บทที่ 1
“ท่านประธานคะ...วันนี้มีประชุมด่วนตอนเช้านะคะ”
นันทินี เลขาสาวสวยวัยยี่สิบเยี่ยมหน้าเข้าไปในห้องทำงานโอ่อ่าแล้วต้องประหลาดใจเมื่อเห็นว่าข้างในปราศจากเงาของคนที่หล่อนต้องการพบ หญิงสาวร่างระหงในชุดสูทเรียบเก๋ สวมแว่นตาอย่างสาวออฟฟิศก้าวเข้าไปแล้วปิดประตู แต่ทันใดนั้นก็ต้องตกใจเมื่อจู่ ๆ ถูกท่อนแขนแข็งแกร่งรวบเอวบาง ใครคนหนึ่งโอบกอดหล่อนไว้จากด้านหลัง กลิ่นโคโลญจน์หอมอวลแตะจมูก เป็นกลิ่นที่หล่อนจำได้
“อุ๊ย! ท่านประธานคะ...ทำอะไรคะเนี่ย” หล่อนร้องออกมาทั้งที่ถูกสวมกอดจากข้างหลัง เสียงของหล่อนแหบพร่ามากกว่าร้องออกมาด้วยความตกใจ
“นุ่น...วันนี้มีประชุมอีกเหรอ” เจตต์ ประธานบริหารระดับสูงสุดของ วัฒนรักษ์ กลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีโรงแรมหรูระดับห้าดาวในเครือทั้งในและต่างประเทศกระซิบถาม นันทินีหันไปเผชิญหน้ากับเขาในระยะประชิด ท่านประธานของหล่อนคือหนุ่มวัยสามสิบสองหน้าตาหล่อเหลาบาดจิต รูปร่างสูงใหญ่เพราะมีเชื้อสายของชาวต่างชาติ เจตต์เป็นนักธุรกิจระดับแถวหน้าที่มีชื่อเสียงในวงสังคมระดับสูง เป็นที่หลงใหลคลั่งไคล้ของสาว ๆ แม้แต่พนักงานในบริษัทก็ยังแสดงออกว่าต่างหลงเสน่ห์ความเท่ห์ หล่อร้าย แต่ไม่มีใครรู้ระแคะระคายว่าแท้จริงแล้วเขามีความสัมพันธ์ลับ ๆ กับเลขาสาวที่เข้ามาทำงานเป็นผู้ช่วยส่วนตัวกับเขาเป็นเวลาเกือบสามเดือน นันทินีเรียนจบแค่ระดับอาชีวศึกษา แต่หล่อนเป็นคนสวยและพกความเก่งจนเอาชนะใจ เจตต์รับหล่อนเข้าทำงานในตำแหน่งเลขานุการ หลังจากนั้นเขาก็เริ่มเปิดเผยความรู้สึกและนันทินีก็ไม่ปฏิเสธเสียด้วย หล่อนยอมเป็นของเขาหลังเข้ามาทำงานไม่ถึงเดือน เจตต์ไม่ใช่เจ้านายปากหวาน เขาไม่ใช่ผู้ชายโรแมนติก ตรงข้ามไม่ค่อยพูดจาแต่เด็ดขาดในการทำงาน เขาจะหวานและดึงดูดใจมากก็ตอนมีเซ็กส์ เรื่องนี้หล่อนรู้ดี
“ค่ะ...ท่านประธาน...วันนี้มีประชุมตอนเช้าเลยนะคะ เป็นประชุมด่วนด้วยค่ะ”
“ทำไมต้องด่วนวันนี้ด้วยนะ ถ้าไม่ไปประชุมจะเป็นยังไง”
“ก็ไม่เป็นไงหรอกค่ะ แต่มันอาจจะกระทบกับงานของท่านประธานนะสิคะ”
“ประชุมกี่โมงกันล่ะ”
“เก้าโมงครึ่งค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นเราก็ยังมีเวลาอีกครึ่งชั่วโมงสินะ”
“ท่านประธานจะทำอะไรคะ” หล่อนถามเสียงพร่า ก่อนท่านประธานหนุ่มจะเฉลยด้วยการก้มหน้าลงมาหา ประกบปิดปากเพื่อกลืนเสียงหวานของหล่อนเข้าไปในปากของเขา ฉกลิ้นสากหนาเข้าไปในโพรงปากของเลขาสาว วินาทีนั้นหล่อนก็ระทดระทวยและแทบทรงตัวยืนไม่อยู่ เสื้อสูทของหล่อนถูกดึงออกไปโดยแทบไม่รู้ตัว เจตต์ถอดมันออกจากตัวหล่อนวางกองบนพื้นอย่างไม่ใส่ใจ
“อือ...อ่าส์....ทะ...ท่านประธานขา”
“เราต้องรีบสักหน่อยแล้วนะ นุ่น...อืม...” เขาส่งเสียงงึมงำอยู่บนกลีบปากของหล่อน มือทั้งสองเลื่อนเข้าไปใต้ชายเสื้อเชิ้ตที่เขาดึงมันออกจากขอบกระโปรงตัวสวย ลูบไล้สัมผัสรอยนูนบนลูกไม้บราเซียที่แนบบนสองเต้าอวบอิ่ม เจตต์พ่นลมหายใจร้อนรุ่มออกมาราดรดบนหน้าของนันทินี หล่อนอ้าปากรับลิ้นร้อนของเขาที่ฉกเข้าไปลิ้มรสหวาน สักครู่เขาช้อนร่างนั้นขึ้นแล้วอุ้มหล่อนไปยังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ วางหล่อนให้นั่งแล้วถอดเสื้อสูทของตัวเองออก