ไม่มีใครรู้ว่า นันทินี เลขาของ เจตต์ มีงานอีกอย่างคือการเป็นนางบำเรอลับๆ ของเขา กระทั่งวันหนึ่งเธอไม่สามารถทำหน้าที่นั้นต่อไปได้เพราะนันทินีหลงรักท่านประธานสุดหล่อ เธอตัดสินใจลาออกแต่เขากลับไม่ยินยอม ก็ในเมื่อเธอจากไปพร้อมหอบลูกในท้องของเขาไปด้วย
View Moreน้ำเสียงตอนท้ายของนันทินีเศร้าสร้อยลงจนทำให้เจ็บรู้สึกสะท้อนในหัวใจของเขา เจตต์ดึงมือของหล่อนมากุมไว้ เขาก้มลงจูบหลังมือนุ่มลื่นของหล่อนอีกครั้งและเงยหน้าขึ้น“ไม่ใช่คุณคนเดียวหรอกที่ผิดคำพูดของตัวเองผมก็เหมือนกัน จริงๆ แล้วผมผิดคำพูดของตัวเองมาตั้งนานแล้วเพียงแต่ผมอาจจะยังเป็นคนดื้อรั้นและทิฐิไม่เคยยอมรับตัวเองและการที่ผมเป็นคนแบบนี้ก็เกือบจะทำให้ผมต้องสูญเสียสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตไป”“คุณไม่เคยผิดคำพูดหรอกค่ะคุณเจตต์ คุณเป็นอย่างที่คุณเคยบอกฉันและฉันก็จะต้องยอมรับมัน เพียงแต่ฉันผิดเองที่ทำยังไงก็ทำใจยอมรับไม่ได้เลย คุณเจตน์คะเรื่องระหว่างคุณกับอิงอรฉันจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวเรื่องฉันตั้งใจและว่าการที่ฉันยอมลาออกมาจากบริษัทของคุณก็เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้คุณได้มีทางเลือกและตัดสินใจเพราะฉันรู้ดีว่าคุณไม่เคยรักฉันมาตั้งแต่แรก เราต่างคนต่างมีความรู้สึกที่ดีต่อกันให้มันจบลงเพียงเท่านี้แล้วฉันก็จะไม่เรียกร้องอะไรทั้งสิ้น”“ถ้าอย่างนั้นคุณยอมรับกับผมมาก่อนได้ไหมว่าจริงๆ แล้วคุณไม่ได้มีผู้ชายคนใหม่ และเด็กในท้องก็เป็นลูกของผม”น
“นุ่นเต็มใจจะอยู่อย่างนั้น และมันก็เหมาะสมกับนุ่นแล้วค่ะ”“ผมอาจจะเคยรู้สึกอย่างนั้น แต่ตอนนี้ผมอยากให้คุณรู้ว่าผมไม่ได้รู้สึกเหมือนเก่า ผมคิดว่าควรพาคุณมาในที่ที่คุณอยากมา มาอย่างคนรักที่อยู่กันอย่างครอบครัว”“เราไม่ใช่ครอบครัวหรอกค่ะ เราเป็นแค่คนเคยรู้จักกัน”“เมื่อก่อนผมว่าคุณเป็นคนว่าง่าย แต่บทจะใจแข็งคุณก็ไม่ยอมใครง่าย ๆ เหมือนกันนะ...โอเค...ผมยอมแล้วล่ะ ไม่ว่าคุณอยากจะประชด หรือด่าว่าผมตรง ๆ ผมก็จะไม่ตอบโต้หรือคัดค้าน”“แล้วจะบอกนุ่นได้หรือยังคะว่า นอกจากการที่คุณอยากพานุ่นมาที่นี่คุณมีอะไรที่อยากบอกนุ่นอีก”“เยอะแยะมากมาย มันเยอะมาก ๆ จริง ๆ จนผมคิดว่าถ้าคุณได้รับรู้สิ่งนี้เรื่องที่ค้างคาระหว่างเราจะได้คลี่คลายเสียที”เขาพูดสั้น ๆ แต่นันทินีกลับมองไปทางอื่น ทำราวกับว่าหล่อนไม่อยากสนใจและไม่อยากรับฟังที่เขาพูด“นุ่น...หันมามองผมหน่อยจะได้ไหม?”“มีอะไรก็ว่ามาสิคะ” หล่อนหันกลับมาจ้องหน้าเขาตรงๆ เห็นรอยยิ้มอ่อนโยนแล้วใจแทบละลายแต่
