปล่อยฉัน” ภูผาสะบัดแขนออกจากทับทิมด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจเขาไม่ชอบพฤติกรรมแบบนี้ของทับทิมเท่าไรเขาเคยตกลงกับเธอแล้วว่าจะคบกันเงียบๆไม่ผูกมัด
“นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย” สายทองลุกขึ้นยืนมองหน้าทับทิมอย่างไม่พอใจ
“ทับทิมไม่ยอมให้พี่ภูแต่งกับคนอื่นหรอกค่ะ” ทับทิมตอบกลับสายทองด้วยท่าทีที่เย่อหยิ่ง
“แต่นี่งานแต่งลูกฉันเธอต้องออกไป” โสพิศเอ่ยเสียงแข็ง
“ไม่ค่ะพี่ภูต้องมาคุยกับทับทิมให้รู้เรื่องไม่งั้นทับทิมจะโวยวายจะเรียกนักข่าวมาใหม่ด้วย” ดาราสาวมองภูผาด้วยสายตาแข็งกร้าวไม่กี่วันภูผายังนอนกับเธออยู่เลยมาวันนี้เขากลับมาแต่งานกับคนอื่นเป็นใครจะยอม
“เฮ้อ” ภูผาถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเดินออกไปจากทับทิมเธอมาวันนี้ก็ดีเขาจะได้คุยตัดสัมพันธ์เสียเลยเพราะเขาไม่ชอบคนที่ถือตัวเป็นเจ้าของเขาทั้งที่ตกลงกันแล้วว่าจะเป็นแค่คู่นอนเท่านั้น
“ยืนอยู่ทำไมเธอก็ตามไปสิ” โสพิศเห็นผ้าแพรยืนนิ่งตั้งแต่เมื่อครู่แล้วหากเป็นผู้หญิงคนอื่นคงโวยวายไปแล้วที่มีผู้หญิงคนอื่นมาควงเจ้าบ่าวตนออกไปแต่ผ้าแพรยังยืนนิ่งเป็นท่อนไม้จนเธอนั้นต้องรีบบอกให้ผ้าแพรตามออกไปดึงภูผากลับมา“หนูต้องตามไปด้วยเหรอคะ..แต่..เค้าน่าจะมีเรื่องต้องคุยกัน” ผ้าแพรมองโสพิศด้วยสายตาสงสัยว่าเธอควรตามออกไปจริงหรือไม่ในเมื่อสองคนนั้นมีเรื่องต้องคุยกันกลัวว่าเธอจะไปขัดแล้วจะเสียมารยาท“วันนี้งานแต่งเธอนะนั่นก็สามีพ่อของลูกในท้องเธอ” โสพิศขมวดคิ้วเป็นปมจับไหล่ลูกสะใภ้เธอแล้วย้ำให้ผ้าแพรได้ฟังว่าเจ้าตัวมีสิทธิ์ในตัวของภูผาทุกอย่างและจะปล่อยให้ผู้หญิงคนอื่นพาสามีตัวเองไปแบบนั้นไม่ได้“เอ่อ.. ก็ได้ค่ะคุณแม่” ผ้าแพรได้ฟังคำของโสพิศเธอก็รีบพยักหน้าและเดินตามสองคนนั้นออกไปทันที“โอ๊ย...ฉันได้ลูกสะใภ้แบบไหนมากันเนี่ย” โสพิศถึงกับยืนส่ายหัวแทบกุมขมับเรื่องแค่นี้เธอก็ต้องสอนลูกสะใภ้ของเธอด้วยหรือไง มองไม่ออกเลยว่าหากผ้าแพรยังเป็นแบบนี้จะเอาลูกชายเธออยู่หรือไม่ความหวังที่จะให้ลูกเธอมีภรรยาแล้วหยุดเจ้าชู้ดูริบหรี่เหลือเกิน“นี่ปล่อยพี่ภูนะ” เพียงฟ้าเห็นทับทิมพยายามจะลากภูผาขึ้นรถเ