ทิ้งมันลงพื้นอย่างไม่ใยดี เจตต์ไม่เสียเวลาถอดเสื้อเชิ้ตออก เขาประชิดเข้าหา ยืนตรงกลางระหว่างเรียวขางามที่เขาจับมันแยกออก ท่านประธานหนุ่มลูบไล้ถุงน่องสีดำตั้งแต่ขาอ่อนลงมาถึงปลีน่องขาวเนียน ในช่วงเวลานั้นนันทินีหอบหายใจด้วยความเสียวซ่าน บ่อยครั้งที่หล่อนกับเจตต์มีเซ็กส์กันอย่างเร่าร้อนในห้องทำงาน ทั้งบนโซฟา บนโต๊ะทำงาน บนพื้นห้อง แต่ดูเหมือนวันนี้เขาเร่าร้อนเป็นพิเศษ ทุกครั้งเขาจับหล่อนถอดเสื้อผ้าจนหมด และเขาเองก็ถอดจนหมดเช่นเดียวกัน แต่วันนี้เขารีบเร่งอย่างแปลกประหลาด เจตต์ถลกกระโปรงสั้นขึ้นและถอดสายรัดถุงน่องบนเรียวขานวลเนียน เขารูดจีสตริงสีชมพูพ้นจากขาเรียวงามแล้วจับเข่าทั้งสองของหล่อนให้แยกถ่างกว้าง
“อ๊า...ท่านประธาน...ซี๊ดดดด....อ่าส์...อูยยยย....ซี๊ดดดด”
เสียงหล่อนครางหอบเพราะเจตต์ก้มหน้าลงไปที่รอยแยกกลางกาย ลิ้มเลียร่องหอยใหญ่เรื้อปริปลิ้นสีแดงก่ำ น้ำหวานทะลักออกมาอาบถึงโคนลิ้นหนาที่ฉกเข้าหาหนแล้วหนเล่า
“อูยยยยย....ทะ...ท่านประธานขา....ซี๊ดดดดด”
“หอยเธอนี่มันทั้งใหญ่ทั้งแน่น...อ่าส์....อืม...ยังหวานเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน”
“อูยยยย.....ซี๊ดดดด....ท่านประธาน....อ๊อยยย” นันทินีส่งเสียงร้องจนแห้งแหบเพราะท่านประธานสุดหล่อของหล่อนจ้วงลิ้นบนเนินกาบหอยที่ถูกถ่างอ้าซ่า เขารัวลิ้นอย่างช่ำชองชำนาญ จวกปลายลิ้นลงไปตรงแอ่งน้ำหวานจุดความเสียวซ่านให้หญิงสาว เลขาส่วนตัวของเขาเอนตัวไปด้านหลัง ยันตัวหล่อนเอาไว้ด้วยข้อศอกทั้งสอง ลีลารัวลิ้นของเจตต์สุดเด็ด มันทำให้หล่อนมีความสุขได้เสมอ ระหว่างเขากับหล่อนมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และไม่มีครั้งไหนไม่ดุเด็ดได้ใจอย่างเด็ดขาด เจตต์เป็นผู้ชายที่มีครบทุกอย่าง ทั้งความหล่อร้าย เสน่ห์ของเขาที่ทำให้ผู้หญิงสยบยอมได้เสมอ แม้แต่นันทินีเอง ถึงหล่อนไม่ใช่ผู้หญิงร้อนร่านสวาทแต่เขาก็ทำให้หล่อนเปลี่ยนจากลูกแมวน้อยกลายเป็นแม่เสือสาวได้ในชั่วพริบตา“อูยยยยย.....ซี๊ดดดดด....อ่าส์.....อือ....ทะ...ท่านประธาน....โอ๊วๆๆๆๆ....อูวววว”“คงอยากแล้วล่ะสิ เสียงของเธอมันบอก” เจตต์เงยหน้าจากระหว่างของนันทินี เขาสบนัยน์ตาหวานฉ่ำของหล่อนอย่างมีความหมาย มันหยดเยิ้มจนทำให้คนถูกมองสยิวด้วยความเสียวซ่าน นันทินีขยับตัวเข้าหาเขา เธอจับไล่กว้างและเบียดลำตัวด้านหน้าเข้าหา“ค่ะ...ท่านประธาน...แล้ว...ฉันควรต้
“อูยยยย....อ่าส์....เสียวดีจริงแม่คุณเอ๊ย...ทำไมมันดูดดีอย่างนี้....โอววว....มะ...ไม่ไหวแล้ว....อ่าส์....ไม่ไหวแล้ว....อ่าส์”เจตต์ครางอย่างซ่านเสียว เขาเกร็งตัวเมื่อจังหวะสุดท้ายของแรงกระแทกทำให้เขาเกร็งไปหมด นันทินีก็ร้องออกมาเหมือนถูกฟาดด้วยแส้ หน้าสวยบิดเบี้ยวดูไม่ได้เลยทีเดียว ก่อนที่หล่อนเองจะแตะถึงขอบสวรรค์พร้อม ๆ กับเจ้านายหนุ่ม รู้สึกถึงกระแสอุ่นเชี่ยวกรากไหลวนอยู่ใจกลางลำตัว เสียงทอดถอนใจของเจตต์ยาวและหนัก เขากอดหล่อนไม่ถึงหนึ่งนาทีก่อนผละห่าง นันทินีหน้าแดงซ่านเหมือนอย่างทุกครั้ง หล่อนขยับลงจากโต๊ะทำงานของเขาแล้วก้มลงเก็บเสื้อผ้าที่วางเรี่ยรายบนพื้น เลขาสาวเข้าห้องน้ำส่วนตัวของท่านประธานเพื่อแต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วกลับออกมาอีกครั้ง เห็นเจตต์นั่งที่โต๊ะทำงาน เขาสวมเสื้อผ้าของตัวเองเรียบร้อยเช่นกัน บรรยากาศภายในนั้นกลับคืนสู่สภาวะปกติเหมือนเช่นเก่า“นี่ใกล้เวลาประชุมแล้วสินะ...ผมจะไปประชุมก่อน”เจตต์กล่าวและจ้องหน้าเลขาของเขา เห็นได้ชัดว่าแก้มของหล่อนยังเป็นสีชมพูระเรื่อและเสียงหอบหายใจจากความเหนื่อยอ่อนทำให้เขาสั่นไหว นันทินีพยักหน้า หล่อนแทบไม่กล้าสบนัยน์หวานเข้มของเจ้านายห