นันทินีตื่นขึ้นและเตรียมตัวไปทำงานในตอนเช้า หล่อนทำอะไรได้อย่างเชื่องช้าลงมากขึ้นทุกขณะก็เพราะสรีระของหล่อนที่เปลี่ยนไป ท้องที่เริ่มยื่นออกมามากขึ้นทุกที หล่อนรู้สึกได้ถึงแรงดิ้นของทารกในครรภ์ซึ่งหลังจากการไปตรวจครั้งล่าสุดทำให้นันทินีรู้ว่ากำลังจะมีลูกผู้ชายและนันทินีนึกในใจแล้วว่าหล่อนจะตั้งชื่อลูกว่าอะไรและนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้นันทินีมีความสุขมากที่สุดในเวลานี้นอกเหนือจากบางเวลาที่ยังนึกถึงผู้ให้กำเนิดเด็กในท้องของหล่อน นันทินีไม่ปฏิเสธว่าหลายครั้งก็ยังคิดถึงเจตต์ยังคิดถึงความสัมพันธ์ที่ผ่านมา นันทินีพยายามโกหกเขาไปว่าหลังได้งานใหม่ก็มีสามีใหม่ทั้งที่จริงแล้วหล่อนท้องก่อนที่จะลาออกจากบริษัทด้วยซ้ำและเด็กในท้องก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาหากแต่เมื่อเรื่องราวมันมาถึงตอนนี้แล้วจะให้หล่อนกลับไปอ้างสิทธิ์ว่าเด็กในท้องเป็นลูกของท่านประธานบริษัทใหญ่ได้ยังไง และยิ่งคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเรื่องของนักศึกษาฝึกงานสาวคนนั้นที่ไปมีความสัมพันธ์กับท่านประธานบริษัทมันก็ยิ่งทำให้หล่อนเจ็บปวดและแทบไม่อยากนึกถึงให้ร้าวรานหัวใจ นันทินีแต่งตัวเสร็จแล้วก็เปิดประตูรั้วบ้านออกไปหากแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็
“เหนื่อยเหรอนุ่น?”เขาถามและแสดงสีหน้าเป็นห่วงใย“ไม่ได้เหนื่อยหรอกค่ะเพียงแต่ว่าพอเพิ่งกินอิ่มๆ นุ่นก็จะรู้สึกแน่นๆ ที่ช่วงบนของท้องนี่แหละค่ะ บอกแล้วไงคะว่านุ่นจะกินเยอะไม่ได้ถ้าจะกินก็ต้องแบ่งเป็นอาหารมื้อเล็กๆ แล้วค่อยๆกิน แล้วก็ต้องเคี้ยวให้ละเอียดด้วยไม่อย่างนั้นก็จะรู้สึกไม่สบายตัวไปทั้งวันเลย บางทีก็พาลจะหายใจไม่ออกด้วย”“แล้วนี่คุณอยู่คนเดียว ถ้าเกิดเป็นลมขึ้นมาแล้วจะทำยังไง”“ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่คะ นุ่นมีเบอร์โทรสายด่วนของโรงพยาบาล ก็ให้เขามารับที่บ้านก็ได้ นุ่นอยู่คนเดียวแบบนี้มาตั้งนานเท่าไหร่แล้ว ไม่มีใครก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลยนี่คะ”“ที่พูดผมไม่ได้อยากให้คุณประชดประชันผมหรอกนะนุ่นแต่ผมเป็นห่วงคุณจริงๆ นะ”ทั้งคำพูดสีหน้าและแววตาของเจตต์ที่แสดงออกมาล้วนแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นกังวลและเป็นห่วงในสวัสดิภาพของหล่อนจริงๆ หากแต่นันทินีก็ยังรู้สึกว่าที่เขาทำไปทุกอย่างอาจจะเป็นเพราะเขาไม่อยากรู้สึกว่าตัวเองผิดก็เท่านั้น สักครู่เจตต์ก็เอ่ยขึ้น“ที่คุณบอกผมว่าคุณอยู่คนเดียวม