“ฉันขอโทษนะคะที่ฉันเป็นต้นเหตุทำให้คุณทะเลาะกับผู้หญิงของคุณ” ผ้าแพรอยู่กับภูผาสองต่อสองในห้องหอเธอเหลือบมองชายหนุ่มจากด้านหลังของเขาในขณะที่เขายืนกอดอกมองออกไปนอกหน้าต่างและเอ่ยออกมาอย่างรู้สึกผิด“อะไรนะ นี่ฉันคิดว่าเธอจะโกรธฉันซะอีกนะเนี่ย” ภูผาขมวดคิ้วหันกลับหลังมามองหญิงสาวที่นั่งก้มหน้าอยู่บนเตียงที่เขายืนมองไปนอกหน้าต่างเพื่อทำสมาธิให้ใจเย็นก่อนที่จะถูกหญิงสาวต่อว่าเขาเสียอีก“ฉันจะโกรธคุณเรื่องอะไรล่ะคะ” คนที่นั่งอยู่ปลายเตียงหันมาส่ายหัวเธอไม่ได้โกรธอะไรเขาเลยหนำซ้ำยังกลัวว่าเขาจะต่อว่าเธอที่เป็นต้นเหตุทำให้ทะเลาะกับผู้หญิงของเขาด้วยซ้ำ“เปล่าๆ” ภูผารู้สึกว่าผ้าแพรจะแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นที่เขาได้รู้จักเธอเหมือนเป็นคนที่ไม่ค่อยคิดถึงตัวเองเท่าไรนักกลับห่วงแต่ความรู้สึกคนอื่น“คุณหิวหรือเปล่าคะ” ผ้าแพรเดินเข้าไปเปิดกล่องหวายสานขนาดไม่ใหญ่มากนักใต้เตียงของเธอพร้อมค่อยๆยกออกมา“นิดหน่อย” ภูผามองหญิงสาวด้วยอาการแปลกใจว่าเธอกำลังทำอะไรที่ใต้เตียง“นี่ขนมฉันแอบยายกับน้าพิมเอามาไว้ในห้องค่ะเพราะรู้ว่าคุณจะต้องหิวบ้างทานสิคะ” หญิงสาวค่อยๆวางกล่องที่โต๊ะตั้งโคมไฟข้างหัวเตียงและเปิด
“อืม...ก็เราน่ะโตมีครอบครัวแล้วจะอ้อนยายไปตลอดก็ไม่ได้อยู่แล้ว” พิกุลเอ่ยด้วยรอยยิ้มแต่แววตาของเธอนั้นไหววูบเล็กน้อยจนพิมพรรณและภูผาที่นั่งตรงข้ามเห็นได้ชัดและรู้ดีว่าพิกุลนั้นคงใจเสียไม่น้อยที่หลานรักคนเดียวนั้นจะผละจากอ้อมอกไป“ว่ามีแต่ของโปรดยายสังขยาฟักทองของโปรดใครบางคนก็มีนะอยู่ในครัว” พิมพรรณเอ่ยบอกกับผ้าแพรเพราะรู้ดีว่านี่คือของโปรดหลานเธอจึงเร่งมือทำเมื่อช่วงบ่าย“เหรอคะน้าพิมเดี๋ยวแพรจะไปเอามาเดี๋ยวนี้” แมวน้อยขี้อ่อนที่เกาะอยู่กับขนของยายตาโพรงเมื่อได้รู้ว่าวันนี้มีของโปรดที่ไม่ได้ทานมานานซ้ำยังเป็นฝีมือของพิมพรรณที่ทำได้หวานถึงใจตนก็รีบลุกออกจากเก้าอี้หมายจะไปยกมาทานทันที“เดี๋ยวก่อนเรายังไม่ได้ทานข้าวเลยนะ” พิมพรรณต้องปรามหลานเธอเอาไว้เมื่อเห็นว่ายังไม่ได้ทานข้าวก็จะทานของหวานเสียแล้ว“อืม..