“ได้สิคะ น้องอรเป็นพนักงานฝึกงานก็ถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่คนหนึ่งในบริษัทนี้เหมือนกัน เราก็ต้องทำงานร่วมกันอยู่แล้วนะคะ”“ขอบคุณมากเลยค่ะ”อิงอรกล่าวกับนันทินีด้วยรอยยิ้มแสนสดใส ขณะนั้นเองเลขาสาวก็สังเกตเห็นว่านักศึกษาฝึกงานคนนี้มีอะไรหลายอย่างดูจะพิเศษ อิงอรมีเสน่ห์ที่น่าดึงดูดเพราะหน้าตาของเธอสวยหวานการแต่งกายก็สุภาพเรียบร้อยแม้วันนี้อิงอรจะไม่ได้สวมชุดนักศึกษามาอาจเป็นเพราะเธอเข้าใจว่าจะต้องแต่งกายด้วยชุดสุภาพเพื่อมาพบท่านประธานบริหารของบริษัท นันทินีสังเกตเห็นว่าอิงอรเป็นเด็กสาวหน้าใสคำพูดและกริยาท่าทางก็ดูน่ารักสมกับเด็กสาววัย 18อิงอรและนันทินีนั่งคุยกันสักพักประตูห้องก็ถูกผลักเข้ามา เจตต์ก้าวเข้ามา ขณะนั้นเองนันทินีก็รีบลุกขึ้นและบอกเขาว่า“ท่านประธานคะ...ประชุมเสร็จแล้วเหรอคะ?”เขาพยักหน้า “ใช่...วันนี้ประชุมเสร็จเร็วมาก คงเป็นเพราะโปรเจคใหญ่ที่เรากำลังจะทำร่วมกับต่างประเทศมีการพูดคุยกันไปแล้ว ก็เหลือบรีฟงานอีกไม่เยอะเท่าไหร่ทุกคนก็เข้าใจทั้งหมด”“ค่ะ...ท่านประธานคะ พอดีว่ามีน้องนักศึกษาฝึกงานต้องการที่จะมาขอพบท่านประธานค่ะ”พอนันทินีบอกอิงอรก็รีบลุกขึ้นและยกมือไหว้ท่านประธานหนุ่
“ขอบคุณสำหรับคำชมนะ สำหรับผมก็คงจะไม่มีอะไรที่จะพูดคุยกับคุณมากไปกว่านี้หรอก นอกจากขอให้ตั้งใจฝึกงานและถ้าเกิดว่าต้องการความช่วยเหลืออะไรก็สามารถที่จะแจ้งกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลได้หรือถ้ามีเรื่องที่ลำบากใจจริงๆ ถ้าไม่ได้คุยกับผมก็อาจจะบอกผ่านคุณนันทินีเลขาส่วนตัวของผมก็ได้”“ขอบคุณมากค่ะท่านประธาน”เจตต์กับอิงอรพูดคุยกันต่อไปจากนั้นอีกสักพักก่อนที่นักศึกษาฝึกงานสาวจะขอตัวออกไป หลังจากนั้นเจตต์ก็ก้มหน้าก้มตาดูเอกสารที่เขาจะต้องเซ็นซึ่งก็มีมากมายอยู่ทุกวันโดยที่นันทินีก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ต่างคนต่างดูเหมือนมุ่งทำงานของตัวเองมากกว่าที่จะพูดคุยและอยู่ใกล้ชิดกันอย่างตอนเช้าก่อนเวลาเข้างานที่ทั้งสองได้เจอและมีสัมพันธ์สวาทอันเร่าร้อนต่อกันซึ่งสำหรับนันทินีแล้วท่านประธานของหล่อนก็เป็นแบบนี้ เขาจะหวานกับหล่อนก็เฉพาะเวลาที่เขาจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหล่อนเท่านั้นแต่หลังจากนั้นเจตต์ทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเขาจะแสดงท่าทีของความเป็นเจ้านายมากกว่าคนที่มีสัมพันธ์สวาทอันเร่าร้อนต่อกัน เจตต์เป็นคนที่ถ้ามองจริงๆแล้วค่อนข้างดุและเคร่งขรึมในเวลาทำงาน เขาจะทุ่มเทและจริงจัง แต่ก็นั่นแหละมันก็ทำให้นันทิ