นันทินีกล่าวเสียงเครือดวงตาของหล่อนเป็นรอยแดงก่ำนิดๆ นั่นเองทำให้เจตต์ขยับเข้าใกล้และจับไหล่ของหล่อนเอาไว้เขาก้มหน้าลงไปจนใกล้“เรื่องเมื่อก่อนก็คือเรื่องเมื่อก่อน แต่ตอนนี้กับเมื่อก่อนมันไม่เหมือนกันแล้ว ทุกอย่างมันก็จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปนี่ไม่ใช่เหรอนุ่น”“ใช่ค่ะ...ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปจนหมดแล้ว ก็อย่างที่นุ่นบอกยังไงคะว่าระหว่างนุ่นกับคุณน่ะมันแทบไม่หลงเหลืออะไรไว้อีกแล้ว” หล่อนพูดน้ำเสียงเศร้าสร้อย นัยน์ตาคอยต่จะมีน้ำรื้นขึ้นมา นึกโกรธที่ควบคุมตัวเองไม่ได้เลยบทที่ 23“ก่อนหน้านี้ตอนที่เราอยู่ด้วยกันเราสองคนก็ผูกพันกันแค่ทางกายแต่เรื่องหัวใจเราสองคนไม่เคยสื่อสารถึงกันถ้าคุณจะบอกว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงมันก็ใช่นะคะแต่จะบอกอะไรให้นะคะ ระหว่างคุณกับนุ่นน่ะมันไม่เคยมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรอกค่ะ เมื่อก่อนคุณไม่ได้รักไม่ได้ใยดีนุ่นยังไงเดี๋ยวนี้มันก็ยังคงเหมือนเดิมอยู่อย่างนั้น”“ก็ถ้าผมบอกว่าความคิดของผมเมื่อก่อนกับตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้วคุณจะเชื่อผมหรือเปล่า”
“ถ้าคุณเจตน์ท้องอย่างผู้หญิงได้คุณเจตก็คงจะเข้าใจนะคะว่าเวลาที่เราตั้งครรภ์เราจะเป็นยังไงบ้าง”“ผมว่าถ้าผมท้องได้จริงๆ ผมก็เต็มใจที่จะท้องแทนภรรยาของผมนะครับเพราะผมคิดว่านั่นคือความสุขของผู้ชาย มันเป็นความพึงพอใจที่เขาจะทำทุกอย่างเพื่อผู้หญิงที่เขารัก การอุ้มท้องถึงแม้ว่ามันจะยากลำบากและมันอาจจะไม่เหมาะสมกับสรีระของผู้ชายแต่ถ้าหากวันหนึ่งเป็นไปได้ผู้ชายท้องแทนผู้หญิงก็คงจะมีผู้ชายหลายล้านคนในโลกเลยนะครับที่อยากจะท้องแทนเมียตัวเอง”“แหม...นี่เขากำลังพูดเรื่องของความรักความผูกพันระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงและครอบครัวกันใช่ไหมคะเนี่ย ธิดาเองก็ไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้ซะด้วยสิ”ธิดากล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มขณะจ้องมองเลขาส่วนตัวของหล่อนและเพื่อนหุ้นส่วนทางธุรกิจที่นั่งจ้องหน้ากันหากแต่หล่อนเองก็ไม่ได้แสดงท่าทีเอะใจหรือระแคะระคายเกี่ยวกับเบื้องหลังของคนทั้งสองนอกจากความรู้สึกที่ว่านี่เป็นการพบกันและพูดคุยกันอย่างมีความสุขก็เท่านั้น“อุ๊ย!...อะไรกันเนี่ยรู้สึกเหมือนกับว่าเพิ่งออกมาจากบริษัทเมื่อตอนนี้เย็น นี่มันจะสองทุ่มแล้วเหรอ เร็วจังเลยนะคะเจตต์”ธิดาแสดงท่าทีเห