ก็ได้ค่ะ” จากหน้าบานกลายเป็นหน้างอยทันทีเมื่อถูกห้ามให้ไปเอาของโปรด“รีบบอกทำไมล่ะแม่พิมเดี๋ยวก็ทานข้าวอย่างกับแมวดมขยักกระเพาะไว้ให้ขนมหวาน” พิกุลมองหน้าหลานของเธอที่กำลังหย่อนก้นนั่งที่เก้าอี้ข้างเธอตามเดิมด้วยสีหน้าหงอยๆ“นั่นสิคะแม่ฉันก็ลืมไปเลยว่าหลานคนนี้ชอบของหวานนักล่ะ” พิมพรรณ
“น้ากับยายของฉันเลี้ยงแพรมาค่ะแต่แพรก็อธิบายให้คุณฟังไม่ค่อยถูกซะด้วยพรุ่งนี้แพรจะถามวิธีจากยายแล้วก็น้าพิมนะคะเผื่อเอาไว้เลี้ยงลูกของเราด้วย” ร่างบางนอนทำหน้าครุ่นคิดเธอเห็นว่านิสัยของเธอนั้นส่วนมากมีแต่คนชมเธอเองก็อยากจะเลี้ยงลูกให้ได้เหมือนเธอเช่นกัน“ฉันว่าฉันเลี้ยงลูกในวิธีของฉันจะดีกว่า” ภูผาถึงกับต้องพูดตัดบทขึ้นมาก่อนหากให้ลูกนั้นเป็นเหมือนแม่เขาคงต้องห่วงมากเป็นแน่“อืม...แพรคิดว่าเลี้ยงแบบวิธีของแพรกับของคุณคนละครึ่งดีกว่านะคะ” ผ้าแพรหันมายิ้มให้ชายหนุ่มที่สีหน้าดูเหมือนจะคิดหนักอะไรอยู่ในใจ“เฮ้อ..” วันนี้เขาคิดว่ายังไม่คุยรายละเอียดลงลึกเรื่องนี้จะดีกว่าเลยทำได้แค่ถอนหายใจเบาๆแล้วล้มตัวลงนอนหงายคิดว่าอนาคตจะพูดกับเธออย่างไรให้เข้าใจดีว่าการที่ลูกเป็นเหมือนเธอจะถูกเอาเปรียบได้ง่าย“เป็นอะไรคะ..คุณภูร้อนหรือว่าอะไรคะ..เดี๋ยวแพรไปเร่งพัดลมให้ค่ะขอโทษนะคะที่บ้านแพรไม่มีแอคุณเลยดูลำบากเลย” เมื่อเสียงหายใจของชายหนุ่มถอนออกมาเฮือกใหญ่ความไม่สบายใจก็เกิดขึ้นกับหญิงสาวทันทีเพราะคิดว่าที่นี่อาจจะร้อนเกินไปสำหรับเขา“เปล่าอากาศที่นี่เย็นสบายดีอยู่แล้วฉันจะนอนแล้วเธอก็นอนเถอะ” มือหน
“ถ้าเค้าจะไปหาผู้หญิงเค้าจะบอกว่าไปหาเพื่อนทำไมล่ะคะคุณย่าอีกอย่างแพรก็ไม่ใช่คนที่คุณภูรักด้วย” ผ้าแพรเชื่อใจภูผาเป็นที่สุดไม่มีอะไรที่เธอต้องไม่เชื่อเพราะเขาไม่จำเป็นต้องโกหกเธอในเมื่อเธอและเขาไม่ได้มีความรู้สึกแบบชู้สาว“ถึงไม่ใช่แต่เราก็แต่งงานมีลูกด้วยกันคาท้องอยู่อย่างนี้หากวันนึงลูกเกิดมาจะต้องเห็นพ่อตัวเองไปหาผู้หญิงคนอื่นจะรู้สึกยังไง” สายทองมองหลานสะใภ้ของเธอด้วยสายตาเอ็นดูไม่รู้เลยว่าพิกุลนั้นเลี้ยงหลานมายังไงถึงได้จิตใจดีแบบนี้ แต่ยังไงเธอก็จะยอมให้ผ้าแพรนั้นคิดแบบนี้ต่อไปไม่ได้ในเมื่ออนาคตภูผาจะต้องเป็นผู้นำครอบครัวและตัวอย่างที่ดีให้แก่ลูกที่กำลังจะเกิดมา“ลูกก็จะต้องเสียใจแล้วแพรก็จะต้องเสียใจที่ลูกเสียใจแต่ถ้าบอกให้คุณภูห้ามยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นแพรคงทำไมได้ค่ะเพราะผู้หญิงของคุณภูมาก่อนแพรถ้าให้พวกเค้าเลิกกันทั้งที่ยังรักกันแพรทำแบบนั้นไม่ได้ค่ะคุณย่า” ผ้าแพรเงียบไปครู่หนึ่งเธอลองคิดตามที่สายทองพูดแล้วค่อยๆเอ่ยออกมาอย่างพินิจพิเคราะห์ไม่นานสายตาที่ไม่รู้สึกอะไรก็เริ่มก็จะไหววูบเพราะคิดไม่ตกเสียแล้ว“อืมๆ..ย่าว่าเดี๋ยวย่าคุยกับตาภูเองจะดีกว่า” สายทองมองหน้ากับดวงใจด้วยท่าท
“ท้องเหรอวะ” แดเนียลหนุ่มลูกครึ่งมาดขรึมที่เป็นตัวเบรกในความเจ้าชู้ของเพื่อนๆเพราะเขาไม่ค่อยชอบเรื่องผู้หญิงเท่าไรเขานั้นพอจะดูออกว่าเสืออย่างภูผายอมแต่งงานกะทันหันได้โดยที่ตั้งตนว่าจะอยู่เป็นโสดมีคู่นอนเท่านั้น คงมีเรื่องเดียวที่ทำให้ภูผายอมได้ แต่เขาก็ไม่ยักรู้ว่าคนที่รอบคอบอย่างภูผาจะมาพลาดเรื่องนี้ได้อย่างไร“อืม” ภูผาหันกลับมาพยักหน้าให้แดเนียลทั้งกระดกดื่มไวน์ในแก้วจนหมด“เสืออย่างภูผาพลาดได้ไงวะ” ปกรณ์ตบบ่าภูผาเบาๆทั้งเอ่ยด้วยน้ำเสียงหยอกเอิญเพราะเขาเคยพนันกับภูผาว่าใครแต่งงานก่อนคนนั้นแพ้“ช่างมันเถอะเรื่องเกิดแล้วยังไงฉันก็ต้องรับผิดชอบ” ภูผาเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าค่อนข้างปลงและมีรอยยิ้มมุมปากเล็กน้อย“แหม...คำพูดแบบนี้ไม่น่าออกจากปากแกนะคนนี้ถูกใจแกไม่น้อยใช่ไหม” แดเนียลได้ยินคำพูดของภูผาเขาก็ถึงกับต้องผงะจนวางแก้วเครื่องดื่มในมือด้วยนึกว่าตัวเองหูฝาดเพราะหากเป็นภูผาที่เขารู้จักคงจะโวยวายหนักกว่านี้แน่เพราะขนาดมีข่าวหลุดเข้าโรงแรมกับนางแบบยังบ่นอุกจนเขาหูชา แต่ตอนนี้ต้องมารับผิดชอบผู้หญิงที่ทำเขาท้องอย่างไม่ได้ตั้งใจกลับดูเหมือนจะยอมรับแบบปลงง่ายๆเสียอย่างนั้นทั้งที่เรื่องนี้คื