นันทินีกล่าวกับบุรินทร์เพื่อนชายซึ่งอายุไล่เลี่ยกันกับเธอเขาเป็นพนักงานของบริษัทในตำแหน่งผู้จัดการควบคุมการสั่งซื้อสินค้าและผลิตภัณฑ์ของบริษัท เป็นคนที่คอยดูแลผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสินค้าระดับไฮแบรนด์ในโรงแรมหรูบุรินทร์ยิ้มให้เธอและเอ่ยว่า“เปล่าหรอกวันนี้ผมไม่ได้ทำงานล่วงเวลาหรอก นี่ก็กำลังจะกลับบ้านแล้วด้วยถ้ายังไงเดี๋ยวผมไปส่งนุ่นนะ”“ไม่ต้องลำบากก็ได้นะบุรินทร์เพราะบ้านของนุ่นไปคนละทางกลับบ้านของบุรินทร์ มันจะทำให้เสียเวลาเปล่า ๆ นะ”“ไม่เป็นไรหรอกผมอยากไปส่งนุ่นน่ะ เห็นนุ่นกับแท็กซี่ทุกวันก็อยากจะพานุ่นไปส่งที่บ้านบ้างก็จะได้ไปทำความรู้จักบ้านของนุ่นด้วยไงว่าอยู่ที่ไหน”“นุ่นอยู่หอพักน่ะเป็นหอพักเล็กๆ เองก็ไม่ไกลจากที่ทำงานนี่หรอก ว่าแต่บุรินทร์ถ้าไปส่งนุ่นก็จะเสียเวลาแล้วกว่าจะขับรถกลับไปที่บ้านอีกในเมืองตอนเย็นๆ รถติดจะตายไป”“ก็ไม่เห็นเป็นไรเวลารถติดผมก็นั่งฟังเพลง ได้ฟังเพลงเพลินๆ ฟังข่าวแป๊บเดียวก็ถึงบ้านละ”“แต่นุ่นก็เกรงใจบุรินทร์นะ ทำงานเหนื่อยๆ แล้วยังจะต้องขับรถที่ตอนเย็นในเมืองการจราจรคับคั่งอีกรุ่นว่าไม่รบกวนดีกว่า”“ไม่เป็นการรบกวนอะไรเลยนุ่นผมอยากไปส่งนุ่นก็
“ขอบใจมากนะบุรินทร์ แล้วก็ขอบคุณสำหรับความมีน้ำใจที่อุตส่าห์พานุ่นกลับมาที่พักแบบนี้นุ่นน่ะเกรงใจบุรินทร์มากเลยรู้ไหม”“ไม่ต้องเกรงใจหรอก...ผมเต็มใจเสมอสำหรับนุ่น”เขาเอ่ยและมองผู้หญิงที่นั่งข้างๆ ด้วยประกายตาหวานฉ่ำซึ่งมันก็แสดงให้นันทินีเห็นว่าจริงๆ แล้วตอนนี้บุรินทร์รู้สึกกับเธอเช่นไรและจริงๆ แล้วก็ใช่ว่าเธอจะไม่รู้เลยว่าเขาคิดกับเธอยังไงเพราะตั้งแต่เริ่มเข้ามาทำงานใหม่ๆก็จะเป็นคนที่ชอบเข้ามาพูดคุยกับเธอสร้างสัมพันธไมตรีที่ดีแต่เขาเป็นคนสุภาพไม่เคยปากว่ามือถึง ไม่เคยทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองถูกคุกคามหรือไม่ปลอดภัย ยังคงรักษาความเป็นสุภาพบุรุษของเขาเอาไว้เสมอทว่าท่าทีของเขากลับทำให้เธอคิดถึงใครอีกคนอย่างช่วยไม่ได้บทที่ 5“เอ...แต่ว่า...ผมดู ๆ แล้ว เหมือนนุ่นจะไม่ค่อยสบายนะ นุ่นเป็นอะไรน่ะ วันนี้หน้าตาของนุ่นเหมือนเหนื่อยๆ นะ”บุรินทร์ถามและทำให้นันทินีสะดุ้งเล็กน้อยเพราะฉุกนึกได้ว่าเธอเองรู้สึกเศร้าใจกับเรื่องบางเรื่องและเป็นเรื่องที่ไม่สามารถมีใครจะมาแก้ปัญหาให้เธอได้เลยแม้แต่คนเดียว สักครู่บุรินทร์ก็เอ่ยต่อไปอีกว่า“เออนี่นุ่น วันนี้ผมเห็นมีนักศึกษาฝึกงานคนใหม่เข้ามาด้วยล่ะ น้องนัก
นันทินีกล่าวเสียงเครือดวงตาของหล่อนเป็นรอยแดงก่ำนิดๆ นั่นเองทำให้เจตต์ขยับเข้าใกล้และจับไหล่ของหล่อนเอาไว้เขาก้มหน้าลงไปจนใกล้“เรื่องเมื่อก่อนก็คือเรื่องเมื่อก่อน แต่ตอนนี้กับเมื่อก่อนมันไม่เหมือนกันแล้ว ทุกอย่างมันก็จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปนี่ไม่ใช่เหรอนุ่น”“ใช่ค่ะ...ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปจนหมดแล้ว ก็อย่างที่นุ่นบอกยังไงคะว่าระหว่างนุ่นกับคุณน่ะมันแทบไม่หลงเหลืออะไรไว้อีกแล้ว” หล่อนพูดน้ำเสียงเศร้าสร้อย นัยน์ตาคอยต่จะมีน้ำรื้นขึ้นมา นึกโกรธที่ควบคุมตัวเองไม่ได้เลยบทที่ 23“ก่อนหน้านี้ตอนที่เราอยู่ด้วยกันเราสองคนก็ผูกพันกันแค่ทางกายแต่เรื่องหัวใจเราสองคนไม่เคยสื่อสารถึงกันถ้าคุณจะบอกว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงมันก็ใช่นะคะแต่จะบอกอะไรให้นะคะ ระหว่างคุณกับนุ่นน่ะมันไม่เคยมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรอกค่ะ เมื่อก่อนคุณไม่ได้รักไม่ได้ใยดีนุ่นยังไงเดี๋ยวนี้มันก็ยังคงเหมือนเดิมอยู่อย่างนั้น”“ก็ถ้าผมบอกว่าความคิดของผมเมื่อก่อนกับตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้วคุณจะเชื่อผมหรือเปล่า”