“ไม่ค่ะ...รุ่นไม่เคยคิดถึงคุณเลยตอนนี้ในสมองของนุ่นมีแต่เรื่องลูกเท่านั้น คุณไม่เห็นเหรอคะว่าตอนนี้นุ่นท้องกี่เดือนแล้ว”“ก็เห็นอยู่ว่าคุณท้อง 5 เดือนแล้วแต่ที่ผมอยากรู้ก็คือใครเป็นสามีของคุณ”“ไม่เห็นจำเป็นที่จะต้องบอกคุณเลยนะคะ มันเป็นเรื่องส่วนตัวของนุ่นค่ะ ขนาดเรื่องส่วนตัวของคุณนุ่นยังไม่กล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือก้าวก่ายเลย เพราะฉะนั้นเรื่องของนุ่นก็จะต้องเป็นเรื่องส่วนตัวที่คุณไม่มีสิทธิ์ว่าก้าวก่ายด้วยเช่นกันค่ะ”เจตต์กำลังจะอ้าปากพูดต่อหากแต่เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังด้านนอกและดูเหมือนเขาจะรู้ตัวว่าใครกำลังจะกลับเข้ามาในห้อง เจตต์ค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นและกลับไปนั่งที่เดิมของเขาด้วยความสงบและเยือกเย็น เขาสงบเช่นนั้นหรือ?...เปล่าเลย...ภายนอกของเขาอาจจะดูเย็นเป็นน้ำแข็งหากแต่ข้างในร้อนรุ่มอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขารู้สึกได้ถึงความดื้อรั้นและถือดีของนันทินีอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ตอนที่หล่อนทำงานเป็นเลขาของเขานันทินีเหมือนลูกแมวเชื่อง หากแต่เจตก็รู้ดีว่าระหว่างเขากับหล่อนมีสายใยผูกพันที่ร้อยรัดเอาไว้ แม้ก่อนหน้านี้เขาจะแสดงความไม่สนใจใยดีและยื่นข้อเสนอให้หล่
“เก่งจังเลยนะครับ ท้องห้าเดือนแล้วแต่ยังทำงานเก่งขนาดนี้”“ถึงเลขาของธิดาจะท้องแต่เรื่องงานนี่ขอยกให้เลยล่ะค่ะ นุ่นมีความรับผิดชอบมาก ทำงานเก่ง ตอนมาสมัครงานกับธิดาใหม่ ๆ เขาก็ท้องได้เดือนกว่าเกือบสองเดือนแล้ว แต่ก็รับเขาเอาไว้เพราะเห็นว่าเขามีความสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้คล่อง เขาเคยผ่านงานกับเจ้านายชาวต่างชาติมาก่อนด้วย”“ผ่านงานกับชาวต่างชาติอย่างนั้นเหรอครับ แล้วไม่ทราบว่าคุณนุ่นเคยทำงานที่ไหนมาก่อนครับ”เจตต์ถาม เป็นคำถามที่ทำให้นันทินีอึ้ง หล่อนพยายามรวบรวมสติ แต่ก่อนตอบคำถามนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เป็นของธิดา หล่อนรีบรับสายก่อนหันมาบอกว่า“เจตต์คะ...ธิดาขอคุยธุระกับหุ้นส่วนสักห้านาทีนะคะ เขาโทรมาจากต่างประเทศค่ะ”พูดจบก็ออกไปจากห้องนั้น นันทินีมองตามก่อนเจตต์รีบลุกขึ้นและขยับมานั่งข้างเลขาสาว หล่อนเบิกตากว้างบทที่ 21“คุณเจตต์...จะทำอะไรคะ?”“ผมไม่ได้ทำอะไร แค่อยากมานั่งใกล้คุณ”“อย่าทำอะไรรุ่มร่า