วันต่อมา“ป้าดวงทำอะไรอยู่เหรอคะ” แพรวาตื่นมาตั้งแต่ยังไม่ทันจะหกโมงเช้าเธอเดินลงมาในครัวหมายจะทำอาหารเช้าแต่ก้เห็นดวงใจนั้นยืนง่วนอยู่ก่อนแล้ว“ตื่นมาทำไมแต่เช้าคะคุณแพร” ดวงใจที่กำลังมือเป็นระวิงกับการจัดแจงอาหารเช้าของทุกคนในบ้านเธอหันมายิ้มให้กับผ้าแพรซึ่งเป็นเจ้านายคนเดียวในบ้านที่ตื่นเช้าขนาดนี้“แพรอยากทำอาหารค่ะ” ผ้าแพรรีบเอ่ยความจำนงออกไปและมองดูรอบๆห้องครัว“คุณแพรอยากทานอะไรบอกป้าเลยค่ะ”“แพรอยากทำอาหารมากกว่าค่ะแพรชอบ” ผ้าแพรส่ายหัวเบาๆที่เธอมาที่นี่เพราะเธออยากจะทำอาหารเองไม่ใช่แค่อยากทานอะไรและมาบอกดวงใจเท่านั้นหากเธอไม่ได้ทำอะไรที่เธอชอบเธอคงเบื่อตายพอดีในการอยู่ที่นี่“อย่างนั้นก็ได้ค่ะคุณแพรอุปกรณ์เครื่องครัวอยู่นี่นะคะ” ดวงใจเห็นหญิงสาวดูจะอยากทำขนาดนั้นเธอก็ไม่อบยากขัดใจคนท้องจึงบอกให้ผ้าแพรนั้นจัดการได้ตามสบายโยมีเธอคอยอยู่ใกล้ๆ“ค่ะ” เมื่อได้รับอนุญาตร่างบางก็ยิ้มร่ารีบหยิบจับของในครัวอย่างชำนาญวันนี้เธอจะโชว์ฝีมือการทำอาหารเช้าให้ทุกคนได้ลองทานสักเมนูเพราะเห็นว่าดวงใจนั้นจัดการทำข้าวต้มแล้วสองชั่วโมงต่อมาโต๊ะอาหาร“ตาภูยังไม่ตื่นอีกเหรอหนูแพร” สายทองเห็นผ้าแพรน
“คุณแม่ว่างหรือเปล่าครับพาแพรออกไปซื้อเสื้อผ้ากับของใช้ทีสิครับผมเห็นว่าเธอไม่ค่อยมีของเลย” ภูผาเอ่ยถามคนเป็นแม่ของเขาในระหว่างที่เธอกำลังนั่งมองลูกมะม่วงในมืออย่างชื่นชมเขาไม่ต้องถามก็เดาออกว่านั่นคงจะเป็นฝีมือของผ้าแพรเพราะคนที่นี่แกะสลักกันไม่เป็นถึงเป็นก็คงไม่สวยขนาดนี้“เมียเราก็พาออกไปเองสิ” โสพิศเปรยตามองคนวานเล็กน้อย“ผมว่าการเลือกของให้ผู้หญิงด้วยกันเลือกจะดีกว่านะครับ”“ของที่แพรมีก็พอใช้แล้วค่ะไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่ม” ผ้าแพรรู้ดีว่าภูผานั้นไม่ได้อยากไปไหนมาไหนกับเธออีกอย่างของเธอถึงจะน้อยแต่มันก็พอใช้สำหรับชีวิตในแต่ละวันไม่จำเป็นต้องซื้ออะไรเพิ่ม“เสื้อผ้าเธอมีไม่ถึงสิบชุดด้วยซ้ำ”“นั่นแหละค่ะพอแล้ว”“จะใส่ซ้ำกันงั้นเหรอ” ภูผาพึ่งจะเคยเห็นผ้าแพรเป็นเคสแรกเพราสาวรุ่นส่วนมากเดี๋ยวนี้ที่เขารู้จักก็มักจะชอบใส่เสื้อผ้าไม่ซ้ำกัน“ค่ะเสื้อผ้าเค้าก็ทำมาให้ใส่ได้หลายครั้งนี่คะคุณภู” ผ้าแพรเอ่ยด้วยรอยยิ้มอ่อนเขารู้ว่าคนเมืองอย่างภูผาน่าจะรู้จักแต่ผู้หญิงที่ชอบแต่งตัวแต่คนชนบทอย่างเธอไม่จำเป็นต้องแต่งตัวไปแข่งกับใครแค่มีเครื่องนุ่งห่มที่พอดูดีก็ใช้ได้แล้วใส่ซ้ำกันมันก็ไม่แปลกเพราะที่ชนบ