วันนี้นันทินีมาถึงที่ทำงานแต่เช้าเมื่อคืนหล่อนนอนไม่ค่อยหลับ กระสับกระส่ายอยู่ตลอดทั้งคืน บอกตัวเองไม่ได้ว่ากำลังคิดเรื่องอะไรอยู่ มันมีหลายแง่หลายมุม มีหลายเรื่องราวที่ทำให้ต้องคิดโดยที่หญิงสาวก็ไม่รู้ตัวเลยว่าใต้จิตสำนึกของหล่อนเกิดความเครียดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้เพียงว่าคิดถึงเจตต์จับหัวใจ แต่ไม่สามารถที่จะโทรหาเขาได้ ไม่สามารถที่จะไปหาเขาหรือกอดเขาในเวลาที่หล่อนคิดถึงเหมือนอย่างคนรัก เหมือนผู้หญิงที่อยู่กับผู้ชายเป็นคู่รักโดยทั่วไป เธอได้แต่เตือนตัวเองว่าตอนนี้สิ่งที่ทำได้ก็เป็นได้เพียงแค่นางบำเรอ เป็นได้เพียงแค่ผู้หญิงที่คอยปรนเปรอรสสวาทเวลาที่เขาต้องการอย่างถึงอกถึงใจ หลังจากนั้นเธอก็เป็นได้แค่เศษขยะสำหรับเจตต์ก็เท่านั้น ไม่อาจแสดงความเป็นเจ้าของเพราะเป็นเรื่องต้องห้าม ขณะที่นันทินีเดินไปยังโต๊ะทำงานของหล่อนแต่ยังไม่ทันได้นั่งลงก็ต้องชะงักเมื่อประตูห้องเปิดออกและเศษก้าวเข้ามา“สวัสดีค่ะท่านประธาน”หล่อนเอ่ยทักทายหากแต่เจตต์กลับเดินตรงไปที่โต๊ะทำงานของเขาโดยที่ไม่ยอมหันมามองหน้าเลขาสาว ไม่ยอมตอบอะไรกลับมา มันทำให้หล่อนรู้สึกแปลกใจหากแต่ก็พยายามที่จะไม่คิดอ
“นุ่นไม่ได้ให้ท่านะคะ ท่านประธานควรจะเปลี่ยนคำพูดซะใหม่เพราะบุรินทร์เป็นแค่เพื่อนร่วมงานของนุ่นเท่านั้น นุ่นไม่เคยคิดอะไรกับเขามากเกินกว่าความเป็นเพื่อนเลยนะคะ”“ให้มันได้อย่างที่พูดเถอะนะ ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันจะเป็นจริงอย่างที่คุณบอกผมหรือเปล่าเพราะดูท่าทางคุณเองก็อาจจะเบื่อลีลาของผู้ชายคนเดิม ๆ อย่างผมแล้วก็เป็นได้ บางทีการได้หารสชาติใหม่ ๆ มันอาจจะทำให้คุณมีความสุขและซาบซ่ามากขึ้นกว่าเดิมซะอีก!”คำบริภาษของเจตต์ทำให้นันทินีถึงกับสะอึกเพราะหล่อนนึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะก่นว่าได้เจ็บแสบถึงขนาดนี้ แต่ก่อนที่หญิงสาวจะพูดอะไรออกมาประตูห้องก็เปิดออกอีกครั้ง อิงอรก้าวเข้ามา นักศึกษาฝึกงานสาวต้องชะงักเมื่อเห็นว่าทั้งสองยืนประจันหน้ากันอยู่ที่โต๊ะของเลขานุการสาว“ขะ...ขอโทษด้วยนะคะท่านประธาน...พี่นุ่น...อรเข้ามาขัดจังหวะอะไรหรือเปล่าคะเนี่ย”อิงอรเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูแล้วหล่อนแสดงความประหม่าออกมาขนาดนั้น เจตต์หันกลับมายังนักศึกษาฝึกงานสาว สีหน้าของเขาแปลกเปลี่ยนไปน้ำเสียงของเขาถูกกดให้ต่ำลงและฟังดูราบเรียบเหมือนเป็นปกต