“วันนี้มีอะไรพิเศษอย่างนั้นเหรอคะพี่ธิดา”“วันนี้พี่มีค่ะคนสำคัญเราจะนัดพูดคุยกันตอนเย็นนี้จ้ะ”“คนสำคัญอย่างนั้นเหรอคะพี่ธิดา..เขาเป็นเพื่อนของพี่ดาใช่ไหมคะ?”“เป็นคนที่รู้จักกันมานานแล้วแต่ว่าพี่กับเขาเพิ่งพูดคุยกันเรื่องการร่วมทุนการทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ คือเขาเป็นนักธุรกิจที่มีความสามารถมากๆในการขยายงานธุรกิจทางด้านที่ดินและโครงการก่อสร้าง”“จริงๆ แล้วพี่ธิดาก็เป็นคนเก่งนะคะ เพราะว่าพี่ธิดาก็ทำงานทางด้านนี้มาตั้งนานแล้วทั้งทางด้านสังหาริมทรัพย์และก็อสังหาริมทรัพย์”“ใช่...พี่ก็ยอมรับนะว่าพี่ทำงานด้านนี้มานานแล้วแต่ว่าพี่อยากจะขยายธุรกิจโดยการร่วมลงทุนกับเพื่อนนักธุรกิจที่มีความสามารถทางด้านนี้เพื่อที่งานของพี่จะได้ขยายตัวออกไปมากกว่าเดิมไงล่ะจ๊ะ”“พี่ธิดาเป็นคนเก่งมากๆ เลยนะคะและเป็นเจ้านายที่ดีมากๆ สำหรับนุ่น เฉพาะธุรกิจที่มีอยู่ในมือของพี่ธิดาตอนนี้นุ่นก็เห็นว่าทำกันก็ไม่ค่อยจะทันอยู่แล้วแต่พี่ดาก็ยังจะขยายธุรกิจของตัวเองออกไปให้มากกว่าเดิมอีกขอให้
บทที่ 1 “ท่านประธานคะ...วันนี้มีประชุมด่วนตอนเช้านะคะ”นันทินี เลขาสาวสวยวัยยี่สิบเยี่ยมหน้าเข้าไปในห้องทำงานโอ่อ่าแล้วต้องประหลาดใจเมื่อเห็นว่าข้างในปราศจากเงาของคนที่หล่อนต้องการพบ หญิงสาวร่างระหงในชุดสูทเรียบเก๋ สวมแว่นตาอย่างสาวออฟฟิศก้าวเข้าไปแล้วปิดประตู แต่ทันใดนั้นก็ต้องตกใจเมื่อจู่ ๆ ถูกท่อนแขนแข็งแกร่งรวบเอวบาง ใครคนหนึ่งโอบกอดหล่อนไว้จากด้านหลัง กลิ่นโคโลญจน์หอมอวลแตะจมูก เป็นกลิ่นที่หล่อนจำได้“อุ๊ย! ท่านประธานคะ...ทำอะไรคะเนี่ย” หล่อนร้องออกมาทั้งที่ถูกสวมกอดจากข้างหลัง เสียงของหล่อนแหบพร่ามากกว่าร้องออกมาด้วยความตกใจ“นุ่น...วันนี้มีประชุมอีกเหรอ” เจตต์ ประธานบริหารระดับสูงสุดของ วัฒนรักษ์ กลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีโรงแรมหรูระดับห้าดาวในเครือทั้งในและต่างประเทศกระซิบถาม นันทินีหันไปเผชิญหน้ากับเขาในระยะประชิด ท่านประธานของหล่อนคือหนุ่มวัยสามสิบสองหน้าตาหล่อเหลาบาดจิต รูปร่างสูงใหญ่เพราะมีเชื้อสายของชาวต่างชาติ เจตต์เป็นนักธุรกิจระดับแถวหน้าที่มีชื่อเสียงในวงสังคมระดับสูง เป็นที่หลงใหลคลั่งไคล้ของสาว ๆ แม้แต่พนักงานในบริษัทก็ยังแสดงออกว่าต่างหลงเสน่ห์ความ...
Comments