วันนี้นันทินีมาถึงที่ทำงานแต่เช้าเมื่อคืนหล่อนนอนไม่ค่อยหลับ กระสับกระส่ายอยู่ตลอดทั้งคืน บอกตัวเองไม่ได้ว่ากำลังคิดเรื่องอะไรอยู่ มันมีหลายแง่หลายมุม มีหลายเรื่องราวที่ทำให้ต้องคิดโดยที่หญิงสาวก็ไม่รู้ตัวเลยว่าใต้จิตสำนึกของหล่อนเกิดความเครียดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้เพียงว่าคิดถึงเจตต์จับหัวใจ แต่ไม่สามารถที่จะโทรหาเขาได้ ไม่สามารถที่จะไปหาเขาหรือกอดเขาในเวลาที่หล่อนคิดถึงเหมือนอย่างคนรัก เหมือนผู้หญิงที่อยู่กับผู้ชายเป็นคู่รักโดยทั่วไป เธอได้แต่เตือนตัวเองว่าตอนนี้สิ่งที่ทำได้ก็เป็นได้เพียงแค่นางบำเรอ เป็นได้เพียงแค่ผู้หญิงที่คอยปรนเปรอรสสวาทเวลาที่เขาต้องการอย่างถึงอกถึงใจ หลังจากนั้นเธอก็เป็นได้แค่เศษขยะสำหรับเจตต์ก็เท่านั้น ไม่อาจแสดงความเป็นเจ้าของเพราะเป็นเรื่องต้องห้าม ขณะที่นันทินีเดินไปยังโต๊ะทำงานของหล่อนแต่ยังไม่ทันได้นั่งลงก็ต้องชะงักเมื่อประตูห้องเปิดออกและเศษก้าวเข้ามา“สวัสดีค่ะท่านประธาน”หล่อนเอ่ยทักทายหากแต่เจตต์กลับเดินตรงไปที่โต๊ะทำงานของเขาโดยที่ไม่ยอมหันมามองหน้าเลขาสาว ไม่ยอมตอบอะไรกลับมา มันทำให้หล่อนรู้สึกแปลกใจหากแต่ก็พยายามที่จะไม่คิดอ
นันทินีกล่าวเสียงเครือดวงตาของหล่อนเป็นรอยแดงก่ำนิดๆ นั่นเองทำให้เจตต์ขยับเข้าใกล้และจับไหล่ของหล่อนเอาไว้เขาก้มหน้าลงไปจนใกล้“เรื่องเมื่อก่อนก็คือเรื่องเมื่อก่อน แต่ตอนนี้กับเมื่อก่อนมันไม่เหมือนกันแล้ว ทุกอย่างมันก็จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปนี่ไม่ใช่เหรอนุ่น”“ใช่ค่ะ...ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปจนหมดแล้ว ก็อย่างที่นุ่นบอกยังไงคะว่าระหว่างนุ่นกับคุณน่ะมันแทบไม่หลงเหลืออะไรไว้อีกแล้ว” หล่อนพูดน้ำเสียงเศร้าสร้อย นัยน์ตาคอยต่จะมีน้ำรื้นขึ้นมา นึกโกรธที่ควบคุมตัวเองไม่ได้เลยบทที่ 23“ก่อนหน้านี้ตอนที่เราอยู่ด้วยกันเราสองคนก็ผูกพันกันแค่ทางกายแต่เรื่องหัวใจเราสองคนไม่เคยสื่อสารถึงกันถ้าคุณจะบอกว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงมันก็ใช่นะคะแต่จะบอกอะไรให้นะคะ ระหว่างคุณกับนุ่นน่ะมันไม่เคยมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรอกค่ะ เมื่อก่อนคุณไม่ได้รักไม่ได้ใยดีนุ่นยังไงเดี๋ยวนี้มันก็ยังคงเหมือนเดิมอยู่อย่างนั้น”“ก็ถ้าผมบอกว่าความคิดของผมเมื่อก่อนกับตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้วคุณจะเชื่อผมหรือเปล่า”
“ขอบใจมากนะบุรินทร์ แล้วก็ขอบคุณสำหรับความมีน้ำใจที่อุตส่าห์พานุ่นกลับมาที่พักแบบนี้นุ่นน่ะเกรงใจบุรินทร์มากเลยรู้ไหม”“ไม่ต้องเกรงใจหรอก...ผมเต็มใจเสมอสำหรับนุ่น”เขาเอ่ยและมองผู้หญิงที่นั่งข้างๆ ด้วยประกายตาหวานฉ่ำซึ่งมันก็แสดงให้นันทินีเห็นว่าจริงๆ แล้วตอนนี้บุรินทร์รู้สึกกับเธอเช่นไรและจริงๆ แล้วก็ใช่ว่าเธอจะไม่รู้เลยว่าเขาคิดกับเธอยังไงเพราะตั้งแต่เริ่มเข้ามาทำงานใหม่ๆก็จะเป็นคนที่ชอบเข้ามาพูดคุยกับเธอสร้างสัมพันธไมตรีที่ดีแต่เขาเป็นคนสุภาพไม่เคยปากว่ามือถึง ไม่เคยทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองถูกคุกคามหรือไม่ปลอดภัย ยังคงรักษาความเป็นสุภาพบุรุษของเขาเอาไว้เสมอทว่าท่าทีของเขากลับทำให้เธอคิดถึงใครอีกคนอย่างช่วยไม่ได้บทที่ 5“เอ...แต่ว่า...ผมดู ๆ แล้ว เหมือนนุ่นจะไม่ค่อยสบายนะ นุ่นเป็นอะไรน่ะ วันนี้หน้าตาของนุ่นเหมือนเหนื่อยๆ นะ”บุรินทร์ถามและทำให้นันทินีสะดุ้งเล็กน้อยเพราะฉุกนึกได้ว่าเธอเองรู้สึกเศร้าใจกับเรื่องบางเรื่องและเป็นเรื่องที่ไม่สามารถมีใครจะมาแก้ปัญหาให้เธอได้เลยแม้แต่คนเดียว สักครู่บุรินทร์ก็เอ่ยต่อไปอีกว่า“เออนี่นุ่น วันนี้ผมเห็นมีนักศึกษาฝึกงานคนใหม่เข้ามาด้วยล่ะ น้องนัก
นันทินีกล่าวกับบุรินทร์เพื่อนชายซึ่งอายุไล่เลี่ยกันกับเธอเขาเป็นพนักงานของบริษัทในตำแหน่งผู้จัดการควบคุมการสั่งซื้อสินค้าและผลิตภัณฑ์ของบริษัท เป็นคนที่คอยดูแลผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสินค้าระดับไฮแบรนด์ในโรงแรมหรูบุรินทร์ยิ้มให้เธอและเอ่ยว่า“เปล่าหรอกวันนี้ผมไม่ได้ทำงานล่วงเวลาหรอก นี่ก็กำลังจะกลับบ้านแล้วด้วยถ้ายังไงเดี๋ยวผมไปส่งนุ่นนะ”“ไม่ต้องลำบากก็ได้นะบุรินทร์เพราะบ้านของนุ่นไปคนละทางกลับบ้านของบุรินทร์ มันจะทำให้เสียเวลาเปล่า ๆ นะ”“ไม่เป็นไรหรอกผมอยากไปส่งนุ่นน่ะ เห็นนุ่นกับแท็กซี่ทุกวันก็อยากจะพานุ่นไปส่งที่บ้านบ้างก็จะได้ไปทำความรู้จักบ้านของนุ่นด้วยไงว่าอยู่ที่ไหน”“นุ่นอยู่หอพักน่ะเป็นหอพักเล็กๆ เองก็ไม่ไกลจากที่ทำงานนี่หรอก ว่าแต่บุรินทร์ถ้าไปส่งนุ่นก็จะเสียเวลาแล้วกว่าจะขับรถกลับไปที่บ้านอีกในเมืองตอนเย็นๆ รถติดจะตายไป”“ก็ไม่เห็นเป็นไรเวลารถติดผมก็นั่งฟังเพลง ได้ฟังเพลงเพลินๆ ฟังข่าวแป๊บเดียวก็ถึงบ้านละ”“แต่นุ่นก็เกรงใจบุรินทร์นะ ทำงานเหนื่อยๆ แล้วยังจะต้องขับรถที่ตอนเย็นในเมืองการจราจรคับคั่งอีกรุ่นว่าไม่รบกวนดีกว่า”“ไม่เป็นการรบกวนอะไรเลยนุ่นผมอยากไปส่งนุ่นก็
“ขอบคุณสำหรับคำชมนะ สำหรับผมก็คงจะไม่มีอะไรที่จะพูดคุยกับคุณมากไปกว่านี้หรอก นอกจากขอให้ตั้งใจฝึกงานและถ้าเกิดว่าต้องการความช่วยเหลืออะไรก็สามารถที่จะแจ้งกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลได้หรือถ้ามีเรื่องที่ลำบากใจจริงๆ ถ้าไม่ได้คุยกับผมก็อาจจะบอกผ่านคุณนันทินีเลขาส่วนตัวของผมก็ได้”“ขอบคุณมากค่ะท่านประธาน”เจตต์กับอิงอรพูดคุยกันต่อไปจากนั้นอีกสักพักก่อนที่นักศึกษาฝึกงานสาวจะขอตัวออกไป หลังจากนั้นเจตต์ก็ก้มหน้าก้มตาดูเอกสารที่เขาจะต้องเซ็นซึ่งก็มีมากมายอยู่ทุกวันโดยที่นันทินีก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ต่างคนต่างดูเหมือนมุ่งทำงานของตัวเองมากกว่าที่จะพูดคุยและอยู่ใกล้ชิดกันอย่างตอนเช้าก่อนเวลาเข้างานที่ทั้งสองได้เจอและมีสัมพันธ์สวาทอันเร่าร้อนต่อกันซึ่งสำหรับนันทินีแล้วท่านประธานของหล่อนก็เป็นแบบนี้ เขาจะหวานกับหล่อนก็เฉพาะเวลาที่เขาจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหล่อนเท่านั้นแต่หลังจากนั้นเจตต์ทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเขาจะแสดงท่าทีของความเป็นเจ้านายมากกว่าคนที่มีสัมพันธ์สวาทอันเร่าร้อนต่อกัน เจตต์เป็นคนที่ถ้ามองจริงๆแล้วค่อนข้างดุและเคร่งขรึมในเวลาทำงาน เขาจะทุ่มเทและจริงจัง แต่ก็นั่นแหละมันก็ทำให้นันทิ
“ได้สิคะ น้องอรเป็นพนักงานฝึกงานก็ถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่คนหนึ่งในบริษัทนี้เหมือนกัน เราก็ต้องทำงานร่วมกันอยู่แล้วนะคะ”“ขอบคุณมากเลยค่ะ”อิงอรกล่าวกับนันทินีด้วยรอยยิ้มแสนสดใส ขณะนั้นเองเลขาสาวก็สังเกตเห็นว่านักศึกษาฝึกงานคนนี้มีอะไรหลายอย่างดูจะพิเศษ อิงอรมีเสน่ห์ที่น่าดึงดูดเพราะหน้าตาของเธอสวยหวานการแต่งกายก็สุภาพเรียบร้อยแม้วันนี้อิงอรจะไม่ได้สวมชุดนักศึกษามาอาจเป็นเพราะเธอเข้าใจว่าจะต้องแต่งกายด้วยชุดสุภาพเพื่อมาพบท่านประธานบริหารของบริษัท นันทินีสังเกตเห็นว่าอิงอรเป็นเด็กสาวหน้าใสคำพูดและกริยาท่าทางก็ดูน่ารักสมกับเด็กสาววัย 18อิงอรและนันทินีนั่งคุยกันสักพักประตูห้องก็ถูกผลักเข้ามา เจตต์ก้าวเข้ามา ขณะนั้นเองนันทินีก็รีบลุกขึ้นและบอกเขาว่า“ท่านประธานคะ...ประชุมเสร็จแล้วเหรอคะ?”เขาพยักหน้า “ใช่...วันนี้ประชุมเสร็จเร็วมาก คงเป็นเพราะโปรเจคใหญ่ที่เรากำลังจะทำร่วมกับต่างประเทศมีการพูดคุยกันไปแล้ว ก็เหลือบรีฟงานอีกไม่เยอะเท่าไหร่ทุกคนก็เข้าใจทั้งหมด”“ค่ะ...ท่านประธานคะ พอดีว่ามีน้องนักศึกษาฝึกงานต้องการที่จะมาขอพบท่านประธานค่ะ”พอนันทินีบอกอิงอรก็รีบลุกขึ้นและยกมือไหว้ท่านประธานหนุ่
“อูยยยย....อ่าส์....เสียวดีจริงแม่คุณเอ๊ย...ทำไมมันดูดดีอย่างนี้....โอววว....มะ...ไม่ไหวแล้ว....อ่าส์....ไม่ไหวแล้ว....อ่าส์”เจตต์ครางอย่างซ่านเสียว เขาเกร็งตัวเมื่อจังหวะสุดท้ายของแรงกระแทกทำให้เขาเกร็งไปหมด นันทินีก็ร้องออกมาเหมือนถูกฟาดด้วยแส้ หน้าสวยบิดเบี้ยวดูไม่ได้เลยทีเดียว ก่อนที่หล่อนเองจะแตะถึงขอบสวรรค์พร้อม ๆ กับเจ้านายหนุ่ม รู้สึกถึงกระแสอุ่นเชี่ยวกรากไหลวนอยู่ใจกลางลำตัว เสียงทอดถอนใจของเจตต์ยาวและหนัก เขากอดหล่อนไม่ถึงหนึ่งนาทีก่อนผละห่าง นันทินีหน้าแดงซ่านเหมือนอย่างทุกครั้ง หล่อนขยับลงจากโต๊ะทำงานของเขาแล้วก้มลงเก็บเสื้อผ้าที่วางเรี่ยรายบนพื้น เลขาสาวเข้าห้องน้ำส่วนตัวของท่านประธานเพื่อแต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วกลับออกมาอีกครั้ง เห็นเจตต์นั่งที่โต๊ะทำงาน เขาสวมเสื้อผ้าของตัวเองเรียบร้อยเช่นกัน บรรยากาศภายในนั้นกลับคืนสู่สภาวะปกติเหมือนเช่นเก่า“นี่ใกล้เวลาประชุมแล้วสินะ...ผมจะไปประชุมก่อน”เจตต์กล่าวและจ้องหน้าเลขาของเขา เห็นได้ชัดว่าแก้มของหล่อนยังเป็นสีชมพูระเรื่อและเสียงหอบหายใจจากความเหนื่อยอ่อนทำให้เขาสั่นไหว นันทินีพยักหน้า หล่อนแทบไม่กล้าสบนัยน์หวานเข้มของเจ้านายห
“อูยยยย.....ซี๊ดดดด....ท่านประธาน....อ๊อยยย” นันทินีส่งเสียงร้องจนแห้งแหบเพราะท่านประธานสุดหล่อของหล่อนจ้วงลิ้นบนเนินกาบหอยที่ถูกถ่างอ้าซ่า เขารัวลิ้นอย่างช่ำชองชำนาญ จวกปลายลิ้นลงไปตรงแอ่งน้ำหวานจุดความเสียวซ่านให้หญิงสาว เลขาส่วนตัวของเขาเอนตัวไปด้านหลัง ยันตัวหล่อนเอาไว้ด้วยข้อศอกทั้งสอง ลีลารัวลิ้นของเจตต์สุดเด็ด มันทำให้หล่อนมีความสุขได้เสมอ ระหว่างเขากับหล่อนมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และไม่มีครั้งไหนไม่ดุเด็ดได้ใจอย่างเด็ดขาด เจตต์เป็นผู้ชายที่มีครบทุกอย่าง ทั้งความหล่อร้าย เสน่ห์ของเขาที่ทำให้ผู้หญิงสยบยอมได้เสมอ แม้แต่นันทินีเอง ถึงหล่อนไม่ใช่ผู้หญิงร้อนร่านสวาทแต่เขาก็ทำให้หล่อนเปลี่ยนจากลูกแมวน้อยกลายเป็นแม่เสือสาวได้ในชั่วพริบตา“อูยยยยย.....ซี๊ดดดดด....อ่าส์.....อือ....ทะ...ท่านประธาน....โอ๊วๆๆๆๆ....อูวววว”“คงอยากแล้วล่ะสิ เสียงของเธอมันบอก” เจตต์เงยหน้าจากระหว่างของนันทินี เขาสบนัยน์ตาหวานฉ่ำของหล่อนอย่างมีความหมาย มันหยดเยิ้มจนทำให้คนถูกมองสยิวด้วยความเสียวซ่าน นันทินีขยับตัวเข้าหาเขา เธอจับไล่กว้างและเบียดลำตัวด้านหน้าเข้าหา“ค่ะ...ท่านประธาน...แล้ว...ฉันควรต้